มาเฟียจ้าวชีวิต
Writer : Aile'N
ตอนที่ 5
กว่าห้าวันแล้วที่ของขวัญมาอยู่ที่ตึกสูงแห่งนี้.. ชีวิตในแต่ละวันของเธอดำเนินไปแบบวนลูป ตื่นเช้า อาบน้ำแต่งตัว ทานข้าวและของบำรุงสารพัดอย่างที่องศาจัดมาให้ จากนั้นก็ว่าง.. ไม่มีอะไรให้ทำ ได้แต่นั่งๆ นอนๆ หายใจทิ้งไปวันๆ ดีหน่อยที่องศาหอบหนังสือจากห้องสมุดชั้นล่างมาให้เธออ่านแก้เบื่อบ้าง.. หรืออาจจะทำให้เบื่อหนักกว่าเดิม เพราะส่วนใหญ่มีแต่หนังสือวิชาการ ศาสตร์ต่างๆ กับพวกปรัชญาชีวิต มีนวนิยายบ้างแต่ก็ล้วนเป็นภาษาต่างประเทศทั้งสิ้น
เที่ยงตรง.. ได้เวลายัดอาหารลงท้องอีกครั้ง พอเริ่มย่อยหนังตาก็เริ่มหย่อน ช่วงบ่ายเลยกลายมาเป็นเวลานอนกลางวัน เมื่อตื่นก็มานั่งโง่ๆ มองวิวทิวทัศน์ตรงโซฟาริมกำแพงกระจกที่มันเคยสวยมากในครั้งแรกที่เห็น แต่พอมองบ่อยๆ ความสวยงามของมันก็ค่อยๆ ลดลงไป.. จากนั้นก็ได้เวลาทานมื้อเย็น อาบน้ำและเข้านอน วนอยู่แค่นี้ตลอดห้าวันที่ผ่านมา นี่มันไม่ได้ต่างจากการถูกพามาขังเลยสักนิด..
หลังจากวันแรกที่เจ้าของตึกแห่งนี้พาของขวัญเข้ามา เธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย องศาบอกว่าโทโมยะมีงานมากมายที่ต้องสะสาง เธอก็เลยยังไม่รู้ว่าบทสรุปของอนาคตตัวเองจะเป็นยังไงต่อไป เธออยากคุยเรื่องนี้กับเขาเพราะไม่อยากอยู่แต่ในห้องเฉยๆ งานอะไรที่พอจะช่วยได้เธอก็อยากจะทำ.. แต่ถามถึงใครคนนั้นทีไรองศาก็เอาแต่พร่ำบอกว่าให้เธอรักษาตัวให้หายดีก่อน เมื่อนั้นคงถึงเวลาสมควรที่เจ้านายเขาจะเข้ามาคุยด้วย ไม่ว่าเธอจะบอกกี่ครั้งว่าไม่ได้เป็นอะไรแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยเชื่อ เอาแต่คัดสรรอาหารหรูคุณภาพดีมาขุนเธอจนแน่นโต๊ะไปหมด
ก๊อกๆ
แกรก..
ร่างบางที่กำลังนอนคว่ำหน้าลงกับหนังสือเล่มโตอย่างเบื่อๆ เงยหน้าขึ้นมองไปที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงเคาะ ก่อนจะพบว่าเป็นคนสนิทที่เปิดประตูเข้ามา เท่านั้นเธอก็ถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่งมองไปยังกล่องอะไรบางอย่างที่อีกฝ่ายถือติดมือมาด้วย
"นี่คือโทรศัพท์เครื่องใหม่ นายใหญ่ซื้อให้น้องขวัญ เอาไว้เล่นแก้เบื่อ แต่อย่าเล่นบ่อยนะครับเดี๋ยวสายตาเสีย ข้างในมีเบอร์นาย คุณอากิ คุณเซย์โนะ และเบอร์พี่ถูกเมมไว้แล้ว ให้โทรเฉพาะยามจำเป็นเท่านั้นนะครับ" องศาตอบคำถามของคนตัวเล็กที่แสดงออกมาทางสีหน้าแววตา ก่อนยื่นกล่องใส่โทรศัพท์ยี่ห้อดังอันมีค่าตัวแพงลิ่วมาให้ ด้านในมีตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริมครบครัน ใหม่เอี่ยมเพราะเพิ่งถอยจากร้านมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
"เอ่อ ขอบคุณนะคะ แต่นี่.. ไม่แพงไปหรอ ให้ขวัญใช้ธรรมดาๆ ก็พอ" ร่างบางขอบคุณแต่ไม่กล้ารับ เธอไม่เคยใช้โทรศัพท์ยี่ห้อนี้มาก่อนเพราะมันแพงมาก แค่เห็นราคาก็ขยาดแล้ว แต่คนส่วนใหญ่กลับนิยมซื้อมาใช้เพื่ออวดรวยแข่งกัน เธอไม่ค่อยเข้าใจนักหรอกว่าอวดแล้วได้อะไรเพราะบางคนใช้เงินพ่อแม่ซื้อ บางคนซื้อเงินผ่อน แต่ถือโชว์ประหนึ่งว่าไม่มีกระเป๋าให้ใส่โทรศัพท์ =_="
"รับไปเถอะครับ นายใหญ่ชอบคนว่าง่าย" ร่างสูงยิ้มบาง คำพูดนั้นทำคนฟังขมวดคิ้วฉับจนหน้ายุ่ง
"แล้วขวัญพูดยากตรงไหน" ร่างบางท้วงอย่างไม่ค่อยชอบใจ เธอก็แค่เกรงใจที่เจ้านายเขาดูแลเธอดีเกินความจำเป็น ญาติฝ่ายไหนก็ไม่ใช่แถมยังติดหนี้บุญคุณเขาเป็นสิบๆ ล้านอีก
"ตรงไม่ยอมรับไปดีๆ นี่แหละครับ.. เวลานายให้อะไร น้องขวัญก็แค่รับไป เพราะนายต้องการให้ ถ้าไม่ยอมรับหรือมีข้อแม้นายจะไม่พอใจ" องศาอธิบายเพิ่มเพื่อให้คนฟังเข้าใจ โทโมยะชอบคนพูดง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกน้องหรือใครหน้าไหน เขาไม่ชอบคนมากความหรือชอบขัดใจ อยากให้ก็คือให้ ไม่ต้องถามว่าทำไม
"อะไรล่ะนั่น.. เอาแต่ใจชะมัด" ของขวัญบ่นอุบ ทำปากยื่นขณะนึกไปถึงหน้าตาไร้อารมณ์ของใครคนนั้น เธอสนิทกับองศาแล้วเลยคุยเล่นกันได้ ประจวบกับที่ไม่พอใจเจ้านายเขาเรื่องหายหัวไปไม่มาหาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยบ่นให้เขาฟังซะเลย ซึ่งองศาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพียงหัวเราะขำเบาๆ เท่านั้น
"แล้วนี่.. เจ้านายพี่ไม่คิดจะมาพูดอะไรกับขวัญหน่อยหรอคะ อย่างน้อยๆ หางานให้ขวัญทำหน่อยก็ได้ ขวัญทำงานบ้านเป็นนะ ทำข้าวผัดหมูอร่อยด้วย" มือบางยอมรับโทรศัพท์เครื่องใหม่มาอย่างว่างง่าย ก่อนจะชวนคุยต่อและอวดเมนูถนัดที่มั่นใจว่าทำอร่อย ตอนแรกเธอก็ทำงานบ้านงานครัวไม่เป็นหรอกเพราะแม่มักจะทำให้ทั้งหมด เพิ่งมาเริ่มหัดทำก็ตอนที่แม่ทรุดเข้าโรงพยาบาลนั่นแหละ ช่วงเวลานั้นมันเป็นจุดพลิกผันอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ ปัญหาต่างๆ นานาที่ถาโถมทำให้อ่อนแอเพราะไร้ที่พึ่งพิง แต่เมื่อปรับตัวได้มันก็ทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้น แม้จะไม่เหลือใคร.. ก็ยังมีตัวเองให้พึ่งพา
"เพิ่งผ่านมาไม่กี่วันเอง ร่างกายน้องขวัญก็ยังดูไม่แข็งแรงดีเลยนะ" องศาบอกกลั้วเสียงขำ เพราะรู้สึกเอ็นดูตอนที่อีกฝ่ายพูดถึงฝีมือการทำข้าวผัดด้วยดวงตาเปล่งประกาย
"ไม่แข็งแรงอะไรล่ะคะ ให้แบกหนังสือทั้งหมดนี้ยังได้" คนตัวเล็กคุยโวพร้อมทำปากยื่นใส่กองหนังสือเล่มใหญ่ที่กระจัดกระจายอยู่รอบตัว แต่คนฟังกลับส่ายหน้าเหนื่อยๆ ไม่ว่าใครก็มองว่าเธออ่อนแอเกินไปทั้งองศาและแพรว ถึงรูปร่างเธอจะให้ก็เถอะ แต่หลายเดือนที่ทำงานมาเธอแข็งแรงและมีความอดทนขึ้นเยอะนะบอกเลย
"เฮ้อ.. ไว้ถ้านายพี่เริ่มว่าง พี่จะลองพูดกับท่านให้นะ" องศาถอนหายใจก่อนรับปากว่าจะช่วยพูดกับนายให้ คำพูดของเขาไม่วายทำคนฟังกรอกตามองเพดานด้วยความหมั่นไส้ นี่มาเฟียหรือสายลับ หาตัวยากจริงๆ!
"ขอบคุณค่ะ ตอนนี้พี่ไปพักเถอะ" ของขวัญตัดบทเพราะคุยต่อก็คงไม่ได้อะไร
เมื่อองศาออกไป เธอก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่มาเรียนรู้วิธีการใช้งานจนเข้าใจ ก็นึกอยากเข้าไปส่องโลกโซเชียลที่ห่างหายมานาน แต่ลืมขอรหัสไวไฟจากคนสนิทไว้ ครั้นจะเรียกเข้ามาใหม่ก็เกรงใจเลยลองเปิดไวไฟดูก่อนเพราะเห็นเขาเมมเบอร์ใส่ซิมอะไรไว้ให้เสร็จสรรพพร้อมใช้งาน เลยอยากรู้ว่าได้เชื่อมต่อไวไฟของที่นี่ไว้ให้ด้วยไหม ทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าตึกลึกลับแห่งนี้จะมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้เล่นหรือเปล่าแต่ก็คิดไปก่อนแล้วว่ามี!
พอเปิดไวไฟก็ปรากฏว่ามันเชื่อมต่อและจำรหัสอัตโนมัติให้แล้วร่างบางเลยยิ้มแฉ่งด้วยความดีใจ แอบชื่นชมคนดูแลโทรศัพท์เครื่องนี้ก่อนจะมาถึงเธออยู่นะเนี่ยว่าเตรียมพร้อมซะรอบคอบเชียว สบายแกล่ะของขวัญ..
แอพพลิเคชันสีฟ้าคือแอพที่ร่างบางล็อกอินเข้าไปใช้ก่อนอย่างอื่น เธอเห็นแพรวทักมาหาหลายข้อความมาก ใจความประมาณว่าไปหาที่บ้านแล้วไม่เจอเลยเป็นห่วง จึงพิมพ์ตอบกลับไปว่าสบายดี ตอนนี้ขอหนีไปพักใจที่ต่างจังหวัดชั่วคราว.. เลี่ยงที่จะบอกความจริงเพราะไม่อยากให้แพรวเป็นห่วงหรือคิดว่าเธอถูกล่อลวงมาที่นี่..
เมื่อเบื่อ.. โทรศัพท์เครื่องใหม่ที่ว่าตื่นเต้นในตอนได้จับแรกๆ ตอนนี้ก็ไร้ความหมาย สุดท้ายของขวัญก็เลยตัดสินใจหอบหมอนกับผ้าห่มไปนอนที่โซฟาตัวยาวริมกำแพงกระจกที่ตอนกลางวันจะเลื่อนม่านปิดไว้กันแสงแดดส่องเข้ามารบกวน ตั้งแต่ที่แม่เข้าโรงพยาบาลเธอก็ติดนอนโซฟาเพราะพื้นที่มันแคบกว่าเตียง ไม่ทำให้เหงาและอ้างว้างจนเกินไป เนื่องจากตอนแม่อยู่เธอนอนกับแม่ทุกคืน..
เวลาเดียวกันโทโมยะกลับมาจากไปดูความเรียบร้อยของธุรกิจอโคจรหลายแห่งที่อยู่ภายใต้การปกครอง เมื่อลิฟต์เปิดออกที่ชั้นบนสุดก็เห็นองศายืนโค้งทำความเคารพอยู่หน้าลิฟต์เหมือนทุกครั้ง เจ้าของใบหน้าเรียบนิ่งกับดวงตาเฉื่อยชาเหลือบมองร่างนั้นเล็กน้อย ก่อนเอ่ยถามถึงคนที่สั่งให้คอยดูแล
"เด็กคนนั้นเป็นยังไงบ้าง" หลายวันแล้วที่ไม่ได้เจอ หวังว่าจะดีขึ้น..
"ร่างกายกำลังฟื้นตัวครับ ได้ยินบ่นว่าเบื่อๆ ที่ต้องอยู่แต่ในห้อง แล้วก็.. อยากคุยกับนายด้วยครับ" องศารายงานด้วยท่าทางสุขุม คนฟังขมวดคิ้วนิดๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนจะพยักหน้ารับแล้วออกตัวเดินไปยังห้องที่ใครคนนั้นพักอยู่ พร้อมกับยกมือห้ามคนสนิทที่ทำท่าจะเดินตามเข้าไปด้วย
ดวงตาคมกริบกวาดมองไปทั่วห้อง เห็นก็แต่กองหนังสือที่มีทั้งเปิดค้างไว้และไม่ได้เปิดกระจัดกระจายอยู่บนเตียง ข้างๆ กันนั้นเป็นโทรศัพท์เครื่องใหม่ที่เขาให้องศาไปซื้อมาให้ถูกวางทิ้งไว้ ส่วนเจ้าของมันหายไป.. เดินไปดูที่ห้องน้ำไม่มี เลยหันไปมองที่โซฟาด้วยความรู้สึกบางอย่างที่มันสะกิดใจ ครั้นเดินไปดูก็เห็นคนที่กำลังตามหานอนขดตัวอยู่ตรงนั้นอีกแล้ว..
ของขวัญตื่นขึ้นมาอีกทีในตอนเกือบเย็น และได้แต่นั่งงงว่ามาอยู่บนเตียงได้ยังไงในเมื่อตั้งใจไปนอนโซฟา หนังสือที่เคยวางเกลื่อนถูกเก็บ โทรศัพท์ก็วางผิดที่กับที่เคยวาง เป็นใครไปไม่ได้นอกจากองศาที่คงเข้ามาเห็นแล้วกลัวว่าเธอจะนอนไม่สบายเลยพามานอนที่เตียง.. ร่างบางสรุปกับตัวเองแบบนั้นจึงไม่ติดใจอะไร รีบลุกไปอาบน้ำและมารอทานมื้อค่ำ แต่เมื่อเห็นเชฟเข็นอาหารมากหน้าหลายตาเข้ามาก็ถึงกับอ้าปากค้างเพราะมันเยอะมาก.. เยอะกว่าปกติ! นี่กะจะขุนให้เป็นหมูเลยหรือยังไง =_="
"เอ่อ คุณเชฟคะ ขวัญต้องกินหมดนี่เลยหรอคะ ปกติก็กินไม่หมดอยู่แล้วนะคะ" ร่างบางโอดครวญ ทำหน้าตาเลิกลั่กเหรอหราจนเชฟหลุดยิ้มบางก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ
"เปล่าครับ แต่วันนี้นายใหญ่จะมาทานด้วย" คนฟังฉงนระคนตกใจ ไม่ทันได้ถามอะไรคนที่กำลังพูดถึงก็เดินเข้ามาโดยไม่มีสัญญาณใดบอกกล่าว เนื่องจากเวลามาเสิร์ฟอาหารเชฟจะไม่ปิดประตูเพราะเดี๋ยวจะลำบากเวลาเข็ญออกไป
"นั่งสิ" เสียงทุ้มเอ่ยบอกเมื่อคนตัวเล็กเอาแต่ยืนมองหน้าเขาเหมือนเห็นสิ่งมหัศจรรย์..
สิ้นคำคนเหม่อก็เหมือนจะได้สติรีบทรุดตัวนั่งลงอีกฝั่ง ตากลมลอบมองใบหน้าหล่อคมที่ดูแปลกตาไปของผู้มาใหม่อย่างเผลอไผล ไรหนวดประปรายขึ้นประดับกรอบหน้าขับให้ลุคของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปนิดๆ ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น.. น่าขันใครบางคนที่เคยปากกล้าลับหลัง พอมาอยู่ต่อหน้ากลับไม่กล้าแม้แต่จะหายในแรง..
"องศาบอกว่าเธออยากคุยกับฉัน? " ร่างสูงตรงเข้าประเด็นขณะเปิดไวน์ชั้นดีเทลงแก้วด้วยท่วงท่าสบายๆ ทว่าสง่าผ่าเผยเหมือนทุกครั้งที่พบเจอ
"เอ่อ ก็ใช่ค่ะ คือ.. ขวัญแข็งแรงแล้ว และไม่อยากอยู่แต่ในห้อง ขวัญอยากทำงานตอบแทนคุณค่ะ" ของขวัญละล่ำละลักพูดเหมือนกลัวจะไม่มีโอกาสได้พูด
"ไหนว่าสิ่งที่ทำเป็นมาสิ.." โทโมยะมองคนตรงหน้าด้วยสายตาประเมิน ไวน์ชั้นเยี่ยมที่ตั้งใจจะยกขึ้นจิบเป็นอันต้องวางลง ก่อนเปลี่ยนท่าทีประสานมือไว้บนตัก แอนตัวพิงพนักรอฟังคำตอบอย่างตั้งใจ
"ขวัญทำงานบ้านเป็นค่ะ พวกปัดกวาดเช็ดถู แล้วก็ทำอาหารง่ายๆ ได้ โดยเฉพาะข้าวผัดหมู ขวัญทำอร่อย" คนพูดฉีกยิ้มอย่างภูมิใจนำเสนอ
"หึ.." คนฟังเค้นเสียงในลำคออย่างขบขัน..
"ของแบบนั้นไม่จำเป็นหรอก.. ที่นี่มีพนักงานทำความสะอาดและมีเชฟฝีมือระดับภัตตาคารอยู่แล้ว" เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจในสิ่งที่คนตัวเล็กบอก รอยยิ้มกว้างขวางนั้นเลยเป็นอันต้องหุบ หมดสิ้นความภาคภูมิใจเหลือเพียงใบหน้าเจื่อนๆ นั่นสินะ.. ดูอาหารตรงหน้าพวกนี้สิ น่ากินกว่าข้าวผัดหมูพื้นๆ ของเธอหลายเท่าเลย
"แต่บางที.. ฉันอาจจะอยากกินอะไรง่ายๆ ก็ได้" ของขวัญได้แต่มองหน้าคนพูดตาปริบๆ ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ..
"...ไว้ถ้าอยากกินข้าวผัดหมูเมื่อไรจะเรียก" ร่างสูงเอ่ยตรงเมื่อประโยคก่อนหน้าไม่ได้ทำให้คนฟังเข้าใจ ร่างบางมองสบตาคมอย่างอึ้งๆ ก่อนหลบตามองต่ำ พยายามกลั้นยิ้มและพยักหน้ารับหงึกๆ เมื่อเขาไม่พูดอะไรต่อเธอก็ไม่กล้าชวนคุย นั่งทานข้าวไปพร้อมกันอย่างเงียบๆ
"ถ้าเบื่อ เธอจะออกไปข้างนอกก็ได้ แต่บอกฉันก่อนและเอาการ์ดไปด้วย" โทโมยะพูดขึ้นมาอีกครั้งหลังจบมื้ออาหารค่ำ เขายังไม่ลุกไปไหนแม้จานชามจะถูกเก็บออกไปแล้ว
"ไม่มีงานอะไรให้ขวัญทำจริงๆ หรอคะ" ร่างบางเลียบๆ เคียงๆ ถามดูอีกครั้ง เธออยากทำงานอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องนั่งๆ นอนๆ อยู่แต่ในห้อง เธอยังมีหนี้บุญคุณก้อนใหญ่ที่อยากจะชดใช้คืน..
"ทุกคนที่นี่ต่างมีหน้าที่ของตัวเองหมด ฉันมีอากิกับเซย์โนะอยู่แล้ว.. สองคนนั้นทำได้ทุกอย่าง ยกเว้น.. เรื่องบนเตียง" น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน แม้ท้ายประโยคจะทำคนฟังหน้าขึ้นสี ใจสั่นไปกับสายตาคนพูดที่มองจ้องมาอย่างเที่ยงตรง
คนเรียกร้องจะทำงานเป็นอันต้องคิดหนัก.. เมื่ออีกฝ่ายบอกเป็นนัยว่านั่นคือสิ่งเดียวที่เธอทำได้ เธอเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการและยังไม่ลืมด้วยว่าตัวเองได้ยกชีวิตที่เหลืออยู่ให้เขาไปแล้ว แต่ความไม่เคยกำลังทำให้เธอหวาดกลัว..
"เอ่อ.. คะ ครั้งเดียวได้มั้ยคะ" เสียงหวานต่อรองออกไปอย่างติดขัด เธอไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกในตอนทำเรื่องพรรค์นั้นมันเป็นยังไง แต่กลัวจะรับไม่ไหว
"เธอกำลังต่อรอง? " คนฟังเลิกคิ้วสูงขณะถามกลับ ดวงตาคมมองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ ก่อนกระตุกยิ้มเยาะบางๆ ไม่คิดว่าเธอจะกล้าต่อรอง..
"......." คนถูกถามนั่งเงียบ เม้มปากแน่นด้วยความประหม่า มันอาจจะฟังดูเห็นแก่ตัวที่เธอยังมีหน้าไปต่อรองกับเขา แต่จะให้ทำยังไง.. แค่ครั้งเดียวยังไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าทำเลย! T^T
"ครั้งเดียว.. แลกกับเงินสิบล้าน? " รังสีกดดันโจมตีใส่คนตัวเล็กทางคำพูดและสายตา น้ำเสียงที่เอ่ยดูแคลนคำขอต่อรองของอีกฝ่ายอย่างไม่ปิดบัง
"ไม่ถึง.. ไม่ถึงสิบสักหน่อย ก็.. ขวัญบอกว่าเงินเหลือ แต่คุณก็ไม่เอา.." ของขวัญไม่วายแย้งออกมาทั้งที่หวาดหวั่นกับสายตาคม เธอใช้เงินที่เขาให้มาไม่หมดเสียหน่อย บอกให้เอาคืนไปแล้วไม่ยอมเอาเองก็อย่ามาคิดจำนวนเต็มสิ!
"หึ.. ฉันให้แล้วให้เลย ไม่รับคืน" โทโมยะเค้นเสียงขบขันเมื่อคนตัวเล็กกล้าแย้งออกมาทั้งที่นั่งตัวสั่น เขาไม่สนเงินเท่ายิบมือนั้นหรอก ให้คือให้ไม่คิดเอาคืน แต่ที่แสร้งทวงบุญคุณอยู่ในตอนนี้ก็แค่อยาก 'แกล้ง'
"ก็แล้วแต่เธอ.. ฉันไม่ชอบบังคับใครนักหรอก แต่ถ้าฉันไม่ช่วยมา เธอก็คงจะผ่านมือผู้ชายนับไม่ถ้วน.." ปากบอกแล้วแต่.. แต่ทุกถ้อยคำที่พูดล้วนบาดลึกถึงใจคนฟังจนอยากจะค้อนใส่สักร้อยวง! หมั่นไส้.. แต่สถานการณ์ในตอนนี้เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งทำหน้าเป็นหมาหงอยให้อีกฝ่ายพ่นคำพูดแทงใจ
"......." ของขวัญไม่มีคำตอบให้เพราะนึกคำพูดใดไม่ออก ที่เขาพูดมันจริงทุกอย่างจนเธอเจ็บใจ
"แต่ใครเคยบอกนะ.. ว่ายกชีวิตที่เหลืออยู่ให้ฉัน ถ้าชีวิตเป็นของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้สิ จริงมั้ย? " โทโมยะกระตุกยิ้มมุมปากอย่างคนเป็นต่อ ยิ่งเห็นคนฟังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ ก็ยิ่งสนุก..
"...กะ ก็ได้ค่ะ! ขวัญจะทำ!! " ของขวัญตัดสินใจจบคำพูดดูแคลนต่างๆ ของเขาอย่างไม่มีทางเลือก เธอพยายามจะนึกถึงความรู้สึกในวันนั้นที่ตัดสินใจทำงานอย่างว่า เผื่อความกล้าในวันนั้นจะส่งผลมาถึงวันนี้บ้าง..
"หึหึ ก็ดี.." ร่างสูงเหยียดยิ้มเต็มปาก ก่อนหัวเราะในลำคออย่างขบขัน สิ้นคำก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงกว่าร้อยเก้าสิบเซนฯ กระชับสูทเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไร.. ทิ้งคนข้างหลังไว้กับความมึนงง พยายามคิดหาเหตุผลว่าเขาอาจจะไปหยิบของหรือทำธุระบางอย่างแล้วคงจะกลับเข้ามาเลยนั่งทำใจรอ คิดว่าคืนนี้ยังไงก็ไม่รอดแน่.. ครั้งแรกได้ยินมาว่ามันเจ็บมากเลยนะ พอจะมีวิธีไหนทำให้เจ็บน้อยลงบ้างไหมอ่ะ แล้ว.. เขาจะใส่ถุงยางหรือให้เธอกินยาคุม ถ้าเขาให้กินต้องกินแบบไหนถึงจะไม่ท้อง โอ้ย กังวลไปหมด!
"พี่องศา คุณโทโมยะล่ะคะ" รอแล้วรอเล่าอีกฝ่ายก็ไม่มา.. กระทั่งองศากลับเข้ามาในห้องอีกครั้งเลยอดไม่ได้ที่จะถาม
"นายก็ไปทำงานสิครับ น้องขวัญก็น่าจะได้คุยแล้วหนิ"
"อ้าว! ? "
..
..
..
..
โถ่ คนอุตส่าห์เตรียมใจ พอเขาแกล้งจนพอใจก็ทิ้งไว้กลางทางซะงั้น 555555
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 6"เป็นอะไร อาหารไม่อร่อย? " บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเช้านี้ไม่สดใสเท่าที่ควร เพราะใครบางคนที่แกล้งให้ร่างบางรอเก้อเมื่อคืนดันโผล่มานั่งร่วมโต๊ะทานข้าวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"เปล่าค่ะ.." เสียงเบาตอบออกไปโดยไม่มองหน้า และไม่รู้ตัวเลยว่าหัวคิ้วกำลังขมวดเข้าหากันซึ่งเป็นกิริยาที่ขัดกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง"หรืออารมณ์เสียเรื่องเมื่อคืน? " ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบ แต่หากดวงตาเปล่งประกายอะไรบางอย่างที่ทำคนมองรู้สึกไม่ชอบใจ"เปล่านี่คะ ดีใจซะอีก" คนพูดลอยหน้าเหมือนไม่ใส่ใจกับเรื่องนั้น จริงๆ ถึงเธอจะโกรธที่ถูกแกล้งให้รอเก้อ แต่มันก็ยังมีแง่ดีเพราะยังไม่เสียความบริสุทธิ์ให้ใคร"หึ..." โทโมยะเค้นเสียงในลำคอเหมือนมีอะไรน่าขบขัน ทำคนฟังได้แต่เก็บงำความไม่พอใจเอาไว้เพราะเธอเกลียดเสียงในลำคอแบบนั้นของเขา ปกติของขวัญเป็นเด็กขี้อายและมีมารยาทมากกว่านี้แต่คนตรงหน้ามักทำให้เธอปั่นป่วนและหลุดการควบคุมอยู่หลายครั้ง"เธอยังเรียนไม่จบใช่มั้ย.. อยากกลับไปเรียนหรือเปล่า" เงียบไปสักพักร่างสูงก็ถามขึ้นมาอย่างจริงจัง เขาไม่เคยมีความคิดที่จะรับของขวัญมาอยู่ด้วยแต่แรก มันเกิดจากการต
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 7"คิดอะไรอยู่หรอครับ คิ้วขมวดเชียว" องศาถามขึ้นในตอนที่ยกของว่างมาให้ของขวัญ แล้วเห็นว่าร่างนั้นเอาแต่นั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนกำลังคิดอะไรที่มันสำคัญอยู่"ขวัญ.. ถ้าขวัญอยากทำงานให้คุณโทโมยะเหมือนพี่ พอจะมีโอกาสเป็นไปได้มั้ยคะ" คนถูกทักเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงอย่างชั่งใจ อึกอักเล็กน้อยก่อนจะยอมพูดในสิ่งที่คิดออกมา นี่ยังไม่เลิกคิดเรื่องที่อยากจะทำงานให้นายเขาอยู่อีกหรอเนี่ย.."อย่าเลยครับ นอกจากนายจะไม่ให้ทำแล้ว น้องขวัญยังไม่เหมาะที่จะทำอะไรแบบนี้ด้วย" องศาตอบย้ำว่าไม่มีทางที่ของขวัญจะมายืนอยู่ในจุดเดียวกับเขาได้ ต่อให้อยากทำแค่ไหนนายใหญ่คงไม่อนุญาตเพราะผู้หญิงจะเป็น 'จุดอ่อน' ของแก๊ง ไม่ว่าฝีมือจะเก่งกาจสักแค่ไหน แต่จิตใจก็ยังอ่อนไหวง่ายกว่าผู้ชายอยู่ดี"แล้วขวัญพอจะทำอะไรได้บ้างคะ ขวัญไม่อยากนั่งๆ นอนๆ อยู่แต่ในห้องนะ" ร่างบางเริ่มเครียดจริงจัง เธอนั่งคิดมาร่วมสองชั่วโมงแล้วว่าเธอพอจะทำอะไรเพื่อโทโมยะได้บ้าง ที่คิดว่าทำได้ก็เสนอไปหมดแล้วแต่เขาก็ไม่ต้องการ"พี่ว่าน้องขวัญน่าจะกลับไปเรียนนะ ถ้าเรียนจบนายอาจจะให้มาช่วยเรื่องบัญชีหรือเอกสารก็ได้
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 8เป็นอีกวันที่ของขวัญตื่นขึ้นมาบนเตียงในตอนเช้าอย่างงงๆ เพราะจำได้ว่าเมื่อคืนนั่งรอโทโมยะที่โต๊ะทานข้าวจนดึกและคงเผลอหลับไป สงสัยนะ.. ว่าใครเป็นคนพาเธอมาไว้บนเตียง? แต่คิดเองคงไม่รู้เลยเลิกสนใจ หันมามองหาขนมที่ทำไว้ให้ใครคนนั้นแทน จนมาเจออยู่ที่โต๊ะตัวเดิมที่นั่งรอเมื่อคืน แต่เหลือเพียงตะกร้าเปล่ากับโน้ตหนึ่งใบ..'อร่อยดี'ข้อความเพียงสั้นๆ ที่ถูกเขียนไว้ในนั้นทำของขวัญยิ้มจนแก้มปริ แต่พอรู้ว่าโทโมยะเข้ามาและอาจจะเป็นคนอุ้มเธอไปนอนบนเตียงก็พลันชะงัก.. แก้มแดงซ่านด้วยความรู้สึกดีแปลกๆ นี่เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าถูกแกล้งอะไรไว้บ้าง ถึงได้ไปใจเต้นแรงกับเขาน่ะ!ร่างบางสลัดความรู้สึกแปลกๆ นั้นออกไป ก่อนหยิบโน้ตใบนั้นไปเก็บไว้ใต้หมอนแล้วเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแต่งตัว แปดโมงตรงองศาก็เข้ามาทำหน้าที่ วันนี้เธอมีนัดกับเชฟในตอนเช้า ส่วนตอนบ่ายมาทำความสะอาดห้องนอนของเธอเองและห้องข้างๆ ที่เป็นของร่างสูง ความจริงชั้นนี้มีทั้งหมดสี่ห้องใหญ่ เป็นห้องนอนสอง ห้องทำงานหนึ่งและห้องฟิตเนสอีกหนึ่ง แต่สองห้องหลังโทโมยะให้แม่บ้านประจำทำ เพราะถ้าให้ของขวัญทำคนเดียวทั้งสี่ห้องค
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 9ของขวัญเดินเข้าห้องมาด้วยหัวใจพองโตนิดๆ แต่นั่นก็ไม่ทำให้หายซึมได้ เธอเดินมานั่งที่โซฟาริมกำแพงกระจก วางรูปกับโกศกระดูกแม่ลงข้างตัวก่อนลุกขึ้นรูดม่านผืนใหญ่เปิดออก แล้วกลับมานั่งกอดรูปแม่เหม่อมองออกไปโดยไม่มีจุดโฟกัสของสายตา เธอคิดถึงทั้งแม่และพ่อ การเป็นลูกคนเดียวซ้ำไม่มีญาติทำให้เธอไม่เหลือใครอย่างสมบูรณ์ ที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ของเธอ.. ไม่รู้จะฝากชีวิตไว้ได้สักแค่ไหนแต่ก็ยังนับว่าโชคดีที่ได้เจอกับโทโมยะ.. ถึงจะไม่รู้ว่าเขาพาเธอมาที่นี่ทำไมและผู้คนที่นี่จะน่ากลัวขนาดไหน แต่เธอก็รู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขา เขาทำดีกับเธอทั้งที่ไม่มีความจำเป็น เธอไม่มีค่าหรือทำประโยชน์อะไรให้เขาได้เลยสักนิด แต่เขาก็ยังใจดีกับเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ จนถึงตอนนี้..อ่า.. สัมผัสอุ่นๆ เมื่อสักครู่นี้เริ่มจางหายไปแล้ว แต่ของขวัญกลับอยากได้รับมันอีกครั้ง.. อีกครั้งและอีกครั้ง! เธอรู้ว่าไม่สมควรที่จะไปหาอีกฝ่ายในเวลาดึกดื่นแบบนี้ แต่เธออยากมีเพื่อน.. ความรู้สึกมันเลยตีรวนอยู่ในอกสุดท้าย.. ก็ยับยั้งความต้องการที่เอาแต่ใจไว้ไม่ไหว ตัดสินใจลุกเดินออกไปดู
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 10ของขวัญเดินเอื่อยมานั่งลงบนโซฟาริมกระจกอย่างเลื่อนลอย ทว่าใบหน้าสวยกลับยุ่งเหยิง หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนมีอะไรให้ครุ่นคิดมากมาย หลังสิ้นคำตอบนั้นขององศาเธอกับเขาก็แยกย้ายกันไปพัก แต่เธอกลับไม่สามารถปล่อยวางสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้เมื่อไม่กี่นาทีก่อนได้ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก..แป้งเป็นผู้หญิงที่ทำงานอย่างว่า เท่าที่ได้รู้จักกันเผินๆ เธอเป็นคนนิสัยดี น่ารัก ยิ้มสวย จนไม่น่าเชื่อว่าจะมาทำอาชีพแบบนี้ ฝ่ายโทโมยะเองฟังจากที่พราวบอกว่าเขามักจะไปที่ผับทุกวันศุกร์เพื่อใช้บริการ.. ล่าสุดวันนี้เขาก็เรียกอีกฝ่ายมาถึงที่เพราะไม่มีเวลาไปด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นในเวลานี้หรือหลังจากนี้ ในห้องข้างๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งคู่กำลังทำอะไรกัน..แล้วทำไม.. เธอถึงกระสับกระส่าย ปวดจี๊ดในอกที่ได้รับรู้เรื่องนี้ด้วย? ทำไมถึงไม่อยากให้มันเกิดขึ้นทั้งที่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาที่เธอไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย.. เธอเป็นคู่นอนให้โทโมยะไม่ได้ ไม่สิ.. เขาไม่เลือกเธอมากกว่า ซึ่งก็ถูกแล้วที่เขาจะไปทำกับคนอื่นแทน ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ..?ร่างบางรู้สึกสับสนกับความรู้ส
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 11มีสิ่งหนึ่งที่แปลกไป.. แปลกไปอย่างมาก! นั่นก็คือการกระทำของโทโมยะตั้งแต่วันที่มานอนค้างห้องของของขวัญแบบมึนๆ ในวันนั้น เขาก็มักจะมาอีกในคืนถัดไปจนล่าสุดเลยเถิดไปไกล ถึงขั้นเริ่มเรียกให้เธอเป็นฝ่ายไปนอนด้วย.. แต่ช้าก่อน! อย่าเพิ่งคิดไปไกล แค่นอนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร อย่างมากก็แค่กอด.. กอดเหมือนหมอนข้างอย่างที่เขาพูดกรอกหูเธอทุกวันของขวัญเคยถามนะว่าเขาทำแบบนี้ทำไม เหตุผลที่ได้ก็คือเขานอนไม่ค่อยหลับถ้าไม่ได้กอดก่ายอะไรก่อนนอน แน่นอนว่าเธอถามต่อว่าทำไมไม่ซื้อหมอนข้างมากอด และเขาก็ให้เหตุผลแบบมึนๆ มาว่าเพิ่งจะค้นพบว่าการกอดคนตัวอุ่นๆ ด้วยกันมันหลับลึกกว่า (?) เพราะงั้นอีกหนึ่งหน้าที่ของเธอที่เพิ่มเข้ามาก็คือทำตัวเป็นหมอนข้างให้เขากอดนอนเหตุผลแปลกดี.. แต่ไม่ดีกับหัวใจเธออย่างแรง! เพราะหลังจากวันนั้นที่โทโมยะพาใครมานอนด้วยของขวัญก็เริ่มจะรู้ใจตัวเองแล้วว่าคิดเกินเลยกับเขา! ถึงแม้อาการขุ่นเคืองในตอนเห็นเขาอยู่กับคนอื่นจะถูกท่าทางแปลกๆ ของเขาลบเลือนไปโดยไม่รู้ตัว แต่ความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจที่เธอได้ค้นพบจากเหตุการณ์วันนั้นมันยังคงอยู่ ซึ่งเธอตั้งใจไว
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 12"ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยวาง ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น.." ร่างสูงเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง มือใหญ่วางทับลงบนหลังมือเหี่ยวย่นพร้อมกับบีบเบาๆ จริงอยู่ว่าเขากับพ่อไม่ลงรอยกันนักแต่ถึงอีกฝ่ายจะเลวร้ายแค่ไหนสายเลือดเดียวกันมันก็คงจะตัดกันไม่ขาด ตอนนี้ผลจากการกระทำมันก็ตามสนองเขาแล้วเรื่องที่ผ่านมาก็ควรจะให้มันจบๆ กันไป"พะ พ่อ.. ขอโทษนะ.. ทุก.. อย่าง.." ต่างฝ่ายต่างเงียบไปชั่วอึดใจ มาถึงตอนนี้ร่างบนเตียงก็ไม่อาจทนเฉยกับการกระทำอ่อนโยนของลูกชายได้ เขาพยายามเอ่ยคำขอโทษออกมาอย่างยากลำบาก น้ำเสียงเข้มขรึมกับพละกำลังที่เคยมีหดหายลงไปเรื่อยๆ ตามลำดับอาการ คนเราถึงคราวใกล้ตายนั่นแหละถึงจะสำนึกได้ว่าทำผิดต่อคนอื่นไว้มากแค่ไหน"ครับ.. ผมอโหสิกรรมให้ทุกอย่าง" ร่างสูงยกยิ้มบางให้บิดา พลอยทำให้อีกฝ่ายรู้สึกปล่อยวางขึ้นมาได้บ้าง เรื่องอื่นคนเป็นพ่ออย่างเขาคงไม่ห่วงแล้ว ทั้งเรื่องแก๊งและธุรกิจเขาเชื่อว่าลูกชายจะดูแลได้ดียิ่งกว่า ห่วงก็แต่ 'ทาคิยะ' ลูกชายคนเล็กกับ 'คาวามูระ' น้องชายต่างมารดาของเขานั่นแหละ"ดูแล.. น้องด้วยนะ.. ระวัง.. เจ้าคาวามูระไว้ให้ดี.. เจ้
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 13"น้องขวัญ! แป้งจะล้นชามแล้วครับ! " เสียงตะเบ็งของคนสนิททำร่างบางที่กำลังเทแป้งเค้กลงในภาชนะถึงกับสะดุ้งโหยงหลุดออกจากภวังค์ ทำหน้าเหรอหราก่อนจะรีบตักแป้งส่วนเกินที่เทล้นออกมากลับใส่ถุงตามเดิม แก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะขำเบาๆ จากเชฟ ผิดกับองศาที่ขำไม่ลงเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ของขวัญสติหลุดลอยไปไกล แต่นานวันยิ่งหนักขึ้นๆ เลยต่างหากสาเหตุไม่แน่ชัดแต่ก็คงไม่ยากเกินความคาดเดา.. ร่างบางเริ่มเหม่อ หน้าตาหม่นหมอง บางทีก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนนึกคิดอะไรอยู่คนเดียวบ่อยๆ นับตั้งแต่เจ้านายเขาไม่อยู่ ตอนแรกก็คิดว่าไปไม่กี่วันคงจะกลับแต่พอดีเกิดเรื่องใหญ่เข้าก็เลยต้องอยู่ยาว ซึ่งนี่ก็กินเวลาไปอาทิตย์กว่าแล้ว"ถ้าเหนื่อยเรากลับไปพักดีมั้ยครับ ขนมพวกนี้พี่กับเชฟกินจนน้ำหนักขึ้นแล้วนะ ไม่ต้องทำทุกวันก็ได้" องศาเอ่ยชวนพร้อมกับแอบบ่นหน่อยๆ เรื่องขนมหวานที่ร่างบางพยายามหัดทำ เพราะไม่ใช่วันเว้นวันเหมือนก่อน วันที่ต้องทำความสะอาดห้องพอทำเสร็จเธอก็จะมาขลุกตัวอยู่ในครัวเพื่อให้เชฟสอนทำนู่นทำนี่ตามใจอยาก แทนที่จะเอาเวลาไปพักผ่อน เขาพยายามชวนไปเ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ) เป็นเวลากว่าสามเดือนที่โทโมยะและของขวัญใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น ด้วยเจตนารมณ์ของเขาที่หมายมั่นจะสละตำแหน่งหัวหน้าแก๊งคาชิมะให้ผู้เป็นน้องชาย เมื่อเรื่องร้ายๆ ผ่านพ้นไปเวลาที่เหลือเขาจึงเริ่มเดินหน้าสอนงานน้องอย่างเต็มกำลังและขีดเส้นตายไว้ว่าภายในสองปีทาคิยะจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับให้ได้ นั่นทำให้อีกฝ่ายแอบมาโอดครวญให้ร่างบางฟังบ่อยๆ ว่าผู้เป็นพี่เคี่ยวเข็ญอย่างกับจะพาไปแข่งโอลิมปิก ได้ยินแล้วก็ขำแต่คงจะช่วยอะไรไม่ได้นอกจากคอยรับฟังหลังช่วงทดลองงานสามเดือนของทาคิยะผ่านพ้นไปทั้งคู่ก็บินกลับประเทศไทย ปล่อยให้ว่าที่ผู้นำคนต่อไปหยัดยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง แต่ไม่เชิงว่าโดดเดี่ยวเพราะเขามีทั้งคนสนิทและผู้ช่วยมือดีหลายคน ด้วยเหตุนี้งานของคาชิมะที่โทโมยะทำอยู่เลยพลอยลดน้อยลงไปด้วย แม้ไม่ถึงกับหมดแต่เขาก็มีเวลาเหลือพาของขวัญไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาตามที่เคยสัญญากันไว้ในตอนก่อนไปญี่ปุ่น เขาพาเธอไปไหว้พ่อแม่เขาเธอเองก็พาเขาไปไหว้พ่อแม่เธอเหมือนกันเรียกได้ว่าชีวิตในช่วงนี้ดี๊ดีและมีความสุขแบบสุดๆ แม้จะยังไม่มีเหตุการณ์ประมาณว่าขอเป็นแฟนหรือบอ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 26โชคดีที่ของขวัญไม่ได้ถูกร่างสูงกินแทนข้าวเย็นเพราะแค่รอบเดียวในบ่อน้ำพุช่วงล่างก็เจ็บเสียดจนกลายเป็นคนเดินช้าและเดินนุ่มนวลไปแบบเขินๆ อย่างในตอนนี้ที่กำลังเดินตามอีกฝ่ายไปยังห้องอาหารก็มีหลายครั้งที่เขาต้องชะลอฝีเท้าเพื่อให้เธอตามทัน แน่นอนว่าเขารู้ถึงสาเหตุวัดได้จากสายตาวาววับที่มองมาเดิมทีของขวัญคิดว่าเพื่อนร่วมโต๊ะทานมื้อค่ำจะมีแค่ทาคิยะคนเดียว รวมเธอกับร่างสูงก็เป็นสามคน แต่พอประตูไม้เนื้อดีถูกเลื่อนออกถึงได้รู้ว่าบรรยากาศมันผิดจากที่คิดไว้มาก ภายในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่นี้มีจำนวนบุคคลด้านในไม่ต่ำว่าสิบคน!ทุกคนล้วนอยู่ในชุดสบายๆ อย่างยูกาตะและล้วนเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างจะมีอายุ.. เสียงพูดคุยกันอย่างออกรสชาติในตอนก่อนหน้าเงียบกริบลงไปในทันทีที่โทโมยะพาเธอเข้ามา ทุกสายตาไม่ได้ผ่านการนัดหมายแต่พวกเขาพากันมองผู้มาใหม่ทั้งสองสลับกันอย่างพร้อมเพรียง"อ้าวพี่ มาๆ มานั่งนี่เลยครับ" ทาคิยะเป็นคนดึงความสนใจของทุกคน เขารีบลุกจากเบาะรองนั่งนุ่มๆ บนพื้นมานำทางให้ทั้งคู่ไปนั่งลงบนหัวโต๊ะที่ได้จัดเตรียมที่ทางไว้ให้ตั้งแต่แรก สายตาทุกคู่ยังคงจับจ้อง
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 25"อะ อื้ม~" ท้ายทอยเล็กถูกมือใหญ่รั้งเข้าหา ประกบจูบลงไปบนริมฝีปากแดงเรื่อ ดูดซับความนุ่มนิ่มที่ด้านนอกเบาๆ ก่อนสอดแทรกเรียวลิ้นคว้านลึกเข้าไปข้างใน ร่างบางเปิดปากให้อย่างรู้หน้าที่ แม้จะยังไม่ประสาแต่ก็สมยอมตอบรับสัมผัสของร่างสูงด้วยความเต็มใจทุกครั้งเผลอไผลไปกับรสจูบครู่เดียวร่างเพรียวบางก็ถูกยกตัวลอยเปลี่ยนท่ามานั่งคร่อมตักในสภาพล่อแหลมยิ่งกว่าเดิม มือใหญ่วางลงบนสะโพกอวบ บีบเคล้นเบาๆ ก่อนลูบไล้ขึ้นมาตามเอวคอดกิ่วจนถึงแผ่นหลังเนียนนุ่ม ชั่วอึดใจก็กอดรั้งคนบนตักเข้ามาแนบชิด บดเบียดร่างกายเข้าหากันจนไม่เหลือพื้นที่ว่าง ทรวงอกอวบขาวเบียดชิดแผงอกล่ำ หน้าท้องแบนราบแนบแน่นไปกับลอนซิกแพค ช่วงล่างแข็งขืนเสียดสีอยู่กับช่องทางอ่อนนุ่มที่ยังคงปิดสนิท วงแขนแกร่งที่โอบกอดเอวบางขยับโยกตัวเธอขึ้นลงเป็นจังหวะเนิบนาบ.. จงใจให้อะไรๆ มันบดเบียดพอให้หวาดเสียวท้องน้อยเล่นๆ"อะ อ๊ะ อื้อ.." หลังถูกครอบครองไปหลายต่อหลายครั้งในที่สุดริมฝีปากบางที่เริ่มบวมเจ่อก็ถูกปล่อยเป็นอิสระ ของขวัญรีบกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดอย่างหิวกระหาย สองมือจิกเกร็งอยู่บนไหล่กว้างเมื่อเขาเปลี่ย
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 24หลังจากปลดคาวามูระและพรรคพวกออกจากตำแหน่งโทโมยะก็ค่อนข้างจะวุ่นๆ นิดหน่อยเพราะต้องเรียกตรวจสอบ ประเมินความเสียหายและทำการปรับเปลี่ยนหัวหน้าเขตคนใหม่เข้ามาดูแลแทน รวมทั้งทำการรื้อระบบเก่าที่อีกฝ่ายเคยจัดการดูแลทิ้งแล้ววางระบบใหม่เข้าไปแทนที่ รวมๆ แล้วหลายปีที่ผ่านมาคาชิมะถูกมันโกงกินไปไม่น้อย ยังไม่รวมเรื่องที่แอบค้ายาและค้ามนุษย์พื้นที่ที่เป็นกฎต้องห้ามของแก๊งอีกตอนแรกก็สงสัยว่าคนๆ เดียวที่ภรรยาจากไปนานแล้วมีภาระแค่ส่งเสียลูกสาวเรียนเมืองนอกแค่คนเดียวมันจะจำเป็นต้องใช้เงินมากอะไรขนาดนั้น แต่พอขุดไปขุดมาถึงได้รู้ว่ามันติดการพนัน ติดเหล้าติดยาและติดผู้หญิงอย่างหนัก เงินที่ได้ไปก็เอาไปลงกับอบายมุขพวกนั้นทั้งหมด ลูกแทบจะไม่เหลียวแล!แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย หลังจากที่ถูกพาตัวไปขังไว้ในคุกมืด.. สถานที่ที่มีไว้เพื่อกักขังคนทรยศ สองวันให้หลังร่างสูงก็ได้รับรายงานว่าผู้เป็นอาได้หลบหนีความผิดด้วยการใช้เข็มขัดผูกคอตัวเองกับลูกกรงสิ้นใจก่อนที่จะโดนเจ้าทาคิยะสำเร็จโทษไปก่อนแล้ว สภาพศพไม่น่าดูเท่าไรเพราะก่อนหน้านั้นคนของเขาที่สั่งให้คอยเฝ้าหน้าค
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 23"ฮ่าๆ ๆ เงินตั้งห้าสิบล้าน พี่แกยังกล้าโอนมาให้ฉัน ง่ายๆ แลกกับชีวิตไร้ค่าของแก ไม่น่าเชื่อ.. ฉันอุตส่าห์เป่าหูพวกแกให้เกลียดกันเพื่อหวังจะให้พวกแกหันมาฆ่ากันเอง แต่แม่งคงจะไม่มีวันนั้น.. เพราะแกมันโง่ทาคิยะ! แกมันขี้ขลาด! เหอะ คนแบบนี้น่ะหรออยากจะขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊ง ถุ้ย! ฝันกลางวันอยู่หรือไงไอ้เด็กเหลือขอ! " เสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นมาด้วยความสะใจเมื่อลูกน้องเข้ามารายงานว่าได้รับเงินเรียกค่าไถ่จากหลานชายคนโตเรียบร้อย ก่อนที่น้ำเสียงหยามเหยียดจะพ่นคำดูถูกใส่หลานชายคนเล็กพร้อมกับยืนจ้องมองด้วยสายตาเกลียดชัง"สารเลว.. พวกผมเป็นหลานของอานะ! " คนที่ถูกจับมัดนั่งบนเก้าอี้ในสภาพสะบักสะบอมเลือดโชกขบกรามแน่นด้วยความโกรธจัด ถามหาความเมตตาลมๆ แล้งๆ จากคนที่มีสายเลือดร่วมกันครึ่งหนึ่งด้วยความเจ็บใจ กว่าจะรู้สึกตัวว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือชำระความแค้นก็เสียรู้จนหมดสภาพ"หลานหรอ ฮ่าๆ ๆ ฉันนับญาติกับพวกแกที่ไหนกันเล่า ฉันเกลียดไอ้คาสึยะพ่อของแก เกลียดแก เกลียดพี่ชายของแก! พวกแกมันมารชีวิต! ถ้าไม่มีพวกแกทุกสิ่งทุกอย่างก็จะต้องเป็นของฉัน!! " คาวามูระระเบิดอารมณ์
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 22"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าไม่ดีเลย" องศาถามขึ้นในตอนที่เดินทางกลับ เพราะคนตัวเล็กนั่งเงียบมาตลอดทางตั้งแต่ออกจากร้านอาหารตามสั่งของพราวแล้ว สีหน้าก็ดูจะไม่สู้ดีนัก"เปล่าค่ะ ก่อนกลับพี่องศาพาขวัญแวะทำบุญหน่อยนะคะ" ของขวัญบอกปัดอย่างที่คิด แต่คนฟังก็ไม่ได้เซ้าซี้จะรู้ให้ได้ ทำเพียงพยักหน้ารับและแวะเข้าวัดตามคำสั่งเมื่อได้ทำบุญจิตใจที่ว้าวุ่นของร่างบางก็พอจะสงบลงมาได้บ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังแอบคิดอยู่.. ก็เรื่องของแป้งนั่นแหละ ไม่เชิงว่ารู้สึกผิดไปเสียทีเดียว แต่เป็นความสงสารและเห็นใจมากกว่า ในฐานะคนที่เคยแอบรักเขามาเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้กรณีของเธอก็ยังไม่เรียกว่าสมหวังนะ แค่ก้าวหน้ามากขึ้นเท่านั้น.."นี่.." น้ำเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยเรียกสติคนเหม่อให้หันมามอง แล้วก็ต้องแปลกใจว่าอีกฝ่ายกลับมาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตัว.."..มาตั้งแต่เมื่อไรคะเนี่ย" เมื่อพิจารณาดีๆ แล้วของขวัญก็ต้องตกใจซ้ำอีก เพราะร่างสูงนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน เธอควรจะรู้สึกตัวบ้างเวลาพื้นโซฟามันยุบตามน้ำหนักเขา นี่ต้องเหม่อขนาดไหนถึงได้ไม่รู้สึกอะไรเลย.."ก็นานพอที่จะ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 21"ตกลงอยากกินอะไร" ร่างสูงถามย้ำอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบตอนถามไปครั้งแรก คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองด้วยรอยยิ้มแห้งๆ เมื่อรู้ตัวว่าละเลยคำถามของเขา ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ อย่างพิจารณา"อืม.. ขอเดินดูก่อนได้มั้ยคะ"แต่สุดท้ายก็ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ เพราะตลาดนัดกลางคืนแห่งนี้มีร้านอาหารเยอะมาก จนไม่สามารถเลือกได้ง่ายๆ มีทั้งร้านแบบที่เป็นร้านจริงๆ และเป็นโต๊ะเก้าอี้ตั้งข้างทางเดิน อาหารมากหน้าหลายตาที่คุ้นเคยถูกวางขายเรียงรายจนเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไรดี.. จริงๆ เธอไม่อยากเข้าร้านหรูๆ ดูดีสักเท่าไร เพราะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ตอนที่เคยไปเดินตลาดกับแม่เลยอยากนั่งร้านข้างทางมากกว่าทั้งคู่พากันออกเดินด้วยความตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะของขวัญ เธอพาคนตัวสูงแวะร้านนู้นร้านนี้ที่มีทั้งของกินและของใช้ที่น่าสนใจวางขาย ซึ่งจนแล้วจนรอดก็ไม่ได้กินข้าวกันสักทีเพราะเดินกินแต่ของว่าง ไส้กรอกบ้าง ขนมบ้าง น้ำหวานบ้างกะจุกกะจิกไปตลอดทาง แต่คนที่มาด้วยก็ไม่ได้ขัด ออกจะยิ้มบางเสียด้วยซ้ำเวลาที่เห็นแววตาเปล่งประกายและรอยยิ้มกว้างจนตาหยีของคนตัวเล็ก เขาคิดถูกที่พาเธอมาที่นี่ตามคำ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 20"คะ คุณโทโมยะ.. อย่าค่ะ.." ของขวัญร้องห้ามปากคอสั่น เสียงขาดห้วงลมหายใจติดขัดเมื่อคนที่อุทิศตนเป็นเบาะรองนั่งให้ไม่ยอมอยู่เฉย.. เอาคางเกยบนศีรษะหรือจูบหอมมันเธอก็พอจะยอมได้ แต่ตอนนี้ริมฝีปากกับลมหายใจร้อนผ่าวของเขาเริ่มเลื้อยลงต่ำมาที่ท้ายทอยและซุกไซ้ลำคอของเธออย่างซุกซน"อะ อื้อ.. คุณ.." คำร้องห้ามมีผลลัพธ์ไปในทางที่เลวร้ายกว่าเดิมเมื่อไม่ใช่แค่จมูก ริมฝีปากหรือลมหายใจร้อนที่รุกรานร่างกายเธออีกต่อไป มือใหญ่ที่วางประสานกันอยู่ตรงหน้าท้องแบนราบเริ่มเลื้อยขึ้นมาจนถึงหน้าอก ความนุ่มนิ่มของก้อนเนื้อตรงนั้นดึงดูดให้เขาออกแรงบีบขย้ำมันอย่างเต็มไม้เต็มมือและ.. เต็มใจ! แม้จะมีเนื้อผ้าขวางกั้นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีน้อยลง มือบางวางทับลงบนหลังมือใหญ่หมายจะดึงออกไปทว่าเรี่ยวแรงไม่รู้หายไปไหน ยิ่งอีกฝ่ายบีบแรงเท่าไรพละกำลังของเธอก็ยิ่งหดหายลงไปเรื่อยๆ เขาเป็นตัวสูบพลังหรือไงเนี่ย.."อ๊ะ คุ๊ณ~" เสียงหวานเหินสูงด้วยความตกใจเมื่อยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ มืออีกข้างของเขาเลื่อนต่ำลงไป ลากผ่านท้องน้อยและมุดเข้าใต้ชายชุดคลุมอาบน้ำที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อเช้า ของขวัญดิ้น
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 19โทโมยะตื่นก่อนในเช้าวันถัดมา.. คนข้างกายยังคงหลับสนิท ใบหน้าซีดขาวกว่าปกตินั้นทำให้เขาต้องวางมือลงบนหน้าผากเนียนเพื่อวัดไข้ เมื่อพบว่าปกติดีก็ก้าวลงจากเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างคนหลับก่อนเดินมาเก็บเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ข้างเตียงไปใส่ในตะกร้าให้เรียบร้อยแล้วทำการอาบน้ำแต่งตัว ภายนอกที่ดูเฉยชาเป็นปกติแต่ใครจะรู้ว่าในหัวเขามีแต่เรื่องเมื่อคืนวนเวียนอยู่ตลอด.. ไม่รู้ว่ามันเร็วหรือช้าไปสำหรับความสัมพันธ์เรียบเรื่อยของเขากับร่างบาง แต่เขาก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้ ชอบความรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ ที่หัวใจทุกทีที่คิดถึง..ร่างสูงยังคงมีงานล้นมืออีกเช่นเคย แต่วันนี้เขายกเลิกงานหรือนัดที่ต้องเดินทางออกไป เหลือไว้เพียงงานเอกสารแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น นั่นเพราะตั้งใจจะหยุดดูอาการของ 'เมียเด็ก' เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเขามาดูดำดูดีจะเป็นเรื่อง..ของขวัญตื่นขึ้นมาในช่วงสาย.. แน่นอนว่าร่างกายปวดร้าวไปทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะขยับมากหรือน้อยก็ระบมไปหมด ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ มองเพดานกว้างสักพัก ภาพและเสียงทุกฉากทุกตอนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ แจ่มชัดในความรู้สึ