มาเฟียจ้าวชีวิต
Writer : Aile'N
ตอนที่ 10
ของขวัญเดินเอื่อยมานั่งลงบนโซฟาริมกระจกอย่างเลื่อนลอย ทว่าใบหน้าสวยกลับยุ่งเหยิง หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนมีอะไรให้ครุ่นคิดมากมาย หลังสิ้นคำตอบนั้นขององศาเธอกับเขาก็แยกย้ายกันไปพัก แต่เธอกลับไม่สามารถปล่อยวางสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้เมื่อไม่กี่นาทีก่อนได้ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก..
แป้งเป็นผู้หญิงที่ทำงานอย่างว่า เท่าที่ได้รู้จักกันเผินๆ เธอเป็นคนนิสัยดี น่ารัก ยิ้มสวย จนไม่น่าเชื่อว่าจะมาทำอาชีพแบบนี้ ฝ่ายโทโมยะเองฟังจากที่พราวบอกว่าเขามักจะไปที่ผับทุกวันศุกร์เพื่อใช้บริการ.. ล่าสุดวันนี้เขาก็เรียกอีกฝ่ายมาถึงที่เพราะไม่มีเวลาไปด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นในเวลานี้หรือหลังจากนี้ ในห้องข้างๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งคู่กำลังทำอะไรกัน..
แล้วทำไม.. เธอถึงกระสับกระส่าย ปวดจี๊ดในอกที่ได้รับรู้เรื่องนี้ด้วย? ทำไมถึงไม่อยากให้มันเกิดขึ้นทั้งที่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาที่เธอไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย.. เธอเป็นคู่นอนให้โทโมยะไม่ได้ ไม่สิ.. เขาไม่เลือกเธอมากกว่า ซึ่งก็ถูกแล้วที่เขาจะไปทำกับคนอื่นแทน ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ..?
ร่างบางรู้สึกสับสนกับความรู้สึกของตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอหาบทสรุปของความยุ่งเหยิงนี้ไม่ได้ว่าทำไมถึงมีความรู้สึกนึกคิดแบบนี้ ราวกับคนเห็นแก่ตัวที่ไม่อยากให้ร่างสูงไปทำแบบนั้นกับคนอื่น ในขณะที่ตัวเองก็ไม่มีความกล้าที่จะทำกับเขาเช่นกัน.. เธอกำลังหวง.. หวงเขาเหมือนเด็กหวงของเล่นที่กำลังจะมีคนมาแย่งไป แต่กรณีนี้เธอไม่ใช่เจ้าของ.. เขาไม่ใช่ของเธอ เธอไม่มีสิทธิ์..
ของขวัญพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไป แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็อดหวนกลับมาคิดไม่ได้อีกอยู่ดี ตากลมเหลือบมองไปยังผนังห้องฝั่งที่ติดกับห้องข้างๆ ในขณะที่สมองจินตนาการภาพที่คนทั้งสองกำลังทำไปถึงไหนต่อไหน
สุดท้ายยิ่งคิดก็ยิ่งปวดใจเสียเองจึงดึงสายตากลับมา ก่อนหยุดอยู่ที่บราวนี่กับช็อกโกแลตที่อุตส่าห์ตั้งใจทำมาให้เขา..
ตุ้บ
มองนิ่งสักพักอารมณ์ด้านมืดก็ยุแยงให้มือบางหยิบมันไปโยนลงถังขยะใกล้ๆ อย่างไม่นึกเสียดาย ก็จะเก็บไว้ทำไมล่ะ ในเมื่อไม่มีใครกินแล้ว! คิดแบบนั้นของขวัญก็สะบัดหน้าหนีเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำดับอารมณ์ เสร็จก็มากระโดดขึ้นเตียงดึงผ้าห่มคลุมโปงกะจะนอนหลับไม่อยากรับรู้เรื่องราวอะไรอีก
แต่ไม่ว่ายังไงก็ข่มตาหลับไม่ได้สักที ภาพที่จินตนาการขึ้นเองยังคงตามหลอกหลอนอยู่ในความคิด เลยพยายามหาอะไรทำด้วยการหยิบโทรศัพท์มาเสียบหูฟังเปิดหนังดูใต้ผ้าห่ม
ก๊อกๆ
"คุณขวัญครับ ได้เวลาอาหารเย็นแล้วนะครับ" นอนดูหนังแบบใจลอยๆ จบไปเรื่องครึ่งก็ได้เวลาทานข้าวเย็น เชฟเห็นว่าเธอยังคงนอนแช่อยู่บนเตียงไม่ลุกไปที่โต๊ะอาหารเลยเดินมาเรียกข้างเตียง
"ขวัญไม่หิวค่ะ เชฟเอาออกไปเถอะ" ร่างบางมองหน้าเชฟสลับกับโต๊ะอาหารที่อีกฝ่ายนำมื้อค่ำไปจัดไว้ให้ด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ก่อนถอนหายใจและบอกปัดออกไป
เชฟมีท่าทีแปลกใจกับท่าทางของเธอเพราะปกติจะเห็นตื่นเต้นกับทุกเมนูที่เขานำมาให้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเมื่อของขวัญตัดบทสนทนาด้วยการล้มตัวลงนอนดูหนังในโทรศัพท์ต่อ เชฟยอมล้าถอยแต่ไม่ได้ยกอาหารกลับออกไปเพียงหาภาชนะมาปิดไว้ให้เท่านั้น เผื่อคนตัวเล็กจะนึกหิวขึ้นมาในภายหลัง
"น้องขวัญ ทำไมไม่ทานข้าวล่ะครับ" ไล่หลังเชฟไปสักพัก องศาก็เข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียดหน่อยๆ เพราะเชฟรายงานมาว่าคนตัวเล็กมีท่าทีแปลกๆ ไปและไม่ยอมกินข้าว เขาก็เลยต้องเข้ามาดู..
"ขวัญไม่หิวนี่คะ สงสัยกินช็อกโกแลตมากไป" ของขวัญตอบเลี่ยง และยังคงสนใจโทรศัพท์มากกว่าคนสนิทที่ยืนทำหน้าเคร่งอยู่ข้างเตียง
"ขอโทษนะครับ.. อืม.. ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา" ร่างสูงเอ่ยขอโทษก่อนเอื้อมมือมาแตะหน้าผากบางวัดอุณหภูมิ แต่ก็ไม่พบอะไรปกติ
"พี่องศา.. ขวัญปกติดี แค่ไม่หิวข้าว ทำเหมือนขวัญอ่อนแอมากยังงั้นแหละ" ร่างบางโอดครวญเสียงอ่อน แอบเหนื่อยใจกับคนสนิทที่ดูแลเธอดีจนเกินไป อะไรนิดหน่อยก็ปล่อยผ่านไม่ได้
"พี่เป็นห่วงนี่ครับ อีกอย่างหน้าที่ดูแลน้องขวัญก็เป็นของพี่ ถ้าดูแลได้ไม่ดีพี่ย่อมบกพร่องในหน้าที่" องศาบอกอย่างจริงจัง ทำคนฟังแอบถอนหายใจหน่ายๆ ไม่รู้เขาจะเคร่งครัดในหน้าที่ไปถึงไหน
"เฮ้อ.. ขวัญกินก็ได้! แต่กินไม่หมดอย่ามาว่ากันนะคะ บอกไปแล้วว่าไม่หิวๆ " ร่างบางตัดปัญหาลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะอาหารอย่างเซ็งๆ เพราะถ้ายังอิดออดไม่ยอมกินอีกฝ่ายก็คงจะคะยั้นคะยอไม่หยุดแน่ๆ
องศาส่ายหน้าไปมายิ้มๆ รู้สึกเหมือนถูกพ่อแม่สั่งให้มาเลี้ยงน้องไม่มีผิด น้องที่เหมือนจะเป็นเด็กดีต่อหน้าแต่แอบดื้อลับหลังพ่อแม่ เขาจึงต้องเดินตามมาเฝ้าเด็กดื้อกินข้าว ระหว่างนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นบราวนี่กับช็อกโกแลตที่คนตัวเล็กตั้งใจทำมาให้เจ้านายนอนแอ้งแม้งอยู่ในถังขยะทั้งที่ยังไม่ได้แกะเลยเกิดความสงสัย
"ทำไมทิ้งล่ะครับ ไหนบอกจะเอามาให้นายพี่" องศาเดินไปหยิบขึ้นมาพลางเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจระคนเสียดาย
"เขาคงอิ่มแล้วล่ะค่ะ! " ใบหน้าสวยหงิกงอขึ้นมาในทันที คำพูดที่มีความหมายเป็นนัยบอกให้คนฟังเข้าใจได้ไม่ยากว่าเธอหมายถึงอะไร
"โกรธนายพี่หรอครับ.. เรื่องคุณแป้ง? " ร่างสูงถามตรง มองเผินๆ ก็ดูจะจริงจังแต่ดวงตากลับแพรวพราวเจ้าเล่ห์ มองมาเหมือนกำลังจับผิด
"ขะ ขวัญจะไปโกรธเขาทำไมล่ะค่ะ เปล่าซะหน่อย" คนตัวเล็กปฏิเสธเสียงห้วน แอบสะดุดหน่อยๆ แต่เก็บอาการได้อย่างแนบเนียน...ซะเมื่อไรล่ะ มองออกง่ายเสียขนาดนั้น!
"หึหึ หรอครับ" คนฟังยิ้มบางด้วยหน้าตาที่แสดงออกชัดว่า 'ไม่เชื่อ' ของขวัญหลบสายตามองจานข้าวไปอย่างเนียนๆ ทำเป็นนั่งกินข้าวไปอย่างตั้งใจทั้งที่ก่อนหน้าไม่มีทีท่าว่าจะอยากกินเลยสักนิด
"แต่ทำไม.. พี่รู้สึกว่าคนแถวนี้กำลังงอนอยู่เลยน้า.." องศาไม่ยอมให้อีกฝ่ายเลี่ยงไปได้ง่ายๆ เขาจี้จุดในใจของคนฟังแบบที่คิดว่าเจ้าตัวคงจะรู้สึกอะไรกับคำพูดของเขาบ้างไม่มากก็น้อย
"ถ้าพี่ยังไม่เลิกพูดขวัญจะไม่กินแล้วนะคะ" ตากลมตวัดมองคนสนิทอย่างเคืองๆ ใบหน้ายิ้มแย้มทำเหมือนเป็นพี่ชายที่แสนดี ที่แท้ก็แค่เปลือกนอกสินะ ข้างในร้ายๆ! ชอบแกล้งเธอทั้งเจ้านายและลูกน้องเลยหรือไง!
"หึหึ ครับๆ ไม่พูดก็ไม่พูด.. ทานต่อเถอะครับ" คนถูกคาดโทษยิ้มกริ่มอย่างไม่สะทกสะท้าน แต่ก็ยอมสงบปากสงบคำเพราะได้คำตอบให้ตัวเองตั้งนานแล้ว อยู่ที่เจ้าตัวนั่นแหละเมื่อไรจะยอมรับความรู้สึกของตัวเอง
ค่ำนี้อาหารไม่อร่อยเหมือนทุกวัน นั่งไม่นานร่างบางก็ลุกขึ้น โดยไม่ลืมหยิบขนมที่องศาเอาขึ้นมาวางบนโต๊ะไปโยนลงที่เดิมแล้วเดินหนีไปนอนคลุมโปงตัดขาดการรับรู้ความเป็นไปของสิ่งรอบข้าง องศาได้แต่มองตามแล้วส่ายหน้ายิ้มๆ เขาไม่ได้แอบไปหยิบขนมในถังขยะขึ้นมาอีก เพียงเก็บจานชามบนโต๊ะออกไป ปล่อยให้ร่างบางมีเวลาส่วนตัวตามเดิม..
ฝั่งร่างสูง.. หลังเสร็จกิจก็เข้ามานอนแช่น้ำอุ่นอยู่ในอ่างอาบน้ำ โดยให้คนสนิททำหน้าที่ส่งแขกไม่แปลกหน้าที่เรียกมาใช้บริการ หลายวันมานี้เขาทำงานหนักจนไม่มีเวลาไปใช้บริการที่ผับเลยเรียกมาที่นี่แทน เสร็จกิจก็แยกย้ายกันไปอย่างทุกที
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่ได้สนใจจะนับ เขาเป็นผู้ชายที่ยังไม่ได้แต่งงานเรื่องแบบนี้มันถือเป็นเรื่องปกติมากๆ ทุกครั้งที่อยากจะปลดปล่อยเขามักจะเลือกคู่นอนคนเดิม คนที่เข้ากันได้บนเตียงและนิสัยเข้าท่า ไม่นำความวุ่นวายมาให้ในภายหลัง ซึ่งแป้งตรงความต้องการของเขาทั้งหมด
หลังได้ปลดปล่อยและแช่น้ำอุ่นๆ ร่างกายที่หนักอึ้งมานานก็โล่งเบาอย่างที่ต้องการ เปลือกตาสีเข้มที่ปิดพริ้มอยู่บวกมือใหญ่ที่กำลังถือแก้วไวน์โคลงไปมาเบาๆ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขากำลังผ่อนคลายและอารมณ์ดีสุดๆ แต่แล้ว.. จู่ๆ คิ้วเข้มก็ขมวดฉับเข้าหากันเมื่อมโนภาพดำมืดโล่งๆ ในหัวกลับปรากฏภาพใบหน้าสวยใสของคนห้องข้างๆ ในตอนที่บังเอิญสบตากันตรงหน้าห้อง ใบหน้าที่แสดงออกว่าไม่ชอบใจที่เห็นเขาพาใครมาที่นี่..
ไม่อยากจะคิดไปเองหรอกนะว่า.. เด็กนั่นชอบเขา จริงๆ คนอย่างของขวัญดูออกง่ายจะตายไป คิดอะไรก็แสดงออกทางสีหน้าจนหมด ไม่ว่าเจ้าตัวจะพยายามปกปิดยังไงมันก็ไม่มิด แต่เขาต่างหากที่ไม่ค่อยจะเข้าใจตัวเองนัก รู้ว่าเด็กมันชอบก็ไม่ยอมถอยห่าง.. ถามว่าถอยทำไม? นั่นก็เพื่อตัวอีกฝ่ายเองทั้งนั้น
'ความรัก' คือสิ่งต้องห้ามสำหรับเขา ด้วยอาชีพสีเทาๆ ที่ทำไม่ต้องเดาให้เมื่อยสมองก็น่าจะรู้ว่าทำไม..
จมอยู่ในน้ำและห้วงความคิดสักพักโทโมยะก็ลุกขึ้นไปล้างตัว ก่อนคว้าชุดคลุมมาสวมผูกเชือกคาดเอวไว้แบบลวกๆ มือใหญ่ที่หลังมือเต็มไปด้วยรอยสักปริศนาขยี้ผ้าขนหนูผืนเล็กลงบนเรือนผมสีดำสนิทที่เปียกชุ่ม ทุกการเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างเกียจคร้านเพราะความเหนื่อยล้าจากงานและกิจกรรมเข้าจังหวะ เวลานี้แบบถ้ามีคนมาคอยแต่งตัว เช็ดและเป่าผมให้คงดี..
"เรียกองศาเข้ามา" เสียงทุ้มเอ่ยกับคนสนิทที่ยืนคอยรับใช้อยู่ห่างออกไปทางประตูห้อง อย่าเพิ่งคิดไปก่อนว่าเขาจะใช้ผู้ชายตัวบึกบึนมาปรนนิบัติเชียวนะ แค่จะเรียกมาถามไถ่ความเป็นไปของคนข้างห้องเหมือนทุกวันก็แค่นั้น
"วันนี้เป็นยังไงบ้าง" รอไม่นานหนึ่งหนุ่มสัญชาติไทยเพียงไม่กี่คนในตึกนี้ก็ปรากฏตัวพร้อมโค้งทำความเคารพอย่างนอบน้อม ร่างสูงเมินการกระทำนั้นและถามขึ้นมาอย่างไม่อ้อมค้อม
"วันนี้เชฟสอนทำบราวนี่กับช็อกโกแลตครับ แต่.. คงไม่มีของฝากถึงนายเหมือนทุกวัน" องศาเอ่ยตาพราว จงใจไม่ขยายความต่อเพื่อกระตุ้นความสงสัยของคนฟัง ใช่ว่าไปกวนอารมณ์คนมีอำนาจแล้วจะไม่กลัวนะ แต่สถานการณ์ระหว่างเจ้านายกับคนตัวเล็กทำเขาอดไม่ได้จริงๆ มันสนุกเกินกว่าจะทนเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ได้
"ทำไม" โทโมยะไม่รู้สึกอะไรกับการที่อีกฝ่ายจงใจโอ้เอ้ เพราะความสนใจเขามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น
"ผมเห็นมันกองอยู่ในถังขยะน่ะครับ ไม่รู้ว่าคุณขวัญเอาไปทิ้งทำไมทั้งที่ตั้งใจทำบราวนี่รสกาแฟกับดาร์กช็อกโกแลตเพื่อนายโดยเฉพาะ.. และหลังจากนั้นก็ไม่รู้เป็นอะไรครับ ซึมๆ ไม่ยอมทานข้าวเย็นเลยสักคำ" องศาบอกตาใสแจ๋ว แอบพูดเกินจริงไปนิดหน่อยโดยที่ยังทำหน้าตายเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรจริงๆ พูดจบก็รอสังเกตปฏิกิริยาของคนฟังอย่างนึกสนุก
"อืม ไปได้" ร่างสูงยังคงนิ่ง เก็บอาการได้ดีจนไม่รู้ว่านึกคิดอะไรอยู่ ไล่หลังองศาออกไปเขาก็กลับมานั่งเช็ดผมตัวเองต่อจากเดิม พอหมาดก็ลุกไปแต่งตัว ทานข้าวและเตรียมจะเข้านอนแต่หัววัน หวังจะพักผ่อนให้เต็มที่หลังโหมทำงานหนักมาหลายอาทิตย์จนร่างกายเหนื่อยล้าไปทุกสัดส่วน
แต่ผ่านไปร่วมชั่วโมงแล้วร่างสูงใหญ่ที่นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะนิ่งสงบ ขยับพลิกตัวไปมาอยู่หลายครั้งราวกับยังหามุมนอนสบายๆ ไม่เจอ.. จนในที่สุดดวงตาคมกริบก็ลืมขึ้นมาท่ามกลางความมืดสลัว และจ้องมองเพดานกว้างนิ่งๆ
พลันอาการกระสับกระส่ายที่กำลังเป็นก็ทำให้นึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน.. เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะนอนหลับสนิทตลอดทั้งคืนได้แบบนั้น การได้พักผ่อนอย่างเต็มที่มันส่งผลดีต่อร่างกายเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะได้หลับสนิทจริงๆ ไม่ต้องพึ่งแต่ยานอนหลับที่ไม่เคยส่งผลดีต่อร่างกาย.. ทำไมกันนะ.. หรือจะเป็นเพราะคนที่นอนด้วย?
ทั้งๆ ที่เหนื่อยล้าจนไม่อยากจะทำอะไรเลยนอกจากนอนหลับให้เต็มอิ่มเหมือนคืนก่อน แต่ความตั้งใจกลับไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ ร่างสูงจึงลุกลงจากเตียงเดินไปหยิบไวน์ในตู้เย็นออกมาเทดื่ม พร้อมกับยืนมองวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนผ่านกำแพงกระจกแบบเดียวกันกับห้องข้างๆ เพียงแต่อยู่คนละฝั่ง ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไรรบกวนจิตใจเขาถึงไม่รู้สึกผ่อนคลายกับการจิบไวน์ก่อนนอนอย่างที่เคยชอบทำ
สุดท้ายไวน์ครึ่งแก้วก็ถูกกระดกลงคอรวดเดียวจนหมด หลังหันไปมองนาฬิกาแล้วพบว่ายังไม่ดึกเท่าไร รู้ตัวอีกทีสองขาก็พาร่างกายสูงใหญ่มาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องข้างๆ ก่อนตัดสินใจเคาะบอกเบาๆ แล้วเปิดประตูเข้าไปโดยไม่คิดจะรอคนข้างในเดินมาเปิด
ร่างเล็กๆ ที่กำลังนั่งกอดเข่ามองฟ้าอยู่ตรงกำแพงกระจกสะดุดตาคมเป็นอย่างแรก เธอหันมามองสบตาเขาท่ามกลางความมืดสลัวก่อนจะหันกลับไปอย่างรวดเร็ว
ผู้บุกรุกยามรัตติกาลก้าวเดินไปหาอย่างช้าๆ พลันฉุกคิดคำบอกของลูกน้องขึ้นมาได้จึงเหลือบตามองไปยังถังขยะก็เห็นว่ามีถุงขนมที่คาดว่าเป็นส่วนของเขาอยู่ในนั้นจริงๆ คนมองเลือกที่จะหยิบขึ้นมาแล้วเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกันกับเจ้าของห้อง แกะบราวนี่กับช็อกโกแลตกินโดยไม่พูดอะไร
ของขวัญแอบเหล่ตามองคนข้างๆ ที่นั่งห่างออกไปอีกฝั่งของโซฟาตัวยาวเรียกได้ว่าคนละมุมกับเธออย่างไม่เข้าใจ ลึกๆ ก็ยังเคืองเขาอยู่แต่ก็อย่างที่บอกว่าเธอไม่มีสิทธิ์เลยพยายามเก็บอาการไว้ ในเมื่อเขาไม่พูดอะไรเธอก็จะไม่พูด เพียงแต่สงสัยว่าเขามีธุระอะไรถึงเข้ามาหา แล้วไอ้ขนมนั่นเธอทิ้งไปแล้วไม่ใช่หรือไง ทำไมต้องเอากลับมากินด้วย ประสาทหรือเปล่า..
"อร่อยดี.." เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นหลังจากกินขนมทั้งสองอย่างจนหมด แต่คนฟังกลับไม่ได้รู้สึกดีใจเหมือนครั้งแรกที่ได้ยิน สงสัยองศาไปบอกอะไรอีกล่ะสิถึงรู้ว่าเธอทำเผื่อและเอาทิ้งไปแล้ว
"คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้หรอกค่ะ" ร่างบางตอบกลับเสียงเรียบ เลือกที่จะมองตรงไปข้างหน้าไม่มองคู่สนทนา ทำยังไงได้ล่ะในเมื่อเธอปล่อยวางเรื่องวันนี้ไม่ได้ ไม่ว่าจะบอกตัวเองกี่ครั้งว่าไม่มีสิทธิ์ก็ไม่เป็นผล ความรู้สึกมันขัดแย้งกันไปหมด
"ฉันทำอะไร" คนตัวสูงย้อนถามกลับมานิ่งๆ ทำเอาคนฟังถึงกับชะงักเพราะเขาต้องรู้แน่ว่าเธอหมายถึงอะไร แต่ที่ถามคงเพราะจะบีบให้เธอพูดเองมากกว่า
"ขนมนั่น.. ขวัญทิ้งไปแล้ว.." ใช่ เธอทิ้ง.. และเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องไปหยิบมากินด้วยเหตุผลที่อยากรักษาน้ำใจของเธอหรืออะไรก็แล้วแต่ มันเกินไป.. ถึงถังขยะจะไม่ได้สกปรกและขนมจะมีบรรจุภัณฑ์ห่อหุ้มอย่างแน่นหนาก็เถอะ
"แล้วทิ้งทำไม" เสียงทุ้มนั้นเข้มขึ้นเหมือนจะเอาเรื่องอยู่ในที คงรู้ว่าเธอตั้งใจทำมาให้ แต่ถึงน้ำเสียงเขาจะบีบบังคับให้ตอบสักแค่ไหนร่างบางก็ไม่มีคำตอบให้.. จะให้บอกว่าหึงว่าโกรธที่เขาไปนอนกับคนอื่นนะหรอ ไม่มีทางที่เธอจะพูดออกไปแน่!
"ช่างเถอะ.. นอนกัน" ใครคนนั้นตัดบทไปอย่างไม่ใส่ใจ
"ห้ะ! ? อะ อะไรนะคะ? " ของขวัญหันขวับมามองหน้าคนพูดตาเหลือกด้วยความตกใจ ไม่แน่ใจว่าฟังผิดไปหรือเปล่า เพราะตามที่ได้ยินไอ้คำว่า 'นอนกัน' มันคือการเชิญชวนให้ไปนอนด้วยกันหรือพร้อมกัน เธอจะไม่ตกใจขนาดนี้เลยถ้าเขาลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตูไม่ใช่เตียงนอนในห้องของเธอแบบนี้
"นอนไง" โทโมยะตอบหน้าตาย ขณะเดินดุ่มๆ ไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงห่มผ้าทำเหมือนเป็นห้องตัวเอง.. เอ่อ ก็ห้องเขานั่นแหละ แต่เวลานี้เธอพักอยู่ไง!
"อะ..." ของขวัญได้แต่ยืนอึ้ง อ้าปากพะงาบๆ ไม่มีเสียง เขามานอนเตียงเธอ แล้ว.. เธอจะไปนอนที่ไหน?
"ขึ้นมา" ขณะที่กำลังกระวนกระวาย คนบนเตียงก็เอ่ยเรียกเหมือนเป็นเรื่องปกติ ถึงเมื่อคืนเธอจะไปเผลอหลับในห้องเขาก็เถอะ ตอนนั้นมันเบลอมันเศร้าจนคิดอะไรไม่ออก แต่ตอนนี้สติสตังครบถ้วนเลยนะ!
"เอ่อ ถ้าคุณจะนอนนี่ ขวัญนอนโซฟาก็ได้ค่ะ" จะให้ไล่คนเป็นเจ้าของตึกนี้ออกไปก็ยังไงอยู่ ร่างบางเลยยอมสละเตียงให้เขา ส่วนตัวเองคิดว่านอนโซฟาก็ได้เพราะนอนมาตั้งหลายวัน พื้นที่ก็กว้างขวางสบายมาก
"ขึ้นมา" น้ำเสียงทุ้มต่ำเข้มขึ้นกว่าเดิม บ่งบอกให้คนฟังรู้ว่ามันคือคำสั่งที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ ริมฝีปากสีอ่อนเม้มเข้าหากันแน่น ใจเต้นแรงจนเหมือนจะทะลุออกมาจากอก ทั้งตื่นเต้น เขินอายและขุ่นเคืองอีกฝ่ายซ้ำอีกที่นำพาแต่เรื่องยุ่งยากมาให้
แต่สุดท้ายร่างบางก็ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำตามคำสั่งนั้นด้วยการขึ้นไปนอนข้างกันแต่ขยับมาชิดริมขอบเตียงอีกฝั่ง ผ้าห่มที่เขายึดไปก่อนก็ไม่กล้าดึงแบ่งมาห่ม ได้แต่นอนขดตัวตะแคงข้างหันหลังให้และพยายามข่มตาให้หลับไปเร็วๆ
"ขยับมา.. ฉันต้องการหมอนข้าง" ร่างสูงถอนหายใจอย่างเอือมระอากับท่าทางเว่อร์วังของคนตัวเล็กที่ทำอย่างกับไม่เคยอยู่ใกล้เขา กอดกันจูบคอก็เคยมาแล้ว แล้วดูทำเข้า.. จะยั่วโมโหกันหรือไง - -
พรึ่บ
เพราะอีกฝ่ายมัวแต่โอ้เอ้ไม่ยอมขยับ ลำแขนแกร่งจึงเอื้อมไปหาแทน ชั่วพริบตาเดียวร่างบอบบางก็ลอยละลิ่วมาปะทะร่างแกร่งและถูกพันธนาการไว้ไร้หนทางหลบหนี
"นอน.." เสียงต่ำดักทางเมื่อรู้ว่าคนในอ้อมแขนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างที่คงจะหนีไม่พ้นคำว่าให้ปล่อยหรืออะไรทำนองนั้น
คนถูกขัดหุบปากฉับพร้อมกับมองจ้องใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก แต่.. อย่าคิดว่าตาสบตา เธอไม่กล้าจ้องหน้าเขาตรงๆ ในระยะประชิดแบบนี้หรอก แต่ตอนนี้ที่กล้าจ้องก็เพราะเขาหลับตาไปแล้วต่างหาก
ว่าจะตัดใจ.. ก็มาทำให้หวั่นไหวอีกจนได้!
..
..
..
..
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 11มีสิ่งหนึ่งที่แปลกไป.. แปลกไปอย่างมาก! นั่นก็คือการกระทำของโทโมยะตั้งแต่วันที่มานอนค้างห้องของของขวัญแบบมึนๆ ในวันนั้น เขาก็มักจะมาอีกในคืนถัดไปจนล่าสุดเลยเถิดไปไกล ถึงขั้นเริ่มเรียกให้เธอเป็นฝ่ายไปนอนด้วย.. แต่ช้าก่อน! อย่าเพิ่งคิดไปไกล แค่นอนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร อย่างมากก็แค่กอด.. กอดเหมือนหมอนข้างอย่างที่เขาพูดกรอกหูเธอทุกวันของขวัญเคยถามนะว่าเขาทำแบบนี้ทำไม เหตุผลที่ได้ก็คือเขานอนไม่ค่อยหลับถ้าไม่ได้กอดก่ายอะไรก่อนนอน แน่นอนว่าเธอถามต่อว่าทำไมไม่ซื้อหมอนข้างมากอด และเขาก็ให้เหตุผลแบบมึนๆ มาว่าเพิ่งจะค้นพบว่าการกอดคนตัวอุ่นๆ ด้วยกันมันหลับลึกกว่า (?) เพราะงั้นอีกหนึ่งหน้าที่ของเธอที่เพิ่มเข้ามาก็คือทำตัวเป็นหมอนข้างให้เขากอดนอนเหตุผลแปลกดี.. แต่ไม่ดีกับหัวใจเธออย่างแรง! เพราะหลังจากวันนั้นที่โทโมยะพาใครมานอนด้วยของขวัญก็เริ่มจะรู้ใจตัวเองแล้วว่าคิดเกินเลยกับเขา! ถึงแม้อาการขุ่นเคืองในตอนเห็นเขาอยู่กับคนอื่นจะถูกท่าทางแปลกๆ ของเขาลบเลือนไปโดยไม่รู้ตัว แต่ความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจที่เธอได้ค้นพบจากเหตุการณ์วันนั้นมันยังคงอยู่ ซึ่งเธอตั้งใจไว
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 12"ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยวาง ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น.." ร่างสูงเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง มือใหญ่วางทับลงบนหลังมือเหี่ยวย่นพร้อมกับบีบเบาๆ จริงอยู่ว่าเขากับพ่อไม่ลงรอยกันนักแต่ถึงอีกฝ่ายจะเลวร้ายแค่ไหนสายเลือดเดียวกันมันก็คงจะตัดกันไม่ขาด ตอนนี้ผลจากการกระทำมันก็ตามสนองเขาแล้วเรื่องที่ผ่านมาก็ควรจะให้มันจบๆ กันไป"พะ พ่อ.. ขอโทษนะ.. ทุก.. อย่าง.." ต่างฝ่ายต่างเงียบไปชั่วอึดใจ มาถึงตอนนี้ร่างบนเตียงก็ไม่อาจทนเฉยกับการกระทำอ่อนโยนของลูกชายได้ เขาพยายามเอ่ยคำขอโทษออกมาอย่างยากลำบาก น้ำเสียงเข้มขรึมกับพละกำลังที่เคยมีหดหายลงไปเรื่อยๆ ตามลำดับอาการ คนเราถึงคราวใกล้ตายนั่นแหละถึงจะสำนึกได้ว่าทำผิดต่อคนอื่นไว้มากแค่ไหน"ครับ.. ผมอโหสิกรรมให้ทุกอย่าง" ร่างสูงยกยิ้มบางให้บิดา พลอยทำให้อีกฝ่ายรู้สึกปล่อยวางขึ้นมาได้บ้าง เรื่องอื่นคนเป็นพ่ออย่างเขาคงไม่ห่วงแล้ว ทั้งเรื่องแก๊งและธุรกิจเขาเชื่อว่าลูกชายจะดูแลได้ดียิ่งกว่า ห่วงก็แต่ 'ทาคิยะ' ลูกชายคนเล็กกับ 'คาวามูระ' น้องชายต่างมารดาของเขานั่นแหละ"ดูแล.. น้องด้วยนะ.. ระวัง.. เจ้าคาวามูระไว้ให้ดี.. เจ้
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 13"น้องขวัญ! แป้งจะล้นชามแล้วครับ! " เสียงตะเบ็งของคนสนิททำร่างบางที่กำลังเทแป้งเค้กลงในภาชนะถึงกับสะดุ้งโหยงหลุดออกจากภวังค์ ทำหน้าเหรอหราก่อนจะรีบตักแป้งส่วนเกินที่เทล้นออกมากลับใส่ถุงตามเดิม แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะขำเบาๆ จากเชฟ ผิดกับองศาที่ขำไม่ลงเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ของขวัญสติหลุดลอยไปไกล แต่นานวันยิ่งหนักขึ้นๆ เลยต่างหากสาเหตุไม่แน่ชัดแต่ก็คงไม่ยากเกินความคาดเดา.. ร่างบางเริ่มเหม่อ หน้าตาหม่นหมอง บางทีก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนนึกคิดอะไรอยู่คนเดียวบ่อยๆ นับตั้งแต่เจ้านายเขาไม่อยู่ ตอนแรกก็คิดว่าไปไม่กี่วันคงจะกลับแต่พอดีเกิดเรื่องใหญ่เข้าก็เลยต้องอยู่ยาว ซึ่งนี่ก็กินเวลาไปอาทิตย์กว่าแล้ว"ถ้าเหนื่อยเรากลับไปพักดีมั้ยครับ ขนมพวกนี้พี่กับเชฟกินจนน้ำหนักขึ้นแล้วนะ ไม่ต้องทำทุกวันก็ได้" องศาเอ่ยชวนพร้อมกับแอบบ่นหน่อยๆ เรื่องขนมหวานที่ร่างบางพยายามหัดทำ เพราะไม่ใช่วันเว้นวันเหมือนก่อน วันที่ต้องทำความสะอาดห้องพอทำเสร็จเธอก็จะมาขลุกตัวอยู่ในครัวเพื่อให้เชฟสอนทำนู่นทำนี่ตามใจอยาก แทนที่จะเอาเวลาไปพักผ่อน เขาพยายามชวนไปเ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 14"ระหว่างฉันไม่อยู่ทำอะไรบ้าง ได้ไปเที่ยวหรือเปล่า? " โทโมยะเป็นฝ่ายชวนคุยหลังจบเรื่องที่ห้อยโทรศัพท์และต่างฝ่ายต่างนั่งกินหมูกระทะเงียบๆ มาได้สักพักตลอดเวลาที่อยู่ญี่ปุ่นเขาไม่ได้ติดต่อทางนี้เลย แต่ก็ใช่ว่าคนทางนี้จะไม่รู้ข่าวเรื่องพ่อ สมาชิกทุกคนในแก๊งมีสิทธิ์ที่จะรู้และร่วมไว้อาลัย ซึ่งเขาได้ยกให้เป็นหน้าที่ของคนสนิทคอยกระจายข่าว มีเพียงคนเดียวที่ไม่รู้ก็คือของขวัญ คาดว่าองศาคงเก็บเงียบและรอให้เขาเป็นคนตัดสินใจเองจะว่าบอกเธอหรือไม่ เพราะจะบอกหรือไม่บอกร่างบางก็ไม่มีส่วนได้เสียอะไร"ขวัญทำงานและก็ไปวัดทำบุญให้พ่อกับแม่นิดหน่อยค่ะ" ของขวัญตอบไปตามความจริง แม้องศาจะคะยั้นคะยอให้เธอออกไปเที่ยวแทนที่จะหมกตัวอยู่แต่ในครัวหรือห้องนอน แต่เธอก็ไม่ได้ไปเพราะการไปเที่ยวโดยที่ไม่ได้อยากไปนั้นคิดว่าคงเสียเวลาและเงินทองโดยเปล่าประโยชน์"แค่นั้น? " คนฟังเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เพราะเขาสั่งองศาไว้แล้วว่าอนุญาตให้พากันเที่ยวหรือไปไหนก็ได้ตามใจ"ค่ะ" ร่างบางพยักหน้ารับสั้นๆ เพราะดวงตากำลังจ้องมองหมูสไลด์ชิ้นโตบนกระทะที่กำลังสุกได้ที่ เสี้ยววินาทีก็ได้มันมาอยู่ใน
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 15วันนี้โทโมยะก็ยุ่งอีกเช่นเคย.. เขาออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าจนบ่ายคล้อยก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับ ของขวัญเลยค่อนข้างจะเหงาหน่อยๆ เพราะอยากอยู่ด้วยกันนานๆ ไม่ใช่แค่ตอนนอน แต่ก็อย่างว่า.. คนมีงานทำกับคนว่างงานมันจะไปมีเวลาเหลือเฟือมาเจอกันได้ยังไงล่ะ หรือเธอต้องทำตัวให้ยุ่งกว่านี้ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน..เวลากว่าหกโมงเย็นในที่สุดคนตัวใหญ่ก็กลับมา ของขวัญยังไม่ได้เจอหน้าแต่ที่รู้ก็เพราะองศาบอกว่านายเขาให้มาเรียกไปทานข้าวเย็นร่วมกันบนดาดฟ้า คำบอกนั้นทำคนฟังรู้สึกแปลกใจระคนตื่นเต้น เพราะตั้งแต่อยู่ที่นี่มาไม่เคยได้ขึ้นไปบนดาดฟ้าเลย และก็ไม่รู้ด้วยว่าข้างบนนั้นเป็นยังไง แต่คิดว่ายามเย็นๆ แบบนี้มันจะต้องอากาศดีมากแน่ๆร่างบางถูกคนสนิทนำทางขึ้นมายังดาดฟ้าของตึกทางบันได สิ่งที่เห็นมันเลยจากสิ่งที่คิดไว้ไปมากโข เธอคิดว่าบนนี้น่าจะเป็นพื้นที่โล่งๆ หรือมีต้นไม้ดอกไม้บ้างประปราย แล้วก็มีโต๊ะเก้าอี้ไว้นั่งทานข้าวกัน แต่จริงๆ แล้วมันมีมากกว่านั้น.. สระว่ายน้ำกับโดมกันแดดขนาดใหญ่กินพื้นที่บนนี้ไปมากกว่าครึ่ง ส่วนอีกโซนที่เหลือเป็นสวนเล็กๆ มีโซฟาเบดทั้งแบบนั่งและแบบปรั
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 16ร่างบางถูกวางลงบนเตียงในท่านั่งมือยันที่นอน และก่อนที่ร่างสูงจะผละออกมือเล็กก็รั้งแขนเขาเอาไว้ ใบหน้าคมหันมามองสบตาอย่างสงสัย เท้ามือข้างหนึ่งลงไปบนเตียงเพื่อยั้งน้ำหนักไว้ไม่ให้คร่อมทับอีกคน เขาได้สติหลังจากจูบที่สองจบลงและพยายามครองสติบังคับตัวเองไม่ให้ทำอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้ เพราะงั้นเมื่อพามานอนแล้วก็ตั้งใจจะผละออกไป"ไม่หยุด.. ได้มั้ยคะ.." น้ำเสียงอ่อนหวานร้องขออย่างขัดเขิน ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองคนฟังอย่างออดอ้อนระคนเชิญชวน ทำคนตัวใหญ่ถึงกับหายใจสะดุด.."รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา" น้ำเสียงกดต่ำเอ่ยเรียบออกมา ใบหน้าไม่ยินดียินร้าย ยิ่งคนถูกถามพยักหน้าตอบโทโมยะก็ยิ่งนิ่งงัน เขาไม่พูดอะไรอีก เพียงจ้องหน้าของขวัญตาดุ ใครสั่งใครสอนให้เชิญชวนผู้ชายขึ้นเตียงแบบนี้กัน!"พรุ่งนี้วันศุกร์.. ถ้าคุณอยากทำเรื่องแบบนั้น.. ขวัญ.. พร้อมแล้วนะคะ.." เสียงหวานเอ่ยต่อเมื่อไม่เห็นร่างสูงโต้ตอบอะไร พูดไปไม่ใช่ว่าไม่อายนะ เพียงแต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีความกล้ามากกว่าปกติ ประจวบกับนึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้วันศุกร์ ถ้าเขาจะออกไปที่ผับหรือเรียกใครมาใช้บริการ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 17"นั่นแกจะทำอะไร! ? "ร่างสูงใหญ่ที่กำลังจะพุ่งเข้ามาถูกกระชากจนตัวลอยกลับไป ขนาดตัวที่ไม่ต่างกันมากทำทาคิยะแค่เซๆ เท่านั้นไม่ถึงกับล้มคว่ำ แต่แทนที่เขาจะตื่นตระหนกตกใจที่เห็นหน้าพี่ชายกลับยืนล้วงกระเป๋ากางเกงหัวเราะขำอย่างไม่สะทกสะท้านของขวัญรีบพุ่งเข้าไปหาโทโมยะด้วยความดีใจ รู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่เพราะเธอเกือบจะสิ้นหวังไปแล้ว ร่างสูงมองสำรวจเหมือนจะดูว่าเธอเป็นอะไรไหม พอเห็นว่ายังสบายดีก็ดันเธอมาหลบข้างหลัง แล้วหันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้เป็นน้องชาย"หึหึ มาเร็วกว่าที่คิด" ทาคิยะเหยียดยิ้ม มองสบดวงตาคมที่กำลังเกรี้ยวโกรธของพี่ชายอย่างไม่เกรงกลัว"แกมาที่นี่ทำไม" โทโมยะคำรามเสียงต่ำอยู่ในลำคอ เขาไม่เคยสติหลุดขนาดนี้มาก่อน ไม่ว่าทาคิยะจะพูดจาดูถูกเหยียดหยามสักแค่ไหนก็ไม่เคยสะทกสะท้าน แต่ตอนนี้ใจมันร้อนรุ่มกรุ่นโกรธ.. ยิ่งนาทีที่เปิดประตูมาเห็นน้องชายกำลังจะทำมิดีมิร้ายคนตัวเล็กสติเขาเหมือนจะขาดสะบั้น!"ไม่มาจะรู้หรอว่าพี่ซุกเด็กเลี้ยงไว้" ตาคนพูดจ้องพี่อย่างท้าทาย ก่อนมองเลยไปยังคนข้างหลังด้วยแววตาวาววับเหมือนเจอของเล่นชิ้นใหม่ที่ถูกอกถูกใจ"
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 18'คนกำลังมีความรัก.. ไม่ว่าอะไรก็มองเห็นเป็นสีชมพู' ของขวัญไม่เคยเชื่อประโยคเปรียบเทียบเกินจริงนั้นเลยจนถึงตอนนี้ ทุกอย่างรอบตัวยังคงเป็นสีเดิม.. ท้องฟ้าดำมืดยามค่ำคืน ดวงดาวระยิบระยับลอยอยู่ไกลลิบตา โซฟาเบดสีน้ำตาลอ่อนตัวเดิมบนดาดฟ้า หรือแม้แต่ดอกไม้ใบหญ้าในกระถาง.. ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งสีมันก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม เพราะงั้นเธอคอนเฟิร์มว่าประโยคข้างต้นมัน 'จกตา' ไม่เป็นความจริงเลยสักนิดเพราะ 'ความรู้สึกจริงๆ ของคนมีความรัก' ที่วันนี้เธอได้สัมผัสกับตัวเอง อย่างแรกเลยก็คือหุบยิ้มไม่ได้.. กับแค่นอนดูดาวเฉยๆ ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ราวกับบนฟ้านั้นมีอะไรตลกนักหนา ต่อมาก็เป็นความรู้แปลกประหลาดในอก เดี๋ยวก็ใจเต้นแรง วาบหวิว จั๊กจี้แต่บางทีก็อิ่มเอมและอบอุ่นผสมปนเปกันไปตามสถานการณ์ สุดท้ายเลยคือความประหม่า เขินอายไม่เป็นตัวของตัวเองและไม่กล้าสบตาอีกฝ่ายนานๆ ทุกอย่างที่กล่าวมามันไม่ได้เกิดพร้อมกันในตอนอยู่คนเดียว กลับกันดันถาโถมหมดทุกอย่างเมื่อได้อยู่ต่อหน้าคนที่รัก.."วันนี้ไม่มีมาร์การิต้าหรอคะ" ของขวัญเอ่ยถามยิ้มๆ ทีเล่นทีจริงเมื่อเห็นว่าของว่างบนโต๊ะ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ) เป็นเวลากว่าสามเดือนที่โทโมยะและของขวัญใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น ด้วยเจตนารมณ์ของเขาที่หมายมั่นจะสละตำแหน่งหัวหน้าแก๊งคาชิมะให้ผู้เป็นน้องชาย เมื่อเรื่องร้ายๆ ผ่านพ้นไปเวลาที่เหลือเขาจึงเริ่มเดินหน้าสอนงานน้องอย่างเต็มกำลังและขีดเส้นตายไว้ว่าภายในสองปีทาคิยะจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับให้ได้ นั่นทำให้อีกฝ่ายแอบมาโอดครวญให้ร่างบางฟังบ่อยๆ ว่าผู้เป็นพี่เคี่ยวเข็ญอย่างกับจะพาไปแข่งโอลิมปิก ได้ยินแล้วก็ขำแต่คงจะช่วยอะไรไม่ได้นอกจากคอยรับฟังหลังช่วงทดลองงานสามเดือนของทาคิยะผ่านพ้นไปทั้งคู่ก็บินกลับประเทศไทย ปล่อยให้ว่าที่ผู้นำคนต่อไปหยัดยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง แต่ไม่เชิงว่าโดดเดี่ยวเพราะเขามีทั้งคนสนิทและผู้ช่วยมือดีหลายคน ด้วยเหตุนี้งานของคาชิมะที่โทโมยะทำอยู่เลยพลอยลดน้อยลงไปด้วย แม้ไม่ถึงกับหมดแต่เขาก็มีเวลาเหลือพาของขวัญไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาตามที่เคยสัญญากันไว้ในตอนก่อนไปญี่ปุ่น เขาพาเธอไปไหว้พ่อแม่เขาเธอเองก็พาเขาไปไหว้พ่อแม่เธอเหมือนกันเรียกได้ว่าชีวิตในช่วงนี้ดี๊ดีและมีความสุขแบบสุดๆ แม้จะยังไม่มีเหตุการณ์ประมาณว่าขอเป็นแฟนหรือบอ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 26โชคดีที่ของขวัญไม่ได้ถูกร่างสูงกินแทนข้าวเย็นเพราะแค่รอบเดียวในบ่อน้ำพุช่วงล่างก็เจ็บเสียดจนกลายเป็นคนเดินช้าและเดินนุ่มนวลไปแบบเขินๆ อย่างในตอนนี้ที่กำลังเดินตามอีกฝ่ายไปยังห้องอาหารก็มีหลายครั้งที่เขาต้องชะลอฝีเท้าเพื่อให้เธอตามทัน แน่นอนว่าเขารู้ถึงสาเหตุวัดได้จากสายตาวาววับที่มองมาเดิมทีของขวัญคิดว่าเพื่อนร่วมโต๊ะทานมื้อค่ำจะมีแค่ทาคิยะคนเดียว รวมเธอกับร่างสูงก็เป็นสามคน แต่พอประตูไม้เนื้อดีถูกเลื่อนออกถึงได้รู้ว่าบรรยากาศมันผิดจากที่คิดไว้มาก ภายในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่นี้มีจำนวนบุคคลด้านในไม่ต่ำว่าสิบคน!ทุกคนล้วนอยู่ในชุดสบายๆ อย่างยูกาตะและล้วนเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างจะมีอายุ.. เสียงพูดคุยกันอย่างออกรสชาติในตอนก่อนหน้าเงียบกริบลงไปในทันทีที่โทโมยะพาเธอเข้ามา ทุกสายตาไม่ได้ผ่านการนัดหมายแต่พวกเขาพากันมองผู้มาใหม่ทั้งสองสลับกันอย่างพร้อมเพรียง"อ้าวพี่ มาๆ มานั่งนี่เลยครับ" ทาคิยะเป็นคนดึงความสนใจของทุกคน เขารีบลุกจากเบาะรองนั่งนุ่มๆ บนพื้นมานำทางให้ทั้งคู่ไปนั่งลงบนหัวโต๊ะที่ได้จัดเตรียมที่ทางไว้ให้ตั้งแต่แรก สายตาทุกคู่ยังคงจับจ้อง
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 25"อะ อื้ม~" ท้ายทอยเล็กถูกมือใหญ่รั้งเข้าหา ประกบจูบลงไปบนริมฝีปากแดงเรื่อ ดูดซับความนุ่มนิ่มที่ด้านนอกเบาๆ ก่อนสอดแทรกเรียวลิ้นคว้านลึกเข้าไปข้างใน ร่างบางเปิดปากให้อย่างรู้หน้าที่ แม้จะยังไม่ประสาแต่ก็สมยอมตอบรับสัมผัสของร่างสูงด้วยความเต็มใจทุกครั้งเผลอไผลไปกับรสจูบครู่เดียวร่างเพรียวบางก็ถูกยกตัวลอยเปลี่ยนท่ามานั่งคร่อมตักในสภาพล่อแหลมยิ่งกว่าเดิม มือใหญ่วางลงบนสะโพกอวบ บีบเคล้นเบาๆ ก่อนลูบไล้ขึ้นมาตามเอวคอดกิ่วจนถึงแผ่นหลังเนียนนุ่ม ชั่วอึดใจก็กอดรั้งคนบนตักเข้ามาแนบชิด บดเบียดร่างกายเข้าหากันจนไม่เหลือพื้นที่ว่าง ทรวงอกอวบขาวเบียดชิดแผงอกล่ำ หน้าท้องแบนราบแนบแน่นไปกับลอนซิกแพค ช่วงล่างแข็งขืนเสียดสีอยู่กับช่องทางอ่อนนุ่มที่ยังคงปิดสนิท วงแขนแกร่งที่โอบกอดเอวบางขยับโยกตัวเธอขึ้นลงเป็นจังหวะเนิบนาบ.. จงใจให้อะไรๆ มันบดเบียดพอให้หวาดเสียวท้องน้อยเล่นๆ"อะ อ๊ะ อื้อ.." หลังถูกครอบครองไปหลายต่อหลายครั้งในที่สุดริมฝีปากบางที่เริ่มบวมเจ่อก็ถูกปล่อยเป็นอิสระ ของขวัญรีบกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดอย่างหิวกระหาย สองมือจิกเกร็งอยู่บนไหล่กว้างเมื่อเขาเปลี่ย
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 24หลังจากปลดคาวามูระและพรรคพวกออกจากตำแหน่งโทโมยะก็ค่อนข้างจะวุ่นๆ นิดหน่อยเพราะต้องเรียกตรวจสอบ ประเมินความเสียหายและทำการปรับเปลี่ยนหัวหน้าเขตคนใหม่เข้ามาดูแลแทน รวมทั้งทำการรื้อระบบเก่าที่อีกฝ่ายเคยจัดการดูแลทิ้งแล้ววางระบบใหม่เข้าไปแทนที่ รวมๆ แล้วหลายปีที่ผ่านมาคาชิมะถูกมันโกงกินไปไม่น้อย ยังไม่รวมเรื่องที่แอบค้ายาและค้ามนุษย์พื้นที่ที่เป็นกฎต้องห้ามของแก๊งอีกตอนแรกก็สงสัยว่าคนๆ เดียวที่ภรรยาจากไปนานแล้วมีภาระแค่ส่งเสียลูกสาวเรียนเมืองนอกแค่คนเดียวมันจะจำเป็นต้องใช้เงินมากอะไรขนาดนั้น แต่พอขุดไปขุดมาถึงได้รู้ว่ามันติดการพนัน ติดเหล้าติดยาและติดผู้หญิงอย่างหนัก เงินที่ได้ไปก็เอาไปลงกับอบายมุขพวกนั้นทั้งหมด ลูกแทบจะไม่เหลียวแล!แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย หลังจากที่ถูกพาตัวไปขังไว้ในคุกมืด.. สถานที่ที่มีไว้เพื่อกักขังคนทรยศ สองวันให้หลังร่างสูงก็ได้รับรายงานว่าผู้เป็นอาได้หลบหนีความผิดด้วยการใช้เข็มขัดผูกคอตัวเองกับลูกกรงสิ้นใจก่อนที่จะโดนเจ้าทาคิยะสำเร็จโทษไปก่อนแล้ว สภาพศพไม่น่าดูเท่าไรเพราะก่อนหน้านั้นคนของเขาที่สั่งให้คอยเฝ้าหน้าค
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 23"ฮ่าๆ ๆ เงินตั้งห้าสิบล้าน พี่แกยังกล้าโอนมาให้ฉัน ง่ายๆ แลกกับชีวิตไร้ค่าของแก ไม่น่าเชื่อ.. ฉันอุตส่าห์เป่าหูพวกแกให้เกลียดกันเพื่อหวังจะให้พวกแกหันมาฆ่ากันเอง แต่แม่งคงจะไม่มีวันนั้น.. เพราะแกมันโง่ทาคิยะ! แกมันขี้ขลาด! เหอะ คนแบบนี้น่ะหรออยากจะขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊ง ถุ้ย! ฝันกลางวันอยู่หรือไงไอ้เด็กเหลือขอ! " เสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นมาด้วยความสะใจเมื่อลูกน้องเข้ามารายงานว่าได้รับเงินเรียกค่าไถ่จากหลานชายคนโตเรียบร้อย ก่อนที่น้ำเสียงหยามเหยียดจะพ่นคำดูถูกใส่หลานชายคนเล็กพร้อมกับยืนจ้องมองด้วยสายตาเกลียดชัง"สารเลว.. พวกผมเป็นหลานของอานะ! " คนที่ถูกจับมัดนั่งบนเก้าอี้ในสภาพสะบักสะบอมเลือดโชกขบกรามแน่นด้วยความโกรธจัด ถามหาความเมตตาลมๆ แล้งๆ จากคนที่มีสายเลือดร่วมกันครึ่งหนึ่งด้วยความเจ็บใจ กว่าจะรู้สึกตัวว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือชำระความแค้นก็เสียรู้จนหมดสภาพ"หลานหรอ ฮ่าๆ ๆ ฉันนับญาติกับพวกแกที่ไหนกันเล่า ฉันเกลียดไอ้คาสึยะพ่อของแก เกลียดแก เกลียดพี่ชายของแก! พวกแกมันมารชีวิต! ถ้าไม่มีพวกแกทุกสิ่งทุกอย่างก็จะต้องเป็นของฉัน!! " คาวามูระระเบิดอารมณ์
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 22"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าไม่ดีเลย" องศาถามขึ้นในตอนที่เดินทางกลับ เพราะคนตัวเล็กนั่งเงียบมาตลอดทางตั้งแต่ออกจากร้านอาหารตามสั่งของพราวแล้ว สีหน้าก็ดูจะไม่สู้ดีนัก"เปล่าค่ะ ก่อนกลับพี่องศาพาขวัญแวะทำบุญหน่อยนะคะ" ของขวัญบอกปัดอย่างที่คิด แต่คนฟังก็ไม่ได้เซ้าซี้จะรู้ให้ได้ ทำเพียงพยักหน้ารับและแวะเข้าวัดตามคำสั่งเมื่อได้ทำบุญจิตใจที่ว้าวุ่นของร่างบางก็พอจะสงบลงมาได้บ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังแอบคิดอยู่.. ก็เรื่องของแป้งนั่นแหละ ไม่เชิงว่ารู้สึกผิดไปเสียทีเดียว แต่เป็นความสงสารและเห็นใจมากกว่า ในฐานะคนที่เคยแอบรักเขามาเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้กรณีของเธอก็ยังไม่เรียกว่าสมหวังนะ แค่ก้าวหน้ามากขึ้นเท่านั้น.."นี่.." น้ำเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยเรียกสติคนเหม่อให้หันมามอง แล้วก็ต้องแปลกใจว่าอีกฝ่ายกลับมาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตัว.."..มาตั้งแต่เมื่อไรคะเนี่ย" เมื่อพิจารณาดีๆ แล้วของขวัญก็ต้องตกใจซ้ำอีก เพราะร่างสูงนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน เธอควรจะรู้สึกตัวบ้างเวลาพื้นโซฟามันยุบตามน้ำหนักเขา นี่ต้องเหม่อขนาดไหนถึงได้ไม่รู้สึกอะไรเลย.."ก็นานพอที่จะ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 21"ตกลงอยากกินอะไร" ร่างสูงถามย้ำอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบตอนถามไปครั้งแรก คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองด้วยรอยยิ้มแห้งๆ เมื่อรู้ตัวว่าละเลยคำถามของเขา ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ อย่างพิจารณา"อืม.. ขอเดินดูก่อนได้มั้ยคะ"แต่สุดท้ายก็ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ เพราะตลาดนัดกลางคืนแห่งนี้มีร้านอาหารเยอะมาก จนไม่สามารถเลือกได้ง่ายๆ มีทั้งร้านแบบที่เป็นร้านจริงๆ และเป็นโต๊ะเก้าอี้ตั้งข้างทางเดิน อาหารมากหน้าหลายตาที่คุ้นเคยถูกวางขายเรียงรายจนเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไรดี.. จริงๆ เธอไม่อยากเข้าร้านหรูๆ ดูดีสักเท่าไร เพราะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ตอนที่เคยไปเดินตลาดกับแม่เลยอยากนั่งร้านข้างทางมากกว่าทั้งคู่พากันออกเดินด้วยความตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะของขวัญ เธอพาคนตัวสูงแวะร้านนู้นร้านนี้ที่มีทั้งของกินและของใช้ที่น่าสนใจวางขาย ซึ่งจนแล้วจนรอดก็ไม่ได้กินข้าวกันสักทีเพราะเดินกินแต่ของว่าง ไส้กรอกบ้าง ขนมบ้าง น้ำหวานบ้างกะจุกกะจิกไปตลอดทาง แต่คนที่มาด้วยก็ไม่ได้ขัด ออกจะยิ้มบางเสียด้วยซ้ำเวลาที่เห็นแววตาเปล่งประกายและรอยยิ้มกว้างจนตาหยีของคนตัวเล็ก เขาคิดถูกที่พาเธอมาที่นี่ตามคำ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 20"คะ คุณโทโมยะ.. อย่าค่ะ.." ของขวัญร้องห้ามปากคอสั่น เสียงขาดห้วงลมหายใจติดขัดเมื่อคนที่อุทิศตนเป็นเบาะรองนั่งให้ไม่ยอมอยู่เฉย.. เอาคางเกยบนศีรษะหรือจูบหอมมันเธอก็พอจะยอมได้ แต่ตอนนี้ริมฝีปากกับลมหายใจร้อนผ่าวของเขาเริ่มเลื้อยลงต่ำมาที่ท้ายทอยและซุกไซ้ลำคอของเธออย่างซุกซน"อะ อื้อ.. คุณ.." คำร้องห้ามมีผลลัพธ์ไปในทางที่เลวร้ายกว่าเดิมเมื่อไม่ใช่แค่จมูก ริมฝีปากหรือลมหายใจร้อนที่รุกรานร่างกายเธออีกต่อไป มือใหญ่ที่วางประสานกันอยู่ตรงหน้าท้องแบนราบเริ่มเลื้อยขึ้นมาจนถึงหน้าอก ความนุ่มนิ่มของก้อนเนื้อตรงนั้นดึงดูดให้เขาออกแรงบีบขย้ำมันอย่างเต็มไม้เต็มมือและ.. เต็มใจ! แม้จะมีเนื้อผ้าขวางกั้นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีน้อยลง มือบางวางทับลงบนหลังมือใหญ่หมายจะดึงออกไปทว่าเรี่ยวแรงไม่รู้หายไปไหน ยิ่งอีกฝ่ายบีบแรงเท่าไรพละกำลังของเธอก็ยิ่งหดหายลงไปเรื่อยๆ เขาเป็นตัวสูบพลังหรือไงเนี่ย.."อ๊ะ คุ๊ณ~" เสียงหวานเหินสูงด้วยความตกใจเมื่อยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ มืออีกข้างของเขาเลื่อนต่ำลงไป ลากผ่านท้องน้อยและมุดเข้าใต้ชายชุดคลุมอาบน้ำที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อเช้า ของขวัญดิ้น
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 19โทโมยะตื่นก่อนในเช้าวันถัดมา.. คนข้างกายยังคงหลับสนิท ใบหน้าซีดขาวกว่าปกตินั้นทำให้เขาต้องวางมือลงบนหน้าผากเนียนเพื่อวัดไข้ เมื่อพบว่าปกติดีก็ก้าวลงจากเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างคนหลับก่อนเดินมาเก็บเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ข้างเตียงไปใส่ในตะกร้าให้เรียบร้อยแล้วทำการอาบน้ำแต่งตัว ภายนอกที่ดูเฉยชาเป็นปกติแต่ใครจะรู้ว่าในหัวเขามีแต่เรื่องเมื่อคืนวนเวียนอยู่ตลอด.. ไม่รู้ว่ามันเร็วหรือช้าไปสำหรับความสัมพันธ์เรียบเรื่อยของเขากับร่างบาง แต่เขาก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้ ชอบความรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ ที่หัวใจทุกทีที่คิดถึง..ร่างสูงยังคงมีงานล้นมืออีกเช่นเคย แต่วันนี้เขายกเลิกงานหรือนัดที่ต้องเดินทางออกไป เหลือไว้เพียงงานเอกสารแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น นั่นเพราะตั้งใจจะหยุดดูอาการของ 'เมียเด็ก' เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเขามาดูดำดูดีจะเป็นเรื่อง..ของขวัญตื่นขึ้นมาในช่วงสาย.. แน่นอนว่าร่างกายปวดร้าวไปทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะขยับมากหรือน้อยก็ระบมไปหมด ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ มองเพดานกว้างสักพัก ภาพและเสียงทุกฉากทุกตอนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ แจ่มชัดในความรู้สึ