แชร์

ตอนที่ ๗ ความแค้นที่ฝังลึก

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-14 10:40:59

ปัง! เพล้ง!

"เหลวไหล!" เสียงข้าวของภายในห้องทรงพระอักษรของฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าซ่ง ผู้มีนามว่าหรูเซ่อ ความพิโรธของโอรสสวรรค์ในครานี้นับว่าร้ายแรงกว่าทุกครั้ง เมื่อได้ทราบข่าวจากโอรสองค์โต

"ฝ่าบาทอย่าทรงกริ้วไปเลยพ่ะย่ะค่ะ ขอทรงโปรดรักษาพลานามัยด้วย"

"หึ แม้ว่าเจิ้นจะรู้ว่าเสด็จแม่มีแค้นฝังลึกกับตระกูลเมิ่ง แต่ไม่คิดว่านางจะเลอะเลือนถึงขนาดคิดสังหารเหลนของตนเองเช่นนี้ หากตู๋กูรั่วหวาเป็นอันใดไปแล้วของวิเศษของตระกูลเมิ่งจะตกเป็นของผู้ใด? จะใช้งานก็ไม่ได้เหตุใดจึงได้..." โอรสสวรรค์ทรงมีโทสะอย่างถึงที่สุดหากให้ย้อนกลับไปเรื่องราวแต่หนหลังถึงต้นเหตุของความแค้นจะมีผู้ใดต้องการกล่าวถึง

เป็นเพราะพี่สาวที่โง่งมของเขาองค์หญิงใหญ่ที่แต่งไปกับทายาทสายหลักของตระกูลเมิ่งผู้นั้น หากนางไม่นำความลับของตระกูลเมิ่งมาเปิดเผยให้เสด็จพ่อได้รู้ทุกคนย่อมไม่ต้องตาย แม้แต่นางและสามีของนางก็ไม่อาจรอดพ้นสัญญาเลือดที่ว่านั้นไปได้! แม้ว่าเขาเองจะอยากรู้อยู่มากหากแต่ไม่คิดเสี่ยงแม้แต่น้อยและย่อมต้องให้ทายาทตระกูลเมิ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของราชวงศ์เช่นนี้ตลอดไปย่อมดีกว่า สิ่งที่น่ากลัวคือการไม่รู้ว่าอีกฝ่ายสามารถทำสิ่งใดได้บ้าง มันคือฝันร้ายทั้งชีวิตของราชวงศ์ตู๋กูอย่างแท้จริง

ต่อให้ตระกูลเมิ่งจะมีบุญคุณต่อแคว้นแล้วอย่างไร สิ่งที่ไม่สามารถครอบครองได้ย่อมเป็นภัยในภายหน้า

ณ ค่ายพยัคฆ์คำราม

"คารวะท่านอ๋อง คนร้ายปลิดชีพตนเองแล้วขอรับ"

"ช่างเถอะ เปิ่นหวางเองก็พอรู้อยู่แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลัง"

"ท่านอ๋องจะทรงทำเช่นไรต่อไปขอรับ"

"ปกปิดเรื่องที่นางยังไม่ตายเอาไว้ อย่าให้คนของผู้นั้นสืบความได้"

"ข้าน้อยทราบแล้ว"

ในวันที่เมิ่งจิ่วซือถูกลอบสังหารเป็นเขาที่ช้าไปก้าวหนึ่ง และเมื่อไปถึงก็พบว่ามีองครักษ์ของคนผู้นั้นซุ่มอยู่ไม่ไกล จึงทำให้ชายหนุ่มปฏิเสธที่จะช่วยเหลือนางก่อนจะส่งคนลงไปอีกครั้งในภายหลัง ตู๋กูหรงเซ่อรู้ดีว่าเสด็จย่าของเขาผู้นั้นมักหวาดระแวงเป็นอย่างมากทั้งยังมีความแค้นที่ฝังลึกกับตระกูลเมิ่ง แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดนางจึงคิดลงมือกับเมิ่งจิ่วซือในครั้งนี้หรือว่าจะถูกยุยงจากผู้ใดและเสด็จพ่อของเขารับรู้เรื่องนี้หรือไม่? ย่อมเป็นเรื่องที่เขาไม่คิดที่จะค้นหาคำตอบ ก่อนจะปล่อยให้เรื่องราวทุกอย่างเป็นไปราวกับไม่ใช่เรื่องของตนเองทั้งสิ้น

หากจะถามหาคนผิดก็ย่อมเป็นเมิ่งจิ่วซือที่ดันเกิดมาเป็นคนตระกูลเมิ่ง ทั้ง ๆ ที่เดิมทีแล้วท่านปู่ของนางและนางเป็นเพียงทายาทสายรองเท่านั้น ผู้ที่ครอบครองของวิเศษเดิมทีก็เป็นท่านปู่ใหญ่ผู้นั้นของนางแต่ผู้ใดใช้ให้ท่านลุงใหญ่ของนางแต่งงานกับเสด็จป้าผู้โง่งมคนนั้นของเขากัน เรื่องมันจึงได้กลายเป็นพังพินาศเช่นนี้

คนในตระกูลเมิ่งทั้งหมดในจวนล้วนแล้วแต่ตายตกเพราะโรคระบาดในสามวัน รวมถึงเสด็จปู่ของเขาที่หมอหลวงแจ้งว่าติดเชื้อโรคระบาดจากพระธิดา แต่คนในราชวงศ์เช่นพวกเขาย่อมรู้ดีว่าไม่ใช่แต่เพราะถูกคำสาปของตระกูลเมิ่งต่างหากคนภายนอกที่ไม่ใช่ทายาทที่แท้จริงหากเปิดเผยเรื่องราวความลับนี้ย่อมต้องมีอันเป็นไปด้วยสัญญาเลือด นับแต่นั้นมาราชวงศ์ตู๋กูก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัวตระกูลเมิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

ณ หมู่บ้านตระกูลเสิ่น

รถม้าคันหนึ่งพาร่างของหญิงชราท่าทางทรุดโทรมผู้หนึ่งมาทิ้งเอาไว้หน้าจวน ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือจากไห่หมัวมัว อาฉือรีบเข้าไปรายงานนายหญิงในเรื่องนี้ทันที และเมื่อเมิ่งจิ่วซือมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องรับรองก็พบกับคนที่คุ้นเคยที่นางคิดว่าได้ตายไปแล้ว ภาพเหตุการณ์เกี่ยวกับคนตรงหน้าหลั่งไหลผ่านความทรงจำของนางมาเรื่อย ๆ จนรับรู้ได้ว่าคนตรงหน้านั้นคือผู้ใด

"เกาหมัวมัว!" เกาเจิ้งที่ได้ยินเสียงคุ้นหูพยายามเงยหน้าขึ้นมองดูก่อนจะพบใบหน้างดงามเป็นหนึ่งไม่มีสองของเมิ่งจิ่วซือ หญิงชราก็ร่ำไห้ออกมาพร้อมกับคลานเข่าเข้ามากอดขาของหญิงสาว

"ฮือ ๆ นายหญิง นายหญิงของบ่าว ท่านยังไม่ตาย ท่านยังไม่ตายจริง ๆ ด้วย ฮือ ๆ"

"เกิดอันใดขึ้น! เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี่ได้?"

"เป็นท่านอ๋องเพคะ ท่านอ๋องให้คนของเขาส่งบ่าวมาที่นี่" เกาเจิ้งที่มัวแต่ยินดีเผลอหลุดปากพูดออกมา หากแต่จะปิดบังก็ไม่ทันเสียแล้ว ในตอนที่ทั้งเมืองหลวงต่างมีข่าวลือว่าพระชายาเป่ยติ้งหรงอ๋องสิ้นพระชนม์เพราะโจรป่า นางเองก็ถูกเฉดหัวออกจากจวนอ๋อง ก่อนจะเร่ร่อนอยู่นานนับเดือนแล้วพบกับองครักษ์ของเป่ยติ้งหรงอ๋องพาขึ้นรถม้ามาแล้วนำนางมาทิ้งไว้ยังหน้าเรือนแห่งนี้และเมื่อได้พบหน้านายหญิงนางก็เข้าใจในทันที

หว่านหว่านได้ยินที่เกาหมัวมัวกล่าวหญิงสาวก็ขมวดคิ้วทันที เหตุใดเขาจึงรู้ว่านางอยู่ที่นี่! หญิงสาวเกิดความหวาดระแวงหากแต่ก็เกิดความรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา ในเมื่อเขารู้ว่านางอยู่ที่นี่หากแต่ไม่คิดทำอันใดหรือว่าคนที่สั่งการให้สังหารนางจะไม่ใช่เขา

"ช่างเถอะ ต่อไปท่านไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องนี้อีก รบกวนไห่หมัวมัวช่วยดูแลแม่นมของข้าด้วย นางแก่แล้วอาจจะพูดจาเลอะเลือนไปบ้าง"

"เจ้าค่ะ"

"เชิญแม่นมเกาทางด้านนี้เจ้าค่ะ" เกาเจิ้งมองดูนายหญิงที่เปลี่ยนไปไม่น้อยของนาง หญิงชรารับรู้ได้ทันทีจากสายตาของนาง หากแต่นางไม่รู้ว่านายหญิงของตนนั้นเปลี่ยนไปเช่นไรหรืออาจจะเพราะพึ่งผ่านความเป็นความตายมาได้ จึงทำให้เป็นเช่นนี้ก็เป็นได้

หว่านหว่านมาอยู่ในร่างของเมิ่งจิ่วซือผู้นี้หากนับเวลาก็เกือบสามเดือนแล้ว หญิงสาวไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอกมากนักเป็นเพราะยังหวาดระแวงอยู่มาก หากแต่เมื่อได้ลองศึกษาแผนที่และประวัติของแคว้นจนแน่ชัดจึงได้เริ่มเข้าใจว่าที่นี่ห่างจากเมืองหลวงแคว้นต้าซ่งนับพันลี้ เจียงหนานแห่งนี้นับว่าเป็นพื้นที่ปิดมีอ๋องผู้ครองเมืองผู้หนึ่ง มีกองทัพของตนเองและไม่ยุ่งเกี่ยวสุงสิงกับราชวงศ์และหมู่บ้านแห่งนี้ก็นับว่าเงียบสงบอยู่มาก หากจะกล่าวไปแล้วหากตู๋กูหรงเซ่อต้องการสังหารนางจริง ๆ ก็คงจะลงมือไปนานแล้วในเมื่อเขารู้แล้วว่านางอยู่ที่นี่หากแต่ก็ไม่มาวุ่นวายเช่นนั้นก็นับว่าเป็นการดี นางและเขาไม่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก

"อ๊ะ คุณหนูของบ่าว เริ่มเดินเก่งแล้วเจ้าค่ะ เก่งที่สุดเจ้าค่ะ" เสียงของอาเป่าที่วัน ๆ เอาแต่ชื่นชมคุณหนูน้อยเพิ่มมากขึ้น หวาหวาเองก็เดินเก่งขึ้นทุกวัน ทั้งยังเริ่มหัดพูดได้อีกหลายคำแล้ว ในเมื่อนางเริ่มโตก็ควรจะมีของเล่นที่เสริมพัฒนาการให้กับนางอยู่บ้าง หญิงสาวคิดวางแผนทำเครื่องเล่นให้กับบุตรสาวในขณะเดียวกันก็ดูเหมือนว่าที่เรือนของนางจะมีคนมาเยี่ยมเยือนอีกแล้ว

เสียงวุ่นวายทำให้อาฉือต้องรีบเดินออกไปดูก่อนจะพบกับบรรดาหญิงสาวในหมู่บ้านที่เหมือนรวมตัวกันมาที่นี่โดยเฉพาะ

"พวกท่านมีสิ่งใดหรือเจ้าคะ" อาฉือเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะมองประเมินหญิงสาวเหล่านั้น ดูเหมือนว่าพวกนางจะผลักให้กัวอวิ๋นเป็นผู้นำในเรื่องวันนี้

"เอ่อ! แม่นางอาฉือไม่ทราบว่าเมิ่งฮูหยินอยู่ที่เรือนหรือไม่"

"พวกท่านมีธุระอันใดกับนายหญิงงั้นหรือ" อาฉือคือสาวใช้ขั้นหนึ่งที่ถูกฝึกมาให้ดูแลเมิ่งจิ่วซือโดยเฉพาะ นางไม่จำเป็นต้องไว้หน้าผู้ใดหรือกระทั่งไม่จำเป็นต้องอ่อนน้อมต่อเหล่าสตรีตรงหน้า

"เกิดอันใดขึ้นหรือ?" เมิ่งจิ่วซือที่มองดูเหตุการณ์วุ่นวายอยู่นานจึงได้ก้าวออกมา ความงดงามที่เป็นหนึ่งไม่มีสองของหญิงสาวทำเอาสตรีที่รวมตัวกันอยู่บริเวณด้านหน้าเรือนถึงกับหายใจสะดุด ใบหน้าเรียวเล็ก มือเรียวและผิวขาวราวหิมะ ความงามเช่นนี้สามารถสังหารผู้คนให้ตายตกได้เพียงเพราะเฝ้ามองนางได้จริง ๆ เดิมทีพวกนางต้องการมาเชิญหญิงสาวให้เข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองของหมู่บ้านเท่านั้น แต่ที่แห่แหนกันมาเยอะแยะก็เพียงแค่ต้องการเห็นใบหน้าของหญิงงาม

"เรียนนายหญิง ท่านป้ากัวกล่าวว่าจะขอพบท่านเจ้าค่ะ"

"พวกท่านมีธุระอันใดกับข้างั้นหรือ" เหล่าสตรีทั้งหลายต่างพากันมองหน้ากันไปมาไม่กล้าเอ่ย อาจเพราะรู้สึกเกรงใจหรือว่าเกรงกลัวก็มิรู้ได้

"เมิ่งฮูหยิน พรุ่งนี้ที่หมู่บ้านของเราจะมีงานเลี้ยง ท่านสนใจอยากเข้าร่วมหรือไม่?"

"ได้ ข้าจะไป ขอบคุณพวกท่านมากที่นึกถึงข้า"

"มิได้ ๆ เห็นท่านอยู่แต่ในเรือน พวกข้าก็กลัวว่าท่านจะเหงา อย่างไรพรุ่งนี้ก็ไปร่วมสนุกด้วยกันเถิดเจ้าค่ะ" สตรีผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นบ้าง

"ข้าจะไปอย่างแน่นอน" หญิงสาวรับปากอีกครั้ง

"ดียิ่ง ๆ เช่นนั้นพวกข้าขอลากลับก่อน" กัวอวิ๋นผู้นำเหล่าสตรีส่งยิ้มกลับมาให้เมิ่งจิ่วซือก่อนจะดันหลังสตรีเหล่านั้นให้กลับไปพร้อม ๆ กันอย่าได้อยู่รบกวนเมิ่งจิ่วซืออีก

หลังจากอาฉือปิดประตูหน้าเรือนแล้วก็หันมาเอ่ยกับนายหญิงของตน

"นายหญิงจะไปร่วมงานจริง ๆ หรือเจ้าคะ"

"ใช่ พวกเจ้าก็ไปเสียด้วยกัน อย่างไรก็ต้องอยู่ที่นี่ไปอีกสักพักใหญ่ หากว่าปลอดภัยก็อาจจะอยู่นานหน่อย ไม่ต้องระวังตัวมากเพียงนั้น ควรใช้ชีวิตให้มีความสุขเสียบ้าง"

"เจ้าค่ะ บ่าวทราบแล้ว"

หลังจากที่สตรีเหล่านั้นเดินจากมาไม่ไกลใครคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ

"จะว่างามก็งามอยู่หรอก แต่นางจะทำตัวสูงส่งเกินไปหรือไม่เหตุใดต้องให้พวกเรามาเชิญนางถึงเรือนเช่นนี้ด้วย" นางคือชุยฟางเป็นหลานสาวของท่านผู้เฒ่าผู้นำหมู่บ้าน มารดาของนางคือบุตรสาวเพียงคนเดียวของลู่ถง ที่ติดตามสตรีเหล่านี้มาเรือนสกุลเมิ่งก็เพื่อต้องการอยากจะเห็นใบหน้าที่ผู้คนร่ำลือหนักหนาว่างดงามล่มเมืองของเมิ่งจิ่วซือ แต่งดงามแล้วอย่างไรมิใช่ว่านางแต่งงานมีบุตรแล้วหรอกหรือ หาได้เป็นบุปผาเยาว์วัยเช่นนางไม่หากจะกล่าวชุยฟางนับได้ว่าเป็นหญิงงามแห่งหมู่บ้านตระกูลเสิ่น นางมักมั่นใจในความงามของตนเองเป็นอย่างยิ่ง จนกระทั่งเมิ่งจิ่วซือได้ปรากฏตัวขึ้นความงามของนางก็ดูเหมือนจะกลายเป็นเพียงบุปผาริมทางเท่านั้น

"แต่เมิ่งฮูหยินก็งดงามมากจริง ๆ แม้ว่าเสื้อผ้าที่นางสวมใส่ในวันนี้จะดูเรียบง่ายแต่ก็ยังมิอาจบดบังความงามที่เป็นเลิศนี้ได้แม้แต่น้อย"

"ใช่ ๆ ทั้งยังใจดี มักจะส่งขนมมาฝากให้บุตรสาวของข้าบ่อย ๆ" สตรีผู้หนึ่งที่เรือนของนางอยู่ไม่ไกลจากเรือนของเมิ่งจิ่วซือเอ่ยขึ้น นางมีบุตรสาวที่ยังเล็กอายุไล่เลี่ยกับบุตรสาวของเมิ่งจิ่วซือ 

"หึ! ก็แค่ธรรมดา ๆ ดาษดื่นพวกเจ้าอดอยากมาจากที่ใดกันไม่เคยกินของดี ๆ กันงั้นหรือจึงได้ตื่นเต้นดีใจถึงเพียงนั้น!" กล่าวจบชุยฟางก็สะบัดตัวจากไปด้วยความริษยา

"นางเป็นอันใดของนางกัน?" สตรีผู้หนึ่งกล่าว

"เป็นโรคริษยาน่ะสิ! จะอะไรเสียอีก" กัวอวิ๋นที่มักได้รับขนมจากเมิ่งจิ่วซือเอ่ยขึ้นอย่างหมั่นไส้ เดิมทีชุยฟางมักจะคิดว่าตนสูงส่งมาตลอดจึงไม่เคยเห็นหัวผู้ใด มาวันนี้พบสตรีที่สูงส่งกว่านางทุกด้านต้องรู้สึกหงุดหงิดเป็นธรรมดาอยู่แล้ว หึ สมน้ำหน้านางนัก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๘ เทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง

    "นายหญิงเจ้าคะ ท่านพ่อบ้านจวนเสิ่นมาขอพบเจ้าค่ะ" อาฉือเข้ามารายงานเมิ่งจิ่วซือในขณะที่หญิงสาวกำลังจับบุตรสาวแต่งตัวราวกับตุ๊กตา หวาหวาตัวน้อยที่ได้ยินเช่นนั้นดวงตาของนางก็เบิกกว้างราวกับดีใจ หว่านหว่านที่เห็นเข้าพอดีก็อดแปลกใจไม่ได้ เหตุใดเจ้าตัวเปี๊ยกต้องดีใจถึงเพียงนี้ด้วย หึ! ช่างน่าเอ็นดูนักราวกับฟังออกว่ามีคนมาหามารดา"หวาหวารอแม่ก่อนนะลูก เดี๋ยวแม่จะรีบกลับมา" นางก้มลงหอมแก้มนุ่มทั้งสองข้าง เด็กน้อยทำท่าทีแกว่งมือโบกไปมาคล้ายจะบอกมารดาว่าไม่ต้องรีบ"แอ้!""คุณหนูเหมือนฟังรู้ความเลยนะเจ้าคะ ฮิฮิ คุณหนูของอาเป่าเก่งที่สุดเลยเจ้าค่ะ" อาเป่าตัวน้อยที่มักจะเยินยอเจ้าเด็กตัวเปี๊ยกอยู่ทุกวัน หว่านหว่านเห็นเช่นนั้นก็คิดในใจว่าภายหน้าเจ้าตัวเปี๊ยกจะต้องกลายเป็นหัวโจกส่วนอาเป่าก็คือหนึ่งในลูกสมุนของนางอย่างแน่นอนนางเดินออกจากห้องมายังห้องรับรองเพื่อพบกับท่านพ่อบ้านไห่ ชายชรามาพร้อมกับข้าวของมากมาย หญิงสาวได้แต่เลิกคิ้วสงสัย"คารวะนายหญิง บ่าวมาเป็นตัวแทนนาย คุณชายใหญ่นำผ้ามามอบให้แก่นายหญิงกับคุณหนูน้อยขอรับ""มิใช่นายท่านผู้เฒ่าแต่เป็นคุณชายใหญ่ของพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ?" ในที่สุดก็ยอมออก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๙ งานเลี้ยงแสดงความยินดี

    ณ งานเลี้ยงที่เรือนของท่านผู้เฒ่าผู้นำหมู่บ้าน ข้างเรือนที่เป็นลานกว้างสามารถจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ของคนในหมู่บ้านได้อย่างพอดิบพอดีเมิ่งจิ่วซือพาคนของนางมาร่วมงานเลี้ยงด้วยเพื่อที่จะได้เปิดหูเปิดตา ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในเรือน พร้อมกับนำขนมหวานและอาหารคาวที่สั่งมาจากในเมืองมาร่วมในงาน อาหารรสชาติบ้าน ๆ ถูกอาหารหน้าตาหลากหลายทั้งคาวหวานดึงดูดใจ ทำเอาผู้คนต่างน้ำลายสอ"ขอบคุณเมิ่งฮูหยินที่มาร่วมงาน ทั้งยังช่วยเหลือเรื่องอาหารน่ากินทุกอย่างเลยเจ้าค่ะ" คำกล่าวนี้จะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากป้ากัวสายข่าววงในประจำหมู่บ้าน"ขอเพียงพวกท่านทานให้อร่อยก็พอ" หญิงสาวเอ่ยเรียบ ๆ พร้อมกับส่งยิ้มให้ โต๊ะของหญิงสาวถูกจัดแยกอย่างโดดเดี่ยวแต่นางไม่อยากเป็นจุดสนใจมากเกินไป จึงได้ขอร่วมโต๊ะกับท่านผู้เฒ่าและภรรยา หญิงชราผู้เป็นภรรยาของท่านผู้เฒ่าผู้นำหมู่บ้านนั้น นางเป็นบุตรสาวคนที่สามของรองแม่ทัพผู้หนึ่งในสมัยก่อนที่บิดาจะสิ้นใจในสนามรบ เพราะท่านผู้เฒ่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของบิดาจึงได้ตบแต่งกัน นางพอมีความรู้อยู่บ้าง ศาสตร์ศิลป์ก็พอได้ร่ำเรียน ทั้งยังเคยได้เข้าร่วมงานเลี้ยงใหญ่ ๆ ก่อนจะแต่งงานออกเรือนจึงทำให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๑๐ เรื่องน่ายินดี

    เมื่อขึ้นมาอยู่บนรถม้าหญิงสาวคิดว่าเรื่องเมื่อครู่จะปล่อยผ่านไปเฉย ๆ ไม่ได้ เจ้าตัวเปี๊ยกเริ่มฉายแววความเป็นลาสต์บอสตั้งแต่อายุหนึ่งขวบเห็นทีจะไม่ไหวจริง ๆ ร้ายได้บิดามาเต็ม ๆ เหมือนกันถึงเพียงนี้เลย"หวาหวาลูกรัก ครั้งหน้าอย่าได้ชี้นิ้วใส่ผู้ใดอีกนะลูก มันเป็นมารยาทที่ไม่สุภาพหากเราไม่พอใจผู้ใดเราไม่ควรแสดงออกอย่างเปิดเผยแต่ควรจะมีวิธีที่ดีกว่าในการจัดการ"รั่วหวาเงยหน้ามองมารดาแล้วทำตาโต ก่อนที่ดวงตากลมโตทั้งสองจะเริ่มสั่นเครือและเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา หญิงสาวที่เห็นเช่นนั้นก็ไม่แปลกใจอีกต่อไปและเข้าใจว่าบุตรสาวเข้าใจในสิ่งที่นางกล่าววันนี้อย่างแน่นอน ก่อนจะโอบประคองร่างน้อยเข้ามากอดพร้อมกับลูบหลังเบา ๆ "ลูกรัก เพราะแม่อยากจะให้ผู้อื่นรักและเอ็นดูเจ้า ไม่รังเกียจเจ้า เราไม่จำเป็นต้องแสดงนิสัยที่แท้จริงให้ผู้ใดได้รู้และเจ้าสามารถแสดงออกได้อีกหลายแบบ ความคิดบางความคิดเราต้องเก็บไว้ในใจไม่จำเป็นต้องแสดงออกมา หวาหวาของแม่น่าเอ็นดูปานนี้ ทุกคนจะต้องรักเจ้าอย่างแน่นอน"ฮึก ฮึก ฮึกเสียงร่ำไห้กระซิกบนไหล่ของมารดาในขณะที่น้ำตาไม่ได้เอ่อล้นออกมาเฉกเช่นเมื่อยามที่อยู่ต่อหน้ามารดาแล้ว มีเพียงดวงต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๑๑ ช่วยรักษา

    ผ่านเข้าสู่ปลายฤดูเก็บเกี่ยวทุ่งข้าวที่สีเหลืองทองอร่ามถูกเก็บเกี่ยวออกจากต้นเหลือไว้เพียงต้นตออากาศที่เริ่มเย็นเช่นนี้ต้องได้กินหม้อไฟถึงจะดี ว่าแต่วันนี้ลงมือทำหม้อไฟก็ดีไม่น้อย หว่านหว่านเอ่ยเรียกสาวใช้อย่างอาฉือ หากจะทำหม้อไฟก็ควรเข้าเมืองไปเดินหาเลือกซื้อของที่ตลาดเสียหน่อยเมื่อพูดคุยกันเข้าใจแล้วจึงออกเดินทางไปยังตลาดโดยมีอาฉือและองครักษ์จางติดตามไปด้วย หมู่บ้านตระกูลเสิ่นห่างออกไปจากตัวอำเภอราวหนึ่งชั่วยาม ภายในตัวอำเภอไท่อู่มีตลาดที่ค่อนข้างคึกคัก หญิงสาวใช้เวลาเดินตลาดนานกว่าครึ่งวันเพราะมัวแต่เพลิดเพลินไปกับข้าวของที่แปลกตา ทั้งยังหาซื้อของฝากไปให้เจ้าตัวเปี๊ยก มองดูสิ่งใดก็น่าซื้อหาไปหมดภายหลังเมื่อนึกขึ้นได้จึงได้รู้ว่ารถม้าของนางไม่อาจบรรจุข้าวของได้มากเกินกว่านี้แล้ว"เอ่อ นายหญิงเจ้าคะ ท่านจะให้บ่าวไปจ้างรถม้าอีกสักคันดีหรือไม่เจ้าคะ" เมิ่งจิ่วซือหันไปมองหน้าสาวใช้ รู้สึกว่าวันนี้อาฉือของนางพูดได้ดียิ่ง"เช่นนั้นเจ้ารีบไปจัดการเถิด"หลังจากเอ่ยให้สาวใช้ไปว่าจ้างรถม้าอีกคันมาเพื่อขนข้าวของ ส่วนนางก็เดินเล่นอยู่บริเวณนั้นไปเรื่อย ๆ เป็นเพราะสวมหมวกคลุมหน้าจึงทำให้นางเดิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๑๒ เด็กน้อยจอมเจ้าเล่ห์

    เมื่อกลับถึงเรือน นางก็ต้องแปลกใจเมื่อที่เรือนต่างดูวุ่นวายกันไปหมด สีหน้าร้อนรนของสาวใช้อาวุโสทั้งสองทำให้นางต้องเลิกคิ้ว สัญชาตญาณกำลังบอกว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้ว!"เกิดอันใดขึ้นงั้นหรือ?" หญิงสาวเอ่ยถามสาวใช้อาวุโสทั้งสอง"คุณหนูน้อยหายไปเจ้าค่ะ บ่าวสามคนหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ""หายไป? ตั้งแต่เมื่อใด" หว่านหว่านเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดี หัวคิ้วของนางขมวดยุ่งเป็นปม"ราว ๆ สักชั่วยามได้แล้วเจ้าค่ะ""หาดีแล้วหรือ? ในตู้ ใต้เตียงเล่า หาแล้วหรือยัง?""ยะ ยังเจ้าค่ะ""เช่นนั้น ก็แยกย้ายกันหาอีกรอบเถิด""เจ้าค่ะ"ทุกคนในเรือนรวมถึงองครักษ์เงาของเมิ่งจิ่วซือถูกสั่งให้ตามหาตู๋กูรั่วหวาจนทั่ว หากแต่ผ่านไปเกือบชั่วยามแล้วแต่ก็ไม่เจอเด็กน้อยอยู่ดี หญิงสาวรู้สึกใจเสีย ดวงตาของนางเริ่มแดงก่ำเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้เด็กน้อยจะเป็นเช่นไร หรือว่าจะมีคนจับตัวบุตรสาวของนางไปหากแต่เมื่อสอบถามเหล่าองครักษ์แล้วก็ไม่พบคนแปลกหน้าเข้าออกแต่อย่างใดอาจเพราะเจ้าตัวเปี๊ยกกำลังอยู่ในช่วงเดินเก่งใหม่ ๆ จึงชอบไปแอบซุกตรงนั้นตรงนี้ตามประสาเด็กเพราะนึกว่าเป็นเรื่องสนุก ก่อนจะออกคำสั่งให้คนของนางตามหากันอีกครั้งคราวนี้ขยายวงกว้างอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๑๓ เจ้าเด็กติดแม่

    เช้าวันต่อมาก็เป็นอีกวันที่เจ้าตัวเปี๊ยกเอาแต่เกาะติดนางไม่หยุด ทั้งเล่นทั้งหัวเราะ ทำเอาทั้งเรือนสดใสไปหมดในขณะที่เมิ่งจิ่วซือกำลังเดินไปมาในห้องเด็กน้อยก็แกล้งวิ่งเข้ามาเกาะขาทั้งสองข้างของนางก่อนจะใช้ก้นเล็กนั่งทับไปที่หลังฝ่าเท้า ยามที่หญิงสาวเดินไปมาร่างเล็กของเจ้าตัวเปี๊ยกก็ถูกลากไปด้วยเกิดเป็นภาพที่ตลกขบขันของเหล่าสาวใช้ เด็กน้อยเองก็รู้สึกสนุกสนานเอาแต่หัวเราะร่าไม่หยุด แม้ว่าน้ำหนักของบุตรสาวจะเริ่มมากขึ้นและค่อนข้างหนักหากแต่เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสนุกของเด็กน้อย นางก็อดที่จะทำตามใจบุตรสาวไม่ได้เลย"หวาหวาเจ้าคงเหนื่อยแล้ว หมัวมัวพานางไปอาบน้ำเสียหน่อยเล่นมาครึ่งค่อนวันแล้ว ถึงเวลานอนกลางวันเสียที""เจ้าค่ะนายหญิง" สองบ่าวอาวุโสที่ตอนนี้แทบจะยึดเด็กน้อยเอาไว้กับตัวไม่ห่างพาร่างเล็กหายเข้าไปหลังฉากกั้น น้ำอุ่นถูกยกเข้ามาเติมก่อนที่เสียงหัวเราะจะดังขึ้นหลังฉากกั้นอีกครั้งในแต่ละครั้งกว่าสองบ่าวจะอาบน้ำให้เจ้าตัวน้อยเสร็จก็กินเวลาไปกว่าสองเค่อ เพราะเจ้าเด็กน้อยเอาแต่เล่นสนุกไม่เลิกเสียที เล่นทีก็หัวเราะทีทำเอาสองบ่าวถึงกับยิ้มตามไม่หยุดแต่หากจะขัดใจให้เลิกเล่น อีกฝ่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๑๔ เจอตัวแล้ว

    ณ จวนผู้ตรวจการ"ได้ความว่าอย่างไรทางหอโอสถตามหาหมอผู้นั้นเจอหรือไม่"หม่าจิ่นสือหันไปสอบถามคนของตน ภรรยาของเขามีแนวโน้มว่าจะตั้งครรภ์เป็นทารกแฝดและที่ยังไม่แน่ชัดกว่านั้นคือไม่แน่ใจว่าเป็นสองหรือสาม ในตอนนี้ดูเหมือนว่าร่างกายของนางจะอ่อนล้ามากจากการตั้งครรภ์ในคราวนี้ ก่อนหน้านี้พวกเขานั้นมีบุตรชายผู้หนึ่งอยู่ก่อนแล้วเด็กคนนั้นปีนี้ก็ห้าขวบ การตั้งครรภ์ครั้งที่สองของภรรยาทำให้เขาเป็นกังวลเพราะไม่ว่าหมอคนใดก็กล่าวว่าเด็กในครรภ์นั้นไม่ยอมกลับตัว จะทำให้คลอดยากบางคนถึงกับเสียเลือดมากตายตกไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่คลอด ต่อมาได้ยินข่าวลือว่าหมู่บ้านแห่งหนึ่งมีสตรีที่ตั้งครรภ์ฝาแฝดแล้วเด็กไม่ยอมกลับตัวทั้งยังดูเหมือนว่าจะเสียเลือดมาก หากแต่โชคดีได้หมอเทวดาผู้หนึ่งช่วยเอาไว้จึงทำให้คลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย เขาต้องการตัวหมอผู้นั้นมาเพื่อช่วยทำคลอดให้กับภรรยาของเขาจึงได้พยายามควานหาตัวอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนบางกลุ่มพยายามปกปิดตัวตนของคนผู้นั้นทำให้ตามหาไม่พบสักที"เรียนนายท่าน ทางหอโอสถส่งคนมาแจ้งข่าวว่าตามหาหมอเทวดาผู้นั้นพบแล้วขอรับ""จริงหรือ?""จริงขอรับ? แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ง่ายอย่างที่คิด พว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๑๕ หากไม่สำเร็จก็ต้องใช้กำลัง

    นางกลับเข้าเรือนก่อนจะถอนหายใจออกมา แม้จะรู้สึกเห็นอกเห็นใจสตรีผู้นั้นอยู่บ้างหากแต่นางมิชื่นชอบวิธีการของหอโอสถ ไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะใช้เล่ห์เหลี่ยมอันใดอีกและนางมั่นใจว่าตราบใดที่อีกฝ่ายยังต้องการความช่วยเหลือจากนางจะต้องไม่เลิกราโดยง่ายเป็นแน่!"เรียนนายหญิงคุณหนูน้อยตื่นแล้วเจ้าค่ะ จะให้บ่าวพาคุณหนูเข้ามาเลยหรือไม่เจ้าคะ""ไปพานางเข้ามาเถิด""เจ้าค่ะ"เกาหมัวมัวพาร่างเล็กเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับห้องนอนของนาง ภายในห้องนี้ส่วนใหญ่จะเอาไว้ใช้นั่งดื่มชา เขียนอักษร อ่านหนังสือและพักผ่อนในช่วงกลางวัน แม้ว่าอากาศภายนอกจะร้อนอบอ้าวเพียงใดหากแต่ยามที่นั่งอยู่ในห้องนี้จะรู้สึกเย็นสบายเป็นอย่างมาก เมิ่งจิ่วซือพึ่งสังเกตเห็นถึงองศาของประตูและหน้าต่างโดยรอบต่างอยู่ในทิศทางลมทั้งสิ้น มิน่าเล่า! จึงได้เย็นสบายยิ่งนักแต่หากอยู่ในฤดูหนาวคงต้องปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด มิเช่นนั้นร่างกายคงจะต้องลมเย็นจนกระทั่งเป็นไข้ได้ง่ายตู๋กูรั่วหวาในตอนนี้ทั้งเดินเก่ง ทั้งพูดเก่ง แต่หญิงสาวสังเกตว่านางจะมีท่าทางสดใสร่าเริงเฉพาะเวลาอยู่กับมารดาหรือหมัวมัวอาวุโสเท่านั้น หากในยามปกติที่เด็กน้อยอยู่คนเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16

บทล่าสุด

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๓๐ อา-หลาน

    ตู๋กูรั่วหวาตื่นนอนกลางวันขึ้นมาอย่างงัวเงีย เด็กน้อยลุกขึ้นนั่งบนเตียงดวงตาของนางยังคงหนักอึ้ง ก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้งทำเอาเกาหมัวมัวที่เห็นท่าทางขี้เซาของคุณหนูน้อยของนางถึงกับขบขันอย่างเอ็นดู"คนดีของบ่าวตื่นได้แล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านพ่อมารออยู่นานแล้วนะเจ้าคะ" เกาหมัวมัวเอ่ยกับเด็กน้อย แต่เมื่อรั่วหวาที่ได้ยินว่าบิดาเดินทางมาถึงหมู่บ้านตระกูลเสิ่นแล้วก็ถึงกับแปลกใจ ก่อนจะคิดว่านี่พึ่งผ่านไปเพียงแค่สองวันเองไม่ใช่หรือ? เหตุใดบิดาของนางจึงได้มาเร็วนัก เด็กน้อยเก็บความสงสัยไว้ในใจก่อนจะแสร้งเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น"ท่านพ่อมาแล้วงั้นหรือ?""เจ้าค่ะ" หญิงชราพยักหน้าอาเป่ายกอ่างน้ำเข้ามาพอดีก่อนที่เกาหมัวมัวจะใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำพร้อมกำลังตั้งท่าที่จะเช็ดใบหน้าและเนื้อตัวให้กับเด็กน้อยแต่รั่วหวาปฏิเสธ ก่อนจะหยิบผ้าผืนนั้นมาเช็ดใบหน้าของตนเองด้วยท่าทางราวกับไม่ใช่เด็กน้อยอายุสามขวบปี แล้วส่งคืนผ้าผืนนั้นให้กับเกาหมัวมัว จากนั้นปีนลงจากเตียงด้วยตนเอง"คุณหนูจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ?" อาเป่าเอ่ยถามคุณหนูน้อยของนางเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะเดินออกจากห้อง"ไปหาท่านพ่อน่ะ" กล่าวจบเด็กน้อยก็เดิน

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๒๙ อีกหนึ่งฐานะที่ไม่เคยมีใครรู้

    เมิ่งจิ่วซือที่เพิ่งกลับมาได้เพียงสองวันก็ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องราวเกิดขึ้นอยู่ไม่น้อย วันนี้เป็นวันที่นางจะต้องไปร่วมงานแต่งงานของแม่นางชุยฟางบ้านท่านผู้เฒ่า แต่ในขณะที่กำลังจะออกจากเรือนอยู่ ๆ ก็มีรถม้าคันหนึ่งวิ่งมาก่อนจะจอดเทียบบริเวณหน้าเรือนของนาง เมิ่งจิ่วซือขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่ามีชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินลงมาจากรถม้าชายผู้นั้นสวมชุดผ้าไหมหางโจวเนื้อดีราคาแพง ส่งผลให้รูปร่างที่สูงโปร่งของเขายิ่งขับเน้นให้ดูดียิ่งขึ้น ใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาทำให้เป็นที่สะดุดตาเป็นอย่างมาก หากแต่อีกฝ่ายยิ้มแย้มราวกับว่ารู้จักกับนางมาก่อน ชายหนุ่มเดินเข้ามาก่อนจะเอ่ยทักทายนาง"ท่านคงจะเป็นแม่นางเมิ่งใช่หรือไม่?" เมิ่งจิ่วซือเลิกคิ้วก่อนจะแก้ไขคำพูดของอีกฝ่ายให้ถูกต้อง"รบกวนเรียกข้าว่าฮูหยินเมิ่งเถิดเจ้าค่ะ ข้าเป็นสตรีที่ออกเรือนแล้วไม่เหมาะสมหากว่าท่านจะเรียกขานเช่นนั้น" หญิงสาวกล่าวตอบออกไปด้วยน้ำเสียงติดเย็นชาเล็กน้อย"อ้อ ข้าต้องขออภัย""ไม่ทราบว่าท่านเป็นใครหรือเจ้าคะ แล้วมาที่นี่มีธุระอันใด" เมิ่งจิ่วซือไม่อยากอ้อมค้อม"ข้าลืมแนะนำตัว ข้ามีนามว่าเสิ่นชิงหลวน""เสิ่นชิงหลวน คุณชายใหญ่เสิ่นน่ะหรือ

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๒๘ ข่าวสาร

    เมิ่งจิ่วซือพาบุตรสาวเดินทางกลับมายังหมู่บ้านตระกูลเสิ่น ยามที่เดินทางมาถึงไห่หมัวมัวและเกาหมัวมัวต่างก็ดีอกดีใจ ก่อนจะรับตู๋กูรั่วหวาที่โตขึ้นมากไปดูแลทันที จากไปหลายเดือนแต่ที่นี่ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ในยามที่รถม้าจอดเทียบหน้าเรือนไม่นานก็มีผู้คนผ่านมาเยี่ยมเยือนหากแต่มิใช่ใครที่ไหนแต่ก็เป็นป้ากัวคนเดิม"นายหญิงเมิ่งกลับมาแล้วหรือ?" กัวอวิ๋นเอ่ยถามองครักษ์จางที่ทำหน้าที่ยกข้าวของเข้าเรือน"กลับมาแล้วขอรับ" จางเซียงอวี้ที่พอรู้จักกับกัวอวิ๋นจึงตอบนางไป ก่อนที่อาฉือที่เดินมาพอดีพบเข้า"อ้าว แม่นางอาฉือ สบายดีหรือ?""สบายดีเจ้าค่ะ ท่านป้ามีธุระอันใดงั้นหรือ?""เปล่า ๆ ไม่มีอันใดเพียงแต่เห็นว่านายหญิงเมิ่งไม่อยู่เสียนานเลยอยากจะแวะมาทักทาย""เช่นนั้นเชิญท่านเข้าเรือนก่อนเถิด" อาฉือเอ่ยชักชวนอีกฝ่ายเข้าเรือน เพราะยามที่เดินทางกลับมาที่นี่เมิ่งจิ่วซือย้ำให้พวกนางเป็นมิตรกับคนในหมู่บ้านเสียหน่อย อาฉือจึงได้มีท่าทีอ่อนลงกว่าเมื่อก่อนอยู่หลายส่วนกัวอวิ๋นที่เห็นว่าตนเองได้รับการต้อนรับก็รู้สึกยินดีตามประสาหญิงวัยกลางคนที่อยู่คนเดียวอย่างเงียบเหงา เดิมทีสามีของนางนั้นเป็นทหารเพียงแต่เสียช

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๒๗ กลับหมู่บ้านตระกูลเสิ่น

    เมิ่งจิ่วซือยังคงรู้สึกว่านางและบุตรสาวมาอยู่ที่เจียงหนานได้เพียงไม่นานจริง ๆ แต่วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วนับจากตอนนั้นมาถึงตอนนี้ก็กลับเข้าสู่เหมันต์ฤดูอีกครั้งอีกไม่นานก็จะปีใหม่แล้ว หวาหวาที่ในตอนนั้นเพียงสองขวบปีมาถึงตอนนี้ก็ก้าวเข้าสู่สามขวบ เขาถึงว่ากันว่าความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอเมิ่งจิ่วซือลองคิด ๆ ดูแล้วว่านางควรจะกลับไปยังหมู่บ้านตระกูลเสิ่นอีกสักรอบหนึ่ง เพื่อบอกลาทุกคนที่นั่นและรับตัวคนของนางมาอยู่เจียงหนานเป็นการถาวร อย่างไรก็ตามเรื่องที่นางจะต้องปกป้องดูแลรั่วหวาไปจนกว่าเด็กน้อยจะเติบใหญ่ก็ยังเป็นภารกิจที่หนักหนาจะมามัวแต่เขินอายมิได้ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ของนางและเป่ยติ้งหรงอ๋องแม้จะรู้ว่าเขาคิดเช่นไรกับตนเองก็ตาม แต่เพราะนางไม่ต้องการหลอกลวงเขาจึงได้เว้นระยะห่างในความสัมพันธ์ของทั้งสองคนให้อยู่ในฐานะของคนรู้จักที่ไม่เคยเปลี่ยนเป็นคนรู้ใจได้อีก นางไม่ใช่เมิ่งจิ่วซือตัวจริงหากการที่นางดำเนินความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเขาต่อไปหญิงสาวเองก็รู้สึกไม่สบายใจ มันไม่เหมือนกับความรักของแม่ลูกที่ไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น หากวันหนึ่งเขาได้ค้นพบว่านางนั้นไม่ใช่เมิ่งจิ่วซือตัวจริงหา

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๒๖ เยี่ยมเยือนครั้งสุดท้าย

    "นายหญิงจะไปที่เรือนนั้นจริง ๆ หรือเจ้าคะ" อาฉือเอ่ยถามนายสาวด้วยความไม่แน่ใจ แม้จะรู้ดีว่าอนุเผิงหาได้ติดโรคระบาดไม่ หากแต่สภาพของนางในตอนนี้ก็ช่างไม่น่าพิสมัยยิ่ง ตุ่มหนองขึ้นเต็มทั่วร่างกายแม้ยามนอนก็ได้แต่ร้องโอดโอยด้วยความทุกข์ทรมาน"เจ้ากลัวหรือ" เมิ่งจิ่วซือหันไปถามสาวใช้ของนาง"ไม่กลัวเจ้าค่ะ เพียงแค่รังเกียจเท่านั้น ที่นั่นไม่สะอาดเลยสักนิดบ่าวว่านายหญิงอย่าไปเลยเจ้าค่ะ""ข้าอยากจะเห็นนางสักครั้ง อยากจะรู้ว่าชีวิตที่เอาแต่ทำร้ายคนอื่นมาตลอดเช่นนาง ยามที่ตกอยู่ในสภาพที่อยู่ไม่สู้ตายแล้วนางจะมีความรู้สึกเช่นไร" เมิ่งจิ่วซือเอ่ยพร้อมกับประกายดวงตาที่วาวโรจน์ ชีวิตที่สร้างศัตรูเอาไว้มากมายเช่นนั้น สุดท้ายจุดจบก็คงไม่ต่างจากที่เป็นอยู่นางควรได้รับบทเรียนอย่างสาสม"ไปกันเถอะ""เจ้าค่ะ"เมิ่งจิ่วซือเดินตรงไปยังเรือนของเผิงอี้หรู หน้าเรือนและรอบ ๆ เรือนมีคนคุ้มกันอย่างแน่นหนาแม้แต่มดสักตัวก็ไม่อาจเล็ดลอดสายตาไปได้"คารวะพระชายาพ่ะย่ะค่ะ""ข้ามาเยี่ยมอนุเผิง" ทหารยามที่เฝ้าอยู่หน้าเรือนหันมามองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะรีบเปิดประตูให้หญิงสาว พร้อมกับบังอาจเอ่ยเตือนนางเล็กน้อย"พระชายาได้โป

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๒๕ ย้อนคืน

    คืนเดียวกันนั้นเผิงอี้หรูได้รับรายงานจากสาวใช้ของนางว่าแผนการส่งอาหารเข้าไปยังเรือนของพระชายานั้นสำเร็จแล้ว หญิงสาวได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่ยิ้มระรื่นอย่างยินดี ก่อนจะเฝ้ารอฟังข่าวดีจนแทบทนไม่ไหว"คืนนี้ข้าจะแช่ตัวนานเสียหน่อย เจ้าอย่าลืมหยดน้ำอบกลิ่นใหม่ที่ข้าพึ่งได้มาลงไปในน้ำเสียด้วย""เจ้าค่ะ บ่าวจะไปจัดการเดี๋ยวนี้"หลังจากที่สาวใช้เตรียมน้ำอุ่นให้นางเสร็จ เผิงอี้หรูก็ออกปากไล่นางออกไปคืนนี้หญิงสาวอยากจะใช้เวลาอยู่กับตนเองให้มากหน่อย ทั้งยังคิดเผื่อในวันรุ่งขึ้นมาว่าตนเองควรจะทำสีหน้าเศร้าเสียใจอย่างไรดีจึงจะยังคงความงดงามเอาไว้ได้"พรุ่งนี้ข้าควรสวมเสื้อผ้าสีใดดีนะ? ท่านอ๋องยังไม่ฟื้นเช่นนี้จวนแห่งนี้ก็เหลือเพียงแค่ข้าแล้ว จะจัดการเช่นไรก็ขึ้นอยู่กับข้าเพียงผู้เดียว"เผิงอี้หรูรู้สึกมีความสุขยิ่ง เมื่อนึกภาพในวันรุ่งขึ้นที่สองแม่ลูกนั้นหมดลมหายใจไปพร้อม ๆ กัน"ใครใช้ให้เจ้าตายยากตายเย็นนักเล่า จะกล่าวโทษข้าไม่ได้จริง ๆ"เผิงอี้หรูแช่อยู่ในน้ำนานกว่าปกติก่อนที่หญิงสาวจะรู้สึกว่าน้ำในถังเริ่มเย็นจึงได้ลุกขึ้นแล้วก้าวออกจากถังแล้วสวมเสื้อผ้าตัวบางพร้อมนอน เสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้น จาก

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๒๔ มือที่มองไม่เห็น

    เสี่ยวชุนเป็นสาวใช้คนสนิทของเผิงอี้หรูเด็กสาวเติบโตมาในตระกูลเผิงสายรอง มารดาของนางเป็นแม่นมของเซิ่งฮูหยินผู้เป็นมารดาของเผิงอี้หรู หากแต่ถึงแม้ว่าจะเติบโตมาพร้อมกับคุณหนูก็ตามแต่ดูเหมือนว่าเผิงอี้หรูจะไม่ให้ความสำคัญกับนางมากนัก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมานางมักจะกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของอีกฝ่ายมาโดยตลอด"จะ เจ้าเป็นใครกัน?""เจ้าไม่ต้องรู้หรอก เพียงแต่รู้เอาไว้อย่างเดียวก็พอว่าข้าเป็นคนของท่านผู้นั้นที่นายของเจ้าจะต้องฟังคำสั่ง" สตรีผู้นั้นเอ่ยขึ้นทำให้เสี่ยวชุนรู้สึกตื่นกลัวก่อนจะแสร้งทำเป็นนิ่งเงียบ นางเคยได้ยินคุณหนูกล่าวถึงท่านผู้นั้นแต่ก็ไม่รู้ว่าท่านผู้นั้นแท้จริงแล้วคือผู้ใดกันแน่"ขะ ข้าไม่รู้อันใดทั้งนั้น เจ้าหลีกไปเดี๋ยวนี้นะ""หึ หากเจ้าไม่เป็นห่วงคุณหนูของเจ้าก็คงต้องรู้สึกเป็นห่วงมารดาและน้องชายของเจ้าบ้างกระมัง" เสี่ยวชุนที่กำลังจะเดินจากไปได้ยินเช่นนั้นขาทั้งสองข้างของนางก็หยุดชะงักทันที ก่อนจะหันกลับมาหาสตรีผู้นั้นอีกครั้ง"เจ้าจะทำอันใดท่านแม่ของข้า?""ย่อมไม่ทำ หากว่าเจ้ายอมให้ความร่วมมือแต่โดยดี""ความร่วมมืออันใด?""นำของสิ่งนี้ไปมอบให้คุณหนูของเจ้า แล้วบอกว่าให้รีบลง

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๒๓ พิษกู่

    เมิ่งจิ่วซือค่อย ๆ ฝังเข็มลงบนร่างกายของชายหนุ่มทีละเล่ม สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ชีพจรของชายหนุ่มไม่คงที่ทั้งยังดูเหมือนสับสนและเคลื่อนย้ายไปมาได้ ทำให้เมิ่งจิ่วซือถึงกับขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยปากถามถึงอาการของชายหนุ่มก่อนหน้านี้กับองครักษ์ของเขา"ท่านอ๋องป่วยมานานเพียงใดแล้วงั้นหรือ?""ตั้งแต่วันที่มาถึงเจียงหนานพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องกำชับว่าไม่ให้บอกเรื่องนี้กับพระชายาเด็ดขาด แต่ข้าน้อยคิดว่าหากในวันนี้ท่านอ๋องยังไม่ฟื้นขึ้นมาข้าน้อยจะส่งคนไปแจ้งข่าวกับพระชายาพ่ะย่ะค่ะ"เมิ่งจิ่วซือถอนหายใจ จะกล่าวว่าเป็นความผิดขององครักษ์ก็มิได้เสียทีเดียวเพราะนางและสามีก็หาได้มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ทั้งยังดูเหมือนเป็นปรปักษ์กันอยู่เนือง ๆ หากพวกเขาจะคิดเอาเองว่านางอาจจะไม่ยินดีรักษาให้อีกฝ่ายก็ย่อมไม่แปลก แต่เดิมความสามารถในการรักษาของเมิ่งจิ่วซือนั้นก็เป็นความลับมาโดยตลอดนางเองก็ไม่เคยยินยอมรักษาให้ผู้ใด เป็นเพราะไม่ต้องการให้เกิดเรื่องราวยุ่งยากมากไปกว่านี้ เพียงแค่ชื่อเสียงของตระกูลเมิ่งเดิมทีเหล่าเชื้อพระวงศ์ก็หวาดระแวงมากพออยู่แล้ว หากนางมีชื่อเสียงทางด้านการรักษาอีกชีวิตนี้ก็ค

  • มารดามือใหม่ของนางร้ายอันดับหนึ่ง   ตอนที่ ๒๒ ปิดบัง

    รถม้าของเมิ่งจิ่วซือเคลื่อนตัวเข้าสู่ประตูเมืองเจียงหนาน นี่นับเป็นครั้งแรกที่นางได้มีโอกาสได้เห็นเมืองเจียงหนานแบบดั้งเดิม นับว่าหาได้ยากนัก ก่อนจะเคลื่อนผ่านใจกลางเมืองไปทางด้านทิศเหนือแล้วหยุดลงบริเวณหน้าจวนแห่งหนึ่ง หญิงสาวเลิกม่านดูก่อนจะพบว่าเหนือประตูจวนเขียนด้วยอักษรสีทองงดงามว่าจวนเป่ยติ้งหรงอ๋อง ก่อนที่ร่างบางจะค่อย ๆ ขยับตัวลงจากรถม้าโดยมีบุตรสาวอยู่ในอ้อมแขนดวงตาของตู๋กูรั่วหวามองที่ประตูจวนด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งแววตาของนางลุ่มลึกอย่างไม่อาจคาดเดา เด็กน้อยสูดลมหายใจเข้าราวกับต้องการเรียกหากำลังใจก่อนจะกลบเกลื่อนด้วยใบหน้าใสซื่อตามเดิม"ท่านแม่ หวาจะไปหาท่านพ่อ""เด็กดี เดี๋ยวก็ได้เจอท่านพ่อแล้ว"หวั่นอี้ที่ได้รับรายงานว่าพระชายาเดินทางมาถึงแล้วก็รีบออกมาต้อนรับที่หน้าประตูด้วยท่าทางร้อนรนอย่างเก็บไม่อยู่ หญิงสาวที่เห็นท่าทางของอีกฝ่ายแปลกประหลาดนักจึงเลิกคิ้ว"คารวะพระชายาพ่ะย่ะค่ะ""ไม่ต้องมากพิธี อย่างไรก็ต้องรบกวนพวกท่านแล้วข้าเดินทางมาโดยไม่ได้บอกกล่าว ท่านอ๋องจะว่ากล่าวอันใดหรือไม่" หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยท่าทีเกรงอกเกรงใจ ถึงอย่างไรนางก็ไม่ได้สนิทกับสามีถึงขนาดที่จะทำส

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status