มาเฟียจ้าวชีวิต
Writer : Aile'N
ตอนที่ 13
"น้องขวัญ! แป้งจะล้นชามแล้วครับ! " เสียงตะเบ็งของคนสนิททำร่างบางที่กำลังเทแป้งเค้กลงในภาชนะถึงกับสะดุ้งโหยงหลุดออกจากภวังค์ ทำหน้าเหรอหราก่อนจะรีบตักแป้งส่วนเกินที่เทล้นออกมากลับใส่ถุงตามเดิม แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะขำเบาๆ จากเชฟ ผิดกับองศาที่ขำไม่ลงเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ของขวัญสติหลุดลอยไปไกล แต่นานวันยิ่งหนักขึ้นๆ เลยต่างหาก
สาเหตุไม่แน่ชัดแต่ก็คงไม่ยากเกินความคาดเดา.. ร่างบางเริ่มเหม่อ หน้าตาหม่นหมอง บางทีก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนนึกคิดอะไรอยู่คนเดียวบ่อยๆ นับตั้งแต่เจ้านายเขาไม่อยู่ ตอนแรกก็คิดว่าไปไม่กี่วันคงจะกลับแต่พอดีเกิดเรื่องใหญ่เข้าก็เลยต้องอยู่ยาว ซึ่งนี่ก็กินเวลาไปอาทิตย์กว่าแล้ว
"ถ้าเหนื่อยเรากลับไปพักดีมั้ยครับ ขนมพวกนี้พี่กับเชฟกินจนน้ำหนักขึ้นแล้วนะ ไม่ต้องทำทุกวันก็ได้" องศาเอ่ยชวนพร้อมกับแอบบ่นหน่อยๆ เรื่องขนมหวานที่ร่างบางพยายามหัดทำ เพราะไม่ใช่วันเว้นวันเหมือนก่อน วันที่ต้องทำความสะอาดห้องพอทำเสร็จเธอก็จะมาขลุกตัวอยู่ในครัวเพื่อให้เชฟสอนทำนู่นทำนี่ตามใจอยาก แทนที่จะเอาเวลาไปพักผ่อน เขาพยายามชวนไปเที่ยวก็ส่ายหน้าดิกไม่ยอมไป
"ขวัญบอกพี่แล้วไงคะว่าขอทำเค้กก่อน" เสียงหวานติดงอนท้วงกลับมาเพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่ร่างสูงบอกให้เธอไปพักเช่นกัน
"ก็เหม่อจนเทผิดเทถูกขนาดนี้แล้วทำต่อจะมีสมาธิได้ยังไงล่ะครับ ไม่รู้ใจลอยไปหาใคร" องศาบ่นเสียงอ่อน ไม่วายแอบแซะคนฟังในตอนท้าย เป็นเหตุให้ถูกดวงตากลมโตปราดมองมาอย่างรวดเร็ว
"ก็ได้! ไปพักก็ได้ค่ะ! สวัสดีค่ะเชฟ" ด้วยความหมั่นไส้คนขี้แกล้งของขวัญก็ประชดกลับด้วยการวางมือจากทุกอย่าง ถอดถุงมือกับผ้ากันเปื้อน ปัดแป้งออกจากตัวลวกๆ แล้วหันไปกล่าวลาเชฟ ก่อนจะเดินออกไปหน้าตาเฉย ทิ้งให้ทั้งคนสนิทและเชฟทำหน้าเหรอหรามองตามไปอย่างตกใจ เพราะบทจะยอมก็ยอมง๊ายง่าย! แม้จะยอมแบบประชดประชันก็เถอะ =_="
ติ๊ง!
สองเท้าเล็กๆ ที่กำลังก้าวเดินตรงไปที่ลิฟต์เพื่อกลับขึ้นห้องเป็นอันต้องชะงักเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกับปรากฏร่างสูงใหญ่ของคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมากว่าหนึ่งอาทิตย์ก้าวเดินออกมา ดวงตาทั้งสองคู่มองสบกันโดยอัตโนมัติ ร่างบางหัวใจพองโตแย้มยิ้มออกมาด้วยความดีใจแต่เพียงไม่นานก็ต้องหุบกลับมาทำหน้านิ่ง เดินผ่านอีกฝ่ายไปที่ลิฟต์โดยไม่คิดจะทักทายใดๆ
"เฮ้.. เป็นอะไร" มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กไว้ได้ทันก่อนที่ร่างนั้นจะหายเข้าไปในลิฟต์ องศาเริ่มรู้ตัวว่ากลายเป็นส่วนเกินแล้วจึงถอยกลับไปที่ครัวเพื่อให้ทั้งคู่ได้อยู่ตามลำพัง เนื่องจากข้างกายเจ้านายตอนนี้ไม่มีเงาอากิกับเซย์โนะอยู่เช่นเดียวกัน
"ว่าไง เดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวหน้างอคืออะไร" เสียงต่ำเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะแว้บแรกที่ร่างบางเห็นเขาเธอยิ้มเหมือนดีใจ แต่เพียงไม่นานก็หุบฉับทำหน้าบึ้งเหมือนไม่พอใจแทน อาการแบบนั้นมันคืออะไรกันล่ะ
"คุณบอกว่าไปไม่กี่วัน.." ของขวัญยืนนิ่ง เงียบไปชั่วอึดใจก็พูดอ้อมแอ้มในลำคอ แว้บแรกเธอยอมรับว่าดีใจที่เห็นหน้าเขาแต่ก็ไม่พอใจที่เขาหายไปเป็นอาทิตย์ทั้งที่บอกไปไม่กี่วันก็กลับ ไม่มีการติดต่อใดๆ ปล่อยให้เธอรอเก้อ..
"คิดถึงฉันหรอ? " แทนที่คนตัวใหญ่จะแก้ตัวหรืออธิบายอะไรกลับมา เขากลับถามไปอีกอย่างหน้าตาเฉย ทำให้คนฟังที่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจตั้งรับคำพูดอะไรแบบนั้นเหรอหราไปต่อไม่ถูก
"เธอจะคิดถึงฉันก็ได้นะ.." มือที่จับกันอยู่ปล่อยออก ก่อนกลับไปล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบอะไรบางอย่างออกมา ของขวัญยืนมองตามอย่างสงสัย ความสนใจของเธอไม่ได้โฟกัสไปที่คำพูดนั้นของเขาอีกเมื่อมองเห็นสิ่งที่มือใหญ่ถืออยู่ กระทั่งมันถูกเอื้อมมาติดลงบนผมของเธอ
"...เพราะฉันเองก็คิดถึงเธอเหมือนกัน" เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยต่อประโยคยาวจนจบก่อนจุดยิ้มเล็กๆ ขึ้นที่มุมปาก คำพูดนั้นเหมือนคำสาปที่ทำให้ร่างคนฟังยืนแข็งทื่อเป็นหิน เย็นเฉียบแค่ชั่วสายลมพัดผ่านก่อนเกิดมวลความร้อนไหลเวียนไปทั่วร่างโดยเฉพาะใบหน้า
"พ่อฉันเสียน่ะ ก็เลยกลับช้า" โทโมยะแอบยิ้มขำคนเสียอาการนิดๆ ก่อนอาศัยตอนที่อีกฝ่ายกำลังอึ้งมองสำรวจใบหน้าสวยอย่างละเอียด ซึ่งมองไม่เห็นความสดใสเลยแม้แต่น้อย..
"อะ.. อ่า เสียใจด้วยนะคะ" ของขวัญรู้สึกตัวพลันหลบสายตา ละล่ำละลักพูดออกมาทั้งที่ยังไม่อยู่กับร่องกับรอยดีนัก ความขุ่นเคืองมันหายไปตั้งแต่ได้ยินคำว่า 'คิดถึง' แล้ว ยิ่งได้รู้เหตุผลของการกลับช้าก็ยิ่งรู้สึกผิดเพราะถ้าเธอรู้ว่าพ่อเขาเสียเธอคงจะเข้าใจมากกว่านี้
"ยังโกรธฉันอยู่หรือเปล่าล่ะ" คนถูกถามส่ายหนาระรัวผมกระจายก่อนลอบช้อนตาขึ้นมองคนถามด้วยความรู้สึกผิด
"กิ๊บอันนี้เป็นของแม่ฉันเอง.. เหมาะกับเธอดี ฉันให้" ตาคมมองเลยจากใบหน้าสวยขึ้นมาบนศีรษะเล็ก ก่อนลดสายตากลับลงมามองสบตากันอีกครั้ง
"ของแม่หรอคะ? แล้ว.. เอามาให้ขวัญจะดีหรอคะ นี่มันของสำคัญ.." ร่างบางตกใจเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เขาให้มาเป็นของมารดาที่เสียไป เขารักแม่มากสิ่งนี้ก็น่าจะสำคัญกับเขามากสิ ทำไมถึงเอามาให้เธอได้
"สำคัญก็เก็บรักษาให้ดีๆ ทำหายแม่ฉันมาหักคอไม่รู้ด้วยนะ" ร่างสูงแกล้งขู่ มองคนฟังอย่างตลกขบขันเมื่อดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ
"งะ งั้นเอาคืนไปเลยค่ะ ขวัญไม่เอา! " ของขวัญกลัวผีที่สุดในสามโลก พอเขาพูดแบบนั้นเธอเลยกลัวขึ้นมาจริงๆ พยายามจะแกะกิ๊บคืนกลับให้ แต่มือใหญ่ยกห้ามไว้ก่อนระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น
"คุณ! ? หัวเราะอะไร ขวัญกลัวจริงๆ นะคะ! " เสียงหวานตะเบ็งถามคนตัวใหญ่ดังๆ เพื่อให้เขาหยุดฟัง จริงอยู่ว่าพ่อกับแม่เธอก็เสียไปแล้วแต่เธอรักมากเกินกว่าที่จะกลัวพวกท่าน ผิดกับคนอื่นที่ไม่รู้จัก ถึงแม่เขาจะดูท่าทางใจดีแต่บอกเลยว่าเวลาเข้าไปทำความสะอาดในห้องของเขาเธอก็ยังกลัวๆ อยู่ตลอด
"หึหึ ฉันหยอกเล่น" มือใหญ่วางแหมะลงบนศีรษะเล็กก่อนโยกปลอบไปมาเบาๆ แต่กลับถูกร่างนั้นแยกเขี้ยวใส่ด้วยความขุ่นเคือง
"กินข้าวหรือยัง? " โทโมยะถามต่อ คนที่กำลังแอบทำปากมุบมิบบ่นเขาเรื่องก่อนเลยต้องหยุดการกระทำ ครั้นคว้ามือหาโทรศัพท์เพื่อจะเอามาดูเวลาก็ไม่เจอ สงสัยลืมไว้บนห้องเลยถือวิสาสะคว้ามือใหญ่ข้างที่มีนาฬิกาขึ้นมาดูแทน
"จะห้าโมงแล้วหรอคะ! ? " เสียงหวานโพล่งถามอย่างตื่นตระหนก เพราะถ้าตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้วก็แสดงว่าเธอรบกวนเชฟเกินเวลาไปมากโขเลยทีเดียว อีกฝ่ายก็ไม่ท้วงอะไรเลยให้ตายสิ!
"ตกใจอะไร ตกลงหิวหรือไม่หิว" ร่างสูงมองคนตรงหน้าอย่างงงๆ ก่อนถามเร่งเพราะเขากำลังหิวมากเนื่องจากไม่ได้กินข้าวเที่ยง คนถูกถามกรอกตาคิดเล็กน้อยก่อนพยักหน้า ความจริงเธอยังไม่หิวเท่าไรแต่ถ้าเขาพูดแบบนี้ก็อาจเป็นไปได้ว่าเขากำลังชวนเธอไปกินข้าวด้วย โอกาสแบบนี้ใครจะไม่คว้าไว้ล่ะ
"อยากกินอะไร" คนหิวเอ่ยถามด้วยท่าทีสบายๆ ไหนๆ ก็มีความผิดนิดหน่อยที่กลับช้าเลยตามใจให้อีกฝ่ายเป็นคนเลือก
"ออกไปกินข้างนอกได้มั้ยคะ" ของขวัญฉีกยิ้มแห้งๆ เพราะไม่รู้คำขอจะเป็นผลไหมแต่ก็พยายามใช้สีหน้าสายตามองอ้อนอย่างมีความหวัง ก็เธอเบื่อที่จะนั่งกินข้าวในห้องแล้วนี่นา..
"เอาสิ.. อยากไปไหนล่ะ" โทโมยะมองดวงตาใสแจ๋วที่พยายามออดอ้อนเขาอย่างอารมณ์ดี การตามใจใครสักคนมันก็ไม่ได้แย่..
"ขวัญอยากกินหมูกระทะ! " ร่างบางยิ้มกว้าง บอกสิ่งที่ต้องการออกมาอย่างไม่เกรงกลัวว่าจะผิดหวังเลยสักนิดเพราะเจ้าพ่อมาเฟียที่มีคนติดตามกันเป็นขบวนกับร้านแบบนั้นมันช่างไม่เข้ากันเอาเสียเลย แต่เขาอนุญาตแล้วนี่นา คืนคำไม่ได้นะ!
"หึ ล้อฉันเล่นหรือไง" ร่างสูงยิ้มอ่อน หรี่ตามองคนตัวเล็กราวกับจะจับผิดว่าไม่ได้ถูกเธอแกล้งอยู่ใช่หรือไม่
"เปล่านะคะ ขวัญอยากกินจริงๆ ไหนคุณบอกว่าได้ไง เพิ่งรู้ว่ามาเฟียไม่มีสัจจะ! " ของขวัญทำหน้างอ ตัดพ้อโทโมยะในตอนท้ายอย่างขุ่นเคืองที่เขาทำเหมือนจะไม่ไปทั้งที่อนุญาตแล้วแท้ๆ
"หึหึ ก็ได้ แต่ไม่มีเดลิเวอรี่หรือไง สั่งมากินที่นี่ก็ได้มั้ง" คนถูกประชดประชันหัวเราะขำอย่างเอ็นดู ก่อนเสนอทางเลือกใหม่เพราะเขาไม่ถนัดไปที่ที่มีคนเยอะๆ แบบนั้นเท่าไร
"แต่.. ไปกินที่ร้านมันได้บรรยากาศมากกว่านี่คะ คุณก็ไม่ต้องพาลูกน้องไปก็ได้ แล้วสูทนี่ก็ถอดออกให้หมด ทำตัวให้กลมกลืนกับคนอื่นก็ไม่มีใครสนใจแล้วล่ะค่ะ" คนฟังได้แต่ยืนกอดอกเอียงคอมองคนพูดอย่างขบขัน ไม่รู้อะไรทำให้อีกฝ่ายงอแงจะไปให้ได้ท่าเดียวแบบนี้ กล้าขึ้นเยอะ แต่ก็ไม่ได้แย่..
"ก็ได้.. งั้นไปแต่งตัว" สุดท้ายเขาก็ต้องเป็นฝ่ายยอมจำนน
"เย้!! ขอบคุณค่ะ^^" คนถูกตามใจกระโดดดึ๋งๆ แสดงอาการดีใจเหมือนเด็กอย่างลืมตัว
"ไหนรางวัล? " ดีใจได้ไม่ถึงนาทีก็เป็นอันต้องชะงักเมื่อคนตัวใหญ่ถามถึงรางวัลด้วยสายตาคาดหวัง
"คราวนี้ไม่เอาตรงลูกกะเดือกแล้วนะ" โทโมยะยกยิ้มกริ่ม มองท่าทีเอียงอายของคนแก้มแดงอย่างขบขันเมื่อพูดถึงเรื่องในวันนั้น ของขวัญยืนทำใจชั่วครู่ก็ก้าวเข้าไปใกล้ร่างสูง ก่อนตัดสินใจกระโดดจุ๊บเข้าที่ริมฝีปากหนาเบาๆ แล้วรีบหมุนตัววิ่งหนีหมายจะขึ้นบันไดแทนลิฟต์ เพราะถ้าไปทางลิฟต์กว่ามันจะเปิดจะปิดก็ต้องทนกับสายตาหรืออาจจะเป็นคำพูดล้อเลียนจากเขา
หมับ!
"อ๊ะ อื้อออ!! ? " แต่ทว่าคนที่คิดว่าตัวเองเร็วที่สุดในการหลบหนีแล้ว กลับมีอีกคนที่เร็วกว่าคว้าจับข้อมือเล็กไว้ได้ทันก่อนดึงกลับมาเผชิญหน้า สอดมืออีกข้างรองท้ายทอยเล็กแล้วรั้งเข้ามาประทับจูบ..
ของขวัญเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ไม่คาดคิดว่าโทโมยะจะทำแบบนี้ เขาไม่เพียงจูบเด็กๆ แค่ปากแตะกันเหมือนเธอ แต่บดคลึงความนุ่มชื้นลงมาบนริมฝีปากอย่างเนิบนาบนุ่มนวล.. หัวใจดวงเล็กๆ ที่ไม่เคยประสบพบเจอเรื่องแบบนี้กำลังสั่นไหวด้วยความตื่นเต้นระคนประหม่าอาย ถ้าเป็นก่อนที่จะรู้ใจตัวเองเธอคงจะทำอะไรสักอย่าง เช่น ขัดขืนหรือผลักเขาออกไป แต่ตอนนี้เธอกลับพยายามตอบรับสัมผัสนั้นทั้งที่ไม่เคยจูบกับใครมาก่อน อาศัยภาพที่เคยเห็นในละครทีวีที่แม่ชอบดูเป็นตัวอย่าง
"อึก.. แฮ่ก.."
"จูบจริงๆ มันแบบนี้ต่างหาก" น้ำเสียงต่ำพร่ากว่าปกติเอ่ยเย้าก่อนตวัดลิ้นเลียริมฝีปาก จ้องมองคนตัวเล็กตาวาววับหลังปล่อยเธอเป็นอิสระ มือแกร่งถูกเก็บกลับมาล้วงกระเป๋ากางเกง ยืนยิ้มกริ่มอย่างไม่สะทกสะท้านอะไรในขณะที่อีกฝ่ายยืนหอบหายใจจนตัวโยน แก้มเนียนเห่อร้อน แดงจัดจนไม่เหลือพื้นผิวสีขาว ดวงตากลมโตหวานฉ่ำ ใบหน้าอ่อนระโหยโรยแรงบ่งบอกให้รู้ว่าจูบเมื่อกี้มันรู้สึกดีแค่ไหน
"ให้ไปส่งที่ห้องมั้ย? " ใครคนนั้นถามไถ่อย่างหวังดีเมื่อเห็นคนตรงหน้าเข่าอ่อนเหมือนจะทรงตัวไม่อยู่
"ขะ ขวัญกลับเอง! " เสียงหวานปฏิเสธความหวังดีติดขัด แก้มร้อนจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาคม เธอมองหาทางขึ้นบันไดเพื่อจะได้ไม่ต้องอยู่ใกล้อีกฝ่ายนานๆ แต่ไม่ทันได้ก้าวเดินไปก็ถูกมือใหญ่หิ้วปีกขึ้นพาเดินไปที่ลิฟต์ โชคดีที่มันแค่ชั้นเดียวไม่นานก็กลับถึงห้องท่ามกลางความขัดเขิน...ของเธอคนเดียวล่ะมั้งเพราะร่างสูงออกจะชิว...เกิ๊น~
ทั้งคู่แยกย้ายกันไปแต่งตัวใหม่ในห้องตัวเอง โทโมยะถอดเพียงสูทตัวนอกออกเท่านั้นเพราะถึงแม้ร่างบางจะบอกให้ทำตัวกลมกลืนกับคนอื่นยังไงเขาก็ไม่อาจใส่ชุดอื่นนอกจากนี้ได้เพราะรอยสักตามตัวมันเยอะไปหมด ถ้าเปิดเผยมากคงไม่พ้นตกเป็นเป้าสายตาคนเหมือนเดิม
เมื่อแต่งตัวเสร็จทั้งสองก็ออกเดินทาง โทโมยะเลือกที่จะขับรถเองและภายในรถก็มีแค่เขากับของขวัญเท่านั้น เหมือนจะไปกันแค่สองคนแต่ความจริงแล้วอากิกับเซย์โนะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น ขอติดตามมาห่างๆ ด้วยความเป็นห่วง เขาก็เลยปล่อยให้ตามเพราะไม่อยากขัดให้มากเรื่องมากราว
ใช้เวลาสักพักก็มาถึงร้านหมูกระทะที่ร่างบางรีเควส เห็นบอกว่าเป็นร้านประจำที่ชอบมากับแม่บ่อยๆ เธอนำทางและจัดการทุกอย่างเองทั้งหมด ร่างสูงได้แต่เดินตามไปอย่างเงียบๆ ตาคมกวาดมองสำรวจไปทั่วก่อนจะพบว่าวุ่นวายน้อยกว่าที่คิด คงเป็นเพราะร้านใหญ่ มีโต๊ะเยอะหลากหลายโซนให้เลือกนั่งได้ตามใจ
ของขวัญเลือกโต๊ะในโซนที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพื่อคนที่มาด้วย แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนรอบข้างในทุกที่ที่เดินผ่าน ด้วยความสูงชะลูดเกือบสองเมตร หน้าหล่อขรึมและหุ่นสุดเพอร์เฟ็คของคนข้างๆ ที่เหมือนหลุดออกมาจากนิตยสารชื่อดัง เธอรู้สึกคิดผิดที่บอกเขาทำตัวให้กลมกลืนกับคนอื่น เพราะความจริงแล้วคนอย่างเขาไม่สามารถกลมกลืนกับใครได้เลยจริงๆ =_="
ร่างบางอาสาจะไปตักอาหารเองให้คนตัวใหญ่นั่งเฝ้าโต๊ะแต่ด้วยความสงสารหรือเวทนาก็แล้วแต่ทำให้เขาไม่ยอมและลุกไปกับเธอด้วย ใช้เวลาสักพักอาหารสดก็ถูกวางเรียงรายเต็มโต๊ะ คนต้นคิดนั่งยิ้มจนแก้มปริ คอยหยิบจับย่างนู่นย่างนี่บริการให้ร่างสูงอย่างเต็มที่ เพราะคิดว่าเขาคงไม่ถนัดอะไรแบบนี้ อีกอย่างก็อยากจะตอบแทนความใจดีที่เขายอมตามใจด้วย..
แต่เธอไม่ได้ลืมหรอกนะว่าก่อนจะมาเกิดอะไรขึ้น! เธอยังคงเขินอายเวลาที่ต้องมองหน้าอีกฝ่ายตรงๆ เลยเลือกที่จะทำตัวให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ต่างหาก เขาเองก็ไม่ได้พูดถึง เพียงแอบยิ้มบ่อยและดวงตาก็ดูจะแพรวพราวมากกว่าปกติไปสักหน่อย.. เท่านั้นเอ๊ง!
"สักหน่อยมั้ย" เสียงทุ้มเอ่ยถามขณะยกเบียร์เย็นๆ เทลงแก้วตัวเอง ก็ถือว่าเขาไม่ได้เลือกกินเพราะเครื่องดื่มของที่นี่ก็มีแต่เกรดธรรมดาทั่วไป ไม่ได้หรูหรามีราคาแพงหูฉี่อย่างที่เขาดื่มประจำ
"ไม่ล่ะค่ะ คุณก็อย่าดื่มเยอะนะคะ ต้องขับรถกลับ" ของขวัญส่ายหน้า เธอสั่งแป๊บซี่ให้ตัวเองก่อนเบียร์ให้เขาอีก คิดว่าเธอจะอยากกินด้วยหรือยังไง
"แค่นี้ไม่เมาหรอกน่า" อีกฝ่ายบอกเสียงขบขัน เทเพิ่มอีกอย่างไม่ใส่ใจในคำเตือน เธอเชื่อนะเพราะเท่าที่เห็นเขาค่อนข้างจะดื่มเก่งพอตัวเลย ตู้เย็นในห้อง (ที่เคยแอบเปิดดู) นอกจากน้ำเปล่าแล้วก็มีแต่แอลกอฮอล์ยี่ห้อต่างๆ ที่เธอไม่รู้จักเต็มไปหมด ถ้าไม่มีน้ำอยู่ด้วยก็คงคิดว่ากินพวกมันแทนน้ำไปแล้ว
"อร่อยมั้ยคะ" ของขวัญเลียบๆ เคียงๆ ถามหลังเห็นคนตัวใหญ่คีบหมูชิ้นพอดีคำที่เธอเป็นคนย่างให้เข้าปากเป็นคำแรก
"ก็พอได้" คนถูกถามเลิกคิ้วมองกลับมาอย่างสงสัยเมื่อเห็นเธอเฝ้ารอคำตอบอย่างคาดหวัง ถึงจะไม่เคยกินหมูกระทะแต่เขาก็เคยกินพวกชาบูปิ้งย่างที่คล้ายๆ กัน รสชาติของมันเลยไม่ได้ทำให้รู้สึกแปลกใหม่อะไร ยกเว้นบรรยากาศที่อาจจะร้อนหน่อยเพราะนั่งอยู่หน้าเตาถ่าน แต่ก็ใช่จะไม่มีลมเพราะรอบข้างเปิดโล่ง แถมมีพัดลมตัวใหญ่ของทางร้านเปิดอยู่ตามจุดต่างๆ โดยรวมแล้วมันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด..
"อร่อยจะตาย.." คนฟังยู่หน้าด้วยความหมั่นไส้ แค่ตอบว่าอร่อยหรือไม่ก็ต้องมีฟอร์มด้วยหรอคนเรา
"พี่ครับ ช่วยซื้อหน่อยครับ" ระหว่างที่กำลังนั่งกินกันอยู่นั้น.. มีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ แต่งตัวมอมแมมเดินมาหยุดยืนข้างโต๊ะ ในมือถือตะกร้าขนาดพอดีตัวใบหนึ่ง ข้างในมีตุ๊กตาไหมพรมแฮนด์เมดถูกทำเป็นพวงกุญแจและที่ห้อยโทรศัพท์วางเรียงรายอยู่ เด็กน้อยมองทั้งคู่ด้วยสายตาคาดหวังทำคนขี้สงสารอย่างของขวัญไม่สามารถปฏิเสธได้แม้จะไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท
"ขายยังไงจ๊ะ" เสียงหวานเอ่ยถามพลางมองตุ๊กตาเหล่านั้นอย่างสนใจ พลอยทำให้เด็กชายมีความหวังรีบแจ้งราคาให้ทั้งคู่ทราบ
"ตัวละ 39 บาทครับ 2 ตัว 70" เสียงตอบใสแจ๋ว ทำคนฟังรับรู้ได้ถึงความรู้สึกดีใจของเด็กชาย เธอจึงรับช่วงต่อหันมาอ้อนให้คนที่มาด้วยซื้อให้
"คุณ~"
"หึ เอาสิ.. ซื้ิอให้" โทโมยะส่งเสียงหัวเราะในลำคออย่างขบขันระคนเอ็นดู เพราะดวงตากลมโตคู่นั้นไม่ต่างจากเด็กชายตอนที่มองเธออย่างคาดหวังเลยสักนิด
ของขวัญฉีกยิ้มกว้างทันทีเมื่อได้แบงค์ร้อยจากเขามาถือในมือ เธอหันไปเลือกตุ๊กตามาสองตัวเป็นที่ห้อยโทรศัพท์ลิงแก้มแดงชายกับหญิง ที่รู้ก็เพราะมีชุดกระโปรงกับกางเกงใส่ให้ด้วยอย่างน่ารัก
"ไม่ต้องทอนนะ" เสียงใสบอกเด็กชายอย่างใจดีพร้อมกับยื่นแบงค์ร้อยให้หลังได้ตุ๊กตาลิงมาสองตัว
"ขอบคุณครับ" เด็กชายยิ้มกว้าง ประนมมือไหว้อย่างนอบน้อม ก่อนจะเดินจากไปขายที่โต๊ะอื่นต่อ
"ขอโทรศัพท์หน่อยค่ะ"
ร่างสูงมองมือบางที่แบมาตรงหน้าอย่างงงๆ แต่เจ้าตัวไม่ยอมพูดอะไรเอาแต่พยักหน้าระรัวพร้อมกับจ้องมองมาอย่างคาดหวังเขาก็เลยต้องล้วงออกมาส่งให้ ด้วยความอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร เมื่อได้ไปของขวัญก็จัดการเอาที่ห้อยตุ๊กตาลิงแก้มแดงตัวผู้ชายมาใส่เครื่องของเขา ขณะเดียวกันเครื่องของเธอก็ห้อยลิงตัวเมีย พอใส่เสร็จก็ส่งคืนกลับมาให้ด้วยรอยยิ้มเหมือนพยายามกลั้นขำ
"หึ.. ล้อฉันเล่นหรือเปล่าเนี่ย เธอจะให้ฉันห้อยไอ้ลิงแดงเนี่ยนะ" เจ้าของเครื่องโทรศัพท์ราคาแพงมองสิ่งแปลกปลอมที่ห้อยต่องแต่งอยู่อย่างหนักใจ เขาเป็นถึงหัวหน้าคนนับร้อยนับพัน ลูกน้องจะคิดยังไงถ้าเห็นเขาห้อยเจ้าลิงนี่กับโทรศัพท์ คงได้หัวเราะเยาะในใจเป็นแน่
..
..
..
..
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 14"ระหว่างฉันไม่อยู่ทำอะไรบ้าง ได้ไปเที่ยวหรือเปล่า? " โทโมยะเป็นฝ่ายชวนคุยหลังจบเรื่องที่ห้อยโทรศัพท์และต่างฝ่ายต่างนั่งกินหมูกระทะเงียบๆ มาได้สักพักตลอดเวลาที่อยู่ญี่ปุ่นเขาไม่ได้ติดต่อทางนี้เลย แต่ก็ใช่ว่าคนทางนี้จะไม่รู้ข่าวเรื่องพ่อ สมาชิกทุกคนในแก๊งมีสิทธิ์ที่จะรู้และร่วมไว้อาลัย ซึ่งเขาได้ยกให้เป็นหน้าที่ของคนสนิทคอยกระจายข่าว มีเพียงคนเดียวที่ไม่รู้ก็คือของขวัญ คาดว่าองศาคงเก็บเงียบและรอให้เขาเป็นคนตัดสินใจเองจะว่าบอกเธอหรือไม่ เพราะจะบอกหรือไม่บอกร่างบางก็ไม่มีส่วนได้เสียอะไร"ขวัญทำงานและก็ไปวัดทำบุญให้พ่อกับแม่นิดหน่อยค่ะ" ของขวัญตอบไปตามความจริง แม้องศาจะคะยั้นคะยอให้เธอออกไปเที่ยวแทนที่จะหมกตัวอยู่แต่ในครัวหรือห้องนอน แต่เธอก็ไม่ได้ไปเพราะการไปเที่ยวโดยที่ไม่ได้อยากไปนั้นคิดว่าคงเสียเวลาและเงินทองโดยเปล่าประโยชน์"แค่นั้น? " คนฟังเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เพราะเขาสั่งองศาไว้แล้วว่าอนุญาตให้พากันเที่ยวหรือไปไหนก็ได้ตามใจ"ค่ะ" ร่างบางพยักหน้ารับสั้นๆ เพราะดวงตากำลังจ้องมองหมูสไลด์ชิ้นโตบนกระทะที่กำลังสุกได้ที่ เสี้ยววินาทีก็ได้มันมาอยู่ใน
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 15วันนี้โทโมยะก็ยุ่งอีกเช่นเคย.. เขาออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าจนบ่ายคล้อยก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับ ของขวัญเลยค่อนข้างจะเหงาหน่อยๆ เพราะอยากอยู่ด้วยกันนานๆ ไม่ใช่แค่ตอนนอน แต่ก็อย่างว่า.. คนมีงานทำกับคนว่างงานมันจะไปมีเวลาเหลือเฟือมาเจอกันได้ยังไงล่ะ หรือเธอต้องทำตัวให้ยุ่งกว่านี้ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน..เวลากว่าหกโมงเย็นในที่สุดคนตัวใหญ่ก็กลับมา ของขวัญยังไม่ได้เจอหน้าแต่ที่รู้ก็เพราะองศาบอกว่านายเขาให้มาเรียกไปทานข้าวเย็นร่วมกันบนดาดฟ้า คำบอกนั้นทำคนฟังรู้สึกแปลกใจระคนตื่นเต้น เพราะตั้งแต่อยู่ที่นี่มาไม่เคยได้ขึ้นไปบนดาดฟ้าเลย และก็ไม่รู้ด้วยว่าข้างบนนั้นเป็นยังไง แต่คิดว่ายามเย็นๆ แบบนี้มันจะต้องอากาศดีมากแน่ๆร่างบางถูกคนสนิทนำทางขึ้นมายังดาดฟ้าของตึกทางบันได สิ่งที่เห็นมันเลยจากสิ่งที่คิดไว้ไปมากโข เธอคิดว่าบนนี้น่าจะเป็นพื้นที่โล่งๆ หรือมีต้นไม้ดอกไม้บ้างประปราย แล้วก็มีโต๊ะเก้าอี้ไว้นั่งทานข้าวกัน แต่จริงๆ แล้วมันมีมากกว่านั้น.. สระว่ายน้ำกับโดมกันแดดขนาดใหญ่กินพื้นที่บนนี้ไปมากกว่าครึ่ง ส่วนอีกโซนที่เหลือเป็นสวนเล็กๆ มีโซฟาเบดทั้งแบบนั่งและแบบปรั
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 16ร่างบางถูกวางลงบนเตียงในท่านั่งมือยันที่นอน และก่อนที่ร่างสูงจะผละออกมือเล็กก็รั้งแขนเขาเอาไว้ ใบหน้าคมหันมามองสบตาอย่างสงสัย เท้ามือข้างหนึ่งลงไปบนเตียงเพื่อยั้งน้ำหนักไว้ไม่ให้คร่อมทับอีกคน เขาได้สติหลังจากจูบที่สองจบลงและพยายามครองสติบังคับตัวเองไม่ให้ทำอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้ เพราะงั้นเมื่อพามานอนแล้วก็ตั้งใจจะผละออกไป"ไม่หยุด.. ได้มั้ยคะ.." น้ำเสียงอ่อนหวานร้องขออย่างขัดเขิน ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองคนฟังอย่างออดอ้อนระคนเชิญชวน ทำคนตัวใหญ่ถึงกับหายใจสะดุด.."รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา" น้ำเสียงกดต่ำเอ่ยเรียบออกมา ใบหน้าไม่ยินดียินร้าย ยิ่งคนถูกถามพยักหน้าตอบโทโมยะก็ยิ่งนิ่งงัน เขาไม่พูดอะไรอีก เพียงจ้องหน้าของขวัญตาดุ ใครสั่งใครสอนให้เชิญชวนผู้ชายขึ้นเตียงแบบนี้กัน!"พรุ่งนี้วันศุกร์.. ถ้าคุณอยากทำเรื่องแบบนั้น.. ขวัญ.. พร้อมแล้วนะคะ.." เสียงหวานเอ่ยต่อเมื่อไม่เห็นร่างสูงโต้ตอบอะไร พูดไปไม่ใช่ว่าไม่อายนะ เพียงแต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีความกล้ามากกว่าปกติ ประจวบกับนึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้วันศุกร์ ถ้าเขาจะออกไปที่ผับหรือเรียกใครมาใช้บริการ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 17"นั่นแกจะทำอะไร! ? "ร่างสูงใหญ่ที่กำลังจะพุ่งเข้ามาถูกกระชากจนตัวลอยกลับไป ขนาดตัวที่ไม่ต่างกันมากทำทาคิยะแค่เซๆ เท่านั้นไม่ถึงกับล้มคว่ำ แต่แทนที่เขาจะตื่นตระหนกตกใจที่เห็นหน้าพี่ชายกลับยืนล้วงกระเป๋ากางเกงหัวเราะขำอย่างไม่สะทกสะท้านของขวัญรีบพุ่งเข้าไปหาโทโมยะด้วยความดีใจ รู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่เพราะเธอเกือบจะสิ้นหวังไปแล้ว ร่างสูงมองสำรวจเหมือนจะดูว่าเธอเป็นอะไรไหม พอเห็นว่ายังสบายดีก็ดันเธอมาหลบข้างหลัง แล้วหันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้เป็นน้องชาย"หึหึ มาเร็วกว่าที่คิด" ทาคิยะเหยียดยิ้ม มองสบดวงตาคมที่กำลังเกรี้ยวโกรธของพี่ชายอย่างไม่เกรงกลัว"แกมาที่นี่ทำไม" โทโมยะคำรามเสียงต่ำอยู่ในลำคอ เขาไม่เคยสติหลุดขนาดนี้มาก่อน ไม่ว่าทาคิยะจะพูดจาดูถูกเหยียดหยามสักแค่ไหนก็ไม่เคยสะทกสะท้าน แต่ตอนนี้ใจมันร้อนรุ่มกรุ่นโกรธ.. ยิ่งนาทีที่เปิดประตูมาเห็นน้องชายกำลังจะทำมิดีมิร้ายคนตัวเล็กสติเขาเหมือนจะขาดสะบั้น!"ไม่มาจะรู้หรอว่าพี่ซุกเด็กเลี้ยงไว้" ตาคนพูดจ้องพี่อย่างท้าทาย ก่อนมองเลยไปยังคนข้างหลังด้วยแววตาวาววับเหมือนเจอของเล่นชิ้นใหม่ที่ถูกอกถูกใจ"
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 18'คนกำลังมีความรัก.. ไม่ว่าอะไรก็มองเห็นเป็นสีชมพู' ของขวัญไม่เคยเชื่อประโยคเปรียบเทียบเกินจริงนั้นเลยจนถึงตอนนี้ ทุกอย่างรอบตัวยังคงเป็นสีเดิม.. ท้องฟ้าดำมืดยามค่ำคืน ดวงดาวระยิบระยับลอยอยู่ไกลลิบตา โซฟาเบดสีน้ำตาลอ่อนตัวเดิมบนดาดฟ้า หรือแม้แต่ดอกไม้ใบหญ้าในกระถาง.. ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งสีมันก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม เพราะงั้นเธอคอนเฟิร์มว่าประโยคข้างต้นมัน 'จกตา' ไม่เป็นความจริงเลยสักนิดเพราะ 'ความรู้สึกจริงๆ ของคนมีความรัก' ที่วันนี้เธอได้สัมผัสกับตัวเอง อย่างแรกเลยก็คือหุบยิ้มไม่ได้.. กับแค่นอนดูดาวเฉยๆ ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ราวกับบนฟ้านั้นมีอะไรตลกนักหนา ต่อมาก็เป็นความรู้แปลกประหลาดในอก เดี๋ยวก็ใจเต้นแรง วาบหวิว จั๊กจี้แต่บางทีก็อิ่มเอมและอบอุ่นผสมปนเปกันไปตามสถานการณ์ สุดท้ายเลยคือความประหม่า เขินอายไม่เป็นตัวของตัวเองและไม่กล้าสบตาอีกฝ่ายนานๆ ทุกอย่างที่กล่าวมามันไม่ได้เกิดพร้อมกันในตอนอยู่คนเดียว กลับกันดันถาโถมหมดทุกอย่างเมื่อได้อยู่ต่อหน้าคนที่รัก.."วันนี้ไม่มีมาร์การิต้าหรอคะ" ของขวัญเอ่ยถามยิ้มๆ ทีเล่นทีจริงเมื่อเห็นว่าของว่างบนโต๊ะ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 19โทโมยะตื่นก่อนในเช้าวันถัดมา.. คนข้างกายยังคงหลับสนิท ใบหน้าซีดขาวกว่าปกตินั้นทำให้เขาต้องวางมือลงบนหน้าผากเนียนเพื่อวัดไข้ เมื่อพบว่าปกติดีก็ก้าวลงจากเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างคนหลับก่อนเดินมาเก็บเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ข้างเตียงไปใส่ในตะกร้าให้เรียบร้อยแล้วทำการอาบน้ำแต่งตัว ภายนอกที่ดูเฉยชาเป็นปกติแต่ใครจะรู้ว่าในหัวเขามีแต่เรื่องเมื่อคืนวนเวียนอยู่ตลอด.. ไม่รู้ว่ามันเร็วหรือช้าไปสำหรับความสัมพันธ์เรียบเรื่อยของเขากับร่างบาง แต่เขาก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้ ชอบความรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ ที่หัวใจทุกทีที่คิดถึง..ร่างสูงยังคงมีงานล้นมืออีกเช่นเคย แต่วันนี้เขายกเลิกงานหรือนัดที่ต้องเดินทางออกไป เหลือไว้เพียงงานเอกสารแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น นั่นเพราะตั้งใจจะหยุดดูอาการของ 'เมียเด็ก' เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเขามาดูดำดูดีจะเป็นเรื่อง..ของขวัญตื่นขึ้นมาในช่วงสาย.. แน่นอนว่าร่างกายปวดร้าวไปทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะขยับมากหรือน้อยก็ระบมไปหมด ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ มองเพดานกว้างสักพัก ภาพและเสียงทุกฉากทุกตอนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ แจ่มชัดในความรู้สึ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 20"คะ คุณโทโมยะ.. อย่าค่ะ.." ของขวัญร้องห้ามปากคอสั่น เสียงขาดห้วงลมหายใจติดขัดเมื่อคนที่อุทิศตนเป็นเบาะรองนั่งให้ไม่ยอมอยู่เฉย.. เอาคางเกยบนศีรษะหรือจูบหอมมันเธอก็พอจะยอมได้ แต่ตอนนี้ริมฝีปากกับลมหายใจร้อนผ่าวของเขาเริ่มเลื้อยลงต่ำมาที่ท้ายทอยและซุกไซ้ลำคอของเธออย่างซุกซน"อะ อื้อ.. คุณ.." คำร้องห้ามมีผลลัพธ์ไปในทางที่เลวร้ายกว่าเดิมเมื่อไม่ใช่แค่จมูก ริมฝีปากหรือลมหายใจร้อนที่รุกรานร่างกายเธออีกต่อไป มือใหญ่ที่วางประสานกันอยู่ตรงหน้าท้องแบนราบเริ่มเลื้อยขึ้นมาจนถึงหน้าอก ความนุ่มนิ่มของก้อนเนื้อตรงนั้นดึงดูดให้เขาออกแรงบีบขย้ำมันอย่างเต็มไม้เต็มมือและ.. เต็มใจ! แม้จะมีเนื้อผ้าขวางกั้นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีน้อยลง มือบางวางทับลงบนหลังมือใหญ่หมายจะดึงออกไปทว่าเรี่ยวแรงไม่รู้หายไปไหน ยิ่งอีกฝ่ายบีบแรงเท่าไรพละกำลังของเธอก็ยิ่งหดหายลงไปเรื่อยๆ เขาเป็นตัวสูบพลังหรือไงเนี่ย.."อ๊ะ คุ๊ณ~" เสียงหวานเหินสูงด้วยความตกใจเมื่อยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ มืออีกข้างของเขาเลื่อนต่ำลงไป ลากผ่านท้องน้อยและมุดเข้าใต้ชายชุดคลุมอาบน้ำที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อเช้า ของขวัญดิ้น
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 21"ตกลงอยากกินอะไร" ร่างสูงถามย้ำอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบตอนถามไปครั้งแรก คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองด้วยรอยยิ้มแห้งๆ เมื่อรู้ตัวว่าละเลยคำถามของเขา ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ อย่างพิจารณา"อืม.. ขอเดินดูก่อนได้มั้ยคะ"แต่สุดท้ายก็ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ เพราะตลาดนัดกลางคืนแห่งนี้มีร้านอาหารเยอะมาก จนไม่สามารถเลือกได้ง่ายๆ มีทั้งร้านแบบที่เป็นร้านจริงๆ และเป็นโต๊ะเก้าอี้ตั้งข้างทางเดิน อาหารมากหน้าหลายตาที่คุ้นเคยถูกวางขายเรียงรายจนเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไรดี.. จริงๆ เธอไม่อยากเข้าร้านหรูๆ ดูดีสักเท่าไร เพราะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ตอนที่เคยไปเดินตลาดกับแม่เลยอยากนั่งร้านข้างทางมากกว่าทั้งคู่พากันออกเดินด้วยความตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะของขวัญ เธอพาคนตัวสูงแวะร้านนู้นร้านนี้ที่มีทั้งของกินและของใช้ที่น่าสนใจวางขาย ซึ่งจนแล้วจนรอดก็ไม่ได้กินข้าวกันสักทีเพราะเดินกินแต่ของว่าง ไส้กรอกบ้าง ขนมบ้าง น้ำหวานบ้างกะจุกกะจิกไปตลอดทาง แต่คนที่มาด้วยก็ไม่ได้ขัด ออกจะยิ้มบางเสียด้วยซ้ำเวลาที่เห็นแววตาเปล่งประกายและรอยยิ้มกว้างจนตาหยีของคนตัวเล็ก เขาคิดถูกที่พาเธอมาที่นี่ตามคำ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ) เป็นเวลากว่าสามเดือนที่โทโมยะและของขวัญใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น ด้วยเจตนารมณ์ของเขาที่หมายมั่นจะสละตำแหน่งหัวหน้าแก๊งคาชิมะให้ผู้เป็นน้องชาย เมื่อเรื่องร้ายๆ ผ่านพ้นไปเวลาที่เหลือเขาจึงเริ่มเดินหน้าสอนงานน้องอย่างเต็มกำลังและขีดเส้นตายไว้ว่าภายในสองปีทาคิยะจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับให้ได้ นั่นทำให้อีกฝ่ายแอบมาโอดครวญให้ร่างบางฟังบ่อยๆ ว่าผู้เป็นพี่เคี่ยวเข็ญอย่างกับจะพาไปแข่งโอลิมปิก ได้ยินแล้วก็ขำแต่คงจะช่วยอะไรไม่ได้นอกจากคอยรับฟังหลังช่วงทดลองงานสามเดือนของทาคิยะผ่านพ้นไปทั้งคู่ก็บินกลับประเทศไทย ปล่อยให้ว่าที่ผู้นำคนต่อไปหยัดยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง แต่ไม่เชิงว่าโดดเดี่ยวเพราะเขามีทั้งคนสนิทและผู้ช่วยมือดีหลายคน ด้วยเหตุนี้งานของคาชิมะที่โทโมยะทำอยู่เลยพลอยลดน้อยลงไปด้วย แม้ไม่ถึงกับหมดแต่เขาก็มีเวลาเหลือพาของขวัญไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาตามที่เคยสัญญากันไว้ในตอนก่อนไปญี่ปุ่น เขาพาเธอไปไหว้พ่อแม่เขาเธอเองก็พาเขาไปไหว้พ่อแม่เธอเหมือนกันเรียกได้ว่าชีวิตในช่วงนี้ดี๊ดีและมีความสุขแบบสุดๆ แม้จะยังไม่มีเหตุการณ์ประมาณว่าขอเป็นแฟนหรือบอ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 26โชคดีที่ของขวัญไม่ได้ถูกร่างสูงกินแทนข้าวเย็นเพราะแค่รอบเดียวในบ่อน้ำพุช่วงล่างก็เจ็บเสียดจนกลายเป็นคนเดินช้าและเดินนุ่มนวลไปแบบเขินๆ อย่างในตอนนี้ที่กำลังเดินตามอีกฝ่ายไปยังห้องอาหารก็มีหลายครั้งที่เขาต้องชะลอฝีเท้าเพื่อให้เธอตามทัน แน่นอนว่าเขารู้ถึงสาเหตุวัดได้จากสายตาวาววับที่มองมาเดิมทีของขวัญคิดว่าเพื่อนร่วมโต๊ะทานมื้อค่ำจะมีแค่ทาคิยะคนเดียว รวมเธอกับร่างสูงก็เป็นสามคน แต่พอประตูไม้เนื้อดีถูกเลื่อนออกถึงได้รู้ว่าบรรยากาศมันผิดจากที่คิดไว้มาก ภายในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่นี้มีจำนวนบุคคลด้านในไม่ต่ำว่าสิบคน!ทุกคนล้วนอยู่ในชุดสบายๆ อย่างยูกาตะและล้วนเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างจะมีอายุ.. เสียงพูดคุยกันอย่างออกรสชาติในตอนก่อนหน้าเงียบกริบลงไปในทันทีที่โทโมยะพาเธอเข้ามา ทุกสายตาไม่ได้ผ่านการนัดหมายแต่พวกเขาพากันมองผู้มาใหม่ทั้งสองสลับกันอย่างพร้อมเพรียง"อ้าวพี่ มาๆ มานั่งนี่เลยครับ" ทาคิยะเป็นคนดึงความสนใจของทุกคน เขารีบลุกจากเบาะรองนั่งนุ่มๆ บนพื้นมานำทางให้ทั้งคู่ไปนั่งลงบนหัวโต๊ะที่ได้จัดเตรียมที่ทางไว้ให้ตั้งแต่แรก สายตาทุกคู่ยังคงจับจ้อง
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 25"อะ อื้ม~" ท้ายทอยเล็กถูกมือใหญ่รั้งเข้าหา ประกบจูบลงไปบนริมฝีปากแดงเรื่อ ดูดซับความนุ่มนิ่มที่ด้านนอกเบาๆ ก่อนสอดแทรกเรียวลิ้นคว้านลึกเข้าไปข้างใน ร่างบางเปิดปากให้อย่างรู้หน้าที่ แม้จะยังไม่ประสาแต่ก็สมยอมตอบรับสัมผัสของร่างสูงด้วยความเต็มใจทุกครั้งเผลอไผลไปกับรสจูบครู่เดียวร่างเพรียวบางก็ถูกยกตัวลอยเปลี่ยนท่ามานั่งคร่อมตักในสภาพล่อแหลมยิ่งกว่าเดิม มือใหญ่วางลงบนสะโพกอวบ บีบเคล้นเบาๆ ก่อนลูบไล้ขึ้นมาตามเอวคอดกิ่วจนถึงแผ่นหลังเนียนนุ่ม ชั่วอึดใจก็กอดรั้งคนบนตักเข้ามาแนบชิด บดเบียดร่างกายเข้าหากันจนไม่เหลือพื้นที่ว่าง ทรวงอกอวบขาวเบียดชิดแผงอกล่ำ หน้าท้องแบนราบแนบแน่นไปกับลอนซิกแพค ช่วงล่างแข็งขืนเสียดสีอยู่กับช่องทางอ่อนนุ่มที่ยังคงปิดสนิท วงแขนแกร่งที่โอบกอดเอวบางขยับโยกตัวเธอขึ้นลงเป็นจังหวะเนิบนาบ.. จงใจให้อะไรๆ มันบดเบียดพอให้หวาดเสียวท้องน้อยเล่นๆ"อะ อ๊ะ อื้อ.." หลังถูกครอบครองไปหลายต่อหลายครั้งในที่สุดริมฝีปากบางที่เริ่มบวมเจ่อก็ถูกปล่อยเป็นอิสระ ของขวัญรีบกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดอย่างหิวกระหาย สองมือจิกเกร็งอยู่บนไหล่กว้างเมื่อเขาเปลี่ย
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 24หลังจากปลดคาวามูระและพรรคพวกออกจากตำแหน่งโทโมยะก็ค่อนข้างจะวุ่นๆ นิดหน่อยเพราะต้องเรียกตรวจสอบ ประเมินความเสียหายและทำการปรับเปลี่ยนหัวหน้าเขตคนใหม่เข้ามาดูแลแทน รวมทั้งทำการรื้อระบบเก่าที่อีกฝ่ายเคยจัดการดูแลทิ้งแล้ววางระบบใหม่เข้าไปแทนที่ รวมๆ แล้วหลายปีที่ผ่านมาคาชิมะถูกมันโกงกินไปไม่น้อย ยังไม่รวมเรื่องที่แอบค้ายาและค้ามนุษย์พื้นที่ที่เป็นกฎต้องห้ามของแก๊งอีกตอนแรกก็สงสัยว่าคนๆ เดียวที่ภรรยาจากไปนานแล้วมีภาระแค่ส่งเสียลูกสาวเรียนเมืองนอกแค่คนเดียวมันจะจำเป็นต้องใช้เงินมากอะไรขนาดนั้น แต่พอขุดไปขุดมาถึงได้รู้ว่ามันติดการพนัน ติดเหล้าติดยาและติดผู้หญิงอย่างหนัก เงินที่ได้ไปก็เอาไปลงกับอบายมุขพวกนั้นทั้งหมด ลูกแทบจะไม่เหลียวแล!แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย หลังจากที่ถูกพาตัวไปขังไว้ในคุกมืด.. สถานที่ที่มีไว้เพื่อกักขังคนทรยศ สองวันให้หลังร่างสูงก็ได้รับรายงานว่าผู้เป็นอาได้หลบหนีความผิดด้วยการใช้เข็มขัดผูกคอตัวเองกับลูกกรงสิ้นใจก่อนที่จะโดนเจ้าทาคิยะสำเร็จโทษไปก่อนแล้ว สภาพศพไม่น่าดูเท่าไรเพราะก่อนหน้านั้นคนของเขาที่สั่งให้คอยเฝ้าหน้าค
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 23"ฮ่าๆ ๆ เงินตั้งห้าสิบล้าน พี่แกยังกล้าโอนมาให้ฉัน ง่ายๆ แลกกับชีวิตไร้ค่าของแก ไม่น่าเชื่อ.. ฉันอุตส่าห์เป่าหูพวกแกให้เกลียดกันเพื่อหวังจะให้พวกแกหันมาฆ่ากันเอง แต่แม่งคงจะไม่มีวันนั้น.. เพราะแกมันโง่ทาคิยะ! แกมันขี้ขลาด! เหอะ คนแบบนี้น่ะหรออยากจะขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊ง ถุ้ย! ฝันกลางวันอยู่หรือไงไอ้เด็กเหลือขอ! " เสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นมาด้วยความสะใจเมื่อลูกน้องเข้ามารายงานว่าได้รับเงินเรียกค่าไถ่จากหลานชายคนโตเรียบร้อย ก่อนที่น้ำเสียงหยามเหยียดจะพ่นคำดูถูกใส่หลานชายคนเล็กพร้อมกับยืนจ้องมองด้วยสายตาเกลียดชัง"สารเลว.. พวกผมเป็นหลานของอานะ! " คนที่ถูกจับมัดนั่งบนเก้าอี้ในสภาพสะบักสะบอมเลือดโชกขบกรามแน่นด้วยความโกรธจัด ถามหาความเมตตาลมๆ แล้งๆ จากคนที่มีสายเลือดร่วมกันครึ่งหนึ่งด้วยความเจ็บใจ กว่าจะรู้สึกตัวว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือชำระความแค้นก็เสียรู้จนหมดสภาพ"หลานหรอ ฮ่าๆ ๆ ฉันนับญาติกับพวกแกที่ไหนกันเล่า ฉันเกลียดไอ้คาสึยะพ่อของแก เกลียดแก เกลียดพี่ชายของแก! พวกแกมันมารชีวิต! ถ้าไม่มีพวกแกทุกสิ่งทุกอย่างก็จะต้องเป็นของฉัน!! " คาวามูระระเบิดอารมณ์
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 22"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าไม่ดีเลย" องศาถามขึ้นในตอนที่เดินทางกลับ เพราะคนตัวเล็กนั่งเงียบมาตลอดทางตั้งแต่ออกจากร้านอาหารตามสั่งของพราวแล้ว สีหน้าก็ดูจะไม่สู้ดีนัก"เปล่าค่ะ ก่อนกลับพี่องศาพาขวัญแวะทำบุญหน่อยนะคะ" ของขวัญบอกปัดอย่างที่คิด แต่คนฟังก็ไม่ได้เซ้าซี้จะรู้ให้ได้ ทำเพียงพยักหน้ารับและแวะเข้าวัดตามคำสั่งเมื่อได้ทำบุญจิตใจที่ว้าวุ่นของร่างบางก็พอจะสงบลงมาได้บ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังแอบคิดอยู่.. ก็เรื่องของแป้งนั่นแหละ ไม่เชิงว่ารู้สึกผิดไปเสียทีเดียว แต่เป็นความสงสารและเห็นใจมากกว่า ในฐานะคนที่เคยแอบรักเขามาเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้กรณีของเธอก็ยังไม่เรียกว่าสมหวังนะ แค่ก้าวหน้ามากขึ้นเท่านั้น.."นี่.." น้ำเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยเรียกสติคนเหม่อให้หันมามอง แล้วก็ต้องแปลกใจว่าอีกฝ่ายกลับมาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตัว.."..มาตั้งแต่เมื่อไรคะเนี่ย" เมื่อพิจารณาดีๆ แล้วของขวัญก็ต้องตกใจซ้ำอีก เพราะร่างสูงนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน เธอควรจะรู้สึกตัวบ้างเวลาพื้นโซฟามันยุบตามน้ำหนักเขา นี่ต้องเหม่อขนาดไหนถึงได้ไม่รู้สึกอะไรเลย.."ก็นานพอที่จะ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 21"ตกลงอยากกินอะไร" ร่างสูงถามย้ำอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบตอนถามไปครั้งแรก คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองด้วยรอยยิ้มแห้งๆ เมื่อรู้ตัวว่าละเลยคำถามของเขา ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ อย่างพิจารณา"อืม.. ขอเดินดูก่อนได้มั้ยคะ"แต่สุดท้ายก็ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ เพราะตลาดนัดกลางคืนแห่งนี้มีร้านอาหารเยอะมาก จนไม่สามารถเลือกได้ง่ายๆ มีทั้งร้านแบบที่เป็นร้านจริงๆ และเป็นโต๊ะเก้าอี้ตั้งข้างทางเดิน อาหารมากหน้าหลายตาที่คุ้นเคยถูกวางขายเรียงรายจนเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไรดี.. จริงๆ เธอไม่อยากเข้าร้านหรูๆ ดูดีสักเท่าไร เพราะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ตอนที่เคยไปเดินตลาดกับแม่เลยอยากนั่งร้านข้างทางมากกว่าทั้งคู่พากันออกเดินด้วยความตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะของขวัญ เธอพาคนตัวสูงแวะร้านนู้นร้านนี้ที่มีทั้งของกินและของใช้ที่น่าสนใจวางขาย ซึ่งจนแล้วจนรอดก็ไม่ได้กินข้าวกันสักทีเพราะเดินกินแต่ของว่าง ไส้กรอกบ้าง ขนมบ้าง น้ำหวานบ้างกะจุกกะจิกไปตลอดทาง แต่คนที่มาด้วยก็ไม่ได้ขัด ออกจะยิ้มบางเสียด้วยซ้ำเวลาที่เห็นแววตาเปล่งประกายและรอยยิ้มกว้างจนตาหยีของคนตัวเล็ก เขาคิดถูกที่พาเธอมาที่นี่ตามคำ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 20"คะ คุณโทโมยะ.. อย่าค่ะ.." ของขวัญร้องห้ามปากคอสั่น เสียงขาดห้วงลมหายใจติดขัดเมื่อคนที่อุทิศตนเป็นเบาะรองนั่งให้ไม่ยอมอยู่เฉย.. เอาคางเกยบนศีรษะหรือจูบหอมมันเธอก็พอจะยอมได้ แต่ตอนนี้ริมฝีปากกับลมหายใจร้อนผ่าวของเขาเริ่มเลื้อยลงต่ำมาที่ท้ายทอยและซุกไซ้ลำคอของเธออย่างซุกซน"อะ อื้อ.. คุณ.." คำร้องห้ามมีผลลัพธ์ไปในทางที่เลวร้ายกว่าเดิมเมื่อไม่ใช่แค่จมูก ริมฝีปากหรือลมหายใจร้อนที่รุกรานร่างกายเธออีกต่อไป มือใหญ่ที่วางประสานกันอยู่ตรงหน้าท้องแบนราบเริ่มเลื้อยขึ้นมาจนถึงหน้าอก ความนุ่มนิ่มของก้อนเนื้อตรงนั้นดึงดูดให้เขาออกแรงบีบขย้ำมันอย่างเต็มไม้เต็มมือและ.. เต็มใจ! แม้จะมีเนื้อผ้าขวางกั้นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีน้อยลง มือบางวางทับลงบนหลังมือใหญ่หมายจะดึงออกไปทว่าเรี่ยวแรงไม่รู้หายไปไหน ยิ่งอีกฝ่ายบีบแรงเท่าไรพละกำลังของเธอก็ยิ่งหดหายลงไปเรื่อยๆ เขาเป็นตัวสูบพลังหรือไงเนี่ย.."อ๊ะ คุ๊ณ~" เสียงหวานเหินสูงด้วยความตกใจเมื่อยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ มืออีกข้างของเขาเลื่อนต่ำลงไป ลากผ่านท้องน้อยและมุดเข้าใต้ชายชุดคลุมอาบน้ำที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อเช้า ของขวัญดิ้น
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 19โทโมยะตื่นก่อนในเช้าวันถัดมา.. คนข้างกายยังคงหลับสนิท ใบหน้าซีดขาวกว่าปกตินั้นทำให้เขาต้องวางมือลงบนหน้าผากเนียนเพื่อวัดไข้ เมื่อพบว่าปกติดีก็ก้าวลงจากเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างคนหลับก่อนเดินมาเก็บเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ข้างเตียงไปใส่ในตะกร้าให้เรียบร้อยแล้วทำการอาบน้ำแต่งตัว ภายนอกที่ดูเฉยชาเป็นปกติแต่ใครจะรู้ว่าในหัวเขามีแต่เรื่องเมื่อคืนวนเวียนอยู่ตลอด.. ไม่รู้ว่ามันเร็วหรือช้าไปสำหรับความสัมพันธ์เรียบเรื่อยของเขากับร่างบาง แต่เขาก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้ ชอบความรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ ที่หัวใจทุกทีที่คิดถึง..ร่างสูงยังคงมีงานล้นมืออีกเช่นเคย แต่วันนี้เขายกเลิกงานหรือนัดที่ต้องเดินทางออกไป เหลือไว้เพียงงานเอกสารแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น นั่นเพราะตั้งใจจะหยุดดูอาการของ 'เมียเด็ก' เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเขามาดูดำดูดีจะเป็นเรื่อง..ของขวัญตื่นขึ้นมาในช่วงสาย.. แน่นอนว่าร่างกายปวดร้าวไปทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะขยับมากหรือน้อยก็ระบมไปหมด ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ มองเพดานกว้างสักพัก ภาพและเสียงทุกฉากทุกตอนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ แจ่มชัดในความรู้สึ