Share

บทที่ 13

Author: เย่ว์เหมี่ยว
"ไม่ อย่า อ๊า!" เสียงกรีดร้องของลู่เอ๋อร์ดังจนปอดแทบฉีก

"ผัวะ!" ประตูใหญ่ถูกถีบเปิดออก

มู่จิ่วซีในมือถือกิ่งไม้ที่หักมาจากข้างทาง เดินเข้ามาใบหน้าถมึงทึง

พอเข้ามาก็เห็นลู่เอ๋อร์ถูกคนใช้ของมู่หยางชุนกดไว้บนโต๊ะหินกลมในเรือน และมู่หยางชุนก็ปลดเสื้อบนออกแล้ว กำลังปลดเข็มขัดกางเกง

พอได้ยินเสียง สายตาทั้งหมดก็หันไป

"ท่านพี่" มู่หยางชุนพอเห็นมู่จิ่วซีก็สีหน้าดูไม่ได้ทันที รีบร้อนเก็บเสื้อผ้า ในดวงตามีแววหวาดกลัว

มู่หยางชุนเป็นน้องชายฝาแฝดของมู่เจินจู ชายหนุ่มอายุสิบห้าก็เติบโตจนสูงใหญ่แล้ว แต่ตั้งแต่เล็กจนโตก็ถูกมู่จิ่วซีรังแกไปไม่น้อย ดังนั้นในกระดูกดำจึงรู้สึกทั้งกลัวทั้งเกลียดมู่จิ่วซี

"คุณหนูช่วยข้าด้วย ฮือๆ" ลู่เอ๋อร์ร้องไห้พลางร้องเรียก

คนใช้ทั้งสองคนถูกทำให้ตกใจจนปล่อยมือ ลู่เอ๋อร์รีบพลิกตัวลงจากโต๊ะ วิ่งมาอยู่ข้างหลังมู่จิ่วซี

"คุณหนู ป้าหวังเข้าไปในห้องของคุณชายสาม"

"เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?" มู่จิ่วซีหันไปเห็นว่าเสื้อผ้าบนตัวนางยังอยู่ดีจึงผ่อนใจโล่งออกมา

ลู่เอ๋อร์ส่ายหัว มู่จิ่วซีมองเด็กสาวอายุสิบสี่ปีคนนี้อย่างปวดใจ

ก่อนหน้านี้ก็ถูกพวกสาวใช้ของไป๋เฟิ่งหว่านรุมสกรัมมาแล้ว วันนี้ยังเกือบจะถูกข่มเหงอีก นี่เพราะเจ้านายของตนเองไร้ความสามารถ

"มู่หยางชุน!" มู่จิ่วซีจู่ๆ ก็หันหน้า จ้องมู่หยางชุนด้วยสายตาคมกริบ "คนของข้าเจ้าก็ยังกล้ามาแตะต้อง รนหาที่ตายสินะ"

มู่จิ่วซีไม่คิดจะพูดพล่ามไร้สาระ นางตอนนี้เต็มไปด้วยไฟโทสะ ถ้านางมาช้าไปก้าวเดียว ลู่เอ๋อร์คงถูกเจ้าสัตว์เดรัจฉานนี่ข่มเหงไปแล้ว

ระหว่างที่พูด นางก็กระโจนตัวเข้าไป ท่อนไม้เริ่มฟาดกระหน่ำลงไปบนตัวของมู่หยางชุน

"อ๊า!" เสียงร้องแหลมน่าเวทนาดังขึ้น "มู่จิ่วซี อ๊า! เจ้าบ้าไปแล้ว! เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้! อ๊า!"

คนใช้ทั้งสองคนพอเห็นท่าไม่ดี คนหนึ่งก็เข้ามาขวาง ส่วนอีกคนก็วิ่งออกไปทันที

มู่จิ่วซีจึงซัดตีคนใช้ไปด้วยกัน ซ้ำยังรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

เพียงไม่นาน มู่หยางชุนกับคนใช้ก็เสื้อผ้าขาดวิ่น เนื้อตัวถลอกปอกเปิก

มู่จิ่วซียังไม่หายโกรธ ลู่เอ๋อร์กลับตกตะลึงหวาดกลัวจนถลึงตาโต

คุณหนูโกรธเพื่อนาง แต่ถ้าตีต่อไปแบบนี้จะเกิดเรื่องเอา

"คุณหนู คุณหนู พอแล้ว ไม่ต้องตีแล้ว เดี๋ยวคุณชายสามจะตายเอา" ลู่เอ๋อร์รีบเอ่ยห้าม

"ช่วยด้วย" มู่หยางชุนถูกฟาดจนกลิ้งหลบไปบนพื้น แต่ก็ยังถูกฟาดใส่อยู่ดี

"หยุดมือ! รีบหยุดมือ!" นอกประตูมีเสียงตวาดแหลมเข้ามา

มู่จิ่วซียิ้มเย็นชา แต่ก็ยังฟาดลงไปบนเป้ากางเกงของมู่หยางชุน มู่หยางชุนร้องเสียงหลง กุมเป้ากางเกงงอตัวเป็นกุ้งแห้ง

จากนั้นนางก็หันตัวกลับมา มองไปยังประตูด้วยสายตาเย็นชา

และพอเห็น คิ้วของนางก็เลิกขึ้น นางเห็นว่าด้านหลังของท่านพ่อมีท่านผู้สำเร็จราชการแทนโม่จุนติดตามมา

"ซีเอ๋อร์ เจ้ากำลังทำอะไร หยางชุนเป็นน้องของเจ้านะ!"

แม่ทัพใหญ่มู่เทียนซิงที่เพิ่งเสร็จจากประชุมเช้า พอเห็นว่าลูกชายอยู่ในสภาพเนื้อตัวเละเทะ ดวงตาชราก็ถลึงโต เต็มไปด้วยโทสะ

"เจ้าสัตว์เดรัชฉานนี่คู่ควรเป็นน้องชายข้าด้วยหรือ?" มู่จิ่วซีพูดจบก็ไม่สนปฏิกิริยาของพ่อตนเอง ยกมุมปากขึ้นให้กับโม่จุนที่อยู่ด้านหลัง

"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน มาถอนหมั้นหรือ? หาคนร้ายตัวจริงเจอแล้วหรือ?"

โม่จุนดวงตาดำลึก มองนางที่ตีคนจนใบหน้างามแดงก่ำแต่ก็ยังไม่สนใจสภาพเนื้อตัวแม้แต่น้อย แล้วรู้สึกว่าหญิงสาวคนนี้เป็นคนประหลาดที่เขาเคยเจอมาจริงๆ

"ให้ตายเถอะ หยางชุน!" ฮูหยินรองลู่เวยหย่าพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง พอเห็นลูกชายในเรือน ก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วทันที

"ท่านพ่อ ท่านแม่ มู่จิ่วซีนาง นางบ้าไปแล้ว!" มู่หยางชุนเจ็บจนเนื้อตัวสั่นระริก สายตาที่เงยขึ้นมองมู่จิ่วซีล้วนเป็นความชิงชัง

Related chapters

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 14

    ฮูหยินรองลู่เวยหย่าพุ่งเข้าไปหาลูกชายที่ถูกตีจนเป็นเช่นนี้ ร้องไห้ถามไถ่ขึ้นมาทันที "หยาชุน เจ้าไปทำเรื่องไม่ดีอะไรมา จิ่วซีถึงโกรธเจ้าขนาดนี้""ท่านแม่ นางตีข้า ข้า ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย" มู่หยางชุนโมโหจนร้องไห้ขึ้นจมูก "ท่านพ่อ ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับข้า""ซีเอ๋อร์ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ต่อให้หยางชุนทำเรื่องผิด แต่เจ้าเป็นพี่สาวก็ไม่ควรลงมือโหดเหี้ยมเช่นนี้!"แม่ทัพใหญ่มู่ปวดใจ เรียกคนให้ไปตามหมออู๋มามู่หยางชุนเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเขา ต้องสืบทอดตระกูลต่อไปลู่เอ๋อร์จู่ๆ ก็คุกเข่าลงรีบเอ่ยขึ้นว่า "ทั้งหมดเป็นความผิดข้าน้อยเอง ไม่เกี่ยวกับคุณหนูใหญ่เลยเจ้าค่ะ""ลู่เอ๋อร์ เจ้าอย่าเอะอะก็คุกเข่า เจ้าสัตว์เดรัจฉานนี่เกือบจะข่มเหงเจ้าไปแล้ว เจ้ายังคิดจะพูดเพื่อเขาอีกทำไมกัน? ถ้าไม่ใช่น้องชายของข้า เมื่อครู่ข้าคงจับเขาตอนไปแล้ว!" คำพูดของมู่จิ่วซีทำเอาทุกคนสูดปาก"หยางชุน! ที่จิ่วซีพูดเป็นความจริงหรือ? เจ้าคิดจะ...ลู่เอ๋อร์" ฮูหยินรองเองก็มองลูกชายอย่างตกตะลึงเช่นกัน"เจ้าเด็กชั่ว เจ้าคิดอย่างนั้นกับลู่เอ๋อร์จริงหรือ?" แม่ทัพใหญ่มู่เองก็ตกตะลึงมากเช่นกัน"ไม่ใช่ ไม่ใช่เลย

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 15

    ฮูหยินรองเองก็ลุกขึ้นมาแล้ว น้ำตายังไม่ทันแห้ง ก็เริ่มห้ามทัพขึ้นมาโม่จุนท่านผู้สำเร็จราชการแทนจ้องเขม็งใบหน้าที่ไม่ยอมใครของมู่จิ่วซี ในใจเองก็รู้สึกเหงื่อตกแทนนาง แต่ว่าคำพูดของนางก็ทำให้เขารู้สึกเกินคาดเหมือนกันยังคิดว่าคุณหนูใหญ่จะต้องชอบรังแกพวกคนที่ต่ำต้อยกว่าแน่นอนแท้ๆ ไม่คิดเลยว่านางจะปกป้องเช่นนี้"ลู่เอ๋อร์ ครั้งนี้ข้าทำผิดไป ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย ซีเอ๋อร์พูดไว้ถูกต้อง สาวใช้ก็เป็นคนเช่นกัน พวกเรามีวันคืนที่สุขสบายได้ ก็เพราะมีพวกเจ้าอยู่"ภายใต้บรรยากาศที่ตึงเครียด มู่เทียนซิงก็ทำการเลือกออกมาใบหน้าเย็นชาของมู่จิ่วซีก็ผ่อนคลายลงในพริบตา ยิ้มเจิดจ้าแยงตา เดินตรงเข้าไปข้างๆ มู่เทียนซิง คล้องแขนของเขาแล้วออดอ้อนทันที"นี่ถึงจะเป็นวีรบุรุษท่านพ่อของข้า ทัศนคติสามด้านของตระกูลมู่พวกเราจำเป็นต้องทำให้ถูกต้อง""เด็กอย่างเจ้านี่นะ ครั้งนี้พ่อผิดเอง แต่ที่เจ้าตีน้องจนสภาพนี้ ก็ไม่ควรรู้สึกผิดบ้างหรือ?" มู่เทียนซิงถูกลูกอ้อนของลูกสาวตีจนแตกพ่าย อารมณ์เองก็ดีขึ้นมาแล้ว ทั่งดวงตาเต็มไปด้วยความรัก"ท่านพ่อ สั่งสอนลูกไม่ดีคือความผิดของผู้เป็นพ่อ น้องชายทำเรื่องเช่นนี้ หากย้อนกลั

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 16

    มู่จิ่วซีงงงันไปครู่หนึ่ง รีบร้อนยกมือยอมแพ้เอ่ยว่า "โอเคโอเค ข้าผิดเอง ท่านอยากจะพูดอะไร"สองคิ้วโม่จุนขมวดกันแน่ อะไรคือโอเคโอเค? บ้าๆ บอๆ ผู้หญิงคนนี้ท่าจะมีปัญหาจริงๆมู่เทียนซิงเหลือบมองลูกสาวผาดหนึ่ง รู้สึกว่าแปลกอยู่เหมือนกัน ทั้งสามคนเดินตรงไปยังห้องหนังสือของเรือนหน้า"มู่จิ่วซี พูดต่อหน้าพ่อของเจ้าเลย บอกเงื่อนไขการถอนหมั้นของพวกเราออกมาอีกครั้ง" โม่จุนหลังจากนั่งลงก็เอ่ยขึ้นมู่จิ่วซีไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็ยังพยักหน้า"ได้ ท่านพ่อ ข้ากับท่านผู้สำเร็จราชการแทนพูดเงื่อนไขการถอนหมั้นไว้แล้วว่าให้หาคนร้ายตัวจริงที่ผลักข้าตกน้ำและสังหารหมอหลวงเวินให้เจอ ถ้าหาไม่เจอ ก็สอนวิถีจิตกำลังภายในให้กับข้า ถ้าทั้งสองข้อนี้ทำไม่ได้เลยล่ะก็ ข้าก็คงต้องอภิเษกกับเขาแล้ว"โม่จุนหลังจากที่มุมปากกระตุกเล็กน้อยก็เอ่ยกับมู่เทียนซิงว่า "แม่ทัพมู่ ท่านได้ยินชัดหรือยัง? ขอแค่ข้าสำเร็จเงื่อนไขเพียงข้อเดียวก็ถือว่าสามารถถอนหมั้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องการถอนหมั้นนี้ก็จำเป็นต้องให้พวกท่านไปกล่อมพระพันปีหลวง""ไม่ถูกสิ ข้าก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกว่าพวกเราจะไปกล่อมพระพันปีหลวงให้นะ" มู่จิ่วซีเอ่ยขึ้นมาทั

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 17

    โม่จุนโกรธจนตัวสั่น แต่เพื่อการถอนหมั้นจึงไม่ได้ห่วงกังวลและได้แต่ยื่นมือปรบ"ไม่คิดว่าชื่อเสียงของคุณหนูใหญ่มู่มีมูลค่าเป็นเงินเพียง 10,000 ตำลึงเงิน" โม่จุนยังคงพูดประชดประชันมู่จิ่วซีมู่จิ่วซีหัวเราะเยาะแล้วพูดขึ้นมา : "เจ้าไม่ต้องมากระแหนะกระแหนข้าหรอก ต่อให้เจ้าไม่ให้ ด้านนอกก็คงพูดถึงข้ายิ่งเข้าไปใหญ่ แค่ได้มา 10,000 ตำลึงก็พอใจมากแล้ว ขอบคุณท่านผู้สำเร็จราชการแทน เจ้าช่างเป็นคนดี ฮิฮิ"โม่จุนกระอักเลือดขึ้นมาถึงลำคอ แววตาของเขาราวกับปรากฎสีแดงเข้มขึ้นมา ถ้าไม่ใช่ว่าเขาควบคุมตนเองได้ดี เขาคงกระอักเลือดออกมาแล้ว"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน หญิงสาวเกเรแบบนี้ ท่านอย่าได้ใส่ใจนางเลย" มู่เทียนซิงรู้แค่ว่าตนเองคงได้แต่แค่พูดปลอบใจเท่านั้นโม่จุนถลึงตาจ้องมองมู่เทียนซิงครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็หลับตาลงและปรับลมหายใจ"พูดตามตรง ฉีฟั่งก็จับได้แล้วและก็สอบปากคำแล้ว เขาบอกว่าไม่มีใครสั่งให้มาทำร้ายเจ้า อีกทั้งยังพูดว่ามีความแค้นส่วนตัวกับเจ้า" โม่จุนลืมตาขึ้นอีกครั้งพร้อมกับลมหายใจที่สงบนิ่ง"ความแค้นส่วนตัว?" นี่ทำให้มู่จิ่วซีรู้สึกเหนือความคาดหมาย "ข้าไม่แม้แต่จะรู้จักฉีฟั่งคนนี้ เขาจะมา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 18

    มู่จิ่วซีตกตะลึง จากก็กล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ : "ท่านผู้สำเร็จราชการแทน เจ้านี่ทึ่มจริง ๆ เจ้าไม่อยากบอก งั้นต่อให้ข้าจะรู้หรือไม่ก็ไม่เป็นไร ข้าเองก็แค่สงสัยเท่านั้น""แล้วถ้าคนนี้เป็นคนที่เจ้ารู้จักล่ะ?" โม่จุนเกือบโมโหจนฉุนขาด"เจ้าไม่บอก ข้าก็ถือว่าไม่รู้จัก ยุ่งอะไรกับข้าด้วย" มู่จิ่วซีอยากจะจัดการเจ้าหน้าโลงผุคนนี้จริง ๆ แต่ก็เป็นเพียงแค่การสร้างวิมานบนอากาศ"เจ้าไม่อยากรู้?" โม่จุนกระตุกยิ้มตรงมุมปากและเอ่ยออกมา"ความสงสัยสามารถฆ่าแมวให้ตายได้ ข้ายังไม่อยากตาย ถ้าเจ้าไม่รู้จักพิษนี้ งั้นก็ถือซะว่าข้าไม่ได้ถามก็แล้วกัน" มู่จิ่วซีเบะปากทำท่าอย่างกับไม่พอใจ"มู่จิ่วซี เจ้านี่ไม่เหมือนกับที่คนภายนอกล่ำลือกันเลย" โม่จุนอดไม่ได้ที่จะยอมรับข้อนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้สองคนจะเคยรู้จักกัน แต่ก็ไม่คุ้นเคยกันมากนักและไม่ได้รู้จักกันอย่างจริงจังมาก่อนเขาเข้าใจนางจากที่คนอื่นบอกเล่า รู้จักนางจากที่คนภายนอกพูดกัน"ปากของคนอื่น คนอื่นอยากจะพูดอะไร ข้าเองก็ทำอะไรไม่ได้ไม่ใช่หรือไง? ท่านผู้สำเร็จราชการแทน คนโบราณได้กล่าวไว้ 'สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น' เจ้าเชื่อคำคนอื่นพูดง่ายขนาดนี้ นี่เจ้าเอาชน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 19

    "ก็ใกล้เคียงพอกัน ซึ่งคือเจ้าสำนักหอดาราจันทรา" โม่จุนกล่าวอย่างเรียบเฉยมู่จิ่วซีตกใจไปครู่หนึ่ง "เจ้าสำนักหอดาราจันทรา? ที่เขาว่ากันว่าเป็นเหมือนเทพมังกรเห็นหัวมิเห็นหาง จิ้งจอกม่วงคนนั้นน่ะเหรอ?"โม่จุนพยักหน้าและเอ่ยต่อ : "ทั้งหกแคว้นล้วนมีหอดาราจันทรา พลังของเจ้าสำนักคนนี้ไม่อาจดูถูกได้"มู่จิ่วซีถึงกับยิ้มแหยง : "เจ้าพูดก็เหมือนไม่ได้พูด ก็แค่เจ้าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวเดียว ข้าจะไปหาเขาเจอได้ที่ไหน""ช่วงนี้เขามาที่หอดาราจันทราของแคว้นเรา" โม่จุนหรี่ตาลงมู่จิ่วซีหัวใจเต้นกระตุกขึ้นมา นางมองไปยังใบหน้าที่พินิจพิเคราะห์ของเขาแล้วพูดขึ้นมา : "โม่จุน พูดตามความจริง หอดาราจันทราเก่งกาจขนาดนั้น เจ้าในฐานะท่านผู้สำเร็จราชการแทนของแคว้นเกาอวิ๋น เจ้าไม่รู้สึกถึงอันตรายเลยเหรอ ?"โม่จุนมองดวงตากลมโตทั้งสองข้างที่เจ้าเล่ห์และปราดเปรียบของนางอย่างครุ่นคิดและก็ไม่ได้พูดอะไร"เออ เออ เออ ไม่พูดก็ไม่ต้องพูด แต่ว่าข้าสงสัยถึงแรงจูงใจที่เจ้าบอกข้า" มู่จิ่วซีเผยยิ้ม"เจ้าสำนักหอดาราจันทราพักนี้เหมือนกำลังเปิดรับศิษย์" โม่จุนกล่าวขึ้นมาประโยคหนึ่งอย่างเรียบเฉย "แต่ว่าก็อาจเป็นแค่ฉากบังหน้า"

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 20

    เย่อู่เหิงและโม่จุนมองตากัน ในตาของทั้งสองต่างก็มีความตกตะลึงผู้หญิงคนนี้ต้องการจะใช้อุปกรณ์ทรมานเขาด้วยตนเองงั้นเหรอ?การทรมานที่ต้องมีเลือดตกยางออกแบบนี้นางไม่กลัวเลยงั้นเหรอ?มู่จิ่วซีเมื่อเห็นคมดาบของดาบวงพระจันทร์ ในใจของนางก็มีความสุขและก็รีบหยิบขึ้นมาเล่นครู่หนึ่ง สายตาของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดาบนี้ช่องคล่องมือดีจริง ๆเดี๋ยวกลับต้องมาไว้ป้องกันตัวสักหน่อย แค่เฉือนคอฉับเดียวต้องตายแน่หลังจากนางวางลง นางก็หยิบตะปูเหล็กเล็ก ๆ ยาว ๆ ขึ้นมากำหนึ่งจากนั้นนางก็เดินอย่างเชื่องช้ามาอยู่ตรงหน้าฉีฟั่ง นางแหงนหน้ามองเขา ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มอันชั่วร้ายที่ไม่มีใครเทียบได้"อีสารเลว คิดว่าข้าจะยอมปริปากเพราะถูกทรมานรึไง? อย่าฝันไปเลย!" ฉีฟั่งถมน้ำลายไปทางมู่จิ่วซีมู่จิ่วซีเอี้ยวตัวหลบ น้ำลายที่มีเลือดผสมปนก็ถมลงพื้น ดูไปแล้วน่าขยะแขยงอย่างมาก"คุณหนูใหญ่ ให้ข้าน้อยจัดการไหมขอรับ?" เจ้าหน้าที่ชั้นศาลที่สาดน้ำรีบเข้ามาเอ่ยถามมู่จิ่วซีส่ายหัวพร้อมกับพูด : "พวกเจ้าจัดการเขาจนอยู่ในสภาพนี้แล้วยังไม่สารภาพเลย บ่งบอกว่าวิธีการไม่ถูกต้อง ข้าคงต้องลองวิธีใหม่ ๆ กับเขาถึงจะได้"ขณะพู

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 21

    นี่มันโหดยิ่งกว่าเพชฌฆาตอีกผู้ชายสองคนลึกๆ ก็ได้แต่สงสัยในข่าวลือเรื่องของมู่จิ่วซีอีกครั้ง ว่ามีเพียงดื้อรั้นเอาแต่ใจจริงเหรอ?ทำเรื่องที่โหดร้ายทารุณได้ตาไม่กระพริบขนาดนี้ ต่อให้เป็นผู้ชายยังทำได้ยากเลย"อย่าเพิ่งหมดสติไปล่ะ ถ้าหมดสติไปก็จะต้องฟื้นอีก ไร้ประโยชน์น่า เสียงนี้ฟังดูไพเราะดีไหม?" มู่จิ่วซีจ้องหน้าฉีฟั่งที่ตกใจกลัวจนตาเหลือกพลางก็ดึงเหล็กหมาดไปมาเสียง "แกรกๆ" ทำให้คนได้ยินรู้สึกขนลุกขนพอง อีกอย่างหน้าอกของฉีฟั่งก็เต็มไปด้วยเลือดลดๆ ที่ไหลริน แดงเถือกไปทั้งซีกราวกับผีร้าย"จะ เจ้ามันเป็นนังปีศาจ..." ฉีฟั่งเจ็บปวดจนหน้าตาบิดเบี้ยว เขากัดปากตัวเองจนมุมปากแหวะ พูดจาไม่ชัดเจนแต่ความหวาดกลัวในจิตใจก็ทำให้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว สายตาที่มองไปยังมู่จิ่วซีราวกับเห็นปีศาจร้ายก็ไม่ปาน"ตกอยู่ในมือข้า ถึงเจ้าจะอยากตายก็ไม่ได้ตายหรอก ไม่สู้สารภาพออกมาซะ ถ้าสารภาพข้าจะให้เจ้าได้ตายแบบศพสวยๆ สักหน่อย ถึงอย่างไรเจ้ามีชีวิตต่อไปก็ไร้ประโยชน์แล้ว" มู่จิ่วซีกล่าว "แต่ว่าหากเจ้าไม่สารภาพ ในอีกหนึ่งร้อยวันต่อจากนี้ เจ้าจะได้ยินเสียงแบบนี้ทุกวัน"พูดไปก็มีเสียงแกรกๆ ดังขึ้นมาอีกครั้ง

Latest chapter

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 501

    เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 500

    "เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 499

    จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status