มาเฟียจ้าวชีวิต
Writer : Aile'N
ตอนที่ 11
มีสิ่งหนึ่งที่แปลกไป.. แปลกไปอย่างมาก! นั่นก็คือการกระทำของโทโมยะตั้งแต่วันที่มานอนค้างห้องของของขวัญแบบมึนๆ ในวันนั้น เขาก็มักจะมาอีกในคืนถัดไปจนล่าสุดเลยเถิดไปไกล ถึงขั้นเริ่มเรียกให้เธอเป็นฝ่ายไปนอนด้วย.. แต่ช้าก่อน! อย่าเพิ่งคิดไปไกล แค่นอนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร อย่างมากก็แค่กอด.. กอดเหมือนหมอนข้างอย่างที่เขาพูดกรอกหูเธอทุกวัน
ของขวัญเคยถามนะว่าเขาทำแบบนี้ทำไม เหตุผลที่ได้ก็คือเขานอนไม่ค่อยหลับถ้าไม่ได้กอดก่ายอะไรก่อนนอน แน่นอนว่าเธอถามต่อว่าทำไมไม่ซื้อหมอนข้างมากอด และเขาก็ให้เหตุผลแบบมึนๆ มาว่าเพิ่งจะค้นพบว่าการกอดคนตัวอุ่นๆ ด้วยกันมันหลับลึกกว่า (?) เพราะงั้นอีกหนึ่งหน้าที่ของเธอที่เพิ่มเข้ามาก็คือทำตัวเป็นหมอนข้างให้เขากอดนอน
เหตุผลแปลกดี.. แต่ไม่ดีกับหัวใจเธออย่างแรง! เพราะหลังจากวันนั้นที่โทโมยะพาใครมานอนด้วยของขวัญก็เริ่มจะรู้ใจตัวเองแล้วว่าคิดเกินเลยกับเขา! ถึงแม้อาการขุ่นเคืองในตอนเห็นเขาอยู่กับคนอื่นจะถูกท่าทางแปลกๆ ของเขาลบเลือนไปโดยไม่รู้ตัว แต่ความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจที่เธอได้ค้นพบจากเหตุการณ์วันนั้นมันยังคงอยู่ ซึ่งเธอตั้งใจไว้แล้วว่าจะตัดใจ.. ยังไงก็ต้องตัดให้ได้! แต่ร่างสูงกลับใจร้ายไม่ยอมเอื้อให้เธอทำมันได้สำเร็จ กลับกันนับวันความรู้สึกมันยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ..
คิดดูเอาเถอะว่าจะมีสักกี่คนที่ทนเฉยในสถานการณ์แบบนี้ไหว ต้องมานอนร่วมเตียงกับผู้ชายที่จัดได้ว่า 'สมบูรณ์แบบ' ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ไปพอต้องนอนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆ ผิวเนื้อบดเบียดแนบชิดกับกล้ามเนื้อล่ำๆ สมชายชาตรีของอีกฝ่าย แถมพอตื่นก็มาโดนแอทแทคในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมาจากห้องน้ำเกือบทุกวันอีก เป็นใครจะทนเฉยได้อ่ะถามจริง!
ของขวัญคนหนึ่งแหละที่ทนเฉยไม่ได้! เขาหลับสนิทอย่างสบายอารมณ์ในขณะที่เธอกว่าจะหลับได้ในแต่ละวันก็ปาไปค่อนคืน ได้แต่นอนมองใบหน้าคมคายด้วยใจเต้นไม่เป็นส่ำอยู่คนเดียวจนดึก และพอนอนดึกก็เป็นเหตุให้ตื่นสายกว่าที่เคย แต่ที่น่าอายกว่าคือไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะเห็นสภาพตอนนอนของเธอเป็นแบบไหน จะนอนละเมอหรือน้ำลายยืดบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ คิดแล้วก็น่าอาย!
และจากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เองที่ทำให้ของขวัญถูกฉุดลงหลุมที่โทโมยะอาจจะตั้งใจขุดหรือไม่ก็แล้วแต่อย่างโงหัวไม่ขึ้น.. ได้นอนมองหน้าเขาก่อนนอนทุกคืน ถูกกอดจมอกจนถึงเช้า ไม่พอยังได้เห็นภาพชวนใจหวิวทุกวันยามตื่น วันไหนร่างสูงอารมณ์ดีหน่อยก็ถูกเขาเย้าแหย่ให้ต้องเขินอาย แต่ถึงหัวใจจะทำงานหนักและถูกแกล้งให้อายอยู่บ่อยครั้งเธอกลับมีความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ..
อยากให้เป็นแบบนี้ไปนานๆ เนอะ..
"กลับญี่ปุ่น? พรุ่งนี้น่ะหรอคะ? " ร่างบางเงยหน้าจากจานสเต็กขึ้นถามคนสนิทด้วยใบหน้าเหรอหราตกใจ หลังจากที่ได้ยินเขาบอกว่าพรุ่งนี้โทโมยะจะบินไปทำธุระที่บ้านเกิด ซ้ำยังไม่มีกำหนดกลับที่แน่นอน
"ครับ นายยังไม่ได้บอกน้องขวัญหรอกหรอ" องศาถามกลับด้วยความแปลกใจ เพราะเห็นช่วงนี้เจ้านายกับคนตัวเล็กรู้สึกจะหวานๆ กันอยู่เลยคิดว่าเธอน่าจะรู้เรื่องจากนายเขาแล้ว
"ไม่ได้บอกค่ะ.." คนถูกถามถึงกับชะงัก หน้าตึงเมื่อสิ้นคำ จู่ๆ ก็เจ็บแปลบในอกซ้ายอย่างบอกไม่ถูก เธอรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรก็แค่ไปทำธุระที่บ้านเกิด ใช่ว่าจะไม่กลับมาเสียเมื่อไร แต่เธอแค่.. หลงคิดว่าได้ขยับใกล้เขาอีกนิดแล้วเสียอีก หรือบางทีเธออาจจะคิดไปเอง ความจริงคือยังยืนอยู่ที่เดิมก็เป็นได้
"สงสัยคงจะบอกวันนี้มั้งครับ ช่วงนี้เห็นนายรีบเคลียร์งานทางนี้ก่อนไป คงยุ่งมากจนลืม" องศาพยายามแก้ตัวให้เจ้านายเมื่อเห็นคนตัวเล็กนั่งซึม
"ช่างเถอะค่ะ ไม่เกี่ยวอะไรกับขวัญสักหน่อย ไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้" ร่างบางบอกปัดอย่าง (พยายาม) ไม่ใส่ใจ แต่ใบหน้ากลับไม่เป็นไปตามคำพูดเลยสักนิด เธอหลบตาลงมองสเต็กแกะชั้นดีในจานก่อนจับส้อมจิ้มขึ้นมากินต่อ เคี้ยวสองสามทีก็นั่งนิ่งไปเมื่อพบว่ารสชาติมันต่างออกไปจากคำก่อนๆ อย่างสิ้นเชิง เธอท่าจะอาการหนักจริงๆ เรื่องแค่นี้เอง.. ไม่เห็นต้องรู้สึกอะไรมากมายเลย พอๆ เลิกคิด!
"แต่ระหว่างนี้นายอนุญาตให้พี่พาน้องขวัญออกไปเที่ยวด้วยนะ งบไม่อั้น! " องศารีบพูดดึงความสนใจเข้าเรื่องอื่นอย่างกระตือรือร้นแทน เด็กสาววัยรุ่นอย่างของขวัญไม่สมควรอุดอู้อยู่แต่ในตึกอย่างที่โทโมยะบอกจริงๆ เขาเองก็เห็นด้วยว่าเธอสมควรได้ออกไปเปิดหูเปิดตาเสียบ้าง
"ดีใจที่จะได้เห็นขวัญติดหนี้เพิ่มหรอคะ" เสียงหวานถามเรียบออกไปอย่างหน่ายๆ แค่นี้เธอก็ไม่มีปัญญาใช้คืนแล้วยังจะให้เธอไปผลาญเงินเจ้านายเขาเพิ่มอีก
"โธ่ น้องขวัญ.. พี่บอกแล้วไงครับว่าเงินนั่นนายยกให้ ไม่ได้ให้ยืม งบเที่ยวในครั้งนี้ก็ด้วย อย่าเอาแต่คิดว่าใช้แล้วจะติดหนี้สิครับ" ร่างสูงพยายามอธิบายในสิ่งที่เขาเคยพูดไปแล้วครั้งหนึ่ง
"แล้วใครที่ไหนจะยอมยกเงินเป็นสิบๆ ล้านให้คนอื่นฟรีๆ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนบ้างคะ คนปกติน่ะ" คนฟังไม่เห็นด้วยอย่างแรง ถึงโทโมยะจะให้โดยไม่คิดอะไรแต่คนรับอย่างเธอเล่าจะไม่คิดได้หรอ เงินตั้งสิบล้าน! ถึงจะยังใช้ไม่หมดแต่ก็ได้มาโดยที่ไม่มีสิ่งใดตอบแทนคืนเขา ใครมันจะไปยิ้มรับอย่างยินดีได้
"นายพี่ไงครับ เท่าที่เห็นก็ยังปกติดีนะ" องศารับมุกอีกฝ่ายกวนๆ ก็อาจจะจริงว่าคนปกติที่ไหนจะใจดีให้เงินคนอื่นใช้ฟรีๆ ตั้งสิบล้าน แต่ก็ใช่จะไม่มีคนแบบนั้นนี่นา.. การจะทำแบบนี้ได้ก็ต้องใจดีและรวยมาก! หนึ่งในคนประเภทนั้นก็คือเจ้านายเขานี่แหละ อย่าว่าแต่คนอื่นไม่เข้าใจเลย แรกๆ เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรเพราะเกิดในสลัมไม่ได้เกิดบนกองเงินกองทองอย่างโทโมยะ แต่อยู่ไปนานๆ ก็เห็นจนชินตา
อย่าคิดว่าเป็นมาเฟียแล้วจะโหดโฉดชั่วเหมือนในหนังทุกคนนะ ถึงจะมีธุรกิจสีเทาๆ ภายใต้การดูแลมากมายแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่โทโมยะสร้างมันขึ้นมาตั้งแต่ต้น เขาเพียงเกิดผิดที่.. ดันมาเกิดเป็นทายาทคนโตของแก๊งมาเฟียก็เลยต้องรับช่วงต่อไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ก็เท่านั้น และอีกด้านที่คนภายนอกไม่เคยรู้คือเขาเป็นผู้อุปถัมภ์มูลนิธิเพื่อเด็ก สตรี และคนชราในไทยอยู่หลายแห่ง ฉะนั้นอย่าตัดสินคนจากภายนอก!
ของขวัญถอนหายใจอย่างหน่ายๆ ไม่รู้จะเถียงยังไงถึงจะชนะ ดื้อดึงทั้งเจ้านายลูกน้องขนาดนี้! จึงไล่เขาเก็บจานชามออกไปหลังทานมื้อค่ำเสร็จพอดี
ไล่หลังคนสนิทร่างบางก็ย้ายตัวเองจากโต๊ะอาหารไปที่เตียง นั่งคิดไปถึงเรื่องก่อนหน้าที่ยังค้างคาในใจ.. เธอจะคอยดูว่าร่างสูงคิดจะบอกเธอเรื่องไปญี่ปุ่นหรือเปล่า จะไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันเลยนะ! ตอนนอนเขาจะกอดใครนอน แล้วจะนอนหลับไหม จะไปนานแค่ไหน คิดไปคิดมาคำถามก็เยอะแยะเต็มหัวไปหมด..
อารมณ์ขุ่นเคืองหน่อยๆ ที่พยายามห้ามยังไงก็ไม่สำเร็จทำให้ของขวัญนั่งรอใครคนนั้นด้วยใบหน้าบึ้งตึง วันนี้งานของเธอคือทำความสะอาดห้องนอนทั้งสองห้องใหญ่ สภาพร่างกายเลยค่อนข้างล้ากว่างานเมื่อวาน ใจจริงจึงอยากจะนอนพักตั้งแต่หัววัน แต่เพราะอยากรู้ว่าโทโมยะจะบอกเธอเรื่องไปญี่ปุ่นหรือเปล่าเลยยังคงนั่งรออย่างใจเย็น (?)
รออยู่พักใหญ่ในที่สุดใครคนนั้นก็เปิดประตูเข้ามาตามคาด อีกใจก็แอบลุ้นอยู่นะว่าเขาจะมานอนนี่หรือเปล่า ไม่งั้นคงรอเก้อ หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ =_=" ร่างสูงในชุดนอนธรรมดาๆ เสื้อยืดกางเกงขายาวแต่โคตรจะดูดีนั้นเดินเข้ามาพร้อมไอแพดคู่ใจที่พักหลังมักจะเห็นเอาติดมือมาทำงานด้วยทุกคืน เขามองมันอย่างสนใจทั้งที่กำลังบุกรุกเข้ามาในห้องคนอื่น ยิ่งทำให้เจ้าของห้องไม่สบอารมณ์เข้าไปใหญ่ ทำคนอื่นเขากระวนกระวายใจแต่ตัวเองสบายใจเหลือเกินนะ!
"หื้ม? " เสียงต่ำเหินสูงเล็กๆ ดังลึกอยู่ในลำคอหลังเงยหน้าขึ้นมองสบดวงตากลมโตของคนบนเตียงแล้วถูกหลบตาเบือนหน้าหนีไปนิ่งๆ ความผิดปกติที่อีกฝ่ายแสดงออกชัดทำเขาต้องลดไอแพดลง ก่อนทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงอีกฝั่งข้างกัน
"มีอะไรหรือเปล่า" ถามเหมือนไม่ได้สนใจรอฟังคำตอบเพราะมองสบตากลมเพียงนิดสายตาของเขาก็ไปลงกับงานในไอแพดต่อ
"ไม่มีค่ะ แล้วคุณล่ะคะ.. มีอะไรจะบอกขวัญหรือเปล่า" ของขวัญโกหกเสียงแข็งและตะล่อมถามกลับ คิดว่าอย่างน้อยๆ ถ้าเขาบอกตอนนี้ก็จะไม่เคืองเท่าไร ถือว่าให้โอกาสพูดเพราะเขาอาจจะลืมจริงๆ ก็ได้
"ไม่มีหนิ.." คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันนิดเหมือนครุ่นคิด แต่สุดท้ายก็ปฏิเสธกลับมาตาใสเหมือนไม่มีอะไรที่หลงลืมไปจริงๆ
"งั้นนอนเถอะค่ะ" ร่างบางถอนหายใจและเลือกที่จะตัดบทไปพร้อมกับล้มตัวลงนอนหันหลังให้ งอนเองหายเองก็ได้วะ!
"เฮ้.. โกรธอะไรเนี่ย" โทโมยะหันไปมองตามแผ่นหลังบางอย่างงงๆ ปนสงสัย มองยังไงก็เหมือนว่าเขาจะถูกอีกฝ่ายโกรธแต่ไม่รู้ว่าโกรธเรื่องอะไร เขายังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ว่าแล้วก็โน้มตัวไปจับไหล่เล็กหันมาหา เพื่อจะได้คุยกันดีๆ
"เป็นอะไร ไหนพูดสิ" พอของขวัญถูกจับพลิกกลับไปนอนหงาย โทโมยะก็โน้มตัวลงมาพูดใกล้ๆ ทำให้เธอเริ่มควบคุมตัวเองลำบาก ไม่รู้ว่าจะสนใจคำถามหรือท่าทางล่อแหลมในตอนนี้ก่อนดี
"ว่าไง.. ทำไมหน้างอ" ร่างสูงถามย้ำเมื่อจู่ๆ ร่างบางก็นิ่งเงียบไปเหมือนเครื่องช็อต
"เอ่อ.. เปล่าหรอกค่ะ รีบนอนเถอะ พรุ่งนี้คุณต้องเดินทางไกล" ของขวัญกะพริบตาถี่ๆ ไล่ความคิดอกุศลในหัวก่อนรีบบอกปัดแบบไม่คิดหน้าคิดหลังจนเผยเรื่องที่แอบเคืองขุ่นอีกฝ่ายอยู่ในใจออกมา
"อืม.. ใช่ องศาบอกเธอแล้วสินะ" คนฟังพยักหน้าพูดขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้ ไม่ใช่ว่าลืมบอกแต่ยังไงร่างบางก็ต้องได้รู้จากคนสนิทอยู่ดี ก็เลยไม่รู้จะพูดซ้ำทำไม อีกอย่างเขาก็ไปอย่างกะทันหันไม่ได้มีกำหนดการล่วงหน้ามาก่อน
"ค่ะ จะไปอยู่แล้วขวัญก็เพิ่งจะรู้นี่แหละค่ะ" เสียงหวานที่โอนอ่อนลงกลับมาห้วนอีกครั้ง แล้วปากเจ้ากรรมก็ดันหาเรื่องเข้าตัวโดยไม่ทันได้ฉุกคิด เลยทำให้โทโมยะเข้าใจสักทีว่าถูกงอนเรื่องอะไร
"อ้อ.. เธองอนฉันเพราะเรื่องนี้สินะ" ร่างสูงเอ่ยตาพราว ไม่ได้ถามเพื่อจะเอาคำตอบที่รู้อยู่แล้วแต่ถามเพราะกำลังจับผิดคนปากแข็งที่ชอบพูดอ้อมโลกต่างหาก
"คะ ใครงอนคุณกัน! ? " นั่นไง.. ผิดไปจากที่พูดซะที่ไหน
"หึหึ" ตาคมจ้องคนที่ใบหน้าสวนทางกับคำพูดอย่างขบขัน จ้องแบบตาไม่กะพริบกะจะให้อีกฝ่ายกระสับกระส่ายเขินอายจนสงบไม่ลง
"นอนได้แล้วค่ะ! " พอรู้ตัวว่าเสียรู้ให้เขาอีก อาการง้องอนขุ่นเคืองในตอนก่อนหน้าก็พลันมลายหายไป แทนที่เข้ามาด้วยความอับอายจนต้องรีบตัดบท พลิกตัวหันหลังคลุมโปงหลบหนีดวงตาแพรวพราวคู่นั้นอย่างรวดเร็ว ก็ในเมื่อเก็บอาการไม่อยู่ก็แสดงออกโต้งๆ แบบนี้แหละ ดันทุรังต่อไปก็น่าอายเหลือเกิน
"ที่ฉันไม่ได้บอกเธอก็เพราะคิดว่าองศาจะต้องบอกอยู่แล้ว อีกอย่างมันก็กะทันหัน ไปไม่กี่วันก็กลับ " เสียงทุ้มเอ่ยปนขำเหมือนไม่ใช่เรื่องที่ต้องใส่ใจ และไม่มีท่าทีอาลัยอาวรณ์เหมือนร่างบางเลยสักนิด มีแต่เธอที่รู้สึกใจหายเมื่อได้รู้ว่าตั้งแต่พรุ่งนี้ไปจะไม่ได้นอนด้วยกันอีกหลายคืน
"ค่ะ งั้นก็นอนเถอะ" ของขวัญตอบรับเสียงเรียบเหมือนจะยังไม่พอใจอยู่ แต่เปล่าหรอก.. เธอไม่ได้เคืองอะไรเขาแล้ว เพียงแต่นอยด์ตัวเองมากกว่าที่พอได้เห็นท่าทางการแสดงออกของเขาแล้วรู้สึกว่ามันไม่สมกับสิ่งที่เธอมีให้เลยสักนิด! ก็ตั้งแต่ที่ได้มาอยู่ใกล้ชิดกันกว่าเคยเธอก็รู้สึกกับโทโมยะมากขึ้นทุกวัน ในขณะที่เขายังคงเฉย.. ไม่รู้สึกอะไรได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย มีแต่เธอที่รู้สึกไปเองฝ่ายเดียว..
วันต่อมา..
หลังจากที่เมื่อคืนนอนคิดเยอะจนเผลอหลับไป ตื่นขึ้นมาในยามเช้าของขวัญก็ไม่เห็นร่างสูงในสภาพล่อแหลมเหมือนทุกวัน ได้ฟังจากปากองศาว่าเจ้านายเขาออกเดินทางตั้งแต่เช้าแล้ว คงจะเป็นธุระด่วนล่ะมั้ง แต่จะรีบอะไรขนาดนั้น อย่างน้อยๆ อยู่ทานข้าวเช้าด้วยกันก่อนก็น่าจะดี นี่ไม่ได้เห็นหน้าก่อนจากเลย.. อ่า นี่เธอคิดมากอะไรอยู่เนี่ย เขาไปแค่ไม่กี่วันนั่งซึมเหมือนไปแรมปี ท่าจะอาการหนักจริงๆ นั่นแหละ
"คิดไว้หรือยังครับว่าอยากไปไหน พี่จะพาไป" องศาถามขึ้นอย่างกระตือรือร้นหลังมื้ออาหารเช้า จุดประสงค์ก็คือจะพาเธอเที่ยวอย่างที่เคยบอก แต่ของขวัญไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลยสักนิด เธอไม่มีที่ไหนที่อยากไปด้วยไม่ใช่คนชอบเที่ยวเท่าไร เมื่อก่อนตอนที่ยังเรียนอยู่วันหยุดก็อยู่แต่บ้าน ไม่ได้ออกไปเที่ยวเหมือนเพื่อนๆ คนอื่นเพราะรู้สึกว่าต้องประหยัดเงินช่วยแม่ให้ได้มากที่สุด ซึ่งอยู่บ้านมันก็สบายดีนะ ทั้งได้พักผ่อนและมีเวลาทบทวนบทเรียน ไม่ต้องไปเร่งอ่านเอาตอนจะใกล้สอบ แบบนี้ดีกว่าออกไปเสียเวลาทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ตั้งเยอะ
"อืม.. ขวัญอยากไปวัดค่ะ อยากทำบุญให้พ่อแม่ และถือโอกาสไปเยี่ยมอัฐิพ่อด้วย" นึกคิดอยู่ครู่หนึ่งดวงตากลมโตก็เปล่งประกายขึ้นมา หลังนึกขึ้นได้ว่าตอนพ่อเสียแม่เก็บอัฐิพ่อไว้ที่วัด ไม่ได้เก็บกลับมาไว้บ้านเหมือนที่เธอทำกับกระดูกแม่ เป็นเพราะมัวแต่เสียใจและยังเด็กเลยไม่ค่อยรู้เรื่องพิธีกรรมทางนี้เท่าไร ตอนจัดงานศพแม่พราวก็เป็นคนจัดการทุกอย่างให้
หลังสิ้นคำบอก.. หนึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งคู่ก็ได้มาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ร่างบางยืนมองรูปพ่อหน้าที่เก็บอัฐิด้วยความคิดถึง เธอบุญน้อยมากที่ไม่ทันได้ตอบแทนพระคุณของพ่อแม่พวกท่านก็มาด่วนจากไปเสียก่อน เรียกได้ว่าเธอมีชีวิตอยู่อย่างไร้ประโยชน์.. ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะอยู่ต่อไปทำไม อยู่ไปก็เป็นภาระของคนอื่น
"พะ พ่อ.. ฮื่ออออออ ฮื่อๆ ๆ " หลังจุดธูปวางดอกไม้ของขวัญก็ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้หน้าอัฐิพ่ออย่างไม่อายคนที่มาด้วย เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจนั้นสะเทือนใจองศาไม่ใช่น้อยเพราะถึงแม้จะรู้จักกันได้ไม่นานเขาก็ผูกพันกับร่างบางเสมือนเป็นน้องสาวอีกคนหนึ่งไปแล้ว ท่าทางน่าสงสารนั้นไม่ว่าใครก็ต้องอดสงสารไม่ได้อย่างแน่นอน แต่จะทำยังไงได้.. ในเมื่อเกิด แก่ เจ็บ ตายมันเป็นเรื่องธรรมดา คนตายก็ตายไปแต่คนที่ยังอยู่จะต้องทำใจและดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้
"ทำใจเถอะครับ ถ้ายังยึดติดเดี๋ยวพวกท่านจะจากไปอย่างไม่สงบนะ พี่เองก็คนหนึ่งที่อยากเห็นน้องขวัญยิ้มมากกว่าร้องไห้" องศานั่งยองๆ ลงข้างกัน มือใหญ่ลูบศีรษะเล็กเบาๆ พลางเอ่ยปลอบเสียงอ่อนโยน คำพูดของเขาทำคนร้องพอจะได้สติขึ้นมาบ้าง.. เธอพยายามจะหยุดเสียงสะอื้นและน้ำตาแต่ก็ต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่จะหยุดได้
"พี่ว่าเราไปทำบุญให้พวกท่านกันดีกว่านะครับ" องศาชวนพร้อมกับประคองร่างบนพื้นขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ร่างบางก้มหน้าปาดน้ำตาเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นสภาพที่ดูไม่ได้ของเธอ ก่อนจะเดินตามกันไปถวายสังฆทานกรวดน้ำให้พ่อแม่ เสร็จจากนั้นก็ไปปล่อยนกปล่อยปลาให้อาหารสัตว์ด้วยกัน องศาไม่ได้ชวนของขวัญคุยเลยสักคำ แต่ปล่อยให้เธอสงบจิตสงบใจไปพร้อมกับการทำสิ่งเหล่านั้นอย่างเงียบๆ ก่อนจะพากันกลับเมื่อถึงเวลาที่สมควร..
อีกฝากหนึ่งของท้องฟ้า...
ไม่กี่ชั่วโมงกับการนั่งเครื่องบินส่วนตัว ในที่สุดโทโมยะก็มาถึงแผ่นดินเกิดอย่างปลอดภัย ร่างสูงโปร่งในชุดสูทหรูทับด้วยเสื้อโค้ทตัวใหญ่ยาวถึงหน้าแข้ง กรอบหน้าหล่อขรึมถูกบดบังไปเกือบครึ่งด้วยแว่นกันแดดราคาแพงก้าวลงมาจากรถที่ไปรอรับมาส่งที่บ้านด้วยท่วงท่าสง่าผ่าเผย สุขุมมั่นคงเหมาะสมกับตำแหน่งทายาทแก๊งคาชิมะรุ่นที่เก้าอย่างไม่มีข้อกังขา
เรียวขายาวเหยียดก้าวเดินเข้าไปในบ้านท่ามกลางลูกน้องที่มารอต้อนรับเป็นแถวยาวอย่างไม่รีบร้อน ใบหน้าคมเที่ยงตรงมองไปข้างหน้าไม่วอกแวกต่อสิ่งใด แม้บ้านไม้สไตล์ญี่ปุ่นหลังใหญ่นี้จะมีห้องหับและทางแยกนับไม่ถ้วนแต่สองขาที่กำลังก้าวเดินยังคงคุ้นชินเป็นอย่างดี จุดหมายปลายทางคือห้องที่ตั้งอยู่ตรงกลางบ้าน ที่แห่งนั้นเปรียบเป็นดั่งศูนย์กลางของแก๊งเช่นเดียวกับสถานะของเจ้าของห้อง
ครืน..
ประตูไม้เนื้อดีถูกเลื่อนออกอย่างเบามือก่อนที่ร่างสูงจะหายเข้าไปเพียงลำพัง ทิ้งคนสนิทและคนติดตามไว้ข้างนอก เช่นเดียวกับคนข้างในที่รู้ตัวว่าไม่เกี่ยวข้องก็รีบกุลีกุจอเก็บข้าวของเดินออกไป
"...เป็นยังไงบ้างครับ" หลังทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วยที่มีสายอะไรต่อมิอะไรระโยงระยางพ่วงกับร่างบนเตียงเต็มไปหมด เสียงต่ำแหบพร่ากว่ายามปกติก็เอ่ยถามออกมาเรียบนิ่ง เหมือนจะไม่รู้สึกอะไรแต่ลึกลงไปในแววตามีระลอกคลื่นที่วูบไหวเมื่อได้เห็นสภาพล่าสุดของบุคคลที่ชื่อว่าเป็น.. พ่อ
"คง.. ใกล้.. ตาย.." เสียงตอบกลับเบาหวิวตามอาการที่เริ่มทรุดหนักแต่หากยังฟังดูหยิ่งทระนงในตัวเองไม่ลดรา ถ้าถามว่าชายผู้เป็น 'อดีตหัวหน้าแก๊ง' ในวัยห้าสิบปีที่เคยแข็งแรงองอาจสมตำแหน่งทำไมถึงมาอยู่ในสภาพนี้ได้ บอกเลยว่ายาว! เล่าสามวันสามคืนคงไม่จบ เอาเป็นว่าสรุปให้ฟังสั้นๆ ง่ายๆ เลยว่า 'กรรมตามสนอง'
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นพ่อ.. เป็นสามี.. แต่คนๆ นี้นั่นแหละที่ทำให้อาการป่วยของแม่เขาทรุดหนักจนเสียไปในที่สุด แต่แทนที่เขาจะเสียใจสักนิดกับอาการป่วยหรือการจากไปของภรรยากลับมัวไปเริงร่าอยู่กับผู้หญิงคนอื่น แถมยังพาเข้ามาเชิดหน้าชูตาอยู่ในบ้านอย่างเปิดเผย ความมัวเมาในกิเลสตัณหาทำให้ขาดสติ! กว่าจะรู้ตัวว่าผู้หญิงพวกนั้นเป็นนางนกต่อที่พวกศัตรูส่งมาแก๊งคาชิมะก็แทบจะล่มสลาย ยังดีที่ได้ฝ่ายพันธมิตรยื่นมือเข้ามาช่วยแลกกับการบีบบังคับให้เจ้าตัวสละตำแหน่งมาให้เขารับช่วงต่อ..
นับจากนั้นคนที่เขาเคยเรียกว่าพ่อเมื่อนานมาแล้วก็เหมือนจะสติแตก วันๆ กินแต่เหล้าไม่ทำอะไรจนสิ่งที่กินเข้าไปมันย้อนกลับมาทำร้ายกัดกินอวัยวะภายในจนเรื้อรังไร้หนทางรักษา.. ที่เขากลับมาในครั้งนี้ก็เพราะหมอประจำตระกูลโทรไปบอกหรอกว่าคนๆ นี้จะอยู่ได้อีกไม่นานเพราะอาการทรุดหนักจนหมดปัญญาจะยื้อชีวิตต่อไปได้อีก มาดูใจสักหน่อยก็ได้.. อย่างน้อยๆ อีกฝ่ายก็เป็นคนทำให้เขาเกิดมา แม้จะไม่ได้เกิดจากความรักก็เถอะ..
..
..
..
..
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 12"ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยวาง ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น.." ร่างสูงเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง มือใหญ่วางทับลงบนหลังมือเหี่ยวย่นพร้อมกับบีบเบาๆ จริงอยู่ว่าเขากับพ่อไม่ลงรอยกันนักแต่ถึงอีกฝ่ายจะเลวร้ายแค่ไหนสายเลือดเดียวกันมันก็คงจะตัดกันไม่ขาด ตอนนี้ผลจากการกระทำมันก็ตามสนองเขาแล้วเรื่องที่ผ่านมาก็ควรจะให้มันจบๆ กันไป"พะ พ่อ.. ขอโทษนะ.. ทุก.. อย่าง.." ต่างฝ่ายต่างเงียบไปชั่วอึดใจ มาถึงตอนนี้ร่างบนเตียงก็ไม่อาจทนเฉยกับการกระทำอ่อนโยนของลูกชายได้ เขาพยายามเอ่ยคำขอโทษออกมาอย่างยากลำบาก น้ำเสียงเข้มขรึมกับพละกำลังที่เคยมีหดหายลงไปเรื่อยๆ ตามลำดับอาการ คนเราถึงคราวใกล้ตายนั่นแหละถึงจะสำนึกได้ว่าทำผิดต่อคนอื่นไว้มากแค่ไหน"ครับ.. ผมอโหสิกรรมให้ทุกอย่าง" ร่างสูงยกยิ้มบางให้บิดา พลอยทำให้อีกฝ่ายรู้สึกปล่อยวางขึ้นมาได้บ้าง เรื่องอื่นคนเป็นพ่ออย่างเขาคงไม่ห่วงแล้ว ทั้งเรื่องแก๊งและธุรกิจเขาเชื่อว่าลูกชายจะดูแลได้ดียิ่งกว่า ห่วงก็แต่ 'ทาคิยะ' ลูกชายคนเล็กกับ 'คาวามูระ' น้องชายต่างมารดาของเขานั่นแหละ"ดูแล.. น้องด้วยนะ.. ระวัง.. เจ้าคาวามูระไว้ให้ดี.. เจ้
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 13"น้องขวัญ! แป้งจะล้นชามแล้วครับ! " เสียงตะเบ็งของคนสนิททำร่างบางที่กำลังเทแป้งเค้กลงในภาชนะถึงกับสะดุ้งโหยงหลุดออกจากภวังค์ ทำหน้าเหรอหราก่อนจะรีบตักแป้งส่วนเกินที่เทล้นออกมากลับใส่ถุงตามเดิม แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะขำเบาๆ จากเชฟ ผิดกับองศาที่ขำไม่ลงเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ของขวัญสติหลุดลอยไปไกล แต่นานวันยิ่งหนักขึ้นๆ เลยต่างหากสาเหตุไม่แน่ชัดแต่ก็คงไม่ยากเกินความคาดเดา.. ร่างบางเริ่มเหม่อ หน้าตาหม่นหมอง บางทีก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนนึกคิดอะไรอยู่คนเดียวบ่อยๆ นับตั้งแต่เจ้านายเขาไม่อยู่ ตอนแรกก็คิดว่าไปไม่กี่วันคงจะกลับแต่พอดีเกิดเรื่องใหญ่เข้าก็เลยต้องอยู่ยาว ซึ่งนี่ก็กินเวลาไปอาทิตย์กว่าแล้ว"ถ้าเหนื่อยเรากลับไปพักดีมั้ยครับ ขนมพวกนี้พี่กับเชฟกินจนน้ำหนักขึ้นแล้วนะ ไม่ต้องทำทุกวันก็ได้" องศาเอ่ยชวนพร้อมกับแอบบ่นหน่อยๆ เรื่องขนมหวานที่ร่างบางพยายามหัดทำ เพราะไม่ใช่วันเว้นวันเหมือนก่อน วันที่ต้องทำความสะอาดห้องพอทำเสร็จเธอก็จะมาขลุกตัวอยู่ในครัวเพื่อให้เชฟสอนทำนู่นทำนี่ตามใจอยาก แทนที่จะเอาเวลาไปพักผ่อน เขาพยายามชวนไปเ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 14"ระหว่างฉันไม่อยู่ทำอะไรบ้าง ได้ไปเที่ยวหรือเปล่า? " โทโมยะเป็นฝ่ายชวนคุยหลังจบเรื่องที่ห้อยโทรศัพท์และต่างฝ่ายต่างนั่งกินหมูกระทะเงียบๆ มาได้สักพักตลอดเวลาที่อยู่ญี่ปุ่นเขาไม่ได้ติดต่อทางนี้เลย แต่ก็ใช่ว่าคนทางนี้จะไม่รู้ข่าวเรื่องพ่อ สมาชิกทุกคนในแก๊งมีสิทธิ์ที่จะรู้และร่วมไว้อาลัย ซึ่งเขาได้ยกให้เป็นหน้าที่ของคนสนิทคอยกระจายข่าว มีเพียงคนเดียวที่ไม่รู้ก็คือของขวัญ คาดว่าองศาคงเก็บเงียบและรอให้เขาเป็นคนตัดสินใจเองจะว่าบอกเธอหรือไม่ เพราะจะบอกหรือไม่บอกร่างบางก็ไม่มีส่วนได้เสียอะไร"ขวัญทำงานและก็ไปวัดทำบุญให้พ่อกับแม่นิดหน่อยค่ะ" ของขวัญตอบไปตามความจริง แม้องศาจะคะยั้นคะยอให้เธอออกไปเที่ยวแทนที่จะหมกตัวอยู่แต่ในครัวหรือห้องนอน แต่เธอก็ไม่ได้ไปเพราะการไปเที่ยวโดยที่ไม่ได้อยากไปนั้นคิดว่าคงเสียเวลาและเงินทองโดยเปล่าประโยชน์"แค่นั้น? " คนฟังเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เพราะเขาสั่งองศาไว้แล้วว่าอนุญาตให้พากันเที่ยวหรือไปไหนก็ได้ตามใจ"ค่ะ" ร่างบางพยักหน้ารับสั้นๆ เพราะดวงตากำลังจ้องมองหมูสไลด์ชิ้นโตบนกระทะที่กำลังสุกได้ที่ เสี้ยววินาทีก็ได้มันมาอยู่ใน
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 15วันนี้โทโมยะก็ยุ่งอีกเช่นเคย.. เขาออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าจนบ่ายคล้อยก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับ ของขวัญเลยค่อนข้างจะเหงาหน่อยๆ เพราะอยากอยู่ด้วยกันนานๆ ไม่ใช่แค่ตอนนอน แต่ก็อย่างว่า.. คนมีงานทำกับคนว่างงานมันจะไปมีเวลาเหลือเฟือมาเจอกันได้ยังไงล่ะ หรือเธอต้องทำตัวให้ยุ่งกว่านี้ จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน..เวลากว่าหกโมงเย็นในที่สุดคนตัวใหญ่ก็กลับมา ของขวัญยังไม่ได้เจอหน้าแต่ที่รู้ก็เพราะองศาบอกว่านายเขาให้มาเรียกไปทานข้าวเย็นร่วมกันบนดาดฟ้า คำบอกนั้นทำคนฟังรู้สึกแปลกใจระคนตื่นเต้น เพราะตั้งแต่อยู่ที่นี่มาไม่เคยได้ขึ้นไปบนดาดฟ้าเลย และก็ไม่รู้ด้วยว่าข้างบนนั้นเป็นยังไง แต่คิดว่ายามเย็นๆ แบบนี้มันจะต้องอากาศดีมากแน่ๆร่างบางถูกคนสนิทนำทางขึ้นมายังดาดฟ้าของตึกทางบันได สิ่งที่เห็นมันเลยจากสิ่งที่คิดไว้ไปมากโข เธอคิดว่าบนนี้น่าจะเป็นพื้นที่โล่งๆ หรือมีต้นไม้ดอกไม้บ้างประปราย แล้วก็มีโต๊ะเก้าอี้ไว้นั่งทานข้าวกัน แต่จริงๆ แล้วมันมีมากกว่านั้น.. สระว่ายน้ำกับโดมกันแดดขนาดใหญ่กินพื้นที่บนนี้ไปมากกว่าครึ่ง ส่วนอีกโซนที่เหลือเป็นสวนเล็กๆ มีโซฟาเบดทั้งแบบนั่งและแบบปรั
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 16ร่างบางถูกวางลงบนเตียงในท่านั่งมือยันที่นอน และก่อนที่ร่างสูงจะผละออกมือเล็กก็รั้งแขนเขาเอาไว้ ใบหน้าคมหันมามองสบตาอย่างสงสัย เท้ามือข้างหนึ่งลงไปบนเตียงเพื่อยั้งน้ำหนักไว้ไม่ให้คร่อมทับอีกคน เขาได้สติหลังจากจูบที่สองจบลงและพยายามครองสติบังคับตัวเองไม่ให้ทำอะไรเลยเถิดไปมากกว่านี้ เพราะงั้นเมื่อพามานอนแล้วก็ตั้งใจจะผละออกไป"ไม่หยุด.. ได้มั้ยคะ.." น้ำเสียงอ่อนหวานร้องขออย่างขัดเขิน ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองคนฟังอย่างออดอ้อนระคนเชิญชวน ทำคนตัวใหญ่ถึงกับหายใจสะดุด.."รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา" น้ำเสียงกดต่ำเอ่ยเรียบออกมา ใบหน้าไม่ยินดียินร้าย ยิ่งคนถูกถามพยักหน้าตอบโทโมยะก็ยิ่งนิ่งงัน เขาไม่พูดอะไรอีก เพียงจ้องหน้าของขวัญตาดุ ใครสั่งใครสอนให้เชิญชวนผู้ชายขึ้นเตียงแบบนี้กัน!"พรุ่งนี้วันศุกร์.. ถ้าคุณอยากทำเรื่องแบบนั้น.. ขวัญ.. พร้อมแล้วนะคะ.." เสียงหวานเอ่ยต่อเมื่อไม่เห็นร่างสูงโต้ตอบอะไร พูดไปไม่ใช่ว่าไม่อายนะ เพียงแต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีความกล้ามากกว่าปกติ ประจวบกับนึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้วันศุกร์ ถ้าเขาจะออกไปที่ผับหรือเรียกใครมาใช้บริการ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 17"นั่นแกจะทำอะไร! ? "ร่างสูงใหญ่ที่กำลังจะพุ่งเข้ามาถูกกระชากจนตัวลอยกลับไป ขนาดตัวที่ไม่ต่างกันมากทำทาคิยะแค่เซๆ เท่านั้นไม่ถึงกับล้มคว่ำ แต่แทนที่เขาจะตื่นตระหนกตกใจที่เห็นหน้าพี่ชายกลับยืนล้วงกระเป๋ากางเกงหัวเราะขำอย่างไม่สะทกสะท้านของขวัญรีบพุ่งเข้าไปหาโทโมยะด้วยความดีใจ รู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่เพราะเธอเกือบจะสิ้นหวังไปแล้ว ร่างสูงมองสำรวจเหมือนจะดูว่าเธอเป็นอะไรไหม พอเห็นว่ายังสบายดีก็ดันเธอมาหลบข้างหลัง แล้วหันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้เป็นน้องชาย"หึหึ มาเร็วกว่าที่คิด" ทาคิยะเหยียดยิ้ม มองสบดวงตาคมที่กำลังเกรี้ยวโกรธของพี่ชายอย่างไม่เกรงกลัว"แกมาที่นี่ทำไม" โทโมยะคำรามเสียงต่ำอยู่ในลำคอ เขาไม่เคยสติหลุดขนาดนี้มาก่อน ไม่ว่าทาคิยะจะพูดจาดูถูกเหยียดหยามสักแค่ไหนก็ไม่เคยสะทกสะท้าน แต่ตอนนี้ใจมันร้อนรุ่มกรุ่นโกรธ.. ยิ่งนาทีที่เปิดประตูมาเห็นน้องชายกำลังจะทำมิดีมิร้ายคนตัวเล็กสติเขาเหมือนจะขาดสะบั้น!"ไม่มาจะรู้หรอว่าพี่ซุกเด็กเลี้ยงไว้" ตาคนพูดจ้องพี่อย่างท้าทาย ก่อนมองเลยไปยังคนข้างหลังด้วยแววตาวาววับเหมือนเจอของเล่นชิ้นใหม่ที่ถูกอกถูกใจ"
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 18'คนกำลังมีความรัก.. ไม่ว่าอะไรก็มองเห็นเป็นสีชมพู' ของขวัญไม่เคยเชื่อประโยคเปรียบเทียบเกินจริงนั้นเลยจนถึงตอนนี้ ทุกอย่างรอบตัวยังคงเป็นสีเดิม.. ท้องฟ้าดำมืดยามค่ำคืน ดวงดาวระยิบระยับลอยอยู่ไกลลิบตา โซฟาเบดสีน้ำตาลอ่อนตัวเดิมบนดาดฟ้า หรือแม้แต่ดอกไม้ใบหญ้าในกระถาง.. ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งสีมันก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม เพราะงั้นเธอคอนเฟิร์มว่าประโยคข้างต้นมัน 'จกตา' ไม่เป็นความจริงเลยสักนิดเพราะ 'ความรู้สึกจริงๆ ของคนมีความรัก' ที่วันนี้เธอได้สัมผัสกับตัวเอง อย่างแรกเลยก็คือหุบยิ้มไม่ได้.. กับแค่นอนดูดาวเฉยๆ ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ราวกับบนฟ้านั้นมีอะไรตลกนักหนา ต่อมาก็เป็นความรู้แปลกประหลาดในอก เดี๋ยวก็ใจเต้นแรง วาบหวิว จั๊กจี้แต่บางทีก็อิ่มเอมและอบอุ่นผสมปนเปกันไปตามสถานการณ์ สุดท้ายเลยคือความประหม่า เขินอายไม่เป็นตัวของตัวเองและไม่กล้าสบตาอีกฝ่ายนานๆ ทุกอย่างที่กล่าวมามันไม่ได้เกิดพร้อมกันในตอนอยู่คนเดียว กลับกันดันถาโถมหมดทุกอย่างเมื่อได้อยู่ต่อหน้าคนที่รัก.."วันนี้ไม่มีมาร์การิต้าหรอคะ" ของขวัญเอ่ยถามยิ้มๆ ทีเล่นทีจริงเมื่อเห็นว่าของว่างบนโต๊ะ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 19โทโมยะตื่นก่อนในเช้าวันถัดมา.. คนข้างกายยังคงหลับสนิท ใบหน้าซีดขาวกว่าปกตินั้นทำให้เขาต้องวางมือลงบนหน้าผากเนียนเพื่อวัดไข้ เมื่อพบว่าปกติดีก็ก้าวลงจากเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างคนหลับก่อนเดินมาเก็บเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ข้างเตียงไปใส่ในตะกร้าให้เรียบร้อยแล้วทำการอาบน้ำแต่งตัว ภายนอกที่ดูเฉยชาเป็นปกติแต่ใครจะรู้ว่าในหัวเขามีแต่เรื่องเมื่อคืนวนเวียนอยู่ตลอด.. ไม่รู้ว่ามันเร็วหรือช้าไปสำหรับความสัมพันธ์เรียบเรื่อยของเขากับร่างบาง แต่เขาก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้ ชอบความรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ ที่หัวใจทุกทีที่คิดถึง..ร่างสูงยังคงมีงานล้นมืออีกเช่นเคย แต่วันนี้เขายกเลิกงานหรือนัดที่ต้องเดินทางออกไป เหลือไว้เพียงงานเอกสารแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น นั่นเพราะตั้งใจจะหยุดดูอาการของ 'เมียเด็ก' เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเขามาดูดำดูดีจะเป็นเรื่อง..ของขวัญตื่นขึ้นมาในช่วงสาย.. แน่นอนว่าร่างกายปวดร้าวไปทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะขยับมากหรือน้อยก็ระบมไปหมด ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ มองเพดานกว้างสักพัก ภาพและเสียงทุกฉากทุกตอนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ แจ่มชัดในความรู้สึ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ) เป็นเวลากว่าสามเดือนที่โทโมยะและของขวัญใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น ด้วยเจตนารมณ์ของเขาที่หมายมั่นจะสละตำแหน่งหัวหน้าแก๊งคาชิมะให้ผู้เป็นน้องชาย เมื่อเรื่องร้ายๆ ผ่านพ้นไปเวลาที่เหลือเขาจึงเริ่มเดินหน้าสอนงานน้องอย่างเต็มกำลังและขีดเส้นตายไว้ว่าภายในสองปีทาคิยะจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับให้ได้ นั่นทำให้อีกฝ่ายแอบมาโอดครวญให้ร่างบางฟังบ่อยๆ ว่าผู้เป็นพี่เคี่ยวเข็ญอย่างกับจะพาไปแข่งโอลิมปิก ได้ยินแล้วก็ขำแต่คงจะช่วยอะไรไม่ได้นอกจากคอยรับฟังหลังช่วงทดลองงานสามเดือนของทาคิยะผ่านพ้นไปทั้งคู่ก็บินกลับประเทศไทย ปล่อยให้ว่าที่ผู้นำคนต่อไปหยัดยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง แต่ไม่เชิงว่าโดดเดี่ยวเพราะเขามีทั้งคนสนิทและผู้ช่วยมือดีหลายคน ด้วยเหตุนี้งานของคาชิมะที่โทโมยะทำอยู่เลยพลอยลดน้อยลงไปด้วย แม้ไม่ถึงกับหมดแต่เขาก็มีเวลาเหลือพาของขวัญไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาตามที่เคยสัญญากันไว้ในตอนก่อนไปญี่ปุ่น เขาพาเธอไปไหว้พ่อแม่เขาเธอเองก็พาเขาไปไหว้พ่อแม่เธอเหมือนกันเรียกได้ว่าชีวิตในช่วงนี้ดี๊ดีและมีความสุขแบบสุดๆ แม้จะยังไม่มีเหตุการณ์ประมาณว่าขอเป็นแฟนหรือบอ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 26โชคดีที่ของขวัญไม่ได้ถูกร่างสูงกินแทนข้าวเย็นเพราะแค่รอบเดียวในบ่อน้ำพุช่วงล่างก็เจ็บเสียดจนกลายเป็นคนเดินช้าและเดินนุ่มนวลไปแบบเขินๆ อย่างในตอนนี้ที่กำลังเดินตามอีกฝ่ายไปยังห้องอาหารก็มีหลายครั้งที่เขาต้องชะลอฝีเท้าเพื่อให้เธอตามทัน แน่นอนว่าเขารู้ถึงสาเหตุวัดได้จากสายตาวาววับที่มองมาเดิมทีของขวัญคิดว่าเพื่อนร่วมโต๊ะทานมื้อค่ำจะมีแค่ทาคิยะคนเดียว รวมเธอกับร่างสูงก็เป็นสามคน แต่พอประตูไม้เนื้อดีถูกเลื่อนออกถึงได้รู้ว่าบรรยากาศมันผิดจากที่คิดไว้มาก ภายในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่นี้มีจำนวนบุคคลด้านในไม่ต่ำว่าสิบคน!ทุกคนล้วนอยู่ในชุดสบายๆ อย่างยูกาตะและล้วนเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างจะมีอายุ.. เสียงพูดคุยกันอย่างออกรสชาติในตอนก่อนหน้าเงียบกริบลงไปในทันทีที่โทโมยะพาเธอเข้ามา ทุกสายตาไม่ได้ผ่านการนัดหมายแต่พวกเขาพากันมองผู้มาใหม่ทั้งสองสลับกันอย่างพร้อมเพรียง"อ้าวพี่ มาๆ มานั่งนี่เลยครับ" ทาคิยะเป็นคนดึงความสนใจของทุกคน เขารีบลุกจากเบาะรองนั่งนุ่มๆ บนพื้นมานำทางให้ทั้งคู่ไปนั่งลงบนหัวโต๊ะที่ได้จัดเตรียมที่ทางไว้ให้ตั้งแต่แรก สายตาทุกคู่ยังคงจับจ้อง
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 25"อะ อื้ม~" ท้ายทอยเล็กถูกมือใหญ่รั้งเข้าหา ประกบจูบลงไปบนริมฝีปากแดงเรื่อ ดูดซับความนุ่มนิ่มที่ด้านนอกเบาๆ ก่อนสอดแทรกเรียวลิ้นคว้านลึกเข้าไปข้างใน ร่างบางเปิดปากให้อย่างรู้หน้าที่ แม้จะยังไม่ประสาแต่ก็สมยอมตอบรับสัมผัสของร่างสูงด้วยความเต็มใจทุกครั้งเผลอไผลไปกับรสจูบครู่เดียวร่างเพรียวบางก็ถูกยกตัวลอยเปลี่ยนท่ามานั่งคร่อมตักในสภาพล่อแหลมยิ่งกว่าเดิม มือใหญ่วางลงบนสะโพกอวบ บีบเคล้นเบาๆ ก่อนลูบไล้ขึ้นมาตามเอวคอดกิ่วจนถึงแผ่นหลังเนียนนุ่ม ชั่วอึดใจก็กอดรั้งคนบนตักเข้ามาแนบชิด บดเบียดร่างกายเข้าหากันจนไม่เหลือพื้นที่ว่าง ทรวงอกอวบขาวเบียดชิดแผงอกล่ำ หน้าท้องแบนราบแนบแน่นไปกับลอนซิกแพค ช่วงล่างแข็งขืนเสียดสีอยู่กับช่องทางอ่อนนุ่มที่ยังคงปิดสนิท วงแขนแกร่งที่โอบกอดเอวบางขยับโยกตัวเธอขึ้นลงเป็นจังหวะเนิบนาบ.. จงใจให้อะไรๆ มันบดเบียดพอให้หวาดเสียวท้องน้อยเล่นๆ"อะ อ๊ะ อื้อ.." หลังถูกครอบครองไปหลายต่อหลายครั้งในที่สุดริมฝีปากบางที่เริ่มบวมเจ่อก็ถูกปล่อยเป็นอิสระ ของขวัญรีบกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดอย่างหิวกระหาย สองมือจิกเกร็งอยู่บนไหล่กว้างเมื่อเขาเปลี่ย
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 24หลังจากปลดคาวามูระและพรรคพวกออกจากตำแหน่งโทโมยะก็ค่อนข้างจะวุ่นๆ นิดหน่อยเพราะต้องเรียกตรวจสอบ ประเมินความเสียหายและทำการปรับเปลี่ยนหัวหน้าเขตคนใหม่เข้ามาดูแลแทน รวมทั้งทำการรื้อระบบเก่าที่อีกฝ่ายเคยจัดการดูแลทิ้งแล้ววางระบบใหม่เข้าไปแทนที่ รวมๆ แล้วหลายปีที่ผ่านมาคาชิมะถูกมันโกงกินไปไม่น้อย ยังไม่รวมเรื่องที่แอบค้ายาและค้ามนุษย์พื้นที่ที่เป็นกฎต้องห้ามของแก๊งอีกตอนแรกก็สงสัยว่าคนๆ เดียวที่ภรรยาจากไปนานแล้วมีภาระแค่ส่งเสียลูกสาวเรียนเมืองนอกแค่คนเดียวมันจะจำเป็นต้องใช้เงินมากอะไรขนาดนั้น แต่พอขุดไปขุดมาถึงได้รู้ว่ามันติดการพนัน ติดเหล้าติดยาและติดผู้หญิงอย่างหนัก เงินที่ได้ไปก็เอาไปลงกับอบายมุขพวกนั้นทั้งหมด ลูกแทบจะไม่เหลียวแล!แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย หลังจากที่ถูกพาตัวไปขังไว้ในคุกมืด.. สถานที่ที่มีไว้เพื่อกักขังคนทรยศ สองวันให้หลังร่างสูงก็ได้รับรายงานว่าผู้เป็นอาได้หลบหนีความผิดด้วยการใช้เข็มขัดผูกคอตัวเองกับลูกกรงสิ้นใจก่อนที่จะโดนเจ้าทาคิยะสำเร็จโทษไปก่อนแล้ว สภาพศพไม่น่าดูเท่าไรเพราะก่อนหน้านั้นคนของเขาที่สั่งให้คอยเฝ้าหน้าค
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 23"ฮ่าๆ ๆ เงินตั้งห้าสิบล้าน พี่แกยังกล้าโอนมาให้ฉัน ง่ายๆ แลกกับชีวิตไร้ค่าของแก ไม่น่าเชื่อ.. ฉันอุตส่าห์เป่าหูพวกแกให้เกลียดกันเพื่อหวังจะให้พวกแกหันมาฆ่ากันเอง แต่แม่งคงจะไม่มีวันนั้น.. เพราะแกมันโง่ทาคิยะ! แกมันขี้ขลาด! เหอะ คนแบบนี้น่ะหรออยากจะขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊ง ถุ้ย! ฝันกลางวันอยู่หรือไงไอ้เด็กเหลือขอ! " เสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นมาด้วยความสะใจเมื่อลูกน้องเข้ามารายงานว่าได้รับเงินเรียกค่าไถ่จากหลานชายคนโตเรียบร้อย ก่อนที่น้ำเสียงหยามเหยียดจะพ่นคำดูถูกใส่หลานชายคนเล็กพร้อมกับยืนจ้องมองด้วยสายตาเกลียดชัง"สารเลว.. พวกผมเป็นหลานของอานะ! " คนที่ถูกจับมัดนั่งบนเก้าอี้ในสภาพสะบักสะบอมเลือดโชกขบกรามแน่นด้วยความโกรธจัด ถามหาความเมตตาลมๆ แล้งๆ จากคนที่มีสายเลือดร่วมกันครึ่งหนึ่งด้วยความเจ็บใจ กว่าจะรู้สึกตัวว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือชำระความแค้นก็เสียรู้จนหมดสภาพ"หลานหรอ ฮ่าๆ ๆ ฉันนับญาติกับพวกแกที่ไหนกันเล่า ฉันเกลียดไอ้คาสึยะพ่อของแก เกลียดแก เกลียดพี่ชายของแก! พวกแกมันมารชีวิต! ถ้าไม่มีพวกแกทุกสิ่งทุกอย่างก็จะต้องเป็นของฉัน!! " คาวามูระระเบิดอารมณ์
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 22"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าไม่ดีเลย" องศาถามขึ้นในตอนที่เดินทางกลับ เพราะคนตัวเล็กนั่งเงียบมาตลอดทางตั้งแต่ออกจากร้านอาหารตามสั่งของพราวแล้ว สีหน้าก็ดูจะไม่สู้ดีนัก"เปล่าค่ะ ก่อนกลับพี่องศาพาขวัญแวะทำบุญหน่อยนะคะ" ของขวัญบอกปัดอย่างที่คิด แต่คนฟังก็ไม่ได้เซ้าซี้จะรู้ให้ได้ ทำเพียงพยักหน้ารับและแวะเข้าวัดตามคำสั่งเมื่อได้ทำบุญจิตใจที่ว้าวุ่นของร่างบางก็พอจะสงบลงมาได้บ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังแอบคิดอยู่.. ก็เรื่องของแป้งนั่นแหละ ไม่เชิงว่ารู้สึกผิดไปเสียทีเดียว แต่เป็นความสงสารและเห็นใจมากกว่า ในฐานะคนที่เคยแอบรักเขามาเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้กรณีของเธอก็ยังไม่เรียกว่าสมหวังนะ แค่ก้าวหน้ามากขึ้นเท่านั้น.."นี่.." น้ำเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยเรียกสติคนเหม่อให้หันมามอง แล้วก็ต้องแปลกใจว่าอีกฝ่ายกลับมาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตัว.."..มาตั้งแต่เมื่อไรคะเนี่ย" เมื่อพิจารณาดีๆ แล้วของขวัญก็ต้องตกใจซ้ำอีก เพราะร่างสูงนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน เธอควรจะรู้สึกตัวบ้างเวลาพื้นโซฟามันยุบตามน้ำหนักเขา นี่ต้องเหม่อขนาดไหนถึงได้ไม่รู้สึกอะไรเลย.."ก็นานพอที่จะ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 21"ตกลงอยากกินอะไร" ร่างสูงถามย้ำอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบตอนถามไปครั้งแรก คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองด้วยรอยยิ้มแห้งๆ เมื่อรู้ตัวว่าละเลยคำถามของเขา ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ อย่างพิจารณา"อืม.. ขอเดินดูก่อนได้มั้ยคะ"แต่สุดท้ายก็ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ เพราะตลาดนัดกลางคืนแห่งนี้มีร้านอาหารเยอะมาก จนไม่สามารถเลือกได้ง่ายๆ มีทั้งร้านแบบที่เป็นร้านจริงๆ และเป็นโต๊ะเก้าอี้ตั้งข้างทางเดิน อาหารมากหน้าหลายตาที่คุ้นเคยถูกวางขายเรียงรายจนเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไรดี.. จริงๆ เธอไม่อยากเข้าร้านหรูๆ ดูดีสักเท่าไร เพราะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ตอนที่เคยไปเดินตลาดกับแม่เลยอยากนั่งร้านข้างทางมากกว่าทั้งคู่พากันออกเดินด้วยความตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะของขวัญ เธอพาคนตัวสูงแวะร้านนู้นร้านนี้ที่มีทั้งของกินและของใช้ที่น่าสนใจวางขาย ซึ่งจนแล้วจนรอดก็ไม่ได้กินข้าวกันสักทีเพราะเดินกินแต่ของว่าง ไส้กรอกบ้าง ขนมบ้าง น้ำหวานบ้างกะจุกกะจิกไปตลอดทาง แต่คนที่มาด้วยก็ไม่ได้ขัด ออกจะยิ้มบางเสียด้วยซ้ำเวลาที่เห็นแววตาเปล่งประกายและรอยยิ้มกว้างจนตาหยีของคนตัวเล็ก เขาคิดถูกที่พาเธอมาที่นี่ตามคำ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 20"คะ คุณโทโมยะ.. อย่าค่ะ.." ของขวัญร้องห้ามปากคอสั่น เสียงขาดห้วงลมหายใจติดขัดเมื่อคนที่อุทิศตนเป็นเบาะรองนั่งให้ไม่ยอมอยู่เฉย.. เอาคางเกยบนศีรษะหรือจูบหอมมันเธอก็พอจะยอมได้ แต่ตอนนี้ริมฝีปากกับลมหายใจร้อนผ่าวของเขาเริ่มเลื้อยลงต่ำมาที่ท้ายทอยและซุกไซ้ลำคอของเธออย่างซุกซน"อะ อื้อ.. คุณ.." คำร้องห้ามมีผลลัพธ์ไปในทางที่เลวร้ายกว่าเดิมเมื่อไม่ใช่แค่จมูก ริมฝีปากหรือลมหายใจร้อนที่รุกรานร่างกายเธออีกต่อไป มือใหญ่ที่วางประสานกันอยู่ตรงหน้าท้องแบนราบเริ่มเลื้อยขึ้นมาจนถึงหน้าอก ความนุ่มนิ่มของก้อนเนื้อตรงนั้นดึงดูดให้เขาออกแรงบีบขย้ำมันอย่างเต็มไม้เต็มมือและ.. เต็มใจ! แม้จะมีเนื้อผ้าขวางกั้นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีน้อยลง มือบางวางทับลงบนหลังมือใหญ่หมายจะดึงออกไปทว่าเรี่ยวแรงไม่รู้หายไปไหน ยิ่งอีกฝ่ายบีบแรงเท่าไรพละกำลังของเธอก็ยิ่งหดหายลงไปเรื่อยๆ เขาเป็นตัวสูบพลังหรือไงเนี่ย.."อ๊ะ คุ๊ณ~" เสียงหวานเหินสูงด้วยความตกใจเมื่อยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ มืออีกข้างของเขาเลื่อนต่ำลงไป ลากผ่านท้องน้อยและมุดเข้าใต้ชายชุดคลุมอาบน้ำที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อเช้า ของขวัญดิ้น
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 19โทโมยะตื่นก่อนในเช้าวันถัดมา.. คนข้างกายยังคงหลับสนิท ใบหน้าซีดขาวกว่าปกตินั้นทำให้เขาต้องวางมือลงบนหน้าผากเนียนเพื่อวัดไข้ เมื่อพบว่าปกติดีก็ก้าวลงจากเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างคนหลับก่อนเดินมาเก็บเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ข้างเตียงไปใส่ในตะกร้าให้เรียบร้อยแล้วทำการอาบน้ำแต่งตัว ภายนอกที่ดูเฉยชาเป็นปกติแต่ใครจะรู้ว่าในหัวเขามีแต่เรื่องเมื่อคืนวนเวียนอยู่ตลอด.. ไม่รู้ว่ามันเร็วหรือช้าไปสำหรับความสัมพันธ์เรียบเรื่อยของเขากับร่างบาง แต่เขาก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้ ชอบความรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ ที่หัวใจทุกทีที่คิดถึง..ร่างสูงยังคงมีงานล้นมืออีกเช่นเคย แต่วันนี้เขายกเลิกงานหรือนัดที่ต้องเดินทางออกไป เหลือไว้เพียงงานเอกสารแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น นั่นเพราะตั้งใจจะหยุดดูอาการของ 'เมียเด็ก' เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเขามาดูดำดูดีจะเป็นเรื่อง..ของขวัญตื่นขึ้นมาในช่วงสาย.. แน่นอนว่าร่างกายปวดร้าวไปทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะขยับมากหรือน้อยก็ระบมไปหมด ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ มองเพดานกว้างสักพัก ภาพและเสียงทุกฉากทุกตอนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ แจ่มชัดในความรู้สึ