“คุณมาได้ยังไง”
“คุณเขาเอาเอกสารมาให้ คุณเจเดนเขาเป็นเจ้านายใหม่เวย์นี่นา” รสาพูดออกมาแบบนั้นทำให้วินเข้าใจได้ในทันทีว่าแม่ของเขาคงคิดว่ามีอะไรที่ไม่ปกติ วินได้แต่คิดในใจเขาต้องการอะไรกันแน่
“คุณกลับไปก่อนเถอะ มีอะไรค่อยคุยกันที่ทำงานพรุ่งนี้”
“งั้นก็คุยตอนนี้เลยสิ...” เจเดนเหลือบไปมองคอของชายหนุ่มก็เห็นว่ารอยที่ทำฝากเอาไว้ได้หายไปหมดแล้ว ชายหนุ่มนิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะมองวินที่เดินออกไปรอหน้าบ้าน
“คุณต้องการให้เป็นไปแบบไหนกันแน่ ” วินเดินออกมาแล้วเปิดคำถามไปยังเจ้านายหนุ่ม
“กูจะเอามึงไว้เป็นของเล่น”
“คุณมันบ้า” วินได้ยินคำตอบแล้วก็ต้องตกใจ
“ไอ้เวย์! มึงไม่มีทางเลือกอื่น”
“แลกกับอะไรเรื่องถึงจะจบ” วินอยากรู้ว่าจะมีทางจบเรื่องไหม
“1 ปี ”
“อะไรครับ 1 ปี”
“ 1 ปีกับการอยู่เป็นของเล่นบำเรอกู”
“หา 1 ปี นานไปหรือเปล่า”
“งั้นแม่มึง พี่มึงก็ต้องรับกรรมจากการกระทำของมึงเพราะกูไม่ปล่อยไว้แน่” เจเดนพูดออกไปด้วยความอยากเอาชนะเพราะเจเดนต้องการให้เวย์ไปอยู่ที่บ้านหลังจากที่น้องสาวเขาฟื้นแล้ว อย่างน้อยต้องไปขอขมาน้องสาวเขาถึงแม้น้องสาวเขาจะบอกว่าไม่ขอยุ่งเกี่ยวแล้วก็ตาม
“ครับ...แต่ว่า”
ไม่ทันที่วินจะพูต่อให้จบ รถยนต์คันหนึ่งก็มาจอดเทียบเข้าที่หน้าบ้าน วินรู้ทันทีว่าเวย์กลับมาจากข้างนอกแล้ว วินรีบวิ่งเข้าไปหาเวย์ทันทีและเปิดประตูด้านคนขับ
“มึงคือวิน เล่นเป็นกู” วินกระซิบบอกน้องชายฝาแฝด เวย์รู้ทันทีว่ามีเรื่องแน่เพราะสองพี่น้องเล่นแบบนี้กันมาตั้งแต่เด็ก และสองพี่น้องเดินเข้าบ้าน
“นี่ใครวะ” เวย์ที่กำลังสวมบทของวินถามออกไปทำเอาเจเดนขมวดคิ้วมองชายอีกคนทันทีเพราะหน้าตาที่เหมือนกันแต่ท่าทีแตกต่างกันมาก
“เจ้านายกูเอง เอาเอกสารมาให้” วินเข้ามาอธิบายเพราะกลัวว่าเจเดนจะพูดอะไรที่แปลกขึ้นมา
“อ่อ แล้วเจ้านายจำเป็นต้องเอาเอกสารมาเองเหรอ” เวย์ถามอย่างเจาะจงให้อีกฝ่ายชะงักเพราะเวย์เองคิดว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆ
“ งานสำคัญ” เจเดนพยายามข่มอารมณ์ให้ตอบแบบปกติเพราะเจเดนรู้สึกว่าสายตาพี่ชายฝาแฝดของไอ้เวย์กำลังหาเรื่องเขาอยู่ ท่าทางกวนตีนใช่เล่น
“นี่คุณกลับไปเถอะครับ ผมจะรีบเคลียร์งานให้ทันพรุ่งนี้” วินเอ่ยปากบอกให้เจเดนกลับไปก่อน
“ก็ได้ อยากลืมที่คุยกันไว้ ” เจเดนพูดขบก็เดินเข้าไปในบ้านเพื่อลาแม่ของพี่น้องฝาแฝด เขายกมือไหว้ลาอย่างไม่เคยทำมาก่อนกับคนแปลกหน้า
เมื่อเจเดนกลับไปแล้ว ทั้งสามคนจึงมานั่งคุยกัน วินเปิดเรื่องอธิบายให้แม่และเวย์ฟังว่า วินไปสมัครงานโดยใช้ชื่อของเวย์และจะทำงานรอเวย์ในช่วงพักรักษาตัวและเมื่อเวย์หายดีแล้วก็ไปทำงานเป็นตัวเองได้เลย เดี๋ยวจะสอนงานให้อีกที
ส่วนวินก็จะได้เริ่มทำงานในสายอาชีพที่เรียนจบมา วินมองว่าสายงานของวินสามารถหางานได้ง่ายกว่าถึงแม้เขาจะเพิ่งเรียนจบก็ตาม
“ลูกไม่น่าทำแบบนั้นเลยนะ เหมือนหลอกลวงเขา ” รสาเตือนสติลูกชายของเธอ โดยที่เวย์ที่กำลังฟังวินอธิบายออกมาอย่างเงียบๆ
“ผมขอโทษครับที่ทำไปไม่คิด” วินพูดความในใจออกมาอย่างรู้สึกผิดแต่เขาไม่มีทางเลือก วินไม่อยากให้เกิดอันตรายเกิดขึ้นกับเวย์เพราะวินรู้ดีว่า หากเจเดนเจอกับเวย์ เวย์ต้องถูกเขาฆ่าแน่นอนเพราะเวย์ไม่ใช่คนที่ยอมใคร
“ถ้ากูไปลองแล้วไม่โอเค กูลาออกเลยนะ ” เวย์พูดขึ้นมาอย่างตัดจบ
“เออ กูขอโทษ”วินของโทษน้องชายที่คิดเองเออเอง
“มึงมาที่ห้องกูหน่อย มีอะไรจะให้ดู”เวย์ชวนพี่ชายไปที่ห้อง
หลังจากนั้นก็ปล่อยแม่ดูทีวีไปเพราะเวลาเพิ่งจะสองทุ่มเท่านั้นเอง ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลง สองหนุ่มก็มองหน้ากัน ซึ่งแต่ละคนต่างรู้ใจกัน
“มึงเล่ามา” เวย์เปิดประเด็นให้พี่ชายเล่าที่เกิดขึ้นเพราะเวย์รู้ว่าวินกำลังปกปิดบางอย่าง
“กูยังไม่เล่า มึงตอบคำถามกูมาก่อน” วินบอกกลับ
“ถามมา”
“มึงเคยไปทำผู้หญิงท้องแล้วบอกให้เขาไม่ทำแท้งไหม”
“ไม่เคย”
“ตอนนี้กูสวมรอยเป็นมึง มีคนมาบอกกูว่า มึงทำเขาท้องแล้วให้ไปทำแท้ง”
“มั่วแล้ว ไหนใคร กูจะไปเคลียร์”
“กูเคลียร์แล้ว แต่กูขอร้องนะช่วยแสดงเป็นกูต่อสักพักนะ”
“เออ”
หลังจากที่สองหนุ่มคุยกันแล้ว วินก็ออกจากห้องของเวย์ไปยังห้องนอนของตัวเอง พรางยกโทรศัพท์ขึ้นมามองแล้วคิดว่าจะโทรหาเจเดนตอนนี้ดีหรือไม่ เอาล่ะเอาให้เคลียร์ไปเลย
วิน : (สวัสดีครับคุณเจเดน)
เจเดน : (นึกว่าจะให้รอนาน)
วิน : (ตกลงว่าคุณต้องการอะไร)
เจเดน : (มาเป็นของเล่นแก้เบื่อให้กู 1 ปี)
วิน : (แต่ผมเป็นผู้ชายนะ)
เจเดน : (กูก็เอามึงแล้ว เป็นของเล่นไม่ใช่แฟน)
วิน : (แลกกับไม่มายุ่งหรือทำร้ายแม่กับพี่น้องผมได้ไหม)
เจเดน : (ได้เพราะกูก็อยากเอาความแค้นลงที่มึงคนเดียว เพราะมึงเป็นคนทำ)
วิน : (ผมตกลง)
เจเดน : (ไปคุยกับที่บ้านมึงว่าจะมาอยู่กับกู)
วิน : (ต้องอยู่ด้วยกันเหรอ)
เจเดน : (เออสิ อยากเอาตอนไหนก็เอา)
วิน : (แค่นี้นะครับ)
ตู๊ด ตู๊ด
“ไอ้เชี่ยนี่ ตัดสายใส่กู กะจะบอกว่าจะให้พิเศษเดือนละห้าหมื่น..” เจเดนมองโทรศัพท์ก่อนจะยิ้มมุมปากราวกับว่าเขานั้นมีสิทธิ์ขาดได้ครอบครองเวย์เรียบร้อยแล้ว ใช่สิข้อเสนอที่แลกกับการที่เขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนในครอบครัว เจเดนรู้ว่าที่เขาทำมันไม่ใช่คนดีๆจะทำ เขารู้เพราะเขามันคนเลวไงล่ะ คนเลวก็เจอคนเลวกว่ามันถึงจะสาสม
เช้าวันรุ่งขึ้นที่โต๊ะอาหารบ้านของวิน วันนี้มีเมนูอาหารที่ลูกๆของแม่รสาชอบ แม่ตื่นมาทำอาหารเช้าให้ลูกชายของเธอเหมือนปกติ และวันนี้เป็นอีกที่ที่ลูกชายลงมาทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน เป็นวินที่เปิดการสนทนาในโต๊ะอาหารก่อนที่จะออกไปทำงาน
“วินจะต้องไปพักที่โรงแรมนะครับ ที่โรงแรมมีสวัสดิการที่พักให้เพราะจะได้ทำงานเข้ากะได้สะดวก” วินบอกถึงสิ่งที่เขาต้องการออกไป
“พักในตัวโรงแรมเลยไหม”รสาของสองแฝดถามวินกลับ
“ครับแม่ ”
“ถ้ามีอะไรให้มึงโทรมาบอกกูเลยนะ ” เวย์พูดออกไปเหมือนดักอีกฝ่ายไว้
“อืม มึงดูแลแม่ก่อนนะ เดี๋ยวถ้าวันหยุดงานกูจะกลับบ้าน” วินบอกแม่กับน้องชาย
“เดินทางจากบ้านไปโรงแรมก็ไกลมาก พักที่โรงแรมก็ดีเหมือนกัน” แม่ออกความเห็นว่าที่ลูกชายคนโตจะไปพักที่โรงแรมก็สะดวกจะได้ไม่ต้องเดินทางไกล
เย็นวันนี้หลังเลิกงานแล้ว วินนั่งในห้องพักพนักงาน วินมีกระเป๋าสัมภาระของตัวเองมา 1 ใบ และกำลังรอให้เจเดนติดต่อมาเพื่อแจ้งอีกทีว่าเขาต้องพักที่ไหน การตัดสินใจแบบนี้เหมือนกำลังเก็บกระเป๋าหนีตามผู้ชายยังไงไม่รู้ คิดแล้วก็นึกละอายใจในตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่จะมีเสียงโทรศัพท์ แต่กลายเป็นเจเดนตัวเป็นๆเดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน
“ของมึงมีแค่นี้เหรอ” เจเดนถามออกไปอย่างสงสัยเพราะมีเพียงกระเป๋าใบเดียว
“ครับ”
“มึงมันง่ายไม่ทุกอย่างเลยนะ” คำพูดดุถูกประชดประชันของเดเจนหลังทำให้วินไม่เจ็บช้ำ
“นี่คุณ” วินไม่พอใจคำว่า ง่าย เอาเสียเลยแต่ให้ทำยังไงได้เพราะวินคิดว่าทางเลือกนี้ดีที่สุด
“น้ำเสียงแบบนี้ ไม่พอใจ มึงมีสิทธิ์เหรอ ตามกูมาไปขึ้นรถ” เจเดนเดินออกจากห้องพักพนักงานห้องอาหารและเดินเชข้าลิฟท์ตัวของผู้หริหารเพื่อไปที่ชั้นจอดรถของผู้บริหาร
วินไม่ได้ตอบโตอะไร ทำได้เพียงลากกระเป๋าเดินทางเจ้านายหนุ่ม และเมื่อถึงรถยนต์ของเจเดน วินก็รู้สึกเก้ๆกังๆกับการนั่งรถคันหรูของเขา รถยนต์ขับไปตามถนนที่มีรถราคับคั่ง เจเดนเปรายสายตามาคนข้างอย่างหมั่นไส้ ทำไมนะเวลาที่ได้มองหน้าไอ้นี่แล้วเขาจะรู้สึกหงุดหงิดได้ตลอด อาจจะเพราะเวลาที่เขาต้องการให้อีกฝ่ายตอบโต้กลับเพื่อจะทำให้การสนทนาดุเดือดขึ้นแต่อีกฝ่ายกลับนิ่ง มันเลยเหมือนยิ่งทำให้เจเดนเหมือนคนบ้าเพราะอีกฝ่ายใจเย็นเหลือเกิน
ยิ่งอยากจะกวนประสาทด้วยคำพูดที่ดูถูกดูแคลนไอ้เวย์กลับทำหน้านิ่ง ทำหน้าตาใสซื่อ ดูออดอ้อน น่ารักฉิบหาย....เอ้ย กวนตีนฉิบหาย บางทีเขาก็สงสัยว่า ที่เขาทำอยู่มันคุ้มไหม
“มึงพร้อมจะเป็นของเล่นของกูแล้วนะ”
บนเพนท์เฮาส์หรูใจกลางเมืองที่กว้างขวางแบ่งสัดส่วนเป็นอย่างดี มีสระว่ายน้ำ โซนสวน ที่จอดรถในชั้น และตอนนี้วินเดินตามเข้าของพื้นที่มาถึงห้องนอนด้านใน ห้องนอนที่เต็มไปด้วยกลิ่นไม่คุ้นเคย ร่างบางเดินลากกระเป๋าของตนเองเข้าในห้องอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก วินมองสำรวจไปทั่วห้อง ก่อนจะวางกระเป๋าลากของตนเองไว้ที่มุมมุมหนึ่ง โดยที่วินของฟังคำสั่งของเจเดนว่าจะให้พักที่ห้องไหน “มึงทำหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไง” “ผมยังไม่ทำอะไรเลย ทำไมคุณชอบหาเรื่องผมจังเลย แล้วจะให้ผมอยู่ห้องนี้ใช่ไหมครับ”วินถามเพราะเขาไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร มันดูเหมือนไม่ใช่ห้องว่างที่จะให้คนอย่างเขาเข้ามาอาศัย “ไม่” แต่คำตอบของของเจเดนทำเอาใบหน้าที่เรียบนิ่งกลับดูสับสนเข้าไปใหญ่ ถ้าคำตอบคือไม่แล้วอีกฝ่ายพาเขามาห้องนี้ทำไมกัน ห้องนี้ดูกว้างขวางแบ่งโซนห้องนอน ห้องแต่งตัว ห้องน้ำอย่างดี “งั้นห้องของผมล่ะครับ” “มึงจะถามทำไมนักหนา ห้องนี้มันทำไมเป็นแค่คนอาศัยอย่างมากเรื่องได้ไหม” “ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นสักหน่อย” วินเข้าใจว่าอีกฝ่ายจงใจยั่วโมโห แต่เขาไม่อยาก
“มึงลองทำให้กูพอใจสิ” นิ้วเรียวค่อย ๆ แทรกเข้าช่องทางของตนเองอย่างช้า ๆ วินไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้มาก่อน และหากวินจะรอให้อีกฝ่ายเปิดทางก่อนเขาคงไม่มีทางทำแน่นอนคนใจร้ายแบบนั้นยิ่งอีกฝ่ายยังดูสะใจเมื่อเห็นวินมีความเจ็บปวด ครั้งนั้นเพราะครั้งแรกเขาไม่ได้เตรียมตัวมันทำให้เจ็บมาก ๆ และใช้เวลาหลายวันกว่าจะหาย ตัวตนความเป็นชายของอีกฝ่ายใช่ว่าเล็กเสียเมื่อไร คือใหญ่มาก ถ้าสอดเข้ามาตอนนี้โดยไม่มีการเปิดช่องทางก็คงมีโอกาสงเลือดออกอีกแน่ ๆ แค่คิดวินก็จิตตกแล้ว “นี่มึงกำลังทำอะไร กูไม่ได้ใจเย็นมากพอมารอมึงทำอะไรแบบนี้นะ” เสียงของเจเดนเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขามองอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์ รู้ทั้งรู้ว่าทำอะไรแต่ก็ไม่พอใจเท่าไร “แป๊บเดียวครับ อึก… จะเสร็จแล้ว” น้ำเสียงติดขัด เพราะกำลังทำบางอย่างกับช่องทาง เขาไม่ได้มีอารมณ์ร่วมเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่อยากลดทอนความบาดเจ็บลงเท่านั้น เจเดนไม่สบอารมณ์เอามาก ๆ แต่ก็ยอมอดทนอีกหน่อย แบบนี้ก็ดูสนุกเหมือนกันที่ของเล่นบำเรอของเขาเริ่มเรียนรู้อะไรได้บางอย่างแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ช่วยอะไรอยู่ดี เพราะอย่างไรความโกรธแค้นในใจ
“มึงมันร่าน ชอบก็ครางออกมา” “หึ” เสียงทุ้มหัวเราะในลำคอ เมื่อได้เห็นดวงตาที่หลบซ่อนภายใต้ท่อนแขนเล็ก ๆ นั่น เจเดนไม่สนใจหรอกว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกหรือจะทำอะไร เพราะตอนนี้เขาสนใจเพียงแค่จะกลั่นแกล้งอีกฝ่ายยังไงเท่านั้น ร่างของวินถูกจับให้เปลี่ยนท่าทางอีกครั้ง เจเดนทิ้งตัวนอนตะแคงกับเตียงนุ่มของเขา สอดตัวเข้าด้านหลังของวิน รั้งท่อนขาของอีกฝ่ายข้างหนึ่งให้ยกขึ้นสูง เผยให้เห็นช่องทางด้านหลังที่ยังปิดไม่สนิทดี ส่วนปลายหยักสอดเข้าไปในช่องทางอีกครั้ง ท่าทางเช่นนี้ต่อให้ท่อนเนื้อของเขาเข้าไปไม่ลึกมากแต่ก็ทำให้อีกฝ่ายดิ้นรนได้ยากเช่นกัน เจเดนฝังตัวตนของเขาจนสุดท่อนลำ ขยับสะโพกเข้าออกช้า ๆ รั้งท่อนขาของอีกฝ่ายให้สูงขึ้นอีกนิด ใบหน้าขยับเข้าใกล้หูของวินก่อนจะกระซิบบางอย่าง“อ๊ะ อาส์ อาส์” เสียงครางของวินหลุดลอยออกมาเป็นระยะเมื่อถูกอีกฝ่ายสอดกระแทกเข้า วินพยายามเอามือขวาปิดปาก เอาแขนซ้ายปิดหน้าของตัวเองไว้ “ทำตัวง่ายแบบนี้ กูนึกว่าเอาอยู่กับตุ๊กตายาง ถ้ามึงยังไม่เลิกเอาแขนปิดหน้าอย่าหาว่ากูรุนแรงนะ” และดูเหมือนคำขู่ของเจเดนจะได้ผลดี วินค่อย ๆ ลดท่อนแ
สองสัปดาห์ผ่านไป@Scrub Pub วันนี้กลุ่มเพื่อนๆของวินนัดกันมาดื่มที่บาร์แห่งหนึ่ง วินเองวันนี้มาในนามของตัวเอง เพราะเป็นกลุ่มที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยและนัดรวมตัวกันหลังจากเรียนจบ วินจึงมาพบปะเพื่อนฝูงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้“โห…ใครน่ะ หล่อจัง” เสียงของกวางกำลังพูดกับมิน สองสาวเป็นเพื่อนในกลุ่มของวิน พวกเธอพูดขึ้นขณะที่กำลังเต้นตามเสียงเพลงที่ดัง เหล่าชายหนุ่มหญิงสาวพบปะสังสรรค์ทั้งดื่มกินอย่างสนุกสนาน “ไม่รู้อะฉันแอบถ่ายมา หล่อดีเนาะฉันคิดว่าเค้าน่าจะเป็นดารา สเปคเลยคนเนี้ย! หล่อเหลือหลายจนแทบอยากคลานเข่าเข้าไปหา” สองสาวหยอกล้อตามประสาเพื่อนสนิทที่เจอหนุ่มๆที่ถูกตา ทว่าคำพูดล่อแหลมที่พูดออกมานั้นก็เอาไว้ใช้แค่กับบทสนทนาระหว่างพวกเธอเท่านั้น ความจริงสองเพื่อนซี้ไม่เคยจะแลมองชายคนไหนเลยด้วยซ้ำเพราะวันๆเอาแต่เรียก เลิกเรียนก็ทำงานพอเรียนจบสองสาวก็แยกกันไปคนละทิศละทาง จนป่านนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้กลับมาเจอกัน “เว่อๆ เออนี่ลองเอารูปเขามาค้นหาในกูเกิ้ลดูมั้ย ถ้าเค้าเป็นดาราจริงๆนะต้องมีประวัติบ้างแหละ” กวางแนะเพื่อนของเธอก่อนที่สองสาวจะเอารูปของเจเดนที่แอบถ่ายไว้ไปค้นหาในเน็ต ‘เจเดน ชา
ปากเล็กของวินที่ช่วยเขาอย่างจำใจ วินต้องอดทนเพียงแค่ต้องทำให้เขาพอใจ...แล้วคืนนี้วินอาจจะรอดเพราะหากเขาเสร็จสุขสมจากการให้ปากบางทีเขาอาจจะไม่สอดใส่ก็ได้ วินได้แต่คิดภาวนาให้ตัวเองรอดคืนนี้ไปได้“อึ้ม!” วินเริ่มตาลอยเมื่อรู้สึกว่าเจเดนขยับเอวเร็วเกินไปจนวินแทบจะหายใจไม่ทันน้ำลายของวินที่ไหลปนกับน้ำหวานของเขาไหลล้นปากลงผ่านลำคอลงแผงอกของวินก่อนจะหยดลงผ้าปูที่นอน เจเดนไม่คิดจะมองหน้าของวินที่อยู่เบื้องล่างเขาเลยว่าวินนั้นทรมานเพียงใดขณะที่เขาเองนั้นกำลังมีความสุขจนแทบจะล้น “อาห์ ปากมึงมันดี นุ่มฉิบหาย อาส์”“อ๊ะ! อืมมม ซี้ด” เขาครางออกมาอีกครั้งก่อนจะขยับเอวให้ช้าลงเพราะน้ำสีขาวขุ่นที่ปล่อยออกมาไหลลงคอของวินไปหมดทุกหยด“แค่ก ฮื่อๆ” เสียงวินสำลักและเจเดนถอนแท่งร้อนของเขาออกจากปากบางของวินจนทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ใต้อาณัติได้มีอากาศหายใจหายคอได้บ้างน้ำขาวขุ่นที่คั่งค้างในปากที่เหลืออยู่วินเช็ดมันออกช้าๆก่อนจะขยับตัวหนีเจเดนไปอยู่หัวเตียงแล้วเอาหมอนปิดร่างกายของตัวเองเอาไว้ “พอใจแล้วใช่ไหม” วินพูดพร้อมกับมองหน้าเจเดนอย่างโกรธแค้นเสียงสั่นแต่ทว่าก็หนีเขาไม่ได้หากเขาไม่ยอมปล่อย “ยัง”"อะไรน
@ห้องอาหารของโรงแรม“คุณเจเดน!” เสียงอุทานของผู้จัดการห้องอาหารกำลังตกใจที่เจ้าของโรงแรมเดินเข้ามาในห้องอาหารแห่งนี้เพราะปกติเจ้านายไม่เคยย่างกลายเข้ามาเลยหากไม่มีแขกสำคัญที่ต้องมาทานอาหารด้วย และส่วนใหญ่จะเสิร์ฟอาหารกลางวันไปที่ห้องทำงานเลย ทำให้วันนี้ผู้จัดการสาวค่อนข้างตกใจ“คุณเจเดนรับอาหารอะไรดีค่ะ” ผู้จัดการสาวอาสาเข้าไปดูแลเจ้านายหนุ่มด้วยตัวเอง“กาแฟดำกับแซนด์วิชแค่นั้น ” เจเดนเดินทางมาโรงแรมแต่เช้าเพราะไม่อยากเห็นหน้าคนที่เขาปู้ยี่ปู้ยำเมื่อคืนนานเกินไปแค่ทักทายให้เจ็บๆแสบๆก็รับออกมาทำงานเลย เรียกว่ากลัวทำหน้าไม่ถูก ดันบอกมันเรียก พี่เจ โคตรน่าขำสิ้นดี มาเฟียหนุ่มจึงเดินทางมาที่ทำงานแต่เช้าเรียกว่าเลี่ยงก็ว่าได้“หากคุณเจเดนต้องการอะไรเพิ่มเติมแจ้งได้เลยนะคะ”“วันนี้ให้เวย์ลางานนะ ผมให้ไปทำงานข้างนอก” เจเดนแจ้งผู้จัดการห้องอาหารเพราะคิดว่าเจ้าตัวคงมาทำงานไม่ไหวแน่นอน“ค่ะๆ” ผู้จัดการสาวรับคำอย่างพอจะเข้าใจในความหมายแต่ไม่ได้อยากยุ่งเจ้านายกับลูกน้องของเธอ@เพนท์เฮาส์เจเดนทีมแม่บ้านสามคนเดินทางมาทำความสะอาดห้องต้องตกใจในสภาพห้องนอนของเจ้านายหนุ่ม ก็เดาได้ไม่ยากว่าเมื่อคืนนี้
“ดิฉันชื่อไอรีน เป็นแฟนของเจเดนค่ะ” “ออ ครับ สวัสดีครับ” แม้จะงงมากแต่วินก็ขานรับออกไป“ไอรีนกลับก่อนนะเจเดน เดี๋ยวมาหานะคะ”หลังจากไอรีนกลับออกจากห้องไป เจเดนหันกลับมาก็ไม่เจอเงาของวินแล้ว วินกลับเข้าห้องนอนของตัวเองและทั้งสองก็แยกย้ายกันพักผ่อนเช้าตรู่วันใหม่วินออกจากห้องเพื่อตั้งใจจะไปทำงานโดยไม่ลืมมองหาเจเดนก่อนว่าเขายังอยู่ในห้องหรือไม่แต่ก็ไปไม่ทันออกพ้นประตูวินโดนเจเดนคว้าตัวเอาไว้ได้ก่อนจะถูกเขาลากมาทิ้งที่เตียง จากนั้นเจเดนก็ขึ้นมานั่งคร่อมตัววินทันที “ชอบนักเหรอให้ใช้กำลัง” เขาพูดออกมาด้วยความไม่พอใจแต่เช้าที่เมื่อคืนวินไม่ยอมเปิดประตูห้องให้ “ใครจะไปชอบคนใช้กำลัง ชุดผมยับหมดแล้ว ปล่อย” วินมองเจเดนอย่างไม่พอใจ เจเดนไม่พูดอะไรก่อนจะมองวินแล้วนิ่งไปสักพัก ทำไมเขาชอบเวลาที่ไอ้คนนี้ทำท่าทีขัดขืนและท่าทีที่ขัดขืนนั้นเจเดนยิ่งอยากแกล้งแต่คนอะไรตัวแดงง่ายมาก ก็มันเล่นขาวเนียนซะอย่างนี้ “มึงต้องยกเว้นผัวมึงไว้คนนึงล่ะ” เจเดนพูดย้อนแล้วหอมแก้มวินจนริมฝีปากและจมูกของเขาฝั่งลงเต็มแก้มวินฟอด... เจเดนอดใจไม่ได้จนเป็นคนเสียอาการซะเอง“คุณบ้าอะไรแต่เช้าเนี่ย” วินมองค้อนแล้วถามออกไปอ
เช้าวันรุ่งขึ้น วันนี้วันหยุดของวินทำให้เข้ากลับมาที่บ้านและสิ่งที่ต้องตกใจอันดับแรกเพราะเจ้าน้องชายตัวดีโชว์รอยสักมังกรหัวใหญ่เต็มหน้าอกซ้ายไปเลยทีเดียว เวย์บอกว่าอยากสักมานานแล้วและมีอีกเรื่องคือ น้องเปลี่ยนรถคันใหม่โดยไม่ได้แจ้งมาก่อน วันนี้ทั้งสามคนแม่รสาและลูกแฝดสุดหล่อของเธอ จึงพากันเดินทางไปโชว์รุมรถเพื่อรับรถใหม่ของเวย์“มึงรวยจังวะ” วินอดแซวน้องชายฝาแฝดไม่ได้“ก็ได้เงินค่าประกันของแม่กลับมาครบแล้ว”“เก็บเงินไว้บ้างต่อไปไม่ได้ทำงานโฮสต์แล้วนะ” วินเป็นห่วงเวกับการวางแผนการเงิน“คร้าฟเพ่ รถคันเดิมกูไม่ได้ขายมึงเอาไปให้ไหม” เวรับคำพี่ชายอย่างกวนๆ“ไม่ล่ะ มึงขายเอาเงินมาเก็บเลย ขอบใจ เดี๋ยวกูก็จะไปทำงานแล้ว”“ถ้ากูขายรถแล้ว กูฝากเงินที่มึงนะ เอาไปทำอะไรก็ได้” เวบอกอย่างจริงจังเพราะพี่ชายของเขาศึกษาการลงทุนมาเยอะ“ทำไมล่ะ”“กูลงทุนไม่เก่ง มึงทำได้ดีกว่ากูแน่” เวเชื่อใจพี่ชายอย่างที่สุด“มึงก็เก่ง ดูอย่างที่มึงทำประกันให้แม่สิ ใครจะคิดว่าเกิดเรื่องขึ้น”“แต่มึงแนะนำนี่นา กูก็ตกใจ แล้วตัวแทนเอาเช็คมาให้ 2 ล้าน เจอจ่ายจบ ของจริง” เพราะวินเรียนไปด้วยภาระการจะจ่ายค่าประกันชีวิต
ท่ามกลางความสับสนของความรู้สึก ร่างทั้งสองกลับกอดก่ายกันบนเตียงกว้าง สายตาสอดประสานเต็มไปด้วยความต้องการในฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ริมฝีปากแดงระเรื่อถูกช่วงชิงละเลียดชิมความหวานจากเธออย่างอ่อนโยน การใกล้ชิดทำให้เวและแองจี้เผลอไผลไปกับบรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นใจ ไม่นานร่างของทั้งคู่ก็เปลือยเปล่า เนินอกอวบอิ่มของหญิงสาวที่โตเต็มที่ในวัยยี่สิบปีพอดีเด่นหราชวนสัมผัส เวผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากบองของสาวสวยตรงหน้า ก่อนจะเคลื่อนต่ำครอบครองส่วนชูชันสีหวาน “อื้อ… พี่เว” “ขอโทษ ให้พี่หยุดตอนนี้ไหม” “มะ…ไม่ค่ะ” แองจี้พูดเสียงเบาอย่างขัดเขิน เธอไม่ต้องการให้อีกฝ่ายหยุดตอนนี้ เพราะเธอเองก็มีความต้องการเช่นเดียวกัน แม้ว่าครั้งนี้มันจะเป็นครั้งแรกของเธอก็ตาม เวค่อย ๆ ปรนเปรอร่างบางอย่างแผ่วเบา เขาก็รู้เหมือนกันว่านี่คือครั้งแรกของอีกฝ่าย เขาไม่อยากเผลอทำรุนแรงเกินไป แต่อารมณ์ของเขาก็ยากจะควบคุมได้เหมือนกัน การใกล้ชิดกันมากเกินไปทำให้เกิดเรื่องที่น่าหวาดหวั่น เขาไม่อยากให้มันเกิดอะไรแบบนี้แต่สุดท้ายทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นด้วยความเต็มใจ มือหนาลูบไล้ไปตา
มือหนากระชับเสื้อโค้ทกันหนาวตัวใหญ่ ที่สวมคลุมเอาไว้เพื่อลดความเย็นของอากาศ การฮันนีมูนทั้งสองเลือกที่ฝรั่งเศสเพราะเจเดนมีบ้านอยู่ที่นี่อยู่แล้ว และอยากให้วินได้มาพบกับครอบครัวฝั่งพ่อของเขาด้วย และอีกอย่างวินก็ต้องการมาหาเด็กแฝดอลิซและเอลิค หลังจากที่จัดงานแต่งงานเสร็จแองจี้ก็พาเด็ก ๆ กลับฝรั่งเศสทันที ทำให้วินไม่ได้เล่นกับเด็ก ๆ เลยช่วงนั้น “หนาวมากไหมคะ” เจเดนเอ่ยถามคนรักอย่างเป็นห่วง “ไม่ครับ ผมชอบที่นี่จังเอาไว้เรามาเดินเล่นกันอีกได้ไหม” “ได้สิคะ” วินชอบวิวที่หอไอเฟลมาก นอกจากจะสวยแล้วยังมีสถานที่ให้นั่งเล่นและเดินเล่นรอบ ๆ ได้อีกด้วย แม้ว่าที่นี่คนค่อนข้างเยอะ แต่ก็มีระเบียบต่างคนต่างมาเที่ยวไม่ยุ่งเกี่ยว นั่นแหละคือสิ่งที่วินชอบ… วันนี้พวกเขาไปเที่ยวมาหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังแวร์ซายส์ หรือพิพิธภัณฑ์ออร์เซย์ วินชอบสถานที่แบบนี้ เพราะมันเงียบสงบและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมของที่นี่ แต่มีที่หนึ่งที่เขาอยากไปเหมือนกันนั่นก็คือดิสนีย์แลนด์ คิดเอาไว้ว่าเดี๋ยวพวกเขาจะพาเอลิคและอลิซมาเที่ยววันหลัง “ถ้าชอบที่นี่งั้นเราอย
ขอเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมงานแต่งงานระหว่างนายเตวินทร์ สุรภัครชัย และ นายเจเดน ชาร์ลลอส วันอาทิตย์ ที่ 2 มีนาคม 2568 เวลา 9.09 นที่โรงแรมเจซี บรรยากาศโรแมนติกภายในโรงแรมหรูระดับห้าดาว ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานของเจเดนและวิน ก่อนหน้าทั้งคู่มีปากเสียงกันนิดหน่อยเรื่องของการจัดงาน วินต้องการจัดเล็ก ๆ ภายในครอบครัวและเพื่อนเท่านั้น ทว่าเจเดนกลับไม่เห็นด้วยทำให้มีการเถียงกันกว่าจะลงตัวก็เลยสรุปเอาไว้คนละครึ่งทาง แต่วินไม่คิดว่าครึ่งทางของเจเดนจะเกินครึ่งมามากถึงขนาดนี้ เขาไม่อยากคิดเลยว่าถ้าอีกฝ่ายจัดเต็มจะมากขนาดไหน เจเดนปิดโรงแรมของเขาทั้งวันทั้งคืนและให้พนักงานทุกคนของโรงแรมได้เข้าร่วมงาน โดยงานแต่งงานปล่อยให้เป็นหน้าที่ของออแกไนท์ทั้งหมด ดังนั้นแค่พนักงานของโรงแรมก็ปาไปกี่ร้อยคนแล้ว ห้องจัดเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดของโรงแรมถูกเปิดใช้งานและแล้ววันงานก็มาถึง เป็นงานแต่งงานที่เล็กแค่ในจินตนาการเท่านั้นจริงๆเพราะเจเดนเล่นใหญ่มากจนวินแทบอยากจะตะโกนใส่หน้า คุณพี่มันมากเกินไป วินในชุดไทยเจ้าบ่าวยืนต้อนรับแขกในงาน โดยที่เขาก็ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลยเ
เสียงเพลงใน CC บาร์ บาร์โฮสต์ชื่อดังใจกลางเมือง คืนนี้เสียงดนตรีกึกก้องและพอขึ้นอินโทรเปิดตัวสองหนุ่มแฝดเวและวิน ที่กำลังเป็นกระแสในตอนนี้ ด้วยเพราะแขกในร้านเรียกร้องมา ต้องการให้เวกลับมาโชว์การเต้นและก่อนจะถึงคืนนี้เวส่งคลิปทักทายแฟนคลับโดยมีพี่ชายของเขาอยู่ในคลิปด้วย และจึงเป็นที่มาของกี่เรียกร้องให้เกิดการโชว์ตัว์ของสองแฝดวินและเว การจัดโชว์ของโฮสต์ตัวท๊อปหน้าเหมือนจึงเกิดขึ้นอีกทั้งยังมีเพื่อนสาวกระเป๋าหนักอย่างกวางและมิน ที่ชอบจิ้นวินและเจเดนอยู่เป็นประจำ แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะเป็นคู่จริงแล้วก็ตาม แต่คนที่จะอารมณ์เสียมากที่สุดคงไม่พ้นเจเดน ที่ตอนนี้ได้แต่มองแฟนหนุ่มของเขาขึ้นไปเต้นคู่กับน้องชายฝาแฝดอยู่บนเวที การโชว์ของสองหนุ่มเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดให้กับแขกในร้านได้อย่างล้นหลาม และวินก็รู้ตัวด้วยว่าถ้าทำแบบนี้แล้วจะทำให้เจเดนไม่พอใจมาก ๆ ซึ่งนั่นก็คือจุดประสงค์ เสียงกรี๊ดของเพื่อนสาวส่งเสียงเชียร์ให้กับวินและเว แต่ครั้งนี้คนที่เล่นใหญ่กลับเป็นวิน เพราะแทนที่เขาจะเต้นเฉย ๆ วินกลับทำสิ่งที่ไม่คาดคิด มือเรียวดึงชายเสื้อเชิ้ตของตัวเองให้หลุดออกเล็กน้อย ก่อนจะปลดกระ
ร่างกายที่เปลือยเปล่านอนกอดกันตลอดทั้งคืน วินรู้สึกตัวตื่นก่อนเพราะอากาศที่ค่อนข้างเย็น แม้ว่าภายในห้องของพวกเขาจะมีเครื่องทำความร้อนก็ตาม แต่การนอนถอดเสื้อผ้าที่ญี่ปุ่นก็เป็นอะไรที่ท้าทายจนเกินไปหน่อย วินไม่คิดเลยว่าเมื่อคืนมันทำให้เราเหนื่อยกันขนาดนี้ วินพลิกตัวกลับมามองคนที่กอดเขาจากด้านหลัง ใบหน้าของเจเดนตอนที่หลับเป็นอะไรที่น่ามองที่สุดแล้ว เพราะไม่มีสายตาที่ยียวนหรือคำหวานเลี่ยน ๆ อีกทั้งยังสงบสุขไม่มีคนคอยกวนใจ แต่พอคิดอีกทีไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนเขาก็ชอบเจเดนทั้งหมดทุกเวลานั่นแหละ มือเรียวค่อย ๆ ยกขึ้นเกลี่ยใบหน้าของเจเดนเบา ๆ ไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว ไล่ตั้งแต่คิ้วเปลือกตาและปลายจมูก แต่เมื่อนิ้วของวินสัมผัสที่ริมฝีปากของเจเดน นิ้วของเขาก็ถูกอีกฝ่ายงับเข้าอย่างจัง “โอ๊ย !” วินร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะให้อีกเจเดนได้มากกว่า เจเดนรวบร่างของวินเข้ามากอดพร้อมกับฟัดแก้มของแฟนหนุ่มแรง ๆ อย่างนึกมันเขี้ยว “จะลักหลับพี่เหรอคะ” “เปล่าสักหน่อย แค่จะไล่แมลงวันเฉย ๆ ครับ” วินหลบสายตา เพราะถูกจับได้ว่าแอบแตะอั๋งอ
หลังจากขึ้นจากบ่อนำพุร้อน การแช่ตัวเป็นอะไรที่ค่อนข้างผ่อนคลายไม่น้อย เดินเที่ยวมาทั้งวันความเหนื่อยล้าสะสมก็หายเป็นปลิดทิ้ง วินสวมชุดยูกาตะที่ทางโรงแรมเตรียมเอาไว้ให้ เพราะด้วยเหตุนี้วินและเจเดนจึงเลือกโรงแรมนี้เป็นพิเศษ วินเองก็อยากให้เจเดนในชุดยูกาตะ ส่วนเจเดนก็อยากเห็นวินในชุดที่ถอดง่ายเหมือนกัน แม้เป็นครั้งแรกที่สวมแต่ก็โชคดีที่มันสวมง่ายกว่าที่คิด วินเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเช่นเดียวกับเจเดนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเหมือนกัน กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำกลิ่นเฉพาะของโรงแรมทำเอาสดชื่นไม่น้อย ตอนที่อาบน้ำวินยังคิดเลยว่าเขาจะถามพนักงานเหมือนกันว่าครีมอาบน้ำนี้มีขายหรือเปล่า “ว้าว สวมชุดนี้แล้วดูน่ารักจังเลยค่ะ” เจเดนเดินเข้ามาใกล้ รวบร่างของวินเข้ามากอด ก่อนจะหอมที่แก้มของคนรักฟอดใหญ่ “เลิกพูดคะขา สักทีได้ไหมครับ วินขนลุกไปหมดเวลาที่พี่เจพูดแบบนี้” “ไม่ได้ค่ะ เพราะพี่รักวินไง พี่ก็อยากพูดเพราะ ๆ กับวินด้วย มันเป็นการแสดงความรักอย่างหนึ่งนะคะ” “พูดครับธรรมดาก็ได้นี่ครับ มันก็แสดงความรักเหมือนกัน” “ไม่เหมือนนะ แต่มีอย่างหนึ่งที่แสดง
ตั๋วเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสถูกจองเอาไว้สองที่ สถานที่ปลายทางคือญี่ปุ่น ปกติแล้ววินไม่ใช่คนที่จะอยากไปไหนมาไหนหรืออยากได้สิ่งของราคาแพง การมาท่องเที่ยวทริปนี้เป็นความต้องการของวินด้วย เจเดนต้องการเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนของเขา ที่อยากจะเสิร์ฟสิ่งที่ดีที่สุดตลอดทริปการเดินทาง อีกทั้งเจเดนยังถือโอกาสครั้งนี้พักผ่อนไปในตัวด้วยเช่นกัน “นี่อะไรครับ” วินถามเมื่อตั๋วถูกยื่นมาตรงหน้าของเขา “ไปญี่ปุ่นกันค่ะ พี่อยากพาวินไปเที่ยวแล้วก็ถือโอกาสพักผ่อนไปเลย” “ไม่เห็นบอกผมเลย” “ก็วินอยากไปพี่เลยจองตั๋วทันที ช่วงนี้วินว่างอยู่ พี่เคลียร์ตารางงานได้เลยจองเลย” เจเดนพูดเสียงอ่อย เพราะสีหน้าของวินในตอนนี้ดูเหมือนไม่ค่อยพอใจเท่าไร เจเดนคิดว่าอีกฝ่ายจะดีใจจนกระโดดกอดเขาเสียอีก แต่ที่ไหนได้ท่าทางของวินกลับเรียบนิ่งกว่าที่เขาคิดเอาไว้ ทำเอาคนที่อยากเอาใจแฟนหนุ่มถึงกับใจแป่วไปไม่เป็น “วินไม่ดีใจเหรอคะ งั้นเอาไว้ค่อยไปก็ได้ เดี๋ยวตั๋วนี้พี่เอาไปเลื่อนวัน…” เจเดนที่เอาตั๋วกลับมาหน้าของเขาถอดสี ไม่กล้าเร่งรัดเอาคำตอบจากวิน “เดี๋ยวครับ ใครบอกว่าจะไ
เมื่อสายตาของทั้งสองสบตากันเจเดนไม่รอช้า รีบเดินเข้าไปหาคนรักทันที แม้จะเพียงแค่สองอาทิตย์ที่พวกเขาต้องห่างกัน แต่สำหรับเจเดนแล้ว ทุกวินาทีที่ไม่ได้อยู่ข้างวินมันยาวนานเหมือนปี“มีของอะไรลืมไว้ที่แท่นหรือเปล่าพี่ไม่ให้กลับไปเอาแล้วนะ” เสียงของเจเดนแฝงไปด้วยความกังวลแต่ก็เปี่ยมด้วยความเอาใจใส่ ขณะที่เขาทิ้งงานทั้งหมดมารับวินที่สนามบิน หลังจากที่วินแจ้งมาว่าจะถึงกรุงเทพไฟท์ไหน วินก็เคลียร์งานก่อนเพื่อมารับคนรักของเขาเหมือนกับทุกครั้ง“ไม่มีครับเอากลับมาหมดแล้ว”“กระเป๋าเอกสารงานพวกนี้เดี๋ยวพี่ให้คนเอาไปไว้ที่ออฟฟิศให้ ส่วนเรามานี่” เจเดนพูดพร้อมกับยื่นมือหนาออกมาคว้าข้อมือของวินเบา ๆ ก่อนจะดึงเขาไปข้างหน้าแม้จะไม่รู้ว่าเจเดนจะพาไปไหนแต่วินก็ไม่ได้คิดจะขัดขืน เขารู้ดีว่าเจเดนมีเหตุผลของตัวเองเสมอ“ไปไหนครับพี่เจ” วินถามด้วยน้ำเสียงสงสัย ขณะที่เดินตามอีกฝ่ายไปอย่างเชื่องช้า“ไปบ้านเราไง”“บ้าน? บ้านที่ไหนครับ” วินถามเสียงหลงใบหน้าเต็มไปด้วยความมึนงง เขาตั้งใจจะกลับไปอยู่กับแม่และน้อง แต่ตอนนี้เจเดนกลับจะพาเขาไปที่บ้านของตัวเองเสียอย่างนั้น“ก็...พี่จะให้เราย้ายมาอยู่กับพี่ ห้ามปฏิเสธพี่
การเริ่มต้นหางานทำครั้งแรกของเวหลังจากที่ออกจากโฮสต์ ครั้งนี้เวจะต้องเป็นซุปเปอร์เซลล์ให้ได้ เวเดินเข้ามาในโชว์รูมหรูด้วยหัวใจที่เต้นแรง แม้เขาจะมีเพียงวุฒิ ปวช. แต่ด้วยวาทศิลป์ที่เป็นเลิศและความหลงใหลในรถซุปเปอร์คาร์ เขามั่นใจว่างานนี้เป็นโอกาสที่เขารอคอยมานาน“น้องเวที่ติดต่อมาใช่ไหม”“ใช่ครับ”“ยังไงก็ทำงานให้เต็มที่นะ ทำช่องเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ด้วยยอดคงดี”“ผมจะทำให้เต็มที่เลยครับ” เวว่าขึ้นอย่างมั่นใจพลางมองไปรอบ ๆ โชว์รูมอย่างภูมิที่ตัวเองมาสมัครงานที่นี่ได้ โชว์รูมแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านขายรถหรูธรรมดา แต่เป็นที่รวมของรถยนต์นำเข้าระดับสูงจากทั่วทุกมุมโลกเวเคยศึกษาและทำช่องโซเชี่ยลเกี่ยวกับรถมานานแล้ว การได้มายืนอยู่ท่ามกลางรถสวย ๆ เหล่านี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนความฝันกลายเป็นจริง“เว รับรองลูกค้าหน่อย” เสียงใสของเพื่อนร่วมงานเอ่ยขึ้นขณะที่มีลูกค้ารายหนึ่งเดินเข้ามาเขาใจเต้นแรงตื่นเต้นกับงานแรกและลูกค้ารายแรกของตัวเอง สองเท้าก้าวไปทางลูกค้าท่านนั้นที่กำลังเลือกรถอย่างตั้งใจในวันแรกของการทำงานเวโชว์ทักษะการขายของเขาได้อย่างเฉียบคม พูดคุยกับลูกค้าราวกับนักพูดมืออาชีพ ใช้คว