เป็นธรรมดาที่เรื่องของเจนนี่จะได้รับการจัดการอย่างรวดเร็วโดยไม่มีอะไรยุ่งยากมากนัก กลับมาที่เรื่องของเจอรัลด์ ทุกวันนี้มีคนจำนวนมากที่มองหาโอกาสที่จะเข้าหาเขา เมื่อมันมาถึงจุดที่เขารู้สึกว่าทุกอย่างวุ่นวายจนเกินไป แต่เจอรัลด์ก็ยังรู้สึกโล่งใจที่เขาจะได้ใช้เวลาอยู่ในถ้ำมหัศจรรย์บนภูเขาเทียร์สันในอีกสองสามวันข้างหน้า ตามที่ชื่อบอกไว้ สถานที่แห่งนี้ช่างเป็นสถานที่ที่มหัศจรรย์อย่างแท้จริง และเจอรัลด์ก็พบวัตถุเวทมนต์หลายชิ้นอยู่ภายในถ้ำ ถึงกระนั้น เจอรัลด์ก็ยังต้องใช้เวลาถึงสามวันเต็ม ๆ ก่อนที่เขาจะสามารถหาสิ่งที่ผู้นำวิญญาณบอกให้ไปหาพบ มันเป็นคริสตัลชั้นยอดสีน้ำเงิน ที่มีขนาดประมาณเล็บของผู้ใหญ่… แม้ว่าเขาจะดีใจที่ได้พบมันในที่สุด แต่เจอรัลด์ก็ไม่รู้วิธีที่จะใช้มันแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม หลังจากเฝ้าสังเกตมันอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตระหนักว่าดูเหมือนมันจะมีพลังงานที่แข็งแกร่งและพิเศษอยู่ภายใน 'ฉันสงสัยจังว่าทำไมผู้นำวิญญาณถึงยืนยันที่จะให้ฉันหาอัญมณีพิเศษชิ้นนี้ให้จงได้ ... ' เจอรัลด์คิดกับตัวเองก่อนจะทำการศึกษามันต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้เวลาจะผ่านไปสองสามวันแล้ว แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าจ
ความเข้าใจของเธอมีแต่จะทำให้เธอรู้สึกลำบากใจมากขึ้นกว่าเดิม ถึงอย่างนั้น ซีเรียลก็ยังเห็นคุณค่าของเรื่องการแต่งงานที่ถูกกำหนดไว้แล้วมากเกินไป จนเธอไม่สามารถมองข้ามเรื่องนี้ไปได้ ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ และตัดสินใจเล่าเรื่องคำทำนายทั้งหมดของหมอดูในตอนนั้นให้เจอรัลด์ฟัง "…อืม? หมอดูเหรอ? เขามีลักษณะเป็นอย่างไร” เจอรัลด์ถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นและจริงจังในเวลาเดียวกัน ท้ายที่สุด จากคำอธิบายของเธอ… หมอดูที่ทำนายโชคชะตาให้เธออาจจะเป็นผู้นำวิญญาณหรือไม่? เป็นไปได้ไหมว่าผู้นำวิญญาณอาจจะซ่อนตัวอยู่บนภูเขาซาคราโซลิสตลอดเวลาที่ผ่านมา? หากเป็นเช่นนั้นจริง เจอรัลด์ก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาและความพยายามที่จะตามหาเขาอีกต่อไป! หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เจอรัลด์ก็ตกลงที่จะพาเธอไปที่ภูเขาแห่งนั้น นี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้พบกับผู้นำวิญญาณอีกครั้ง และเขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธเรื่องนั้น เมื่อซีเรียลได้ยินว่าเจอรัลด์เต็มใจที่จะทำตามคำขอของเธอ เธอก็รู้สึกทั้งประหลาดใจและมีความสุขในเวลาเดียวกัน ในเวลาต่อมา ทั้งสองคนก็ออกเดินทาง พวกเขามองเห็นโบสถ์หลังหนึ่งได้จากระยะไกล... ภูเขาซาคราโซลิสตั้งอยู่ทางใต้
แน่นอนว่าคนที่ได้เข้าไปเป็นคนแรกคือซีเรียล และนักบวชคนหนึ่งก็พาเธอเดินไปที่ด้านหลังของภูเขาทันที ทางฝั่งของเจอรัลด์ เขาถูกพาไปยังเส้นทางบนภูเขาอีกลูกหนึ่งโดยนักบวชอีกคน เจอรัลด์เดินตามเขาไปอย่างช้า ๆ โดยเอามือล้วงไว้ในกระเป๋าเช่นเคย เขาได้ยินนักบวชคนนั้นหัวเราะก่อนจะพูดว่า “ผมต้องบอกว่าคุณเป็นคนที่โชคดีมากเลย พี่ชาย! ผู้หญิงของคุณเป็นคนที่สวยมาก คุณรู้ไหม? เธออาจเป็นหนึ่งในสาวงามร้อยอันดับแรกของโลกเลยก็ว่าได้!” เจอรัลด์ยิ้มแล้วตอบว่า “จริงเหรอครับ? ผมไม่คิดว่าเธอจะสวยขนาดนั้น!” “ผมเข้าใจแล้ว… น่าเสียดายจัง! ในเมื่อคุณไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่มีหญิงงามเช่นนี้อยู่เคียงข้าง ทำไมคุณไม่ยกเธอให้เราแทนล่ะ?” นักบวชพูดพร้อมกับหัวเราะ ก่อนจะยิ้มอย่างเย็นชา ในที่สุดเขาก็แสดงธาตุแท้ออกมาแล้วงั้นเหรอ? ไม่ว่าในกรณีใด เจอรัลด์ก็ยังแสร้งทำเป็นประหลาดใจชั่วครู่ ก่อนที่จะโต้กลับอย่าโกรธเกรี้ยว “อะไรนะ? คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ? คุณเป็นนักบวชไม่ใช่เหรอ?! คุณไม่กลัวว่าผมจะเอาเรื่องนี้ไปรายงานหัวหน้านักบวชหรืออย่างไร?!” “ฮ่าฮ่าฮ่า! ไอ้โง่เอ๊ย! แกคิดที่จะเอาเรื่องของฉันไปรายงานจริงเหรอ? แกคิดว
และพลังลมปราณที่เธอปล่อยออกมาก็ส่งผลให้ร่างของนักบวชกระเด็นออกไปไกล… ก่อนที่มันจะระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างน่าสยดสยอง! ปฏิกิริยาแรกของซีเรียลคือการกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวสุดขีด เธอเบิกตาเบิกกว้างด้วยความตกใจกับฉากนองเลือดที่เกิดขึ้นจากฝีมือของเธอเอง หลังจากสงบลงเล็กน้อย ซีเรียลที่กำลังมึนงงก็ก้มลงไปมองฝ่ามือของเธอ แม้จะรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ แต่เธอก็สงสัยว่าพลังทั้งหมดนั้นมาจากไหนกันแน่ ในขณะเดียวกัน นักบวชอีกคนก็เพิ่งมาถึงที่เกิดเหตุ และเห็นผลที่เกิดจากการโจมตีโดยไม่ได้ตั้งใจของเธอ เขารู้สึกตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาก็ตะโกนเสียงดังว่า “บ้าเอ๊ย! เธอแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียวหรือ?!” เมื่อตระหนักว่าตอนนี้มีนักบวชอีกคนอยู่ด้วย ซีเรียลที่กำลังหวาดกลัวก็เริ่มถอยห่างทันที ขณะที่เธอตะโกนว่า “กะ แก… อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ…!” ในขณะที่ซีเรียลยื่นมือออกไป โดยหวังว่ามันจะช่วยขัดขวางไม่ให้เขาเข้ามาใกล้เธอมากกว่านี้ นักบวชซึ่งคิดว่าเธอกำลังจะจู่โจม ก็รู้สึกหวาดกลัวจนแทบจะปัสสาวะรดกางเกงตัวเอง! อย่างไรก็ตาม ไม่นานนัก นักบวชก็ตระหนักว่าไม่มีการโจมตี
เมื่อนักบวชตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็เห็นภาพจากทางด้านหลังของชายหนุ่มคนหนึ่ง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เขาถูกดึงโดยพลังบางอย่างที่แข็งแกร่งและมองไม่เห็น ก่อนที่เขาจะสลบไป นักบวชผู้ตกตะลึงจึงพึมพำว่า “คะ คุณเป็นใคร…?” “ฉันเป็นใครมันไม่สำคัญหรอก อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือคนของนายเป็นใคร และพวกนายวางแผนจะทำอะไรที่นี่ บนภูเขาซาคราโซลิสแห่งนี้” เจอรัลด์ตอบขณะที่เขาหันกลับมา ก่อนจะจ้องมองชายคนนั้นอย่างเย็นชา วินาทีที่ชายคนนั้นเห็นเจอรัลด์ ร่างกายของเขาเริ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เขาพูดตะกุกตะกักว่า “นายน้อย?! เป็นคุณเองเหรอ?!" เจอรัลด์อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะที่เขาพึมพำด้วยความอยากรู้อยากเห็น “…นายน้อยงั้นเหรอ?” "ครับ! ว่าแต่ว่า คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ นายน้อย?” นักบวชถาม “ฉันจะไปหรือมาเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ใจต้องการ ไม่ใช่เหรอ?” เจอรัลด์เย้ยหยัน แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าทำไมนักบวชถึงเรียกเขาว่า 'นายน้อย' แต่เจอรัลด์ก็ยังรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะหลอกถามข้อมูลบางอย่างจากชายผู้นี้ได้ เขาหวังว่าการสอบถามแบบอ้อม ๆ น่าจะพอช่วยได้บ้าง ไม่มากก็น้อย “ว่าแต่ว่า นายยั
ในขณะที่นักบวชพยายามจะหลบหนี เขาก็ไม่สามารถผ่านขั้นตอนที่สามไปได้ ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกยกขึ้นจากพื้นด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง! อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เขารู้สึกเหมือนอวัยวะภายในทั้งหมดของเขากำลังถูกทำลายพร้อม ๆ กัน! นักบวชสั่นสะท้านอย่างรุนแรงจากความเจ็บปวดที่แทบจะทนไม่ไหว เขารีบตะโกนว่า “ไว้ชีวิตผมด้วย! ดะได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วยครับ…!” “ฉันจะพิจารณาเมื่อนายตอบคำถามของฉัน หากนายอยากให้ฉันทวนคำถามอีกครัง ฉันถามนายไปว่าทำไมนายถึงคิดว่าฉันเป็นนายน้อยของนาย?” เจอรัลด์ตอบ “อืม คุณมีรูปร่างหน้าตาเหมือนนายน้อยมาก! ราวกับว่าคุณเป็นฝาแฝดของเขาอย่างไรอย่างนั้น! จากที่กล่าวมา ไม่มีทางที่ผมจะแยกออกเลยครับว่าใครเป็นใคร! ผมยังสงสัยอีกว่าคุณเป็นสมาชิกของตระกูลคลอฟอร์ดด้วยหรือไม่… เพราะมันไม่มีเหตุผลอื่นเลย ที่จะทำให้คุณดูคล้ายกันได้ถึงเพียงนี้!” ชายที่ยังคงเจ็บปวดอธิบาย "…โอ้? นายบอกว่าครอบครัวคลอฟอร์ดใช่ไหม?” เจอรัลด์ตอบ ในขณะที่เขาตาสว่างขึ้นชั่วขณะ เมื่อสังเกตชายที่กำลังดิ้นทุรนทุราย เจอรัลด์สามารถสัมผัสได้ว่านักบวชคนนี้น่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการฝึกฝนทักษะวิชา แม้ว่าเขาอาจจะยังห่างไก
"…แก…! ฉันไม่คิดเลยนะว่าแกยังจะกล้าพูดจาอวดดี ทั้ง ๆ ที่แกกำลังจะตายอยู่แล้ว!” นักบวชคำรามด้วยความโกรธ ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรอีก นักบวชก็ตัวแข็งไปชั่วขณะ เขากำลังจ้องมองเจอรัลด์ด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง เพราะเขาสามารถมองเห็นเปลวไฟที่สะท้อนในดวงตาของเจอรัลด์ได้อย่างชัดเจน และเขาก็ไม่สามารถละสายตาไปไหนได้เลย หลังจากนั้นไม่นาน นักบวชก็เริ่มรู้สึกแสบร้อนที่ฝ่าเท้า... นักบวชก็กรีดร้องออกมาอย่างน่าสมเพช ก่อนที่จะกลายเป็นเพียงฝุ่นผงภายในเวลาไม่ถึงวินาที! “และสำหรับฉันแล้ว ชีวิตของมดนั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย!” เจอรัลด์ประกาศ ในขณะที่เขาส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะเอามือไขว้หลัง เมื่อจัดการกับเรื่องนั้นเสร็จแล้ว ร่างของเจอรัลด์ก็ค่อย ๆ โอนเอนไปตามสายลม! ด้วยเหตุนั้น เขาจึงกลับไปยังถ้ำที่ซีเรียลถูกพาตัวเข้าไปเป็นครั้งสุดท้ายได้อย่างรวดเร็ว ถ้ำแห่งนี้ยังคงมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา และในวินาทีที่ผู้คุมสังเกตเห็นการปรากฏตัวของเจอรัลด์ พวกเขาก็พยายามหยุดไม่ให้เขาเข้าไปข้างในทันที อย่างไรก็ตาม อย่างที่เจอรัลด์ได้พูดไว้ก่อนหน้านี้ คนเหล่านี้เปรียบเสมือนมดที่ไร้พิษภัยสำหรับเขา เขาจึงรีบกำจัดพ
ในขณะนั้นเอง ผู้นำของชายสวมหน้ากากทั้งสามคน ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังซีเรียลตลอดเวลาได้ก้าวออกมา และกล่าวว่า “ขอบคุณที่มาช่วยเหลือเรานะครับ ท่าน! ผมมีชื่อว่า ฮิวเบิร์ต ยังเกอร์!” "โอ้? คุณก็อยู่ที่นี่เหมือนกันเหรอ คุณฮิวเบิร์ต?” นักบวชชราอุทาน ขณะที่เขาทักทายชายสวมหน้ากากทั้งสามทันทีเช่นกัน ทำให้เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคุ้นเคยกันดี "ใช่ครับ! หลังจากที่ได้รับข้อความลับจากคุณที่ระบุว่าภูเขาซาคราโซลิสกำลังประสบกับปัญหา เราจึงรีบเดินทางมาตรวจสอบทันที ถึงกระนั้น ผมก็ไม่คิดเลยว่าฮอยท์จะแข็งแกร่งขึ้นถึงเพียงนี้ ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่ผมพบเขาเป็นครั้งสุดท้าย... มันยากเหลือเกินที่จะต้านทานการโจมตีของเขาแม้แต่ครั้งเดียว หากผมไม่ส่งมังกรพิฆาตออกไป ผมคงไม่สามารถต่อกรกับเขาและคนของเขาได้! นอกเหนือจากนั้น วันนี้ผมได้ทำผิดพลาดอย่างมหันต์ เมื่อตัดสินใจที่จะช่วยชีวิตผู้หญิงคนนี้! จากการกระทำนั้น พวกเราทั้งสามคนจึงถูกคนของเขาจับตัวมาขังไว้ที่นี่!” ฮิวเบิร์ตอธิบาย หลังจากนั้นฮิวเบิร์ตก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตอุปนิสัยที่ไม่ธรรมดาของเจอรัลด์ จากสิ่งที่เขาได้เห็น เจอรัลด์เป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้วิธ
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ