ในขณะที่ทุกคนกำลังกรีดร้องและจ้องมองไปที่ฉากนองเลือดอย่างตกตะลึง หัวหน้าครอบครัวคนหนึ่งก็ตั้งสติได้และรีบโค้งคำนับเจอรัลด์ทันที เขาแสดงความรู้สึกเกรงกลัวและเคารพต่อหน้าเจอรัลด์ด้วยการตะโกนว่า “ท่านอาจารย์คลอฟอร์ด…!” เมื่อเห็นเช่นนั้น หัวหน้าครอบครัวที่เหลือก็โค้งคำนับพร้อมกันทันที ขณะที่คำว่า ‘อาจารย์คลอฟอร์ด’ ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณพื้นที่จัดงานใต้ดินทั้งหมด ในทางกลับกัน ฟินเนแกนได้หันไปมองสเต็ดสัน ซึ่งยังคงยืนตัวแข็งทื่ออยู่บนเวที และส่งสัญญาณให้เขาหนีไปด้วยกัน สเต็ดสันรู้สึกโล่งใจทันทีที่เขาเห็นและเข้าใจสัญญาณของฟินเนแกน จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเดินออกจากบริเวณนั้นอย่างช้า ๆ แม้ว่าทุกคนจะตะโกนเรียกชื่อของเขา แต่เจอรัลด์ก็ยังดูเฉยเมย เขาหันไปมองคาร์ลอสก่อนจะพูดว่า “คาร์ลอส ซีนส์… ฉันจำได้ว่าเคยถามคำถามบางอย่างกับแกก่อนที่แกจะหนีไป… เนื่องจากตอนนั้นฉันยังไม่ได้รับคำตอบ ฉันเลยอยากจะถามแกซ้ำอีกครั้ง ช่วยบอกเหตุผลที่ดีสักข้อว่าทำไมฉันถึงไม่ควรฆ่าแก?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น คาร์ลอสก็กลืนน้ำลายทันทีก่อนจะตอบว่า “ผม… ผมจะเป็นลูกน้องของท่านไปจนวันตายครับ ท่านอาจารย์คลอฟอร์ด…!” แม้เขาจะไม่
เนื่องจากกองกำลังใหม่ของเจอรัลด์ยังมีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก ผู้ที่เข้าร่วมจึงเริ่มปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที ในที่สุดพวกเขาก็คิดว่ามันน่าจะเป็นการดีหากพวกเขาตั้งนิกายขึ้นมา ในการทำเช่นนั้น พวกเขาจะได้รับความเคารพนับถือจากผู้คน และสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี น่าเสียดายที่หลังจากพวกเขาได้นำเรื่องไปปรึกษากับเจอรัลด์ เขาก็ปฏิเสธคำขอของพวกเขา โดยระบุว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมที่พวกเขาจะทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกเขาตัดสินใจที่จะเลื่อนหัวข้อการสนทนานี้ออกไป เจอรัลด์ก็ใช้โอกาสนั้น ตอนที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เพื่อบอกกับพวกเขาว่าเขาจะอยู่บนยอดเขาเทียร์สันอีกสองสามวันเท่านั้น เขายังพูดอีกว่าไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปในภูเขาตลอดระยะเวลานั้น... ในขณะเดียวกัน เพอร์ลาและลูกพี่ลูกน้องของเธอก็เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทาง เพื่อไปที่ห้างสรรพสินค้าที่ขายเสื้อผ้าหรูหราแห่งหนึ่งของเมืองเจนน่า “เธอแน่ใจเหรอเพอร์ลา…? คุณปู่บอกเองไม่ใช่เหรอว่าไม่อยากให้พวกเราออกไปไหนมากนัก…? เพราะพักหลังมานี้มีหญิงสาวในเมืองเจนน่าหลายคนหายตัวไป… ฉันกลัวว่าพวกโจรอาจจะเป็นคนที่
ขณะที่คนเหล่านั้นรีบเข้ามารุมล้อมเพอร์ลา คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มก็ถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ เจนนี่?” เมื่อตั้งใจมองให้ชัดอีกครั้ง เพอร์ลาก็ตระหนักได้ว่าผู้นำคนนั้นไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน แต่เขาคือเบนสัน คนอวดดีที่พยายามจะเอาชนะเจอรัลด์ แต่กลับโดนเจอรัลด์จัดการเมื่อวันก่อน! “มันตบหน้าฉัน เบนสัน! นอกจากนี้ จำเด็กที่เราเจอที่ลานจอดรถของคฤหาสน์ฮาร์ทสโตนได้ไหม ดูเหมือนว่าเพอร์ลาจะสนิทสนมกับเขาด้วยนะ!” เจนนี่ตอบอย่างหยิ่งยโส “บ้าเอ๊ย! ฉันตามหาไอ้เด็กนั่นมานานแล้ว! ถ้าฉันได้เจอมันอีกเมื่อไหร่ ฉันจะฉีกมันให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเลยคอยดู! ไม่คิดเลยว่าแกจะกล้าทำร้ายเจนนี่! แกเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง?!” เบ็นสันคำราม ขณะที่เขายกฝ่ามือขึ้นพร้อมที่จะโจมตีเพอร์ลาอย่างเต็มที่ “หยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงเย็นชาของคนคนหนึ่งดังขึ้นในขณะนั้น เมื่อหันไปมองหาที่มาของเสียง เบนสันก็เห็นว่าคนที่ตะโกนคือชายวัยกลางคนที่ติดป้ายไว้เหนือกระเป๋าด้านหน้า โดยระบุว่า 'ผู้จัดการ' และตามหลังมาติด ๆ ก็คือกลุ่มของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย.… ผู้จัดการกำลังรู้สึกเดือดดาลเป็นอย่างมาก นี่คือห้างสรรพสินค้าขา
“ฉันเข้าใจ… นั่นก็พอจะอธิบายได้!” เพอร์ลาตอบด้วยการพยักหน้า "…อะไรนะ? แฮนสัน ลูอี้? เขาเป็นใครกัน? เขาเป็นคนมีอำนาจเหรอ? เพอร์ลาคงไม่รู้จักใครที่มีอำนาจหรอกใช่ไหม?” เจนนี่พึมพำด้วยความประหลาดใจ “เงียบก่อน! เขาคือประธานแฮนสัน ลูอี้ อดีตคนขับรถของนายท่านยาโต้ จากตระกูลยาโต้แห่งเมืองเจนน่า! ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่ที่มีความสามารถพิเศษเท่านั้น แต่ปัจจุบันเขายังเป็นผู้จัดการทั่วไปของห้างสรรพสินค้าหลายแห่งอีกด้วย!” เบนสันกระซิบ เขารู้สึกตกใจไม่แพ้เจนนี่ ถึงกระนั้น อย่างน้อยนั่นก็ช่วยอธิบายได้ว่าทำไมบอดี้การ์ดของประธานลูอี้จึงแข็งแกร่งมาก! ในขณะนั้น แฮนสันถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “คุณช่วยเล่ารายละเอียดให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ก่อนหน้านี้ คุณเชอร์วิน?” ใครก็ตามที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในกะลาต้องรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้กองกำลังทั้งหมดในเมืองเจนน่าอยู่ภายใต้การควบคุมของท่านอาจารย์คลอฟอร์ดผู้เหลือเชื่อและลึกลับ แฮนสันก็เป็นคนหนึ่งที่รู้เรื่องนี้ดี และเขาก็รู้ด้วยว่าเพอร์ลาเป็นศิษย์รักของอาจารย์คลอฟอร์ด เมื่อคำนึงถึงสิ่งนั้น แม้เขารู้ว่าเพอร์ลาจะสามารถรับมือกับสถา
เป็นธรรมดาที่เรื่องของเจนนี่จะได้รับการจัดการอย่างรวดเร็วโดยไม่มีอะไรยุ่งยากมากนัก กลับมาที่เรื่องของเจอรัลด์ ทุกวันนี้มีคนจำนวนมากที่มองหาโอกาสที่จะเข้าหาเขา เมื่อมันมาถึงจุดที่เขารู้สึกว่าทุกอย่างวุ่นวายจนเกินไป แต่เจอรัลด์ก็ยังรู้สึกโล่งใจที่เขาจะได้ใช้เวลาอยู่ในถ้ำมหัศจรรย์บนภูเขาเทียร์สันในอีกสองสามวันข้างหน้า ตามที่ชื่อบอกไว้ สถานที่แห่งนี้ช่างเป็นสถานที่ที่มหัศจรรย์อย่างแท้จริง และเจอรัลด์ก็พบวัตถุเวทมนต์หลายชิ้นอยู่ภายในถ้ำ ถึงกระนั้น เจอรัลด์ก็ยังต้องใช้เวลาถึงสามวันเต็ม ๆ ก่อนที่เขาจะสามารถหาสิ่งที่ผู้นำวิญญาณบอกให้ไปหาพบ มันเป็นคริสตัลชั้นยอดสีน้ำเงิน ที่มีขนาดประมาณเล็บของผู้ใหญ่… แม้ว่าเขาจะดีใจที่ได้พบมันในที่สุด แต่เจอรัลด์ก็ไม่รู้วิธีที่จะใช้มันแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม หลังจากเฝ้าสังเกตมันอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตระหนักว่าดูเหมือนมันจะมีพลังงานที่แข็งแกร่งและพิเศษอยู่ภายใน 'ฉันสงสัยจังว่าทำไมผู้นำวิญญาณถึงยืนยันที่จะให้ฉันหาอัญมณีพิเศษชิ้นนี้ให้จงได้ ... ' เจอรัลด์คิดกับตัวเองก่อนจะทำการศึกษามันต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้เวลาจะผ่านไปสองสามวันแล้ว แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าจ
ความเข้าใจของเธอมีแต่จะทำให้เธอรู้สึกลำบากใจมากขึ้นกว่าเดิม ถึงอย่างนั้น ซีเรียลก็ยังเห็นคุณค่าของเรื่องการแต่งงานที่ถูกกำหนดไว้แล้วมากเกินไป จนเธอไม่สามารถมองข้ามเรื่องนี้ไปได้ ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ และตัดสินใจเล่าเรื่องคำทำนายทั้งหมดของหมอดูในตอนนั้นให้เจอรัลด์ฟัง "…อืม? หมอดูเหรอ? เขามีลักษณะเป็นอย่างไร” เจอรัลด์ถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นและจริงจังในเวลาเดียวกัน ท้ายที่สุด จากคำอธิบายของเธอ… หมอดูที่ทำนายโชคชะตาให้เธออาจจะเป็นผู้นำวิญญาณหรือไม่? เป็นไปได้ไหมว่าผู้นำวิญญาณอาจจะซ่อนตัวอยู่บนภูเขาซาคราโซลิสตลอดเวลาที่ผ่านมา? หากเป็นเช่นนั้นจริง เจอรัลด์ก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาและความพยายามที่จะตามหาเขาอีกต่อไป! หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เจอรัลด์ก็ตกลงที่จะพาเธอไปที่ภูเขาแห่งนั้น นี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้พบกับผู้นำวิญญาณอีกครั้ง และเขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธเรื่องนั้น เมื่อซีเรียลได้ยินว่าเจอรัลด์เต็มใจที่จะทำตามคำขอของเธอ เธอก็รู้สึกทั้งประหลาดใจและมีความสุขในเวลาเดียวกัน ในเวลาต่อมา ทั้งสองคนก็ออกเดินทาง พวกเขามองเห็นโบสถ์หลังหนึ่งได้จากระยะไกล... ภูเขาซาคราโซลิสตั้งอยู่ทางใต้
แน่นอนว่าคนที่ได้เข้าไปเป็นคนแรกคือซีเรียล และนักบวชคนหนึ่งก็พาเธอเดินไปที่ด้านหลังของภูเขาทันที ทางฝั่งของเจอรัลด์ เขาถูกพาไปยังเส้นทางบนภูเขาอีกลูกหนึ่งโดยนักบวชอีกคน เจอรัลด์เดินตามเขาไปอย่างช้า ๆ โดยเอามือล้วงไว้ในกระเป๋าเช่นเคย เขาได้ยินนักบวชคนนั้นหัวเราะก่อนจะพูดว่า “ผมต้องบอกว่าคุณเป็นคนที่โชคดีมากเลย พี่ชาย! ผู้หญิงของคุณเป็นคนที่สวยมาก คุณรู้ไหม? เธออาจเป็นหนึ่งในสาวงามร้อยอันดับแรกของโลกเลยก็ว่าได้!” เจอรัลด์ยิ้มแล้วตอบว่า “จริงเหรอครับ? ผมไม่คิดว่าเธอจะสวยขนาดนั้น!” “ผมเข้าใจแล้ว… น่าเสียดายจัง! ในเมื่อคุณไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่มีหญิงงามเช่นนี้อยู่เคียงข้าง ทำไมคุณไม่ยกเธอให้เราแทนล่ะ?” นักบวชพูดพร้อมกับหัวเราะ ก่อนจะยิ้มอย่างเย็นชา ในที่สุดเขาก็แสดงธาตุแท้ออกมาแล้วงั้นเหรอ? ไม่ว่าในกรณีใด เจอรัลด์ก็ยังแสร้งทำเป็นประหลาดใจชั่วครู่ ก่อนที่จะโต้กลับอย่าโกรธเกรี้ยว “อะไรนะ? คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ? คุณเป็นนักบวชไม่ใช่เหรอ?! คุณไม่กลัวว่าผมจะเอาเรื่องนี้ไปรายงานหัวหน้านักบวชหรืออย่างไร?!” “ฮ่าฮ่าฮ่า! ไอ้โง่เอ๊ย! แกคิดที่จะเอาเรื่องของฉันไปรายงานจริงเหรอ? แกคิดว
และพลังลมปราณที่เธอปล่อยออกมาก็ส่งผลให้ร่างของนักบวชกระเด็นออกไปไกล… ก่อนที่มันจะระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างน่าสยดสยอง! ปฏิกิริยาแรกของซีเรียลคือการกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวสุดขีด เธอเบิกตาเบิกกว้างด้วยความตกใจกับฉากนองเลือดที่เกิดขึ้นจากฝีมือของเธอเอง หลังจากสงบลงเล็กน้อย ซีเรียลที่กำลังมึนงงก็ก้มลงไปมองฝ่ามือของเธอ แม้จะรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ แต่เธอก็สงสัยว่าพลังทั้งหมดนั้นมาจากไหนกันแน่ ในขณะเดียวกัน นักบวชอีกคนก็เพิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ และเห็นผลที่เกิดจากการโจมตีโดยไม่ได้ตั้งใจของเธอ เขารู้สึกตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาก็ตะโกนเสียงดังว่า “บ้าเอ๊ย! เธอแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียวหรือ?!” เมื่อตระหนักว่าตอนนี้มีนักบวชอีกคนอยู่ด้วย ซีเรียลที่กำลังหวาดกลัวก็เริ่มถอยห่างทันที ขณะที่เธอตะโกนว่า “กะ แก… อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ…!” ในขณะที่ซีเรียลยื่นมือออกไป โดยหวังว่ามันจะช่วยขัดขวางไม่ให้เขาเข้ามาใกล้เธอมากกว่านี้ นักบวชซึ่งคิดว่าเธอกำลังจะจู่โจม ก็รู้สึกหวาดกลัวจนแทบจะปัสสาวะรดกางเกงตัวเอง! อย่างไรก็ตาม ไม่นานนัก นักบวชก็ตระหนักว่าไม่มีการโจมตี