แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงบนไร่ชาเขียวขจีที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ณ ใจกลางไร่ชาแห่งนี้ บ้านไม้สักหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม นี่คือบ้านของคามิโล อดีตมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลที่ผันตัวมาเป็นชาวไร่ชา และจันทร์ฉาย ภรรยาชาวใต้ผู้เข้มแข็งของเขา
อัสลานพามาหยามาถึงไร่ชาด้วยรถยนต์คันหรู มาหยารู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อเห็นบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ ที่เธอเคยมาเยือนแล้วตรงหลังถัดไป แต่เมื่อคามิโลและจันทร์ฉายออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ความกังวลของเธอก็หายไปจนหมดสิ้น
"สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่" อัสลานเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"สวัสดีจ้ะลูกชาย มาถึงก็ไม่บอกแม่ก่อนเลยนะ" จันทร์ฉายเอ่ยพลางโผเข้ากอดลูกชายด้วยความคิดถึง
"สวัสดีครับคุณพ่อ" อัสลานหันไปทักทายคามิโล
"มาถึงก็ดีแล้ว เข้าบ้านกันเถอะ"
เมื่อเข้ามาในบ้าน มาหยาก็รู้สึกประทับใจกับการตกแต่งที่เรียบง่ายแต่หรูหรา เฟอร์นิเจอร์ไม้สักแกะสลักอย่างประณีตบ่งบอกถึงรสนิยมอันดีของเจ้าของบ้าน
"นี่มาหยาครับ คนรักของผม" อัสลานแนะนำมาหยาให้พ่อแม่รู้จัก
"สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่" มาหยายกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม
"สวัสดีจ้ะหนูมาหยา ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ น่าตาหน้ารักใช่ได้เลยนะ ลูกชายแม่นี่ตาถึง" จันทร์ฉายเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
"ยินดีต้อนรับ" คามิโลเอ่ยสั้นๆ แต่แววตาของเขาบ่งบอกถึงความเอ็นดู
หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ อัสลานก็พาพ่อของเขาไปเดินเล่นในไร่ชาเพราะมีเรื่องสำคัญบางอย่างต้องคุยกันแบบส่วนตัว
"พ่อครับ ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษา"
"มีอะไรหรือลูก"
"ผมอยากให้พ่อช่วยดูแลมาหยาให้ผมหน่อย" อัสลานเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง
"ทำไมล่ะลูก" คามิโลถามด้วยความเป็นห่วง
"ผมยังมีเรื่องที่ต้องสะสางที่อิตาลี แม็กซิมยังไม่ยอมรามือ ผมกลัวว่ามาหยาจะไม่ปลอดภัย" อัสลานอธิบาย
"พ่อเข้าใจ แต่ลูกแน่ใจแล้วหรือที่จะวางมือจากธุรกิจนั้น" คามิโลผู้เป็นพ่อเอ่ยถามเพื่อให้ลูกชายได้คิดทบทวน
"แน่ใจครับ ผมอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่กับมาหยา" อัสลานตอบหนักแน่น
"ถ้าอย่างนั้น พ่อจะดูแลมาหยาให้เอง ลูกไม่ต้องห่วง"
"ขอบคุณครับพ่อ" อัสลานเอ่ยด้วยความซาบซึ้ง
ขณะที่อัสลานและคามิโลเดินคุยกันอยู่ในไร่ชา จันทร์ฉายก็พามาหยาไปเดินเล่นในสวนหลังบ้าน
"หนูมาหยารู้จักกับอัสลานได้ยังไงจ๊ะ"
"มาหยาถูกนายหัวอัสลานรับเลี้ยงตั้งพ่อแม่เสียตอนเรือล่มค่ะ" มาหยาตอบตามความจริง
จันทร์ฉายมองมาหยาด้วยความสงสารและเห็นใจ เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่ามาหยาผ่านเรื่องราวที่ยากลำบากมามากมายขนาดนี้
"หนูเข้มแข็งมากนะจ๊ะที่ผ่านมาได้" จันทร์ฉายเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"ขอบคุณค่ะ"
"อัสลานของแม่เป็นคนดีนะจ๊ะ แต่เขาอาจจะดูเย็นชาไปบ้าง" จันทร์ฉายเอ่ยบอกมาหยาด้วยความเอ็นดูลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของเธแ
"หนูรู้ค่ะ แหนูรักนายหัวอัสลานค่ะ"
"แม่ดีใจที่ลูกชายของแม่เจอคนดีๆ อย่างหนูมาหยาต่อไปเรียกแม่นะลูก"
ในค่ำคืนที่ดาวเต็มฟ้า อัสลานพามาหยามานั่งชมดาวบนเนินเขาในไร่ชา
"มาหยา" อัสลานเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
"คะ"
"แต่งงานกับฉันนะ" อัสลานที่ไม่อยากปล่อยเวลาให้รอช้าไปกว่านี้เพราะตอนนี้เขาก็ 40 ปีแล้ว เขาอยากใช้ชีวิตกับมาหยาทุกช่วงโอกาสของชีวิต
มาหยาน้ำตาคลอ เธอไม่เคยคิดเลยว่าอัสลานจะขอเธอแต่งงาน
"ค่ะ แต่งค่ะ"
อัสลานสวมแหวนเพชรบนนิ้วนางของมาหยา ทั้งสองสบตากันด้วยความรัก
"ฉันอยากจัดงานแต่งงานแบบเรียบง่ายที่ไร่ชาแห่งนี้" อัสลานบอกมาหยา
"เหมือนกับที่พ่อกับแม่แต่งงานกันก่อนที่ผมจะเกิด" อัสลานกล่าวเสริม
มาหยายิ้มด้วยความสุข เธอชอบไอเดียนี้มาก
"ดี ซิจ๊ะ มาหยาเห็นด้วย"
ในคืนที่ดาวเต็มท้องฟ้า พระจันทร์ทอแสงนวลความรักของคนสองเบ่งบานจนเอ่อล้น อัสลานโอบกอดมาหยาจนหลับไปที่บ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ ห้องที่เธอและเขาได้พลีกายเป็นของกันและกัน
เช้าวันรุ่งขึ้น อัสลานส่งตั๋วเครื่องบินเชิญเชอรี่สาวสองและเพื่อนคนรักอย่างกระติ๊บ รวมถึงนายหัวใหญ่ให้มาร่วมงานแต่งงานของเขา
"นายหัวจะแต่งงานแล้วเหรอเนี่ย" เชอรี่อุทานด้วยความตกใจ
"ใช่แล้วย่ะ นายหัวเชิญพวกเราไปร่วมงาน แหกตาอ่านซิ ยายกระเลยกรุงศรี"
"ดีใจกับนายหัวด้วยนะ" นายหัวใหญ่เอ่ยขึ้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวดที่มองการ์ดแต่งงานที่ถูกเชิญ พร้อมตั๋วเครื่องบิน แต่เขาก็ยินดีกับมาหยา กับสิ่งที่เธอได้เลือกแล้ว
คุณแม่สามีจันทร์ฉายและมาหยาช่วยกันเตรียมงานแต่งงานอย่างสนุกสนาน ทั้งสองเลือกดอกไม้ จัดสถานที่ และเตรียมอาหารสำหรับแขก
"หนูมาหยาอยากได้ชุดแต่งงานแบบไหนจ๊ะ"
"หนูอยากได้ชุดแต่งงานแบบเรียบง่ายค่ะเอาแบบที่คุณแม่แต่งกับคุณพ่อได้ไหมค่ะ"
"ดีเลยจ้ะ แม่จะพาไปดูชุดแต่งงานที่แม่เก็บเอาไว้ในตู้มาหยาไปลองดูซิลูกว่าใส่ได้ไหม"
สองสาวว่าที่ลูกสะใภ้หนึ่งเดียวของตระกูลกับแม่สามีเข้าขากันเป็นอย่างดี คงเป็นเพราะนมแฟงที่เลี้ยงและอบรมมาหยา มาอย่างดี
ในวันแต่งงาน แขกเหรื่อมารวมตัวกันที่ไร่ชา บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรักและความสุขมาหยาเดินเข้ามาในพิธีด้วยชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ชุดเดียวกับที่แม่ของเขาได้ใส่ อัสลานมองเธอด้วยความรักและชื่นชม ทั้งสองกล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าแขกและครอบครัว แลกแหวน และจุมพิตกันอย่างหวานชื่น
"ขอให้ทั้งคู่มีความสุขมากๆ นะ" คามิโลอวยพรลูกชายและลูกสะใภ้ถึงแม้ไมาแสดงออกมากรักแต่ก็สัมผัสได้ถึงความเมตตา
"ขอบคุณครับพ่อ"
"ยินดีด้วยนะลูก" แม่สามีจันทร์ฉายเอ่ยทั้งน้ำตานองหน้าดีใจที่ลูกชายยอมสละโสด
"ขอบคุณค่ะแม่"
"ดีใจด้วยนะเพื่อนสาวของฉัน เชอรี่และกระติบอวยพรมาหยา"
"มาหยา ฉันไม่เคยจินตนาการเหตุการณ์วันนี้เลยฉันขอให้เธอมีความสุขกับคนที่เลือกแล้ว ฉันคนนี้ยังเป็นพี่ชายของเธอเสมอนะ"
" ผมขอให้พี่ดูแลมาหยาเท่าชีวิต อย่าทำให้เธอเสียใจเป็นอันขาด ไม่งั้นผมเอาคืนนะ" นายหัวใหญ่ที่เอ่ยที่เล่นทีจริงกับนายหัวอัสลาน แม้หัวใจของเขาจะเจ็บปวดก็ตาม
คนที่มาร่วมงานมีแขกเหลือไม่มากแต่ก็เป็นคนสำคัญในชีวิตของเธอรวมทั้งนมแฟง คนที่เลี้ยงเธอมาหลังจากวันที่อัสลานรับอุปการะเธอยืนร้องไห้น้ำตามองหน้าภูมิใจในตัวมาหยา
"คุณหนูของนมโตเป็นสาวแล้ว ฮึก ฮื่อ"
"นมอย่าร้องไห้ ซิ ครับ คุณหนูของนมแต่งงานกับผมนะ ไม่ได้แต่งกับคนอื่น"
"ก็เพราะแต่งกับนายหัวอัสลานนี่ละค่ะ ทั้งดื้อ ทั้งเอาแต่ใจ ไม่ฟังเหตุผลใคร ไม่รู้จะมารังแก มาหยาของนมหรือเปล่า"
ทุกคนในงานเมื่อได้ยินนมแฟงพูดถึงนายหัวอัสลานก็ต่างพากันหัวเราะตลกขบขันคงจะมีคนเดียวที่สามารถคอนโทรลในหัวอลาสกันรองจากแม่ก็มีนมแฟงนี่แหละที่เลี้ยงเขามา
"วันไหนที่นายหัวอัสลานทำมาหยาร้องไห้บอกนมแฟงนะ นมแฟงจะพามาหย่าหนีไปเอง"นมแฟงที่พูดติดตลก
"โห..นมครับ ให้ผมได้มีโอกาสกอดเมียผมก่อนค่อยพาหนี"
ทุกคนต่างพากันหัวเราะขบขันงานทุกอย่างผ่านไปด้วยดีเหล่าบรรดาเดอะแก๊งและนายหัวอัสลานนอนพักที่ไร่ชาเป็นเวลา 2 วันเพื่อเที่ยวและพักผ่อนไปในตัว
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นชีวิตของคนสองคนที่ยังไม่ใช่จุดจบของเรื่องนี้.....
เวลาผ่านพ้นไปไวจนแทบไม่น่าเชื่อ มาหยาได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยมาเข้าเทอมที่สอง ของปี 4 เกิดกลายเป็นรุ่นพี่ปี 4 ที่ฮอตที่สุดในโรงเรียนพร้อมกับแก๊งเพื่อน กระติ๊บและเชอรี่ที่ใครๆก็เรียกว่าแก๊งนางฟ้า นายหัวอสลานมีความเป็นห่วงเป็นใยมาหยาในทุกเรื่องรวมถึงเรื่องการเรียนที่จะมาถึงเพราะเธอใกล้จะเรียนจบแล้ว เขาไม่ได้หวงที่เธอไปเรียน แต่เขาหวงที่เธอต้องพบเจอผู้ชายมากหน้าหลายตาที่ต้องมารุมขายขนมจีบเธอแน่นอน แม้จะแต่งงานกันแล้วก็ไม่วายที่จะห่วงมาหยา"นายหัวเที่ยงแล้วออกไปหาอะไรกินกันดีกว่านะจ๊ะ"มายาที่นั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวที่รีสอร์ทของอัสลานที่เห็นว่าเวลาล่วงเลยเที่ยงกว่าแล้วแต่อัสลานยังไม่มีท่าทีจะลุกไปทานข้าว"ฉันลืมเวลาเลยนะเนี่ย""งั้นเราไปกินข้าวกันเถอะจ้ะ""ไปสิ วันนี้เธออยากกินอะไรล่ะมายา""เราไปกินข้าวผัดปูที่ร้านป้าศรีกันไหมจ๊ะที่นั่นมีห้องแอร์ในหัวจะได้ไม่ร้อนด้วย"มาหยาออกความคิดทุกอย่างเผื่อนายหัวที่เธอรัก"ขอบคุณที่คิดเผื่อฉันเสมอนะฉันรักเธอนะมาหยา"ในวันเสาร์มาหยาจะช่วยอัสลานที่รีสอร์ทเพื่อเคลียร์งานต่างๆส่วนวันอาทิตย์เธอจะเข้าไปดูร้านขนมด้วยตัวเอง โดยจะมีนายหัวใหญ่คอยเป็นหูเ
แต่เหมือนคนอย่างแม็กซิมจะไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆกับอีกแค่โดนยิงถากแขนแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอกคนอย่างเขาผ่านร้อนผ่านหนาวมาพร้อมๆกับอัสลานไม่มีคำว่าเกรงกลัวอยู่ในหัวเขาเลย"ผู้หญิงคนเดียวสามารถทำให้มึงเป็นบ้าได้ขนาดนี้กูเชื่อแล้วว่าเธอคงสำคัญกับมึงจริงๆ""เธอเป็นคนของกู ใครก็ห้ามแตะเธอ ใครแตะเธอกูยิงทิ้งอย่างเดียว"เสียงทรงพลังอำนาจที่ยื่นปลายกระบอกปืนใส่พวกระยำที่กล้าทำคนของเขาต้องเจ็บโดยไม่ได้สนใจสิิ่งใด แค่เพื่อแก้แค้นให้เธอ มาหยา เพราะเธอต้องร้องไห้"ถ้ามึงยังอยากมีชีวิตกลับไปใส่หัวพวกมึงไปให้พ้นหน้ากูซะ""ครั้งนี้กูถือว่ากูแค่มาเชยชมคนที่จะเป็นเครื่องต่อรองระหว่างการค้าของเรา"แม็กซิมที่ยังคงทำปากดีทั้งที่แขนตัวเองเลือดโชกอัสลานไม่ต่อปากต่อคำพยักหน้าเรียกบอดี้การ์ดที่เหลือเข้ามาให้หมด"จัดการพวกมันซะอย่าให้คนบริสุทธิ์ต้องเป็นอะไร"เหล่าบรรดาบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านนอกอีก 5-6 คนกรูกันเข้ามาในร้านของป้าศรีทันที "ใครที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากร้านไปให้หมด"บอดี้การ์ดคนหนึ่งของอัสลานประกาศกร้าวทันทีทุกคนพากันวิ่งกระเจิดกระเจิงออกจากร้านแม้กระทั่งป้าศรีเอง ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ก็ตกอกตกใจอยู่ไม่ใ
อัสลานที่พามาหยามาถึงรีสอร์ทของตัวเองก็ยังไม่วางใจอะไรง่าย ๆ บอดี้การ์ด 30 คนกระจายกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ไอ้ดำบอดี้การ์ดที่แฝงตัวอยู่กับอัสลานมานานแรมปี เฝ้าสังเกตการณ์อย่างใจเย็น มันรู้ดีว่าการจะลักพาตัวมาหยาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันมีภารกิจจากนายใหญ่อย่างแม็กซิม ทำให้มันไม่ยอมแพ้“ไอ้เดชทุอย่างเรียบร้อยดีไหม”อัสลานที่เดินตรวจตราเข้มงวดพอ ๆ กับลูกน้อง“เรียบร้อยดีครับนาย นายไปพักกับมาหยาเถอะ”ไอ้เดชก็เป็นห่วงผู้เป็นนาย“กูนอนไม่ลง ไม่รู้ไอ้แม็กซิมมันจะทำอะไรบ้า ๆ อีกหรือเปล่ากูเป็นห่วงมาหยา”ไอ้ดำที่รู้ว่าอัสลานและไอ้เดชเริ่มไม่ไว้ใจเขา มาซักพัก เขาต้องพยายามเอาตัวมาหยาไปให้นายแม็กซิมก่อนที่จะโดนจับได้คาหนังคาเขา มันส่งข้อมูลให้กับลูกน้องฝั่งไอ้แม็กซิมให้มาท้ายรีสอร์ทจุดบอดที่สุดและมีป่ารกอยู่พอที่จะเผาได้ข้อความที่ส่งไป “พวกมึงเตรียมคนซัก 4-5 คนมาตามจุดที่กูส่งไปให้แล้วเอาน้ำมันมาด้วยนะ เผาตรงนั้นเลย แล้วพวกมึงยิงกูได้เลยไม่ต้องเกรงใจเอาตรงแขนกูถาก ๆ หน่อย“ได้พี่อีก 1 ชม. ทุกอย่างเตียมพร้อม”หนึ่งชั่วโมงต่อมา ไอ้ดำแกล้งชวนไอ้แว่นน้องชายของไอ้เดช ไปเดินตรวจตารารอบ ๆ รีสอร
ในขณะเดียวกัน ไอ้ดำพามาหยาไปซ่อนตัวบนเกาะร้างแห่งหนึ่ง มันมัดเธอไว้กับเสาไม้ในกระท่อมเก่าๆ และเฝ้าดูเธอด้วยสายตาเย็นชา มันรู้ว่าอัสลานต้องตามมาแน่ ๆ แต่มันไม่กลัว เพราะมันมีเจ้านายที่ยิ่งใหญ่กว่าคอยหนุนหลัง"แกต้องการอะไร" มาหยาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ"ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอ..แต่เจ้านายของฉันต้องการ""เจ้านายของแก?" "ใช่ แม็กซิม" มาหยารู้สึกหนาวเยือก เธอรู้ว่าแม็กซิมเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของ อัสลานในอิตาลี และเขาก็เป็นคนที่อันตรายมากเพราะเธอเพิ่งจะพบเจอความบ้าบิ่นของเขาเอง แต่ไม่คิดว่าจะบ้าขนาดจับตัวเธอมา"เขาต้องการอะไรจากอัสลาน" "เขาต้องการธุรกิจของอัสลาน และเขาจะใช้เธอเป็นเครื่องมือต่อรอง"มาหยารู้สึกสิ้นหวัง เธอรู้ว่าเธอเป็นจุดอ่อนของอัสลาน และแม็กซิมก็รู้เช่นกันยิ่งทำให้เธอโทษตัวเองที่ทำให้อัสลานตกอยู่ในอันตรายเพราะเธอ น้ำตาเอ่อคลอตาแดงระเรื่อ"นายหัวอัสลานจะไม่มีวันยอมแพ้และก็จะไม่มาหรอก" "เราก็รอดู" มันรู้ว่าแม็กซิมต้องการให้อัสลานมาที่เกาะร้างแห่งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนชีวิตของมาหยา กับธุรกิจทั้งหมดของเขาในอิตาลี ไอ้ดำรู้ดีว่ามาหยาคือลมหายใจและชีวิตของอัสลาน และมันมั่นใจว่
“คุณหมอครับ นี่เธอไม่พูดไม่จามาเกือบอาทิตย์แล้วนะครับเอาแต่นั่งเหมอ กับเรียกชื่ออัสลาน ผมต้องทำยังไงครับ” นายหัวใหญ่ที่ต้องเฝ้าดูมาหยาไม่หางตา ส่วนเดชก็ส่งลูกน้องมาช่วยที่ร้านขนมอีกแรง เพราะมันก็วิ่งวุ่นทั้งตามหาอัสลานและดูแลรีสอร์ท“มันขึ้นอยู่กับหัวใจของเธอ ว่าจะเข็มแข็งได้มากแค่ไหนยอมรับความเจ็บปวดในครั้งนี้ได้เมื่อไหร่ครับ เวลาเท่านั้นที่จะเป็นยาให้กับเธอ” มาหยาที่เหมือนมีแต่ร่างไร้วิญญาณสภาพจิตใจของเธอแย่เกินเยียวยา ข้าวปลาก็ไม่กิน แค่กินน้ำเข้าไปก็อ้วกออกหมดเกิดสภาวะร่างกายไม่รับสิ่งต่าง ๆ “นายหัว ฮึก นายหัว อยู่ไหนจ๊ะ นายหัว”เสียงมาหยาพร่ำเพ้อหาอัสลาน“ครับหมอผมจะพยายามดูแลเธอเป็นอย่างดีครับ”“งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”หลังจากหมอกลับไปแล้ว มาหยาที่เอาแต่นั่งเหม่อขดตัวอยู่ตรงห้องนั่งเล่นที่เคยนั่งกินข้าว ดูหนัง ภาพจำต่าง ๆ ไหลเข้ามาในสมองของมาหยา เธอนั่งยิ้ม แต่กลับน้ำตาไหล พอได้สติก็วิ่งไปกอดนายหัวใหญ่“ฮึก ฮื่อ นายหัว ไป ไป หานายหัวอัสลาน ช่วย ช่วย นายหัวอัสลานหรือยัง ช่วยหรือยัง..!” มาหยาโว๊ยวายให้นายหัวใหญ่เพราะเข้าใจว่านายหัวใหญ่ไม่ยอมช่วย“ไป ไป ช่วยนายหัวกันนะ ไป ฮื่อ ไปซ
ไม่มีคืนไหนที่มาหยาจะหลับลงสนิทโดยที่ไม่คิดถึงนายหัวอัสลาน วันสุดท้ายที่เกาะร้าง คำพูดสุดท้ายที่สัญญาว่าจะกลับมา มาหยายังคงเฝ้ารอนายหัวอัสลานด้วยความหวังที่เต็มเปี่ยมอัสลานเปรียบเหมือนดังลมหายใจของมาหยาแม้ห่างกันเพียงวันเดียวก็แทบจะขาดใจ แต่เธอบัดนี้มีของขวัญที่แสนวิเศษอยู่ภายในกาย สิ่งที่เธอทำได้คือต้องเข้มแข็งเพื่อคนทั้งสอง"มาหยาวันนี้มีประชุมโรงแรม เราต้องลงมติหลายๆเรื่องนะ พี่จะคอยอยู่ข้าง ๆ เธอเองเธอมีตรงไหนไม่เข้าใจ เธอถามพี่ได้เลย"ไอ้เดชลูกน้องคู่กายมือซ้ายมือขวาของอัสลานที่ช่วยมายาทำงานทุกอย่าง"ขอบคุณมากพี่เดช ส่วนเรื่องร้านถ้ามีตรงไหนตกหล่นไปให้เด็ก ๆ ที่ร้านแจ้งเข้ามาเลยนะค่ะ"มาหยาต้องดรอปเรียนและหันมาดูแลกิจการทั้งหมดของ อัสลานแทนเขาแม้ตัวเองจะได้ประสบการณ์แต่เพราะเคยฝึกงานและผ่านการทำงานกับอัสลันมาบ้างจึงทำให้มาอยากจัดการทุกอย่างออกมาได้ดีเลขาออยที่ตอนนี้รู้สึกรังเกียจมาหยามากขึ้นเป็นหลายเท่าตัว เหตุเพราะมองว่ามาหยาเป็นตัวซวยทำให้นายหัวอัสลานที่ตนเองรักต้องจากไปจึงมักจะใช้คำพูดถากถางมายาเสมอโดยที่ไม่มีใครกล้าทำแต่เลขาออยกับทำเพียงเพราะไม่ยอมรับว่ามาอย่าเป็นนายหญิงขอ
วันเวลาผ่านไปรวดเร็วผ่านมาแล้วสามเดือนแล้วก็ยังไม่มีข่าวและวี่แววของอัสลานนับจากวันที่พบเจอเศษซากของเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือด แต่มาหยายังคงเชื่อเสมอว่าอัสลานยังคงมีชีวิตอยู่ืเพราะไม่มีใครเห็นร่างของ อัสลาน"นายครับ นายยังคงจะตามหานายน้อยต่อไปไหมครับ หรือเราจะยุติการตามหา"ไอ้เดชเอ่ยถามคามิโลผู้เป็นบิดาหรือนายใหญ่"ฉันคงไม่อาจยุติ การตามหาลูกชายเพียงคนเดียวของฉันได้ ถ้ายังไม่เจอร่างของอัสลาน แปลว่าเขายังคงมีชีวิตและรอคอยการช่วยเหลือจากเราอยู่"คามิโลเอ่ยเสียงเรียบ"แล้วมาหยาเป็นอย่างไรบ้าง""นายหญิงยังคงไปทำงานที่โรงแรมและจัดการทุกอย่างออกมาแทนนายหัวอัสลานได้ดีครับนาย"คามิโลเข้าใจหัวอกของลูกสะใภ้เป็นอย่างดีเพราะเขาเองก็คิดถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวไม่ต่างกัน"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว แกไปทำงานต่อเถอะ""ครับนาย"วันนี้มาหยาไปที่หมู่บ้านชาวเลแห่งหนึ่งถัดจากเกาะของชาวยิปซี มาหยาอยากกินปลาสดกับปูสด ๆ จากทะเล เธอจึงชวนเจ้าแว่นน้องชายของไอ้เดชและ บอดี้การ์ดอีก 4-5 คนตามมาเป็นเพื่อน"พี่แว่นจ๊ะ รบกวนพี่ไปดูปูกับปลาให้ฉันหน่อย ฉันอยากกินเอาแบบสด ๆ เลยนะ เดี๋ยวฉันจะไปเดินเล่นตรงริมหาดสักหน่อย"มาหย
"ฉันต้องการคุยกับเขาไม่ใช่เธอ หลบไปซะ มาอย่าทำเสียงเข้ม""เขาเป็นคนของฉันและฉันกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานเร็วๆนี้ ผู้หญิงตรงหน้าทำท่าทีโอหัง"อย่าพูดอย่างนั้นสิ หากหัวหน้าหมู่บ้านมาได้ยินแบบนี้จะไม่ดีกับเธอนะ"ฝรั่งหันไปพูดกับเด็กผู้หญิงตรง"ทำไมจะไม่ดีล่ะ ในเมื่อข้าชอบพี่ ข้าก็อยากได้พี่มาเป็นผัวของข้า" เด็กตรงหน้ายังคงทำท่าทีโอหังและไม่ยอมปล่อยแขนแกร่งของอัสลานใครๆก็ว่าอย่าเล่นกับอารมณ์ของคนที่กำลังตั้งครรภ์มายาที่เป็นคนอ่อนโยนและใจดีเสมอมา เดี๋ยวนี้เธอกลับมีความโหดอยู่ในตัวไม่น้อย มาหยารู้สึกโกรธจนเลือดแทบขึ้นหน้าที่เห็นผู้หญิงคนอื่นมาเกาะแขนสามีของตน"ขนาดผู้ชายเขายังพูดว่าไม่ควรพูดเธอรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใครมาจากไหน"มาหยาเอื้อยเสียงเรียกพร้อมกับส่งรังสีอำมหิตแผ่กระจายออกมาอย่างเห็นได้ชัด"ฉันเป็นคนที่ช่วยชีวิตพี่ฝรั่ง พี่ฝรั่งติดหนี้ชีวิตฉันฉันจะทำยังไงกับพี่ฝรั่งก็ได้ เขาต้องตอบแทนฉัน" สองมือเรียวเล็กยังคงเกาะแขนแน่นไม่ยอมปล่อย"ปล่อยแขนนายหัวอัสลานเดี๋ยวนี้...! ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน..!"มาหยาตะคอกเสียงดังลั่นจนเป็นที่ดึงดูดของชาวบ้านและชายสูงวัยหัวหน้าหมู่บ้านได้ถือไม้ตะพดนุ่งกา
"ฉันต้องการคุยกับเขาไม่ใช่เธอ หลบไปซะ มาอย่าทำเสียงเข้ม""เขาเป็นคนของฉันและฉันกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานเร็วๆนี้ ผู้หญิงตรงหน้าทำท่าทีโอหัง"อย่าพูดอย่างนั้นสิ หากหัวหน้าหมู่บ้านมาได้ยินแบบนี้จะไม่ดีกับเธอนะ"ฝรั่งหันไปพูดกับเด็กผู้หญิงตรง"ทำไมจะไม่ดีล่ะ ในเมื่อข้าชอบพี่ ข้าก็อยากได้พี่มาเป็นผัวของข้า" เด็กตรงหน้ายังคงทำท่าทีโอหังและไม่ยอมปล่อยแขนแกร่งของอัสลานใครๆก็ว่าอย่าเล่นกับอารมณ์ของคนที่กำลังตั้งครรภ์มายาที่เป็นคนอ่อนโยนและใจดีเสมอมา เดี๋ยวนี้เธอกลับมีความโหดอยู่ในตัวไม่น้อย มาหยารู้สึกโกรธจนเลือดแทบขึ้นหน้าที่เห็นผู้หญิงคนอื่นมาเกาะแขนสามีของตน"ขนาดผู้ชายเขายังพูดว่าไม่ควรพูดเธอรู้หรือเปล่าว่าเขาเป็นใครมาจากไหน"มาหยาเอื้อยเสียงเรียกพร้อมกับส่งรังสีอำมหิตแผ่กระจายออกมาอย่างเห็นได้ชัด"ฉันเป็นคนที่ช่วยชีวิตพี่ฝรั่ง พี่ฝรั่งติดหนี้ชีวิตฉันฉันจะทำยังไงกับพี่ฝรั่งก็ได้ เขาต้องตอบแทนฉัน" สองมือเรียวเล็กยังคงเกาะแขนแน่นไม่ยอมปล่อย"ปล่อยแขนนายหัวอัสลานเดี๋ยวนี้...! ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน..!"มาหยาตะคอกเสียงดังลั่นจนเป็นที่ดึงดูดของชาวบ้านและชายสูงวัยหัวหน้าหมู่บ้านได้ถือไม้ตะพดนุ่งกา
วันเวลาผ่านไปรวดเร็วผ่านมาแล้วสามเดือนแล้วก็ยังไม่มีข่าวและวี่แววของอัสลานนับจากวันที่พบเจอเศษซากของเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือด แต่มาหยายังคงเชื่อเสมอว่าอัสลานยังคงมีชีวิตอยู่ืเพราะไม่มีใครเห็นร่างของ อัสลาน"นายครับ นายยังคงจะตามหานายน้อยต่อไปไหมครับ หรือเราจะยุติการตามหา"ไอ้เดชเอ่ยถามคามิโลผู้เป็นบิดาหรือนายใหญ่"ฉันคงไม่อาจยุติ การตามหาลูกชายเพียงคนเดียวของฉันได้ ถ้ายังไม่เจอร่างของอัสลาน แปลว่าเขายังคงมีชีวิตและรอคอยการช่วยเหลือจากเราอยู่"คามิโลเอ่ยเสียงเรียบ"แล้วมาหยาเป็นอย่างไรบ้าง""นายหญิงยังคงไปทำงานที่โรงแรมและจัดการทุกอย่างออกมาแทนนายหัวอัสลานได้ดีครับนาย"คามิโลเข้าใจหัวอกของลูกสะใภ้เป็นอย่างดีเพราะเขาเองก็คิดถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวไม่ต่างกัน"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว แกไปทำงานต่อเถอะ""ครับนาย"วันนี้มาหยาไปที่หมู่บ้านชาวเลแห่งหนึ่งถัดจากเกาะของชาวยิปซี มาหยาอยากกินปลาสดกับปูสด ๆ จากทะเล เธอจึงชวนเจ้าแว่นน้องชายของไอ้เดชและ บอดี้การ์ดอีก 4-5 คนตามมาเป็นเพื่อน"พี่แว่นจ๊ะ รบกวนพี่ไปดูปูกับปลาให้ฉันหน่อย ฉันอยากกินเอาแบบสด ๆ เลยนะ เดี๋ยวฉันจะไปเดินเล่นตรงริมหาดสักหน่อย"มาหย
ไม่มีคืนไหนที่มาหยาจะหลับลงสนิทโดยที่ไม่คิดถึงนายหัวอัสลาน วันสุดท้ายที่เกาะร้าง คำพูดสุดท้ายที่สัญญาว่าจะกลับมา มาหยายังคงเฝ้ารอนายหัวอัสลานด้วยความหวังที่เต็มเปี่ยมอัสลานเปรียบเหมือนดังลมหายใจของมาหยาแม้ห่างกันเพียงวันเดียวก็แทบจะขาดใจ แต่เธอบัดนี้มีของขวัญที่แสนวิเศษอยู่ภายในกาย สิ่งที่เธอทำได้คือต้องเข้มแข็งเพื่อคนทั้งสอง"มาหยาวันนี้มีประชุมโรงแรม เราต้องลงมติหลายๆเรื่องนะ พี่จะคอยอยู่ข้าง ๆ เธอเองเธอมีตรงไหนไม่เข้าใจ เธอถามพี่ได้เลย"ไอ้เดชลูกน้องคู่กายมือซ้ายมือขวาของอัสลานที่ช่วยมายาทำงานทุกอย่าง"ขอบคุณมากพี่เดช ส่วนเรื่องร้านถ้ามีตรงไหนตกหล่นไปให้เด็ก ๆ ที่ร้านแจ้งเข้ามาเลยนะค่ะ"มาหยาต้องดรอปเรียนและหันมาดูแลกิจการทั้งหมดของ อัสลานแทนเขาแม้ตัวเองจะได้ประสบการณ์แต่เพราะเคยฝึกงานและผ่านการทำงานกับอัสลันมาบ้างจึงทำให้มาอยากจัดการทุกอย่างออกมาได้ดีเลขาออยที่ตอนนี้รู้สึกรังเกียจมาหยามากขึ้นเป็นหลายเท่าตัว เหตุเพราะมองว่ามาหยาเป็นตัวซวยทำให้นายหัวอัสลานที่ตนเองรักต้องจากไปจึงมักจะใช้คำพูดถากถางมายาเสมอโดยที่ไม่มีใครกล้าทำแต่เลขาออยกับทำเพียงเพราะไม่ยอมรับว่ามาอย่าเป็นนายหญิงขอ
“คุณหมอครับ นี่เธอไม่พูดไม่จามาเกือบอาทิตย์แล้วนะครับเอาแต่นั่งเหมอ กับเรียกชื่ออัสลาน ผมต้องทำยังไงครับ” นายหัวใหญ่ที่ต้องเฝ้าดูมาหยาไม่หางตา ส่วนเดชก็ส่งลูกน้องมาช่วยที่ร้านขนมอีกแรง เพราะมันก็วิ่งวุ่นทั้งตามหาอัสลานและดูแลรีสอร์ท“มันขึ้นอยู่กับหัวใจของเธอ ว่าจะเข็มแข็งได้มากแค่ไหนยอมรับความเจ็บปวดในครั้งนี้ได้เมื่อไหร่ครับ เวลาเท่านั้นที่จะเป็นยาให้กับเธอ” มาหยาที่เหมือนมีแต่ร่างไร้วิญญาณสภาพจิตใจของเธอแย่เกินเยียวยา ข้าวปลาก็ไม่กิน แค่กินน้ำเข้าไปก็อ้วกออกหมดเกิดสภาวะร่างกายไม่รับสิ่งต่าง ๆ “นายหัว ฮึก นายหัว อยู่ไหนจ๊ะ นายหัว”เสียงมาหยาพร่ำเพ้อหาอัสลาน“ครับหมอผมจะพยายามดูแลเธอเป็นอย่างดีครับ”“งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”หลังจากหมอกลับไปแล้ว มาหยาที่เอาแต่นั่งเหม่อขดตัวอยู่ตรงห้องนั่งเล่นที่เคยนั่งกินข้าว ดูหนัง ภาพจำต่าง ๆ ไหลเข้ามาในสมองของมาหยา เธอนั่งยิ้ม แต่กลับน้ำตาไหล พอได้สติก็วิ่งไปกอดนายหัวใหญ่“ฮึก ฮื่อ นายหัว ไป ไป หานายหัวอัสลาน ช่วย ช่วย นายหัวอัสลานหรือยัง ช่วยหรือยัง..!” มาหยาโว๊ยวายให้นายหัวใหญ่เพราะเข้าใจว่านายหัวใหญ่ไม่ยอมช่วย“ไป ไป ช่วยนายหัวกันนะ ไป ฮื่อ ไปซ
ในขณะเดียวกัน ไอ้ดำพามาหยาไปซ่อนตัวบนเกาะร้างแห่งหนึ่ง มันมัดเธอไว้กับเสาไม้ในกระท่อมเก่าๆ และเฝ้าดูเธอด้วยสายตาเย็นชา มันรู้ว่าอัสลานต้องตามมาแน่ ๆ แต่มันไม่กลัว เพราะมันมีเจ้านายที่ยิ่งใหญ่กว่าคอยหนุนหลัง"แกต้องการอะไร" มาหยาถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ"ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอ..แต่เจ้านายของฉันต้องการ""เจ้านายของแก?" "ใช่ แม็กซิม" มาหยารู้สึกหนาวเยือก เธอรู้ว่าแม็กซิมเป็นคู่แข่งทางธุรกิจของ อัสลานในอิตาลี และเขาก็เป็นคนที่อันตรายมากเพราะเธอเพิ่งจะพบเจอความบ้าบิ่นของเขาเอง แต่ไม่คิดว่าจะบ้าขนาดจับตัวเธอมา"เขาต้องการอะไรจากอัสลาน" "เขาต้องการธุรกิจของอัสลาน และเขาจะใช้เธอเป็นเครื่องมือต่อรอง"มาหยารู้สึกสิ้นหวัง เธอรู้ว่าเธอเป็นจุดอ่อนของอัสลาน และแม็กซิมก็รู้เช่นกันยิ่งทำให้เธอโทษตัวเองที่ทำให้อัสลานตกอยู่ในอันตรายเพราะเธอ น้ำตาเอ่อคลอตาแดงระเรื่อ"นายหัวอัสลานจะไม่มีวันยอมแพ้และก็จะไม่มาหรอก" "เราก็รอดู" มันรู้ว่าแม็กซิมต้องการให้อัสลานมาที่เกาะร้างแห่งนี้เพื่อแลกเปลี่ยนชีวิตของมาหยา กับธุรกิจทั้งหมดของเขาในอิตาลี ไอ้ดำรู้ดีว่ามาหยาคือลมหายใจและชีวิตของอัสลาน และมันมั่นใจว่
อัสลานที่พามาหยามาถึงรีสอร์ทของตัวเองก็ยังไม่วางใจอะไรง่าย ๆ บอดี้การ์ด 30 คนกระจายกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ไอ้ดำบอดี้การ์ดที่แฝงตัวอยู่กับอัสลานมานานแรมปี เฝ้าสังเกตการณ์อย่างใจเย็น มันรู้ดีว่าการจะลักพาตัวมาหยาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันมีภารกิจจากนายใหญ่อย่างแม็กซิม ทำให้มันไม่ยอมแพ้“ไอ้เดชทุอย่างเรียบร้อยดีไหม”อัสลานที่เดินตรวจตราเข้มงวดพอ ๆ กับลูกน้อง“เรียบร้อยดีครับนาย นายไปพักกับมาหยาเถอะ”ไอ้เดชก็เป็นห่วงผู้เป็นนาย“กูนอนไม่ลง ไม่รู้ไอ้แม็กซิมมันจะทำอะไรบ้า ๆ อีกหรือเปล่ากูเป็นห่วงมาหยา”ไอ้ดำที่รู้ว่าอัสลานและไอ้เดชเริ่มไม่ไว้ใจเขา มาซักพัก เขาต้องพยายามเอาตัวมาหยาไปให้นายแม็กซิมก่อนที่จะโดนจับได้คาหนังคาเขา มันส่งข้อมูลให้กับลูกน้องฝั่งไอ้แม็กซิมให้มาท้ายรีสอร์ทจุดบอดที่สุดและมีป่ารกอยู่พอที่จะเผาได้ข้อความที่ส่งไป “พวกมึงเตรียมคนซัก 4-5 คนมาตามจุดที่กูส่งไปให้แล้วเอาน้ำมันมาด้วยนะ เผาตรงนั้นเลย แล้วพวกมึงยิงกูได้เลยไม่ต้องเกรงใจเอาตรงแขนกูถาก ๆ หน่อย“ได้พี่อีก 1 ชม. ทุกอย่างเตียมพร้อม”หนึ่งชั่วโมงต่อมา ไอ้ดำแกล้งชวนไอ้แว่นน้องชายของไอ้เดช ไปเดินตรวจตารารอบ ๆ รีสอร
แต่เหมือนคนอย่างแม็กซิมจะไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆกับอีกแค่โดนยิงถากแขนแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอกคนอย่างเขาผ่านร้อนผ่านหนาวมาพร้อมๆกับอัสลานไม่มีคำว่าเกรงกลัวอยู่ในหัวเขาเลย"ผู้หญิงคนเดียวสามารถทำให้มึงเป็นบ้าได้ขนาดนี้กูเชื่อแล้วว่าเธอคงสำคัญกับมึงจริงๆ""เธอเป็นคนของกู ใครก็ห้ามแตะเธอ ใครแตะเธอกูยิงทิ้งอย่างเดียว"เสียงทรงพลังอำนาจที่ยื่นปลายกระบอกปืนใส่พวกระยำที่กล้าทำคนของเขาต้องเจ็บโดยไม่ได้สนใจสิิ่งใด แค่เพื่อแก้แค้นให้เธอ มาหยา เพราะเธอต้องร้องไห้"ถ้ามึงยังอยากมีชีวิตกลับไปใส่หัวพวกมึงไปให้พ้นหน้ากูซะ""ครั้งนี้กูถือว่ากูแค่มาเชยชมคนที่จะเป็นเครื่องต่อรองระหว่างการค้าของเรา"แม็กซิมที่ยังคงทำปากดีทั้งที่แขนตัวเองเลือดโชกอัสลานไม่ต่อปากต่อคำพยักหน้าเรียกบอดี้การ์ดที่เหลือเข้ามาให้หมด"จัดการพวกมันซะอย่าให้คนบริสุทธิ์ต้องเป็นอะไร"เหล่าบรรดาบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านนอกอีก 5-6 คนกรูกันเข้ามาในร้านของป้าศรีทันที "ใครที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากร้านไปให้หมด"บอดี้การ์ดคนหนึ่งของอัสลานประกาศกร้าวทันทีทุกคนพากันวิ่งกระเจิดกระเจิงออกจากร้านแม้กระทั่งป้าศรีเอง ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ก็ตกอกตกใจอยู่ไม่ใ
เวลาผ่านพ้นไปไวจนแทบไม่น่าเชื่อ มาหยาได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยมาเข้าเทอมที่สอง ของปี 4 เกิดกลายเป็นรุ่นพี่ปี 4 ที่ฮอตที่สุดในโรงเรียนพร้อมกับแก๊งเพื่อน กระติ๊บและเชอรี่ที่ใครๆก็เรียกว่าแก๊งนางฟ้า นายหัวอสลานมีความเป็นห่วงเป็นใยมาหยาในทุกเรื่องรวมถึงเรื่องการเรียนที่จะมาถึงเพราะเธอใกล้จะเรียนจบแล้ว เขาไม่ได้หวงที่เธอไปเรียน แต่เขาหวงที่เธอต้องพบเจอผู้ชายมากหน้าหลายตาที่ต้องมารุมขายขนมจีบเธอแน่นอน แม้จะแต่งงานกันแล้วก็ไม่วายที่จะห่วงมาหยา"นายหัวเที่ยงแล้วออกไปหาอะไรกินกันดีกว่านะจ๊ะ"มายาที่นั่งทำงานอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวที่รีสอร์ทของอัสลานที่เห็นว่าเวลาล่วงเลยเที่ยงกว่าแล้วแต่อัสลานยังไม่มีท่าทีจะลุกไปทานข้าว"ฉันลืมเวลาเลยนะเนี่ย""งั้นเราไปกินข้าวกันเถอะจ้ะ""ไปสิ วันนี้เธออยากกินอะไรล่ะมายา""เราไปกินข้าวผัดปูที่ร้านป้าศรีกันไหมจ๊ะที่นั่นมีห้องแอร์ในหัวจะได้ไม่ร้อนด้วย"มาหยาออกความคิดทุกอย่างเผื่อนายหัวที่เธอรัก"ขอบคุณที่คิดเผื่อฉันเสมอนะฉันรักเธอนะมาหยา"ในวันเสาร์มาหยาจะช่วยอัสลานที่รีสอร์ทเพื่อเคลียร์งานต่างๆส่วนวันอาทิตย์เธอจะเข้าไปดูร้านขนมด้วยตัวเอง โดยจะมีนายหัวใหญ่คอยเป็นหูเ
แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงบนไร่ชาเขียวขจีที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ณ ใจกลางไร่ชาแห่งนี้ บ้านไม้สักหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม นี่คือบ้านของคามิโล อดีตมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลที่ผันตัวมาเป็นชาวไร่ชา และจันทร์ฉาย ภรรยาชาวใต้ผู้เข้มแข็งของเขาอัสลานพามาหยามาถึงไร่ชาด้วยรถยนต์คันหรู มาหยารู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อเห็นบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ ที่เธอเคยมาเยือนแล้วตรงหลังถัดไป แต่เมื่อคามิโลและจันทร์ฉายออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ความกังวลของเธอก็หายไปจนหมดสิ้น"สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่" อัสลานเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"สวัสดีจ้ะลูกชาย มาถึงก็ไม่บอกแม่ก่อนเลยนะ" จันทร์ฉายเอ่ยพลางโผเข้ากอดลูกชายด้วยความคิดถึง"สวัสดีครับคุณพ่อ" อัสลานหันไปทักทายคามิโล"มาถึงก็ดีแล้ว เข้าบ้านกันเถอะ"เมื่อเข้ามาในบ้าน มาหยาก็รู้สึกประทับใจกับการตกแต่งที่เรียบง่ายแต่หรูหรา เฟอร์นิเจอร์ไม้สักแกะสลักอย่างประณีตบ่งบอกถึงรสนิยมอันดีของเจ้าของบ้าน"นี่มาหยาครับ คนรักของผม" อัสลานแนะนำมาหยาให้พ่อแม่รู้จัก"สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่" มาหยายกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม"สวัสดีจ้ะหนูมาหยา ยินดีต้อนรับนะจ๊ะ น่าตาหน้ารักใช่ได้เลยนะ ลู