แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: เย่ว์เหมี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-01-09 13:25:03
"คุณหนู" ลู่เอ๋อร์ข้างๆ เองก็มองต่อไปไม่ไหวแล้ว

เย่อู๋เหิงขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น "คุณหนูใหญ่ไม่กลัวคนร้ายจะเข้ามาสังหารท่านหรือ?"

"ให้เขาเข้ามา! คุณหนูอย่างข้าก็อยากจะเห็นว่าใครกันที่สายตาไม่กว้างไกลจนคิดจะเข้ามาสังหารข้า?"

มู่จิ่วซีสองตาหรี่ลง กำหมัดแน่น ทั้งตัวแผ่ความเย็นเยียบ กระหายเลือดออกมาในพริบตา กลิ่นอายที่ดุดัน ราวกับราชาแห่งรัตติกาลกำลังจ้องมองใต้หล้า

โม่จุนกับเย่อู๋เหิงก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันที ทั้งสองคนล้วนสีหน้าตกตะลึง เพราะกลิ่นอายที่มู่จิ่วซีแผ่ออกมาเวลานี้แข็งแกร่งอย่างมาก

นี่ไม่ใช่พลังที่คุณหนูใหญ่ราวกับผ้าพับไว้มี แต่กลับเหมือนเป็นเพชรฆาตที่จมดิ่งอยู่ในการฆ่าฟันคนหนึ่ง

จะเป็นไปได้อย่างไร? พวกเขาตาฝาดไปกระมัง

หลังจากมู่จิ่วซีหัวเราะเย็นชา ก็เก็บกลิ่นอายลง มองไปทางชายทั้งสองคน จู่ๆ ก็กระแอมไอออกมาเสียงหนึ่ง "ครั้งนี้ข้าประมาทไปหน่อย ถ้าหากนักฆ่ากลับมาอีกครั้ง ข้ารับรองว่าจะทำให้เขาไม่ได้กลับไปเลย!"

"มู่จิ่วซี นี่ไม่ใช่การเล่นขายของนะ คนร้ายเป็นวิชาฝ่ามือสันดอน พลังไม่ธรรมดา เจ้าที่มีวรยุทธ์แค่หางอึ่งคิดจะหนียังยากเลย!"

โม่จุนประชดประชันขึ้นทันที

มู่จิ่วซีเหลือบตามองเขา หัวเราะพรืดออกมาเสียงหนึ่ง "ได้ยินว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนมีทักษะยุทธ์แข็งแกร่ง เช่นนั้นมาลองแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กับข้าเสียหน่อยไหม?"

"ปีที่แล้วบนการแข่งขันล่าสัตว์ฤดูใบไม้ร่วง คุณหนูใหญ่ที่ตกใจกระต่ายป่าจนตกจากหลังม้านั่นเป็นเรื่องโกหกหรอกหรือ?"

"ก็แค่เรื่องตลก คุณหนูอย่างข้าชอบเรื่องตลกไม่ได้หรือ ถ้าข้าได้ที่หนึ่งมันทุกอย่าง แล้วคนอื่นจะก้าวหน้าได้อย่างไรกัน บางครั้งเป็นคนก็ต้องรู้จักนอบน้อมถ่อมตัว ให้คนอื่นได้ดีใจบ้าง เข้าใจไหม?"

"หน้าไม่อาย!" ท่าทีมั่นอกมั่นใจของมู่จิ่วซีทำเอาโม่จุนโมโหจนหน้าหล่อๆ ดำคล้ำ

"โม่จุน ข้าจะหน้าไม่อายได้อย่างไร แค่คิดจะแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กับท่านก็หน้าไม่อายแล้วหรือ? ท่านไม่กล้ามากกว่า!" มู่จิ่วซีเมื่อคืนนี้ทำความคุ้นเคยกับร่างกายนี้ไว้แล้ว

ความรู้สึกโดยรวมถือว่าไม่เลว แม้จะสู้ในชาติที่แล้วไม่ได้ แต่ก็ยังพอแสดงพลังได้หกเจ็ดส่วน

"เจ้ายังไม่คู่ควร!" โม่จุนพูดจบก็สะบัดชายเสื้อเดินไป

"ข้าไม่คู่ควรหรือ?" มู่จิ่วซีมองแผ่นหลังของเขาร้องเชอะเย็นชา "ผู้ชายไม่ได้เรื่อง สักวันหนึ่งข้าจะทำให้ท่านปีนเกลียวไม่ได้เลย!"

อย่างฉับพลัน ในห้องเกิดลมเย็นขึ้นมาวูบหนึ่ง ร่างของโม่จุนไหววูบ และมาปรากฎอยู่เบื้องหน้ามู่จิ่วซี

ยื่นมือออกมาคิดจะคว้าคอของมู่จิ่วซี ดวงตาดำขลับทั้งคู่มีไฟโกรธหลั่งทะลัก

หญิงสาวคนนี้เอาแต่ท้าทายบารมีท่านผู้สำเร็จราชการแทนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ สมควรให้นางต้องเจอความเจ็บปวดเสียบ้าง

ความเฉียบคมต่ออันตรายของมู่จิ่วซีเป็นปฏิกิริยาโดยสัญชาตญาณไปแล้ว และเห็นศีรษะเล็กของนางโยกหลบ พลาดจากมือใหญ่ที่กระพือลมเข้ามาของโม่จุนไป

โม่จุนคว้าไม่โดนคอของมู่จิ่วซี เขาเองก็ตกตะลึง รีบพลิกมือคว้าอีกครั้ง

แต่มู่จิ่วซีก็ทิ้งร่างลงพื้น ยันไว้ด้วยมือข้างเดียว หลบการโจมตีของโม่จุนได้อีกครั้ง

"เป็นอย่างไร? พอลอบโจมตีไม่สำเร็จ ก็ยังมีหน้าเล่นงานต่ออีกหรือ?"

โม่จุนร่างแข็งทื่อ ใบหน้าเย็นชาราวกับลมหนาว มองสูงลงล่างไปยังใบหน้าเล็กที่เต็มไปด้วยความเสียดสีของมู่จิ่วซี ใจก็กระโจนขึ้นมา

ปฏิกิริยากับความเร็วของมู่จิ่วซีเกินจากที่เขาคาดไปเลยจริงๆ นี่เป็นไปได้อย่างไร?

ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก กะทันหันมาก ทุกคนพอได้สติกลับมาก็ถลึงตาโต

มู่จิ่วซีหลบการโจมตีของท่านผู้สำเร็จราชการแทนได้หรือ?

เย่อู๋เหิงเองก็ตะลึงงันไปเช่นกัน มองมู่จิ่วซีอย่างไม่อยากเชื่อ

พอเห็นทั้งสองคนชักกระบี่ง้างธนูใส่กัน บรรยากาศดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาก็รีบร้อนเอ่ยขึ้นว่า "คุณหนูใหญ่ ไม่ทราบว่าข้าน้อยพอจะมีเกียรติแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กับท่านหรือไม่?"

มู่จิ่วซีร้องเชอะเย็นชาใส่โม่จุนเสียงหนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นมา ตอนที่หันหน้ามองเย่อู๋เหิง ก็เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม "ได้เลย ข้าไปเปลี่ยนชุดก่อน"

พูดจบนางก็วิ่งเข้าไปในห้อง

"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน คุณหนูใหญ่เมื่อครู่...?" เย่อู๋เหิงมองโม่จุนที่สีหน้าดูไม่ได้

โม่จุนพ่นลมออกจากจมูก เหลือบตามองเย่อู๋เหิงอย่างคมกริบผาดหนึ่ง เดินอาดๆ ไปนั่งลงที่นั่งด้านหน้า เตรียมตัวจะดูมหรสพ

เย่อู๋เหิงทำอะไร-ม่ถูก ที่บอกว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนหยินหยางไม่มั่นคงนั้นไม่ผิดจริงๆ

ครู่ต่อมา มู่จิ่วซีในชุดทะมัดทะแมงสีเขียวก็เดินออกมา

ร่างสูงโปร่ง ส่วนเว้าส่วนโค้งยอดเยี่ยม รูปร่างเล็กบาง

ใบหน้าไข่ห่านขาวนวล ดวงตาดำขลับมีชีวิตชีวา ผมยาวรวบเป็นหางม้า สะบัดไปมาดูเป็นความงามแห่งวัยเยาว์

เย่อู๋เหิงก่อนหน้านี้รุ้สึกว่ามู่จิ่วซีกำเริบเสิบสาน ดื้อรั้นเอาแต่ใจ ต่อให้สวยก็ยังรู้สึกขัดหูขัดตา

แต่ครั้งนี้ก็ต่างออกไปแล้ว มู่จิ่วซีตรงหน้าดูแคล่วคล่องว่องไว สดใสใจกว้าง ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

และดวงตาเป็นประกายดาราของโม่จุนก็หดลงในพริบตา

"ท่านเย่ พวกเราไปแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กันที่ลานด้วยหมัดและเท้าเถอะ ยังไม่ต้องใช้กำลังภายในนะ"

เซลล์ทั่วร่างมู่จิ่วซีกำลังกุ่ก้อง ราวกับคิดจะเพาะกาย ฝึกฝน ทำศึก ออกทำภารกิจ หรือทำการทรมานต่างๆ เลย

นางเมินท่านผู้สำเร็จราชการแทนที่นั่งอยู่ไปแล้ว

"ได้ เชิญคุณหนูใหญ่" เย่อู๋เหิงยิ้มขึ้นเรียบๆอย่างมีมารยาท

องครักษ์ล้วนถอยออกไปจากในลาน เหลือแค่ลู่เอ๋อร์ที่ยกน้ำชามาให้ท่านผู้สำเร็จราชการแทนด้วยอาการสั่นระริก กับเย่อู๋เหิงและมู่จิ่วซีสี่คน

มู่จิ่วซีร้องย่าห์ขึ้นมา ตัวคนก็พุ่งเข้าหาเย่อู๋เหิงแล้ว ขณะเดียวกันร่างก็ยืดสูง ยกเท้าหนึ่งถีบไปทางเย่อู๋เหิง

เย่อู๋เหิงหันข้างเบี่ยงหลบ มู่จิ่วซีพอเท้าวืดลม ตัวคนแฉลบผ่านเย่อู๋เหิงไป แต่นางก็ไม่ได้พลิกตัวกลับย แต่กวาดเท้าอีกข้างเข้ามาแทน

เย่อู๋เหิงคิดไม่ถึงว่าการเคลื่อนไหวนางจะคล่องแคล่วเช่นนี้ หลบเลี่ยงไม่พ้น ทำได้เพียงเตะเท้าเข้าสกัด

สองเท้าปะทะกัน ต่างฝ่ายต่างถอยไปก้าวหนึ่ง

"อีกครั้ง!" มู่จิ่วซีหาความรู้สึกเจอขึ้นมา ดีใจลิงโลดจนหน้าแดงเถือก

ร่างทั้งร่างโถมเข้าไปอีกครั้ง สองมือที่ปะทะกับเย่อู๋เหิงคือพยัคฆ์ดำควักหัวใจ ขณะเดียวกันเท้าก็ไม่ได้ปล่อยว่าง เตะซัดออกมาอย่างรวดเร็ว

เย่อู๋เหิงหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ต้านทานสองมือยังไม่พูดถึง นี่ยังต้องหลบเท้าเล็กๆ ของนางอีก ดูซมซานขึ้นมาทันที

สิ่งนี้ตอนแรกเริ่มเขาคาดไปไม่ถึง แต่พอใช้กำลังภายในไม่ได้ ความเร็วกับกำลังจึงไม่ได้เปรียบ ถูกมู่จิ่วซีโจมตีอย่างรวดเร็วเป็นชุด เล่นเอามือไม้พัลวันกันเลยทีเดียว

โม่จุนไม่รู้ว่าขึ้นไปยืนอยู่ใต้ชายคาตั้งแต่เมื่อไร ดวงตามืดทึมจ้องเขม็งที่การเคลื่อนไหวเป็นชุดของมู่จิ่วซี ในใจเองก็รู้สึกแปลกประหลาด

มู่จิ่วซีถอยออกกะทันหัน แสยะยิ้มกับเย่อู๋เหิง "ท่านเย่ ท่านใช้กำลังภายในเถอะ ไม่เช่นนั้นก็ไม่ใช่คู่มือของข้าหรอก"

เย่อู๋เหิงเหลือบมองโม่จุนผาดหนึ่ง จากนั้นก็เผยรอยยิ้มขืน ในใจเกิดการมองใหม่อีกครั้งต่อตัวมู่จิ่วซี

ไม่รู้วิชา ดื้นรั้นอันธพาลอะไรกัน หลอกลวงทั้งเพ!

เขาไม่เคยเห็นคนที่ไม่ใช้กำลังภายใน แล้วรวดเร็วขนาดนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นกำลังยังไม่น้อยอีกด้วย ถ้านางมีกระบี่อยู่ในมือล่ะก็ เขาคงบาดเจ็บไปแล้ว

มู่จิ่วซีอุ่นเครื่องเสร็จสิ้น ใบหน้างามก็เปลี่ยนเป็นตั้งใจและเข้มงวดขึ้นมา กลิ่นอายเปลี่ยนไป ดวงตาทั้งคู่เปล่งแสงคมกริบออกมา

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 9

    มู่จิ่วซีเวลานี้พอมองไปก็ไม่เหมือนสาวน้อยอ้อนแอ้นเลย แต่ดูคล้ายกับขุนพลที่กำลังจะออกสังหารศัตรูในค่ายเสียมากกว่า"คุณหนูใหญ่มู่ ข้าน้อยใช้กำลังภายในขั้นสามแล้ว ท่านระวังด้วย""ดี ถ้าไม่ไหว ก็สุดแล้วแต่เจ้าจะสำแดงเลย" มู่จิ่วซีพูดจบ ก็พุ่งตัวเข้าหาเย่อู๋เหิงนางถนัดการต่อสู้ระยะประชิดที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นจะดีที่สุดถ้ามีอาวุธในมือ ถึงอย่างไรเป้าหมายที่ฝึกฝนตอนแรกก็มีเพียงข้อเดียว นั่นคือการสังหารคนความเร็วคือสิ่งที่แกร่งที่สุดของนาง ดังนั้นเย่อู๋เหิงจึงไม่เชื่อเลยว่ามู่จิ่วซีที่เร็วขนาดนี้จะไม่ใช้กำลังภายใน แต่ความจริงมันก็เป็นเช่นนั้นกำลังภายในระเบิดออก ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นทันที ทั้งสองคนปะทะกันไปสิบกว่ากระบวนท่าในพริบตา มู่จิ่วซีร่างกายคล่องแคล่วมาก แทบจะวนตีเย่อู๋เหิงเลยทีเดียวแต่เย่อู๋เหิงก็พบว่าพลังของมู่จิ่วซีเองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่มันไม่ใช่กำลังภายใน ความเร็วเองก็เพิ่มขึ้นสิ่งนี้อธิบายว่าการประมือก่อนหน้า นางแค่หยั่งเชิงเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้ใจเขาตกตะลึงใบหน้างามของโม่จุนก็เคร่งขรึมลงมาจนคนตกใจ สายตาจ้องเขม็งไปที่มู่จิ่วซี ในใจเองก็เกิดคลื่นถาโถมมู่จิ่วซีต่อสู้จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 10

    "เช่นนั้นก็ดี กำหนดไว้สามวัน ถ้าไม่เอาคนร้ายตัวจริงมาให้ข้า ข้าหมายถึงคนร้ายหลัก ไม่ใช่นักฆ่าที่ถูกจ้างวานมา ท่านก็ถ่ายทอดวิถีจิตกำลังภายในให้ข้า เป็นอย่างไร?"มู่จิ่วซีเลิกคิ้วมองโม่จุน"ทำไม ไม่มั่นใจตัวเองหรือ? สามวันหาคนร้ายตัวจริงไม่ได้? ให้ท่านเย่ช่วยท่านด้วยก็ได้ ข้าใจกว้างมากเลยใช่ไหม? คนฉลาดผู้ยิ่งใหญ๋แห่งแคว้นเกาอวิ๋นสองคนรวมอยู่ด้วยกัน คงไม่ใช่ว่าทำไม่ได้หรอกกระมัง?"สายตาที่ทั้งหยามหมิ่นและคมกริบของมู่จิ่วซีทำให้ชายหนุ่มทั้งสองคนเจ็บปวดร้อนวาบกันเลยทีเดียวเย่อู๋เหิงมองโม่จุนด้วยสีหน้าจำใจ"มู่จิ่วซี เจ้าไม่จำเป็นต้องใช้วิธียั่วยุ ข้ารับปากก็จบ แต่เจ้าทางทีดีพูดอะไรก็ต้องทำให้ได้ด้วย" หลังจากโม่จุนครุ่นคิด ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา"สุภาพบุรุษพูดแล้วไม่คืนคำ!" มู่จิ่วซีหัวเราะร่า ลุกขึ้นยืนยื่นฝ่ามือไปทางโม่จุน "แตะมือเพื่อสาบาน"โม่จุนมุมปากกระตุก ยื่นมือออกมาแตะกับมือของนางมู่จิ่วซียิ้มเจิดจ้าให้กับเขา จนเกือบจะจ้าจนตาของโม่จุนบอดเพียงแต่กลิ่นอายทั้งตัวของโม่จุนกลับยิ่งเย็นลงไปอีกชายทั้งสองคนจากไปอย่างรวดเร็ว ลู่เอ๋อร์ถามขึ้นอย่างตกตะลึง "คุณหนูใหญ่ ท่านทำไมถึง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 11

    มู่จิ่วซีเข้ามาในห้องที่ท่านแม่พักอยู่ ก็ได้กลิ่นยาเข้มข้นวูบหนึ่งออกมา"แค่กๆๆ" เสียงไอด้านในฟังแล้วทำเอาคนรู้สึกแย่เลยทีเดียว"ฮูหยิน คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว" ป้าอิงหญิงชราร้องเรียกขึ้นมู่จิ่วซีพุ่งเข้าไปในห้อง ก็เห็นว่าท่านแม่กำลังลุกขึ้นนั่งด้วยการประคองตัวของป้าหวังหญิงชราอีกคนหนึ่ง"ท่านแม่" มู่จิ่วซีมาถึงเตียงพอเห็นสีหน้าของท่านแม่ ใจก็เต้นตุบในใบหน้าขาวน้ำเงินนี้ มีอาการป่วยอยู่ไม่เบาเลย เพียงแต่ในความทรงจำเจ้าของร่างเดิมยังไม่หนักหนาขนาดนี้"ซีเอ๋อร์ เจ้ากลับมาแล้ว" ฮูหยินใหญ่หน้าตาดูมีบุคลิก คิ้วตาก็ดูใจกว้าง เห็นได้ว่าตอนยังสาวเป็นคนสวยมากๆ คนหนึ่ง"ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว อาการป่วยของท่านทำไมจึงแย่หนักลงไวขนาดนี้?" มู่จิ่วซีจับมือของนางขึ้นมาจับชีพจรทันทีชาติที่แล้วเพื่อที่นางจะแอบเข้าไปในองค์กรที่จำหน่ายยาแผนจีน จึงต้องไปร่ำเรียนแพทย์แผนจีนมาเป็นพิเศษ ต่อมาเข้าไปทำภารกิจในภูเขาต่อ สภาพแวดล้อมเลวร้าย โดนศัตรูทำร้ายจนบาดเจ็บมานับครั้งไม่ถ้วน ต้องขอบคุณพวกหญ้าสมุนไพรที่คอยช่วยชีวิต"ซีเอ๋อร์ แม่ก็ป่วยเหมือนเดิม แค่กๆๆ..." ฮูหยินใหญ่พูดแล้วก็ไอขึ้นมา ที่ตามมาคือเลือดที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 12

    มู่จิ่วซีม่านตาหดลง เอ่ยขึ้นเสียงขรึม "ท่านแม่ ท่านเองก็เห็นแล้ว ป้าหวังเมื่อครู่กำลังแอบฟัง นี่อธิบายได้แล้วว่าเกี่ยวข้องกับนาง แต่ข้ารู้สึกว่านางไม่ใช่คนร้ายหลัก เรื่องนี้ต้องบอกท่านพ่อ"ฮูหยินใหญ่สีหน้าตกตะลึง แต่ว่าก็สะกดลงอย่างรวดเร็ว"จะว่าไปตอนที่ท่านแม่ยังสาว ก็เคยฝึกวรยุทธ์อยู่ ไม่รู้เพราะอะไรหลังจากคลอดเจ้าร่างกายก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ ทำอย่างไรก็รักษาไม่หายเสียที ก่อนหน้านี้ข้าเองก็เคยคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะติดพิษ แต่หมอกี่คนก็ตรวจไม่เจอเสียที""เรื่องนี้อธิบายได้แค่ว่าคนร้ายตัวจริงเบื้องหลังวางแผนเอาไว้ลึกหยั่ง ใช้วิธีการชั้นสูง ท่านแม่ นับจากนี้เป็นต้นไป ท่านไม่ต้องกินยาใดๆ อีกแล้ว อาหารเองก็ต้องตรวจสอบก่อนแล้วค่อยกิน ข้าจะจัดการให้อย่างดี" มู่จิ่วซีคิดเอาไว้แล้ว"ซีเอ๋อร์ แล้วพิษของแม่แก้ได้ไหม? เอาจริงๆ แม่รู้สึกว่าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว" ฮูหยินใหญ่ในดวงตาเผยความหวาดกลัวและความอาลัยอาวรณ์ขึ้นมา"แก้ได้ ข้าใช้เข็มเงินควบคุมไม่ให้พิษแล่นไปที่หัวใจท่านแล้ว ท่านรักษาอารมณ์ให้สงบเอาไว้ ข้าจะไปหายาแก้พิษมา" มู่จิ่วซีในใจก็หวังว่าจะมีสมุนไพรแก้พิษอยู่"ซีเอ๋อร์ เจ้ารู้จักแก้พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 13

    "ไม่ อย่า อ๊า!" เสียงกรีดร้องของลู่เอ๋อร์ดังจนปอดแทบฉีก"ผัวะ!" ประตูใหญ่ถูกถีบเปิดออกมู่จิ่วซีในมือถือกิ่งไม้ที่หักมาจากข้างทาง เดินเข้ามาใบหน้าถมึงทึงพอเข้ามาก็เห็นลู่เอ๋อร์ถูกคนใช้ของมู่หยางชุนกดไว้บนโต๊ะหินกลมในเรือน และมู่หยางชุนก็ปลดเสื้อบนออกแล้ว กำลังปลดเข็มขัดกางเกงพอได้ยินเสียง สายตาทั้งหมดก็หันไป"ท่านพี่" มู่หยางชุนพอเห็นมู่จิ่วซีก็สีหน้าดูไม่ได้ทันที รีบร้อนเก็บเสื้อผ้า ในดวงตามีแววหวาดกลัวมู่หยางชุนเป็นน้องชายฝาแฝดของมู่เจินจู ชายหนุ่มอายุสิบห้าก็เติบโตจนสูงใหญ่แล้ว แต่ตั้งแต่เล็กจนโตก็ถูกมู่จิ่วซีรังแกไปไม่น้อย ดังนั้นในกระดูกดำจึงรู้สึกทั้งกลัวทั้งเกลียดมู่จิ่วซี"คุณหนูช่วยข้าด้วย ฮือๆ" ลู่เอ๋อร์ร้องไห้พลางร้องเรียกคนใช้ทั้งสองคนถูกทำให้ตกใจจนปล่อยมือ ลู่เอ๋อร์รีบพลิกตัวลงจากโต๊ะ วิ่งมาอยู่ข้างหลังมู่จิ่วซี"คุณหนู ป้าหวังเข้าไปในห้องของคุณชายสาม""เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?" มู่จิ่วซีหันไปเห็นว่าเสื้อผ้าบนตัวนางยังอยู่ดีจึงผ่อนใจโล่งออกมาลู่เอ๋อร์ส่ายหัว มู่จิ่วซีมองเด็กสาวอายุสิบสี่ปีคนนี้อย่างปวดใจก่อนหน้านี้ก็ถูกพวกสาวใช้ของไป๋เฟิ่งหว่านรุมสกรัมมาแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 14

    ฮูหยินรองลู่เวยหย่าพุ่งเข้าไปหาลูกชายที่ถูกตีจนเป็นเช่นนี้ ร้องไห้ถามไถ่ขึ้นมาทันที "หยาชุน เจ้าไปทำเรื่องไม่ดีอะไรมา จิ่วซีถึงโกรธเจ้าขนาดนี้""ท่านแม่ นางตีข้า ข้า ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย" มู่หยางชุนโมโหจนร้องไห้ขึ้นจมูก "ท่านพ่อ ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับข้า""ซีเอ๋อร์ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ต่อให้หยางชุนทำเรื่องผิด แต่เจ้าเป็นพี่สาวก็ไม่ควรลงมือโหดเหี้ยมเช่นนี้!"แม่ทัพใหญ่มู่ปวดใจ เรียกคนให้ไปตามหมออู๋มามู่หยางชุนเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเขา ต้องสืบทอดตระกูลต่อไปลู่เอ๋อร์จู่ๆ ก็คุกเข่าลงรีบเอ่ยขึ้นว่า "ทั้งหมดเป็นความผิดข้าน้อยเอง ไม่เกี่ยวกับคุณหนูใหญ่เลยเจ้าค่ะ""ลู่เอ๋อร์ เจ้าอย่าเอะอะก็คุกเข่า เจ้าสัตว์เดรัจฉานนี่เกือบจะข่มเหงเจ้าไปแล้ว เจ้ายังคิดจะพูดเพื่อเขาอีกทำไมกัน? ถ้าไม่ใช่น้องชายของข้า เมื่อครู่ข้าคงจับเขาตอนไปแล้ว!" คำพูดของมู่จิ่วซีทำเอาทุกคนสูดปาก"หยางชุน! ที่จิ่วซีพูดเป็นความจริงหรือ? เจ้าคิดจะ...ลู่เอ๋อร์" ฮูหยินรองเองก็มองลูกชายอย่างตกตะลึงเช่นกัน"เจ้าเด็กชั่ว เจ้าคิดอย่างนั้นกับลู่เอ๋อร์จริงหรือ?" แม่ทัพใหญ่มู่เองก็ตกตะลึงมากเช่นกัน"ไม่ใช่ ไม่ใช่เลย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 15

    ฮูหยินรองเองก็ลุกขึ้นมาแล้ว น้ำตายังไม่ทันแห้ง ก็เริ่มห้ามทัพขึ้นมาโม่จุนท่านผู้สำเร็จราชการแทนจ้องเขม็งใบหน้าที่ไม่ยอมใครของมู่จิ่วซี ในใจเองก็รู้สึกเหงื่อตกแทนนาง แต่ว่าคำพูดของนางก็ทำให้เขารู้สึกเกินคาดเหมือนกันยังคิดว่าคุณหนูใหญ่จะต้องชอบรังแกพวกคนที่ต่ำต้อยกว่าแน่นอนแท้ๆ ไม่คิดเลยว่านางจะปกป้องเช่นนี้"ลู่เอ๋อร์ ครั้งนี้ข้าทำผิดไป ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย ซีเอ๋อร์พูดไว้ถูกต้อง สาวใช้ก็เป็นคนเช่นกัน พวกเรามีวันคืนที่สุขสบายได้ ก็เพราะมีพวกเจ้าอยู่"ภายใต้บรรยากาศที่ตึงเครียด มู่เทียนซิงก็ทำการเลือกออกมาใบหน้าเย็นชาของมู่จิ่วซีก็ผ่อนคลายลงในพริบตา ยิ้มเจิดจ้าแยงตา เดินตรงเข้าไปข้างๆ มู่เทียนซิง คล้องแขนของเขาแล้วออดอ้อนทันที"นี่ถึงจะเป็นวีรบุรุษท่านพ่อของข้า ทัศนคติสามด้านของตระกูลมู่พวกเราจำเป็นต้องทำให้ถูกต้อง""เด็กอย่างเจ้านี่นะ ครั้งนี้พ่อผิดเอง แต่ที่เจ้าตีน้องจนสภาพนี้ ก็ไม่ควรรู้สึกผิดบ้างหรือ?" มู่เทียนซิงถูกลูกอ้อนของลูกสาวตีจนแตกพ่าย อารมณ์เองก็ดีขึ้นมาแล้ว ทั่งดวงตาเต็มไปด้วยความรัก"ท่านพ่อ สั่งสอนลูกไม่ดีคือความผิดของผู้เป็นพ่อ น้องชายทำเรื่องเช่นนี้ หากย้อนกลั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09
  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 16

    มู่จิ่วซีงงงันไปครู่หนึ่ง รีบร้อนยกมือยอมแพ้เอ่ยว่า "โอเคโอเค ข้าผิดเอง ท่านอยากจะพูดอะไร"สองคิ้วโม่จุนขมวดกันแน่ อะไรคือโอเคโอเค? บ้าๆ บอๆ ผู้หญิงคนนี้ท่าจะมีปัญหาจริงๆมู่เทียนซิงเหลือบมองลูกสาวผาดหนึ่ง รู้สึกว่าแปลกอยู่เหมือนกัน ทั้งสามคนเดินตรงไปยังห้องหนังสือของเรือนหน้า"มู่จิ่วซี พูดต่อหน้าพ่อของเจ้าเลย บอกเงื่อนไขการถอนหมั้นของพวกเราออกมาอีกครั้ง" โม่จุนหลังจากนั่งลงก็เอ่ยขึ้นมู่จิ่วซีไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็ยังพยักหน้า"ได้ ท่านพ่อ ข้ากับท่านผู้สำเร็จราชการแทนพูดเงื่อนไขการถอนหมั้นไว้แล้วว่าให้หาคนร้ายตัวจริงที่ผลักข้าตกน้ำและสังหารหมอหลวงเวินให้เจอ ถ้าหาไม่เจอ ก็สอนวิถีจิตกำลังภายในให้กับข้า ถ้าทั้งสองข้อนี้ทำไม่ได้เลยล่ะก็ ข้าก็คงต้องอภิเษกกับเขาแล้ว"โม่จุนหลังจากที่มุมปากกระตุกเล็กน้อยก็เอ่ยกับมู่เทียนซิงว่า "แม่ทัพมู่ ท่านได้ยินชัดหรือยัง? ขอแค่ข้าสำเร็จเงื่อนไขเพียงข้อเดียวก็ถือว่าสามารถถอนหมั้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องการถอนหมั้นนี้ก็จำเป็นต้องให้พวกท่านไปกล่อมพระพันปีหลวง""ไม่ถูกสิ ข้าก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกว่าพวกเราจะไปกล่อมพระพันปีหลวงให้นะ" มู่จิ่วซีเอ่ยขึ้นมาทั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-01-09

บทล่าสุด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

DMCA.com Protection Status