หลังจากวันนั้นวินก็ทำงานอย่างสงบสุขมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ เพราะว่าเจเดนต้องไปดูแลงานที่ต่างประเทศ วินคิดว่าไม่ช้าคนป่าเถื่อนคนนั่นจะต้องกลับมา นั่นคงเท่ากับว่าวินเองมีโอกาสจะถูกเรียกตัวเข้าไปปู้ยี้ปู้ยำอีกแน่ๆ ใจนึงก็คิดว่าอยากหนีเขาไปให้ไกล แต่เขาก็เคยบอกไว้ว่า หากเวย์หนีเขาจะตามหาเวย์แล้วลามไปตามหาแม่และพี่ชาย คือ วินคนนี้ ในเมื่อตอนนี้วินเองก็อยู่ในสถานะที่เรียกว่าต่อรองอะไรไม่ได้ ก็คงทำได้เพียงทำใจ ตอนนี้จึงต้องรอให้เขากลับมาก่อนแล้วค่อยถามหาหนทางจบเรื่องราวความแค้นนี้
แต่วินคิดในใจ ตกลงไอ้คุณเจเดนเป็นเจ้าของประเทศนี้รึไง ทำไมใครๆถึงได้กลัวเขาไปซะหมด เอาล่ะในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับคนอันตรายแบบเขา แม่ก็เพิ่งผ่าตัดและน้องชายเจ้าคนต้นเรื่องก็เพิ่งฟื้นตัวแถมยังต้องมีนัดพบแพทย์อีก อีกอย่างทำงานที่นี่ก็ดีกว่าคลับอยู่นิดหนึ่งเพราะจะได้ไม่ต้องดื่ม ไม่ต้องเสิร์ฟร่างกายให้กับลูกค้า ทำงานอยู่ที่นี่เงินทุกบาทวินใช้หยาดเหงื่อจากการทำงานแลกมาทั้งนั้น มีอาหารให้พนักงานทานฟรี มีทิปแบ่งให้ทุกคนทุกสัปดาห์ด้วย ถึงเจ้าของโรงแรมจะเป็นคนบ้าอำนาจแต่ต้องยอมรับว่าให้สวัสดิการพนักงานดีมากจริงๆ
วินเชื่อน้องชายฝาแฝดตัวเองมากๆว่าไม่ได้เคยทำอะไรไว้กับผู้หญิงคนไหนแบบที่เจเดนกล่าวมาแต่ทำไมทางนั้นจึงมั่นใจว่า เวย์เป็นคนทำร้ายน้องสาวเขาอย่างนั้น
วินนั่งเหม่อลอยคิดถึงอนาคตที่มืดมนของตัวเองอยู่ขณะที่ที่นั่งรอเมล์ป้ายที่จะกลับบ้าน เพราะตอนนี้รายได้ไม่ได้มากเท่ากับทำงานโฮสต์แล้วจึงต้องประหยัดค่าเดินทาง อยู่ๆเสียงแตรรถก็ดังลั่นทำเอาทุกคนหันขวับไปมองรวมถึงเธอด้วย นั่งคิดอะไรเพลินๆตกใจสะดุ้งตื่นจากภวังค์
วินเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่า เจ้าของเสียงนั้นคือรถเก๋งแบรนด์ยุโรปคันใหญ่สีดำเงาวับทั้งคัน ทีแรกไม่ได้คิดจะสนใจหรอกเพราะเขาไม่เคยรู้จักคนขับรถแบบนี้ แต่เสียงแตรนั้นก็ดังขึ้นอีกรอบ ต่อเป็นสามและสี่รอบทำให้คนรอบข้างได้หาสาเหตุ จนกระทั่งทุกคนหันมามองเขาเป็นตาเดียวเป็นสายตาสงสัยแกมรำคาญ ก่อนที่คุณป้าท่านหนึ่งจะเดินมาสะกิดให้เธอไปบอกให้รถคันนั้นหยุดสักที
“แฟนมาตามหรือเปล่าพ่อหนุ่ม”
“หา อะไรนะครับ”
“คนในรถน่ะ เหมือนจะมองมาที่พ่อหนุ่มเลยนะไปคุยกับเค้าหน่อยไปปล่อยให้จอดรถเกะกะขวางทางอยู่ได้”
ในเมื่อเลี่ยงการปะทะไม่ได้ วินก็ตัดสินใจลุกจากที่นั่งแล้วเดินไปหยุดอยู่ข้างรถคันนั้นทันที กระจกคาเยนน์คันใหญ่ถูกเลื่อนลง ใบหน้าที่แสนคุ้นเคยหันมายิ้มให้ด้วยท่าทางเป็นมิตร
“คุณเจเดนมาทำไม”
“ขึ้นรถ” เขาเอ่ยเสียงเรียบ และบอกมาแค่นั้นก่อนจะปลดล็อครถให้วิน
“ไม่ครับ ผมจะกลับบ้านเองได้” วินถอยห่างจากรถเพื่อให้เจเดนปิดกระจกแล้วขับกลับไปอย่ามายุ่งกับเขา
“กูบอกให้ขึ้นมา!” เขายังคงดึงดันสั่งเสียงดัง วินเองก็ยืนยันคำเดิมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ดังพอกัน
“ไม่”
“ถ้าไม่ขึ้นกูจะจอดอยู่ตรงนี้แหละ”
“นี่คุณ บ้าอำนาจ!”
“...”
การกระทำที่ราวกับเมียงอนผัวที่ร่ำรวยหนีมาขึ้นรถเมล์ถูกสายตานับสิบจับจ้องด้วยความอยากรู้อยากเห็นอยากใส่ใจ ทำอย่างไรวินถึงจะหนีมาเฟียหนุ่มพ้นซักที...
ปี๊บๆ
เสียงรถเมล์บีบไล่รถหรูที่จอดขวางที่จอดรถเมล์อยู่เพื่อที่จะเข้าไปรับผู้โดยสารที่ป้าย เจเดนที่ยังทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร ยิ้มราวกับผู้ชนะเพราะเจเดนมั่นใจว่าอีกคนถูกกดดันอยู่อย่างแน่นอน เขยังคงลดกระจกแล้วพูดตอบโต้อย่างชิล
“ถ้ามึงไม่ขึ้นมา พวกเขาก็จะไม่ได้ขึ้นรถเหมือนกัน จะขึ้นหรือไม่ขึ้น”
“ผมไม่...”
“พ่อหนุ่ม ขึ้นรถแฟนไปเถอะเอ็งเอ้ย เกะกะพวกข้าจะกลับบ้าน” เสียงร้องด่าตามหลังประโยคของศิลาหลังจากที่เขาพึ่งพูดจบ
วินมองใบหน้าที่หล่อเหลา ริมฝีปากสีแดงฉ่ำเหยียดยิ้มให้ก่อนที่คิ้วดกหนาจะเลิกขึ้นพลางเอียงคอเป็นนัยว่าเจเดนจะไม่ยอมกว่าวินจะเป็นฝ่ายยอมเขาเอง
“ขับรถออกไปสักทีสิโว้ยยย!!” เสียงของคนที่รอรถเมย์เข้าเทียบป้ายรถเมย์ตะโกนออกมาอย่างโมโห
“กลับไปทะเลาะกันที่บ้านไป!!”
ปิ๊บๆ
เสียงบีบไล่ดังขึ้นอีกครั้ง ในใจของวินนึกโกรธเขาที่ชอบบังคับอยู่เรื่อย แต่ก็ขัดใจเขาไม่ได้เลยสักครั้ง วินมองรถเมล์ไม่ใช่สายที่เขาจะขึ้นด้วย เสียงก่นด่าเริ่มดังมาจากข้างหลังเรื่อยๆ บางคนถึงกับจะเดินเข้ามาด่าซึ่งหน้า วินจึงตัดสินใจขึ้นรถไปกับชายหน้าหนาคนนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
“มึงเป็นอะไร อย่าทำเล่นตัว ” เจเดนถามเมื่อเห็นว่าวินเข้ารถมานั่งนิ่ง
“มึงคาดเข็มขัดด้วยสิ อยากโดนตำรวจจับรึไง”
“ก็จับไปสิ ผมรู้ว่าคุณมีปัญญาจ่าย โอ้ย!!”ไม่ว่าเปล่าคนเจ้าเล่ห์หักรถหลบไปมาจนศีรษะของวินกระเทกกระจก วินยกมือขึ้นกุบหัวก่อนจะหันไปมองเขาที่กำลังนั่งหัวเราะชอบใจ
“สม กูบอกให้คาดเข็มขัด”
“นี่คุณเลิกสั่งผมสักทีได้มั้ย”
“กูเป็นเจ้านายมึง”
“แต่ผมเลิกงานแล้ว”
“กูบอกให้มึงคาดเข็มขัด เชี่ยนี่ ” วินทำตาม ขณะที่ยังคงมองเจเดนด้วยความหวาดระแวง ขณะที่เอื้อมไปจับสายคาดมาคาดให้เรียบร้อย
“นี่คุณ ”
“หุบปากมึงเหอะ”
“หรือที่โกธรๆนี่คิดว่ากูฟันแล้วทิ้งมึง โอ๋ๆๆ” เจเดนพูดออกมาอย่า
กวนประสาทอีกคนและเขาดูชอบใจเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูอาย
“ผมไม่สนใจ คุณจะผมฉันไปไหน” วินถามอย่างสงสัย เพราะกลัวเขาไปส่งที่บ้านเพราะตอนแรกวินบอกให้เวย์พาแม่ไปอยู่ต่างจังหวัดแต่นึกได้ว่าต้องไปพบแพทย์ตามนัด วินจึงไม่อยากให้เจเดนไม่เจอคนที่บ้าน
“ไม่ต้องห่วงหรอก กูก็จะพามึงกลับบ้านนั่นแหละ” เจเดนพูดขณะตาเขามองไปยังถนนเบื้องหน้า
“ไม่ต้อง จอดเลย ”
“หึ! เงียบ”
วินไม่พูดอะไรต่อ ปล่อยให้มาเฟียหนุ่มขับรถไปที่ต่อโดยคาดเดาไม่ได้ว่าเขาจะขับไปที่ไหน
“คุณจำบ้านผมได้เหรอ”
“กูความจำดี ยิ่งความแค้นยิ่งจำแม่น”
“แต่ผมยืนยันว่าผมไม่เคยไปทำร้ายน้องสาวคุณ” วินเอาคำพูดของเวย์มาบอกกล่าวเพราะวินเชื่อใจน้องชายมากเรื่องผู้หญิง
“เดี๋ยวก็รู้ รอให้น้องกูฟื้นมาชี้หน้ามึงก่อน” เจเดนรอให้แองจี้น้องสาวของเขาฟื้นขึ้นมาเพราะก่อนคลอดแองจี้มีอาการครรภ์เป็นพิษ ตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัว เรียกได้ว่าตอนนี้ทั้งแม่และลูกแฝดยังอยู่ใน ICU
“น้องสาวคุณไม่สบายเหรอครับ”
“เพราะคนเลวอย่างมึงไง” เจเดนเอื้อมมือมามาบีบแขนวินอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์แค้น
“โอ๊ย ผมเจ็บ”
“กูก็ตั้งใจให้มึงเจ็บ กูยังฆ่ามึงไม่ได้เพราะกูต้องรอให้น้องกูตื่นมาก่อน”
“แล้ว....”
“ถ้าไม่ตื่นหรือน้องกูเป็นอะไร มึงค่อยตายตาม”
วินได้แต่เม้มปากไม่ได้ถามอะไรต่อเลยแม้แต่คำเดียว แต่ก็จนแล้วจนรอดรถเขามาถึงหน้าบ้านของวิน เขาก็ยังไม่ได้พูดอะไรยังเงียบมาตลอดทาง วินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งที่มาถึงบ้านได้อย่างปลอดภัยโดยที่เขาไม่ได้ลงรถและไม่ได้ทำอะไรวินมากกว่านั้น ก่อนจะลงรถวินเอ่ยปากบอกเจเดน
“ขอบคุณครับ ผมไม่รู้จะบอกคุณยังไง...แต่ผมแค่อยากขอร้องให้คุณไม่ยุ่งกับแม่และพี่ผม ”
“มึงคิดว่า มึงมีสิทธิ์ขอร้อง ” พูดยังไม่ทันจบ เจเดนกระชากท้ายทอยวินเข้ามาจูบปิดปากอย่างหนักหน่วงรุนแรงคล้ายตั้งใจให้อีกคนเจ็บริมฝีปาก วินต่อต้านขลุกขลิกแต่ไม่เป็นผลเพราะเทียบแรงแล้วเจเดนมีกำลังเหนือกว่า เมื่อจูบที่รุนแรงเนิ่นนานแต่ยังไม่ทันที่จะมีการเกี่ยวกวัดของลิ้นร้อน เจเดนก็ผลักวินออกจากพันธนาการไป
“มึงมีสิทธิ์เป็นได้แค่ของเล่นบำเรอกู”
“ถ้าน้องกูจะฟื้นความตายจะเป็นของมึง”
วันต่อมา ณ ห้องอาหารของโรงแรม“น้องเวย์ไปเอาผ้าปูโต๊ะที่ห้องเก็บของมาให้พี่หน่อยสิ งานเลี้ยงวันนี้เราจะใช้ผ้าสองสีนะ อ้อแล้วก็อย่าลืมไปนับสต๊อกผ้ามาให้พี่ด้วยเผื่อขาดเหลืออะไรพี่จะได้ส่งเรื่องไปขอเบิกงบที่ฝ่ายจัดซื้อ” “ครับ เอ่อแล้วให้ผมเอาผ้าลงมาด้วยมั้ยครับ”“จ๊ะ เอามาหมดนั่นแหละ เดินไปถามพี่โก้แม่บ้านก่อนนะว่ารถอยู่ไหนผ้ามันหนักหอบมาคนเดียวไม่ไหวหรอก”“ได้ครับ” พนักงานรุ่นพี่ขอให้วินช่วยงานของเธอที่มีล้นมือเต็มไปหมด วินเองก็เต็มใจที่จะช่วยวินเดินออกจากห้องจัดงานแล้วเลี้ยงซ้ายไปทางด้านหลังลิฟต์ตัวหลักของลูกค้า ปกติแล้วโรงแรมนี้จะมีลิฟต์ใช้งานอยู่ 4 ทางด้วยกัน ตัวแรกจะอยู่ที่ด้านหน้าเป็นลิฟต์ตัวหลักที่ตรงไปยังฟอนต์ของโรงแรมที่อยู่ชั้น 5 อีกตัวจะเป็นลิฟต์ส่งของอยู่ทางด้านหลังข้างบันไดหนีไฟ ลิฟต์ตัวที่สามจะอยู่ที่ลานจอดรถด้านหลังของตึกเป็นลิฟต์ที่พนักงานใช้กัน ส่วนอีกตัวจะเป็นลิฟต์ของผู้บริหารที่ขึ้นไปยังชั้นผู้บริหารซึ่งลิฟต์ตัวนี้จะอยู่ทางบันไดหนีไฟใกล้ๆกับลิฟต์ส่งของจอดทุกชั้น แต่พนักงานไม่มีสิทธิ์ใช้“ผ้าอยู่ไหนนะ สีขาว 11 สีชมพู 12 ” วินเดินเลือกของที่เธอต้องการเพื่อไปห้องเก็บผ
“คุณมาได้ยังไง”“คุณเขาเอาเอกสารมาให้ คุณเจเดนเขาเป็นเจ้านายใหม่เวย์นี่นา” รสาพูดออกมาแบบนั้นทำให้วินเข้าใจได้ในทันทีว่าแม่ของเขาคงคิดว่ามีอะไรที่ไม่ปกติ วินได้แต่คิดในใจเขาต้องการอะไรกันแน่“คุณกลับไปก่อนเถอะ มีอะไรค่อยคุยกันที่ทำงานพรุ่งนี้”“งั้นก็คุยตอนนี้เลยสิ...” เจเดนเหลือบไปมองคอของชายหนุ่มก็เห็นว่ารอยที่ทำฝากเอาไว้ได้หายไปหมดแล้ว ชายหนุ่มนิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะมองวินที่เดินออกไปรอหน้าบ้าน“คุณต้องการให้เป็นไปแบบไหนกันแน่ ” วินเดินออกมาแล้วเปิดคำถามไปยังเจ้านายหนุ่ม“กูจะเอามึงไว้เป็นของเล่น”“คุณมันบ้า” วินได้ยินคำตอบแล้วก็ต้องตกใจ“ไอ้เวย์! มึงไม่มีทางเลือกอื่น”“แลกกับอะไรเรื่องถึงจะจบ” วินอยากรู้ว่าจะมีทางจบเรื่องไหม“1 ปี ”“อะไรครับ 1 ปี”“ 1 ปีกับการอยู่เป็นของเล่นบำเรอกู”“หา 1 ปี นานไปหรือเปล่า”“งั้นแม่มึง พี่มึงก็ต้องรับกรรมจากการกระทำของมึงเพราะกูไม่ปล่อยไว้แน่” เจเดนพูดออกไปด้วยความอยากเอาชนะเพราะเจเดนต้องการให้เวย์ไปอยู่ที่บ้านหลังจากที่น้องสาวเขาฟื้นแล้ว อย่างน้อยต้องไปขอขมาน้องสาวเขาถึงแม้น้องสาวเขาจะบอกว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวแล้วก็ตาม“ครับ...แต่ว่า” ไม่ทันที่วินจ
บนเพนท์เฮาส์หรูใจกลางเมืองที่กว้างขวางแบ่งสัดส่วนเป็นอย่างดี มีสระว่ายน้ำ โซนสวน ที่จอดรถในชั้น และตอนนี้วินเดินตามเข้าของพื้นที่มาถึงห้องนอนด้านใน ห้องนอนที่เต็มไปด้วยกลิ่นไม่คุ้นเคย ร่างบางเดินลากกระเป๋าของตนเองเข้าในห้องอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก วินมองสำรวจไปทั่วห้อง ก่อนจะวางกระเป๋าลากของตนเองไว้ที่มุมมุมหนึ่ง โดยที่วินของฟังคำสั่งของเจเดนว่าจะให้พักที่ห้องไหน “มึงทำหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไง” “ผมยังไม่ทำอะไรเลย ทำไมคุณชอบหาเรื่องผมจังเลย แล้วจะให้ผมอยู่ห้องนี้ใช่ไหมครับ”วินถามเพราะเขาไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร มันดูเหมือนไม่ใช่ห้องว่างที่จะให้คนอย่างเขาเข้ามาอาศัย “ไม่” แต่คำตอบของของเจเดนทำเอาใบหน้าที่เรียบนิ่งกลับดูสับสนเข้าไปใหญ่ ถ้าคำตอบคือไม่แล้วอีกฝ่ายพาเขามาห้องนี้ทำไมกัน ห้องนี้ดูกว้างขวางแบ่งโซนห้องนอน ห้องแต่งตัว ห้องน้ำอย่างดี “งั้นห้องของผมล่ะครับ” “มึงจะถามทำไมนักหนา ห้องนี้มันทำไมเป็นแค่คนอาศัยอย่างมากเรื่องได้ไหม” “ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นสักหน่อย” วินเข้าใจว่าอีกฝ่ายจงใจยั่วโมโห แต่เขาไม่อยาก
“มึงลองทำให้กูพอใจสิ” นิ้วเรียวค่อย ๆ แทรกเข้าช่องทางของตนเองอย่างช้า ๆ วินไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้มาก่อน และหากวินจะรอให้อีกฝ่ายเปิดทางก่อนเขาคงไม่มีทางทำแน่นอนคนใจร้ายแบบนั้นยิ่งอีกฝ่ายยังดูสะใจเมื่อเห็นวินมีความเจ็บปวด ครั้งนั้นเพราะครั้งแรกเขาไม่ได้เตรียมตัวมันทำให้เจ็บมาก ๆ และใช้เวลาหลายวันกว่าจะหาย ตัวตนความเป็นชายของอีกฝ่ายใช่ว่าเล็กเสียเมื่อไร คือใหญ่มาก ถ้าสอดเข้ามาตอนนี้โดยไม่มีการเปิดช่องทางก็คงมีโอกาสงเลือดออกอีกแน่ ๆ แค่คิดวินก็จิตตกแล้ว “นี่มึงกำลังทำอะไร กูไม่ได้ใจเย็นมากพอมารอมึงทำอะไรแบบนี้นะ” เสียงของเจเดนเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขามองอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์ รู้ทั้งรู้ว่าทำอะไรแต่ก็ไม่พอใจเท่าไร “แป๊บเดียวครับ อึก… จะเสร็จแล้ว” น้ำเสียงติดขัด เพราะกำลังทำบางอย่างกับช่องทาง เขาไม่ได้มีอารมณ์ร่วมเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่อยากลดทอนความบาดเจ็บลงเท่านั้น เจเดนไม่สบอารมณ์เอามาก ๆ แต่ก็ยอมอดทนอีกหน่อย แบบนี้ก็ดูสนุกเหมือนกันที่ของเล่นบำเรอของเขาเริ่มเรียนรู้อะไรได้บางอย่างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ช่วยอะไรอยู่ดี เพราะอย่างไรความโกรธแค้นในใจ
“มึงมันร่าน ชอบก็ครางออกมา” “หึ” เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอ เมื่อได้เห็นดวงตาที่หลบซ่อนภายใต้ท่อนแขนเล็ก ๆ นั่น เจเดนไม่สนใจหรอกว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกหรือจะทำอะไร เพราะตอนนี้เขาสนใจเพียงแค่จะกลั่นแกล้งอีกฝ่ายยังไงเท่านั้น ร่างของวินถูกจับให้เปลี่ยนท่าทางอีกครั้ง เจเดนทิ้งตัวนอนตะแคงกับเตียงนุ่มของเขา สอดตัวเข้าด้านหลังของวิน รั้งท่อนขาของอีกฝ่ายข้างหนึ่งให้ยกขึ้นสูง เผยให้เห็นช่องทางด้านหลังที่ยังปิดไม่สนิทดี ส่วนปลายหยักสอดเข้าไปในช่องทางอีกครั้ง ท่าทางเช่นนี้ต่อให้ท่อนเนื้อของเขาเข้าไปไม่ลึกมากแต่ก็ทำให้อีกฝ่ายดิ้นรนได้ยากเช่นกัน เจเดนฝังตัวตนของเขาจนสุดท่อนลำ ขยับสะโพกเข้าออกช้า ๆ รั้งท่อนขาของอีกฝ่ายให้สูงขึ้นอีกนิด ใบหน้าขยับเข้าใกล้หูของวินก่อนจะกระซิบบางอย่าง“อ๊ะ อาส์ อาส์” เสียงครางของวินหลุดลอยออกมาเป็นระยะเมื่อถูกอีกฝ่ายสอดกระแทกเข้า วินพยายามเอามือขวาปิดปาก เอาแขนซ้ายปิดหน้าของตัวเองไว้ “ทำตัวง่ายแบบนี้ กูนึกว่าเอาอยู่กับตุ๊กตายาง ถ้ามึงยังไม่เลิกเอาแขนปิดหน้าอย่าหาว่ากูรุนแรงนะ” และดูเหมือนคำขู่ของเจเดนจะได้ผลดี วินค่อย ๆ ลดท่อนแ
สองสัปดาห์ผ่านไป@Scrub Pub วันนี้กลุ่มเพื่อนๆของวินนัดกันมาดื่มที่บาร์แห่งหนึ่ง วินเองวันนี้มาในนามของตัวเอง เพราะเป็นกลุ่มที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยและนัดรวมตัวกันหลังจากเรียนจบ วินจึงมาพบปะเพื่อนฝูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้“โห…ใครน่ะ หล่อจัง” เสียงของกวางกำลังพูดกับมิน สองสาวเป็นเพื่อนในกลุ่มของวิน พวกเธอพูดขึ้นขณะที่กำลังเต้นตามเสียงเพลงที่ดัง เหล่าชายหนุ่มหญิงสาวพบปะสังสรรค์ทั้งดื่มกินอย่างสนุกสนาน “ไม่รู้อะฉันแอบถ่ายมา หล่อดีเนาะฉันคิดว่าเค้าน่าจะเป็นดารา สเปคเลยคนเนี้ย! หล่อเหลือหลายจนแทบอยากคลานเข่าเข้าไปหา” สองสาวหยอกล้อตามประสาเพื่อนสนิทที่เจอหนุ่มๆที่ถูกตา ทว่าคำพูดล่อแหลมที่พูดออกมานั้นก็เอาไว้ใช้แค่กับบทสนทนาระหว่างพวกเธอเท่านั้น ความจริงสองเพื่อนซี้ไม่เคยจะแลมองชายคนไหนเลยด้วยซ้ำเพราะวันๆเอาแต่เรียก เลิกเรียนก็ทำงานพอเรียนจบสองสาวก็แยกกันไปคนละทิศละทาง จนป่านนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้กลับมาเจอกัน “เว่อๆ เออนี่ลองเอารูปเขามาค้นหาในกูเกิ้ลดูมั้ย ถ้าเค้าเป็นดาราจริงๆนะต้องมีประวัติบ้างแหละ” กวางแนะเพื่อนของเธอก่อนที่สองสาวจะเอารูปของเจเดนที่แอบถ่ายไว้ไปค้นหาในเน็ต ‘เจเดน ชา
ปากเล็กของวินที่ช่วยเขาอย่างจำใจ วินต้องอดทนเพียงแค่ต้องทำให้เขาพอใจ...แล้วคืนนี้วินอาจจะรอดเพราะหากเขาเสร็จสุขสมจากการให้ปากบางทีเขาอาจจะไม่สอดใส่ก็ได้ วินได้แต่คิดภาวนาให้ตัวเองรอดคืนนี้ไปได้“อึ้ม!” วินเริ่มตาลอยเมื่อรู้สึกว่าเจเดนขยับเอวเร็วเกินไปจนวินแทบจะหายใจไม่ทันน้ำลายของวินที่ไหลปนกับน้ำหวานของเขาไหลล้นปากลงผ่านลำคอลงแผงอกของวินก่อนจะหยดลงผ้าปูที่นอน เจเดนไม่คิดจะมองหน้าของวินที่อยู่เบื้องล่างเขาเลยว่าวินนั้นทรมานเพียงใดขณะที่เขาเองนั้นกำลังมีความสุขจนแทบจะล้น “อาห์ ปากมึงมันดี นุ่มฉิบหาย อาส์”“อ๊ะ! อืมมม ซี้ด” เขาครางออกมาอีกครั้งก่อนจะขยับเอวให้ช้าลงเพราะน้ำสีขาวขุ่นที่ปล่อยออกมาไหลลงคอของวินไปหมดทุกหยด“แค่ก ฮื่อๆ” เสียงวินสำลักและเจเดนถอนแท่งร้อนของเขาออกจากปากบางของวินจนทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ใต้อาณัติได้มีอากาศหายใจหายคอได้บ้างน้ำขาวขุ่นที่คั่งค้างในปากที่เหลืออยู่วินเช็ดมันออกช้าๆก่อนจะขยับตัวหนีเจเดนไปอยู่หัวเตียงแล้วเอาหมอนปิดร่างกายของตัวเองเอาไว้ “พอใจแล้วใช่ไหม” วินพูดพร้อมกับมองหน้าเจเดนอย่างโกรธแค้นเสียงสั่นแต่ทว่าก็หนีเขาไม่ได้หากเขาไม่ยอมปล่อย “ยัง”"อะไรน
@ห้องอาหารของโรงแรม“คุณเจเดน!” เสียงอุทานของผู้จัดการห้องอาหารกำลังตกใจที่เจ้าของโรงแรมเดินเข้ามาในห้องอาหารแห่งนี้เพราะปกติเจ้านายไม่เคยย่างกลายเข้ามาเลยหากไม่มีแขกสำคัญที่ต้องมาทานอาหารด้วย และส่วนใหญ่จะเสิร์ฟอาหารกลางวันไปที่ห้องทำงานเลย ทำให้วันนี้ผู้จัดการสาวค่อนข้างตกใจ“คุณเจเดนรับอาหารอะไรดีค่ะ” ผู้จัดการสาวอาสาเข้าไปดูแลเจ้านายหนุ่มด้วยตัวเอง“กาแฟดำกับแซนด์วิชแค่นั้น ” เจเดนเดินทางมาโรงแรมแต่เช้าเพราะไม่อยากเห็นหน้าคนที่เขาปู้ยี่ปู้ยำเมื่อคืนนานเกินไปแค่ทักทายให้เจ็บๆแสบๆก็รับออกมาทำงานเลย เรียกว่ากลัวทำหน้าไม่ถูก ดันบอกมันเรียก พี่เจ โคตรน่าขำสิ้นดี มาเฟียหนุ่มจึงเดินทางมาที่ทำงานแต่เช้าเรียกว่าเลี่ยงก็ว่าได้“หากคุณเจเดนต้องการอะไรเพิ่มเติมแจ้งได้เลยนะคะ”“วันนี้ให้เวย์ลางานนะ ผมให้ไปทำงานข้างนอก” เจเดนแจ้งผู้จัดการห้องอาหารเพราะคิดว่าเจ้าตัวคงมาทำงานไม่ไหวแน่นอน“ค่ะๆ” ผู้จัดการสาวรับคำอย่างพอจะเข้าใจในความหมายแต่ไม่ได้อยากยุ่งเจ้านายกับลูกน้องของเธอ@เพนท์เฮาส์เจเดนทีมแม่บ้านสามคนเดินทางมาทำความสะอาดห้องต้องตกใจในสภาพห้องนอนของเจ้านายหนุ่ม ก็เดาได้ไม่ยากว่าเมื่อคืนนี้
ท่ามกลางความสับสนของความรู้สึก ร่างทั้งสองกลับกอดก่ายกันบนเตียงกว้าง สายตาสอดประสานเต็มไปด้วยความต้องการในฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ริมฝีปากแดงระเรื่อถูกช่วงชิงละเลียดชิมความหวานจากเธออย่างอ่อนโยน การใกล้ชิดทำให้เวและแองจี้เผลอไผลไปกับบรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นใจ ไม่นานร่างของทั้งคู่ก็เปลือยเปล่า เนินอกอวบอิ่มของหญิงสาวที่โตเต็มที่ในวัยยี่สิบปีพอดีเด่นหราชวนสัมผัส เวผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากบองของสาวสวยตรงหน้า ก่อนจะเคลื่อนต่ำครอบครองส่วนชูชันสีหวาน “อื้อ… พี่เว” “ขอโทษ ให้พี่หยุดตอนนี้ไหม” “มะ…ไม่ค่ะ” แองจี้พูดเสียงเบาอย่างขัดเขิน เธอไม่ต้องการให้อีกฝ่ายหยุดตอนนี้ เพราะเธอเองก็มีความต้องการเช่นเดียวกัน แม้ว่าครั้งนี้มันจะเป็นครั้งแรกของเธอก็ตาม เวค่อย ๆ ปรนเปรอร่างบางอย่างแผ่วเบา เขาก็รู้เหมือนกันว่านี่คือครั้งแรกของอีกฝ่าย เขาไม่อยากเผลอทำรุนแรงเกินไป แต่อารมณ์ของเขาก็ยากจะควบคุมได้เหมือนกัน การใกล้ชิดกันมากเกินไปทำให้เกิดเรื่องที่น่าหวาดหวั่น เขาไม่อยากให้มันเกิดอะไรแบบนี้แต่สุดท้ายทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นด้วยความเต็มใจ มือหนาลูบไล้ไปตา
มือหนากระชับเสื้อโค้ทกันหนาวตัวใหญ่ ที่สวมคลุมเอาไว้เพื่อลดความเย็นของอากาศ การฮันนีมูนทั้งสองเลือกที่ฝรั่งเศสเพราะเจเดนมีบ้านอยู่ที่นี่อยู่แล้ว และอยากให้วินได้มาพบกับครอบครัวฝั่งพ่อของเขาด้วย และอีกอย่างวินก็ต้องการมาหาเด็กแฝดอลิซและเอลิค หลังจากที่จัดงานแต่งงานเสร็จแองจี้ก็พาเด็ก ๆ กลับฝรั่งเศสทันที ทำให้วินไม่ได้เล่นกับเด็ก ๆ เลยช่วงนั้น “หนาวมากไหมคะ” เจเดนเอ่ยถามคนรักอย่างเป็นห่วง “ไม่ครับ ผมชอบที่นี่จังเอาไว้เรามาเดินเล่นกันอีกได้ไหม” “ได้สิคะ” วินชอบวิวที่หอไอเฟลมาก นอกจากจะสวยแล้วยังมีสถานที่ให้นั่งเล่นและเดินเล่นรอบ ๆ ได้อีกด้วย แม้ว่าที่นี่คนค่อนข้างเยอะ แต่ก็มีระเบียบต่างคนต่างมาเที่ยวไม่ยุ่งเกี่ยว นั่นแหละคือสิ่งที่วินชอบ… วันนี้พวกเขาไปเที่ยวมาหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังแวร์ซายส์ หรือพิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ วินชอบสถานที่แบบนี้ เพราะมันเงียบสงบและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมของที่นี่ แต่มีที่หนึ่งที่เขาอยากไปเหมือนกันนั่นก็คือดิสนีย์แลนด์ คิดเอาไว้ว่าเดี๋ยวพวกเขาจะพาเอลิคและอลิซมาเที่ยววันหลัง “ถ้าชอบที่นี่งั้นเราอย
ขอเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมงานแต่งงานระหว่างนายเตวินทร์ สุรภัครชัย และ นายเจเดน ชาร์ลลอส วันอาทิตย์ ที่ 2 มีนาคม 2568 เวลา 9.09 นที่โรงแรมเจซี บรรยากาศโรแมนติกภายในโรงแรมหรูระดับห้าดาว ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของเจเดนและวิน ก่อนหน้าทั้งคู่มีปากเสียงกันนิดหน่อยเรื่องของการจัดงาน วินต้องการจัดเล็ก ๆ ภายในครอบครัวและเพื่อนเท่านั้น ทว่าเจเดนกลับไม่เห็นด้วยทำให้มีการเถียงกันกว่าจะลงตัวก็เลยสรุปเอาไว้คนละครึ่งทาง แต่วินไม่คิดว่าครึ่งทางของเจเดนจะเกินครึ่งมามากถึงขนาดนี้ เขาไม่อยากคิดเลยว่าถ้าอีกฝ่ายจัดเต็มจะมากขนาดไหน เจเดนปิดโรงแรมของเขาทั้งวันทั้งคืนและให้พนักงานทุกคนของโรงแรมได้เข้าร่วมงาน โดยงานแต่งงานปล่อยให้เป็นหน้าที่ของออแกไนท์ทั้งหมด ดังนั้นแค่พนักงานของโรงแรมก็ปาไปกี่ร้อยคนแล้ว ห้องจัดเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดของโรงแรมถูกเปิดใช้งานและแล้ววันงานก็มาถึง เป็นงานแต่งงานที่เล็กแค่ในจินตนาการเท่านั้นจริงๆเพราะเจเดนเล่นใหญ่มากจนวินแทบอยากจะตะโกนใส่หน้า คุณพี่มันมากเกินไป วินในชุดไทยเจ้าบ่าวยืนต้อนรับแขกในงาน โดยที่เขาก็ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลยเ
เสียงเพลงใน CC บาร์ บาร์โฮสต์ชื่อดังใจกลางเมือง คืนนี้เสียงดนตรีกึกก้องและพอขึ้นอินโทรเปิดตัวสองหนุ่มแฝดเวและวิน ที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้ ด้วยเพราะแขกในร้านเรียกร้องมา ต้องการให้เวกลับมาโชว์การเต้นและก่อนจะถึงคืนนี้เวส่งคลิปทักทายแฟนคลับโดยมีพี่ชายของเขาอยู่ในคลิปด้วย และจึงเป็นที่มาของกี่เรียกร้องให้เกิดการโชว์ตัว์ของสองแฝดวินและเว การจัดโชว์ของโฮสต์ตัวท๊อปหน้าเหมือนจึงเกิดขึ้นอีกทั้งยังมีเพื่อนสาวกระเป๋าหนักอย่างกวางและมิน ที่ชอบจิ้นวินและเจเดนอยู่เป็นประจำ แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะเป็นคู่จริงแล้วก็ตาม แต่คนที่จะอารมณ์เสียมากที่สุดคงไม่พ้นเจเดน ที่ตอนนี้ได้แต่มองแฟนหนุ่มของเขาขึ้นไปเต้นคู่กับน้องชายฝาแฝดอยู่บนเวที การโชว์ของสองหนุ่มเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดให้กับแขกในร้านได้อย่างล้นหลาม และวินก็รู้ตัวด้วยว่าถ้าทำแบบนี้แล้วจะทำให้เจเดนไม่พอใจมาก ๆ ซึ่งนั่นก็คือจุดประสงค์ เสียงกรี๊ดของเพื่อนสาวส่งเสียงเชียร์ให้กับวินและเว แต่ครั้งนี้คนที่เล่นใหญ่กลับเป็นวิน เพราะแทนที่เขาจะเต้นเฉย ๆ วินกลับทำสิ่งที่ไม่คาดคิด มือเรียวดึงชายเสื้อเชิ้ตของตัวเองให้หลุดออกเล็กน้อย ก่อนจะปลดกระ
ร่างกายที่เปลือยเปล่านอนกอดกันตลอดทั้งคืน วินรู้สึกตัวตื่นก่อนเพราะอากาศที่ค่อนข้างเย็น แม้ว่าภายในห้องของพวกเขาจะมีเครื่องทำความร้อนก็ตาม แต่การนอนถอดเสื้อผ้าที่ญี่ปุ่นก็เป็นอะไรที่ท้าทายจนเกินไปหน่อย วินไม่คิดเลยว่าเมื่อคืนมันทำให้เราเหนื่อยกันขนาดนี้ วินพลิกตัวกลับมามองคนที่กอดเขาจากด้านหลัง ใบหน้าของเจเดนตอนที่หลับเป็นอะไรที่น่ามองที่สุดแล้ว เพราะไม่มีสายตาที่ยียวนหรือคำหวานเลี่ยน ๆ อีกทั้งยังสงบสุขไม่มีคนคอยกวนใจ แต่พอคิดอีกทีไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนเขาก็ชอบเจเดนทั้งหมดทุกเวลานั่นแหละ มือเรียวค่อย ๆ ยกขึ้นเกลี่ยใบหน้าของเจเดนเบา ๆ ไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว ไล่ตั้งแต่คิ้วเปลือกตาและปลายจมูก แต่เมื่อนิ้วของวินสัมผัสที่ริมฝีปากของเจเดน นิ้วของเขาก็ถูกอีกฝ่ายงับเข้าอย่างจัง “โอ๊ย !” วินร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะให้อีกเจเดนได้มากกว่า เจเดนรวบร่างของวินเข้ามากอดพร้อมกับฟัดแก้มของแฟนหนุ่มแรง ๆ อย่างนึกมันเขี้ยว “จะลักหลับพี่เหรอคะ” “เปล่าสักหน่อย แค่จะไล่แมลงวันเฉย ๆ ครับ” วินหลบสายตา เพราะถูกจับได้ว่าแอบแตะอั๋งอ
หลังจากขึ้นจากบ่อนำพุร้อน การแช่ตัวเป็นอะไรที่ค่อนข้างผ่อนคลายไม่น้อย เดินเที่ยวมาทั้งวันความเหนื่อยล้าสะสมก็หายเป็นปลิดทิ้ง วินสวมชุดยูกาตะที่ทางโรงแรมเตรียมเอาไว้ให้ เพราะด้วยเหตุนี้วินและเจเดนจึงเลือกโรงแรมนี้เป็นพิเศษ วินเองก็อยากให้เจเดนในชุดยูกาตะ ส่วนเจเดนก็อยากเห็นวินในชุดที่ถอดง่ายเหมือนกัน แม้เป็นครั้งแรกที่สวมแต่ก็โชคดีที่มันสวมง่ายกว่าที่คิด วินเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเช่นเดียวกับเจเดนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเหมือนกัน กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำกลิ่นเฉพาะของโรงแรมทำเอาสดชื่นไม่น้อย ตอนที่อาบน้ำวินยังคิดเลยว่าเขาจะถามพนักงานเหมือนกันว่าครีมอาบน้ำนี้มีขายหรือเปล่า “ว้าว สวมชุดนี้แล้วดูน่ารักจังเลยค่ะ” เจเดนเดินเข้ามาใกล้ รวบร่างของวินเข้ามากอด ก่อนจะหอมที่แก้มของคนรักฟอดใหญ่ “เลิกพูดคะขา สักทีได้ไหมครับ วินขนลุกไปหมดเวลาที่พี่เจพูดแบบนี้” “ไม่ได้ค่ะ เพราะพี่รักวินไง พี่ก็อยากพูดเพราะ ๆ กับวินด้วย มันเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งนะคะ” “พูดครับธรรมดาก็ได้นี่ครับ มันก็แสดงความรักเหมือนกัน” “ไม่เหมือนนะ แต่มีอย่างหนึ่งที่แสดง
ตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสถูกจองเอาไว้สองที่ สถานที่ปลายทางคือญี่ปุ่น ปกติแล้ววินไม่ใช่คนที่จะอยากไปไหนมาไหนหรืออยากได้สิ่งของราคาแพง การมาท่องเที่ยวทริปนี้เป็นความต้องการของวินด้วย เจเดนต้องการเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนของเขา ที่อยากจะเสิร์ฟสิ่งที่ดีที่สุดตลอดทริปการเดินทาง อีกทั้งเจเดนยังถือโอกาสครั้งนี้พักผ่อนไปในตัวด้วยเช่นกัน “นี่อะไรครับ” วินถามเมื่อตั๋วถูกยื่นมาตรงหน้าของเขา “ไปญี่ปุ่นกันค่ะ พี่อยากพาวินไปเที่ยวแล้วก็ถือโอกาสพักผ่อนไปเลย” “ไม่เห็นบอกผมเลย” “ก็วินอยากไปพี่เลยจองตั๋วทันที ช่วงนี้วินว่างอยู่ พี่เคลียร์ตารางงานได้เลยจองเลย” เจเดนพูดเสียงอ่อย เพราะสีหน้าของวินในตอนนี้ดูเหมือนไม่ค่อยพอใจเท่าไร เจเดนคิดว่าอีกฝ่ายจะดีใจจนกระโดดกอดเขาเสียอีก แต่ที่ไหนได้ท่าทางของวินกลับเรียบนิ่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้ ทำเอาคนที่อยากเอาใจแฟนหนุ่มถึงกับใจแป่วไปไม่เป็น “วินไม่ดีใจเหรอคะ งั้นเอาไว้ค่อยไปก็ได้ เดี๋ยวตั๋วนี้พี่เอาไปเลื่อนวัน…” เจเดนที่เอาตั๋วกลับมาหน้าของเขาถอดสี ไม่กล้าเร่งรัดเอาคำตอบจากวิน “เดี๋ยวครับ ใครบอกว่าจะไ
เมื่อสายตาของทั้งสองสบตากันเจเดนไม่รอช้า รีบเดินเข้าไปหาคนรักทันที แม้จะเพียงแค่สองอาทิตย์ที่พวกเขาต้องห่างกัน แต่สำหรับเจเดนแล้ว ทุกวินาทีที่ไม่ได้อยู่ข้างวินมันยาวนานเหมือนปี“มีของอะไรลืมไว้ที่แท่นหรือเปล่าพี่ไม่ให้กลับไปเอาแล้วนะ” เสียงของเจเดนแฝงไปด้วยความกังวลแต่ก็เปี่ยมด้วยความเอาใจใส่ ขณะที่เขาทิ้งงานทั้งหมดมารับวินที่สนามบิน หลังจากที่วินแจ้งมาว่าจะถึงกรุงเทพไฟท์ไหน วินก็เคลียร์งานก่อนเพื่อมารับคนรักของเขาเหมือนกับทุกครั้ง“ไม่มีครับเอากลับมาหมดแล้ว”“กระเป๋าเอกสารงานพวกนี้เดี๋ยวพี่ให้คนเอาไปไว้ที่ออฟฟิศให้ ส่วนเรามานี่” เจเดนพูดพร้อมกับยื่นมือหนาออกมาคว้าข้อมือของวินเบา ๆ ก่อนจะดึงเขาไปข้างหน้าแม้จะไม่รู้ว่าเจเดนจะพาไปไหนแต่วินก็ไม่ได้คิดจะขัดขืน เขารู้ดีว่าเจเดนมีเหตุผลของตัวเองเสมอ“ไปไหนครับพี่เจ” วินถามด้วยน้ำเสียงสงสัย ขณะที่เดินตามอีกฝ่ายไปอย่างเชื่องช้า“ไปบ้านเราไง”“บ้าน? บ้านที่ไหนครับ” วินถามเสียงหลงใบหน้าเต็มไปด้วยความมึนงง เขาตั้งใจจะกลับไปอยู่กับแม่และน้อง แต่ตอนนี้เจเดนกลับจะพาเขาไปที่บ้านของตัวเองเสียอย่างนั้น“ก็...พี่จะให้เราย้ายมาอยู่กับพี่ ห้ามปฏิเสธพี่
การเริ่มต้นหางานทำครั้งแรกของเวหลังจากที่ออกจากโฮสต์ ครั้งนี้เวจะต้องเป็นซุปเปอร์เซลล์ให้ได้ เวเดินเข้ามาในโชว์รูมหรูด้วยหัวใจที่เต้นแรง แม้เขาจะมีเพียงวุฒิ ปวช. แต่ด้วยวาทศิลป์ที่เป็นเลิศและความหลงใหลในรถซุปเปอร์คาร์ เขามั่นใจว่างานนี้เป็นโอกาสที่เขารอคอยมานาน“น้องเวที่ติดต่อมาใช่ไหม”“ใช่ครับ”“ยังไงก็ทำงานให้เต็มที่นะ ทำช่องเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ด้วยยอดคงดี”“ผมจะทำให้เต็มที่เลยครับ” เวว่าขึ้นอย่างมั่นใจพลางมองไปรอบ ๆ โชว์รูมอย่างภูมิที่ตัวเองมาสมัครงานที่นี่ได้ โชว์รูมแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านขายรถหรูธรรมดา แต่เป็นที่รวมของรถยนต์นำเข้าระดับสูงจากทั่วทุกมุมโลกเวเคยศึกษาและทำช่องโซเชี่ยลเกี่ยวกับรถมานานแล้ว การได้มายืนอยู่ท่ามกลางรถสวย ๆ เหล่านี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนความฝันกลายเป็นจริง“เว รับรองลูกค้าหน่อย” เสียงใสของเพื่อนร่วมงานเอ่ยขึ้นขณะที่มีลูกค้ารายหนึ่งเดินเข้ามาเขาใจเต้นแรงตื่นเต้นกับงานแรกและลูกค้ารายแรกของตัวเอง สองเท้าก้าวไปทางลูกค้าท่านนั้นที่กำลังเลือกรถอย่างตั้งใจในวันแรกของการทำงานเวโชว์ทักษะการขายของเขาได้อย่างเฉียบคม พูดคุยกับลูกค้าราวกับนักพูดมืออาชีพ ใช้คว