มาเฟียจ้าวชีวิต
Writer : Aile'N
ตอนที่ 4
ร่างบางถูกพามาที่ตึกสูงแห่งหนึ่ง.. มองเผินๆ ก็เหมือนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วไป ต่างกันตรงที่มันตั้งอยู่ในซอยลึก พื้นที่โดยรอบเงียบสงบแม้แต่หมาแมวสักตัวก็ยังไม่ผ่านมาให้เห็น
บางบริษัทอาจจะมีป้อมยามรักษาการเฝ้าอยู่ข้างหน้าคอยตรวจคนเข้าออก แต่ที่นี่ไม่มี.. ด้านนอกไม่มีใครเลยแต่พอเข้าไปข้างในกลับมีคนยืนเรียงแถวกันเต็มไปหมด ทุกคนใส่ชุดดำล้วนและยืนทำหน้าทะมึนทึงเหมือนลูกสมุนของพวกเจ้าพ่อที่เคยเห็นในหนังอย่างกับเลียนแบบกันมา
ร่างสูงใหญ่ผู้เป็นนายเหนือหัวอุ้มคนตัวเล็กที่น้ำหนักเบาหวิวเหมือนปุยนุ่นเดินผ่านคนพวกนั้นที่กำลังยืนก้มหัวให้ไปที่ลิฟต์อย่างเงียบๆ คนสนิทที่ตามมาด้วยสองคนรับหน้าที่กดลิฟต์ขึ้นชั้นบนสุด ก่อนจะผละออกมายืนสงบนิ่งประกบผู้เป็นนายคนละฝั่งในท่าทางสง่าผ่าเผยไม่แพ้กัน
สภาพแวดล้อมกับผู้คนที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทำของขวัญเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมานิดๆ ได้แต่นอนห่อตัวอยู่ในอ้อมแขนของคนตัวใหญ่ ก้มหน้าก้มตาไม่มองใคร.. กลิ่นกายของเขาที่เธอชอบอบอวลอยู่รอบตัว ให้ความรู้สึกไม่โดดเดี่ยวเหมือนหลายวันที่ผ่านมาจนเผลอซุกเข้าหามากขึ้น นึกอยากจะให้เส้นทางข้างหน้าไกลขึ้นกว่าเดิมอีกนิดเพื่อจะได้ตักตวงช่วงเวลาตรงนี้ไว้ให้นานที่สุด..
แต่ก็ได้แค่อยากเมื่อลิฟต์เปิดออกที่ชั้นบนสุด ตากลมหวาดมองไปรอบตัวอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะตกตะลึงกับความใหญ่โตหรูหราของทุกสรรพสิ่งที่เห็น แม้ภายนอกจะเป็นตึกสูงทันสมัยแต่ภายในกลับตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ของบางชิ้นเช่นดาบซามูไรที่ถูกแขวนโชว์ไว้ข้างผนังกับแจกันใบใหญ่สลักลวดลายมังกรตรงมุมทางเดินอายุท่าจะไม่ใช่น้อยๆ สำรวจไม่ทันหนำใจของขวัญก็ถูกพาเข้าไปในห้องๆ หนึ่งโดยมีคนสนิทที่ตามมาคอยอำนวยความสะดวกเปิดปิดประตูให้
"อาบน้ำ..." เสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอกเพียงเท่านั้นหลังจากวางคนในอ้อมแขนลงหน้าห้องน้ำ สิ้นคำเขาก็เดินออกไป ปล่อยให้เธอยืนเคว้งอยู่ตรงนั้น ครั้นก้มลงดูสภาพตัวเองแล้วก็รู้สึกอายขึ้นมา เพราะชุดที่ใส่ยังเป็นชุดนอนอยู่แถมลายเป็ดสีเหลืองอ๋อยอีกต่างหาก น้ำท่าก็ไม่ได้อาบมาหลายวันไม่รู้ว่าเขาจะได้กลิ่นตุๆ จากเธอไปหรือเปล่า น่าอายจริงๆ!
ของขวัญก้มหน้างุด รีบเดินเข้าไปในห้องน้ำอย่างอายๆ พอเข้ามาก็ยืนตะลึงอยู่หลายนาที เพราะความหรูหราสวยงามของห้องน้ำมีไม่น้อยไปกว่าด้านนอกถึงจะไม่กว้างเท่าแต่ก็กินพื้นที่ไปไม่น้อย มีแบ่งโซนเปียกโซนแห้งไว้อย่างชัดเจน โซนแห้งมีตู้เก็บทั้งผ้าเช็ดตัวและชุดคลุมอาบน้ำ รวมทั้งพวกของใช้จำเป็นเช่น ครีมอาบน้ำ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แชมพู ฯลฯ ที่ยังไม่แกะใช้สำรองไว้เต็มตู้ เธอเลยถือวิสาสะขอใช้ของทุกอย่างในใจ..
พออาบน้ำเสร็จร่างบางก็ใส่แค่ชุดคลุมออกมาเพราะไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน สองขาเล็กก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ กระทั่งมาเจอเจ้าของห้องนั่งไขว้ห้างอยู่ตรงโซฟาริมกำแพงกระจก ใบหน้าเรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์เหม่อมองวิวทิวทัศน์ด้านนอกอย่างไร้จุดหมาย จนคงจะรู้สึกว่ามีใครบางคนแอบมองเลยหันมาสบตากัน ก่อนจะส่งซิกทางสายตาว่าให้มานั่งโซฟาฝั่งตรงข้าม
"คนของฉันกำลังจัดการพวกเสื้อผ้าและของใช้ให้ ตอนนี้กินข้าวก่อน" บอกเท่านั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนที่ผู้มาใหม่จะเปิดประตูและเข็ญอาหารชุดใหญ่มาวางลงบนโต๊ะตรงหน้าเธอแล้วก็กลับออกไปโดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ
"เอ่อ ขอบคุณนะคะ.." ของขวัญไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำนี้ คนฟังไม่ตอบรับแต่ระยะห่างเพียงโต๊ะกั้นเธอคิดว่าเขาได้ยิน เลยเริ่มลงมือทานอาหารตรงหน้าโดยมีเขานั่งนิ่งเป็นรูปปั้นแกะสลักอยู่ฝั่งตรงข้าม
"เอ่อ คุณชื่ออะไรหรอคะ" ความเงียบไม่ได้ทำให้อึดอัด แต่เพราะมีโอกาสได้เจอร่างสูงอีกครั้งเธอเลยอยากทำความรู้จัก...
"โทโมยะ...ทานากะ โทโมยะ" คนถูกถามหันมามองหน้าเธอเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ชื่อญี่ปุ่นจ๋าของเขาทำคนฟังรู้สึกอึ้งๆ แต่ไม่ได้แปลกใจนักเพราะรูปร่างหน้าตาเขามันบอกยี่ห้อชัดเจนว่าไม่ใช่เมดอินไทยแลนด์อย่างแน่นอน..
"ทำไม...ถึงชวนขวัญมาอยู่ด้วยล่ะคะ" เสียงหวานถามต่อในสิ่งที่นึกสงสัย เรื่องให้เงินมารักษาแม่ว่าน่าฉงนแล้ว เรื่องนี้น่ามึนงงกว่าเป็นไหนๆ
"...สงสารล่ะมั้ง" โทโมยะทำหน้านึกคิดเล็กน้อย ก่อนบอกอย่างไม่ใส่ใจ สิ่งที่ของขวัญไม่รู้คือหลังจากวันนั้นเขาก็สืบประวัติและคอยติดตามชีวิตของเธออยู่ห่างๆ นั่นคงทำให้หายสงสัยว่าทำไมเขาถึงรู้ว่าแม่เธอเสีย ส่วนคนเป็นลูกก็เอาแต่นอนร้องไห้จนกลัวจะตรอมใจตายตามแม่ไป ซึ่งเขาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจนักว่ายื่นมือเข้าไปฉุดอีกฝ่ายขึ้นมาทำไมทั้งที่ต่างกันเหมือนอยู่คนละโลก
อาจเป็นเพราะ 'ความสงสาร' ที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังจากการสืบประวัติของเธอล่ะมั้ง.. ที่ทำให้ได้รู้ว่าตอนนี้เหลือตัวคนเดียว ซ้ำยังนึกสภาพไม่ออกว่าคนแบบนี้จะใช้ชีวิตที่เหลือต่อไปในโลกอันโหดร้ายนี้ได้ยังไง ซึ่งรู้ตัวอีกทีก็ชวนมาอยู่ด้วยกันเสียแล้ว..
ร่างบางพยักหน้าเข้าใจก่อนนั่งซึม.. เขาเก็บเธอมาเพราะสงสาร ที่เธอยอมมาก็เพราะไม่เหลือใครแล้วเช่นกัน ไม่ใช่เหตุผลเดียวกันแต่ก็ใกล้เคียง.. พอได้เจอเขาอีกครั้งเกิดเสี้ยววินาทีที่เธอคิดอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อทั้งที่ก่อนหน้าไม่เคยคิด เธอมีหนี้ติดค้างที่ยังไม่ได้ชำระถึงตายก็คงไม่สงบ แต่ถึงไม่ตายก็ยังคิดไม่ออกว่าจะตอบแทนบุญคุณของเขายังไงอยู่ดี
เธอไม่มีของมีค่าเทียบกับเงินที่เขาเสียไปจะให้ ไม่มีอะไรเลยกระทั่งเสื้อผ้าติดกาย ข้าวของทุกอย่างถูกทิ้งไว้ในบ้านที่จากมา สิ่งที่เหลืออยู่คือลมหายใจและร่างกายนี้.. 'ชีวิตของเธอ' ไม่รู้เขาจะอยากได้หรือเปล่าเพราะได้มาก็คงจะไม่มีประโยชน์อะไร เอาไปจับปืนสู้รบกับใครก็ไม่ได้..
"กินให้หมด ภายในหนึ่งอาทิตย์เธอต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิม ผอมแห้งแบบนี้ไม่เอา" เสียงเข้มเรียกสติคนเหม่อที่กำลังนั่งเขี่ยผักในจานเล่นเหมือนไม่อยากจะกินอีกทั้งที่เพิ่งกินได้ไม่กี่คำ
"ขอบคุณนะคะ.. เรื่องเงินที่ช่วยเหลือมา ขวัญเป็นหนี้บุญคุณของคุณ และไม่รู้จะตอบแทนยังไง.. ถ้าชีวิตที่เหลืออยู่ของขวัญมีค่าพอ ขวัญยินดียกให้" ร่างบางบอกออกไปเสียงเบาหวิว เธอกล้าพูดแต่ไม่ค่อยกล้ามองสบตาคมนักเพราะความต้านทานต่ำเหลือเกิน..
"ไม่กลัวฉันหรือไง" โทโมยะถามลองเชิง เขาคิดว่าอีกฝ่ายขี้อายเอามากๆ แต่กลับกล้าที่จะยกชีวิตของตัวเองให้ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่ใช่คนดี เห็นทีคงจะต้องคิดใหม่..
"คุณดูน่ากลัว แต่ลึกๆ แล้วใจดี..." เธอบอกพลางช้อนดวงตาขึ้นมองร่างสูงเล็กน้อย ก่อนหลุบต่ำลงอีกครั้งเมื่อเจอเข้ากับดวงตาคมกริบ.. การที่เขายื่นมือเข้ามาช่วยเธอถึงสองครั้งสองครามันทำให้ของขวัญไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นถึงมาเฟีย แต่หากรู้สึกยำเกรงและประหม่าอายมากกว่าเวลาอยู่ต่อหน้าเขา มันเป็นความรู้สึกของหญิงสาวแทบจะทุกคนเป็นเวลาที่อยู่ต่อหน้าชายหนุ่มรูปงาม เธอเองก็เป็นหนึ่งในนั้น..
"รู้จักฉันดีขนาดนั้น? " คิ้วเรียวเข้มยกขึ้นสูงนิดๆ ขณะมองมาที่คนตัวเล็กด้วยสายตาประเมิน
"เปล่าค่ะ ขวัญแค่พูดไปตามที่รู้สึก" ร่างบางส่ายหน้าน้อยๆ พลางฉีกยิ้มแห้ง เธอไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ ชื่อก็เพิ่งจะรู้วันนี้ แต่เธอเชื่อในสัญชาตญาณบวกกับสิ่งที่เขาทำ
ก๊อกๆ
"นายครับ เสื้อผ้าที่สั่งได้แล้วครับ" ไม่ทันได้พูดอะไรต่อเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงทุ้มต่ำของคนสนิทที่ใช้ให้ไปจัดการเรื่องเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้สำหรับผู้หญิง
"เข้ามา" แม้เสียงเมื่อครู่จะฟังดูน่าเกรงขาม แต่หากน้ำเสียงที่ตอบรับออกไปกลับก้องกังวานทรงพลังอำนาจมากกว่ากันหลายเท่า
สิ้นคำอนุญาตชายชุดดำรูปร่างสูงใหญ่สามคนก็เดินถือเสื้อผ้าผู้หญิงที่ถูกแขวนไว้กับไม้แขวนเสื้ออย่างดีมาเรียงเข้าตู้พร้อมด้วยข้าวของใช้ก็ถูกจัดเข้าที่เข้าทาง เสร็จจากตรงนั้นพวกเขาก็มายืนเรียงหน้ากระดานอยู่ข้างๆ ผู้เป็นนาย
"อากิ เซย์โนะ คนสนิทของฉัน ส่วนนี่องศา จะมาเป็นคนสนิทของเธอ ขาดเหลืออะไรก็บอกมัน" โทโมยะแนะนำคนทั้งสามให้ของขวัญรู้จักไล่จากคนที่ยืนอยู่ใกล้ตัวที่สุด
คำว่า 'คนสนิทของฉัน' ทำเธอจ้องมองอากิกับเซย์โนะอย่างพิจารณา ก่อนจะพบว่าทั้งคู่มีบุคลิกท่าทางที่คล้ายคลึงกับเขาไม่ใช่น้อย ใบหน้าเรียบเฉยยังไงก็ยังงั้นตั้งแต่ที่เห็นในผับวันนั้น และคนที่ไปส่งเธอที่บ้านก็คืออากิ.. จำได้เลยว่าเขาไม่ได้พูดหรือชวนเธอคุยสักคำ พอส่งเสร็จก็กลับทันที
"ที่นี่มีแต่ผู้ชาย ลำบากหน่อยแต่เดี๋ยวก็ชิน" เสียงทุ้มจากร่างสูงดึงสติเธอกลับคืนมาอีกครั้งหลังเผลอหลุดลอยไปไกล
"เอ่อ สวัสดีค่ะ หนูชื่อของขวัญ เรียกขวัญเฉยๆ ก็ได้ค่ะ" ของขวัญยกมือไหว้คนอายุมากกว่าทั้งสามพร้อมกับส่งยิ้มให้นิดๆ องศายกมือประนมรับไหว้อย่างนอบน้อม ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าถือสัญชาติอะไร ส่วนอากิกับเซย์โนะเพียงก้มศีรษะให้เธอเล็กน้อยเท่านั้น
"นายครับ.." อากิโน้มศีรษะลงพูดกับนายเหมือนต้องการจะบอกอะไรบางอย่างที่ไม่ต้องพูดให้จบโทโมยะก็เข้าใจ เพราะมือขวาคนนี้มันบ้างานพอๆ กับเขา เปิดปากพูดทีไรเห็นจะเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้
พรึ่บ
"เอ่อ จะไปแล้วหรอคะ? " ร่างบางละล่ำละลักถามเมื่อคนตัวใหญ่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเหมือนจะออกไปแล้ว แต่เธอยังมีเรื่องอยากจะคุยด้วยเยอะแยะไปหมดโดยเฉพาะเรื่องที่ถูกชวนมาอยู่ที่นี่ เธอไม่ค่อยเข้าใจ..
"อืม" ตอบรับในลำคอเพียงเท่านั้นโทโมยะก็เดินออกไปโดยมีอากิกับเซย์โนะตามไปด้วย เหลือเพียงองศาที่ยังอยู่กับร่างบาง
"คุณหนูทานข้าวต่อเถอะครับ จะได้พักผ่อน ผมจะอยู่รับใช้" ร่างสูงตรงหน้าบอกด้วยท่าทางนอบน้อม น้ำเสียงที่เปล่งออกมาสุภาพน่าฟังแต่คนฟังกลับรู้สึกขนลุกแปลกๆ
"เอ่อ คุณหนูอะไรกันคะ? เรียกขวัญก็พอแล้วค่ะ ไม่ต้องเป็นทางการกับขวัญหรอก" คนตัวเล็กยิ้มแห้ง ปฏิเสธอย่างไม่ค่อยชอบใจนักที่ถูกอีกฝ่ายปฏิบัติเหมือนเธอมีศักดิ์สูงกว่า ทั้งที่เจ้านายเขาก็แค่เวทนาเธอเลยเก็บมาอยู่ด้วยเท่านั้น ชีวิตตั้งแต่เกิดก็ไม่ได้เป็นคุณหนูในคฤหาสน์ พอถูกเรียกแบบนี้แล้วมันรู้สึกแปลกพิลึก
"ไม่ได้ครับ คุณหนูเป็นแขกของนายใหญ่" องศายืนกรานอย่างหนักแน่น ถึงนายจะไม่ได้บอกเหตุผลที่พาร่างบางมาอยู่ที่นี่ แต่ยอมให้ขึ้นมาอยู่ชั้นเดียวกันและสั่งให้เขามาคอยติดตามดูแลก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะต้องให้ความสำคัญ
"แขกที่ไหนกันคะ เจ้านายพี่ก็แค่เวทนาขวัญ เลยเก็บมาเลี้ยงซะมากกว่า พี่องศาเรียกขวัญเฉยๆ ก็พอนะคะ คุณหนูอะไรนั่น.. ขวัญไม่ชิน" เธอบอกเสียงเบา ใบหน้าอิดโรยดูอึดอัดระคนอยากจะเว้าวอนอีกฝ่ายให้ยอมตามใจ
"งั้น...ผมจะเรียกน้องขวัญก็ได้ครับ แต่เฉพาะตอนอยู่ตามลำพังนะ ต่อหน้านายผมขอเรียกคุณหนูเหมือนเดิม" องศามีข้อต่อรองที่ฟังดูเป็นกลางและเข้าท่า.. คนฟังจึงทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะยอมตกลง
"อืม.. ก็ได้ค่ะ แต่ผมก็ไม่เอานะคะ แทนตัวเองว่าพี่ดีกว่า" ไม่ว่าอะไรก็ดูจะขัดใจของขวัญไปเสียหมด เธอถูกสอนให้มีสัมมาคารวะกับคนอายุมากกว่า เลยรู้สึกอึดอัดที่ต้องมาถูกอีกฝ่ายให้ความเคารพถึงขนาดนี้ จึงพยายามค้านหัวชนฝาแถมมีความกล้ามากด้วยเพราะเมื่อเทียบกันกับสามคนที่เพิ่งออกไป องศาดูเข้าหาง่ายที่สุดแล้ว เขาดูใจดีไม่ได้แผ่รังสีทะมึนๆ ออกมาเหมือนสามคนนั้น
"อ่า...ครับๆ ก็ได้" ร่างสูงพ่นลมอย่างอ่อนใจ แต่คนที่ทำให้เขาลำบากใจกลับฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่เถียงเอาชนะได้
"พี่องศามานั่งกับขวัญสิคะ ยืนทำไมมันเมื่อย" เสียงหวานติดแหบอย่างคนอ่อนแรงยังคงพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด อาหารที่ยังกินไม่หมดก็ไม่คิดจะสนใจ เอาแต่นั่งจ้องเขาเหมือนจะบีบบังคับมากกว่าเชิญชวน
"ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของพี่" องศาปฏิเสธซ้ำอีกเพราะไม่อยากละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ เดี๋ยวจะติดเป็นนิสัยและเผลอไปทำให้เจ้านายเห็นได้
"แต่ขวัญมีเรื่องอยากถามเยอะเลย..." ของขวัญมองตาอ้อน เธอเริ่มจะจับทางองศาออกว่าเขาไม่ค่อยกล้าขัดถ้าถูกเธอมองอย่างคาดหวัง สุดท้ายอีกฝ่ายก็เดินมานั่งด้วยกันจริงๆ
"ถามได้ครับ แต่บางเรื่องที่เกี่ยวกับนายพี่คงพูดมากไม่ได้" ร่างสูงดักทางไว้เพราะถึงแม้ว่าคนตัวเล็กจะได้รับอนุญาตให้มาอยู่ที่นี่และอาจจะรู้ด้วยว่านายใหญ่ของเขาทำอาชีพอะไร แต่บางเรื่องก็ไม่สมควรจะพูดให้เธอฟัง ซึ่งของขวัญก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย เธอไม่ได้อยากจะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของอาชีพมาเฟียเพราะรู้ว่ามันคงไม่สวยงามนัก แค่อยากรู้จักไว้บ้างตามประสาคนจะมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ไม่ใช่รู้แต่ชื่อ..
"พี่มาทำงานให้เขานานแล้วหรอคะ" เมื่อเทียบกันแล้วองศาน่าจะอายุน้อยกว่าอากิและเซย์โนะ ท่าทางก็ไม่น่ากลัวเหมือนพวกนั้น แถมยังเป็นคนไทยอีกของขวัญก็เลยอดสงสัยเรื่องของเขาด้วยไม่ได้
"ครับ ตั้งแต่อายุสิบแปด ตอนนี้ก็ยี่สิบห้าแล้ว" เสียงตอบค่อนข้างผ่อนคลายเมื่อบทสนทนามาถึงจุดที่เป็นกันเองมากขึ้น
"เขาเป็นมาเฟียจริงๆ หรอคะ ขวัญเคยเห็นแต่ในหนัง" ร่างบางถามต่อ ในหัวเธอมีเรื่องสงสัยมากมายเต็มไปหมด อยากถามจากโทโมยะเองเลยด้วยซ้ำแต่เขาก็ชิงหนีไปเสียก่อน น่าแปลกเหมือนกันที่เธอดูเหมือนจะมีความกล้ามากกว่าครั้งแรกที่เจอกัน เพราะตอนนั้นมัวแต่อายก็เลยไม่ได้พูดอะไรเลยนอกจากคำว่าขอบคุณทั้งที่เขาให้เงินมาตั้งสิบล้าน คุณค่ามันช่างไม่สมน้ำสมเนื้อกันเลยสักนิด จนกระทั่งเขาหายไปนั่นแหละถึงรู้สึกเสียดายว่าอย่างน้อยๆ เธอน่าจะพูดอะไรมากกว่านั้น..
"คิดว่าไงล่ะครับ" องศาถามลองเชิงกลับยิ้มๆ ตอนเข้ามาคนตัวเล็กก็น่าจะเห็นสภาพแวดล้อมและผู้คนที่อยู่ในตึกนี้แล้ว ไม่ต้องถามก็น่าจะมีคำตอบอยู่ในใจ
"ก็...คิดว่าน่าจะใช่ค่ะ มีแต่ผู้ชายหน้าตาน่ากลัวเต็มไปหมดเลย" ของขวัญบอกพลางทำหน้าหวาดๆ เรียกเสียงหัวเราะขำเบาๆ จากคนฟัง
"หึหึ...เพราะฉะนั้นห้ามออกไปเพ่นพ่านที่ไหนนะครับ นายสั่งไว้ว่าให้น้องขวัญอยู่แค่ชั้นนี้เท่านั้น ห้องนายใหญ่ก็อยู่ข้างๆ นี่แหละ แต่พี่ไม่แนะนำให้เข้าไปพบสุ่มสี่สุ่มห้า นายเป็นคนหวงพื้นที่ส่วนตัวมาก มีแต่นาย คุณอากิและคุณเซย์โนะเท่านั้นที่จะเข้าห้องนายได้" องศาบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่กลับทำคนฟังรู้สึกเสียวหลังวูบวาบเพราะสัมผัสได้ถึงอันตรายถ้าเธอฝ่าฝืนคำเตือนนั้นที่เป็นคำสั่งตรงมาจากผู้เป็นนายของเขา..
คนตัวเล็กพยักหน้ารับ ก่อนฉีกยิ้มแห้งๆ กลบเกลื่อน.. เล็งเห็นอนาคตอันมืดมิดของตัวเองเนิ่นๆ แล้วว่าอิสระไม่มี เหมือนนกน้อยถูกพามาขังกรง..
ทั้งคู่พูดคุยกันต่ออีกพักใหญ่ ส่วนมากก็เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป ผลัดกันแลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิตเพื่อทำความรู้จักกันไว้ ที่จริงของขวัญก็อยากรู้อะไรที่มันลึกๆ กว่านี้ในบางเรื่องแต่ไม่กล้าถามมากเพราะเพิ่งมาอยู่ได้ไม่ถึงวัน (แต่ก็พูดไปเยอะแล้วน่ะนะ)
"นอนได้แล้วครับ อย่าเพิ่งคิดอะไร ตอนนี้รักษาตัวให้ดีก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง มีอะไรก็เรียกนะ พี่อยู่หน้าห้อง" องศาเอ่ยบอกหลังจากที่ร่างบางทานอาหารอิ่มและได้เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว มือใหญ่เลื่อนผ้าม่านเข้าหากันจนปิดสนิท เพื่ิอบดบังแสงสว่างจากดวงไฟหลากสียามค่ำคืนในเมืองหลวงไม่ให้เล็ดลอดเข้ามากวนใจคนนอน เปิดทิ้งไว้เพียงโคมไฟสีส้มตรงหัวเตียงและถือถาดใส่จานอาหารเตรียมจะเอาออกไปเก็บ
"ขอบคุณนะคะ" คนบนเตียงเอ่ยบอกเสียงเบา เท่านั้นร่างสูงก็ออกไป..
ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่ม จะให้หลับแต่หัววันเห็นทีของขวัญจะทำไม่ได้ แม้ร่างกายจะอ่อนเพลียมากก็ตาม เธอยังคงมีเรื่องให้คิดมากมายในหัว จากที่ล้มตัวลงนอนแล้วก็เลยลุกขึ้น เดินไปเปิดม่านออกและนั่งลงบนโซฟาตัวยาว มองดูวิวยามค่ำคืนผ่านกำแพงกระจกใสที่กินพื้นที่ไปด้านหนึ่งของห้องขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้านี้อย่างเงียบๆ
เพียงไม่นานดวงตากลมสวยก็เหม่อลอยไปข้างหน้าอย่างไร้จุดโฟกัส เธอกำลังคิดถึงอนาคตของตัวเองที่ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป และไม่รู้ด้วยว่าคิดถูกหรือผิดที่ตัดสินใจมาที่นี่ แต่ให้อยู่บ้านที่มีแต่ความทรงจำของครอบครัวเพียงลำพังก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเข้มแข็งได้ไหม เธออาจจะนอนร้องไห้จนตรอมใจตายไปเลยก็ได้ถ้าโทโมยะไม่ฉุดขึ้นมา..
เขาแค่สงสาร เวทนาหรือตั้งใจไปตามตัวเธอมาทำงานใช้หนี้ก็ไม่รู้ แต่ยอมรับว่าวินาทีแรกที่เห็นหน้าเขาเธอดีใจมาก.. เขามีอิทธิพลกับเธออย่างน่าประหลาด
ตอนชวนมาที่นี่เขาไม่ได้บอกสักคำว่ามันจะสุขสบาย หรือมีอนาคตที่สดใส กลับกันเลยคือพูดไปในทางลบ.. แต่เธอก็ยังตัดสินใจมากับเขา เหตุผลมันยังคลุมเครืออยู่ในความคิด.. อย่างแรกเธออยากตอบแทนหนี้บุญคุณของเขาถ้าทำอะไรที่เป็นประโยชน์ได้บ้าง อีกอย่างตอนนี้เธอก็เหลือตัวคนเดียวแล้วและไม่มีกะจิตกะใจจะก้าวเดินต่อไปอย่างเข้มแข็ง เธอไม่อยากอยู่คนเดียว เธออยากพึ่งพาใครสักคน คนที่ดูแลเธอได้..
ของขวัญนั่งอยู่ตรงนั้นนานมากจนกระทั่งเผลอหลับไป ในเวลาเดียวกันนั้น.. โทโมยะเดินออกมาจากห้องทำงานหลังทำงานเสร็จพอดี ยามดึกแบบนี้เหลือเขาอยู่เพียงคนเดียวเพราะไล่ลูกน้องไปนอนหมดแล้ว และก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องนอนบ้าง..
จังหวะที่กำลังจะเดินเข้าห้องพลันสายตากลับเหลือบไปมองประตูห้องข้างๆ ที่ปิดสนิท ยืนนิ่งชั่วอึดใจคนตัวสูงก็เปลี่ยนเป้าหมายไปเปิดประตูห้องข้างๆ ออกแล้วเดินเข้าไป ก่อนจะขมวดคิ้วนิดๆ เมื่อไม่เห็นคนในห้องอยู่บนเตียงนอนอย่างที่ควรจะเป็น เหลือบไปเห็นม่านเปิดออกเลยเดินไปดูที่โซฟาจนเห็นร่างเล็กๆ นอนขดตัวอยู่ตรงนั้น ยืนมองสักพักก็หย่อนตัวนั่งลงข้างๆ ทอดสายตามองวิวด้านหน้าเล็กน้อย ก่อนก้มลงมองคนนอนอีกครั้ง...แล้ววางมือลงบนศีรษะพร้อมกับลูบเบาๆ
..
..
..
..
มาเงียบๆ แต่ความละมุนเพียบนะจ๊ะ 55555
อ่านแบบไม่ขาดตอนได้ที่ MEB ค้นหานามปากกา Aile'N ได้เลยจ้า
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 5กว่าห้าวันแล้วที่ของขวัญมาอยู่ที่ตึกสูงแห่งนี้.. ชีวิตในแต่ละวันของเธอดำเนินไปแบบวนลูป ตื่นเช้า อาบน้ำแต่งตัว ทานข้าวและของบำรุงสารพัดอย่างที่องศาจัดมาให้ จากนั้นก็ว่าง.. ไม่มีอะไรให้ทำ ได้แต่นั่งๆ นอนๆ หายใจทิ้งไปวันๆ ดีหน่อยที่องศาหอบหนังสือจากห้องสมุดชั้นล่างมาให้เธออ่านแก้เบื่อบ้าง.. หรืออาจจะทำให้เบื่อหนักกว่าเดิม เพราะส่วนใหญ่มีแต่หนังสือวิชาการ ศาสตร์ต่างๆ กับพวกปรัชญาชีวิต มีนวนิยายบ้างแต่ก็ล้วนเป็นภาษาต่างประเทศทั้งสิ้นเที่ยงตรง.. ได้เวลายัดอาหารลงท้องอีกครั้ง พอเริ่มย่อยหนังตาก็เริ่มหย่อน ช่วงบ่ายเลยกลายมาเป็นเวลานอนกลางวัน เมื่อตื่นก็มานั่งโง่ๆ มองวิวทิวทัศน์ตรงโซฟาริมกำแพงกระจกที่มันเคยสวยมากในครั้งแรกที่เห็น แต่พอมองบ่อยๆ ความสวยงามของมันก็ค่อยๆ ลดลงไป.. จากนั้นก็ได้เวลาทานมื้อเย็น อาบน้ำและเข้านอน วนอยู่แค่นี้ตลอดห้าวันที่ผ่านมา นี่มันไม่ได้ต่างจากการถูกพามาขังเลยสักนิด..หลังจากวันแรกที่เจ้าของตึกแห่งนี้พาของขวัญเข้ามา เธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย องศาบอกว่าโทโมยะมีงานมากมายที่ต้องสะสาง เธอก็เลยยังไม่รู้ว่าบทสรุปของอนาคตตัวเองจะเป็นย
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 6"เป็นอะไร อาหารไม่อร่อย? " บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเช้านี้ไม่สดใสเท่าที่ควร เพราะใครบางคนที่แกล้งให้ร่างบางรอเก้อเมื่อคืนดันโผล่มานั่งร่วมโต๊ะทานข้าวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"เปล่าค่ะ.." เสียงเบาตอบออกไปโดยไม่มองหน้า และไม่รู้ตัวเลยว่าหัวคิ้วกำลังขมวดเข้าหากันซึ่งเป็นกิริยาที่ขัดกับคำพูดอย่างสิ้นเชิง"หรืออารมณ์เสียเรื่องเมื่อคืน? " ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบ แต่หากดวงตาเปล่งประกายอะไรบางอย่างที่ทำคนมองรู้สึกไม่ชอบใจ"เปล่านี่คะ ดีใจซะอีก" คนพูดลอยหน้าเหมือนไม่ใส่ใจกับเรื่องนั้น จริงๆ ถึงเธอจะโกรธที่ถูกแกล้งให้รอเก้อ แต่มันก็ยังมีแง่ดีเพราะยังไม่เสียความบริสุทธิ์ให้ใคร"หึ..." โทโมยะเค้นเสียงในลำคอเหมือนมีอะไรน่าขบขัน ทำคนฟังได้แต่เก็บงำความไม่พอใจเอาไว้เพราะเธอเกลียดเสียงในลำคอแบบนั้นของเขา ปกติของขวัญเป็นเด็กขี้อายและมีมารยาทมากกว่านี้แต่คนตรงหน้ามักทำให้เธอปั่นป่วนและหลุดการควบคุมอยู่หลายครั้ง"เธอยังเรียนไม่จบใช่มั้ย.. อยากกลับไปเรียนหรือเปล่า" เงียบไปสักพักร่างสูงก็ถามขึ้นมาอย่างจริงจัง เขาไม่เคยมีความคิดที่จะรับของขวัญมาอยู่ด้วยแต่แรก มันเกิดจากการต
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 7"คิดอะไรอยู่หรอครับ คิ้วขมวดเชียว" องศาถามขึ้นในตอนที่ยกของว่างมาให้ของขวัญ แล้วเห็นว่าร่างนั้นเอาแต่นั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนกำลังคิดอะไรที่มันสำคัญอยู่"ขวัญ.. ถ้าขวัญอยากทำงานให้คุณโทโมยะเหมือนพี่ พอจะมีโอกาสเป็นไปได้มั้ยคะ" คนถูกทักเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงอย่างชั่งใจ อึกอักเล็กน้อยก่อนจะยอมพูดในสิ่งที่คิดออกมา นี่ยังไม่เลิกคิดเรื่องที่อยากจะทำงานให้นายเขาอยู่อีกหรอเนี่ย.."อย่าเลยครับ นอกจากนายจะไม่ให้ทำแล้ว น้องขวัญยังไม่เหมาะที่จะทำอะไรแบบนี้ด้วย" องศาตอบย้ำว่าไม่มีทางที่ของขวัญจะมายืนอยู่ในจุดเดียวกับเขาได้ ต่อให้อยากทำแค่ไหนนายใหญ่คงไม่อนุญาตเพราะผู้หญิงจะเป็น 'จุดอ่อน' ของแก๊ง ไม่ว่าฝีมือจะเก่งกาจสักแค่ไหน แต่จิตใจก็ยังอ่อนไหวง่ายกว่าผู้ชายอยู่ดี"แล้วขวัญพอจะทำอะไรได้บ้างคะ ขวัญไม่อยากนั่งๆ นอนๆ อยู่แต่ในห้องนะ" ร่างบางเริ่มเครียดจริงจัง เธอนั่งคิดมาร่วมสองชั่วโมงแล้วว่าเธอพอจะทำอะไรเพื่อโทโมยะได้บ้าง ที่คิดว่าทำได้ก็เสนอไปหมดแล้วแต่เขาก็ไม่ต้องการ"พี่ว่าน้องขวัญน่าจะกลับไปเรียนนะ ถ้าเรียนจบนายอาจจะให้มาช่วยเรื่องบัญชีหรือเอกสารก็ได้
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 8เป็นอีกวันที่ของขวัญตื่นขึ้นมาบนเตียงในตอนเช้าอย่างงงๆ เพราะจำได้ว่าเมื่อคืนนั่งรอโทโมยะที่โต๊ะทานข้าวจนดึกและคงเผลอหลับไป สงสัยนะ.. ว่าใครเป็นคนพาเธอมาไว้บนเตียง? แต่คิดเองคงไม่รู้เลยเลิกสนใจ หันมามองหาขนมที่ทำไว้ให้ใครคนนั้นแทน จนมาเจออยู่ที่โต๊ะตัวเดิมที่นั่งรอเมื่อคืน แต่เหลือเพียงตะกร้าเปล่ากับโน้ตหนึ่งใบ..'อร่อยดี'ข้อความเพียงสั้นๆ ที่ถูกเขียนไว้ในนั้นทำของขวัญยิ้มจนแก้มปริ แต่พอรู้ว่าโทโมยะเข้ามาและอาจจะเป็นคนอุ้มเธอไปนอนบนเตียงก็พลันชะงัก.. แก้มแดงซ่านด้วยความรู้สึกดีแปลกๆ นี่เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าถูกแกล้งอะไรไว้บ้าง ถึงได้ไปใจเต้นแรงกับเขาน่ะ!ร่างบางสลัดความรู้สึกแปลกๆ นั้นออกไป ก่อนหยิบโน้ตใบนั้นไปเก็บไว้ใต้หมอนแล้วเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแต่งตัว แปดโมงตรงองศาก็เข้ามาทำหน้าที่ วันนี้เธอมีนัดกับเชฟในตอนเช้า ส่วนตอนบ่ายมาทำความสะอาดห้องนอนของเธอเองและห้องข้างๆ ที่เป็นของร่างสูง ความจริงชั้นนี้มีทั้งหมดสี่ห้องใหญ่ เป็นห้องนอนสอง ห้องทำงานหนึ่งและห้องฟิตเนสอีกหนึ่ง แต่สองห้องหลังโทโมยะให้แม่บ้านประจำทำ เพราะถ้าให้ของขวัญทำคนเดียวทั้งสี่ห้องค
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 9ของขวัญเดินเข้าห้องมาด้วยหัวใจพองโตนิดๆ แต่นั่นก็ไม่ทำให้หายซึมได้ เธอเดินมานั่งที่โซฟาริมกำแพงกระจก วางรูปกับโกศกระดูกแม่ลงข้างตัวก่อนลุกขึ้นรูดม่านผืนใหญ่เปิดออก แล้วกลับมานั่งกอดรูปแม่เหม่อมองออกไปโดยไม่มีจุดโฟกัสของสายตา เธอคิดถึงทั้งแม่และพ่อ การเป็นลูกคนเดียวซ้ำไม่มีญาติทำให้เธอไม่เหลือใครอย่างสมบูรณ์ ที่นี่ก็ไม่ใช่ที่ของเธอ.. ไม่รู้จะฝากชีวิตไว้ได้สักแค่ไหนแต่ก็ยังนับว่าโชคดีที่ได้เจอกับโทโมยะ.. ถึงจะไม่รู้ว่าเขาพาเธอมาที่นี่ทำไมและผู้คนที่นี่จะน่ากลัวขนาดไหน แต่เธอก็รู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขา เขาทำดีกับเธอทั้งที่ไม่มีความจำเป็น เธอไม่มีค่าหรือทำประโยชน์อะไรให้เขาได้เลยสักนิด แต่เขาก็ยังใจดีกับเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ จนถึงตอนนี้..อ่า.. สัมผัสอุ่นๆ เมื่อสักครู่นี้เริ่มจางหายไปแล้ว แต่ของขวัญกลับอยากได้รับมันอีกครั้ง.. อีกครั้งและอีกครั้ง! เธอรู้ว่าไม่สมควรที่จะไปหาอีกฝ่ายในเวลาดึกดื่นแบบนี้ แต่เธออยากมีเพื่อน.. ความรู้สึกมันเลยตีรวนอยู่ในอกสุดท้าย.. ก็ยับยั้งความต้องการที่เอาแต่ใจไว้ไม่ไหว ตัดสินใจลุกเดินออกไปดู
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 10ของขวัญเดินเอื่อยมานั่งลงบนโซฟาริมกระจกอย่างเลื่อนลอย ทว่าใบหน้าสวยกลับยุ่งเหยิง หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนมีอะไรให้ครุ่นคิดมากมาย หลังสิ้นคำตอบนั้นขององศาเธอกับเขาก็แยกย้ายกันไปพัก แต่เธอกลับไม่สามารถปล่อยวางสิ่งที่เพิ่งได้รับรู้เมื่อไม่กี่นาทีก่อนได้ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก..แป้งเป็นผู้หญิงที่ทำงานอย่างว่า เท่าที่ได้รู้จักกันเผินๆ เธอเป็นคนนิสัยดี น่ารัก ยิ้มสวย จนไม่น่าเชื่อว่าจะมาทำอาชีพแบบนี้ ฝ่ายโทโมยะเองฟังจากที่พราวบอกว่าเขามักจะไปที่ผับทุกวันศุกร์เพื่อใช้บริการ.. ล่าสุดวันนี้เขาก็เรียกอีกฝ่ายมาถึงที่เพราะไม่มีเวลาไปด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นในเวลานี้หรือหลังจากนี้ ในห้องข้างๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทั้งคู่กำลังทำอะไรกัน..แล้วทำไม.. เธอถึงกระสับกระส่าย ปวดจี๊ดในอกที่ได้รับรู้เรื่องนี้ด้วย? ทำไมถึงไม่อยากให้มันเกิดขึ้นทั้งที่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาที่เธอไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย.. เธอเป็นคู่นอนให้โทโมยะไม่ได้ ไม่สิ.. เขาไม่เลือกเธอมากกว่า ซึ่งก็ถูกแล้วที่เขาจะไปทำกับคนอื่นแทน ก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ..?ร่างบางรู้สึกสับสนกับความรู้ส
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 11มีสิ่งหนึ่งที่แปลกไป.. แปลกไปอย่างมาก! นั่นก็คือการกระทำของโทโมยะตั้งแต่วันที่มานอนค้างห้องของของขวัญแบบมึนๆ ในวันนั้น เขาก็มักจะมาอีกในคืนถัดไปจนล่าสุดเลยเถิดไปไกล ถึงขั้นเริ่มเรียกให้เธอเป็นฝ่ายไปนอนด้วย.. แต่ช้าก่อน! อย่าเพิ่งคิดไปไกล แค่นอนเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร อย่างมากก็แค่กอด.. กอดเหมือนหมอนข้างอย่างที่เขาพูดกรอกหูเธอทุกวันของขวัญเคยถามนะว่าเขาทำแบบนี้ทำไม เหตุผลที่ได้ก็คือเขานอนไม่ค่อยหลับถ้าไม่ได้กอดก่ายอะไรก่อนนอน แน่นอนว่าเธอถามต่อว่าทำไมไม่ซื้อหมอนข้างมากอด และเขาก็ให้เหตุผลแบบมึนๆ มาว่าเพิ่งจะค้นพบว่าการกอดคนตัวอุ่นๆ ด้วยกันมันหลับลึกกว่า (?) เพราะงั้นอีกหนึ่งหน้าที่ของเธอที่เพิ่มเข้ามาก็คือทำตัวเป็นหมอนข้างให้เขากอดนอนเหตุผลแปลกดี.. แต่ไม่ดีกับหัวใจเธออย่างแรง! เพราะหลังจากวันนั้นที่โทโมยะพาใครมานอนด้วยของขวัญก็เริ่มจะรู้ใจตัวเองแล้วว่าคิดเกินเลยกับเขา! ถึงแม้อาการขุ่นเคืองในตอนเห็นเขาอยู่กับคนอื่นจะถูกท่าทางแปลกๆ ของเขาลบเลือนไปโดยไม่รู้ตัว แต่ความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจที่เธอได้ค้นพบจากเหตุการณ์วันนั้นมันยังคงอยู่ ซึ่งเธอตั้งใจไว
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 12"ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยวาง ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น.." ร่างสูงเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง มือใหญ่วางทับลงบนหลังมือเหี่ยวย่นพร้อมกับบีบเบาๆ จริงอยู่ว่าเขากับพ่อไม่ลงรอยกันนักแต่ถึงอีกฝ่ายจะเลวร้ายแค่ไหนสายเลือดเดียวกันมันก็คงจะตัดกันไม่ขาด ตอนนี้ผลจากการกระทำมันก็ตามสนองเขาแล้วเรื่องที่ผ่านมาก็ควรจะให้มันจบๆ กันไป"พะ พ่อ.. ขอโทษนะ.. ทุก.. อย่าง.." ต่างฝ่ายต่างเงียบไปชั่วอึดใจ มาถึงตอนนี้ร่างบนเตียงก็ไม่อาจทนเฉยกับการกระทำอ่อนโยนของลูกชายได้ เขาพยายามเอ่ยคำขอโทษออกมาอย่างยากลำบาก น้ำเสียงเข้มขรึมกับพละกำลังที่เคยมีหดหายลงไปเรื่อยๆ ตามลำดับอาการ คนเราถึงคราวใกล้ตายนั่นแหละถึงจะสำนึกได้ว่าทำผิดต่อคนอื่นไว้มากแค่ไหน"ครับ.. ผมอโหสิกรรมให้ทุกอย่าง" ร่างสูงยกยิ้มบางให้บิดา พลอยทำให้อีกฝ่ายรู้สึกปล่อยวางขึ้นมาได้บ้าง เรื่องอื่นคนเป็นพ่ออย่างเขาคงไม่ห่วงแล้ว ทั้งเรื่องแก๊งและธุรกิจเขาเชื่อว่าลูกชายจะดูแลได้ดียิ่งกว่า ห่วงก็แต่ 'ทาคิยะ' ลูกชายคนเล็กกับ 'คาวามูระ' น้องชายต่างมารดาของเขานั่นแหละ"ดูแล.. น้องด้วยนะ.. ระวัง.. เจ้าคาวามูระไว้ให้ดี.. เจ้
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 27 (ตอนจบ) เป็นเวลากว่าสามเดือนที่โทโมยะและของขวัญใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น ด้วยเจตนารมณ์ของเขาที่หมายมั่นจะสละตำแหน่งหัวหน้าแก๊งคาชิมะให้ผู้เป็นน้องชาย เมื่อเรื่องร้ายๆ ผ่านพ้นไปเวลาที่เหลือเขาจึงเริ่มเดินหน้าสอนงานน้องอย่างเต็มกำลังและขีดเส้นตายไว้ว่าภายในสองปีทาคิยะจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนยอมรับให้ได้ นั่นทำให้อีกฝ่ายแอบมาโอดครวญให้ร่างบางฟังบ่อยๆ ว่าผู้เป็นพี่เคี่ยวเข็ญอย่างกับจะพาไปแข่งโอลิมปิก ได้ยินแล้วก็ขำแต่คงจะช่วยอะไรไม่ได้นอกจากคอยรับฟังหลังช่วงทดลองงานสามเดือนของทาคิยะผ่านพ้นไปทั้งคู่ก็บินกลับประเทศไทย ปล่อยให้ว่าที่ผู้นำคนต่อไปหยัดยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง แต่ไม่เชิงว่าโดดเดี่ยวเพราะเขามีทั้งคนสนิทและผู้ช่วยมือดีหลายคน ด้วยเหตุนี้งานของคาชิมะที่โทโมยะทำอยู่เลยพลอยลดน้อยลงไปด้วย แม้ไม่ถึงกับหมดแต่เขาก็มีเวลาเหลือพาของขวัญไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาตามที่เคยสัญญากันไว้ในตอนก่อนไปญี่ปุ่น เขาพาเธอไปไหว้พ่อแม่เขาเธอเองก็พาเขาไปไหว้พ่อแม่เธอเหมือนกันเรียกได้ว่าชีวิตในช่วงนี้ดี๊ดีและมีความสุขแบบสุดๆ แม้จะยังไม่มีเหตุการณ์ประมาณว่าขอเป็นแฟนหรือบอ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 26โชคดีที่ของขวัญไม่ได้ถูกร่างสูงกินแทนข้าวเย็นเพราะแค่รอบเดียวในบ่อน้ำพุช่วงล่างก็เจ็บเสียดจนกลายเป็นคนเดินช้าและเดินนุ่มนวลไปแบบเขินๆ อย่างในตอนนี้ที่กำลังเดินตามอีกฝ่ายไปยังห้องอาหารก็มีหลายครั้งที่เขาต้องชะลอฝีเท้าเพื่อให้เธอตามทัน แน่นอนว่าเขารู้ถึงสาเหตุวัดได้จากสายตาวาววับที่มองมาเดิมทีของขวัญคิดว่าเพื่อนร่วมโต๊ะทานมื้อค่ำจะมีแค่ทาคิยะคนเดียว รวมเธอกับร่างสูงก็เป็นสามคน แต่พอประตูไม้เนื้อดีถูกเลื่อนออกถึงได้รู้ว่าบรรยากาศมันผิดจากที่คิดไว้มาก ภายในห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่นี้มีจำนวนบุคคลด้านในไม่ต่ำว่าสิบคน!ทุกคนล้วนอยู่ในชุดสบายๆ อย่างยูกาตะและล้วนเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างจะมีอายุ.. เสียงพูดคุยกันอย่างออกรสชาติในตอนก่อนหน้าเงียบกริบลงไปในทันทีที่โทโมยะพาเธอเข้ามา ทุกสายตาไม่ได้ผ่านการนัดหมายแต่พวกเขาพากันมองผู้มาใหม่ทั้งสองสลับกันอย่างพร้อมเพรียง"อ้าวพี่ มาๆ มานั่งนี่เลยครับ" ทาคิยะเป็นคนดึงความสนใจของทุกคน เขารีบลุกจากเบาะรองนั่งนุ่มๆ บนพื้นมานำทางให้ทั้งคู่ไปนั่งลงบนหัวโต๊ะที่ได้จัดเตรียมที่ทางไว้ให้ตั้งแต่แรก สายตาทุกคู่ยังคงจับจ้อง
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 25"อะ อื้ม~" ท้ายทอยเล็กถูกมือใหญ่รั้งเข้าหา ประกบจูบลงไปบนริมฝีปากแดงเรื่อ ดูดซับความนุ่มนิ่มที่ด้านนอกเบาๆ ก่อนสอดแทรกเรียวลิ้นคว้านลึกเข้าไปข้างใน ร่างบางเปิดปากให้อย่างรู้หน้าที่ แม้จะยังไม่ประสาแต่ก็สมยอมตอบรับสัมผัสของร่างสูงด้วยความเต็มใจทุกครั้งเผลอไผลไปกับรสจูบครู่เดียวร่างเพรียวบางก็ถูกยกตัวลอยเปลี่ยนท่ามานั่งคร่อมตักในสภาพล่อแหลมยิ่งกว่าเดิม มือใหญ่วางลงบนสะโพกอวบ บีบเคล้นเบาๆ ก่อนลูบไล้ขึ้นมาตามเอวคอดกิ่วจนถึงแผ่นหลังเนียนนุ่ม ชั่วอึดใจก็กอดรั้งคนบนตักเข้ามาแนบชิด บดเบียดร่างกายเข้าหากันจนไม่เหลือพื้นที่ว่าง ทรวงอกอวบขาวเบียดชิดแผงอกล่ำ หน้าท้องแบนราบแนบแน่นไปกับลอนซิกแพค ช่วงล่างแข็งขืนเสียดสีอยู่กับช่องทางอ่อนนุ่มที่ยังคงปิดสนิท วงแขนแกร่งที่โอบกอดเอวบางขยับโยกตัวเธอขึ้นลงเป็นจังหวะเนิบนาบ.. จงใจให้อะไรๆ มันบดเบียดพอให้หวาดเสียวท้องน้อยเล่นๆ"อะ อ๊ะ อื้อ.." หลังถูกครอบครองไปหลายต่อหลายครั้งในที่สุดริมฝีปากบางที่เริ่มบวมเจ่อก็ถูกปล่อยเป็นอิสระ ของขวัญรีบกอบโกยเอาอากาศเข้าปอดอย่างหิวกระหาย สองมือจิกเกร็งอยู่บนไหล่กว้างเมื่อเขาเปลี่ย
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 24หลังจากปลดคาวามูระและพรรคพวกออกจากตำแหน่งโทโมยะก็ค่อนข้างจะวุ่นๆ นิดหน่อยเพราะต้องเรียกตรวจสอบ ประเมินความเสียหายและทำการปรับเปลี่ยนหัวหน้าเขตคนใหม่เข้ามาดูแลแทน รวมทั้งทำการรื้อระบบเก่าที่อีกฝ่ายเคยจัดการดูแลทิ้งแล้ววางระบบใหม่เข้าไปแทนที่ รวมๆ แล้วหลายปีที่ผ่านมาคาชิมะถูกมันโกงกินไปไม่น้อย ยังไม่รวมเรื่องที่แอบค้ายาและค้ามนุษย์พื้นที่ที่เป็นกฎต้องห้ามของแก๊งอีกตอนแรกก็สงสัยว่าคนๆ เดียวที่ภรรยาจากไปนานแล้วมีภาระแค่ส่งเสียลูกสาวเรียนเมืองนอกแค่คนเดียวมันจะจำเป็นต้องใช้เงินมากอะไรขนาดนั้น แต่พอขุดไปขุดมาถึงได้รู้ว่ามันติดการพนัน ติดเหล้าติดยาและติดผู้หญิงอย่างหนัก เงินที่ได้ไปก็เอาไปลงกับอบายมุขพวกนั้นทั้งหมด ลูกแทบจะไม่เหลียวแล!แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้าย หลังจากที่ถูกพาตัวไปขังไว้ในคุกมืด.. สถานที่ที่มีไว้เพื่อกักขังคนทรยศ สองวันให้หลังร่างสูงก็ได้รับรายงานว่าผู้เป็นอาได้หลบหนีความผิดด้วยการใช้เข็มขัดผูกคอตัวเองกับลูกกรงสิ้นใจก่อนที่จะโดนเจ้าทาคิยะสำเร็จโทษไปก่อนแล้ว สภาพศพไม่น่าดูเท่าไรเพราะก่อนหน้านั้นคนของเขาที่สั่งให้คอยเฝ้าหน้าค
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 23"ฮ่าๆ ๆ เงินตั้งห้าสิบล้าน พี่แกยังกล้าโอนมาให้ฉัน ง่ายๆ แลกกับชีวิตไร้ค่าของแก ไม่น่าเชื่อ.. ฉันอุตส่าห์เป่าหูพวกแกให้เกลียดกันเพื่อหวังจะให้พวกแกหันมาฆ่ากันเอง แต่แม่งคงจะไม่มีวันนั้น.. เพราะแกมันโง่ทาคิยะ! แกมันขี้ขลาด! เหอะ คนแบบนี้น่ะหรออยากจะขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊ง ถุ้ย! ฝันกลางวันอยู่หรือไงไอ้เด็กเหลือขอ! " เสียงหัวเราะดังลั่นขึ้นมาด้วยความสะใจเมื่อลูกน้องเข้ามารายงานว่าได้รับเงินเรียกค่าไถ่จากหลานชายคนโตเรียบร้อย ก่อนที่น้ำเสียงหยามเหยียดจะพ่นคำดูถูกใส่หลานชายคนเล็กพร้อมกับยืนจ้องมองด้วยสายตาเกลียดชัง"สารเลว.. พวกผมเป็นหลานของอานะ! " คนที่ถูกจับมัดนั่งบนเก้าอี้ในสภาพสะบักสะบอมเลือดโชกขบกรามแน่นด้วยความโกรธจัด ถามหาความเมตตาลมๆ แล้งๆ จากคนที่มีสายเลือดร่วมกันครึ่งหนึ่งด้วยความเจ็บใจ กว่าจะรู้สึกตัวว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือชำระความแค้นก็เสียรู้จนหมดสภาพ"หลานหรอ ฮ่าๆ ๆ ฉันนับญาติกับพวกแกที่ไหนกันเล่า ฉันเกลียดไอ้คาสึยะพ่อของแก เกลียดแก เกลียดพี่ชายของแก! พวกแกมันมารชีวิต! ถ้าไม่มีพวกแกทุกสิ่งทุกอย่างก็จะต้องเป็นของฉัน!! " คาวามูระระเบิดอารมณ์
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 22"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ สีหน้าไม่ดีเลย" องศาถามขึ้นในตอนที่เดินทางกลับ เพราะคนตัวเล็กนั่งเงียบมาตลอดทางตั้งแต่ออกจากร้านอาหารตามสั่งของพราวแล้ว สีหน้าก็ดูจะไม่สู้ดีนัก"เปล่าค่ะ ก่อนกลับพี่องศาพาขวัญแวะทำบุญหน่อยนะคะ" ของขวัญบอกปัดอย่างที่คิด แต่คนฟังก็ไม่ได้เซ้าซี้จะรู้ให้ได้ ทำเพียงพยักหน้ารับและแวะเข้าวัดตามคำสั่งเมื่อได้ทำบุญจิตใจที่ว้าวุ่นของร่างบางก็พอจะสงบลงมาได้บ้างนิดหน่อย แต่ก็ยังแอบคิดอยู่.. ก็เรื่องของแป้งนั่นแหละ ไม่เชิงว่ารู้สึกผิดไปเสียทีเดียว แต่เป็นความสงสารและเห็นใจมากกว่า ในฐานะคนที่เคยแอบรักเขามาเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้กรณีของเธอก็ยังไม่เรียกว่าสมหวังนะ แค่ก้าวหน้ามากขึ้นเท่านั้น.."นี่.." น้ำเสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยเรียกสติคนเหม่อให้หันมามอง แล้วก็ต้องแปลกใจว่าอีกฝ่ายกลับมาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตัว.."..มาตั้งแต่เมื่อไรคะเนี่ย" เมื่อพิจารณาดีๆ แล้วของขวัญก็ต้องตกใจซ้ำอีก เพราะร่างสูงนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดียวกัน เธอควรจะรู้สึกตัวบ้างเวลาพื้นโซฟามันยุบตามน้ำหนักเขา นี่ต้องเหม่อขนาดไหนถึงได้ไม่รู้สึกอะไรเลย.."ก็นานพอที่จะ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 21"ตกลงอยากกินอะไร" ร่างสูงถามย้ำอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบตอนถามไปครั้งแรก คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองด้วยรอยยิ้มแห้งๆ เมื่อรู้ตัวว่าละเลยคำถามของเขา ก่อนจะกวาดตามองไปรอบๆ อย่างพิจารณา"อืม.. ขอเดินดูก่อนได้มั้ยคะ"แต่สุดท้ายก็ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ เพราะตลาดนัดกลางคืนแห่งนี้มีร้านอาหารเยอะมาก จนไม่สามารถเลือกได้ง่ายๆ มีทั้งร้านแบบที่เป็นร้านจริงๆ และเป็นโต๊ะเก้าอี้ตั้งข้างทางเดิน อาหารมากหน้าหลายตาที่คุ้นเคยถูกวางขายเรียงรายจนเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไรดี.. จริงๆ เธอไม่อยากเข้าร้านหรูๆ ดูดีสักเท่าไร เพราะคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ตอนที่เคยไปเดินตลาดกับแม่เลยอยากนั่งร้านข้างทางมากกว่าทั้งคู่พากันออกเดินด้วยความตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะของขวัญ เธอพาคนตัวสูงแวะร้านนู้นร้านนี้ที่มีทั้งของกินและของใช้ที่น่าสนใจวางขาย ซึ่งจนแล้วจนรอดก็ไม่ได้กินข้าวกันสักทีเพราะเดินกินแต่ของว่าง ไส้กรอกบ้าง ขนมบ้าง น้ำหวานบ้างกะจุกกะจิกไปตลอดทาง แต่คนที่มาด้วยก็ไม่ได้ขัด ออกจะยิ้มบางเสียด้วยซ้ำเวลาที่เห็นแววตาเปล่งประกายและรอยยิ้มกว้างจนตาหยีของคนตัวเล็ก เขาคิดถูกที่พาเธอมาที่นี่ตามคำ
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 20"คะ คุณโทโมยะ.. อย่าค่ะ.." ของขวัญร้องห้ามปากคอสั่น เสียงขาดห้วงลมหายใจติดขัดเมื่อคนที่อุทิศตนเป็นเบาะรองนั่งให้ไม่ยอมอยู่เฉย.. เอาคางเกยบนศีรษะหรือจูบหอมมันเธอก็พอจะยอมได้ แต่ตอนนี้ริมฝีปากกับลมหายใจร้อนผ่าวของเขาเริ่มเลื้อยลงต่ำมาที่ท้ายทอยและซุกไซ้ลำคอของเธออย่างซุกซน"อะ อื้อ.. คุณ.." คำร้องห้ามมีผลลัพธ์ไปในทางที่เลวร้ายกว่าเดิมเมื่อไม่ใช่แค่จมูก ริมฝีปากหรือลมหายใจร้อนที่รุกรานร่างกายเธออีกต่อไป มือใหญ่ที่วางประสานกันอยู่ตรงหน้าท้องแบนราบเริ่มเลื้อยขึ้นมาจนถึงหน้าอก ความนุ่มนิ่มของก้อนเนื้อตรงนั้นดึงดูดให้เขาออกแรงบีบขย้ำมันอย่างเต็มไม้เต็มมือและ.. เต็มใจ! แม้จะมีเนื้อผ้าขวางกั้นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีน้อยลง มือบางวางทับลงบนหลังมือใหญ่หมายจะดึงออกไปทว่าเรี่ยวแรงไม่รู้หายไปไหน ยิ่งอีกฝ่ายบีบแรงเท่าไรพละกำลังของเธอก็ยิ่งหดหายลงไปเรื่อยๆ เขาเป็นตัวสูบพลังหรือไงเนี่ย.."อ๊ะ คุ๊ณ~" เสียงหวานเหินสูงด้วยความตกใจเมื่อยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ มืออีกข้างของเขาเลื่อนต่ำลงไป ลากผ่านท้องน้อยและมุดเข้าใต้ชายชุดคลุมอาบน้ำที่ใส่มาตั้งแต่เมื่อเช้า ของขวัญดิ้น
มาเฟียจ้าวชีวิตWriter : Aile'Nตอนที่ 19โทโมยะตื่นก่อนในเช้าวันถัดมา.. คนข้างกายยังคงหลับสนิท ใบหน้าซีดขาวกว่าปกตินั้นทำให้เขาต้องวางมือลงบนหน้าผากเนียนเพื่อวัดไข้ เมื่อพบว่าปกติดีก็ก้าวลงจากเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างคนหลับก่อนเดินมาเก็บเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ข้างเตียงไปใส่ในตะกร้าให้เรียบร้อยแล้วทำการอาบน้ำแต่งตัว ภายนอกที่ดูเฉยชาเป็นปกติแต่ใครจะรู้ว่าในหัวเขามีแต่เรื่องเมื่อคืนวนเวียนอยู่ตลอด.. ไม่รู้ว่ามันเร็วหรือช้าไปสำหรับความสัมพันธ์เรียบเรื่อยของเขากับร่างบาง แต่เขาก็ชอบที่มันเป็นแบบนี้ ชอบความรู้สึกจั๊กจี้แปลกๆ ที่หัวใจทุกทีที่คิดถึง..ร่างสูงยังคงมีงานล้นมืออีกเช่นเคย แต่วันนี้เขายกเลิกงานหรือนัดที่ต้องเดินทางออกไป เหลือไว้เพียงงานเอกสารแค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น นั่นเพราะตั้งใจจะหยุดดูอาการของ 'เมียเด็ก' เดี๋ยวตื่นขึ้นมาแล้วไม่เห็นเขามาดูดำดูดีจะเป็นเรื่อง..ของขวัญตื่นขึ้นมาในช่วงสาย.. แน่นอนว่าร่างกายปวดร้าวไปทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะขยับมากหรือน้อยก็ระบมไปหมด ดวงตากลมโตกะพริบปริบๆ มองเพดานกว้างสักพัก ภาพและเสียงทุกฉากทุกตอนที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไหลเข้ามาในหัวเป็นฉากๆ แจ่มชัดในความรู้สึ