@ห้องอาหารของโรงแรม“คุณเจเดน!” เสียงอุทานของผู้จัดการห้องอาหารกำลังตกใจที่เจ้าของโรงแรมเดินเข้ามาในห้องอาหารแห่งนี้เพราะปกติเจ้านายไม่เคยย่างกลายเข้ามาเลยหากไม่มีแขกสำคัญที่ต้องมาทานอาหารด้วย และส่วนใหญ่จะเสิร์ฟอาหารกลางวันไปที่ห้องทำงานเลย ทำให้วันนี้ผู้จัดการสาวค่อนข้างตกใจ“คุณเจเดนรับอาหารอะไรดีค่ะ” ผู้จัดการสาวอาสาเข้าไปดูแลเจ้านายหนุ่มด้วยตัวเอง“กาแฟดำกับแซนด์วิชแค่นั้น ” เจเดนเดินทางมาโรงแรมแต่เช้าเพราะไม่อยากเห็นหน้าคนที่เขาปู้ยี่ปู้ยำเมื่อคืนนานเกินไปแค่ทักทายให้เจ็บๆแสบๆก็รับออกมาทำงานเลย เรียกว่ากลัวทำหน้าไม่ถูก ดันบอกมันเรียก พี่เจ โคตรน่าขำสิ้นดี มาเฟียหนุ่มจึงเดินทางมาที่ทำงานแต่เช้าเรียกว่าเลี่ยงก็ว่าได้“หากคุณเจเดนต้องการอะไรเพิ่มเติมแจ้งได้เลยนะคะ”“วันนี้ให้เวย์ลางานนะ ผมให้ไปทำงานข้างนอก” เจเดนแจ้งผู้จัดการห้องอาหารเพราะคิดว่าเจ้าตัวคงมาทำงานไม่ไหวแน่นอน“ค่ะๆ” ผู้จัดการสาวรับคำอย่างพอจะเข้าใจในความหมายแต่ไม่ได้อยากยุ่งเจ้านายกับลูกน้องของเธอ@เพนท์เฮาส์เจเดนทีมแม่บ้านสามคนเดินทางมาทำความสะอาดห้องต้องตกใจในสภาพห้องนอนของเจ้านายหนุ่ม ก็เดาได้ไม่ยากว่าเมื่อคืนนี้
“ดิฉันชื่อไอรีน เป็นแฟนของเจเดนค่ะ” “ออ ครับ สวัสดีครับ” แม้จะงงมากแต่วินก็ขานรับออกไป“ไอรีนกลับก่อนนะเจเดน เดี๋ยวมาหานะคะ”หลังจากไอรีนกลับออกจากห้องไป เจเดนหันกลับมาก็ไม่เจอเงาของวินแล้ว วินกลับเข้าห้องนอนของตัวเองและทั้งสองก็แยกย้ายกันพักผ่อนเช้าตรู่วันใหม่วินออกจากห้องเพื่อตั้งใจจะไปทำงานโดยไม่ลืมมองหาเจเดนก่อนว่าเขายังอยู่ในห้องหรือไม่แต่ก็ไปไม่ทันออกพ้นประตูวินโดนเจเดนคว้าตัวเอาไว้ได้ก่อนจะถูกเขาลากมาทิ้งที่เตียง จากนั้นเจเดนก็ขึ้นมานั่งคร่อมตัววินทันที “ชอบนักเหรอให้ใช้กำลัง” เขาพูดออกมาด้วยความไม่พอใจแต่เช้าที่เมื่อคืนวินไม่ยอมเปิดประตูห้องให้ “ใครจะไปชอบคนใช้กำลัง ชุดผมยับหมดแล้ว ปล่อย” วินมองเจเดนอย่างไม่พอใจ เจเดนไม่พูดอะไรก่อนจะมองวินแล้วนิ่งไปสักพัก ทำไมเขาชอบเวลาที่ไอ้คนนี้ทำท่าทีขัดขืนและท่าทีที่ขัดขืนนั้นเจเดนยิ่งอยากแกล้งแต่คนอะไรตัวแดงง่ายมาก ก็มันเล่นขาวเนียนซะอย่างนี้ “มึงต้องยกเว้นผัวมึงไว้คนนึงล่ะ” เจเดนพูดย้อนแล้วหอมแก้มวินจนริมฝีปากและจมูกของเขาฝั่งลงเต็มแก้มวินฟอด... เจเดนอดใจไม่ได้จนเป็นคนเสียอาการซะเอง“คุณบ้าอะไรแต่เช้าเนี่ย” วินมองค้อนแล้วถามออกไปอ
เช้าวันรุ่งขึ้น วันนี้วันหยุดของวินทำให้เข้ากลับมาที่บ้านและสิ่งที่ต้องตกใจอันดับแรกเพราะเจ้าน้องชายตัวดีโชว์รอยสักมังกรหัวใหญ่เต็มหน้าอกซ้ายไปเลยทีเดียว เวย์บอกว่าอยากสักมานานแล้วและมีอีกเรื่องคือ น้องเปลี่ยนรถคันใหม่โดยไม่ได้แจ้งมาก่อน วันนี้ทั้งสามคนแม่รสาและลูกแฝดสุดหล่อของเธอ จึงพากันเดินทางไปโชว์รุมรถเพื่อรับรถใหม่ของเวย์“มึงรวยจังวะ” วินอดแซวน้องชายฝาแฝดไม่ได้“ก็ได้เงินค่าประกันของแม่กลับมาครบแล้ว”“เก็บเงินไว้บ้างต่อไปไม่ได้ทำงานโฮสต์แล้วนะ” วินเป็นห่วงเวกับการวางแผนการเงิน“คร้าฟเพ่ รถคันเดิมกูไม่ได้ขายมึงเอาไปให้ไหม” เวรับคำพี่ชายอย่างกวนๆ“ไม่ล่ะ มึงขายเอาเงินมาเก็บเลย ขอบใจ เดี๋ยวกูก็จะไปทำงานแล้ว”“ถ้ากูขายรถแล้ว กูฝากเงินที่มึงนะ เอาไปทำอะไรก็ได้” เวบอกอย่างจริงจังเพราะพี่ชายของเขาศึกษาการลงทุนมาเยอะ“ทำไมล่ะ”“กูลงทุนไม่เก่ง มึงทำได้ดีกว่ากูแน่” เวเชื่อใจพี่ชายอย่างที่สุด“มึงก็เก่ง ดูอย่างที่มึงทำประกันให้แม่สิ ใครจะคิดว่าเกิดเรื่องขึ้น”“แต่มึงแนะนำนี่นา กูก็ตกใจ แล้วตัวแทนเอาเช็คมาให้ 2 ล้าน เจอจ่ายจบ ของจริง” เพราะวินเรียนไปด้วยภาระการจะจ่ายค่าประกันชีวิต
ในตอนเช้าเจเดนตื่นมาก่อนและเห็นกระเป๋าสตางค์ของวินตกในลักษณะแบบเปิดกางออก สิ่งที่เจเดนเห็นผ่านช่องใส่บัตรแบบใสนั้น คือ บัตรประจำตัวประชาชนที่มีชื่อว่า“นายเตวินทร์ สุรภัครชัย”เจเดนเดินมาหยุดอยู่ที่ปลายเตียงมองคนที่กำลังนอนหลับสนิท เจเดนกำลังอยู่ในอารมณ์สงสัยและร้อนในอกเพราะเดิมทีก็มีความโกธรเกลียดเดิมเป็นทุนอยู่แล้ว หากเมื่อเขาสืบต่อแล้วพบว่าไอ้คนที่เขากำลังแก้แค้นอยู่นี้คือพี่ชายฝาแฝดของไอ้ชั่วนั่น เหมือนเขาเป็นคนโง่งั่ง ไอ้วินมันจะหัวเราะเยาะเขามากน้อยแค่ไหนเจเดนเดินออกมาโทรศัพท์หาลูกน้องให้สืบประวัติของคู่ฝาแฝดนี้อีกครั้ง เพราะตอนที่เขาให้สืบนั้นเมื่อเกือบ 10 เดือนก่อนเจเดน : “ มึงไปสืบประวัติของสองพี่น้องฝาแฝดไอ้วินไอ้เวอีกที เอาประวัติ 3 เดือน ล่าสุด ” ลูกน้อง : “ได้ครับนาย ”เมื่อเจเดนว่าโทรศัพท์ก็มีสายของแม่ของเขาโทรเข้ามาแจ้งว่าน้องสาวของเขาฟื้นแล้ว ฟื้นเมื่อเช้าวันนี้ ตอนนี้แพทย์กำลังตรวจร่างกายอยู่ จากที่แม่เข้าไปเยี่ยมน้องสาวยังมีอาการเพลียแต่แองจี้จำแม่ได้และจากสิ่งที่แม่เล่ามาคำแรกที่น้องบอกคือ ขอโทษ รักแม่ รักพี่เจเดน รักสองแฝด จะไม่ทำอะไรบ้าๆอีกแล้ว น้องสาวพ
สรุปแล้ว ฝาแฝดสองคนนี้มีการสลับตัวกัน คนที่ทำงานที่โรงแรมของคุณเจเดนตอนนี้ คือ แฝดพี่ ชื่อวิน เตวินทร์ สุรภัครชัยความโกธรแค้นของเจเดนพุ่งขึ้นไปอีกเพราะตัวเองถูกหลอกจากสองแฝดและพอมาถึงจุดนี้เจเดนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อระบายแค้นออกมาแล้วก็เพื่อความชัดเจนและเขาโทรศัทพ์สั่งงานลูกน้องอีกครั้งเจเดน : “กูอ่านประวัติแล้ว มึงไปพาไอ้เวมา”ลูกน้อง : “แล้วเอาตัวมันไปไว้ที่ไหนครับ”เจเดน : “ CC บาร์ ห้อง VVIP กูจะรอที่นั่น”ลูกน้อง : “ครับนาย”เจเดนวางแผนเอาไว้ว่าควรทำการตรวจ DNA สักที ตอนแรกตั้งใจจะรออีกสักพัก รอให้น้องสาวและหลานๆแข็งแรงดีกว่านี้ก่อน ตอนนี้น้องสาวเขาฟื้นแล้วและหลานแฝดก็แข็งแรงขึ้น ควรถึงเวลาที่ต้องทำให้เกิดความชัดเจนเสียที อีกอย่างมาเจอการแก้แค้นที่ผิดตัวผิดฝาแบบนี้เจเดนยิ่งหัวเสีย ยิ่งแค้นมากขึ้นไปอีก อยู่ดีไม่ว่าดีรนหาที่รนหาเรื่องให้ตัวเองลำบากนะ วิน เตวินทร์ สุรภัครชัยทางด้านเวหลังจากที่วันนี้พาแม่ไปโรงพยาบาลตามแพทย์นัดและผลการตรวจทุกอย่างปกติ เวโทรแจ้งอาการของแม่และอาการของเขาให้กับวินรู้และเมื่อกลับมาที่บ้าน เวสังเกตว่าที่หน้าบ้านมีรถหนึ่งคันมา
@ เพนท์เฮาส์เจเดนสามสัปดาห์ต่อมา ช่วงเวลาที่ผ่านมาสามสัปดาห์นี้เจเดนมีท่าทีสงบกว่าที่ผ่านมาจะมีบ้างที่เดี๋ยวใจดีเดี๋ยวใจร้าย วินคิดว่าทุกอย่างดูเงียบสงบเกินไปแต่ในใจก็คิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นในภายหลังหรอกนะ กลัวเหลือเกินที่จะเป็นภาวะคลื่นใต้น้ำและเกิดสึนามิตามมาเช้าตรู่ของวันที่สดใส วินตื่นเช้าวุ่นอยู่ในครัวเพราะกำลังทำข้าวต้มกุ้งแสนอร่อย กลิ่นหอมของอาหารลอยไปเตะจมูกของอีกคนที่กำลังเปิดประตูออกมาจากห้องนอนของเขา เจเดนเดินมาที่โซนครัวยืนมองด้านหลังของชายคนที่เขาแก้แค้นผิดตัวเจเดนยังนึกสงสัยตัวเองว่าทำไมนะในเมื่อเขารู้แล้วแต่ยังไม่ให้คนคนนี้ออกจากที่นี่ไป ตัวเขาเองต้องการอะไรทำไมถึงปล่อยให้คนคนนี้เดินวนเวียนอยู่ในห้องซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่เขาแสนหวง ไหนจะที่ทำงานเจเดนไม่อยากยอมรับตัวเองเลยว่ายังมองจอกล้องวงจรปิดที่จับอยู่ที่ห้องอาหารตลอดเลยจนกลายเป็นติดการมองไปแล้ว“กินข้าวต้มกันก่อนนะครับ” วินชวนเจเดนทานข้าวต้มก่อนออกไปทำงาน วันนี้ตรงกับวันหยุดของเว เขาจึงเข้าครัวทำอาหาร“อืม กินได้แน่นะ กาแฟดำด้วย ” เจเดนนั่งลงรอทานอย่างว่าง่าย“คุณก็กินออกบ่อย”“ไม่บ่อยเท่ากินมึง”“ไ
“พี่กำลังจะทำอะไรคะ” แองจี้ถามออกไปด้วยความอกสั่นขวัญแขวน เธอไม่อยากคิดว่าจะใช่สิ่งที่เธอกำลังคิดอยู่หรือไม่“พี่กำลังจะฆ่าให้คนที่ทำเธอท้องแล้วไม่รับผิดชอบ’ เจเดนบอกแองจี้เสียงดังเพื่อให้สองหนุ่มได้ยิน“ไม่นะคะ อย่าฆ่าเขานะคะ” แองจี้พูดตามสายบอกเจเดนอย่าทำร้ายอย่าฆ่าเว และเมื่อเจเดนได้ยินดังนั้นยิ่งทำให้เขาโกธรขึ้นไปอีก ทำไมนะมีแต่คนปกป้องมันไม่ว่าจะวินหรือแองจี้“พี่ตรวจดีเอ็นเอแล้วและมันเป็นพ่อ แต่มันยังไม่ยอมรับ” เจเดนบอกออกไป การสนทนานั้นได้ยินทั้งวินและเว“เธอต้องมาที่ CC บาร์เดี๋ยวนี้ ” เสียงเวตะโกนเข้าโทรศัพท์ไปเพื่อให้คนปลายสายได้ยินเสียงเขา“มึงหุบปาก” เจเดนตะคอกใส่เวเสียงดังกลับไป“พี่คะ น้องจะไปเดี๋ยวนี้น้องยอมเล่าแล้ว เขาไม่ผิด น้องผิดเอง ผิดคนเดียว” แองจี้พูดเท่านั้นแล้วเธอก็วางสายไป โรงพยาบาลกับบาร์แห่งนี้อยู่ไม่ไกลกันมากและหากใช้เส้นทางลัดเลาะนั่งวินมอเตอร์ไซด์จะยิ่งถึงเร็วขึ้น คิดว่าใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที แองจี้ตัดสินใจบอกแม่ว่าเธอต้องออกไปหาพี่เจเดน ไม่งั้นจะมีคนต้องตายแน่ๆ“แม่คะ หนูต้องไปหาพี่ตอนนี้ ไม่อย่างนั้นจะมีคนต้องตายค่ะ”“ให้แม่โทรหาพี่ไหม ” แม่ของเจเดนเอ่ยถ
“ ทางเราขอให้จบ ” วินบอกออกไปเพราะต้องการให้เรื่องนี้จบลงโดยที่ไม่ต้องมีใครต้องเจ็บตัวหรือถึงแก่ชีวิต“ไม่ได้ มึง ไอ้เจเดน มึงทำพี่กูขนาดนั้น แค่มึงขอโทษแล้วมันจะหายไหม” เวไม่รอช้าตอกกลับเจเดนออกไป เวต้องการให้เจเดนออกไปจากชีวิตพี่ชายของเขาตลอดชีวิต“มึงรักน้องมึง กูก็รักพี่กู มึงเลิกยุ่งกับพี่กูซะ แฟนพี่กูกลับมาแล้ว” เวยื่นคำขาดให้เจเดนทำตามที่เขาต้องการ“จบทุกอย่างกูยอมหมด ยกเว้นเรื่องเมียกู” เจเดนไม่ยอมตัดขาดจากวินอย่างแน่นอน “เลิกยุ่งกับพี่กู มึงทำกับพี่กูขนาดนี้แล้ว กูไม่เอาเรื่องมึงก็ดีแค่ไหน” เสียงของเวเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขามองหน้าคนที่ทำร้ายพี่ชายอย่างโกรธเคือง ถ้าไม่เป็นเพราะวินห้ามเอาไว้ เขาคงทำมากกว่านี้ ผิดกับคนที่ถูกต่อว่า เจเดนเอาแต่มองหน้าของวินอย่างขอเห็นใจ เขาต้องการเพียงแค่คำตอบจากปากของวินเท่านั้น ว่าอยากให้เรื่องระหว่างเรามันจบลงหรือ แก้ไขอย่างไรได้บ้าง ทว่าสิ่งที่ออกมากจากปากของวินนั้นกลับทำเจเดนแทบทรุด “คุณเจเดนผมว่าเราจบกันแค่นี้ดีกว่าครับ เรื่องทุกอย่างมันก็คลี่คลายแล้วอีกอย่างพวกเราเองก็ไม่มีอะไรต้องข้องเกี่ยวกันอีกแล้วด้วย”
ท่ามกลางความสับสนของความรู้สึก ร่างทั้งสองกลับกอดก่ายกันบนเตียงกว้าง สายตาสอดประสานเต็มไปด้วยความต้องการในฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ริมฝีปากแดงระเรื่อถูกช่วงชิงละเลียดชิมความหวานจากเธออย่างอ่อนโยน การใกล้ชิดทำให้เวและแองจี้เผลอไผลไปกับบรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นใจ ไม่นานร่างของทั้งคู่ก็เปลือยเปล่า เนินอกอวบอิ่มของหญิงสาวที่โตเต็มที่ในวัยยี่สิบปีพอดีเด่นหราชวนสัมผัส เวผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากบองของสาวสวยตรงหน้า ก่อนจะเคลื่อนต่ำครอบครองส่วนชูชันสีหวาน “อื้อ… พี่เว” “ขอโทษ ให้พี่หยุดตอนนี้ไหม” “มะ…ไม่ค่ะ” แองจี้พูดเสียงเบาอย่างขัดเขิน เธอไม่ต้องการให้อีกฝ่ายหยุดตอนนี้ เพราะเธอเองก็มีความต้องการเช่นเดียวกัน แม้ว่าครั้งนี้มันจะเป็นครั้งแรกของเธอก็ตาม เวค่อย ๆ ปรนเปรอร่างบางอย่างแผ่วเบา เขาก็รู้เหมือนกันว่านี่คือครั้งแรกของอีกฝ่าย เขาไม่อยากเผลอทำรุนแรงเกินไป แต่อารมณ์ของเขาก็ยากจะควบคุมได้เหมือนกัน การใกล้ชิดกันมากเกินไปทำให้เกิดเรื่องที่น่าหวาดหวั่น เขาไม่อยากให้มันเกิดอะไรแบบนี้แต่สุดท้ายทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นด้วยความเต็มใจ มือหนาลูบไล้ไปตา
มือหนากระชับเสื้อโค้ทกันหนาวตัวใหญ่ ที่สวมคลุมเอาไว้เพื่อลดความเย็นของอากาศ การฮันนีมูนทั้งสองเลือกที่ฝรั่งเศสเพราะเจเดนมีบ้านอยู่ที่นี่อยู่แล้ว และอยากให้วินได้มาพบกับครอบครัวฝั่งพ่อของเขาด้วย และอีกอย่างวินก็ต้องการมาหาเด็กแฝดอลิซและเอลิค หลังจากที่จัดงานแต่งงานเสร็จแองจี้ก็พาเด็ก ๆ กลับฝรั่งเศสทันที ทำให้วินไม่ได้เล่นกับเด็ก ๆ เลยช่วงนั้น “หนาวมากไหมคะ” เจเดนเอ่ยถามคนรักอย่างเป็นห่วง “ไม่ครับ ผมชอบที่นี่จังเอาไว้เรามาเดินเล่นกันอีกได้ไหม” “ได้สิคะ” วินชอบวิวที่หอไอเฟลมาก นอกจากจะสวยแล้วยังมีสถานที่ให้นั่งเล่นและเดินเล่นรอบ ๆ ได้อีกด้วย แม้ว่าที่นี่คนค่อนข้างเยอะ แต่ก็มีระเบียบต่างคนต่างมาเที่ยวไม่ยุ่งเกี่ยว นั่นแหละคือสิ่งที่วินชอบ… วันนี้พวกเขาไปเที่ยวมาหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังแวร์ซายส์ หรือพิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ วินชอบสถานที่แบบนี้ เพราะมันเงียบสงบและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมของที่นี่ แต่มีที่หนึ่งที่เขาอยากไปเหมือนกันนั่นก็คือดิสนีย์แลนด์ คิดเอาไว้ว่าเดี๋ยวพวกเขาจะพาเอลิคและอลิซมาเที่ยววันหลัง “ถ้าชอบที่นี่งั้นเราอย
ขอเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมงานแต่งงานระหว่างนายเตวินทร์ สุรภัครชัย และ นายเจเดน ชาร์ลลอส วันอาทิตย์ ที่ 2 มีนาคม 2568 เวลา 9.09 นที่โรงแรมเจซี บรรยากาศโรแมนติกภายในโรงแรมหรูระดับห้าดาว ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของเจเดนและวิน ก่อนหน้าทั้งคู่มีปากเสียงกันนิดหน่อยเรื่องของการจัดงาน วินต้องการจัดเล็ก ๆ ภายในครอบครัวและเพื่อนเท่านั้น ทว่าเจเดนกลับไม่เห็นด้วยทำให้มีการเถียงกันกว่าจะลงตัวก็เลยสรุปเอาไว้คนละครึ่งทาง แต่วินไม่คิดว่าครึ่งทางของเจเดนจะเกินครึ่งมามากถึงขนาดนี้ เขาไม่อยากคิดเลยว่าถ้าอีกฝ่ายจัดเต็มจะมากขนาดไหน เจเดนปิดโรงแรมของเขาทั้งวันทั้งคืนและให้พนักงานทุกคนของโรงแรมได้เข้าร่วมงาน โดยงานแต่งงานปล่อยให้เป็นหน้าที่ของออแกไนท์ทั้งหมด ดังนั้นแค่พนักงานของโรงแรมก็ปาไปกี่ร้อยคนแล้ว ห้องจัดเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดของโรงแรมถูกเปิดใช้งานและแล้ววันงานก็มาถึง เป็นงานแต่งงานที่เล็กแค่ในจินตนาการเท่านั้นจริงๆเพราะเจเดนเล่นใหญ่มากจนวินแทบอยากจะตะโกนใส่หน้า คุณพี่มันมากเกินไป วินในชุดไทยเจ้าบ่าวยืนต้อนรับแขกในงาน โดยที่เขาก็ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลยเ
เสียงเพลงใน CC บาร์ บาร์โฮสต์ชื่อดังใจกลางเมือง คืนนี้เสียงดนตรีกึกก้องและพอขึ้นอินโทรเปิดตัวสองหนุ่มแฝดเวและวิน ที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้ ด้วยเพราะแขกในร้านเรียกร้องมา ต้องการให้เวกลับมาโชว์การเต้นและก่อนจะถึงคืนนี้เวส่งคลิปทักทายแฟนคลับโดยมีพี่ชายของเขาอยู่ในคลิปด้วย และจึงเป็นที่มาของกี่เรียกร้องให้เกิดการโชว์ตัว์ของสองแฝดวินและเว การจัดโชว์ของโฮสต์ตัวท๊อปหน้าเหมือนจึงเกิดขึ้นอีกทั้งยังมีเพื่อนสาวกระเป๋าหนักอย่างกวางและมิน ที่ชอบจิ้นวินและเจเดนอยู่เป็นประจำ แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะเป็นคู่จริงแล้วก็ตาม แต่คนที่จะอารมณ์เสียมากที่สุดคงไม่พ้นเจเดน ที่ตอนนี้ได้แต่มองแฟนหนุ่มของเขาขึ้นไปเต้นคู่กับน้องชายฝาแฝดอยู่บนเวที การโชว์ของสองหนุ่มเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดให้กับแขกในร้านได้อย่างล้นหลาม และวินก็รู้ตัวด้วยว่าถ้าทำแบบนี้แล้วจะทำให้เจเดนไม่พอใจมาก ๆ ซึ่งนั่นก็คือจุดประสงค์ เสียงกรี๊ดของเพื่อนสาวส่งเสียงเชียร์ให้กับวินและเว แต่ครั้งนี้คนที่เล่นใหญ่กลับเป็นวิน เพราะแทนที่เขาจะเต้นเฉย ๆ วินกลับทำสิ่งที่ไม่คาดคิด มือเรียวดึงชายเสื้อเชิ้ตของตัวเองให้หลุดออกเล็กน้อย ก่อนจะปลดกระ
ร่างกายที่เปลือยเปล่านอนกอดกันตลอดทั้งคืน วินรู้สึกตัวตื่นก่อนเพราะอากาศที่ค่อนข้างเย็น แม้ว่าภายในห้องของพวกเขาจะมีเครื่องทำความร้อนก็ตาม แต่การนอนถอดเสื้อผ้าที่ญี่ปุ่นก็เป็นอะไรที่ท้าทายจนเกินไปหน่อย วินไม่คิดเลยว่าเมื่อคืนมันทำให้เราเหนื่อยกันขนาดนี้ วินพลิกตัวกลับมามองคนที่กอดเขาจากด้านหลัง ใบหน้าของเจเดนตอนที่หลับเป็นอะไรที่น่ามองที่สุดแล้ว เพราะไม่มีสายตาที่ยียวนหรือคำหวานเลี่ยน ๆ อีกทั้งยังสงบสุขไม่มีคนคอยกวนใจ แต่พอคิดอีกทีไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนเขาก็ชอบเจเดนทั้งหมดทุกเวลานั่นแหละ มือเรียวค่อย ๆ ยกขึ้นเกลี่ยใบหน้าของเจเดนเบา ๆ ไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว ไล่ตั้งแต่คิ้วเปลือกตาและปลายจมูก แต่เมื่อนิ้วของวินสัมผัสที่ริมฝีปากของเจเดน นิ้วของเขาก็ถูกอีกฝ่ายงับเข้าอย่างจัง “โอ๊ย !” วินร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะให้อีกเจเดนได้มากกว่า เจเดนรวบร่างของวินเข้ามากอดพร้อมกับฟัดแก้มของแฟนหนุ่มแรง ๆ อย่างนึกมันเขี้ยว “จะลักหลับพี่เหรอคะ” “เปล่าสักหน่อย แค่จะไล่แมลงวันเฉย ๆ ครับ” วินหลบสายตา เพราะถูกจับได้ว่าแอบแตะอั๋งอ
หลังจากขึ้นจากบ่อนำพุร้อน การแช่ตัวเป็นอะไรที่ค่อนข้างผ่อนคลายไม่น้อย เดินเที่ยวมาทั้งวันความเหนื่อยล้าสะสมก็หายเป็นปลิดทิ้ง วินสวมชุดยูกาตะที่ทางโรงแรมเตรียมเอาไว้ให้ เพราะด้วยเหตุนี้วินและเจเดนจึงเลือกโรงแรมนี้เป็นพิเศษ วินเองก็อยากให้เจเดนในชุดยูกาตะ ส่วนเจเดนก็อยากเห็นวินในชุดที่ถอดง่ายเหมือนกัน แม้เป็นครั้งแรกที่สวมแต่ก็โชคดีที่มันสวมง่ายกว่าที่คิด วินเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเช่นเดียวกับเจเดนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเหมือนกัน กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำกลิ่นเฉพาะของโรงแรมทำเอาสดชื่นไม่น้อย ตอนที่อาบน้ำวินยังคิดเลยว่าเขาจะถามพนักงานเหมือนกันว่าครีมอาบน้ำนี้มีขายหรือเปล่า “ว้าว สวมชุดนี้แล้วดูน่ารักจังเลยค่ะ” เจเดนเดินเข้ามาใกล้ รวบร่างของวินเข้ามากอด ก่อนจะหอมที่แก้มของคนรักฟอดใหญ่ “เลิกพูดคะขา สักทีได้ไหมครับ วินขนลุกไปหมดเวลาที่พี่เจพูดแบบนี้” “ไม่ได้ค่ะ เพราะพี่รักวินไง พี่ก็อยากพูดเพราะ ๆ กับวินด้วย มันเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งนะคะ” “พูดครับธรรมดาก็ได้นี่ครับ มันก็แสดงความรักเหมือนกัน” “ไม่เหมือนนะ แต่มีอย่างหนึ่งที่แสดง
ตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสถูกจองเอาไว้สองที่ สถานที่ปลายทางคือญี่ปุ่น ปกติแล้ววินไม่ใช่คนที่จะอยากไปไหนมาไหนหรืออยากได้สิ่งของราคาแพง การมาท่องเที่ยวทริปนี้เป็นความต้องการของวินด้วย เจเดนต้องการเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนของเขา ที่อยากจะเสิร์ฟสิ่งที่ดีที่สุดตลอดทริปการเดินทาง อีกทั้งเจเดนยังถือโอกาสครั้งนี้พักผ่อนไปในตัวด้วยเช่นกัน “นี่อะไรครับ” วินถามเมื่อตั๋วถูกยื่นมาตรงหน้าของเขา “ไปญี่ปุ่นกันค่ะ พี่อยากพาวินไปเที่ยวแล้วก็ถือโอกาสพักผ่อนไปเลย” “ไม่เห็นบอกผมเลย” “ก็วินอยากไปพี่เลยจองตั๋วทันที ช่วงนี้วินว่างอยู่ พี่เคลียร์ตารางงานได้เลยจองเลย” เจเดนพูดเสียงอ่อย เพราะสีหน้าของวินในตอนนี้ดูเหมือนไม่ค่อยพอใจเท่าไร เจเดนคิดว่าอีกฝ่ายจะดีใจจนกระโดดกอดเขาเสียอีก แต่ที่ไหนได้ท่าทางของวินกลับเรียบนิ่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้ ทำเอาคนที่อยากเอาใจแฟนหนุ่มถึงกับใจแป่วไปไม่เป็น “วินไม่ดีใจเหรอคะ งั้นเอาไว้ค่อยไปก็ได้ เดี๋ยวตั๋วนี้พี่เอาไปเลื่อนวัน…” เจเดนที่เอาตั๋วกลับมาหน้าของเขาถอดสี ไม่กล้าเร่งรัดเอาคำตอบจากวิน “เดี๋ยวครับ ใครบอกว่าจะไ
เมื่อสายตาของทั้งสองสบตากันเจเดนไม่รอช้า รีบเดินเข้าไปหาคนรักทันที แม้จะเพียงแค่สองอาทิตย์ที่พวกเขาต้องห่างกัน แต่สำหรับเจเดนแล้ว ทุกวินาทีที่ไม่ได้อยู่ข้างวินมันยาวนานเหมือนปี“มีของอะไรลืมไว้ที่แท่นหรือเปล่าพี่ไม่ให้กลับไปเอาแล้วนะ” เสียงของเจเดนแฝงไปด้วยความกังวลแต่ก็เปี่ยมด้วยความเอาใจใส่ ขณะที่เขาทิ้งงานทั้งหมดมารับวินที่สนามบิน หลังจากที่วินแจ้งมาว่าจะถึงกรุงเทพไฟท์ไหน วินก็เคลียร์งานก่อนเพื่อมารับคนรักของเขาเหมือนกับทุกครั้ง“ไม่มีครับเอากลับมาหมดแล้ว”“กระเป๋าเอกสารงานพวกนี้เดี๋ยวพี่ให้คนเอาไปไว้ที่ออฟฟิศให้ ส่วนเรามานี่” เจเดนพูดพร้อมกับยื่นมือหนาออกมาคว้าข้อมือของวินเบา ๆ ก่อนจะดึงเขาไปข้างหน้าแม้จะไม่รู้ว่าเจเดนจะพาไปไหนแต่วินก็ไม่ได้คิดจะขัดขืน เขารู้ดีว่าเจเดนมีเหตุผลของตัวเองเสมอ“ไปไหนครับพี่เจ” วินถามด้วยน้ำเสียงสงสัย ขณะที่เดินตามอีกฝ่ายไปอย่างเชื่องช้า“ไปบ้านเราไง”“บ้าน? บ้านที่ไหนครับ” วินถามเสียงหลงใบหน้าเต็มไปด้วยความมึนงง เขาตั้งใจจะกลับไปอยู่กับแม่และน้อง แต่ตอนนี้เจเดนกลับจะพาเขาไปที่บ้านของตัวเองเสียอย่างนั้น“ก็...พี่จะให้เราย้ายมาอยู่กับพี่ ห้ามปฏิเสธพี่
การเริ่มต้นหางานทำครั้งแรกของเวหลังจากที่ออกจากโฮสต์ ครั้งนี้เวจะต้องเป็นซุปเปอร์เซลล์ให้ได้ เวเดินเข้ามาในโชว์รูมหรูด้วยหัวใจที่เต้นแรง แม้เขาจะมีเพียงวุฒิ ปวช. แต่ด้วยวาทศิลป์ที่เป็นเลิศและความหลงใหลในรถซุปเปอร์คาร์ เขามั่นใจว่างานนี้เป็นโอกาสที่เขารอคอยมานาน“น้องเวที่ติดต่อมาใช่ไหม”“ใช่ครับ”“ยังไงก็ทำงานให้เต็มที่นะ ทำช่องเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ด้วยยอดคงดี”“ผมจะทำให้เต็มที่เลยครับ” เวว่าขึ้นอย่างมั่นใจพลางมองไปรอบ ๆ โชว์รูมอย่างภูมิที่ตัวเองมาสมัครงานที่นี่ได้ โชว์รูมแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านขายรถหรูธรรมดา แต่เป็นที่รวมของรถยนต์นำเข้าระดับสูงจากทั่วทุกมุมโลกเวเคยศึกษาและทำช่องโซเชี่ยลเกี่ยวกับรถมานานแล้ว การได้มายืนอยู่ท่ามกลางรถสวย ๆ เหล่านี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนความฝันกลายเป็นจริง“เว รับรองลูกค้าหน่อย” เสียงใสของเพื่อนร่วมงานเอ่ยขึ้นขณะที่มีลูกค้ารายหนึ่งเดินเข้ามาเขาใจเต้นแรงตื่นเต้นกับงานแรกและลูกค้ารายแรกของตัวเอง สองเท้าก้าวไปทางลูกค้าท่านนั้นที่กำลังเลือกรถอย่างตั้งใจในวันแรกของการทำงานเวโชว์ทักษะการขายของเขาได้อย่างเฉียบคม พูดคุยกับลูกค้าราวกับนักพูดมืออาชีพ ใช้คว