Share

บทที่ 8

Penulis: เย่ว์เหมี่ยว
"คุณหนู" ลู่เอ๋อร์ข้างๆ เองก็มองต่อไปไม่ไหวแล้ว

เย่อู๋เหิงขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น "คุณหนูใหญ่ไม่กลัวคนร้ายจะเข้ามาสังหารท่านหรือ?"

"ให้เขาเข้ามา! คุณหนูอย่างข้าก็อยากจะเห็นว่าใครกันที่สายตาไม่กว้างไกลจนคิดจะเข้ามาสังหารข้า?"

มู่จิ่วซีสองตาหรี่ลง กำหมัดแน่น ทั้งตัวแผ่ความเย็นเยียบ กระหายเลือดออกมาในพริบตา กลิ่นอายที่ดุดัน ราวกับราชาแห่งรัตติกาลกำลังจ้องมองใต้หล้า

โม่จุนกับเย่อู๋เหิงก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันที ทั้งสองคนล้วนสีหน้าตกตะลึง เพราะกลิ่นอายที่มู่จิ่วซีแผ่ออกมาเวลานี้แข็งแกร่งอย่างมาก

นี่ไม่ใช่พลังที่คุณหนูใหญ่ราวกับผ้าพับไว้มี แต่กลับเหมือนเป็นเพชรฆาตที่จมดิ่งอยู่ในการฆ่าฟันคนหนึ่ง

จะเป็นไปได้อย่างไร? พวกเขาตาฝาดไปกระมัง

หลังจากมู่จิ่วซีหัวเราะเย็นชา ก็เก็บกลิ่นอายลง มองไปทางชายทั้งสองคน จู่ๆ ก็กระแอมไอออกมาเสียงหนึ่ง "ครั้งนี้ข้าประมาทไปหน่อย ถ้าหากนักฆ่ากลับมาอีกครั้ง ข้ารับรองว่าจะทำให้เขาไม่ได้กลับไปเลย!"

"มู่จิ่วซี นี่ไม่ใช่การเล่นขายของนะ คนร้ายเป็นวิชาฝ่ามือสันดอน พลังไม่ธรรมดา เจ้าที่มีวรยุทธ์แค่หางอึ่งคิดจะหนียังยากเลย!"

โม่จุนประชดประชันขึ้นทันที

มู่จิ่วซีเหลือบตามองเขา หัวเราะพรืดออกมาเสียงหนึ่ง "ได้ยินว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนมีทักษะยุทธ์แข็งแกร่ง เช่นนั้นมาลองแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กับข้าเสียหน่อยไหม?"

"ปีที่แล้วบนการแข่งขันล่าสัตว์ฤดูใบไม้ร่วง คุณหนูใหญ่ที่ตกใจกระต่ายป่าจนตกจากหลังม้านั่นเป็นเรื่องโกหกหรอกหรือ?"

"ก็แค่เรื่องตลก คุณหนูอย่างข้าชอบเรื่องตลกไม่ได้หรือ ถ้าข้าได้ที่หนึ่งมันทุกอย่าง แล้วคนอื่นจะก้าวหน้าได้อย่างไรกัน บางครั้งเป็นคนก็ต้องรู้จักนอบน้อมถ่อมตัว ให้คนอื่นได้ดีใจบ้าง เข้าใจไหม?"

"หน้าไม่อาย!" ท่าทีมั่นอกมั่นใจของมู่จิ่วซีทำเอาโม่จุนโมโหจนหน้าหล่อๆ ดำคล้ำ

"โม่จุน ข้าจะหน้าไม่อายได้อย่างไร แค่คิดจะแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กับท่านก็หน้าไม่อายแล้วหรือ? ท่านไม่กล้ามากกว่า!" มู่จิ่วซีเมื่อคืนนี้ทำความคุ้นเคยกับร่างกายนี้ไว้แล้ว

ความรู้สึกโดยรวมถือว่าไม่เลว แม้จะสู้ในชาติที่แล้วไม่ได้ แต่ก็ยังพอแสดงพลังได้หกเจ็ดส่วน

"เจ้ายังไม่คู่ควร!" โม่จุนพูดจบก็สะบัดชายเสื้อเดินไป

"ข้าไม่คู่ควรหรือ?" มู่จิ่วซีมองแผ่นหลังของเขาร้องเชอะเย็นชา "ผู้ชายไม่ได้เรื่อง สักวันหนึ่งข้าจะทำให้ท่านปีนเกลียวไม่ได้เลย!"

อย่างฉับพลัน ในห้องเกิดลมเย็นขึ้นมาวูบหนึ่ง ร่างของโม่จุนไหววูบ และมาปรากฎอยู่เบื้องหน้ามู่จิ่วซี

ยื่นมือออกมาคิดจะคว้าคอของมู่จิ่วซี ดวงตาดำขลับทั้งคู่มีไฟโกรธหลั่งทะลัก

หญิงสาวคนนี้เอาแต่ท้าทายบารมีท่านผู้สำเร็จราชการแทนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ สมควรให้นางต้องเจอความเจ็บปวดเสียบ้าง

ความเฉียบคมต่ออันตรายของมู่จิ่วซีเป็นปฏิกิริยาโดยสัญชาตญาณไปแล้ว และเห็นศีรษะเล็กของนางโยกหลบ พลาดจากมือใหญ่ที่กระพือลมเข้ามาของโม่จุนไป

โม่จุนคว้าไม่โดนคอของมู่จิ่วซี เขาเองก็ตกตะลึง รีบพลิกมือคว้าอีกครั้ง

แต่มู่จิ่วซีก็ทิ้งร่างลงพื้น ยันไว้ด้วยมือข้างเดียว หลบการโจมตีของโม่จุนได้อีกครั้ง

"เป็นอย่างไร? พอลอบโจมตีไม่สำเร็จ ก็ยังมีหน้าเล่นงานต่ออีกหรือ?"

โม่จุนร่างแข็งทื่อ ใบหน้าเย็นชาราวกับลมหนาว มองสูงลงล่างไปยังใบหน้าเล็กที่เต็มไปด้วยความเสียดสีของมู่จิ่วซี ใจก็กระโจนขึ้นมา

ปฏิกิริยากับความเร็วของมู่จิ่วซีเกินจากที่เขาคาดไปเลยจริงๆ นี่เป็นไปได้อย่างไร?

ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก กะทันหันมาก ทุกคนพอได้สติกลับมาก็ถลึงตาโต

มู่จิ่วซีหลบการโจมตีของท่านผู้สำเร็จราชการแทนได้หรือ?

เย่อู๋เหิงเองก็ตะลึงงันไปเช่นกัน มองมู่จิ่วซีอย่างไม่อยากเชื่อ

พอเห็นทั้งสองคนชักกระบี่ง้างธนูใส่กัน บรรยากาศดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาก็รีบร้อนเอ่ยขึ้นว่า "คุณหนูใหญ่ ไม่ทราบว่าข้าน้อยพอจะมีเกียรติแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กับท่านหรือไม่?"

มู่จิ่วซีร้องเชอะเย็นชาใส่โม่จุนเสียงหนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นมา ตอนที่หันหน้ามองเย่อู๋เหิง ก็เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม "ได้เลย ข้าไปเปลี่ยนชุดก่อน"

พูดจบนางก็วิ่งเข้าไปในห้อง

"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน คุณหนูใหญ่เมื่อครู่...?" เย่อู๋เหิงมองโม่จุนที่สีหน้าดูไม่ได้

โม่จุนพ่นลมออกจากจมูก เหลือบตามองเย่อู๋เหิงอย่างคมกริบผาดหนึ่ง เดินอาดๆ ไปนั่งลงที่นั่งด้านหน้า เตรียมตัวจะดูมหรสพ

เย่อู๋เหิงทำอะไร-ม่ถูก ที่บอกว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนหยินหยางไม่มั่นคงนั้นไม่ผิดจริงๆ

ครู่ต่อมา มู่จิ่วซีในชุดทะมัดทะแมงสีเขียวก็เดินออกมา

ร่างสูงโปร่ง ส่วนเว้าส่วนโค้งยอดเยี่ยม รูปร่างเล็กบาง

ใบหน้าไข่ห่านขาวนวล ดวงตาดำขลับมีชีวิตชีวา ผมยาวรวบเป็นหางม้า สะบัดไปมาดูเป็นความงามแห่งวัยเยาว์

เย่อู๋เหิงก่อนหน้านี้รุ้สึกว่ามู่จิ่วซีกำเริบเสิบสาน ดื้อรั้นเอาแต่ใจ ต่อให้สวยก็ยังรู้สึกขัดหูขัดตา

แต่ครั้งนี้ก็ต่างออกไปแล้ว มู่จิ่วซีตรงหน้าดูแคล่วคล่องว่องไว สดใสใจกว้าง ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

และดวงตาเป็นประกายดาราของโม่จุนก็หดลงในพริบตา

"ท่านเย่ พวกเราไปแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กันที่ลานด้วยหมัดและเท้าเถอะ ยังไม่ต้องใช้กำลังภายในนะ"

เซลล์ทั่วร่างมู่จิ่วซีกำลังกุ่ก้อง ราวกับคิดจะเพาะกาย ฝึกฝน ทำศึก ออกทำภารกิจ หรือทำการทรมานต่างๆ เลย

นางเมินท่านผู้สำเร็จราชการแทนที่นั่งอยู่ไปแล้ว

"ได้ เชิญคุณหนูใหญ่" เย่อู๋เหิงยิ้มขึ้นเรียบๆอย่างมีมารยาท

องครักษ์ล้วนถอยออกไปจากในลาน เหลือแค่ลู่เอ๋อร์ที่ยกน้ำชามาให้ท่านผู้สำเร็จราชการแทนด้วยอาการสั่นระริก กับเย่อู๋เหิงและมู่จิ่วซีสี่คน

มู่จิ่วซีร้องย่าห์ขึ้นมา ตัวคนก็พุ่งเข้าหาเย่อู๋เหิงแล้ว ขณะเดียวกันร่างก็ยืดสูง ยกเท้าหนึ่งถีบไปทางเย่อู๋เหิง

เย่อู๋เหิงหันข้างเบี่ยงหลบ มู่จิ่วซีพอเท้าวืดลม ตัวคนแฉลบผ่านเย่อู๋เหิงไป แต่นางก็ไม่ได้พลิกตัวกลับย แต่กวาดเท้าอีกข้างเข้ามาแทน

เย่อู๋เหิงคิดไม่ถึงว่าการเคลื่อนไหวนางจะคล่องแคล่วเช่นนี้ หลบเลี่ยงไม่พ้น ทำได้เพียงเตะเท้าเข้าสกัด

สองเท้าปะทะกัน ต่างฝ่ายต่างถอยไปก้าวหนึ่ง

"อีกครั้ง!" มู่จิ่วซีหาความรู้สึกเจอขึ้นมา ดีใจลิงโลดจนหน้าแดงเถือก

ร่างทั้งร่างโถมเข้าไปอีกครั้ง สองมือที่ปะทะกับเย่อู๋เหิงคือพยัคฆ์ดำควักหัวใจ ขณะเดียวกันเท้าก็ไม่ได้ปล่อยว่าง เตะซัดออกมาอย่างรวดเร็ว

เย่อู๋เหิงหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ต้านทานสองมือยังไม่พูดถึง นี่ยังต้องหลบเท้าเล็กๆ ของนางอีก ดูซมซานขึ้นมาทันที

สิ่งนี้ตอนแรกเริ่มเขาคาดไปไม่ถึง แต่พอใช้กำลังภายในไม่ได้ ความเร็วกับกำลังจึงไม่ได้เปรียบ ถูกมู่จิ่วซีโจมตีอย่างรวดเร็วเป็นชุด เล่นเอามือไม้พัลวันกันเลยทีเดียว

โม่จุนไม่รู้ว่าขึ้นไปยืนอยู่ใต้ชายคาตั้งแต่เมื่อไร ดวงตามืดทึมจ้องเขม็งที่การเคลื่อนไหวเป็นชุดของมู่จิ่วซี ในใจเองก็รู้สึกแปลกประหลาด

มู่จิ่วซีถอยออกกะทันหัน แสยะยิ้มกับเย่อู๋เหิง "ท่านเย่ ท่านใช้กำลังภายในเถอะ ไม่เช่นนั้นก็ไม่ใช่คู่มือของข้าหรอก"

เย่อู๋เหิงเหลือบมองโม่จุนผาดหนึ่ง จากนั้นก็เผยรอยยิ้มขืน ในใจเกิดการมองใหม่อีกครั้งต่อตัวมู่จิ่วซี

ไม่รู้วิชา ดื้นรั้นอันธพาลอะไรกัน หลอกลวงทั้งเพ!

เขาไม่เคยเห็นคนที่ไม่ใช้กำลังภายใน แล้วรวดเร็วขนาดนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นกำลังยังไม่น้อยอีกด้วย ถ้านางมีกระบี่อยู่ในมือล่ะก็ เขาคงบาดเจ็บไปแล้ว

มู่จิ่วซีอุ่นเครื่องเสร็จสิ้น ใบหน้างามก็เปลี่ยนเป็นตั้งใจและเข้มงวดขึ้นมา กลิ่นอายเปลี่ยนไป ดวงตาทั้งคู่เปล่งแสงคมกริบออกมา
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 9

    มู่จิ่วซีเวลานี้พอมองไปก็ไม่เหมือนสาวน้อยอ้อนแอ้นเลย แต่ดูคล้ายกับขุนพลที่กำลังจะออกสังหารศัตรูในค่ายเสียมากกว่า"คุณหนูใหญ่มู่ ข้าน้อยใช้กำลังภายในขั้นสามแล้ว ท่านระวังด้วย""ดี ถ้าไม่ไหว ก็สุดแล้วแต่เจ้าจะสำแดงเลย" มู่จิ่วซีพูดจบ ก็พุ่งตัวเข้าหาเย่อู๋เหิงนางถนัดการต่อสู้ระยะประชิดที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นจะดีที่สุดถ้ามีอาวุธในมือ ถึงอย่างไรเป้าหมายที่ฝึกฝนตอนแรกก็มีเพียงข้อเดียว นั่นคือการสังหารคนความเร็วคือสิ่งที่แกร่งที่สุดของนาง ดังนั้นเย่อู๋เหิงจึงไม่เชื่อเลยว่ามู่จิ่วซีที่เร็วขนาดนี้จะไม่ใช้กำลังภายใน แต่ความจริงมันก็เป็นเช่นนั้นกำลังภายในระเบิดออก ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นทันที ทั้งสองคนปะทะกันไปสิบกว่ากระบวนท่าในพริบตา มู่จิ่วซีร่างกายคล่องแคล่วมาก แทบจะวนตีเย่อู๋เหิงเลยทีเดียวแต่เย่อู๋เหิงก็พบว่าพลังของมู่จิ่วซีเองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่มันไม่ใช่กำลังภายใน ความเร็วเองก็เพิ่มขึ้นสิ่งนี้อธิบายว่าการประมือก่อนหน้า นางแค่หยั่งเชิงเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้ใจเขาตกตะลึงใบหน้างามของโม่จุนก็เคร่งขรึมลงมาจนคนตกใจ สายตาจ้องเขม็งไปที่มู่จิ่วซี ในใจเองก็เกิดคลื่นถาโถมมู่จิ่วซีต่อสู้จ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 10

    "เช่นนั้นก็ดี กำหนดไว้สามวัน ถ้าไม่เอาคนร้ายตัวจริงมาให้ข้า ข้าหมายถึงคนร้ายหลัก ไม่ใช่นักฆ่าที่ถูกจ้างวานมา ท่านก็ถ่ายทอดวิถีจิตกำลังภายในให้ข้า เป็นอย่างไร?"มู่จิ่วซีเลิกคิ้วมองโม่จุน"ทำไม ไม่มั่นใจตัวเองหรือ? สามวันหาคนร้ายตัวจริงไม่ได้? ให้ท่านเย่ช่วยท่านด้วยก็ได้ ข้าใจกว้างมากเลยใช่ไหม? คนฉลาดผู้ยิ่งใหญ๋แห่งแคว้นเกาอวิ๋นสองคนรวมอยู่ด้วยกัน คงไม่ใช่ว่าทำไม่ได้หรอกกระมัง?"สายตาที่ทั้งหยามหมิ่นและคมกริบของมู่จิ่วซีทำให้ชายหนุ่มทั้งสองคนเจ็บปวดร้อนวาบกันเลยทีเดียวเย่อู๋เหิงมองโม่จุนด้วยสีหน้าจำใจ"มู่จิ่วซี เจ้าไม่จำเป็นต้องใช้วิธียั่วยุ ข้ารับปากก็จบ แต่เจ้าทางทีดีพูดอะไรก็ต้องทำให้ได้ด้วย" หลังจากโม่จุนครุ่นคิด ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา"สุภาพบุรุษพูดแล้วไม่คืนคำ!" มู่จิ่วซีหัวเราะร่า ลุกขึ้นยืนยื่นฝ่ามือไปทางโม่จุน "แตะมือเพื่อสาบาน"โม่จุนมุมปากกระตุก ยื่นมือออกมาแตะกับมือของนางมู่จิ่วซียิ้มเจิดจ้าให้กับเขา จนเกือบจะจ้าจนตาของโม่จุนบอดเพียงแต่กลิ่นอายทั้งตัวของโม่จุนกลับยิ่งเย็นลงไปอีกชายทั้งสองคนจากไปอย่างรวดเร็ว ลู่เอ๋อร์ถามขึ้นอย่างตกตะลึง "คุณหนูใหญ่ ท่านทำไมถึง

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 11

    มู่จิ่วซีเข้ามาในห้องที่ท่านแม่พักอยู่ ก็ได้กลิ่นยาเข้มข้นวูบหนึ่งออกมา"แค่กๆๆ" เสียงไอด้านในฟังแล้วทำเอาคนรู้สึกแย่เลยทีเดียว"ฮูหยิน คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว" ป้าอิงหญิงชราร้องเรียกขึ้นมู่จิ่วซีพุ่งเข้าไปในห้อง ก็เห็นว่าท่านแม่กำลังลุกขึ้นนั่งด้วยการประคองตัวของป้าหวังหญิงชราอีกคนหนึ่ง"ท่านแม่" มู่จิ่วซีมาถึงเตียงพอเห็นสีหน้าของท่านแม่ ใจก็เต้นตุบในใบหน้าขาวน้ำเงินนี้ มีอาการป่วยอยู่ไม่เบาเลย เพียงแต่ในความทรงจำเจ้าของร่างเดิมยังไม่หนักหนาขนาดนี้"ซีเอ๋อร์ เจ้ากลับมาแล้ว" ฮูหยินใหญ่หน้าตาดูมีบุคลิก คิ้วตาก็ดูใจกว้าง เห็นได้ว่าตอนยังสาวเป็นคนสวยมากๆ คนหนึ่ง"ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว อาการป่วยของท่านทำไมจึงแย่หนักลงไวขนาดนี้?" มู่จิ่วซีจับมือของนางขึ้นมาจับชีพจรทันทีชาติที่แล้วเพื่อที่นางจะแอบเข้าไปในองค์กรที่จำหน่ายยาแผนจีน จึงต้องไปร่ำเรียนแพทย์แผนจีนมาเป็นพิเศษ ต่อมาเข้าไปทำภารกิจในภูเขาต่อ สภาพแวดล้อมเลวร้าย โดนศัตรูทำร้ายจนบาดเจ็บมานับครั้งไม่ถ้วน ต้องขอบคุณพวกหญ้าสมุนไพรที่คอยช่วยชีวิต"ซีเอ๋อร์ แม่ก็ป่วยเหมือนเดิม แค่กๆๆ..." ฮูหยินใหญ่พูดแล้วก็ไอขึ้นมา ที่ตามมาคือเลือดที่

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 12

    มู่จิ่วซีม่านตาหดลง เอ่ยขึ้นเสียงขรึม "ท่านแม่ ท่านเองก็เห็นแล้ว ป้าหวังเมื่อครู่กำลังแอบฟัง นี่อธิบายได้แล้วว่าเกี่ยวข้องกับนาง แต่ข้ารู้สึกว่านางไม่ใช่คนร้ายหลัก เรื่องนี้ต้องบอกท่านพ่อ"ฮูหยินใหญ่สีหน้าตกตะลึง แต่ว่าก็สะกดลงอย่างรวดเร็ว"จะว่าไปตอนที่ท่านแม่ยังสาว ก็เคยฝึกวรยุทธ์อยู่ ไม่รู้เพราะอะไรหลังจากคลอดเจ้าร่างกายก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ ทำอย่างไรก็รักษาไม่หายเสียที ก่อนหน้านี้ข้าเองก็เคยคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะติดพิษ แต่หมอกี่คนก็ตรวจไม่เจอเสียที""เรื่องนี้อธิบายได้แค่ว่าคนร้ายตัวจริงเบื้องหลังวางแผนเอาไว้ลึกหยั่ง ใช้วิธีการชั้นสูง ท่านแม่ นับจากนี้เป็นต้นไป ท่านไม่ต้องกินยาใดๆ อีกแล้ว อาหารเองก็ต้องตรวจสอบก่อนแล้วค่อยกิน ข้าจะจัดการให้อย่างดี" มู่จิ่วซีคิดเอาไว้แล้ว"ซีเอ๋อร์ แล้วพิษของแม่แก้ได้ไหม? เอาจริงๆ แม่รู้สึกว่าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว" ฮูหยินใหญ่ในดวงตาเผยความหวาดกลัวและความอาลัยอาวรณ์ขึ้นมา"แก้ได้ ข้าใช้เข็มเงินควบคุมไม่ให้พิษแล่นไปที่หัวใจท่านแล้ว ท่านรักษาอารมณ์ให้สงบเอาไว้ ข้าจะไปหายาแก้พิษมา" มู่จิ่วซีในใจก็หวังว่าจะมีสมุนไพรแก้พิษอยู่"ซีเอ๋อร์ เจ้ารู้จักแก้พ

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 13

    "ไม่ อย่า อ๊า!" เสียงกรีดร้องของลู่เอ๋อร์ดังจนปอดแทบฉีก"ผัวะ!" ประตูใหญ่ถูกถีบเปิดออกมู่จิ่วซีในมือถือกิ่งไม้ที่หักมาจากข้างทาง เดินเข้ามาใบหน้าถมึงทึงพอเข้ามาก็เห็นลู่เอ๋อร์ถูกคนใช้ของมู่หยางชุนกดไว้บนโต๊ะหินกลมในเรือน และมู่หยางชุนก็ปลดเสื้อบนออกแล้ว กำลังปลดเข็มขัดกางเกงพอได้ยินเสียง สายตาทั้งหมดก็หันไป"ท่านพี่" มู่หยางชุนพอเห็นมู่จิ่วซีก็สีหน้าดูไม่ได้ทันที รีบร้อนเก็บเสื้อผ้า ในดวงตามีแววหวาดกลัวมู่หยางชุนเป็นน้องชายฝาแฝดของมู่เจินจู ชายหนุ่มอายุสิบห้าก็เติบโตจนสูงใหญ่แล้ว แต่ตั้งแต่เล็กจนโตก็ถูกมู่จิ่วซีรังแกไปไม่น้อย ดังนั้นในกระดูกดำจึงรู้สึกทั้งกลัวทั้งเกลียดมู่จิ่วซี"คุณหนูช่วยข้าด้วย ฮือๆ" ลู่เอ๋อร์ร้องไห้พลางร้องเรียกคนใช้ทั้งสองคนถูกทำให้ตกใจจนปล่อยมือ ลู่เอ๋อร์รีบพลิกตัวลงจากโต๊ะ วิ่งมาอยู่ข้างหลังมู่จิ่วซี"คุณหนู ป้าหวังเข้าไปในห้องของคุณชายสาม""เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?" มู่จิ่วซีหันไปเห็นว่าเสื้อผ้าบนตัวนางยังอยู่ดีจึงผ่อนใจโล่งออกมาลู่เอ๋อร์ส่ายหัว มู่จิ่วซีมองเด็กสาวอายุสิบสี่ปีคนนี้อย่างปวดใจก่อนหน้านี้ก็ถูกพวกสาวใช้ของไป๋เฟิ่งหว่านรุมสกรัมมาแล้ว

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 14

    ฮูหยินรองลู่เวยหย่าพุ่งเข้าไปหาลูกชายที่ถูกตีจนเป็นเช่นนี้ ร้องไห้ถามไถ่ขึ้นมาทันที "หยาชุน เจ้าไปทำเรื่องไม่ดีอะไรมา จิ่วซีถึงโกรธเจ้าขนาดนี้""ท่านแม่ นางตีข้า ข้า ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย" มู่หยางชุนโมโหจนร้องไห้ขึ้นจมูก "ท่านพ่อ ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับข้า""ซีเอ๋อร์ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ต่อให้หยางชุนทำเรื่องผิด แต่เจ้าเป็นพี่สาวก็ไม่ควรลงมือโหดเหี้ยมเช่นนี้!"แม่ทัพใหญ่มู่ปวดใจ เรียกคนให้ไปตามหมออู๋มามู่หยางชุนเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเขา ต้องสืบทอดตระกูลต่อไปลู่เอ๋อร์จู่ๆ ก็คุกเข่าลงรีบเอ่ยขึ้นว่า "ทั้งหมดเป็นความผิดข้าน้อยเอง ไม่เกี่ยวกับคุณหนูใหญ่เลยเจ้าค่ะ""ลู่เอ๋อร์ เจ้าอย่าเอะอะก็คุกเข่า เจ้าสัตว์เดรัจฉานนี่เกือบจะข่มเหงเจ้าไปแล้ว เจ้ายังคิดจะพูดเพื่อเขาอีกทำไมกัน? ถ้าไม่ใช่น้องชายของข้า เมื่อครู่ข้าคงจับเขาตอนไปแล้ว!" คำพูดของมู่จิ่วซีทำเอาทุกคนสูดปาก"หยางชุน! ที่จิ่วซีพูดเป็นความจริงหรือ? เจ้าคิดจะ...ลู่เอ๋อร์" ฮูหยินรองเองก็มองลูกชายอย่างตกตะลึงเช่นกัน"เจ้าเด็กชั่ว เจ้าคิดอย่างนั้นกับลู่เอ๋อร์จริงหรือ?" แม่ทัพใหญ่มู่เองก็ตกตะลึงมากเช่นกัน"ไม่ใช่ ไม่ใช่เลย

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 15

    ฮูหยินรองเองก็ลุกขึ้นมาแล้ว น้ำตายังไม่ทันแห้ง ก็เริ่มห้ามทัพขึ้นมาโม่จุนท่านผู้สำเร็จราชการแทนจ้องเขม็งใบหน้าที่ไม่ยอมใครของมู่จิ่วซี ในใจเองก็รู้สึกเหงื่อตกแทนนาง แต่ว่าคำพูดของนางก็ทำให้เขารู้สึกเกินคาดเหมือนกันยังคิดว่าคุณหนูใหญ่จะต้องชอบรังแกพวกคนที่ต่ำต้อยกว่าแน่นอนแท้ๆ ไม่คิดเลยว่านางจะปกป้องเช่นนี้"ลู่เอ๋อร์ ครั้งนี้ข้าทำผิดไป ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย ซีเอ๋อร์พูดไว้ถูกต้อง สาวใช้ก็เป็นคนเช่นกัน พวกเรามีวันคืนที่สุขสบายได้ ก็เพราะมีพวกเจ้าอยู่"ภายใต้บรรยากาศที่ตึงเครียด มู่เทียนซิงก็ทำการเลือกออกมาใบหน้าเย็นชาของมู่จิ่วซีก็ผ่อนคลายลงในพริบตา ยิ้มเจิดจ้าแยงตา เดินตรงเข้าไปข้างๆ มู่เทียนซิง คล้องแขนของเขาแล้วออดอ้อนทันที"นี่ถึงจะเป็นวีรบุรุษท่านพ่อของข้า ทัศนคติสามด้านของตระกูลมู่พวกเราจำเป็นต้องทำให้ถูกต้อง""เด็กอย่างเจ้านี่นะ ครั้งนี้พ่อผิดเอง แต่ที่เจ้าตีน้องจนสภาพนี้ ก็ไม่ควรรู้สึกผิดบ้างหรือ?" มู่เทียนซิงถูกลูกอ้อนของลูกสาวตีจนแตกพ่าย อารมณ์เองก็ดีขึ้นมาแล้ว ทั่งดวงตาเต็มไปด้วยความรัก"ท่านพ่อ สั่งสอนลูกไม่ดีคือความผิดของผู้เป็นพ่อ น้องชายทำเรื่องเช่นนี้ หากย้อนกลั

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 16

    มู่จิ่วซีงงงันไปครู่หนึ่ง รีบร้อนยกมือยอมแพ้เอ่ยว่า "โอเคโอเค ข้าผิดเอง ท่านอยากจะพูดอะไร"สองคิ้วโม่จุนขมวดกันแน่ อะไรคือโอเคโอเค? บ้าๆ บอๆ ผู้หญิงคนนี้ท่าจะมีปัญหาจริงๆมู่เทียนซิงเหลือบมองลูกสาวผาดหนึ่ง รู้สึกว่าแปลกอยู่เหมือนกัน ทั้งสามคนเดินตรงไปยังห้องหนังสือของเรือนหน้า"มู่จิ่วซี พูดต่อหน้าพ่อของเจ้าเลย บอกเงื่อนไขการถอนหมั้นของพวกเราออกมาอีกครั้ง" โม่จุนหลังจากนั่งลงก็เอ่ยขึ้นมู่จิ่วซีไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็ยังพยักหน้า"ได้ ท่านพ่อ ข้ากับท่านผู้สำเร็จราชการแทนพูดเงื่อนไขการถอนหมั้นไว้แล้วว่าให้หาคนร้ายตัวจริงที่ผลักข้าตกน้ำและสังหารหมอหลวงเวินให้เจอ ถ้าหาไม่เจอ ก็สอนวิถีจิตกำลังภายในให้กับข้า ถ้าทั้งสองข้อนี้ทำไม่ได้เลยล่ะก็ ข้าก็คงต้องอภิเษกกับเขาแล้ว"โม่จุนหลังจากที่มุมปากกระตุกเล็กน้อยก็เอ่ยกับมู่เทียนซิงว่า "แม่ทัพมู่ ท่านได้ยินชัดหรือยัง? ขอแค่ข้าสำเร็จเงื่อนไขเพียงข้อเดียวก็ถือว่าสามารถถอนหมั้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องการถอนหมั้นนี้ก็จำเป็นต้องให้พวกท่านไปกล่อมพระพันปีหลวง""ไม่ถูกสิ ข้าก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกว่าพวกเราจะไปกล่อมพระพันปีหลวงให้นะ" มู่จิ่วซีเอ่ยขึ้นมาทั

Bab terbaru

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status