หลังจากที่ได้สัมภาษณ์งานผ่านและวินได้เข้ามาทำงานที่โรงแรมนี้อย่างปกติและจะต้องทำงานผ่านช่วงการทดลองงานสามเดือน แต่ว่าในรอบนี้เป็นรอบพิเศษที่พนักงานใหม่ทำงานครบหนึ่งเดือนก็ได้บรรจุเลย วินในนามของเวย์จะได้รับการเซ็นสัญญาบรรจุเป็นพนักงานประจำของโรงแรมนี้ และในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเจเดนก็เหมือนจะเงียบไปแต่วินรู้ว่าที่เขาเงียบไปเป็นเพราะเวย์มาอยู่ในสายตาเขาต่างหาก วินมั่นใจว่าคนอย่างเขาต้องให้คนติดตามความเคลื่อนไหวของเขาในนามของเวย์แน่นอน
“ตรงนี้ค่ะ...น้องเวย์” พนักงานฝ่ายบุคคลชี้ให้เขาเซนชื่อ
วินไม่รู้ว่าการเซนชื่อที่ตกลงเป็นพนักงานประจำที่นี่จะเกิดอะไรขึ้น เขาเพียงต้องการให้เรื่องที่ถูกเจเดนรังครวญเวย์นั้นจบลงไปและหากเวย์มาอยู่ที่นี่ในสายตาเขา วินคิดว่าจะไม่มีคนของเขาไปติดตามที่บ้าน วินห่วงว่าแม่และเวย์จะเป็นอันตราย ตอนนี้แม่กับน้องผ่านชาวงเวลาหลังผ่าตัดมากช 2 เดือน ก็เริ่มแข็งแรงดีแล้ว วินจะไม่ยอมให้มีใครมาทำร้ายร่างกายเวย์ได้
“โรงแรมของเรายินดีต้อนรับนะคะ แหมทำได้ทุกอย่าง ไม่ขาด ไม่ลา ไม่สายแบบน้องเวย์เนี้ยพี่ชอบ แถมหล่อมากด้วย ทั้งสาวทั้งหนุ่มกรี้ดไปตามๆกัน” หนิงหนิงหัวหน้าฝ่ายบุคคลพูดกับพนักงานประจำคนใหม่ที่พึ่งผ่านโปร อย่างหน้ายิ้มหน้าชื่นชอบเวย์มากเพราะเป็นคนน่ารักและแล้วยังคอยช่วยเหลือทุกอย่างที่ทุกคนขออีกด้วย
“อ้อ น้องเวย์ท่านประธานเรียกพบแหนะ ...ไว้อีก20นาทีค่อยขึ้นไปแต่อย่าเลทนะคะ ท่านไม่ชอบคนไม่ตรงเวลา”
“ท่านประธานเรียกพบผมเหรอครับ พนักงานตัวเล็กๆนี่นะครับ” เวย์ถามด้วยความแปลกใจ แต่ใจเขาพอจะรู้อยู่บ้างว่าเพราะอะไร เจเดนน่าจะวางแสนยานุภาพของตัวเองกับเวย์แน่นอน
“เดี๋ยวไปถึงก็รู้เองแหละ คุณแพทเลขาท่านไม่ได้บอกมาว่าเรียกพบน้องเวย์เรื่องอะไร”
“อ๋อครับ ให้ขึ้นไปเลยใช่มั้ยครับ”
เมื่อออกจากห้องฝ่ายบุคคลได้วินรีบขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังชั้นบนสุดของโรงแรมทันที 20 นาที ที่ว่าคงเผื่อเวลาให้เธอขึ้นไปชั้นบนสุดนี่แหละ เมื่อถึงชั้นที่สูงลิ่วของตึกประตูลิฟต์ได้เปิดออก ร่างสูงเพรียงของวินเดินออกมาก็พบว่ามันเป็นทางเดินโล่งๆ มองไปสุดทางเดินพบว่าที่นี่มีพนักงานสาวสวยสองคนนั่งก้มหน้าง่วนอยู่กับงาน ที่หน้าห้องห้องหนึ่ง วินจึงเดินเข้าไปแนะนำตัวแล้วทวนคำพูดของหัวหน้าฝ่ายบุคคลให้สองคนฟังอีกรอบ
“สวัสดีครับ ผมมาพบท่านประธานครับ”
“ท่านรออยู่แล้วค่ะ เชิญทางนี้” แพทเดินนำวินเข้าไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูบานใหญ่ก่อนจะเอื้อมมือเรียวบางไปเคาะสองสามทีแล้วเปิดประตูเข้าไป
วินเดินเข้ามาพบว่าภายในห้องชั้นเกือบบนสุดของโรงแรมเป็นห้องที่โอ่อ่ามีเครื่องอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ซ้ำภายในห้องฝั่งซ้ายมือยังมีประตูที่เปิดไปยังอีกห้อง ขณะนั้นได้มีแม่บ้านทำความสะอาดเปิดประตูออกมาพอดี วินจึงรู้ว่าประตูนั้นคือประตูที่เปิดไปยังห้องนอน
แพทพาวินเดินเลี้ยวขวาเข้ามาจนสุดทางเดินสีขาวเป็นห้องทำงานที่มีกระจกบานใหญ่ใสแจ๋วเห็นวิวกรุงเทพฯ ไกลสุดลูกหูลูกตา
“โชคดีนะคะคุณเวย์” แพทก็บอกให้ยืนรออยู่ตรงนี้ หน้าโต๊ะทำงานอันใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง พบเพียงเก้าอี้ที่หันหลังให้เขา
“สวัสดีครับท่านประธาน” ถึงแม้จะเตรียมใจมาแล้วว่าคนที่เป็นท่านประธานคือเจเดน วินก็อดเกร็งและสั่นไม่ได้ ตอนแรกวินตั้งใจจะหลบหนีแต่พอคิดแล้วคงหนีไม่พ้น สู้เข้ามาอยู่ในสายตาดีกว่าจะได้ตามหาสาเหตุของเขาว่าเกลียดเวย์เพราะอะไร
“คุณเจเดน” วินลังเลใจในตัวเองว่าเขาต้องทำท่าทีตกใจกลัวหรือไม่ แต่เพื่อความสมจริงตกใจกลัวเขาหน่อยก็ได้
“คุณเจเดน อย่าบอกนะว่าคุณ” วินบอกด้วยน้ำเสียงตกใจ(แบบการแสดง)
“ยินดีต้อนรับ....”
เขาเอ่ยต้อนรับหลังเอนกายพิงไปบนเก้าอี้หลังสีดำเงาทำงานตัวใหญ่ ก่อนยกนิ้วขึ้นลูบไล้ริมฝีปากไปมาพลางใช้สายตากวาดมองบนคนตรงหน้าที่อยู่ในชุดพนักงานของโรงแรมของเขาแล้วยิ้มด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างคาดเดาไม่ได้
“คุณเองเหรอที่เป็นเจ้าของที่นี่” วินคิดในใจ ตกใจให้เขาพึงพอใจเสียหน่อย
“ตกใจอะไร” เจเดนถามก่อนจะลุกจากเก้าอี้เดินปรี่เข้าไปหาวิน
“ตัวสั่นเชียว มึงกลัวกูขนาดนั้นเลยเหรอ” น้ำเสียงเยือกเย็นท่าทางเย็นชาของเจเดนรัตน์ทำให้วินอดกลัวขึ้นมาจริงๆไม่ได้เพราะนึกถึงวันที่เจเดนมาหาเขาที่ร้าน คิดถึงแล้วในใจมันก็หวาดกลัว บวกกับภาพความทรงจำที่ปืนกำลังจี้หัวด้วย แต่ครั้งนี้วินตั้งใจเดินเข้ามาถ้ำเสือ ถิ่นของเขา โรงแรมนี้เขาเป็นเจ้าของ 100 %
“คุณเป็นคนบีบให้ผู้จัดการร้านไล่ผมออกสินะ”
“แล้วจะยังไง”
“คุณนี่มันป่าเถื่อนจริงๆ” หากวินไม่ได้มีแพลนจะลาออกอยู่แล้ว ถ้าเป็นเวย์คงต้องคิดหนักแน่ๆเพราะที่บาร์โฮสต์ทำเงินได้ดีมากๆ
เจเดนลุกจากเก้าอี้เดินปรี่เข้าไปหาวินที่อยู่ในชุดพนักงานห้องอาหารของโรงแรมเขา สัญชาตญาณบอกให้วินถอยห่างทันทีเมื่อพบว่าอีกคนเดินเข้ามาหา
“คนอย่างมึงรอให้กรรมตามทันมันช้าเกินไป เงินที่มึงปอกลอกน้องกูมันไม่พอ” เจเดนเปิดประเด็นความแค้นของเขาขึ้นมา
“ปอกลอกใคร คุณจะบอกว่าผมไปปอกลอกน้องสาวของคุณ” ความอยากรู้เรื่องราวของวินส่งผลให้เขาดพร่งถามออกไปอย่างไม่เกรงกลัว
“มึงมันชั่ว หลอกน้องกูจนหลงหัวปักหัวปำ หลอกทั้งเงินหลอกทั้งตัว พอน้องกูท้องมึงก็ทิ้ง บอกให้ไปทำแท้ง ” เจเดนกระชากคอเสื้อวินมาตะคอกใส่หน้า
“ผมไม่เชื่อ”
“ไม่เชื่อก็เรื่องของมึงแต่ถึงเวลาที่มึงต้องชดใช้ให้น้องกูแล้ว”เจเดนบอกเหตุผลออกไป วินกำลังเก็บข้อมูลเพื่อจะได้นำไปประติดประต่อแล้วค่อยสอบถามเวย์เพื่อยืนยันอีกครั้ง
“น้องสาวคุณคือใคร” วินเอ่ยปากถามเจเดน
“….” ไม่มีคำตามจากเขา เขายื่นรูปถ่ายของหญิงสาวที่ระบุชื่อว่า แองจี้
“น้องกูเจ็บปวดเสียใจ ทำร้ายตัวเองจนตอนนี้ยังไม่ฟื้น เป็นเพราะมึง เพราะมึงไอ้ชั่วเวย์”
“ผมต้องการเจอน้องสาวคุณ”
“มึงได้เจอแน่”
“ผมต้องชดใช้ยังไงให้พวกคุณ”
“มึงคิดว่ายังไงล่ะ”
“คุณต้องการอะไรจากผมเงินหรือชีวิตผม”
“กูจะอยากได้เงินไปทำไม เงินกูใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด ส่วนชีวิตมึงถ้าฆ่าให้ตายก็ง่ายไป”
“ผมอยากให้มันจบ”
“อะไรที่มึงจะทรมาณใจที่สุด”
“อะไร ไม่นะ”
ร่างสูงก้าวเท้าเข้าไปหาวินที่ยืนตัวสั่นกัดกรามแน่นเพราะความกลัวที่เขาพร้อมจะบีบคอของวินให้ขาดอากาศหายใจได้ในทันที และแล้วเจเดนก็ก้มลงกระซิบบางประโยคที่ข้างหูของวินและขบเม้มใบหูหนักจนวินสะดุ้ง
“หา เป็นของเล่นให้คนแบบคุณเหรอ คุณมันตัณหากลับจนหน้ามืดตามัวจนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีกันไปหมดแล้วไปแล้วหรือไง ถึงได้กล้าพูดแบบนี้ ผมขอแนะนำให้ไปหาซื้อเอาที่อื่นเถอะ ผมไม่ทำ! ไม่เด็ดขาด จะฆ่าจะแกงก็เชิญแต่ขอให้จบ” ความตั้งใจแรกของวินเมื่อรู้สาเหตุแล้วจะเสนอเงินเพื่อชดใช้ให้เขา แต่มันเป็นสาเหตุที่เวย์เคยบอกไว้ว่าไม่ได้ทำ เวย์ไม่เคยโกหกวินเรื่องผู้หญิง น้องชายฝาแฝดบอกเขาทุกครั้งเพื่อป้องกันการรักผู้หญิงคนเดียวกัน แต่พอได้ยินว่าเจเดนต้องการให้เวย์บำเรอเขา วินแทบไม่อยากจะเชื่อ อยากจะรีบพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ทว่ากลับต้องหยุดชะงักเมื่อโดนอีกฝ่ายพูดดักไว้ซะก่อน
“ครอบครัวเล็กๆของมึงนี่ดูน่ารักดีนะ ได้ข่าวว่าแม่กับพี่มึงยังเข้าออกโรงพยาบาลอยู่”
“คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง....หรือว่าคุณสืบมาทั้งหมดเลย”
“ประวัติพนักงานของกูทุกคนผ่านตากูมาทั้งนั้นแหละ...ถ้าตอนนี้มึงไม่มีงาน แม่ป่วยพี่แฝดมึงที่เสียสละตัวเอง จะ” เจเดนยังไม่ทันพูดจบประโยค
“อย่ายุ่งกับครอบครังผม ให้มันจบที่ผม ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง”
ข้อมือของวินถูกเขากระชากไปหาเขาอย่างแรงจนร่างสูงเพรียวของวินชนเข้ากับแผงอกของเจเดนอย่างแรง สายตาโกรธแค้นที่ถูกไฟสุมอกจนรุ่มร้อนของเจเดนอยากจะลงมือแก้แค้นคนชั่วตรงหน้าคนเขาในตอนนี้เสียจริงๆ ปกติใครที่กล้ามาต่อปากต่อคำกับเขาแม้แต่คำเดียวแบบนี้ป่านนี้คงได้กลายเป็นผีไปแล้ว
“อย่ามาสั่งกู อยากฆ่ากูก็จะฆ่า”
“หยุดยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวผม”
ปึก!
วินใช้กำปั้นจะชกเข้าที่หน้าของเจเดนแต่เจเดนไวกว่ามา เขาจับข้อมือวินเอาไว้และหันมามองวินด้วยสายตาเกรี้ยวกราดพร้อมจะทำลายคนตรงหน้าให้แหลกคามือไปเลยเดี๋ยวนี้ สันกรามบวมปูดเพราะความโกรธที่กล้าจะทำร้ายเขา
“หยุดพูดข่มขู่คนอื่นดูสักที คุณอย่าคิดว่ารวยแล้วจะทำอะไรก็ได้บ้านเมืองมีกฎหมาย คุณอย่ามาแสดงอำนาจแบบนี้” เมื่อวินรู้ว่าไม่มีทางสู้ก็เลยพูดเรื่องกฎหมายบ้านเมือง แต่คนตรงหน้าหาได้แสดงท่าทีสนใจไม่
“มึงคิดว่ากูเป็นใคร”
อึ้ม!!!อ๊ะ”
คำเตือน : มีการบังคับข่มขืนจิตใจและความรุนแรงทางเพศ ขออภัยมี Dirty Talk นะคะอึ้ม ....ริมฝีปากที่กำลังจะต่อว่าคนบ้าอำนาจ คนไม่เห็นคนเป็นคนได้ถูกปิดไว้จนวินกลืนคำพูดลงไปจนหมด วินถูกเขาลงโทษด้วยปากที่ร้อนเหมือนดั่งไฟของเขากำลังบดขยี้คนปากกล้าที่บังอาจมาต่อปากต่อคำกับเขา การลงโทษด้วยจูบที่รุนแรงและป่าเถื่อน วินถูกรุกจูบอย่างรุนแรงพร้อมกับบดขยี้ราวกับอีกคนอยากจะจับกดด้วยริมฝีปากนี้จนวินขาดอากาศหายใจตายไปวินเม้มปากแน่นก่อนจะถูกเขาขบกัด ริมฝีปากจนเลือดออกไหลคลุ้งคาวไปทั้งปาก ด้วยความเจ็บปนถูกบังคับทำให้วินต้องคลายปากที่เม้มปิดออกมาทันที ลิ้นหนาสอดเข้าโพรงปากตวัดลิ้นล้วงหาน้ำหวานที่แสนหอมรันจวนใจอย่างกระหายบ้าเลือดโดยไม่สนใจคนที่พยายามดิ้นหนีออกจากเขาทุกวิถีทาง“อื้ม ปล่อยนะ ไอ้บ้า...” วินถูกเจเดนอุ้มขึ้นพาดไหล่มาอีกห้องก่อนตัวของวินจะถูกโยนไปที่เตียงอย่างแรงจนวินเองจุกจนตัวงอและบิดตัวไปมา เจเดนถอดเนคไทของตัวเองออกมาก่อนจะมัดข้อมือวินแล้วลากเขาไปมัดติดกับหัวเตียง“นี่คุณหยุดทำอะไรแบบนี้สักที ปล่อย โอ้ย...” ดูเหมือนว่าคำบอกของวินจะไม่ได้เข้าหูของมาเฟียหนุ่มอย่างเจเดนเอาเส
คำเตือน : มีการบังคับข่มขืนจิตใจและความรุนแรงทางเพศ ขออภัยมี Dirty Talk นะคะอึ้ม ....ริมฝีปากที่กำลังจะต่อว่าคนบ้าอำนาจ คนไม่เห็นคนเป็นคนได้ถูกปิดไว้จนวินกลืนคำพูดลงไปจนหมด วินถูกเขาลงโทษด้วยปากที่ร้อนเหมือนดั่งไฟของเขากำลังบดขยี้คนปากกล้าที่บังอาจมาต่อปากต่อคำกับเขา การลงโทษด้วยจูบที่รุนแรงและป่าเถื่อน วินถูกรุกจูบอย่างรุนแรงพร้อมกับบดขยี้ราวกับอีกคนอยากจะจับกดด้วยริมฝีปากนี้จนวินขาดอากาศหายใจตายไปวินเม้มปากแน่นก่อนจะถูกเขาขบกัด ริมฝีปากจนเลือดออกไหลคลุ้งคาวไปทั้งปาก ด้วยความเจ็บปนถูกบังคับทำให้วินต้องคลายปากที่เม้มปิดออกมาทันที ลิ้นหนาสอดเข้าโพรงปากตวัดลิ้นล้วงหาน้ำหวานที่แสนหอมรันจวนใจอย่างกระหายบ้าเลือดโดยไม่สนใจคนที่พยายามดิ้นหนีออกจากเขาทุกวิถีทาง“อื้ม ปล่อยนะ ไอ้บ้า...” วินถูกเจเดนอุ้มขึ้นพาดไหล่มาอีกห้องก่อนตัวของวินจะถูกโยนไปที่เตียงอย่างแรงจนวินเองจุกจนตัวงอและบิดตัวไปมา เจเดนถอดเนคไทของตัวเองออกมาก่อนจะมัดข้อมือวินแล้วลากเขาไปมัดติดกับหัวเตียง“นี่คุณหยุดทำอะไรแบบนี้สักที ปล่อย โอ้ย...” ดูเหมือนว่าคำบอกของวินจะไม่ได้เข้าหูของมาเฟียหนุ่มอย่างเจเดนเอาเส
หลังจากวันนั้นวินก็ทำงานอย่างสงบสุขมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ เพราะว่าเจเดนต้องไปดูแลงานที่ต่างประเทศ วินคิดว่าไม่ช้าคนป่าเถื่อนคนนั่นจะต้องกลับมา นั่นคงเท่ากับว่าวินเองมีโอกาสจะถูกเรียกตัวเข้าไปปู้ยี้ปู้ยำอีกแน่ๆ ใจนึงก็คิดว่าอยากหนีเขาไปให้ไกล แต่เขาก็เคยบอกไว้ว่า หากเวย์หนีเขาจะตามหาเวย์แล้วลามไปตามหาแม่และพี่ชาย คือ วินคนนี้ ในเมื่อตอนนี้วินเองก็อยู่ในสถานะที่เรียกว่าต่อรองอะไรไม่ได้ ก็คงทำได้เพียงทำใจ ตอนนี้จึงต้องรอให้เขากลับมาก่อนแล้วค่อยถามหาหนทางจบเรื่องราวความแค้นนี้แต่วินคิดในใจ ตกลงไอ้คุณเจเดนเป็นเจ้าของประเทศนี้รึไง ทำไมใครๆถึงได้กลัวเขาไปซะหมด เอาล่ะในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับคนอันตรายแบบเขา แม่ก็เพิ่งผ่าตัดและน้องชายเจ้าคนต้นเรื่องก็เพิ่งฟื้นตัวแถมยังต้องมีนัดพบแพทย์อีก อีกอย่างทำงานที่นี่ก็ดีกว่าคลับอยู่นิดหนึ่งเพราะจะได้ไม่ต้องดื่ม ไม่ต้องเสิร์ฟร่างกายให้กับลูกค้า ทำงานอยู่ที่นี่เงินทุกบาทวินใช้หยาดเหงื่อจากการทำงานแลกมาทั้งนั้น มีอาหารให้พนักงานทานฟรี มีทิปแบ่งให้ทุกคนทุกสัปดาห์ด้วย ถึงเจ้าของโรงแรมจะเป็นคนบ้าอำนาจแต่ต้องยอมรับว่าให้สวัสดิการพนักงานดีมา
วันต่อมา ณ ห้องอาหารของโรงแรม“น้องเวย์ไปเอาผ้าปูโต๊ะที่ห้องเก็บของมาให้พี่หน่อยสิ งานเลี้ยงวันนี้เราจะใช้ผ้าสองสีนะ อ้อแล้วก็อย่าลืมไปนับสต๊อกผ้ามาให้พี่ด้วยเผื่อขาดเหลืออะไรพี่จะได้ส่งเรื่องไปขอเบิกงบที่ฝ่ายจัดซื้อ” “ครับ เอ่อแล้วให้ผมเอาผ้าลงมาด้วยมั้ยครับ”“จ๊ะ เอามาหมดนั่นแหละ เดินไปถามพี่โก้แม่บ้านก่อนนะว่ารถอยู่ไหนผ้ามันหนักหอบมาคนเดียวไม่ไหวหรอก”“ได้ครับ” พนักงานรุ่นพี่ขอให้วินช่วยงานของเธอที่มีล้นมือเต็มไปหมด วินเองก็เต็มใจที่จะช่วยวินเดินออกจากห้องจัดงานแล้วเลี้ยงซ้ายไปทางด้านหลังลิฟต์ตัวหลักของลูกค้า ปกติแล้วโรงแรมนี้จะมีลิฟต์ใช้งานอยู่ 4 ทางด้วยกัน ตัวแรกจะอยู่ที่ด้านหน้าเป็นลิฟต์ตัวหลักที่ตรงไปยังฟอนต์ของโรงแรมที่อยู่ชั้น 5 อีกตัวจะเป็นลิฟต์ส่งของอยู่ทางด้านหลังข้างบันไดหนีไฟ ลิฟต์ตัวที่สามจะอยู่ที่ลานจอดรถด้านหลังของตึกเป็นลิฟต์ที่พนักงานใช้กัน ส่วนอีกตัวจะเป็นลิฟต์ของผู้บริหารที่ขึ้นไปยังชั้นผู้บริหารซึ่งลิฟต์ตัวนี้จะอยู่ทางบันไดหนีไฟใกล้ๆกับลิฟต์ส่งของจอดทุกชั้น แต่พนักงานไม่มีสิทธิ์ใช้“ผ้าอยู่ไหนนะ สีขาว 11 สีชมพู 12 ” วินเดินเลือกของที่เธอต้องการเพื่อไปห้องเก็บผ
“คุณมาได้ยังไง”“คุณเขาเอาเอกสารมาให้ คุณเจเดนเขาเป็นเจ้านายใหม่เวย์นี่นา” รสาพูดออกมาแบบนั้นทำให้วินเข้าใจได้ในทันทีว่าแม่ของเขาคงคิดว่ามีอะไรที่ไม่ปกติ วินได้แต่คิดในใจเขาต้องการอะไรกันแน่“คุณกลับไปก่อนเถอะ มีอะไรค่อยคุยกันที่ทำงานพรุ่งนี้”“งั้นก็คุยตอนนี้เลยสิ...” เจเดนเหลือบไปมองคอของชายหนุ่มก็เห็นว่ารอยที่ทำฝากเอาไว้ได้หายไปหมดแล้ว ชายหนุ่มนิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะมองวินที่เดินออกไปรอหน้าบ้าน“คุณต้องการให้เป็นไปแบบไหนกันแน่ ” วินเดินออกมาแล้วเปิดคำถามไปยังเจ้านายหนุ่ม“กูจะเอามึงไว้เป็นของเล่น”“คุณมันบ้า” วินได้ยินคำตอบแล้วก็ต้องตกใจ“ไอ้เวย์! มึงไม่มีทางเลือกอื่น”“แลกกับอะไรเรื่องถึงจะจบ” วินอยากรู้ว่าจะมีทางจบเรื่องไหม“1 ปี ”“อะไรครับ 1 ปี”“ 1 ปีกับการอยู่เป็นของเล่นบำเรอกู”“หา 1 ปี นานไปหรือเปล่า”“งั้นแม่มึง พี่มึงก็ต้องรับกรรมจากการกระทำของมึงเพราะกูไม่ปล่อยไว้แน่” เจเดนพูดออกไปด้วยความอยากเอาชนะเพราะเจเดนต้องการให้เวย์ไปอยู่ที่บ้านหลังจากที่น้องสาวเขาฟื้นแล้ว อย่างน้อยต้องไปขอขมาน้องสาวเขาถึงแม้น้องสาวเขาจะบอกว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวแล้วก็ตาม“ครับ...แต่ว่า” ไม่ทันที่วินจ
บนเพนท์เฮาส์หรูใจกลางเมืองที่กว้างขวางแบ่งสัดส่วนเป็นอย่างดี มีสระว่ายน้ำ โซนสวน ที่จอดรถในชั้น และตอนนี้วินเดินตามเข้าของพื้นที่มาถึงห้องนอนด้านใน ห้องนอนที่เต็มไปด้วยกลิ่นไม่คุ้นเคย ร่างบางเดินลากกระเป๋าของตนเองเข้าในห้องอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก วินมองสำรวจไปทั่วห้อง ก่อนจะวางกระเป๋าลากของตนเองไว้ที่มุมมุมหนึ่ง โดยที่วินของฟังคำสั่งของเจเดนว่าจะให้พักที่ห้องไหน “มึงทำหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไง” “ผมยังไม่ทำอะไรเลย ทำไมคุณชอบหาเรื่องผมจังเลย แล้วจะให้ผมอยู่ห้องนี้ใช่ไหมครับ”วินถามเพราะเขาไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร มันดูเหมือนไม่ใช่ห้องว่างที่จะให้คนอย่างเขาเข้ามาอาศัย “ไม่” แต่คำตอบของของเจเดนทำเอาใบหน้าที่เรียบนิ่งกลับดูสับสนเข้าไปใหญ่ ถ้าคำตอบคือไม่แล้วอีกฝ่ายพาเขามาห้องนี้ทำไมกัน ห้องนี้ดูกว้างขวางแบ่งโซนห้องนอน ห้องแต่งตัว ห้องน้ำอย่างดี “งั้นห้องของผมล่ะครับ” “มึงจะถามทำไมนักหนา ห้องนี้มันทำไมเป็นแค่คนอาศัยอย่างมากเรื่องได้ไหม” “ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นสักหน่อย” วินเข้าใจว่าอีกฝ่ายจงใจยั่วโมโห แต่เขาไม่อยาก
“มึงลองทำให้กูพอใจสิ” นิ้วเรียวค่อย ๆ แทรกเข้าช่องทางของตนเองอย่างช้า ๆ วินไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้มาก่อน และหากวินจะรอให้อีกฝ่ายเปิดทางก่อนเขาคงไม่มีทางทำแน่นอนคนใจร้ายแบบนั้นยิ่งอีกฝ่ายยังดูสะใจเมื่อเห็นวินมีความเจ็บปวด ครั้งนั้นเพราะครั้งแรกเขาไม่ได้เตรียมตัวมันทำให้เจ็บมาก ๆ และใช้เวลาหลายวันกว่าจะหาย ตัวตนความเป็นชายของอีกฝ่ายใช่ว่าเล็กเสียเมื่อไร คือใหญ่มาก ถ้าสอดเข้ามาตอนนี้โดยไม่มีการเปิดช่องทางก็คงมีโอกาสงเลือดออกอีกแน่ ๆ แค่คิดวินก็จิตตกแล้ว “นี่มึงกำลังทำอะไร กูไม่ได้ใจเย็นมากพอมารอมึงทำอะไรแบบนี้นะ” เสียงของเจเดนเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขามองอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์ รู้ทั้งรู้ว่าทำอะไรแต่ก็ไม่พอใจเท่าไร “แป๊บเดียวครับ อึก… จะเสร็จแล้ว” น้ำเสียงติดขัด เพราะกำลังทำบางอย่างกับช่องทาง เขาไม่ได้มีอารมณ์ร่วมเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่อยากลดทอนความบาดเจ็บลงเท่านั้น เจเดนไม่สบอารมณ์เอามาก ๆ แต่ก็ยอมอดทนอีกหน่อย แบบนี้ก็ดูสนุกเหมือนกันที่ของเล่นบำเรอของเขาเริ่มเรียนรู้อะไรได้บางอย่างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ช่วยอะไรอยู่ดี เพราะอย่างไรความโกรธแค้นในใจ
“มึงมันร่าน ชอบก็ครางออกมา” “หึ” เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอ เมื่อได้เห็นดวงตาที่หลบซ่อนภายใต้ท่อนแขนเล็ก ๆ นั่น เจเดนไม่สนใจหรอกว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกหรือจะทำอะไร เพราะตอนนี้เขาสนใจเพียงแค่จะกลั่นแกล้งอีกฝ่ายยังไงเท่านั้น ร่างของวินถูกจับให้เปลี่ยนท่าทางอีกครั้ง เจเดนทิ้งตัวนอนตะแคงกับเตียงนุ่มของเขา สอดตัวเข้าด้านหลังของวิน รั้งท่อนขาของอีกฝ่ายข้างหนึ่งให้ยกขึ้นสูง เผยให้เห็นช่องทางด้านหลังที่ยังปิดไม่สนิทดี ส่วนปลายหยักสอดเข้าไปในช่องทางอีกครั้ง ท่าทางเช่นนี้ต่อให้ท่อนเนื้อของเขาเข้าไปไม่ลึกมากแต่ก็ทำให้อีกฝ่ายดิ้นรนได้ยากเช่นกัน เจเดนฝังตัวตนของเขาจนสุดท่อนลำ ขยับสะโพกเข้าออกช้า ๆ รั้งท่อนขาของอีกฝ่ายให้สูงขึ้นอีกนิด ใบหน้าขยับเข้าใกล้หูของวินก่อนจะกระซิบบางอย่าง“อ๊ะ อาส์ อาส์” เสียงครางของวินหลุดลอยออกมาเป็นระยะเมื่อถูกอีกฝ่ายสอดกระแทกเข้า วินพยายามเอามือขวาปิดปาก เอาแขนซ้ายปิดหน้าของตัวเองไว้ “ทำตัวง่ายแบบนี้ กูนึกว่าเอาอยู่กับตุ๊กตายาง ถ้ามึงยังไม่เลิกเอาแขนปิดหน้าอย่าหาว่ากูรุนแรงนะ” และดูเหมือนคำขู่ของเจเดนจะได้ผลดี วินค่อย ๆ ลดท่อนแ
ท่ามกลางความสับสนของความรู้สึก ร่างทั้งสองกลับกอดก่ายกันบนเตียงกว้าง สายตาสอดประสานเต็มไปด้วยความต้องการในฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ริมฝีปากแดงระเรื่อถูกช่วงชิงละเลียดชิมความหวานจากเธออย่างอ่อนโยน การใกล้ชิดทำให้เวและแองจี้เผลอไผลไปกับบรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นใจ ไม่นานร่างของทั้งคู่ก็เปลือยเปล่า เนินอกอวบอิ่มของหญิงสาวที่โตเต็มที่ในวัยยี่สิบปีพอดีเด่นหราชวนสัมผัส เวผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากบองของสาวสวยตรงหน้า ก่อนจะเคลื่อนต่ำครอบครองส่วนชูชันสีหวาน “อื้อ… พี่เว” “ขอโทษ ให้พี่หยุดตอนนี้ไหม” “มะ…ไม่ค่ะ” แองจี้พูดเสียงเบาอย่างขัดเขิน เธอไม่ต้องการให้อีกฝ่ายหยุดตอนนี้ เพราะเธอเองก็มีความต้องการเช่นเดียวกัน แม้ว่าครั้งนี้มันจะเป็นครั้งแรกของเธอก็ตาม เวค่อย ๆ ปรนเปรอร่างบางอย่างแผ่วเบา เขาก็รู้เหมือนกันว่านี่คือครั้งแรกของอีกฝ่าย เขาไม่อยากเผลอทำรุนแรงเกินไป แต่อารมณ์ของเขาก็ยากจะควบคุมได้เหมือนกัน การใกล้ชิดกันมากเกินไปทำให้เกิดเรื่องที่น่าหวาดหวั่น เขาไม่อยากให้มันเกิดอะไรแบบนี้แต่สุดท้ายทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นด้วยความเต็มใจ มือหนาลูบไล้ไปตา
มือหนากระชับเสื้อโค้ทกันหนาวตัวใหญ่ ที่สวมคลุมเอาไว้เพื่อลดความเย็นของอากาศ การฮันนีมูนทั้งสองเลือกที่ฝรั่งเศสเพราะเจเดนมีบ้านอยู่ที่นี่อยู่แล้ว และอยากให้วินได้มาพบกับครอบครัวฝั่งพ่อของเขาด้วย และอีกอย่างวินก็ต้องการมาหาเด็กแฝดอลิซและเอลิค หลังจากที่จัดงานแต่งงานเสร็จแองจี้ก็พาเด็ก ๆ กลับฝรั่งเศสทันที ทำให้วินไม่ได้เล่นกับเด็ก ๆ เลยช่วงนั้น “หนาวมากไหมคะ” เจเดนเอ่ยถามคนรักอย่างเป็นห่วง “ไม่ครับ ผมชอบที่นี่จังเอาไว้เรามาเดินเล่นกันอีกได้ไหม” “ได้สิคะ” วินชอบวิวที่หอไอเฟลมาก นอกจากจะสวยแล้วยังมีสถานที่ให้นั่งเล่นและเดินเล่นรอบ ๆ ได้อีกด้วย แม้ว่าที่นี่คนค่อนข้างเยอะ แต่ก็มีระเบียบต่างคนต่างมาเที่ยวไม่ยุ่งเกี่ยว นั่นแหละคือสิ่งที่วินชอบ… วันนี้พวกเขาไปเที่ยวมาหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังแวร์ซายส์ หรือพิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ วินชอบสถานที่แบบนี้ เพราะมันเงียบสงบและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมของที่นี่ แต่มีที่หนึ่งที่เขาอยากไปเหมือนกันนั่นก็คือดิสนีย์แลนด์ คิดเอาไว้ว่าเดี๋ยวพวกเขาจะพาเอลิคและอลิซมาเที่ยววันหลัง “ถ้าชอบที่นี่งั้นเราอย
ขอเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมงานแต่งงานระหว่างนายเตวินทร์ สุรภัครชัย และ นายเจเดน ชาร์ลลอส วันอาทิตย์ ที่ 2 มีนาคม 2568 เวลา 9.09 นที่โรงแรมเจซี บรรยากาศโรแมนติกภายในโรงแรมหรูระดับห้าดาว ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของเจเดนและวิน ก่อนหน้าทั้งคู่มีปากเสียงกันนิดหน่อยเรื่องของการจัดงาน วินต้องการจัดเล็ก ๆ ภายในครอบครัวและเพื่อนเท่านั้น ทว่าเจเดนกลับไม่เห็นด้วยทำให้มีการเถียงกันกว่าจะลงตัวก็เลยสรุปเอาไว้คนละครึ่งทาง แต่วินไม่คิดว่าครึ่งทางของเจเดนจะเกินครึ่งมามากถึงขนาดนี้ เขาไม่อยากคิดเลยว่าถ้าอีกฝ่ายจัดเต็มจะมากขนาดไหน เจเดนปิดโรงแรมของเขาทั้งวันทั้งคืนและให้พนักงานทุกคนของโรงแรมได้เข้าร่วมงาน โดยงานแต่งงานปล่อยให้เป็นหน้าที่ของออแกไนท์ทั้งหมด ดังนั้นแค่พนักงานของโรงแรมก็ปาไปกี่ร้อยคนแล้ว ห้องจัดเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดของโรงแรมถูกเปิดใช้งานและแล้ววันงานก็มาถึง เป็นงานแต่งงานที่เล็กแค่ในจินตนาการเท่านั้นจริงๆเพราะเจเดนเล่นใหญ่มากจนวินแทบอยากจะตะโกนใส่หน้า คุณพี่มันมากเกินไป วินในชุดไทยเจ้าบ่าวยืนต้อนรับแขกในงาน โดยที่เขาก็ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลยเ
เสียงเพลงใน CC บาร์ บาร์โฮสต์ชื่อดังใจกลางเมือง คืนนี้เสียงดนตรีกึกก้องและพอขึ้นอินโทรเปิดตัวสองหนุ่มแฝดเวและวิน ที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้ ด้วยเพราะแขกในร้านเรียกร้องมา ต้องการให้เวกลับมาโชว์การเต้นและก่อนจะถึงคืนนี้เวส่งคลิปทักทายแฟนคลับโดยมีพี่ชายของเขาอยู่ในคลิปด้วย และจึงเป็นที่มาของกี่เรียกร้องให้เกิดการโชว์ตัว์ของสองแฝดวินและเว การจัดโชว์ของโฮสต์ตัวท๊อปหน้าเหมือนจึงเกิดขึ้นอีกทั้งยังมีเพื่อนสาวกระเป๋าหนักอย่างกวางและมิน ที่ชอบจิ้นวินและเจเดนอยู่เป็นประจำ แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะเป็นคู่จริงแล้วก็ตาม แต่คนที่จะอารมณ์เสียมากที่สุดคงไม่พ้นเจเดน ที่ตอนนี้ได้แต่มองแฟนหนุ่มของเขาขึ้นไปเต้นคู่กับน้องชายฝาแฝดอยู่บนเวที การโชว์ของสองหนุ่มเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดให้กับแขกในร้านได้อย่างล้นหลาม และวินก็รู้ตัวด้วยว่าถ้าทำแบบนี้แล้วจะทำให้เจเดนไม่พอใจมาก ๆ ซึ่งนั่นก็คือจุดประสงค์ เสียงกรี๊ดของเพื่อนสาวส่งเสียงเชียร์ให้กับวินและเว แต่ครั้งนี้คนที่เล่นใหญ่กลับเป็นวิน เพราะแทนที่เขาจะเต้นเฉย ๆ วินกลับทำสิ่งที่ไม่คาดคิด มือเรียวดึงชายเสื้อเชิ้ตของตัวเองให้หลุดออกเล็กน้อย ก่อนจะปลดกระ
ร่างกายที่เปลือยเปล่านอนกอดกันตลอดทั้งคืน วินรู้สึกตัวตื่นก่อนเพราะอากาศที่ค่อนข้างเย็น แม้ว่าภายในห้องของพวกเขาจะมีเครื่องทำความร้อนก็ตาม แต่การนอนถอดเสื้อผ้าที่ญี่ปุ่นก็เป็นอะไรที่ท้าทายจนเกินไปหน่อย วินไม่คิดเลยว่าเมื่อคืนมันทำให้เราเหนื่อยกันขนาดนี้ วินพลิกตัวกลับมามองคนที่กอดเขาจากด้านหลัง ใบหน้าของเจเดนตอนที่หลับเป็นอะไรที่น่ามองที่สุดแล้ว เพราะไม่มีสายตาที่ยียวนหรือคำหวานเลี่ยน ๆ อีกทั้งยังสงบสุขไม่มีคนคอยกวนใจ แต่พอคิดอีกทีไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนเขาก็ชอบเจเดนทั้งหมดทุกเวลานั่นแหละ มือเรียวค่อย ๆ ยกขึ้นเกลี่ยใบหน้าของเจเดนเบา ๆ ไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว ไล่ตั้งแต่คิ้วเปลือกตาและปลายจมูก แต่เมื่อนิ้วของวินสัมผัสที่ริมฝีปากของเจเดน นิ้วของเขาก็ถูกอีกฝ่ายงับเข้าอย่างจัง “โอ๊ย !” วินร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะให้อีกเจเดนได้มากกว่า เจเดนรวบร่างของวินเข้ามากอดพร้อมกับฟัดแก้มของแฟนหนุ่มแรง ๆ อย่างนึกมันเขี้ยว “จะลักหลับพี่เหรอคะ” “เปล่าสักหน่อย แค่จะไล่แมลงวันเฉย ๆ ครับ” วินหลบสายตา เพราะถูกจับได้ว่าแอบแตะอั๋งอ
หลังจากขึ้นจากบ่อนำพุร้อน การแช่ตัวเป็นอะไรที่ค่อนข้างผ่อนคลายไม่น้อย เดินเที่ยวมาทั้งวันความเหนื่อยล้าสะสมก็หายเป็นปลิดทิ้ง วินสวมชุดยูกาตะที่ทางโรงแรมเตรียมเอาไว้ให้ เพราะด้วยเหตุนี้วินและเจเดนจึงเลือกโรงแรมนี้เป็นพิเศษ วินเองก็อยากให้เจเดนในชุดยูกาตะ ส่วนเจเดนก็อยากเห็นวินในชุดที่ถอดง่ายเหมือนกัน แม้เป็นครั้งแรกที่สวมแต่ก็โชคดีที่มันสวมง่ายกว่าที่คิด วินเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเช่นเดียวกับเจเดนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเหมือนกัน กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำกลิ่นเฉพาะของโรงแรมทำเอาสดชื่นไม่น้อย ตอนที่อาบน้ำวินยังคิดเลยว่าเขาจะถามพนักงานเหมือนกันว่าครีมอาบน้ำนี้มีขายหรือเปล่า “ว้าว สวมชุดนี้แล้วดูน่ารักจังเลยค่ะ” เจเดนเดินเข้ามาใกล้ รวบร่างของวินเข้ามากอด ก่อนจะหอมที่แก้มของคนรักฟอดใหญ่ “เลิกพูดคะขา สักทีได้ไหมครับ วินขนลุกไปหมดเวลาที่พี่เจพูดแบบนี้” “ไม่ได้ค่ะ เพราะพี่รักวินไง พี่ก็อยากพูดเพราะ ๆ กับวินด้วย มันเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งนะคะ” “พูดครับธรรมดาก็ได้นี่ครับ มันก็แสดงความรักเหมือนกัน” “ไม่เหมือนนะ แต่มีอย่างหนึ่งที่แสดง
ตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสถูกจองเอาไว้สองที่ สถานที่ปลายทางคือญี่ปุ่น ปกติแล้ววินไม่ใช่คนที่จะอยากไปไหนมาไหนหรืออยากได้สิ่งของราคาแพง การมาท่องเที่ยวทริปนี้เป็นความต้องการของวินด้วย เจเดนต้องการเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนของเขา ที่อยากจะเสิร์ฟสิ่งที่ดีที่สุดตลอดทริปการเดินทาง อีกทั้งเจเดนยังถือโอกาสครั้งนี้พักผ่อนไปในตัวด้วยเช่นกัน “นี่อะไรครับ” วินถามเมื่อตั๋วถูกยื่นมาตรงหน้าของเขา “ไปญี่ปุ่นกันค่ะ พี่อยากพาวินไปเที่ยวแล้วก็ถือโอกาสพักผ่อนไปเลย” “ไม่เห็นบอกผมเลย” “ก็วินอยากไปพี่เลยจองตั๋วทันที ช่วงนี้วินว่างอยู่ พี่เคลียร์ตารางงานได้เลยจองเลย” เจเดนพูดเสียงอ่อย เพราะสีหน้าของวินในตอนนี้ดูเหมือนไม่ค่อยพอใจเท่าไร เจเดนคิดว่าอีกฝ่ายจะดีใจจนกระโดดกอดเขาเสียอีก แต่ที่ไหนได้ท่าทางของวินกลับเรียบนิ่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้ ทำเอาคนที่อยากเอาใจแฟนหนุ่มถึงกับใจแป่วไปไม่เป็น “วินไม่ดีใจเหรอคะ งั้นเอาไว้ค่อยไปก็ได้ เดี๋ยวตั๋วนี้พี่เอาไปเลื่อนวัน…” เจเดนที่เอาตั๋วกลับมาหน้าของเขาถอดสี ไม่กล้าเร่งรัดเอาคำตอบจากวิน “เดี๋ยวครับ ใครบอกว่าจะไ
เมื่อสายตาของทั้งสองสบตากันเจเดนไม่รอช้า รีบเดินเข้าไปหาคนรักทันที แม้จะเพียงแค่สองอาทิตย์ที่พวกเขาต้องห่างกัน แต่สำหรับเจเดนแล้ว ทุกวินาทีที่ไม่ได้อยู่ข้างวินมันยาวนานเหมือนปี“มีของอะไรลืมไว้ที่แท่นหรือเปล่าพี่ไม่ให้กลับไปเอาแล้วนะ” เสียงของเจเดนแฝงไปด้วยความกังวลแต่ก็เปี่ยมด้วยความเอาใจใส่ ขณะที่เขาทิ้งงานทั้งหมดมารับวินที่สนามบิน หลังจากที่วินแจ้งมาว่าจะถึงกรุงเทพไฟท์ไหน วินก็เคลียร์งานก่อนเพื่อมารับคนรักของเขาเหมือนกับทุกครั้ง“ไม่มีครับเอากลับมาหมดแล้ว”“กระเป๋าเอกสารงานพวกนี้เดี๋ยวพี่ให้คนเอาไปไว้ที่ออฟฟิศให้ ส่วนเรามานี่” เจเดนพูดพร้อมกับยื่นมือหนาออกมาคว้าข้อมือของวินเบา ๆ ก่อนจะดึงเขาไปข้างหน้าแม้จะไม่รู้ว่าเจเดนจะพาไปไหนแต่วินก็ไม่ได้คิดจะขัดขืน เขารู้ดีว่าเจเดนมีเหตุผลของตัวเองเสมอ“ไปไหนครับพี่เจ” วินถามด้วยน้ำเสียงสงสัย ขณะที่เดินตามอีกฝ่ายไปอย่างเชื่องช้า“ไปบ้านเราไง”“บ้าน? บ้านที่ไหนครับ” วินถามเสียงหลงใบหน้าเต็มไปด้วยความมึนงง เขาตั้งใจจะกลับไปอยู่กับแม่และน้อง แต่ตอนนี้เจเดนกลับจะพาเขาไปที่บ้านของตัวเองเสียอย่างนั้น“ก็...พี่จะให้เราย้ายมาอยู่กับพี่ ห้ามปฏิเสธพี่
การเริ่มต้นหางานทำครั้งแรกของเวหลังจากที่ออกจากโฮสต์ ครั้งนี้เวจะต้องเป็นซุปเปอร์เซลล์ให้ได้ เวเดินเข้ามาในโชว์รูมหรูด้วยหัวใจที่เต้นแรง แม้เขาจะมีเพียงวุฒิ ปวช. แต่ด้วยวาทศิลป์ที่เป็นเลิศและความหลงใหลในรถซุปเปอร์คาร์ เขามั่นใจว่างานนี้เป็นโอกาสที่เขารอคอยมานาน“น้องเวที่ติดต่อมาใช่ไหม”“ใช่ครับ”“ยังไงก็ทำงานให้เต็มที่นะ ทำช่องเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ด้วยยอดคงดี”“ผมจะทำให้เต็มที่เลยครับ” เวว่าขึ้นอย่างมั่นใจพลางมองไปรอบ ๆ โชว์รูมอย่างภูมิที่ตัวเองมาสมัครงานที่นี่ได้ โชว์รูมแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านขายรถหรูธรรมดา แต่เป็นที่รวมของรถยนต์นำเข้าระดับสูงจากทั่วทุกมุมโลกเวเคยศึกษาและทำช่องโซเชี่ยลเกี่ยวกับรถมานานแล้ว การได้มายืนอยู่ท่ามกลางรถสวย ๆ เหล่านี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนความฝันกลายเป็นจริง“เว รับรองลูกค้าหน่อย” เสียงใสของเพื่อนร่วมงานเอ่ยขึ้นขณะที่มีลูกค้ารายหนึ่งเดินเข้ามาเขาใจเต้นแรงตื่นเต้นกับงานแรกและลูกค้ารายแรกของตัวเอง สองเท้าก้าวไปทางลูกค้าท่านนั้นที่กำลังเลือกรถอย่างตั้งใจในวันแรกของการทำงานเวโชว์ทักษะการขายของเขาได้อย่างเฉียบคม พูดคุยกับลูกค้าราวกับนักพูดมืออาชีพ ใช้คว