มาเฟียจ้าวชีวิต
Writer : Aile'N
ตอนที่ 9
ของขวัญเดินเข้าห้องมาด้วยหัวใจพองโตนิดๆ แต่นั่นก็ไม่ทำให้หายซึมได้ เธอเดินมานั่งที่โซฟาริมกำแพงกระจก วางรูปกับโกศกระดูกแม่ลงข้างตัวก่อนลุกขึ้นรูดม่านผืนใหญ่เปิดออก แล้วกลับมานั่งกอดรูปแม่เหม่อมองออกไปโดยไม่มีจุดโฟกัสของสายตา เธอคิดถึงทั้งแม่และพ่อ การเป็นลูกคนเดียวซ้ำไม่มีญาติทำให้เธอไม่เหลือใครอย่างสมบูรณ์ ที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ของเธอ.. ไม่รู้จะฝากชีวิตไว้ได้สักแค่ไหน
แต่ก็ยังนับว่าโชคดีที่ได้เจอกับโทโมยะ.. ถึงจะไม่รู้ว่าเขาพาเธอมาที่นี่ทำไมและผู้คนที่นี่จะน่ากลัวขนาดไหน แต่เธอก็รู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขา เขาทำดีกับเธอทั้งที่ไม่มีความจำเป็น เธอไม่มีค่าหรือทำประโยชน์อะไรให้เขาได้เลยสักนิด แต่เขาก็ยังใจดีกับเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ จนถึงตอนนี้..
อ่า.. สัมผัสอุ่นๆ เมื่อสักครู่นี้เริ่มจางหายไปแล้ว แต่ของขวัญกลับอยากได้รับมันอีกครั้ง.. อีกครั้งและอีกครั้ง! เธอรู้ว่าไม่สมควรที่จะไปหาอีกฝ่ายในเวลาดึกดื่นแบบนี้ แต่เธออยากมีเพื่อน.. ความรู้สึกมันเลยตีรวนอยู่ในอก
สุดท้าย.. ก็ยับยั้งความต้องการที่เอาแต่ใจไว้ไม่ไหว ตัดสินใจลุกเดินออกไปดูหน้าประตูห้องข้างๆ ว่าไฟในห้องเขายังคงเปิดอยู่หรือเปล่า ตั้งใจว่าถ้าเปิดถึงจะรบกวนแต่ถ้าไม่ก็กลับมาอยู่คนเดียวเหมือนเดิม..
ใจคนลุ้นเต้นตึกตักเมื่อเห็นแสงไฟเล็ดลอดออกมาทางช่องใต้ประตู ทั้งที่นี่ก็ดึกมากแล้วคนข้างในกลับยังไม่หลับไม่นอน เขาทำอะไรอยู่กันนะ..?
ก๊อกๆ
มือบางยกขึ้นเคาะเบาๆ และเฝ้ารอให้เจ้าของห้องมาเปิดด้วยใจลุ้นระทึก นิสัยไม่ดีเลยจริงๆ ที่ริอาจมาเคาะห้องผู้ชายตอนดึกแบบนี้
"หืม? ทำไมยังไม่นอนอีก" เสียงทุ้มเอ่ยถามแขกยามวิกาลอย่างแปลกใจ ไม่ได้แปลกใจเรื่องที่อีกฝ่ายทำไมยังไม่นอนเพราะก็เห็นอยู่ว่าตาบวมๆ เหมือนเพิ่งร้องไห้มา แต่ที่แปลกใจก็คือมาเคาะเรียกทำไมต่างหาก
"เอ่อ.. คุณ.. ทำอะไรอยู่หรอคะ" ร่างบางอึกอักเพราะยังมีความเกรงใจอยู่มากที่มารบกวนเขายามดึก.. นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เธอเห็นโทโมยะอยู่ในชุดธรรมดาก็คือเสื้อยืดกับกางเกงนอนขายาว เปิดเผยให้เห็นรอยสักตามท่อนแขนและลำคอมากขึ้น เรือนผมสีดำสนิทดูยุ่งๆ เหมือนไม่ได้จัดการอะไรกับมันถูกปล่อยลงปรกใบหน้าคมคายนั้นอย่างไร้ทิศทาง อืม.. ลุคนี้มันกร๊าวใจไม่น้อยเลยทีเดียว
"อ่านหนังสือ.. มีอะไรหรือเปล่า" เสียงตอบของอีกฝ่ายทำคนฟังหลุดออกจากภวังค์ รีบถอนสายตาจากเขาลงมามองมือตัวเองที่กำลังบีบกันแน่น
"ขวัญ.. ไม่อยากอยู่คนเดียว.." เสียงหวานเอ่ยเบา ยืนก้มหน้าไม่อยากรับรู้สีหน้าคนฟังว่าเขาจะทำหน้ายังไงเมื่อได้ยินคำตอบจากเธอ
"หึ มาเคาะห้องผู้ชายดึกๆ แล้วบอกไม่อยากอยู่คนเดียวนี่รู้หรือเปล่าว่ามันหมายถึงอะไร" โทโมยะกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ ใบหน้าที่เคยเรียบนิ่งกับดวงตาเฉยชาหายวับไปในทันทีเมื่อสิ้นคำ พอเขามาโหมดนี้ของขวัญก็เริ่มรู้ตัวว่าถูกแกล้งเข้าให้แล้ว แต่นาทีนี้เธอไร้เรี่ยวแรงจะโวยวายหรือโต้ตอบอะไร ทำได้แค่มองค้อนให้อีกฝ่ายเล็กๆ เท่านั้น
"หึหึ เข้ามาสิ.." หยอกเย้าพอได้รอยยิ้มนิดหน่อยเจ้าของห้องก็เอ่ยชวนเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวที่ไม่ค่อยชอบให้ใครเข้ามายุ่มย่าม (ยกเว้นทำความสะอาดเพราะมันจำเป็น) แต่ก็ปฏิเสธใบหน้าหงอยๆ ของคนตัวเล็กไม่ได้ ไหนๆ ก็อุตส่าห์รวบรวมความกล้ามาหากันขนาดนี้..
ร่างบางเดินเข้ามาอย่างว่าง่าย แสงไฟสีส้มจากในห้องให้ความรู้สึกอบอุ่นได้ไม่น้อยแม้สไตล์การตกแต่งจะยังดูน่ากลัวสำหรับเธออยู่.. ดวงตากลมสวยมองไปยังรูปถ่ายขาวดำกรอบใหญ่เป็นอันดับแรก แล้วก็ไม่อาจละสายตาไปไหน.. ตอนนี้ได้คำตอบแล้วว่าทำไมตอนกลางวันเธอถึงชอบมองไปที่รูปนั้น เพราะแม่ของเขาทำให้เธอนึกถึงแม่นั่นเอง แค่เห็นรูปก็รู้ว่าจะต้องเป็นคนที่อบอุ่นและใจดีมากแน่ๆ
"อะไรล่ะนั่น.. มายืนดูรูปแม่คนอื่นแล้วร้องไห้เนี่ยนะ? " เจ้าของห้องทักขึ้นหลังจากยืนเงียบอยู่นาน คนถูกทักคงจะไม่รู้ตัวว่าน้ำตาไหลเลยมีท่าทีตกใจและรีบปาดออกจากแก้ม ก่อนจะก้มหน้าปรับอารมณ์เล็กน้อยแล้วหันมาหา ร่างสูงเดินนำไปนั่งที่โซฟาเพื่อให้เธอตามไป
"...ขวัญคิดถึงแม่" ของขวัญนั่งเงียบไปสักพักก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา เพราะเขาคงสงสัยว่าเธอมาหาทำไมกลางดึก
"ฉันรู้.." เสียงต่ำตอบรับ ก่อนถอนหายใจยาว แล้วต่างคนก็ต่างเงียบไปโดยปราศจากความอึดอัดหรือลำบากใจใดๆ ร่างบางในเวลานี้นั่งก้มหน้าห่อตัวบีบมือตัวเองแน่น ไหล่เล็กสั่นไหวน้อยๆ โงนเงนเปราะบางราวกับมีอะไรมากระทบเพียงนิดก็จะแตกสลาย..
"มานี่สิ.." ร่างสูงทำลายความเงียบพร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้า คนฟังเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัยระคนแปลกใจ ฝ่ามือใหญ่ที่ยื่นมานั้นให้ความรู้สึกแข็งแรงมั่นคงจนต้องเผลอมองนิ่ง
"...ฉันจะปลอบเธอเอง" เหตุผลของการกระทำทั้งหมดที่โทโมยะเอ่ยต่อมานั้นทำคนเปราะบางขอบตาร้อนผ่าวได้อย่างง่ายดาย.. ตากลมช้อนขึ้นมองสบตาคมอย่างลังเล ทั้งที่จริงแล้วลึกๆ ในใจเธอกำลังโหยหาใครสักคน
สุดท้าย.. ของขวัญก็ไม่อาจปฏิเสธความต้องการลึกๆ ในจิตใจ เอื้อมมือสั่นๆ ไปวางลงบนมือใหญ่อย่างแผ่วเบา ก่อนจะถูกเขาจับแน่นแล้วดึงไปนั่งบนตัก สวมกอดไว้ด้วยวงแขนกำยำ มือหนากดศีรษะเล็กลงซบตรงอกและลูบไล้ไปมาอย่างนุ่มนวล
ความอบอุ่นและกลิ่นกายหอมอ่อนจากคนตัวใหญ่บรรเทาความเหน็บหนาวในใจของเธอได้อย่างน่าประหลาด ทั้งที่เขาคือบุคคลอันตรายและเป็นเพศตรงข้ามที่เธอควรจะเว้นระยะห่างให้มากที่สุด.. แต่ความจริงแล้วของขวัญก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุเพิ่งจะแตะเลขสอง ชีวิตที่ผ่านมาก็อยู่กับแม่แค่สองคน ยามที่อ่อนแอมากๆ เธอก็แค่อยากมีคนปลอบหรืออยู่ข้างกันเหมือนตอนที่ยังมีแม่อยู่ ยิ่งรู้ว่าไม่เหลือใครเธอก็ยิ่งรู้สึกโหยหา.. และต้องการ..
ร่างบางปล่อยโฮออกมาอย่างไม่คิดจะอดกลั้น แม้จะร้องออกมาเยอะแค่ไหนน้ำตาก็ไม่มีทีท่าว่าจะเลือนหายหรือหมดไป ความจริงที่ว่าเธอไม่เหลือใครแล้วมันยากที่จะยอมรับจริงๆ
โทโมยะยังคงทำหน้าที่คนปลอบเท่าที่พอจะทำได้ เขาไม่พูดอะไรเลยสักคำ ทำเพียงกอดอีกคนไว้พร้อมกับลูบศีรษะเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลาเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใด แต่ลึกๆ ข้างในไม่มีใครสามารถล่วงรู้..
เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่มีใครสนใจ คนร้องนั้นหมดเรี่ยวแรงและน้ำตาหยุดไหลไปแล้ว เพียงแต่ยังไม่อยากผละออกจากความอบอุ่นที่โอบหุ้มอยู่รอบกายเลยยังคงนั่งเงียบอยู่แบบนั้น จนกระทั่งเผลอหลับไป..
โทโมยะช้อนร่างคนหลับขึ้นอย่างเบามือก่อนนำไปวางลงบนเตียงนอนแล้วห่มผ้าให้ เขาหยุดนั่งจ้องใบหน้าเปียกปอนนั้นเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาออกให้ ไม่นานก็ผละออกไปเปลี่ยนเสื้อเพราะตัวที่ใส่อยู่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของเธอ..
พอเปลี่ยนเสื้อเสร็จก็กลับมานั่งอ่านหนังสือต่อ ความจริงเขาก็ไม่ได้ว่างขนาดนี้นะ มีงานอีกเยอะแยะรออยู่ แต่นี่เป็นเวลาพักผ่อนและการอ่านหนังสือก็คือการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับเขารองมาจากการนอน..
ร่วมสองชั่วโมงที่นั่งอยู่ตรงนั้น จนดึกพอสมควรร่างสูงก็เลิกอ่าน เดินไปปิดไฟจนเหลือเพียงแสงจากโคมไฟหัวเตียงที่ค่อยข้างสว่างมองเห็นบริเวณรอบเตียงชัด เขาหยุดยืนมองคนหลับเล็กน้อยเพราะไม่รู้คืนนี้จะนอนหลับไหม เนื่องจากเคยชินกับการนอนคนเดียวมาโดยตลอด น่าแปลกเหมือนกันที่เขากล้าให้อีกฝ่ายรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวถึงขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้หวงอะไรมากมายหรอกนะ แค่ไม่คุ้นชินก็เท่านั้น..
ครั้นจะอุ้มไปส่งที่ห้องก็คงลำบาก สุดท้ายโทโมยะก็ก้าวขึ้นไปนอนข้างกัน แต่ยังไม่ทันจะเคลิ้มก็ต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อคนข้างๆ พลิกตัวมากอดพร้อมกับเบียดแก้มยุ้ยๆ ลงมาบนแขนเขาอย่างถือวิสาสะ.. นี่เห็นเป็นหมอนข้างหรือยังไง?
คนถูกกอดผงกศีรษะขึ้นมองเล็กน้อย จะดันออกก็กลัวตื่น แต่ปล่อยไว้แบบนี้ก็ไม่ชิน.. ไม่ชินกับการเป็นฝ่ายถูกกอด เป็นแบบนี้ต่อไปมีหวังนอนไม่หลับแน่ เขาจึงตัดสินใจพลิกตัวตะแคงไปรวบร่างนั้นไว้ในอ้อมแขนเสียเอง จะได้ไม่นอนดิ้นมากอดกันอีก และเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่มีท่าทีว่าจะตื่นจึงหลับตาลงอีกครั้ง จนกระทั่งหลับไป..
วันต่อมา..
แม้จะนอนทีหลังแต่เช้านี้โทโมยะตื่นก่อน ภาพตรงหน้าคือใบหน้าของคนห้องข้างๆ ที่ยังคงหลับปุ๋ยอยู่ท่าเดิมในอ้อมแขน ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะกอดอีกฝ่ายยันเช้าแบบนี้ และที่ไม่น่าเชื่อยิ่งกว่าก็คือเขาหลับสนิทตลอดทั้งคืนได้ยังไงทั้งที่ปกติเป็นโรคนอนไม่หลับ มักจะหลับๆ ตื่นๆ อยู่เสมอจนต้องพึ่งยานอนหลับในบางครา แต่เมื่อคืนกลับหลับลึก..
ตมคมละจากคนร่างบางมาที่นาฬิกาบนหัวเตียง ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ กลับออกมาคนตัวเล็กก็ตื่นแล้วแถมมองมาที่เขาด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้างมองไล่จากใบหน้าหล่อคมลงไปถึงไหนต่อไหน ไม่รู้มองแล้วคิดอะไรถึงส่งผลให้ใบหน้าแดงปลั่ง หลุบตาหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เขาก็แค่.. นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมาเท่านั้นเอง
"เอ่อ ขอโทษค่ะ.. เมื่อคืนขวัญเผลอหลับไป.." อีกฝ่ายกล่าวขอโทษเลิกลั่ก ดวงตากลมโตเดี๋ยวหลบเดี๋ยวมองเป็นท่าทางที่น่ารำคาญ ถ้าเป็นลูกน้องของเขาแสดงอาการแบบนี้คงถูกตัดหางปล่อยวัดไปแล้ว แต่กับคนตรงหน้ามันไม่เหมือนกัน..
"ตาบวมนะ.. เอาน้ำแข็งประคบสักหน่อยคงดีขึ้น" ร่างสูงเอ่ยขณะมองสำรวจดวงตากลมโตที่เช้านี้ไม่มีความสดใสเอาเสียเลย พูดเสร็จก็เดินไปแต่งตัวทำกิจวัตรประจำวันอย่างเป็นธรรมชาติ แม้จะไม่ได้อยู่คนเดียว
ของขวัญยังไม่ได้ลุกไปไหน นั่งมองตามแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยรอยสักปริศนานั้นไปอย่างอึ้งๆ เพราะเธอไม่เคยเห็นรอยสักของเขาแบบเต็มๆ ฟูลเอชดีขนาดนี้มาก่อน ปกติจะเห็นแค่ตรงหลังมือ แขนและลำคอที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมาเท่านั้น แต่ตอนนี้กำลังเห็นทั้งตัว! ไหนจะกล้ามเนื้อแน่นๆ นั่นอีก.. อ่า หัวใจเต้นแรงไปหรือเปล่านะ
"แล้วจะนั่งมองฉันตาเยิ้มแบบนั้นไปจนถึงเมื่อไรหื้ม อยากดูก็บอกกันดีๆ สิ" โทโมยะเห็นทุกอย่างผ่านกระจกบานใหญ่ เขาเอ่ยเย้าคนมองที่ไม่ยอมละสายตาไปจากเขายิ้มๆ ก่อนจะหันกลับไปประจันหน้ากันในตอนท้ายประโยค
"ปะ เปล่านะคะ! ขวัญดูรอยสักต่างหาก" คนถูกจับได่รีบปฏิเสธด้วยใบหน้าลนลาน รีบหลบสายตาไปอย่าง (ไม่) เนียน ตาคมหรี่ลงมองอย่างจงใจจับผิด ไม่พอยังก้าวเดินเข้ามาใกล้ จนเธอต้องขยับหนีไปชิดริมขอบเตียงอีกฝั่ง
"เอาสิ.. ดูให้เต็มตา" น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เอ่ยพร้อมกางแขนออกร้อยแปดสิบองศาให้อีกฝ่ายได้มองเห็นชัดๆ จนกว่าจะหนำใจ ของขวัญค้อนกลับไปด้วยความหมั่นไส้ ใครจะไปมองกันล่ะ! เล่นมายืนจังก้าให้ดูแบบนี้ไม่อายหรือไง
"ขวัญจะกลับห้องแล้ว! เอ่อ.. ขอบคุณนะคะ.. เมื่อคืนที่อยู่เป็นเพื่อน.." ร่างบางหุนหันลุกลงจากเตียง ก่อนจะมายืนตรงหน้าเจ้าของห้อง ไม่ลืมขอบคุณเรื่องที่เขายอมให้เธอรบกวนทั้งคืน
"ฉันไม่ทำอะไรเพื่อใครฟรีๆ นะ.. ไหนรางวัล? " โทโมยะยืนกอดอกกระตุกยิ้มอย่างเป็นต่อ ไม่ยอมให้อีกฝ่ายหนีไปง่ายๆ
"คุณจะมาอยากได้อะไรจากขวัญล่ะคะ ขวัญไม่มีอะไรสักอย่าง.." เธอแย้งเสียงอ่อน มองหน้าคนพูดอย่างไม่ค่อยเข้าใจว่าเขาจะมาอยากได้อะไรจากเธอ เงินติดตัวสักบาทเดียวก็ยังไม่มีเลย
"คิดสิว่ามีอะไรที่เธอพอจะทำได้" คนพูดกระตุกยิ้มอย่างสบายอารมณ์ โยนให้คนฟังคิดเอาเองว่าจะทำอะไรตอบแทนเขาได้ ร่างบางชะงักนิ่งไปนิด ดวงตาล่อกแล่กทำหน้าครุ่นคิดชั่วครู่ก็ช้อนตาขึ้นมองสบตาคม ก่อนสูดหายใจลึกแล้วเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบ..
จุ้บ!
จูบลูกกระเดือกของเขาเพราะเขย่งถึงแค่นี้.. พอกระทำการอุกอาจเสร็จก็รีบวิ่งหนีออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
"เห๋.. กล้าดีนี่" โทโมยะพึมพำตามหลังอย่างแปลกใจ ก่อนกระตุกยิ้มร้ายเมื่อหายอึ้ง มือหนายกขึ้นลูบลำคอบริเวณที่ความอุ่นชื้นยังคงติดตรึงอยู่ด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด แต่ก็นะ ความสูงมีอยู่แค่นั้นนี่เนอะ..
ฝั่งของขวัญพอกลับเข้าห้องมาได้ก็รีบตรงไปอาบน้ำในทันที เผื่อสายน้ำเย็นฉ่ำจะช่วยดับความร้อนวูบวาบในร่างกายลงได้ แต่ก็ผิดหวังเพราะมันไม่ช่วยอะไรตราบใดที่ยังคงนึกถึงภาพเหตุการณ์ก่อนหน้า เขาจะว่าอะไรไหมนะที่จู่ๆ ก็ไปถึงเนื้อถึงตัวเขาแบบนั้น แต่เธอคิดอะไรไม่ออกแล้วนี่นา.. สิ่งที่พอจะทำได้ก็มีเท่านี้แหละ เป็นคนบอกเองหนิช่วยไม่ได้!
.
.
"วันนี้พักก่อนก็ได้นะครับ ท่าทางน้องขวัญจะเพลียๆ เดี๋ยวพี่บอกเชฟให้" หลังอาบน้ำทานข้าวเช้าเสร็จ ร่างบางก็ขอน้ำแข็งจากคนสนิทมาประคมตาบวมๆ ของตัวเอง นอกจากนั้นท่าทางของเธอยังดูอิดโรยไม่สู้ดีจนองศาต้องบอกให้หยุดพักเอาแรงสักหนึ่งวัน
"ไม่เป็นไรค่ะ ขวัญไหว" ของขวัญปฏิเสธเพราะเธอไม่ได้เป็นอะไรมากอย่างที่อีกฝ่ายกังวล คนฟังทำหน้าเหนื่อยใจ แต่ก็ไม่ได้ห้ามเมื่อเธอตั้งใจแบบนั้น
วันนี้ร่างบางมีนัดทำขนมกับเชฟอีกเช่นเคย เมนูหลักคือบราวนี่กับช็อกโกแลต คนเสี่ยงตายชิมฝีมือก็หน้าเดิมๆ เธอรู้มาว่าโทโมยะชอบดื่มกาแฟและไม่ชอบของหวานก็เลยขอเชฟทำบราวนี่รสกาแฟกับดาร์กช็อตโกแลตกลิ่นกาแฟ กะว่าจะเอาไปให้เขาในตอนเย็นและถือโอกาสขอบคุณเรื่องเมื่อคืนอีกครั้ง แต่ก็ไม่รู้ว่าทำแล้วจะออกมาเป็นยังไงอ่านะ เธอไม่ค่อยมีความมั่นใจในฝีมือเสียด้วยสิ แต่ความตั้งใจมีเต็มร้อยนะบอกเลย :)
.
.
ผ่านไปอีกวันกับการพยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์แม้จะยังไม่มีประโยชน์ก็ตาม (?) ของขวัญขึ้นลิฟต์มาพร้อมองศา ในมือถือถุงใส่ขนมที่จะเอาไปให้โทโมยะอีกเช่นเคย แต่พอประตูลิฟต์เปิดออกยังชั้นที่พักก้าวออกมาแล้วกลับไม่กล้าก้าวต่อเมื่อเห็นคนห้องข้างๆ กำลังเปิดประตูรับผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไปในห้องที่คนสนิทบอกว่าหวงนักหนา เธอไม่เห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นเพราะหล่อนหันหลังให้ แต่เห็นหน้าเจ้าของห้องชัดชนิดตาสบตาเพราะเขาเองก็กำลังมองมาที่เธอ เสี้ยววินาทีที่ไม่มีใครเอ่ยอะไรบานประตูก็ปิดสนิทลง..
ของขวัญตกใจระคนสับสนจนก้าวขาไม่ออก องศาบอกว่าเขาหวงพื้นที่ส่วนตัวไม่ใช่หรอ? แล้ว.. ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? ทำไมถึงยอมให้เข้าไปได้ง่ายๆ ที่นี่นอกจากเธอกับแม่บ้านแล้วก็ไม่มีผู้หญิงอื่นเลยไม่ใช่หรอ?
"น้องขวัญ.." องศาเห็นคนตัวเล็กยืนนิ่งไม่ยอมเดินต่อจึงเอ่ยเรียก ดึงสติที่หลุดลอยไปให้กลับคืนเข้าร่าง
"เมื่อกี้.. ใครหรอคะ? " น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยถามโดยที่ยังไม่ละสายตาไปจากประตูห้องข้างๆ คนฟังรับรู้ได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเธอ แต่เขาไม่ค่อยอยากจะพูดนักจนคนรอฟังต้องหันมาจ้องตาเขม็ง..
"อ่า.. คุณแป้งน่ะครับ.. เป็นไซด์ไลน์.. นายคงจะเรียกมาใช้บริการเพราะไม่มีเวลาไปที่ผับ.." องศาถอนหายใจยาวก่อนสารภาพออกมาจนหมดเปลือก เขาไม่แน่ใจในสถานะความสัมพันธ์ของเจ้านายกับคนตรงหน้านัก แต่ก็แอบเห็นว่าหวานๆ กันอยู่ วินาทีแรกที่เห็นผู้หญิงไซด์ไลน์เจ้าประจำที่นายมักจะเรียกใช้บริการก็แอบตกใจอยู่เหมือนกัน เพราะเหมือนจะแสดงว่าเจ้านายกับร่างบางไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน.. งั้นหรอ?
"ผับ xx น่ะหรอคะ?? " ของขวัญโพล่งถามด้วยความร้อนใจ เพราะถ้าใช่ก็แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนๆ เดียวกันกับที่เธอรู้จัก.. 'พี่แป้ง' อดีตเพื่อนร่วมงานคนแรกกับอาชีพขายศักดิ์ศรีที่เธอมีความรู้สึกดีๆ ให้ตั้งแต่แรกเจอ..
"ใช่ครับ! "
..
..
..
..
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 10ของขวัญเดินเอื่อยมานั่งลงบนโซฟาริมกระจกอย่างเลื่อนลอย ทว่าใบหน้าสวยกลับยุ่งเหยิง หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนมีอะไรให้ครุ่นคิดมากมาย หลังสิ้นคำตอบนั้นขององศาเธอกับเขาก็แยกย้ายกันไปพัก แต่เธอกลับไม่สามารถปล่อยวางสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้เมื่อไม่กี่นาทีก่อนได้ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก..แป้งเป็นผู้หญิงที่ทำงานอย่างว่า เท่าที่ได้รู้จักกันเผินๆ เธอเป็นคนนิสัยดี น่ารัก ยิ้มสวย จนไม่น่าเชื่อว่าจะมาทำอาชีพแบบนี้ ฝ่ายโทโมยะเองฟังจากที่พราวบอกว่าเขามักจะไปที่ผับทุกวันศุกร์เพื่อใช้บริการ.. ล่าสุดวันนี้เขาก็เรียกอีกฝ่ายมาถึงที่เพราะไม่มีเวลาไปด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นในเวลานี้หรือหลังจากนี้ ในห้องข้างๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งคู่กำลังทำอะไรกัน..แล้วทำไม.. เธอถึงกระสับกระส่าย ปวดจี๊ดในอกที่ได้รับรู้เรื่องนี้ด้วย? ทำไมถึงไม่อยากให้มันเกิดขึ้นทั้งที่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาที่เธอไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย.. เธอเป็นคู่นอนให้โทโมยะไม่ได้ ไม่สิ.. เขาไม่เลือกเธอมากกว่า ซึ่งก็ถูกแล้วที่เขาจะไปทำกับคนอื่นแทน ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ..?ร่างบางรู้สึกสับสนกับความรู้ส
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 11มีสิ่งหนึ่งที่แปลกไป.. แปลกไปอย่างมาก! นั่นก็คือการกระทำของโทโมยะตั้งแต่วันที่มานอนค้างห้องของของขวัญแบบมึนๆ ในวันนั้น เขาก็มักจะมาอีกในคืนถัดไปจนล่าสุดเลยเถิดไปไกล ถึงขั้นเริ่มเรียกให้เธอเป็นฝ่ายไปนอนด้วย.. แต่ช้าก่อน! อย่าเพิ่งคิดไปไกล แค่นอนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร อย่างมากก็แค่กอด.. กอดเหมือนหมอนข้างอย่างที่เขาพูดกรอกหูเธอทุกวันของขวัญเคยถามนะว่าเขาทำแบบนี้ทำไม เหตุผลที่ได้ก็คือเขานอนไม่ค่อยหลับถ้าไม่ได้กอดก่ายอะไรก่อนนอน แน่นอนว่าเธอถามต่อว่าทำไมไม่ซื้อหมอนข้างมากอด และเขาก็ให้เหตุผลแบบมึนๆ มาว่าเพิ่งจะค้นพบว่าการกอดคนตัวอุ่นๆ ด้วยกันมันหลับลึกกว่า (?) เพราะงั้นอีกหนึ่งหน้าที่ของเธอที่เพิ่มเข้ามาก็คือทำตัวเป็นหมอนข้างให้เขากอดนอนเหตุผลแปลกดี.. แต่ไม่ดีกับหัวใจเธออย่างแรง! เพราะหลังจากวันนั้นที่โทโมยะพาใครมานอนด้วยของขวัญก็เริ่มจะรู้ใจตัวเองแล้วว่าคิดเกินเลยกับเขา! ถึงแม้อาการขุ่นเคืองในตอนเห็นเขาอยู่กับคนอื่นจะถูกท่าทางแปลกๆ ของเขาลบเลือนไปโดยไม่รู้ตัว แต่ความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจที่เธอได้ค้นพบจากเหตุการณ์วันนั้นมันยังคงอยู่ ซึ่งเธอตั้งใจไว
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 12"ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยวาง ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น.." ร่างสูงเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง มือใหญ่วางทับลงบนหลังมือเหี่ยวย่นพร้อมกับบีบเบาๆ จริงอยู่ว่าเขากับพ่อไม่ลงรอยกันนักแต่ถึงอีกฝ่ายจะเลวร้ายแค่ไหนสายเลือดเดียวกันมันก็คงจะตัดกันไม่ขาด ตอนนี้ผลจากการกระทำมันก็ตามสนองเขาแล้วเรื่องที่ผ่านมาก็ควรจะให้มันจบๆ กันไป"พะ พ่อ.. ขอโทษนะ.. ทุก.. อย่าง.." ต่างฝ่ายต่างเงียบไปชั่วอึดใจ มาถึงตอนนี้ร่างบนเตียงก็ไม่อาจทนเฉยกับการกระทำอ่อนโยนของลูกชายได้ เขาพยายามเอ่ยคำขอโทษออกมาอย่างยากลำบาก น้ำเสียงเข้มขรึมกับพละกำลังที่เคยมีหดหายลงไปเรื่อยๆ ตามลำดับอาการ คนเราถึงคราวใกล้ตายนั่นแหละถึงจะสำนึกได้ว่าทำผิดต่อคนอื่นไว้มากแค่ไหน"ครับ.. ผมอโหสิกรรมให้ทุกอย่าง" ร่างสูงยกยิ้มบางให้บิดา พลอยทำให้อีกฝ่ายรู้สึกปล่อยวางขึ้นมาได้บ้าง เรื่องอื่นคนเป็นพ่ออย่างเขาคงไม่ห่วงแล้ว ทั้งเรื่องแก๊งและธุรกิจเขาเชื่อว่าลูกชายจะดูแลได้ดียิ่งกว่า ห่วงก็แต่ 'ทาคิยะ' ลูกชายคนเล็กกับ 'คาวามูระ' น้องชายต่างมารดาของเขานั่นแหละ"ดูแล.. น้องด้วยนะ.. ระวัง.. เจ้าคาวามูระไว้ให้ดี.. เจ้
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 13"น้องขวัญ! แป้งจะล้นชามแล้วครับ! " เสียงตะเบ็งของคนสนิททำร่างบางที่กำลังเทแป้งเค้กลงในภาชนะถึงกับสะดุ้งโหยงหลุดออกจากภวังค์ ทำหน้าเหรอหราก่อนจะรีบตักแป้งส่วนเกินที่เทล้นออกมากลับใส่ถุงตามเดิม แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะขำเบาๆ จากเชฟ ผิดกับองศาที่ขำไม่ลงเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ของขวัญสติหลุดลอยไปไกล แต่นานวันยิ่งหนักขึ้นๆ เลยต่างหากสาเหตุไม่แน่ชัดแต่ก็คงไม่ยากเกินความคาดเดา.. ร่างบางเริ่มเหม่อ หน้าตาหม่นหมอง บางทีก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนนึกคิดอะไรอยู่คนเดียวบ่อยๆ นับตั้งแต่เจ้านายเขาไม่อยู่ ตอนแรกก็คิดว่าไปไม่กี่วันคงจะกลับแต่พอดีเกิดเรื่องใหญ่เข้าก็เลยต้องอยู่ยาว ซึ่งนี่ก็กินเวลาไปอาทิตย์กว่าแล้ว"ถ้าเหนื่อยเรากลับไปพักดีมั้ยครับ ขนมพวกนี้พี่กับเชฟกินจนน้ำหนักขึ้นแล้วนะ ไม่ต้องทำทุกวันก็ได้" องศาเอ่ยชวนพร้อมกับแอบบ่นหน่อยๆ เรื่องขนมหวานที่ร่างบางพยายามหัดทำ เพราะไม่ใช่วันเว้นวันเหมือนก่อน วันที่ต้องทำความสะอาดห้องพอทำเสร็จเธอก็จะมาขลุกตัวอยู่ในครัวเพื่อให้เชฟสอนทำนู่นทำนี่ตามใจอยาก แทนที่จะเอาเวลาไปพักผ่อน เขาพยายามชวนไปเ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 14"ระหว่างฉันไม่อยู่ทำอะไรบ้าง ได้ไปเที่ยวหรือเปล่า? " โทโมยะเป็นฝ่ายชวนคุยหลังจบเรื่องที่ห้อยโทรศัพท์และต่างฝ่ายต่างนั่งกินหมูกระทะเงียบๆ มาได้สักพักตลอดเวลาที่อยู่ญี่ปุ่นเขาไม่ได้ติดต่อทางนี้เลย แต่ก็ใช่ว่าคนทางนี้จะไม่รู้ข่าวเรื่องพ่อ สมาชิกทุกคนในแก๊งมีสิทธิ์ที่จะรู้และร่วมไว้อาลัย ซึ่งเขาได้ยกให้เป็นหน้าที่ของคนสนิทคอยกระจายข่าว มีเพียงคนเดียวที่ไม่รู้ก็คือของขวัญ คาดว่าองศาคงเก็บเงียบและรอให้เขาเป็นคนตัดสินใจเองจะว่าบอกเธอหรือไม่ เพราะจะบอกหรือไม่บอกร่างบางก็ไม่มีส่วนได้เสียอะไร"ขวัญทำงานและก็ไปวัดทำบุญให้พ่อกับแม่นิดหน่อยค่ะ" ของขวัญตอบไปตามความจริง แม้องศาจะคะยั้นคะยอให้เธอออกไปเที่ยวแทนที่จะหมกตัวอยู่แต่ในครัวหรือห้องนอน แต่เธอก็ไม่ได้ไปเพราะการไปเที่ยวโดยที่ไม่ได้อยากไปนั้นคิดว่าคงเสียเวลาและเงินทองโดยเปล่าประโยชน์"แค่นั้น? " คนฟังเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เพราะเขาสั่งองศาไว้แล้วว่าอนุญาตให้พากันเที่ยวหรือไปไหนก็ได้ตามใจ"ค่ะ" ร่างบางพยักหน้ารับสั้นๆ เพราะดวงตากำลังจ้องมองหมูสไลด์ชิ้นโตบนกระทะที่กำลังสุกได้ที่ เสี้ยววินาทีก็ได้มันมาอยู่ใน
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 15วันนี้โทโมยะก็ยุ่งอีกเช่นเคย.. เขาออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าจนบ่ายคล้อยก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับ ของขวัญเลยค่อนข้างจะเหงาหน่อยๆ เพราะอยากอยู่ด้วยกันนานๆ ไม่ใช่แค่ตอนนอน แต่ก็อย่างว่า.. คนมีงานทำกับคนว่างงานมันจะไปมีเวลาเหลือเฟือมาเจอกันได้ยังไงล่ะ หรือเธอต้องทำตัวให้ยุ่งกว่านี้ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน..เวลากว่าหกโมงเย็นในที่สุดคนตัวใหญ่ก็กลับมา ของขวัญยังไม่ได้เจอหน้าแต่ที่รู้ก็เพราะองศาบอกว่านายเขาให้มาเรียกไปทานข้าวเย็นร่วมกันบนดาดฟ้า คำบอกนั้นทำคนฟังรู้สึกแปลกใจระคนตื่นเต้น เพราะตั้งแต่อยู่ที่นี่มาไม่เคยได้ขึ้นไปบนดาดฟ้าเลย และก็ไม่รู้ด้วยว่าข้างบนนั้นเป็นยังไง แต่คิดว่ายามเย็นๆ แบบนี้มันจะต้องอากาศดีมากแน่ๆร่างบางถูกคนสนิทนำทางขึ้นมายังดาดฟ้าของตึกทางบันได สิ่งที่เห็นมันเลยจากสิ่งที่คิดไว้ไปมากโข เธอคิดว่าบนนี้น่าจะเป็นพื้นที่โล่งๆ หรือมีต้นไม้ดอกไม้บ้างประปราย แล้วก็มีโต๊ะเก้าอี้ไว้นั่งทานข้าวกัน แต่จริงๆ แล้วมันมีมากกว่านั้น.. สระว่ายน้ำกับโดมกันแดดขนาดใหญ่กินพื้นที่บนนี้ไปมากกว่าครึ่ง ส่วนอีกโซนที่เหลือเป็นสวนเล็กๆ มีโซฟาเบดทั้งแบบนั่งและแบบปรั
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 16ร่างบางถูกวางลงบนเตียงในท่านั่งมือยันที่นอน และก่อนที่ร่างสูงจะผละออกมือเล็กก็รั้งแขนเขาเอาไว้ ใบหน้าคมหันมามองสบตาอย่างสงสัย เท้ามือข้างหนึ่งลงไปบนเตียงเพื่อยั้งน้ำหนักไว้ไม่ให้คร่อมทับอีกคน เขาได้สติหลังจากจูบที่สองจบลงและพยายามครองสติบังคับตัวเองไม่ให้ทำอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้ เพราะงั้นเมื่อพามานอนแล้วก็ตั้งใจจะผละออกไป"ไม่หยุด.. ได้มั้ยคะ.." น้ำเสียงอ่อนหวานร้องขออย่างขัดเขิน ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองคนฟังอย่างออดอ้อนระคนเชิญชวน ทำคนตัวใหญ่ถึงกับหายใจสะดุด.."รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา" น้ำเสียงกดต่ำเอ่ยเรียบออกมา ใบหน้าไม่ยินดียินร้าย ยิ่งคนถูกถามพยักหน้าตอบโทโมยะก็ยิ่งนิ่งงัน เขาไม่พูดอะไรอีก เพียงจ้องหน้าของขวัญตาดุ ใครสั่งใครสอนให้เชิญชวนผู้ชายขึ้นเตียงแบบนี้กัน!"พรุ่งนี้วันศุกร์.. ถ้าคุณอยากทำเรื่องแบบนั้น.. ขวัญ.. พร้อมแล้วนะคะ.." เสียงหวานเอ่ยต่อเมื่อไม่เห็นร่างสูงโต้ตอบอะไร พูดไปไม่ใช่ว่าไม่อายนะ เพียงแต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีความกล้ามากกว่าปกติ ประจวบกับนึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้วันศุกร์ ถ้าเขาจะออกไปที่ผับหรือเรียกใครมาใช้บริการ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 17"นั่นแกจะทำอะไร! ? "ร่างสูงใหญ่ที่กำลังจะพุ่งเข้ามาถูกกระชากจนตัวลอยกลับไป ขนาดตัวที่ไม่ต่างกันมากทำทาคิยะแค่เซๆ เท่านั้นไม่ถึงกับล้มคว่ำ แต่แทนที่เขาจะตื่นตระหนกตกใจที่เห็นหน้าพี่ชายกลับยืนล้วงกระเป๋ากางเกงหัวเราะขำอย่างไม่สะทกสะท้านของขวัญรีบพุ่งเข้าไปหาโทโมยะด้วยความดีใจ รู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่เพราะเธอเกือบจะสิ้นหวังไปแล้ว ร่างสูงมองสำรวจเหมือนจะดูว่าเธอเป็นอะไรไหม พอเห็นว่ายังสบายดีก็ดันเธอมาหลบข้างหลัง แล้วหันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้เป็นน้องชาย"หึหึ มาเร็วกว่าที่คิด" ทาคิยะเหยียดยิ้ม มองสบดวงตาคมที่กำลังเกรี้ยวโกรธของพี่ชายอย่างไม่เกรงกลัว"แกมาที่นี่ทำไม" โทโมยะคำรามเสียงต่ำอยู่ในลำคอ เขาไม่เคยสติหลุดขนาดนี้มาก่อน ไม่ว่าทาคิยะจะพูดจาดูถูกเหยียดหยามสักแค่ไหนก็ไม่เคยสะทกสะท้าน แต่ตอนนี้ใจมันร้อนรุ่มกรุ่นโกรธ.. ยิ่งนาทีที่เปิดประตูมาเห็นน้องชายกำลังจะทำมิดีมิร้ายคนตัวเล็กสติเขาเหมือนจะขาดสะบั้น!"ไม่มาจะรู้หรอว่าพี่ซุกเด็กเลี้ยงไว้" ตาคนพูดจ้องพี่อย่างท้าทาย ก่อนมองเลยไปยังคนข้างหลังด้วยแววตาวาววับเหมือนเจอของเล่นชิ้นใหม่ที่ถูกอกถูกใจ"
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ) เป็นเวลากว่าสามเดือนที่โทโมยะและของขวัญใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น ด้วยเจตนารมณ์ของเขาที่หมายมั่นจะสละตำแหน่งหัวหน้าแก๊งคาชิมะให้ผู้เป็นน้องชาย เมื่อเรื่องร้ายๆ ผ่านพ้นไปเวลาที่เหลือเขาจึงเริ่มเดินหน้าสอนงานน้องอย่างเต็มกำลังและขีดเส้นตายไว้ว่าภายในสองปีทาคิยะจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับให้ได้ นั่นทำให้อีกฝ่ายแอบมาโอดครวญให้ร่างบางฟังบ่อยๆ ว่าผู้เป็นพี่เคี่ยวเข็ญอย่างกับจะพาไปแข่งโอลิมปิก ได้ยินแล้วก็ขำแต่คงจะช่วยอะไรไม่ได้นอกจากคอยรับฟังหลังช่วงทดลองงานสามเดือนของทาคิยะผ่านพ้นไปทั้งคู่ก็บินกลับประเทศไทย ปล่อยให้ว่าที่ผู้นำคนต่อไปหยัดยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง แต่ไม่เชิงว่าโดดเดี่ยวเพราะเขามีทั้งคนสนิทและผู้ช่วยมือดีหลายคน ด้วยเหตุนี้งานของคาชิมะที่โทโมยะทำอยู่เลยพลอยลดน้อยลงไปด้วย แม้ไม่ถึงกับหมดแต่เขาก็มีเวลาเหลือพาของขวัญไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาตามที่เคยสัญญากันไว้ในตอนก่อนไปญี่ปุ่น เขาพาเธอไปไหว้พ่อแม่เขาเธอเองก็พาเขาไปไหว้พ่อแม่เธอเหมือนกันเรียกได้ว่าชีวิตในช่วงนี้ดี๊ดีและมีความสุขแบบสุดๆ แม้จะยังไม่มีเหตุการณ์ประมาณว่าขอเป็นแฟนหรือบอ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 26โชคดีที่ของขวัญไม่ได้ถูกร่างสูงกินแทนข้าวเย็นเพราะแค่รอบเดียวในบ่อน้ำพุช่วงล่างก็เจ็บเสียดจนกลายเป็นคนเดินช้าและเดินนุ่มนวลไปแบบเขินๆ อย่างในตอนนี้ที่กำลังเดินตามอีกฝ่ายไปยังห้องอาหารก็มีหลายครั้งที่เขาต้องชะลอฝีเท้าเพื่อให้เธอตามทัน แน่นอนว่าเขารู้ถึงสาเหตุวัดได้จากสายตาวาววับที่มองมาเดิมทีของขวัญคิดว่าเพื่อนร่วมโต๊ะทานมื้อค่ำจะมีแค่ทาคิยะคนเดียว รวมเธอกับร่างสูงก็เป็นสามคน แต่พอประตูไม้เนื้อดีถูกเลื่อนออกถึงได้รู้ว่าบรรยากาศมันผิดจากที่คิดไว้มาก ภายในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่นี้มีจำนวนบุคคลด้านในไม่ต่ำว่าสิบคน!ทุกคนล้วนอยู่ในชุดสบายๆ อย่างยูกาตะและล้วนเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างจะมีอายุ.. เสียงพูดคุยกันอย่างออกรสชาติในตอนก่อนหน้าเงียบกริบลงไปในทันทีที่โทโมยะพาเธอเข้ามา ทุกสายตาไม่ได้ผ่านการนัดหมายแต่พวกเขาพากันมองผู้มาใหม่ทั้งสองสลับกันอย่างพร้อมเพรียง"อ้าวพี่ มาๆ มานั่งนี่เลยครับ" ทาคิยะเป็นคนดึงความสนใจของทุกคน เขารีบลุกจากเบาะรองนั่งนุ่มๆ บนพื้นมานำทางให้ทั้งคู่ไปนั่งลงบนหัวโต๊ะที่ได้จัดเตรียมที่ทางไว้ให้ตั้งแต่แรก สายตาทุกคู่ยังคงจับจ้อง
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 25"อะ อื้ม~" ท้ายทอยเล็กถูกมือใหญ่รั้งเข้าหา ประกบจูบลงไปบนริมฝีปากแดงเรื่อ ดูดซับความนุ่มนิ่มที่ด้านนอกเบาๆ ก่อนสอดแทรกเรียวลิ้นคว้านลึกเข้าไปข้างใน ร่างบางเปิดปากให้อย่างรู้หน้าที่ แม้จะยังไม่ประสาแต่ก็สมยอมตอบรับสัมผัสของร่างสูงด้วยความเต็มใจทุกครั้งเผลอไผลไปกับรสจูบครู่เดียวร่างเพรียวบางก็ถูกยกตัวลอยเปลี่ยนท่ามานั่งคร่อมตักในสภาพล่อแหลมยิ่งกว่าเดิม มือใหญ่วางลงบนสะโพกอวบ บีบเคล้นเบาๆ ก่อนลูบไล้ขึ้นมาตามเอวคอดกิ่วจนถึงแผ่นหลังเนียนนุ่ม ชั่วอึดใจก็กอดรั้งคนบนตักเข้ามาแนบชิด บดเบียดร่างกายเข้าหากันจนไม่เหลือพื้นที่ว่าง ทรวงอกอวบขาวเบียดชิดแผงอกล่ำ หน้าท้องแบนราบแนบแน่นไปกับลอนซิกแพค ช่วงล่างแข็งขืนเสียดสีอยู่กับช่องทางอ่อนนุ่มที่ยังคงปิดสนิท วงแขนแกร่งที่โอบกอดเอวบางขยับโยกตัวเธอขึ้นลงเป็นจังหวะเนิบนาบ.. จงใจให้อะไรๆ มันบดเบียดพอให้หวาดเสียวท้องน้อยเล่นๆ"อะ อ๊ะ อื้อ.." หลังถูกครอบครองไปหลายต่อหลายครั้งในที่สุดริมฝีปากบางที่เริ่มบวมเจ่อก็ถูกปล่อยเป็นอิสระ ของขวัญรีบกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดอย่างหิวกระหาย สองมือจิกเกร็งอยู่บนไหล่กว้างเมื่อเขาเปลี่ย
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 24หลังจากปลดคาวามูระและพรรคพวกออกจากตำแหน่งโทโมยะก็ค่อนข้างจะวุ่นๆ นิดหน่อยเพราะต้องเรียกตรวจสอบ ประเมินความเสียหายและทำการปรับเปลี่ยนหัวหน้าเขตคนใหม่เข้ามาดูแลแทน รวมทั้งทำการรื้อระบบเก่าที่อีกฝ่ายเคยจัดการดูแลทิ้งแล้ววางระบบใหม่เข้าไปแทนที่ รวมๆ แล้วหลายปีที่ผ่านมาคาชิมะถูกมันโกงกินไปไม่น้อย ยังไม่รวมเรื่องที่แอบค้ายาและค้ามนุษย์พื้นที่ที่เป็นกฎต้องห้ามของแก๊งอีกตอนแรกก็สงสัยว่าคนๆ เดียวที่ภรรยาจากไปนานแล้วมีภาระแค่ส่งเสียลูกสาวเรียนเมืองนอกแค่คนเดียวมันจะจำเป็นต้องใช้เงินมากอะไรขนาดนั้น แต่พอขุดไปขุดมาถึงได้รู้ว่ามันติดการพนัน ติดเหล้าติดยาและติดผู้หญิงอย่างหนัก เงินที่ได้ไปก็เอาไปลงกับอบายมุขพวกนั้นทั้งหมด ลูกแทบจะไม่เหลียวแล!แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย หลังจากที่ถูกพาตัวไปขังไว้ในคุกมืด.. สถานที่ที่มีไว้เพื่อกักขังคนทรยศ สองวันให้หลังร่างสูงก็ได้รับรายงานว่าผู้เป็นอาได้หลบหนีความผิดด้วยการใช้เข็มขัดผูกคอตัวเองกับลูกกรงสิ้นใจก่อนที่จะโดนเจ้าทาคิยะสำเร็จโทษไปก่อนแล้ว สภาพศพไม่น่าดูเท่าไรเพราะก่อนหน้านั้นคนของเขาที่สั่งให้คอยเฝ้าหน้าค
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 23"ฮ่าๆ ๆ เงินตั้งห้าสิบล้าน พี่แกยังกล้าโอนมาให้ฉัน ง่ายๆ แลกกับชีวิตไร้ค่าของแก ไม่น่าเชื่อ.. ฉันอุตส่าห์เป่าหูพวกแกให้เกลียดกันเพื่อหวังจะให้พวกแกหันมาฆ่ากันเอง แต่แม่งคงจะไม่มีวันนั้น.. เพราะแกมันโง่ทาคิยะ! แกมันขี้ขลาด! เหอะ คนแบบนี้น่ะหรออยากจะขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊ง ถุ้ย! ฝันกลางวันอยู่หรือไงไอ้เด็กเหลือขอ! " เสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นมาด้วยความสะใจเมื่อลูกน้องเข้ามารายงานว่าได้รับเงินเรียกค่าไถ่จากหลานชายคนโตเรียบร้อย ก่อนที่น้ำเสียงหยามเหยียดจะพ่นคำดูถูกใส่หลานชายคนเล็กพร้อมกับยืนจ้องมองด้วยสายตาเกลียดชัง"สารเลว.. พวกผมเป็นหลานของอานะ! " คนที่ถูกจับมัดนั่งบนเก้าอี้ในสภาพสะบักสะบอมเลือดโชกขบกรามแน่นด้วยความโกรธจัด ถามหาความเมตตาลมๆ แล้งๆ จากคนที่มีสายเลือดร่วมกันครึ่งหนึ่งด้วยความเจ็บใจ กว่าจะรู้สึกตัวว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือชำระความแค้นก็เสียรู้จนหมดสภาพ"หลานหรอ ฮ่าๆ ๆ ฉันนับญาติกับพวกแกที่ไหนกันเล่า ฉันเกลียดไอ้คาสึยะพ่อของแก เกลียดแก เกลียดพี่ชายของแก! พวกแกมันมารชีวิต! ถ้าไม่มีพวกแกทุกสิ่งทุกอย่างก็จะต้องเป็นของฉัน!! " คาวามูระระเบิดอารมณ์
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 22"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าไม่ดีเลย" องศาถามขึ้นในตอนที่เดินทางกลับ เพราะคนตัวเล็กนั่งเงียบมาตลอดทางตั้งแต่ออกจากร้านอาหารตามสั่งของพราวแล้ว สีหน้าก็ดูจะไม่สู้ดีนัก"เปล่าค่ะ ก่อนกลับพี่องศาพาขวัญแวะทำบุญหน่อยนะคะ" ของขวัญบอกปัดอย่างที่คิด แต่คนฟังก็ไม่ได้เซ้าซี้จะรู้ให้ได้ ทำเพียงพยักหน้ารับและแวะเข้าวัดตามคำสั่งเมื่อได้ทำบุญจิตใจที่ว้าวุ่นของร่างบางก็พอจะสงบลงมาได้บ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังแอบคิดอยู่.. ก็เรื่องของแป้งนั่นแหละ ไม่เชิงว่ารู้สึกผิดไปเสียทีเดียว แต่เป็นความสงสารและเห็นใจมากกว่า ในฐานะคนที่เคยแอบรักเขามาเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้กรณีของเธอก็ยังไม่เรียกว่าสมหวังนะ แค่ก้าวหน้ามากขึ้นเท่านั้น.."นี่.." น้ำเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยเรียกสติคนเหม่อให้หันมามอง แล้วก็ต้องแปลกใจว่าอีกฝ่ายกลับมาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตัว.."..มาตั้งแต่เมื่อไรคะเนี่ย" เมื่อพิจารณาดีๆ แล้วของขวัญก็ต้องตกใจซ้ำอีก เพราะร่างสูงนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน เธอควรจะรู้สึกตัวบ้างเวลาพื้นโซฟามันยุบตามน้ำหนักเขา นี่ต้องเหม่อขนาดไหนถึงได้ไม่รู้สึกอะไรเลย.."ก็นานพอที่จะ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 21"ตกลงอยากกินอะไร" ร่างสูงถามย้ำอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบตอนถามไปครั้งแรก คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองด้วยรอยยิ้มแห้งๆ เมื่อรู้ตัวว่าละเลยคำถามของเขา ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ อย่างพิจารณา"อืม.. ขอเดินดูก่อนได้มั้ยคะ"แต่สุดท้ายก็ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ เพราะตลาดนัดกลางคืนแห่งนี้มีร้านอาหารเยอะมาก จนไม่สามารถเลือกได้ง่ายๆ มีทั้งร้านแบบที่เป็นร้านจริงๆ และเป็นโต๊ะเก้าอี้ตั้งข้างทางเดิน อาหารมากหน้าหลายตาที่คุ้นเคยถูกวางขายเรียงรายจนเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไรดี.. จริงๆ เธอไม่อยากเข้าร้านหรูๆ ดูดีสักเท่าไร เพราะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ตอนที่เคยไปเดินตลาดกับแม่เลยอยากนั่งร้านข้างทางมากกว่าทั้งคู่พากันออกเดินด้วยความตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะของขวัญ เธอพาคนตัวสูงแวะร้านนู้นร้านนี้ที่มีทั้งของกินและของใช้ที่น่าสนใจวางขาย ซึ่งจนแล้วจนรอดก็ไม่ได้กินข้าวกันสักทีเพราะเดินกินแต่ของว่าง ไส้กรอกบ้าง ขนมบ้าง น้ำหวานบ้างกะจุกกะจิกไปตลอดทาง แต่คนที่มาด้วยก็ไม่ได้ขัด ออกจะยิ้มบางเสียด้วยซ้ำเวลาที่เห็นแววตาเปล่งประกายและรอยยิ้มกว้างจนตาหยีของคนตัวเล็ก เขาคิดถูกที่พาเธอมาที่นี่ตามคำ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 20"คะ คุณโทโมยะ.. อย่าค่ะ.." ของขวัญร้องห้ามปากคอสั่น เสียงขาดห้วงลมหายใจติดขัดเมื่อคนที่อุทิศตนเป็นเบาะรองนั่งให้ไม่ยอมอยู่เฉย.. เอาคางเกยบนศีรษะหรือจูบหอมมันเธอก็พอจะยอมได้ แต่ตอนนี้ริมฝีปากกับลมหายใจร้อนผ่าวของเขาเริ่มเลื้อยลงต่ำมาที่ท้ายทอยและซุกไซ้ลำคอของเธออย่างซุกซน"อะ อื้อ.. คุณ.." คำร้องห้ามมีผลลัพธ์ไปในทางที่เลวร้ายกว่าเดิมเมื่อไม่ใช่แค่จมูก ริมฝีปากหรือลมหายใจร้อนที่รุกรานร่างกายเธออีกต่อไป มือใหญ่ที่วางประสานกันอยู่ตรงหน้าท้องแบนราบเริ่มเลื้อยขึ้นมาจนถึงหน้าอก ความนุ่มนิ่มของก้อนเนื้อตรงนั้นดึงดูดให้เขาออกแรงบีบขย้ำมันอย่างเต็มไม้เต็มมือและ.. เต็มใจ! แม้จะมีเนื้อผ้าขวางกั้นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีน้อยลง มือบางวางทับลงบนหลังมือใหญ่หมายจะดึงออกไปทว่าเรี่ยวแรงไม่รู้หายไปไหน ยิ่งอีกฝ่ายบีบแรงเท่าไรพละกำลังของเธอก็ยิ่งหดหายลงไปเรื่อยๆ เขาเป็นตัวสูบพลังหรือไงเนี่ย.."อ๊ะ คุ๊ณ~" เสียงหวานเหินสูงด้วยความตกใจเมื่อยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ มืออีกข้างของเขาเลื่อนต่ำลงไป ลากผ่านท้องน้อยและมุดเข้าใต้ชายชุดคลุมอาบน้ำที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อเช้า ของขวัญดิ้น
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 19โทโมยะตื่นก่อนในเช้าวันถัดมา.. คนข้างกายยังคงหลับสนิท ใบหน้าซีดขาวกว่าปกตินั้นทำให้เขาต้องวางมือลงบนหน้าผากเนียนเพื่อวัดไข้ เมื่อพบว่าปกติดีก็ก้าวลงจากเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างคนหลับก่อนเดินมาเก็บเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ข้างเตียงไปใส่ในตะกร้าให้เรียบร้อยแล้วทำการอาบน้ำแต่งตัว ภายนอกที่ดูเฉยชาเป็นปกติแต่ใครจะรู้ว่าในหัวเขามีแต่เรื่องเมื่อคืนวนเวียนอยู่ตลอด.. ไม่รู้ว่ามันเร็วหรือช้าไปสำหรับความสัมพันธ์เรียบเรื่อยของเขากับร่างบาง แต่เขาก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้ ชอบความรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ ที่หัวใจทุกทีที่คิดถึง..ร่างสูงยังคงมีงานล้นมืออีกเช่นเคย แต่วันนี้เขายกเลิกงานหรือนัดที่ต้องเดินทางออกไป เหลือไว้เพียงงานเอกสารแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น นั่นเพราะตั้งใจจะหยุดดูอาการของ 'เมียเด็ก' เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเขามาดูดำดูดีจะเป็นเรื่อง..ของขวัญตื่นขึ้นมาในช่วงสาย.. แน่นอนว่าร่างกายปวดร้าวไปทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะขยับมากหรือน้อยก็ระบมไปหมด ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ มองเพดานกว้างสักพัก ภาพและเสียงทุกฉากทุกตอนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ แจ่มชัดในความรู้สึ