Share

บทที่ 2

ไป๋เฟิ่งหว่านหน้าแข็งไปในพริบตา ตระหนักถึงอะไรบางอย่างได้ทันที

“พวกเจ้ามองข้าทำไมกัน ข้าไม่ใช่คนที่เห็นเสียหน่อย ชิงตงต่างหากที่เห็น”

ชิวตงเป็นหนึ่งในคนใช้ของไป๋เฟิ่งหว่าน

ชิวตงรีบคลานขึ้นหน้าออกมาพูดว่า “ตอนที่ข้าน้อยเห็น หมอหลวงเวินกับคุณหนูใหญ่มู่ก็อยู่ในทะเลสาบแล้ว”

มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว เหลือบมองโม่จุนแล้วพูดว่า “ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ท่านได้ยินแล้วหรือไม่? ตอนที่นางเห็น ข้ากับหมอหลวงเวินก็อยู่ในทะเลสาบนั่นแล้ว นี่จะอธิบายว่าข้ากับเขาฆ่าตัวตายเพราะความรักได้อย่างไร?”

“เช่นนั้นเจ้าลงไปอยู่ในน้ำได้อย่างไรกัน?” โม่จุนถามขึ้น

“ข้าถูกคนผลักตกน้ำ ตอนที่กำลังมึนงงก็ได้ยินเสียงคนกระโดดน้ำลงมา ดังนั้นข้าเดาว่าหมอหลวงเวินคงจะลงน้ำมาช่วยข้า”

“น่าขัน หมอหลวงเวินว่ายน้ำไม่เป็นด้วยซ้ำ แล้วจะลงน้ำไปช่วยเจ้าได้อย่างไร?” ไป๋เฟิ่งหวานยิ้มเย็นชาขึ้นมา

“ดูท่าคุณหนูไป๋จะคุ้นเคยกับหมอหลวงเวินเสียเหลือเกิน” ประโยคนี้ของมู่จิ่วซีทำเอาทุกคนหน้าประหลาดกันหมด

“เจ้าพูดจาเหลวไหล! มู่จิ่วซี มีคนยังเห็นเจ้ากับหมอหลวงเวินคุยกันกระหนุงกระหนิงที่สวนดอกไม้ด้านหลังก่อนหน้านี้ด้วย เจ้าจะอธิบายอย่างไร?” ไป๋เฟิ่งหว่านโมโหจนลูกตาแทบถลน

“เจ้าสิที่พูดจาเหลวไหล! คุณหนูปวดท้อง หมอหลวงเหวินเดินผ่านมาพอดี คุณหนูถามเรื่องใบสั่งยาจากเขาต่างหาก” ลู่เอ๋อร์ถูกตีจนหน้าม่วงคล้ำบวมแดง แต่ก็ยังตะโกนลั่นขึ้นมา

“เฮอะ! ข้าเห็นพวกเขาสองคนตัวติดกันเหลือเกิน แล้วยังหัวเราะอย่างมีความสุขด้วย ถ้าไม่ใช่แอบนัดพบกันแล้วจะเป็นอะไรได้?” มุ่เจินจูสอดปากขึ้นมา

มู่จิ่วซีกวาดสายตาไปจ้องนางแล้วยิ้มเหยียดเอ่ยขึ้นว่า “มู่เจินจู นี่เจ้าเป็นน้องสาวข้า หรือว่าเป็นน้องสาวของไป๋เฟิ่งหว่านกัน? ตอนนั้นลู่เอ๋อร์กับหมอตี๋ก็อยู่ด้วย เจ้าไม่มีสมองหรือว่าตาบอดกันแน่?”

ทุกคนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ โม่จุนเองก็สีหน้าไม่แน่ไม่นอน จู่ๆ เขาก็ยิ้มเย็นชาเอ่ยขึ้นว่า “มู่จิ่วซี แค่นี้ยังไม่นับว่าเจ้าบริสุทธิ์หรอกนะ”

“ก็รู้อยู่แล้วว่าเจ้าไม่มีน้ำใจ” มู่จิ่วซีราวกับมองโม่จุนออกจนหมดเปลือก ทำเอามุมปากโม่จุนสั่นระริก

“ปล่อยข้าสิ ข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็น” สองตามู่จิ่วซีมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้ากับความน่าเกรงขามที่ทำให้โม่จุนมองนางไม่ออก

“แก้มัดนาง!”

ทหารเข้าไปดึงตัวมู่จิ่วซีออกมาจากกรงทันที คลายมัดมือและเท้าออก

มู่จิ่วซียืนขึ้นสะบัดมือสะบัดเท้า ในใจก็กลัดกลุ้ม ร่างนี้ถึงแม้จะพอใช้ได้ แต่พอเทียบคุณสมบัติทางร่างกายเดิมของนางแล้วก็ยังห่างชั้นอยู่โข

ดูท่าวันนี้คงต้องพิชิตใจคนด้วยคุณธรรมเสียแล้ว

“หน้าไม่อาย!”

“ไร้ยางอายเสียจริง!”

มู่จิ่วซีก้มหน้ามอง ก็เห็นว่าตนเองตอนนี้ตัวเปียกดูยั่วยวนเสียเหลือเกิน รูปร่างเจ้าของเดิมนางรู้สึกพอใจมาก

ถึงอย่างไรนางในยุคปัจจุบันก็หน้ากลมเป็นซาลาเปา แต่ร่างกายนี้มีส่วนเว้าส่วนโค้งยอดเยี่ยม ดูสะโอดสะองเหลือเกิน

“ถ้ายังมองอีกข้าจะควักลูกตาออกมาเสีย!” โม่จุนร้องเชอะเย็นชา เหล่าทหารรอบๆ ก็หมุนตัวกลับอย่างกระดากอายทันที

“คุณหนู” ลู่เอ๋อร์รีบร้อนเข้ามา ถอดเสื้อคลุมนอกคิดจะคลุมตัวมู่จิ่วซี

“ไม่ต้อง ไม่ได้โป๊อะไรเสียหน่อย” มู่จิ่วซีด้านในยังมีชุดชั้นในอยู่ อันที่จริงก็มองไม่เห็นอะไรด้วยซ้ำ

โม่จุนยื่นมือรับผ้าคลุมจากมือผู้พิทักษ์ โยนไปให้มู่จิ่วซี

“ขอบคุณมาก” มู่จิ่วซียิ้มให้เขา “คู่หมั้นถูกคนอื่นเห็นเข้า คนที่เสียหายคือเจ้าสินะ”

โม่จุนตกตะลึง ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาลงในพริบตา ราวกับห่อน้ำแข็งหมื่นปีเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น

“อย่าเพิ่งพูดเร็วไปนัก” โม่จุนตอบกลับประโยคหนึ่ง

โม่จุนเก็บสายตาลง เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นรอยยิ้มของมู่จิ่วซีกลับรู้สึกว่าสวยหยาดเยิ้มเหลือเกิน แล้วยังมีความสดใสอีกด้วย ให้ตายเถอะ!

“เอาล่ะ เจ้าจะถอนหมั้นก็ได้นะ” มู่จิ่วซียักไหล่ เดินไปนั่งยองลงข้างหน้าศพของหมอหลวงเวิน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status