มาเฟียจ้าวชีวิต
Writer : Aile'N
ตอนที่ 8
เป็นอีกวันที่ของขวัญตื่นขึ้นมาบนเตียงในตอนเช้าอย่างงงๆ เพราะจำได้ว่าเมื่อคืนนั่งรอโทโมยะที่โต๊ะทานข้าวจนดึกและคงเผลอหลับไป สงสัยนะ.. ว่าใครเป็นคนพาเธอมาไว้บนเตียง? แต่คิดเองคงไม่รู้เลยเลิกสนใจ หันมามองหาขนมที่ทำไว้ให้ใครคนนั้นแทน จนมาเจออยู่ที่โต๊ะตัวเดิมที่นั่งรอเมื่อคืน แต่เหลือเพียงตะกร้าเปล่ากับโน้ตหนึ่งใบ..
'อร่อยดี'
ข้อความเพียงสั้นๆ ที่ถูกเขียนไว้ในนั้นทำของขวัญยิ้มจนแก้มปริ แต่พอรู้ว่าโทโมยะเข้ามาและอาจจะเป็นคนอุ้มเธอไปนอนบนเตียงก็พลันชะงัก.. แก้มแดงซ่านด้วยความรู้สึกดีแปลกๆ นี่เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าถูกแกล้งอะไรไว้บ้าง ถึงได้ไปใจเต้นแรงกับเขาน่ะ!
ร่างบางสลัดความรู้สึกแปลกๆ นั้นออกไป ก่อนหยิบโน้ตใบนั้นไปเก็บไว้ใต้หมอนแล้วเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแต่งตัว แปดโมงตรงองศาก็เข้ามาทำหน้าที่ วันนี้เธอมีนัดกับเชฟในตอนเช้า ส่วนตอนบ่ายมาทำความสะอาดห้องนอนของเธอเองและห้องข้างๆ ที่เป็นของร่างสูง ความจริงชั้นนี้มีทั้งหมดสี่ห้องใหญ่ เป็นห้องนอนสอง ห้องทำงานหนึ่งและห้องฟิตเนสอีกหนึ่ง แต่สองห้องหลังโทโมยะให้แม่บ้านประจำทำ เพราะถ้าให้ของขวัญทำคนเดียวทั้งสี่ห้องคงจะหนักหนาเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ
"กฎต้องห้ามของทุกห้องบนชั้นนี้ คือห้ามเคลื่อนย้ายข้าวของในห้องโดยเด็ดขาด ที่ต้องทำคือปัด กวาด เช็ด ถูและเปลี่ยนผ้าห่มผ้าปูใหม่ครับ เดี๋ยวพี่ช่วยอีกแรง" องศาสั่งงานตามที่ได้รับมอบหมายมาจากเจ้านายเขาอีกทีพูดไปมือก็ยื่นผ้ากันเปื้อนมาให้คนตัวเล็กใส่ เขาเองก็ใส่ด้วยเพราะถ้าปล่อยให้อีกฝ่ายทำคนเดียวคงจะใจดำเกินไป
คนฟังพยักหน้ารับเอื่อยๆ ก่อนปิดปากหาววอดด้วยความง่วง เพราะเพิ่งผ่านมื้อเที่ยงมาไม่นาน ก่อนหน้าที่จะมีงานทำกินเสร็จเธอจะต้องนอนกลางวัน พอถึงเวลานั้นเลยรู้สึกง่วงๆ
"ไหวมั้ยเนี่ย หึหึ อยู่เฉยๆ ก็ดีอยู่แล้วเชียว" องศาหัวเราะขำ ก่อนส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ ไม่ทันได้เริ่มงานใหม่ร่างบางก็ดูท่าจะไม่ไหวซะแล้ว วันนี้ตอนเรียนทำอาหารกับเชฟก็สำลักน้ำแกงรสเผ็ดตอนชิมจนหน้าแดงก่ำ โก่งคอไอจนตัวโยน เห็นแล้วก็สงสาร..
"ไหวค่ะ เราเริ่มกันเถอะ" มือบางตบแก้มไล่ความง่วง ก่อนสวมหน้ากากอนามัยตั้งการ์ดมือที่ถือไม้ขนไก่พร้อมลุยงานเต็มที่
ทั้งคู่เริ่มทำความสะอาดห้องของคนตัวเล็กก่อน ซึ่งจากขนาดห้องกว่าจะเสร็จก็เหนื่อยเอาการ เลยพากันพักเหนื่อยกินน้ำกินของว่างเติมพลัง ก่อนจะไปทำห้องของร่างสูงต่อ ของขวัญรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกที่ได้เข้ามาเห็นห้องนอนของนายใหญ่ที่องศาย้ำหนักย้ำหนาว่าเขาหวงพื้นที่ส่วนตัวมาก ห้ามเคลื่อนย้ายอะไรโดยเด็ดขาด สภาพก่อนทำความสะอาดกับหลังทำต้องเหมือนเดิมทุกระเบียดนิ้วราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
คนเพิ่งเคยเข้ามาถึงกับตะลึงยืนอึ้งเพราะห้องเธอที่ว่าหรูแล้วห้องเขาหรูมากกว่าหลายเท่า! โครงสร้างห้องเหมือนกันแต่การตกแต่งกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เธอรู้สึกได้ว่าห้องของเขามันเหมือนมีมนต์ขลังหรือรังสีที่เรียกว่าอำนาจดำมืดแผ่กระจายอยู่ทั่วทุกตารางนิ้ว ไม่ว่าจะเป็นชุดเฟอร์นิเจอร์ ม่าน ผนัง หรือของตกแต่งอื่นๆ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่หาไม่ได้ตามท้องตลาดทั่วไป เผลอๆ ในไทยอาจจะไม่มีขายเลยด้วยซ้ำเพราะมันเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ทั้งหมด ลายเส้นของภาพวาดข้างผนัง ดาบ หรือแม้แต่แจกันเป็นลวดลายที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน มันวิจิตรและประณีตราวกับผู้วาดเป็นศิลปินชั้นสูง มันเต็มไปด้วยจิตวิญญาณ ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือนถูกดึงดูด..
"นั่น.. รูปใครหรอคะ" หลังจากมองสำรวจจนทั่วของขวัญก็ได้สติในตอนมองไปเห็นรูปถ่ายขาวดำที่ถูกใส่กรอบอย่างดีติดอยู่ตรงผนังเหนือดาบซามูไรขึ้นไป คนในรูปนั้นเป็นผู้หญิงอายุน่าจะราวยี่สิบปลายๆ ถึงสามสิบต้นๆ หน้าตาสละสวย สวมชุดกิโมโนเต็มยศ
"นายท่านโซระ มารดาของนายใหญ่ครับ" องศาตอบหลังทำความเคารพรูปของผู้ที่เปรียบเสมือนนานเหนือนายอีกคน คำบอกกล่าวทำคนฟังจ้องรูปนั้นตาไม่กะพริบ สำรวจเค้าโครงรูปหน้าของเธอแล้วก็คล้ายคลึงกับโทโมยะไม่ใช่น้อย
"ท่าน.. เสียไปแล้วหรอคะ? " ของขวัญเอ่ยถามต่ออย่างระมัดระวังเพราะเห็นเป็นรูปขาวดำเลยไม่แน่ใจว่าใช่รูปที่ตั้งหน้าศพหรือเปล่า ไม่มีคำว่าชาตะและมรณะอย่างคนไทยบอกเสียด้วยสิ..
"ครับ ท่านเสียไปเมื่อสิบปีก่อน ด้วยโรคมะเร็ง.." คนฟังใจหายวาบเมื่อได้ยินคำตอบ เพราะนั่นทำให้เธอนึกถึงแม่ และจู่ๆ ก็ใจสั่น พลันดวงตาร้อนผ่าว เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอลืมเอารูปแม่กับกระดูกจากบ้านมาที่นี่ด้วย!
"พี่องศา! ขวัญอยากกลับไปที่บ้าน ขวัญลืมพาแม่มาด้วย" คนตัวเล็กหันไปบอกคนสนิทเสียงสั่น น้ำตารื้นด้วยความรู้สึกผิดมันตีตื้น เธอลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิททั้งที่คิดถึงแม่อยู่ทุกวัน ช่างเป็นลูกที่ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ!
"ได้สิครับ ไว้ตอนเย็นพี่จะขอนายให้" ร่างสูงยกยิ้มปลอบใจ ไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะลืมก็ในเมื่อวันนั้นที่นายเขาไปรับมาเธอแทบจะไม่มีแรงเดินเลยด้วยซ้ำ นอกจากชุดที่ใส่อยู่ก็ไม่มีอะไรติดตัวมาเลยสักอย่าง
"ขอบคุณค่ะ แย่จริงๆ เลย ขวัญคิดถึงแม่อยู่ทุกวันแต่ดันลืมเอากระดูกแม่มาด้วย ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง" ร่างบางพูดหน้าเครียด ยืนกระสับกระส่ายมือไม้แข้งขาอ่อนแรงจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่
"นายสั่งคนไปทำความสะอาดและล็อกบ้านน้องขวัญไว้ตั้งแต่วันที่พาน้องขวัญมาแล้วล่ะครับ ไม่ต้องห่วงว่าอะไรจะหาย" คำบอกขององศาทำของขวัญนิ่งอึ้งไปอีกครั้ง
"จริงหรอคะ? " เธอถามย้ำอย่างไม่เชื่อหู อีกฝ่ายเพียงพยักหน้ารับยิ้มๆ ทำเอารู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก ได้แต่นึกขอบคุณเจ้านายเขาในใจ เขาช่างรอบคอบและพึ่งพาได้จนน่าทึ่ง..
"เรารีบทำกันเถอะครับ นายใกล้จะกลับมาจากข้างนอกแล้ว" องศาตัดบทหลังยกนาฬิกาขึ้นมอง คนฟังพยักหน้ารับแต่โดยดี ทั้งคู่จึงเริ่มทำความสะอาด ร่างบางทำไปทึ่งไปกับทุกสิ่งที่อยู่ในห้องของโทโมยะ และก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องคอยมองรูปแม่เขาบ่อยๆ ด้วย หวังว่าจะไม่มาเข้าฝันถามว่ามองทำไมหรอกนะ บรื๋อออ~
"อ่า.. น้ำยาถูพื้นจะหมด น้องขวัญทำรอไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปซื้อแป๊บเดียว" คนสนิทบอกพร้อมกับถอดผ้ากันเปื้อนและหน้ากากอนามัยออกเพื่อจะลงไปซื้อน้ำยาถูพื้นมาเพิ่ม
"ค่ะ ซื้อแป๊บซี่มาให้ขวัญด้วยนะ อิอิ" ร่างบางยิ้มร่า เพราะได้โอกาสฝากซื้อสิ่งที่อยากกิน
"มันไม่มีประโยชน์นะครับ แต่เหนื่อยๆ แบบนี้พี่ก็อยากกินเหมือนกัน ฮ่าๆ ๆ เดี๋ยวซื้อมาให้" องศาทำตาดุนิดๆ ก่อนหลุดหัวเราะให้กับความย้อนแย้งของตัวเองจนคนฟังอดขำตามไม่ได้
"ขอบคุณค่ะ" เมื่อองศาออกไปของขวัญก็ทำความสะอาดในส่วนของชั้นหนังสือที่ทำอยู่ต่อ เธอทำการปัดฝุ่นและจัดหนังสือให้เข้าที่มากขึ้นแต่ไม่ได้ย้ายตำแหน่ง ทำไปฮัมเพลงไปอย่างอารมณ์ดี จดจ่ออยู่แต่กับสิ่งที่ทำจนไม่รู้ว่าเจ้าของห้องเข้ามายืนอยู่ข้างหลังได้สักพักแล้ว
พรึ่บ!
"อ๊ะ! ? " ร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆ ก็มีมือขาวๆ ที่เต็มไปด้วยรอยสักยื่นผ่านไหล่มาคร่อมตัวเธอไว้จากข้างหลัง ความตกใจทำให้รีบหันกลับไปจนปะทะเข้ากับอกกว้างก็ยิ่งตกใจแต่ครั้นจะถอยห่างก็ชนกับชั้นหนังสือแล้วเช่นกัน..
"คะ คุณโทโมยะ! ? ตกใจหมดเลยค่ะ มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง" ของขวัญเสียงหลงหน้าตาตื่นด้วยความตกใจ ก่อนจะโล่งอกที่อีกฝ่ายเป็นคนไม่ใช่ตน (?) ก็ดูจากบรรยากาศและของตกแต่งอายุเป็นร้อยๆ ปีในห้องเสียก่อนสิ เธอว่าต้องมี.. แน่ๆ!
"ขวัญอ่อนจริงนะ" เจ้าของห้องพูดเสียงเยาะ ถึงใบหน้าจะนิ่งแต่แววตาเต็มไปด้วยความขบขัน
"ก็ใครใช้ให้คุณมาเงียบๆ ล่ะคะ! " คนตัวเล็กหน้ามุ่ย ตามองค้อนอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ แต่คนถูกค้อนกลับกระตุกยิ้มอย่างชอบใจ ถ้าเธอหัวใจวายตายจะมาหลอกเขาคนแรกเลยคอยดู!
"ละ..แล้วก็ช่วยถอยออกไปด้วยค่ะ ขวัญจะได้ทำงานต่อ" พอเห็นอีกฝ่ายยิ้มแปลกๆ และใบหน้าก็อยู่ใกล้ผิดปกติ ของขวัญถึงได้รู้สึกตัวว่ากำลังถูกคร่อมอยู่กับชั้นหนังสือ ใกล้เสียจนได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากตัวเขา
"....!!? " เธอผงะตาเบิกโพลงอีกครั้ง เพราะนอกจากใครคนนั้นจะไม่ยอมถอยแล้วเขายังยื่นหน้าเข้ามากว่าเดิม จนเธอต้องพยายามทำตัวลีบแนบไปกับชั้นหนังสือให้ได้มากที่สุด แต่ไม่ใช่แค่เธอที่เกร็งจนตัวแข็ง เขาเองที่ทั้งตัวใหญ่และสูงกว่าเธอหลายสิบเซนฯ คร่อมลงมาก็ต้องย่อขาและก้มต่ำจนน่าสงสารกระดูกสันหลัง แถมยังบดบังสายตาของเธอจากสิ่งอื่นไปจนหมด เห็นก็แต่แผงอกกว้างๆ ใต้ชุดสูท..
แกรก!
"น้องขวัญ! เอ่อออ......" คนสนิทที่ออกไปซื้อของกลับมาได้จังหวะเห็นภาพนั้นพอดิบพอดี คำพูดที่จะกำลังจะพูดต่อเลยหยุดชะงัก จะไปต่อหรือถอยหลังกลับก็ไม่ได้สักทาง ได้แต่ยืนตัวแข็งเคว้งคว้างอยู่ตรงนั้น.. ของขวัญเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เธอรีบตั้งสติและผลักคนตัวใหญ่ออกห่างสุดแรง ก่อนจะหนีมาหาคนสนิท
"หนะ..ไหนแป๊บซี่ขวัญอ่ะ! " คนเก็บอาการไม่อยู่ถามเร่งอีกฝ่ายหน้าตาตื่น ไม่พอยังดึงถุงไปค้นหาเองอย่างลนลาน ใบหน้าแดงก่ำถึงใบหู ก้มหน้างุดไม่ยอมมองสบตาใคร องศาได้แต่มองร่างบางอย่างงงๆ ครั้นมองไปที่เจ้านายก็เห็นกระตุกยิ้มมุมปากด้วยนัยน์ตาขบขัน ก่อนจะเดินผ่านทั้งคู่ออกจากห้องไป
"พี่มาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าเนี่ย" ไล่หลังเจ้านายออกไป องศาก็เลียบๆ เคียงๆ ถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจ ถึงจะไม่มีใครแสดงอาการไม่พอใจที่โดนเขาขัดจังหวะก็เถอะ แต่ท่าเมื่อกี้มัน.. กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลยนี่นา รู้งี้เคาะประตูก่อนก็ดี ไม่น่าเลยไอ้องศาเอ้ย!
"ดีแล้วค่ะที่มา.." ร่างบางพูดอ้อมแอ้มในลำคอ ขณะมองค้อนใส่บานประตูที่ใครคนนั้นเพิ่งเดินออกไปทั้งที่แก้มแดงจนถึงหู องศาลอบยิ้มเมื่อเห็นอาการขัดเขินของอีกฝ่าย แต่ไม่อยากพูดอะไรให้อายไปมากกว่านี้เลยชวนคุยเข้าเรื่องอื่น
ทั้งคู่พากันพักเหนื่อยเติมพลังสักพักก็ทำความสะอาดต่อ จนเสร็จก็แยกย้ายกันไปพัก ของขวัญกลับเข้าห้องมาอาบน้ำแต่งตัวใหม่ก่อนล้มตัวลงนอนเอาแรงจนหลับไป ครั้นตื่นมาอีกทีก็ต้องตกใจเมื่อเห็นโทโมยะนั่งทำอะไรสักอย่างผ่านไอแพดอยู่บนโซฟาในห้อง น่าจะเป็นงานแต่.. เขามานั่งทำในนี้ทำไม?
"ตื่นแล้วก็ไปเตรียมตัว อยากกลับไปบ้านไม่ใช่หรอ" อีกฝ่ายตอบคำถามในใจของเธอโดยไม่ละสายตาจากหน้าจอ เท่านั้นของขวัญก็เข้าใจได้ในทันทีว่าองศาคงจะบอกเขาให้แล้วก็เลยรีบลุกไปล้างหน้าล้างตาและเตรียมตัว
เมื่อเสร็จร่างสูงก็หยุดสนใจไอแพดในมือ ลุกขึ้นเดินนำออกจากห้องไป ก่อนยื่นมันให้คนสนิทที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเก็บ แล้วเดินต่อไปที่ลิฟต์โดยมีพวกเขาตามมาประกบ ร่างบางไม่รู้จะพาตัวเองไปอยู่ตรงไหนดีถึงจะไม่ดูเกะกะลูกน้องของเขา เธอหันรีหันขวางจนคนตัวใหญ่คงจะรำคาญเลยดึงไปยืนข้างกัน
เธอเดินตัวเกร็งตลอดทางเพราะมีผู้ติดตามมาด้วยกันหลายคนแถมยังเป็นที่สนใจของคนอื่นๆ ในตึก บรรยากาศในรถก็เงียบสนิทจนไม่กล้าพูดอะไร ตลอดการเดินทางจึงมีแต่ความเงียบ.. จนมาถึงจุดหมาย อากิเป็นคนไขกุญแจรั้วและประตูบ้านให้ ก่อนจะหลบออกไปรออยู่หน้าบ้านกับคนอื่น มีเพียงโทโมยะและของขวัญที่เดินเข้าไปภายในบ้าน.. ทุกอย่างถูกทำความสะอาดเหมือนมีคนอยู่ แต่บรรยากาศกลับเงียบเหงา..
"พี่องศาบอกว่าคุณให้คนมาทำความสะอาดและล็อกบ้านไว้ให้.. ขอบคุณนะคะ" ของขวัญหันมาพูดกับคนข้างหลังที่เดินตามเธอมาอย่างเงียบๆ เขาเพียงพยักหน้ารับรู้ เธอจึงเดินต่อไปยังห้องนอนที่อยู่ชั้นสอง
รูปแม่กับโกศกระดูกถูกตั้งไว้บนโต๊ะหัวเตียงเหมือนเดิม พอเห็นน้ำตาก็พาลจะไหลแต่พยายามกลั้นไว้ เธอเดินไปหยิบรูปแม่ขึ้นมามองด้วยความคิดถึง สุดท้ายก็ไม่อาจรั้งน้ำตาไว้ได้.. ร่างสูงไม่พูดอะไร ยืนเงียบเหมือนเป็นอากาศธาตุ ปล่อยให้อีกฝ่ายร้องไห้จนกว่าจะพอใจ ซึ่งก็กินเวลาไปพักใหญ่.. หลังจากนั้นเจ้าของบ้านก็เดินสำรวจต่ออีกนิดหน่อยและเก็บเอาของเล็กๆ น้อยๆ ที่เสียดายติดมือกลับไปด้วย
ของขวัญเดินช้าลงและเปลี่ยนตำแหน่งจากตอนเข้าไปที่เดินนำเป็นเดินตามหลังโทโมยะออกมาจากบ้าน เธอก้มหน้างุดไม่มองใครเพราะรู้ตัวดีว่าตากับจมูกคงจะแดงก่ำจนไม่น่าดู.. ขบวนรถคันหรูที่นั่งมาค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากบริเวณบ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็ก ดวงตากลมสวยเหม่อมองภาพนั้นด้วยความอาลัย แม้จะไม่ใช่บ้านหลังใหญ่หรือดูมีฐานะอะไร แต่มันก็เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้ แน่นอนว่าเธอจะกลับมาอีกในสักวัน..
ร่างบางเอาแต่นั่งซึมกอดรูปกับกระดูกของมารดาไว้บนตัก ดวงตาเหม่อลอยออกนอกหน้าต่างรถที่บรรยากาศก็ช่างเป็นใจ ส่งสายฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย ไม่รู้ว่าต้องการปลอบใจหรือซ้ำเติมให้เธอจมดิ่งอยู่กับความโศกเศร้าจนถอนตัวไม่ขึ้นกันแน่
นั่งอยู่บนรถนานเท่าไรไม่รู้.. รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่คนข้างๆ เปิดประตูรถลงไป เสียงปิดประตูทำของขวัญได้สติเลยลงไปบ้างเพราะคิดว่าถึงที่หมายแล้ว แต่กลับไม่ใช่.. สถานที่ตรงหน้าไม่ใช่ตึกสูงระฟ้าแต่เป็นร้านอาหารไทยร้านหนึ่งที่บรรยากาศค่อนข้างจะดีมาก เพราะการตกแต่งร้านเก๋ไก๋ไม่เหมือนใครด้วยการรวมสไตล์ตะวันตกกับไทยโบราณเข้าด้วยกัน
"ไว้ในรถก่อน" โทโมยะหมายถึงรูปและกระดูกของแม่ที่ของขวัญถือลงรถมาด้วย ซึ่งเธอก็ยอมทำตาม ก่อนจะเดินตามเขาเข้าไปในร้านแค่สองคนเพราะลูกน้องคนสนิทถูกไล่ให้ไปจัดการมื้อค่ำของตัวเอง พวกเขาจึงเลือกโต๊ะเอาท์ดอร์ด้านนอก ไม่เชิงเปิดโล่งแต่มีหลังคากันแดดฝน แค่ไม่มีกำแพงล้อมรอบเหมือนโซนด้านในเท่านั้น
ร่างสูงเลือกโต๊ะวีไอพีติดริมกระจก เขาเป็นคนสั่งอาหารทั้งหมดเพราะคนตัวเล็กเอาแต่เหม่อ จึงสั่งเผื่อให้เสร็จสรรพ.. ระหว่างที่รออาหารไม่มีใครพูดอะไรเลยสักคำ เห็นอีกฝ่ายซึมเขาจึงไม่อยากกวนใจ จะปลอบหรือก็ปลอบใครไม่เป็น ได้แต่นั่งมองเป็นระยะเท่านั้น จนกระทั่งอาหารมาเสิร์ฟทั้งคู่ก็ลงมือทานพร้อมกัน..
"กินไม่หมดฉันให้เธอล้างจานแทนค่าอาหารนะ" เสียงทุ้มเอ่ยขู่เมื่อเห็นคนฝั่งตรงข้ามทำท่าจะวางช้อนส้อมทั้งที่เพิ่งกินไปได้ไม่กี่คำ ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังมีกะจิตกะใจส่งสายตาค้อนกลับมา ก่อนจะยอมจับช้อนกินต่อเท่าที่จะสามารถกินได้
"ตอนฉันอายุเท่าเธอ.. แม่ฉันก็เสียไปด้วยโรคมะเร็ง" ของขวัญเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงอย่างแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าเขาจะพูดเรื่องแม่ให้เธอฟัง
"ฉันเสียใจมาก.. แต่ก็นั่นแหละ.. ยังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อ" อีกฝ่ายพูดต่ออย่างไม่ใส่ใจ.. แต่คนฟังกลับรู้สึกได้ว่าเขากำลังปลอบใจเธออยู่ เพียงแต่ถ้อยคำมันอาจจะทื่อๆ ไปเสียหน่อย
คนตัวเล็กยิ้มบางก่อนพยักหน้ารับเบาๆ ไม่มีใครพูดอะไรอีก จนกระทั้งกินอิ่มก็พากันกลับ ทั้งคู่หยุดชะงักเมื่อเดินมาถึงหน้าห้อง.. ของขวัญอยากจะขอบคุณที่เขาพาไปที่บ้านเลยหันไปหา แต่ไม่ทันได้พูดฝ่ามือใหญ่ก็วางแหมะลงบนศีรษะและโยกไปมาเบาๆ
"ฝันดี" พูดจบใครคนนั้นก็เปิดประตูเข้าห้องไป ทิ้งให้เธอยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นชั่วขณะ..
สัมผัสอุ่นๆ บนศีรษะยังคงติดตรึงแม้จะผ่านไปหลายนาที เป็นการกระทำที่ไม่มีอะไรพิถีพิถันหรือพิเศษเลยด้วยซ้ำก็แค่ลูบหัว แต่ในความรู้สึกมันกลับอบอุ่นไปจนถึงข้างใน..
..
..
..
..
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 9ของขวัญเดินเข้าห้องมาด้วยหัวใจพองโตนิดๆ แต่นั่นก็ไม่ทำให้หายซึมได้ เธอเดินมานั่งที่โซฟาริมกำแพงกระจก วางรูปกับโกศกระดูกแม่ลงข้างตัวก่อนลุกขึ้นรูดม่านผืนใหญ่เปิดออก แล้วกลับมานั่งกอดรูปแม่เหม่อมองออกไปโดยไม่มีจุดโฟกัสของสายตา เธอคิดถึงทั้งแม่และพ่อ การเป็นลูกคนเดียวซ้ำไม่มีญาติทำให้เธอไม่เหลือใครอย่างสมบูรณ์ ที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ของเธอ.. ไม่รู้จะฝากชีวิตไว้ได้สักแค่ไหนแต่ก็ยังนับว่าโชคดีที่ได้เจอกับโทโมยะ.. ถึงจะไม่รู้ว่าเขาพาเธอมาที่นี่ทำไมและผู้คนที่นี่จะน่ากลัวขนาดไหน แต่เธอก็รู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขา เขาทำดีกับเธอทั้งที่ไม่มีความจำเป็น เธอไม่มีค่าหรือทำประโยชน์อะไรให้เขาได้เลยสักนิด แต่เขาก็ยังใจดีกับเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ จนถึงตอนนี้..อ่า.. สัมผัสอุ่นๆ เมื่อสักครู่นี้เริ่มจางหายไปแล้ว แต่ของขวัญกลับอยากได้รับมันอีกครั้ง.. อีกครั้งและอีกครั้ง! เธอรู้ว่าไม่สมควรที่จะไปหาอีกฝ่ายในเวลาดึกดื่นแบบนี้ แต่เธออยากมีเพื่อน.. ความรู้สึกมันเลยตีรวนอยู่ในอกสุดท้าย.. ก็ยับยั้งความต้องการที่เอาแต่ใจไว้ไม่ไหว ตัดสินใจลุกเดินออกไปดู
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 10ของขวัญเดินเอื่อยมานั่งลงบนโซฟาริมกระจกอย่างเลื่อนลอย ทว่าใบหน้าสวยกลับยุ่งเหยิง หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนมีอะไรให้ครุ่นคิดมากมาย หลังสิ้นคำตอบนั้นขององศาเธอกับเขาก็แยกย้ายกันไปพัก แต่เธอกลับไม่สามารถปล่อยวางสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้เมื่อไม่กี่นาทีก่อนได้ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก..แป้งเป็นผู้หญิงที่ทำงานอย่างว่า เท่าที่ได้รู้จักกันเผินๆ เธอเป็นคนนิสัยดี น่ารัก ยิ้มสวย จนไม่น่าเชื่อว่าจะมาทำอาชีพแบบนี้ ฝ่ายโทโมยะเองฟังจากที่พราวบอกว่าเขามักจะไปที่ผับทุกวันศุกร์เพื่อใช้บริการ.. ล่าสุดวันนี้เขาก็เรียกอีกฝ่ายมาถึงที่เพราะไม่มีเวลาไปด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นในเวลานี้หรือหลังจากนี้ ในห้องข้างๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งคู่กำลังทำอะไรกัน..แล้วทำไม.. เธอถึงกระสับกระส่าย ปวดจี๊ดในอกที่ได้รับรู้เรื่องนี้ด้วย? ทำไมถึงไม่อยากให้มันเกิดขึ้นทั้งที่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาที่เธอไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย.. เธอเป็นคู่นอนให้โทโมยะไม่ได้ ไม่สิ.. เขาไม่เลือกเธอมากกว่า ซึ่งก็ถูกแล้วที่เขาจะไปทำกับคนอื่นแทน ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ..?ร่างบางรู้สึกสับสนกับความรู้ส
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 11มีสิ่งหนึ่งที่แปลกไป.. แปลกไปอย่างมาก! นั่นก็คือการกระทำของโทโมยะตั้งแต่วันที่มานอนค้างห้องของของขวัญแบบมึนๆ ในวันนั้น เขาก็มักจะมาอีกในคืนถัดไปจนล่าสุดเลยเถิดไปไกล ถึงขั้นเริ่มเรียกให้เธอเป็นฝ่ายไปนอนด้วย.. แต่ช้าก่อน! อย่าเพิ่งคิดไปไกล แค่นอนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร อย่างมากก็แค่กอด.. กอดเหมือนหมอนข้างอย่างที่เขาพูดกรอกหูเธอทุกวันของขวัญเคยถามนะว่าเขาทำแบบนี้ทำไม เหตุผลที่ได้ก็คือเขานอนไม่ค่อยหลับถ้าไม่ได้กอดก่ายอะไรก่อนนอน แน่นอนว่าเธอถามต่อว่าทำไมไม่ซื้อหมอนข้างมากอด และเขาก็ให้เหตุผลแบบมึนๆ มาว่าเพิ่งจะค้นพบว่าการกอดคนตัวอุ่นๆ ด้วยกันมันหลับลึกกว่า (?) เพราะงั้นอีกหนึ่งหน้าที่ของเธอที่เพิ่มเข้ามาก็คือทำตัวเป็นหมอนข้างให้เขากอดนอนเหตุผลแปลกดี.. แต่ไม่ดีกับหัวใจเธออย่างแรง! เพราะหลังจากวันนั้นที่โทโมยะพาใครมานอนด้วยของขวัญก็เริ่มจะรู้ใจตัวเองแล้วว่าคิดเกินเลยกับเขา! ถึงแม้อาการขุ่นเคืองในตอนเห็นเขาอยู่กับคนอื่นจะถูกท่าทางแปลกๆ ของเขาลบเลือนไปโดยไม่รู้ตัว แต่ความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจที่เธอได้ค้นพบจากเหตุการณ์วันนั้นมันยังคงอยู่ ซึ่งเธอตั้งใจไว
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 12"ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยวาง ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น.." ร่างสูงเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง มือใหญ่วางทับลงบนหลังมือเหี่ยวย่นพร้อมกับบีบเบาๆ จริงอยู่ว่าเขากับพ่อไม่ลงรอยกันนักแต่ถึงอีกฝ่ายจะเลวร้ายแค่ไหนสายเลือดเดียวกันมันก็คงจะตัดกันไม่ขาด ตอนนี้ผลจากการกระทำมันก็ตามสนองเขาแล้วเรื่องที่ผ่านมาก็ควรจะให้มันจบๆ กันไป"พะ พ่อ.. ขอโทษนะ.. ทุก.. อย่าง.." ต่างฝ่ายต่างเงียบไปชั่วอึดใจ มาถึงตอนนี้ร่างบนเตียงก็ไม่อาจทนเฉยกับการกระทำอ่อนโยนของลูกชายได้ เขาพยายามเอ่ยคำขอโทษออกมาอย่างยากลำบาก น้ำเสียงเข้มขรึมกับพละกำลังที่เคยมีหดหายลงไปเรื่อยๆ ตามลำดับอาการ คนเราถึงคราวใกล้ตายนั่นแหละถึงจะสำนึกได้ว่าทำผิดต่อคนอื่นไว้มากแค่ไหน"ครับ.. ผมอโหสิกรรมให้ทุกอย่าง" ร่างสูงยกยิ้มบางให้บิดา พลอยทำให้อีกฝ่ายรู้สึกปล่อยวางขึ้นมาได้บ้าง เรื่องอื่นคนเป็นพ่ออย่างเขาคงไม่ห่วงแล้ว ทั้งเรื่องแก๊งและธุรกิจเขาเชื่อว่าลูกชายจะดูแลได้ดียิ่งกว่า ห่วงก็แต่ 'ทาคิยะ' ลูกชายคนเล็กกับ 'คาวามูระ' น้องชายต่างมารดาของเขานั่นแหละ"ดูแล.. น้องด้วยนะ.. ระวัง.. เจ้าคาวามูระไว้ให้ดี.. เจ้
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 13"น้องขวัญ! แป้งจะล้นชามแล้วครับ! " เสียงตะเบ็งของคนสนิททำร่างบางที่กำลังเทแป้งเค้กลงในภาชนะถึงกับสะดุ้งโหยงหลุดออกจากภวังค์ ทำหน้าเหรอหราก่อนจะรีบตักแป้งส่วนเกินที่เทล้นออกมากลับใส่ถุงตามเดิม แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะขำเบาๆ จากเชฟ ผิดกับองศาที่ขำไม่ลงเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ของขวัญสติหลุดลอยไปไกล แต่นานวันยิ่งหนักขึ้นๆ เลยต่างหากสาเหตุไม่แน่ชัดแต่ก็คงไม่ยากเกินความคาดเดา.. ร่างบางเริ่มเหม่อ หน้าตาหม่นหมอง บางทีก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนนึกคิดอะไรอยู่คนเดียวบ่อยๆ นับตั้งแต่เจ้านายเขาไม่อยู่ ตอนแรกก็คิดว่าไปไม่กี่วันคงจะกลับแต่พอดีเกิดเรื่องใหญ่เข้าก็เลยต้องอยู่ยาว ซึ่งนี่ก็กินเวลาไปอาทิตย์กว่าแล้ว"ถ้าเหนื่อยเรากลับไปพักดีมั้ยครับ ขนมพวกนี้พี่กับเชฟกินจนน้ำหนักขึ้นแล้วนะ ไม่ต้องทำทุกวันก็ได้" องศาเอ่ยชวนพร้อมกับแอบบ่นหน่อยๆ เรื่องขนมหวานที่ร่างบางพยายามหัดทำ เพราะไม่ใช่วันเว้นวันเหมือนก่อน วันที่ต้องทำความสะอาดห้องพอทำเสร็จเธอก็จะมาขลุกตัวอยู่ในครัวเพื่อให้เชฟสอนทำนู่นทำนี่ตามใจอยาก แทนที่จะเอาเวลาไปพักผ่อน เขาพยายามชวนไปเ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 14"ระหว่างฉันไม่อยู่ทำอะไรบ้าง ได้ไปเที่ยวหรือเปล่า? " โทโมยะเป็นฝ่ายชวนคุยหลังจบเรื่องที่ห้อยโทรศัพท์และต่างฝ่ายต่างนั่งกินหมูกระทะเงียบๆ มาได้สักพักตลอดเวลาที่อยู่ญี่ปุ่นเขาไม่ได้ติดต่อทางนี้เลย แต่ก็ใช่ว่าคนทางนี้จะไม่รู้ข่าวเรื่องพ่อ สมาชิกทุกคนในแก๊งมีสิทธิ์ที่จะรู้และร่วมไว้อาลัย ซึ่งเขาได้ยกให้เป็นหน้าที่ของคนสนิทคอยกระจายข่าว มีเพียงคนเดียวที่ไม่รู้ก็คือของขวัญ คาดว่าองศาคงเก็บเงียบและรอให้เขาเป็นคนตัดสินใจเองจะว่าบอกเธอหรือไม่ เพราะจะบอกหรือไม่บอกร่างบางก็ไม่มีส่วนได้เสียอะไร"ขวัญทำงานและก็ไปวัดทำบุญให้พ่อกับแม่นิดหน่อยค่ะ" ของขวัญตอบไปตามความจริง แม้องศาจะคะยั้นคะยอให้เธอออกไปเที่ยวแทนที่จะหมกตัวอยู่แต่ในครัวหรือห้องนอน แต่เธอก็ไม่ได้ไปเพราะการไปเที่ยวโดยที่ไม่ได้อยากไปนั้นคิดว่าคงเสียเวลาและเงินทองโดยเปล่าประโยชน์"แค่นั้น? " คนฟังเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เพราะเขาสั่งองศาไว้แล้วว่าอนุญาตให้พากันเที่ยวหรือไปไหนก็ได้ตามใจ"ค่ะ" ร่างบางพยักหน้ารับสั้นๆ เพราะดวงตากำลังจ้องมองหมูสไลด์ชิ้นโตบนกระทะที่กำลังสุกได้ที่ เสี้ยววินาทีก็ได้มันมาอยู่ใน
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 15วันนี้โทโมยะก็ยุ่งอีกเช่นเคย.. เขาออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าจนบ่ายคล้อยก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับ ของขวัญเลยค่อนข้างจะเหงาหน่อยๆ เพราะอยากอยู่ด้วยกันนานๆ ไม่ใช่แค่ตอนนอน แต่ก็อย่างว่า.. คนมีงานทำกับคนว่างงานมันจะไปมีเวลาเหลือเฟือมาเจอกันได้ยังไงล่ะ หรือเธอต้องทำตัวให้ยุ่งกว่านี้ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน..เวลากว่าหกโมงเย็นในที่สุดคนตัวใหญ่ก็กลับมา ของขวัญยังไม่ได้เจอหน้าแต่ที่รู้ก็เพราะองศาบอกว่านายเขาให้มาเรียกไปทานข้าวเย็นร่วมกันบนดาดฟ้า คำบอกนั้นทำคนฟังรู้สึกแปลกใจระคนตื่นเต้น เพราะตั้งแต่อยู่ที่นี่มาไม่เคยได้ขึ้นไปบนดาดฟ้าเลย และก็ไม่รู้ด้วยว่าข้างบนนั้นเป็นยังไง แต่คิดว่ายามเย็นๆ แบบนี้มันจะต้องอากาศดีมากแน่ๆร่างบางถูกคนสนิทนำทางขึ้นมายังดาดฟ้าของตึกทางบันได สิ่งที่เห็นมันเลยจากสิ่งที่คิดไว้ไปมากโข เธอคิดว่าบนนี้น่าจะเป็นพื้นที่โล่งๆ หรือมีต้นไม้ดอกไม้บ้างประปราย แล้วก็มีโต๊ะเก้าอี้ไว้นั่งทานข้าวกัน แต่จริงๆ แล้วมันมีมากกว่านั้น.. สระว่ายน้ำกับโดมกันแดดขนาดใหญ่กินพื้นที่บนนี้ไปมากกว่าครึ่ง ส่วนอีกโซนที่เหลือเป็นสวนเล็กๆ มีโซฟาเบดทั้งแบบนั่งและแบบปรั
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 16ร่างบางถูกวางลงบนเตียงในท่านั่งมือยันที่นอน และก่อนที่ร่างสูงจะผละออกมือเล็กก็รั้งแขนเขาเอาไว้ ใบหน้าคมหันมามองสบตาอย่างสงสัย เท้ามือข้างหนึ่งลงไปบนเตียงเพื่อยั้งน้ำหนักไว้ไม่ให้คร่อมทับอีกคน เขาได้สติหลังจากจูบที่สองจบลงและพยายามครองสติบังคับตัวเองไม่ให้ทำอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้ เพราะงั้นเมื่อพามานอนแล้วก็ตั้งใจจะผละออกไป"ไม่หยุด.. ได้มั้ยคะ.." น้ำเสียงอ่อนหวานร้องขออย่างขัดเขิน ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองคนฟังอย่างออดอ้อนระคนเชิญชวน ทำคนตัวใหญ่ถึงกับหายใจสะดุด.."รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา" น้ำเสียงกดต่ำเอ่ยเรียบออกมา ใบหน้าไม่ยินดียินร้าย ยิ่งคนถูกถามพยักหน้าตอบโทโมยะก็ยิ่งนิ่งงัน เขาไม่พูดอะไรอีก เพียงจ้องหน้าของขวัญตาดุ ใครสั่งใครสอนให้เชิญชวนผู้ชายขึ้นเตียงแบบนี้กัน!"พรุ่งนี้วันศุกร์.. ถ้าคุณอยากทำเรื่องแบบนั้น.. ขวัญ.. พร้อมแล้วนะคะ.." เสียงหวานเอ่ยต่อเมื่อไม่เห็นร่างสูงโต้ตอบอะไร พูดไปไม่ใช่ว่าไม่อายนะ เพียงแต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีความกล้ามากกว่าปกติ ประจวบกับนึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้วันศุกร์ ถ้าเขาจะออกไปที่ผับหรือเรียกใครมาใช้บริการ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ) เป็นเวลากว่าสามเดือนที่โทโมยะและของขวัญใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น ด้วยเจตนารมณ์ของเขาที่หมายมั่นจะสละตำแหน่งหัวหน้าแก๊งคาชิมะให้ผู้เป็นน้องชาย เมื่อเรื่องร้ายๆ ผ่านพ้นไปเวลาที่เหลือเขาจึงเริ่มเดินหน้าสอนงานน้องอย่างเต็มกำลังและขีดเส้นตายไว้ว่าภายในสองปีทาคิยะจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับให้ได้ นั่นทำให้อีกฝ่ายแอบมาโอดครวญให้ร่างบางฟังบ่อยๆ ว่าผู้เป็นพี่เคี่ยวเข็ญอย่างกับจะพาไปแข่งโอลิมปิก ได้ยินแล้วก็ขำแต่คงจะช่วยอะไรไม่ได้นอกจากคอยรับฟังหลังช่วงทดลองงานสามเดือนของทาคิยะผ่านพ้นไปทั้งคู่ก็บินกลับประเทศไทย ปล่อยให้ว่าที่ผู้นำคนต่อไปหยัดยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง แต่ไม่เชิงว่าโดดเดี่ยวเพราะเขามีทั้งคนสนิทและผู้ช่วยมือดีหลายคน ด้วยเหตุนี้งานของคาชิมะที่โทโมยะทำอยู่เลยพลอยลดน้อยลงไปด้วย แม้ไม่ถึงกับหมดแต่เขาก็มีเวลาเหลือพาของขวัญไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาตามที่เคยสัญญากันไว้ในตอนก่อนไปญี่ปุ่น เขาพาเธอไปไหว้พ่อแม่เขาเธอเองก็พาเขาไปไหว้พ่อแม่เธอเหมือนกันเรียกได้ว่าชีวิตในช่วงนี้ดี๊ดีและมีความสุขแบบสุดๆ แม้จะยังไม่มีเหตุการณ์ประมาณว่าขอเป็นแฟนหรือบอ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 26โชคดีที่ของขวัญไม่ได้ถูกร่างสูงกินแทนข้าวเย็นเพราะแค่รอบเดียวในบ่อน้ำพุช่วงล่างก็เจ็บเสียดจนกลายเป็นคนเดินช้าและเดินนุ่มนวลไปแบบเขินๆ อย่างในตอนนี้ที่กำลังเดินตามอีกฝ่ายไปยังห้องอาหารก็มีหลายครั้งที่เขาต้องชะลอฝีเท้าเพื่อให้เธอตามทัน แน่นอนว่าเขารู้ถึงสาเหตุวัดได้จากสายตาวาววับที่มองมาเดิมทีของขวัญคิดว่าเพื่อนร่วมโต๊ะทานมื้อค่ำจะมีแค่ทาคิยะคนเดียว รวมเธอกับร่างสูงก็เป็นสามคน แต่พอประตูไม้เนื้อดีถูกเลื่อนออกถึงได้รู้ว่าบรรยากาศมันผิดจากที่คิดไว้มาก ภายในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่นี้มีจำนวนบุคคลด้านในไม่ต่ำว่าสิบคน!ทุกคนล้วนอยู่ในชุดสบายๆ อย่างยูกาตะและล้วนเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างจะมีอายุ.. เสียงพูดคุยกันอย่างออกรสชาติในตอนก่อนหน้าเงียบกริบลงไปในทันทีที่โทโมยะพาเธอเข้ามา ทุกสายตาไม่ได้ผ่านการนัดหมายแต่พวกเขาพากันมองผู้มาใหม่ทั้งสองสลับกันอย่างพร้อมเพรียง"อ้าวพี่ มาๆ มานั่งนี่เลยครับ" ทาคิยะเป็นคนดึงความสนใจของทุกคน เขารีบลุกจากเบาะรองนั่งนุ่มๆ บนพื้นมานำทางให้ทั้งคู่ไปนั่งลงบนหัวโต๊ะที่ได้จัดเตรียมที่ทางไว้ให้ตั้งแต่แรก สายตาทุกคู่ยังคงจับจ้อง
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 25"อะ อื้ม~" ท้ายทอยเล็กถูกมือใหญ่รั้งเข้าหา ประกบจูบลงไปบนริมฝีปากแดงเรื่อ ดูดซับความนุ่มนิ่มที่ด้านนอกเบาๆ ก่อนสอดแทรกเรียวลิ้นคว้านลึกเข้าไปข้างใน ร่างบางเปิดปากให้อย่างรู้หน้าที่ แม้จะยังไม่ประสาแต่ก็สมยอมตอบรับสัมผัสของร่างสูงด้วยความเต็มใจทุกครั้งเผลอไผลไปกับรสจูบครู่เดียวร่างเพรียวบางก็ถูกยกตัวลอยเปลี่ยนท่ามานั่งคร่อมตักในสภาพล่อแหลมยิ่งกว่าเดิม มือใหญ่วางลงบนสะโพกอวบ บีบเคล้นเบาๆ ก่อนลูบไล้ขึ้นมาตามเอวคอดกิ่วจนถึงแผ่นหลังเนียนนุ่ม ชั่วอึดใจก็กอดรั้งคนบนตักเข้ามาแนบชิด บดเบียดร่างกายเข้าหากันจนไม่เหลือพื้นที่ว่าง ทรวงอกอวบขาวเบียดชิดแผงอกล่ำ หน้าท้องแบนราบแนบแน่นไปกับลอนซิกแพค ช่วงล่างแข็งขืนเสียดสีอยู่กับช่องทางอ่อนนุ่มที่ยังคงปิดสนิท วงแขนแกร่งที่โอบกอดเอวบางขยับโยกตัวเธอขึ้นลงเป็นจังหวะเนิบนาบ.. จงใจให้อะไรๆ มันบดเบียดพอให้หวาดเสียวท้องน้อยเล่นๆ"อะ อ๊ะ อื้อ.." หลังถูกครอบครองไปหลายต่อหลายครั้งในที่สุดริมฝีปากบางที่เริ่มบวมเจ่อก็ถูกปล่อยเป็นอิสระ ของขวัญรีบกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดอย่างหิวกระหาย สองมือจิกเกร็งอยู่บนไหล่กว้างเมื่อเขาเปลี่ย
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 24หลังจากปลดคาวามูระและพรรคพวกออกจากตำแหน่งโทโมยะก็ค่อนข้างจะวุ่นๆ นิดหน่อยเพราะต้องเรียกตรวจสอบ ประเมินความเสียหายและทำการปรับเปลี่ยนหัวหน้าเขตคนใหม่เข้ามาดูแลแทน รวมทั้งทำการรื้อระบบเก่าที่อีกฝ่ายเคยจัดการดูแลทิ้งแล้ววางระบบใหม่เข้าไปแทนที่ รวมๆ แล้วหลายปีที่ผ่านมาคาชิมะถูกมันโกงกินไปไม่น้อย ยังไม่รวมเรื่องที่แอบค้ายาและค้ามนุษย์พื้นที่ที่เป็นกฎต้องห้ามของแก๊งอีกตอนแรกก็สงสัยว่าคนๆ เดียวที่ภรรยาจากไปนานแล้วมีภาระแค่ส่งเสียลูกสาวเรียนเมืองนอกแค่คนเดียวมันจะจำเป็นต้องใช้เงินมากอะไรขนาดนั้น แต่พอขุดไปขุดมาถึงได้รู้ว่ามันติดการพนัน ติดเหล้าติดยาและติดผู้หญิงอย่างหนัก เงินที่ได้ไปก็เอาไปลงกับอบายมุขพวกนั้นทั้งหมด ลูกแทบจะไม่เหลียวแล!แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย หลังจากที่ถูกพาตัวไปขังไว้ในคุกมืด.. สถานที่ที่มีไว้เพื่อกักขังคนทรยศ สองวันให้หลังร่างสูงก็ได้รับรายงานว่าผู้เป็นอาได้หลบหนีความผิดด้วยการใช้เข็มขัดผูกคอตัวเองกับลูกกรงสิ้นใจก่อนที่จะโดนเจ้าทาคิยะสำเร็จโทษไปก่อนแล้ว สภาพศพไม่น่าดูเท่าไรเพราะก่อนหน้านั้นคนของเขาที่สั่งให้คอยเฝ้าหน้าค
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 23"ฮ่าๆ ๆ เงินตั้งห้าสิบล้าน พี่แกยังกล้าโอนมาให้ฉัน ง่ายๆ แลกกับชีวิตไร้ค่าของแก ไม่น่าเชื่อ.. ฉันอุตส่าห์เป่าหูพวกแกให้เกลียดกันเพื่อหวังจะให้พวกแกหันมาฆ่ากันเอง แต่แม่งคงจะไม่มีวันนั้น.. เพราะแกมันโง่ทาคิยะ! แกมันขี้ขลาด! เหอะ คนแบบนี้น่ะหรออยากจะขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊ง ถุ้ย! ฝันกลางวันอยู่หรือไงไอ้เด็กเหลือขอ! " เสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นมาด้วยความสะใจเมื่อลูกน้องเข้ามารายงานว่าได้รับเงินเรียกค่าไถ่จากหลานชายคนโตเรียบร้อย ก่อนที่น้ำเสียงหยามเหยียดจะพ่นคำดูถูกใส่หลานชายคนเล็กพร้อมกับยืนจ้องมองด้วยสายตาเกลียดชัง"สารเลว.. พวกผมเป็นหลานของอานะ! " คนที่ถูกจับมัดนั่งบนเก้าอี้ในสภาพสะบักสะบอมเลือดโชกขบกรามแน่นด้วยความโกรธจัด ถามหาความเมตตาลมๆ แล้งๆ จากคนที่มีสายเลือดร่วมกันครึ่งหนึ่งด้วยความเจ็บใจ กว่าจะรู้สึกตัวว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือชำระความแค้นก็เสียรู้จนหมดสภาพ"หลานหรอ ฮ่าๆ ๆ ฉันนับญาติกับพวกแกที่ไหนกันเล่า ฉันเกลียดไอ้คาสึยะพ่อของแก เกลียดแก เกลียดพี่ชายของแก! พวกแกมันมารชีวิต! ถ้าไม่มีพวกแกทุกสิ่งทุกอย่างก็จะต้องเป็นของฉัน!! " คาวามูระระเบิดอารมณ์
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 22"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าไม่ดีเลย" องศาถามขึ้นในตอนที่เดินทางกลับ เพราะคนตัวเล็กนั่งเงียบมาตลอดทางตั้งแต่ออกจากร้านอาหารตามสั่งของพราวแล้ว สีหน้าก็ดูจะไม่สู้ดีนัก"เปล่าค่ะ ก่อนกลับพี่องศาพาขวัญแวะทำบุญหน่อยนะคะ" ของขวัญบอกปัดอย่างที่คิด แต่คนฟังก็ไม่ได้เซ้าซี้จะรู้ให้ได้ ทำเพียงพยักหน้ารับและแวะเข้าวัดตามคำสั่งเมื่อได้ทำบุญจิตใจที่ว้าวุ่นของร่างบางก็พอจะสงบลงมาได้บ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังแอบคิดอยู่.. ก็เรื่องของแป้งนั่นแหละ ไม่เชิงว่ารู้สึกผิดไปเสียทีเดียว แต่เป็นความสงสารและเห็นใจมากกว่า ในฐานะคนที่เคยแอบรักเขามาเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้กรณีของเธอก็ยังไม่เรียกว่าสมหวังนะ แค่ก้าวหน้ามากขึ้นเท่านั้น.."นี่.." น้ำเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยเรียกสติคนเหม่อให้หันมามอง แล้วก็ต้องแปลกใจว่าอีกฝ่ายกลับมาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตัว.."..มาตั้งแต่เมื่อไรคะเนี่ย" เมื่อพิจารณาดีๆ แล้วของขวัญก็ต้องตกใจซ้ำอีก เพราะร่างสูงนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน เธอควรจะรู้สึกตัวบ้างเวลาพื้นโซฟามันยุบตามน้ำหนักเขา นี่ต้องเหม่อขนาดไหนถึงได้ไม่รู้สึกอะไรเลย.."ก็นานพอที่จะ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 21"ตกลงอยากกินอะไร" ร่างสูงถามย้ำอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบตอนถามไปครั้งแรก คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองด้วยรอยยิ้มแห้งๆ เมื่อรู้ตัวว่าละเลยคำถามของเขา ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ อย่างพิจารณา"อืม.. ขอเดินดูก่อนได้มั้ยคะ"แต่สุดท้ายก็ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ เพราะตลาดนัดกลางคืนแห่งนี้มีร้านอาหารเยอะมาก จนไม่สามารถเลือกได้ง่ายๆ มีทั้งร้านแบบที่เป็นร้านจริงๆ และเป็นโต๊ะเก้าอี้ตั้งข้างทางเดิน อาหารมากหน้าหลายตาที่คุ้นเคยถูกวางขายเรียงรายจนเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไรดี.. จริงๆ เธอไม่อยากเข้าร้านหรูๆ ดูดีสักเท่าไร เพราะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ตอนที่เคยไปเดินตลาดกับแม่เลยอยากนั่งร้านข้างทางมากกว่าทั้งคู่พากันออกเดินด้วยความตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะของขวัญ เธอพาคนตัวสูงแวะร้านนู้นร้านนี้ที่มีทั้งของกินและของใช้ที่น่าสนใจวางขาย ซึ่งจนแล้วจนรอดก็ไม่ได้กินข้าวกันสักทีเพราะเดินกินแต่ของว่าง ไส้กรอกบ้าง ขนมบ้าง น้ำหวานบ้างกะจุกกะจิกไปตลอดทาง แต่คนที่มาด้วยก็ไม่ได้ขัด ออกจะยิ้มบางเสียด้วยซ้ำเวลาที่เห็นแววตาเปล่งประกายและรอยยิ้มกว้างจนตาหยีของคนตัวเล็ก เขาคิดถูกที่พาเธอมาที่นี่ตามคำ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 20"คะ คุณโทโมยะ.. อย่าค่ะ.." ของขวัญร้องห้ามปากคอสั่น เสียงขาดห้วงลมหายใจติดขัดเมื่อคนที่อุทิศตนเป็นเบาะรองนั่งให้ไม่ยอมอยู่เฉย.. เอาคางเกยบนศีรษะหรือจูบหอมมันเธอก็พอจะยอมได้ แต่ตอนนี้ริมฝีปากกับลมหายใจร้อนผ่าวของเขาเริ่มเลื้อยลงต่ำมาที่ท้ายทอยและซุกไซ้ลำคอของเธออย่างซุกซน"อะ อื้อ.. คุณ.." คำร้องห้ามมีผลลัพธ์ไปในทางที่เลวร้ายกว่าเดิมเมื่อไม่ใช่แค่จมูก ริมฝีปากหรือลมหายใจร้อนที่รุกรานร่างกายเธออีกต่อไป มือใหญ่ที่วางประสานกันอยู่ตรงหน้าท้องแบนราบเริ่มเลื้อยขึ้นมาจนถึงหน้าอก ความนุ่มนิ่มของก้อนเนื้อตรงนั้นดึงดูดให้เขาออกแรงบีบขย้ำมันอย่างเต็มไม้เต็มมือและ.. เต็มใจ! แม้จะมีเนื้อผ้าขวางกั้นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีน้อยลง มือบางวางทับลงบนหลังมือใหญ่หมายจะดึงออกไปทว่าเรี่ยวแรงไม่รู้หายไปไหน ยิ่งอีกฝ่ายบีบแรงเท่าไรพละกำลังของเธอก็ยิ่งหดหายลงไปเรื่อยๆ เขาเป็นตัวสูบพลังหรือไงเนี่ย.."อ๊ะ คุ๊ณ~" เสียงหวานเหินสูงด้วยความตกใจเมื่อยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ มืออีกข้างของเขาเลื่อนต่ำลงไป ลากผ่านท้องน้อยและมุดเข้าใต้ชายชุดคลุมอาบน้ำที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อเช้า ของขวัญดิ้น
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 19โทโมยะตื่นก่อนในเช้าวันถัดมา.. คนข้างกายยังคงหลับสนิท ใบหน้าซีดขาวกว่าปกตินั้นทำให้เขาต้องวางมือลงบนหน้าผากเนียนเพื่อวัดไข้ เมื่อพบว่าปกติดีก็ก้าวลงจากเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างคนหลับก่อนเดินมาเก็บเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ข้างเตียงไปใส่ในตะกร้าให้เรียบร้อยแล้วทำการอาบน้ำแต่งตัว ภายนอกที่ดูเฉยชาเป็นปกติแต่ใครจะรู้ว่าในหัวเขามีแต่เรื่องเมื่อคืนวนเวียนอยู่ตลอด.. ไม่รู้ว่ามันเร็วหรือช้าไปสำหรับความสัมพันธ์เรียบเรื่อยของเขากับร่างบาง แต่เขาก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้ ชอบความรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ ที่หัวใจทุกทีที่คิดถึง..ร่างสูงยังคงมีงานล้นมืออีกเช่นเคย แต่วันนี้เขายกเลิกงานหรือนัดที่ต้องเดินทางออกไป เหลือไว้เพียงงานเอกสารแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น นั่นเพราะตั้งใจจะหยุดดูอาการของ 'เมียเด็ก' เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเขามาดูดำดูดีจะเป็นเรื่อง..ของขวัญตื่นขึ้นมาในช่วงสาย.. แน่นอนว่าร่างกายปวดร้าวไปทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะขยับมากหรือน้อยก็ระบมไปหมด ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ มองเพดานกว้างสักพัก ภาพและเสียงทุกฉากทุกตอนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ แจ่มชัดในความรู้สึ