ร่างของหมาป่าหิมะที่เสียชีวิตจากการถูกกระแทก กระจัดกระจายอยู่รอบตัวเขา ด้วยร่างกายที่บึกบึนของเจอรัลด์ จึงไม่ได้แปลกใจเลยที่เขาไม่เพียงแต่รอดชีวิตไปได้เท่านั้น แต่เขาแทบจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย! ด้วยเหตุนี้เอง เพียงไม่นานเขาก็ฟื้นคืนสติขึ้น… หลังจากตรวจสอบดูว่าเขาได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ เจอรัลด์ก็รู้สึกดีใจที่พบว่าร่างกายของเขาไร้รอยขีดข่วน หลังจากกระโดดลงมาจากพุ่มไม้ เจอรัลด์ก็หยิบมีดเล่มเล็กของเขาขึ้นมาและเริ่มหั่นเนื้อหมาป่าหิมะ เนื่องจากเขาไม่รู้ว่าจะต้องติดอยู่ที่นี่อีกนานเพียงใด เจอรัลด์จึงรู้ว่าเขาจำเป็นต้องตุนอาหารไว้ในขณะที่เขาทำได้ เมื่อเขาตุนอาหารได้เพียงพอ เจอรัลด์ก็เริ่มเดินไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจทิศทาง แต่สิ่งที่เขาสามารถเห็นได้แทบจะในทันที คือดินแดนที่เป็นดั่งสรวงสวรรค์ เจอรัลด์จ้องมองด้วยความประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เจอรัลด์เคยเห็นสถานที่ที่สวยงามเช่นนี้ อันที่จริงมันสวยงามมาก จนเจอรัลด์ตระหนักได้แก่ใจเลยว่าไม่อาจหาที่ใดงดงามได้เท่านี้อีก ขณะที่เขาเดินต่อไปรอบ ๆ สถานที่ที่งดงามราวกับแดนสวรรค์ เจอรัลด์รู้สึกประหลาดใจที่จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงอันอ่อนโยน แล
วินาทีที่เขาได้ยินอย่างนั้น ดวงตาของเจอรัลด์ก็เบิกกว้างทันที แม้ว่าเขาจะคิดว่าตัวเองได้ยินผิด แต่เขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น สองพันปี… งั้นก็แปลว่าหญิงสาวคนนี้มีอายุอย่างน้อยสองพันปี…! ช่างน่าขนลุกนัก! ไหนจะเรื่องที่เธออยู่ที่นี่มาโดยตลอดโดยที่ไม่มีใครเคยได้พบ! จูนเป็นคนแบบไหนกันนะ…? หากเขาไม่ตกลงมาในหุบเขา เจอรัลด์ก็คงพลาดโอกาสที่จะได้พบเธอเช่นกัน... เมื่อเห็นว่าเจอรัลด์ไม่มีคำถามเพิ่มเติม จูนจึงถือโอกาสถาม “เอาล่ะ… เลิกคุยเรื่องของฉันเถอะ ว่าแต่ทำไมคุณถึงมาที่ผาศักดิ์สิทธิ์” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็นึกถึงสาเหตุที่โนริและคนอื่น ๆ ขึ้นไปบนภูเขาตั้งแต่แรก เมื่อคิดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตอบว่า “ผมมาที่นี่เพื่อค้นหาสมุนไพรโบราณที่เรียกว่าโสมพาแน็กซ์อายุพันปี!” “นี่คุณ…มาที่นี่เพื่อหาสมุนไพรนั่น…? จะต้องการไปทำไม? คิดจะสร้างโอสถคืนชีพอย่างนั้นเหรอ?” จูนเอ่ยถาม ขณะที่เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อมองไปที่เจอรัลด์ "โอ้? คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า?” เจอรัลด์ถามอย่างแน่ใจว่าจูนรู้เรื่องสมุนไพรมากกว่าที่เขารู้ “โสมพาแน็กซ์พันปีเป็นสมุนไพรที่มีคุณค่าอย่
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมสมุนไพรจึงถูกเก็บซ่อนไว้เป็นอย่างดีจากส่วนอื่น ๆ ของโลก… จูนยังอยู่ที่นี่เพื่อคอยปกป้องโสมพาแน็กซ์พันปีตลอดเวลา! “ไม่ควรมีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสมุนไพรนี่… มิฉะนั้น หายนะจะตามมาอย่างแน่นอน! ฉันมั่นใจว่าคุณคงเข้าใจใช่ไหม?” จูนพูด ขณะที่เธอจ้องไปที่เจอรัลด์ เมื่อเข้าใจถึงผลที่อาจเกิดขึ้น เจอรัลด์เพียงแค่พยักหน้าขณะที่เขาตอบว่า “ผมเข้าใจแล้ว ไม่ต้องห่วง ผมไม่เอาของพวกนี้หรอก!” "ฉันดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น ฉันจะให้บางอย่างแก่คุณแทนคำขอบคุณ!” จูนพูด ขณะที่เธอโบกมืออย่างสง่างาม ทำให้กล่องสมบัติลูกบาศก์เล็ก ๆ ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเธอ... หลังจากได้รับกล่องสมบัติจากจูน เจอรัลด์ผู้อยากรู้อยากเห็นก็สงสัยว่าเธอมอบอะไรให้แกเขา เขาเปิดกล่องอย่างระมัดระวัง เจอรัลด์ก็พบกับเม็ดเล็ก ๆ เม็ดเดียวอยู่ข้างใน... เมื่อมองขึ้นไปที่จูน เจอรัลด์ก็พูดว่า “…นี่มัน…” “นี่คือโอสถคืนชีพ และเป็นยาเม็ดเดียวที่ฉันพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา ชั้นสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของคุณ เพราะฉะนั้นฉันจะขอฝากยานี้ไว้กับคุณ ขอให้มันเป็นประโยชน์กับคุณ!” จูนตอบ เจอรัลด์รู้สึกงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ กลับ
หลังจากนั้น โนริก็เริ่มเล่าให้พ่อของเธอฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบนผาศักดิ์สิทธิ์… ในตอนท้ายของเรื่องที่เธอเล่า แม้แต่โยชัวก็พบว่าเหตุการณ์นั้นกลับตาลปัตรอย่างยากจะเชื่อได้เล็กน้อย เมื่อระลึกได้ว่าเจอรัลด์ยอมสละความปลอดภัยของตัวเอง เพื่อปกป้องทีมผจญภัยจากหมาป่าหิมะพวกนั้น… เขาก็รู้สึกได้ว่านั่นเป็นการกระทำที่กล้าหาญอย่างแท้จริง… โยชัวลูบหลังลูกสาวแล้วปลอบว่า “อย่าห่วงไปเลย โนริ เจอรัลด์จะกลับมาอย่างปลอดภัยอย่างแน่นอน!” โนริพยักหน้าตอบ หวังอย่างสุดหัวใจว่าเจอรัลด์จะกลับมาอย่างปลอดภัยเช่นกัน... ในขณะเดียวกันในเมืองมายา เจอรัลด์กำลังทานอาหารพร้อมกับคุยกับจูน โดยไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกภายนอกเลย เขาไม่รู้ว่าโนริและคนอื่นๆ กำลังรอการกลับมาของเขาอย่างกระวนกระวายใจเพียงใด เจอรัลด์จิบชาก่อนจะมองไปที่จูนแล้วถามว่า “จะว่าไปแล้ว… คุณปกป้องสถานที่นี้มาตลอดเลยเหรอ? อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยออกไปจากที่นี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว…?” จูนส่ายหน้าเป็นคำตอบ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ฉันก็อยากจะออกไปเหมือนกัน แต่บอกตามตรง… น่าเสียดายที่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้!” "คุณหมายความว่ายังไง?" “มันมี… กำแพงล่องหนอะไรสักอย่
วินาทีที่เธอกลับมาตั้งสติได้ โนริก็ตะโกนทันทีว่า “เจอ-เจอรัลด์…!” โนริรีบเข้าไปกอดเขาแน่น หยาดน้ำตานองไปทั้งหน้า เมื่อตระหนักว่าเจอรัลด์ยังมีชีวิตอยู่ เควสและคนอื่น ๆ ก็ดีใจและประหลาดใจพอ ๆ กัน ขณะที่พวกเขาวิ่งมาหาเขาเช่นกัน โนริก็ตรวจดูร่างกายของเจอรัลด์ตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับถามว่า “คุณเป็นยังไงบ้างเจอรัลด์ บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?” เมื่อเห็นว่าเธอกังวลมากเพียงใด เจอรัลด์ก็ทำได้เพียงยิ้มก่อนจะตอบว่า “ไม่ต้องกังวล ผมไม่เป็นอะไร!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น โนริรู้สึกโล่งใจมากที่เธอพบว่าตัวเองกำลังเอามือเล็ก ๆ ของเธอแตะที่หน้าอกของเขาเบา ๆ พร้อมกับคร่ำครวญว่า “คุณ… คราวนี้ก็ทำให้ฉันกลัวแทบตาย…!” หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ในที่สุดหัวใจของเธอก็ได้รับการปลอบประโลม... ขณะที่ทั้งแพทริคและเควสเริ่มตบไหล่ของเจอรัลด์ ในที่สุดเควสก็เอ่ยปากถามว่า “ว่าแต่… เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่คุณตกลงไป? นั่นน่าจะเป็นการตกผาที่สูงทีเดียวใช่ไหม” เจอรัลด์หัวเราะตอบเพียงว่า “ผมโชคดีก็เลยไปตกลงบนยอดไม้! ก็เลยทำให้ผมไม่ได้รับบาดเจ็บ!” เจอรัลด์ไม่สามารถบอกพวกเขาเกี่ยวกับเมืองมายาได้ และโชคดีท
เมื่อได้ยินคำถามของลูกชาย ดีแลนจึงตอบว่า “อ่า ทั้งคู่ไปที่รัฐไลรอสแล้ว! เราได้ข่าวมา ดูเหมือนมิล่าจะพบพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอที่นั่น! ด้วยเหตุนี้เธอจึงจ่ายเงินให้ตระกูลสมิธเดินทางไปยืนยันเรื่องนี้!” "ว่าไงนะ? รัฐไลรอส? พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอ?” เจอรัลด์พึมพำด้วยความไม่เชื่อเล็กน้อย หลังจากนั้น เจอรัลด์ได้ฝากคำแนะนำบางอย่างไว้ให้กับพ่อแม่ของเขา ก่อนที่จะออกเดินทางไปรัฐไลรอสเพียงลำพัง... ในขณะเดียวกัน ทั้งมิล่าและเจสสิก้ายืนอยู่ในห้องโถงของคฤหาสน์ตระกูลสมิธ ในรัฐไลรอส ตระกูลสมิธมีอำนาจมาก เนื่องจากพวกเขาเป็นเจ้าของเครือข่ายธุรกิจขนาดใหญ่ และเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีชื่อเสียงมากของที่นี่ พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า การมาถึงอย่างกะทันหันของมิล่าอยู่เหนือความคาดหมายของทุกคนอย่างแน่นอน “งั้น… เธอกำลังจะบอกว่าเธอชื่อมิล่า สมิธ งั้นหรือ” หญิงสาวในเครื่องแต่งกายหรูหรา ซึ่งแต่งหน้าหนาเตอะเอ่ยถาม ขณะที่เธอจ้องไปที่มิล่า "ถูกต้อง ฉันมาที่นี่เพื่อตามหาไซร์ สมิธ บิดาผู้ให้กำเนิดของฉัน!” มิล่าตอบด้วยสายตามุ่งมั่น "ฮึ! นั่นมันชื่อพ่อของฉัน รู้หรือเปล่า ฉันยังไม่เคยได้ยินเขาบอกว่ามีลูกสาวอี
เมื่อได้ยินอย่างนั้น มิล่าแทบไม่พูดอะไรสักคำ เธอเพียงแค่จับแขนของเจสสิก้าก่อนจะดึงเธอออกไป ไซร์ไม่รู้เลยว่าเขาควรจะทำเช่นไร จึงได้แต่มองดูหญิงสาวสองคนจากไป... เมื่อเห็นว่าทั้งคู่จากไปแล้ว ฮอลลี่และแม่ของเธอก็ดึงไซร์เข้าไปในบ้านพร้อมกับพวกเธอในทันที หลังจากนั่งบนโซฟาแล้ว พวกเขาก็ซักถามไซร์อย่างขะมักเขม้น จึงได้รู้ว่าไซร์ได้มีสัมพันธ์กับผู้หญิงอีกคนหนึ่งนามว่า อีเวียน มอริช ซึ่งเป็นมารดาให้กำเนิดมิล่า ก่อนที่จะแต่งงานกับเชนีย์ น่าเสียดายที่ครอบครัวของไซร์ไม่อยากให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน เพราะเหตุนั้นหลังจากมิล่าลืมตาดูโลก อีเวียนก็จากไปเช่นนั้น แม้ว่าความทรงจำที่เกี่ยวกับเธอจะไม่จางหายไปเลยหลังจากผ่านไปหลายปี แต่ไซร์ก็ไม่เคยขุดความทรงจำนั้นขึ้นมา เขายังเฝ้าคิดถึงวันที่อีเวียนจะปรากฏตัวพร้อมกับมิล่า ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะได้พบกับลูกสาวตามลำพังแบบนี้ เชนีย์และฮอลลี่รู้สึกโกรธเป็นอย่างมากหลังจากได้ยินเรื่องทั้งหมด ความจริงก็คือ ทั้งแม่และลูกสาวต่างสันนิษฐานว่าที่มิล่ามาแสดงตัวในตอนนี้ เธอมีเจตนาที่จะแย่งชิงสมบัติของตระกูลสมิธ และแม้ว่าอีกฝ่ายจะกังวล แต่ความคิดประเภทนี้ไม่เคยอยู่ในหัวขอ
‘สวัสดี มิล่า นี่ฮอลลี่เองนะ เรานัดเจอกันหน่อยได้ไหม? ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอน่ะ!' ข้อความดังกล่าวปรากฏขึ้น มิล่ารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลกและน่าประหลาดใจที่ฮอลลี่เป็นคนชักชวนเธอให้ออกไปเจอ มิล่าจึงมองไปที่เจอรัลด์ก่อนที่จะพูดว่า “มัน... มันเป็นข้อความจากฮอลลี่… ดูเหมือนเธออยากจะพบฉันน่ะ!” "โอ้? งั้นมาดูกันว่าเธอต้องการอะไร! ฉันจะไปกับเธอเอง!" เจอรัลด์ตอบ เขารู้สึกว่าฮอลลี่ต้องมีเจตนาแอบแฝงอย่างแน่นอน เมื่อรู้ว่าเจอรัลด์จะมาเป็นเพื่อนเธอ มิล่าก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย แต่ถึงแม้เขาจะไม่ได้มากับเธอ มิล่าก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเธอจะสามารถรับมือกับฮอลลี่ได้ ไม่ว่าเธอจะมาไม้ไหนก็ตาม อย่างไรก็ตาม หลังจากตัดสินใจเลือกสถานที่นัดพบกับฮอลลี่แล้ว มิล่าและเจอรัลด์แล้วก็ออกจากโรงแรม... พวกเขานัดพบกันที่สวนสาธารณะอันเงียบสงบแห่งหนึ่ง และแม้ว่าเจอรัลด์จะเดินทางมาด้วย แต่เขาก็เลือกที่จะไม่เปิดเผยตัวกับฮอลลี่ในทันที เมื่อไปถึงที่นั่น ฮอลลี่ก็อยู่ที่สวนสาธารณะแล้ว มิล่าไม่อยากอ้อมค้อมให้เสียเวลา เธอจึงพูดว่า “มีอะไรเหรอ ฮอลลี่?” ฮอลลี่หัวเราะคิกคัก ก่อนจะตอบกลับไปว่า “อ๋อ ฉันก็แค่อยากรู้