ฟังจากน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดของเขา ท่านชายที่กำลังนอนนิ่งอยู่บนพื้น ดูเหมือนกำลังนึกถึงเรื่องราวโศรกเศร้าบางอย่างในชีวิตของเขา ที่ไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้“...นาย…เกลียดผู้หญิงเหรอ?” เจอรัลด์ถามพร้อมกับจ้องมองเขาอย่างเย็นชา“นายคงจะไม่เชื่อฉันหรอก ถึงแม้ฉันจะเล่าให้นายฟังก็ตาม…ตั้งแต่ฉันเกิดมา ฉันก็เป็นที่รู้จักในนามท่านชายผู้สูงส่ง และมีอำนาจแห่งกลุ่มพ่อมดศักดิ์สิทธิ์…ในขณะที่ทุกคนพากับอิจฉาริษยาฉัน แต่ฉันพูดได้เลยว่า หลายปีที่ผ่านมา ฉันไม่เคยมีความสุขจริง ๆ เลยสักครั้ง…นายรู้ไหม ฉันรู้สึกเกลียดผู้หญิงมาตั้งแต่เด็ก…เป็นเพราะเธอ ที่ทำให้ฉันเกลียดผู้หญิงทุกคน! ผู้หญิงที่ฉันกำลังพูดถึง…เธอคือแม่ของฉันเอง!” ท่านชายอธิบายเมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็รู้สึกได้ว่า หนังตาของเขากำลังกระตุกเขาไม่เคยได้ยินใครพูดถึงแม่ของตัวเองด้วยความรู้สึกอาฆาตแค้นเหมือนท่านชายผู้นี่มาก่อน…ท้ายที่สุดแล้ว ใครกันที่จะไม่รู้สึกรักคนที่ให้กำเนิดตัวเอง? แต่ถึงกระนั้น เขาก็รู้สึกได้ว่า ท่านชายไม่ได้โกหกเขา จากแววตาที่ดูเจ็บปวดอย่างล้นเหลือของเขาจะเป็นไปได้หรือไม่ว่า ที่ชายคนนี้กลายเป็นคนที่โห
“ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ฉันได้ทำร้ายผู้หญิงไปทั้งหมดเจ็ดคน…และก่อนที่ฉันจะตาย ฉันอยากจะขอให้พวกเธอให้อภัยฉัน…ฉันถึงจะตายตาหลับ…ถ้าฉันทำแบบนั้นได้ บางทีฉันอาจจะได้พบกับโลล่า…” เชสเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแต่พยักหน้าเป็นการตอบรับเจอรัลด์เต็มใจที่จะทำตามคำขอของเขา เพราะเขาสัมผัสได้ว่า เชสเตอร์รู้สึกสำนึกผิดกับสิ่งเลวร้ายที่เขาได้กระทำลงไปจริง ๆ และด้วยเหตุที่เชสเตอร์จำได้อย่างชัดเจนว่า ผู้หญิงทุกคนที่เขาทำร้ายอยู่ที่ไหนกันบ้าง ทำให้เจอรัลด์เชื่อว่า เขาจริงจังกับคำขอของเขามากเพียงใดและไม่นานต่อมา เชสเตอร์และเจอรัลด์ก็เดินทางมาถึงบ้านของชาวนาคนหนึ่ง ทันทีที่ประตูเปิดออก เชสเตอร์ที่หน้าตาซีดเซียว ก็รีบคุกเข่าลงตรงหน้าของหญิงสาวที่เขาเคยทำร้าย ที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่ตรงประตูบ้านกับพ่อแม่ของเธอ“ท ท่านชาย? ม มีอะไรให้พวกเรารับใช้เหรอครับ…?” พ่อของหญิงสาวถาม ในขณะที่ตัวสั่นด้วยความรู้สึกหวาดกลัว“ผมมาขอร้อง ให้พวกคุณยกโทษให้ผม! ทั้ง ๆ ที่ผมรู้ตัวดีว่า ไม่มีทางที่ใดจะชดใช้สิ่งเลวร้ายที่ผมทำลงไปให้พวกคุณได้ ผมสัญญาว่า ผมจะทำทุกอย่
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้ว แจสมินก็หันหน้าไปมองเจอรัลด์ด้วยความสงสัยจากนั้น เธอก็เริ่มตระหนักได้ว่า ท่านชายที่โหดร้ายและโอหังผู้นี้ ได้ยอมพ่ายแพ้ให้กับเจอรัลด์แล้ว“ผมขอโทษกับทุกสิ่งที่ผมได้ทำลงไป! ผมขอโทษจากใจจริง!” เชสเตอร์พูด ในขณะที่ก้มหัวอยู่หลายครั้ง จนหน้าผากของเขาแตะพื้นถึงแม้ว่า ก่อนหน้านั้น เธออยากจะฆ่าเขาให้ตาย แต่พอเธอได้เห็นว่า ตอนนี้เขาดูหดหู่มากเพียงใด เธอก็ได้แต่พูดกับเขาว่า “…คุณไม่จำเป็นจะต้องมาขอโทษอะไรฉันอีกแล้ว…คุณควรจะไปขอโทษคนที่คุณเคยทำร้ายมากกว่านะ ถึงแม้ว่าครอบครัวของฉันจะผ่านประสบการณ์ที่น่าหวาดกลัวนั้นมาได้ โดยที่ไม่ได้รับอันตรายร้ายแรงอะไร แต่ก็ไม่ใช่ทุกครอบครัวที่เป็นแบบพวกเรา…แต่ถ้าคุณต้องการบทลงโทษจริง ๆ ล่ะก็ ฉันจะให้เจอรัลด์เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้แทนฉัน เพราะคำพูดของเขา ก็เหมือนคำพูดของฉันเช่นกัน!”หลังจากที่พูดจบ แจสมินก็หันไปมองหน้าเจอรัลด์บางครั้งผู้หญิงก็มักจะเป็นแบบนี้ ตอนแรกแจสมินอาจจะยังไม่แน่ใจว่า ตัวเธอเองตกหลุมรักเจอรัลด์จริงหรือเปล่า แต่พอถึงเวลาที่เธอต้องพึ่งพาเขา เธอก็เริ่มมั่นใจว่า เธอได้ตกหลุมรักเขาอย่างหมดหัวใจจากวันนั้นเป็นต้นมา
ในตอนนั้นเอง ยูเมะก็พาชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องที่พวกเขาอยู่ทันทีที่ยูเมะหันไปเห็นแจสมิน หญิงสาวที่มีหน้าตาสะสวย และมีเสน่ห์ไม่ต่างกับเธอ กำลังยืนอยู่ข้างกายเจอรัลด์ และด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูกความรู้สึกนั้น ทำให้เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างแข็งกระด้างว่า “นี่คือคนที่คุณตามหา เจอรัลด์! คุณยาร์โรลได้นำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเกาะนี้มาให้!”พอพูดจบ เธอก็ไปยืนข้าง ๆ อีกฝั่งของเจอรัลด์ แจสมินเองก็หันไปมองสาวสวยผู้นี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้วยความสงสัยเช่นกันในขณะที่หญิงสาวทั้งสองคนกำลังสบตากัน ชายวัยกลางคนที่มาพร้อมกับเอกสารบางอย่างก็กล่าวทักทาย “คุณคลอฟอร์ด!”“ดีใจที่คุณมาที่นี่ คุณยาร์โรล เชิญนั่งครับ!”ทิม ยาร์โรล เป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานการทูตและวัฒนธรรมของเมืองมอนท์ฮอล์ม มีคนบอกกับเจอรัลด์ว่า ชายผู้นี้ เป็นคนที่รู้เรื่องราวทุกอย่างเกี่ยวกับเมืองมอนท์ฮอล์ม ตั้งแต่ในอดีตขนถึงปัจจุบัน หากใครอยากรู้เรื่องราวความเป็นมาและประวัติศาสตร์ของเมือง ๆ นี้ ทิมคือคนที่ควรจะไปหาหลังจากที่แนะนำตัวกันอยู่สักพัก ทิมก็เริ่มเข้าประเด็น“ผมได้ยิน
‘ราวกับว่า พวกเขาจะตั้งใจมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง…ท่านอาจารย์ก็ดูเหมือนจะรู้ว่าพวกเขาเป็นใครเช่นกัน’‘ท่านอาจารย์ได้เหาะขึ้นไปที่บ้านหลังนั้น เพื่อไปพูดคุยบางอย่างกับพวกเขา แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า พวกเขาคุยเรื่องอะไรกัน…’‘พวกเขาพูดคุยกันอยู่พักใหญ่…ขณะที่พวกเขาคุยกัน มีบางช่วงที่บ้านหลังนั้นมุดลงไปใต้น้ำ และได้พาท่านอาจารย์ดำลงไปด้วย…’‘พอตกดึก…พวกเราทุกคนต่างนอนพลิกตัวไปมา แทบไม่มีใครหลับลงเลยสักคน…สิ่งที่พวกเราทำได้ตอนนั้นคือ เฝ้าศพของนางฟ้าเอาไว้ให้ดี…’‘ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว และก็ถึงคราวที่ฉันจะต้องไปเฝ้ายาม…กลุ่มของเรามีกันทั้งหมดเก้าคน รวมถึงตัวของฉันเองด้วย…’‘...ฉันเขียนบันทึกนี้ขึ้นมา หลังจากที่เหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวได้เกิดขึ้น…เหตุการณ์ที่ได้เปลี่ยนโชคตะตาของฉันไปตลอดกาล…’‘...ในขณะที่พวกเรากำลังเฝ้ายาม ทันใดนั้น นางฟ้าก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมา! ใบหน้าของเธอดูเซียดเซียว ในขณะที่เธอถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า พวกเรากำลังจะพาเธอไปไหน…’‘เราไม่กล้าท้าทายเธอ พวกเราจึงได้บอกทุกสิ่งที่เรารู้ออกไป…เมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก! ฉันยังจำที่เธอพูดได้ดี “ถึงตอ
ยูเมะยืนนิ่งอยู่สักพักในค่ำคืนนั้น เจอรัลด์กำลังนั่งสมาธิอยู่บนเตียงของเขา เขาฟังเสียงของลมทะเลที่พัดผ่านเข้ามาในห้องพร้อมกับคิดถึงเรื่องราวที่เขาได้ค้นพบในวันนี้ตามที่ผู้รอดชีวิตได้บอกเอาไว้ หญิงสาวที่ทรงพลังและเกรี้ยวกราดได้ปรากฏตัวขึ้นในคืนนั้น ส่งผลให้ชายแปดคนที่ยืนเฝ้าโลงศพอยู่กับเขาต้องเสียชีวิตลงทั้งหมดเธอคือใคร? และเธอหมายความว่าอย่างไรที่พูดว่าเธอฟื้นขึ้นมาได้ทันเวลาพอดี?จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผู้หญิงคนนั้นดูจะมีความอาฆาตแค้นเป็นอย่างมากนอกจากเรื่องของผู้หญิงคนนั้นแล้ว เรื่องเสียงร้องที่โหยหวนในบ้านลอยได้หลังนั้น ก็เป็นอีกเรื่องที่เขาลืมไม่ลง เป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้คนที่อยู่ในนั้นคือคนที่ถูกซัน ลีก จับตัวไป? มิล่ากับลุงของเขาอยู่ที่นั่นด้วยหรือเปล่า?เรื่องเสียงร้องอันโหยหวนที่ทิมพูดขึ้นมานั้น ทำให้เจอรัลด์รู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูกท้ายที่สุดแล้ว ผู้หญิงในชุดขาวคนนั้นก็คงจะถูกขอทานชราปราบจนต้องพ่ายแพ้ ความจริงแล้ว เจอรัลด์ได้เคยเห็นเรื่องราวทั้งหมดนี้มาแล้วตอนที่ผู้นำวิญญาณพาเขาไปดูแผ่นศิลาจารึกทั้งหกแผ่นนั้นที่เขาจำได้คือ ขอทานชราคนนั้นและกลุ่มชายที่เหลือได้เ
ในขณะที่ยูเมะและเชสเตอร์ต่างก็อยู่ในอาการตกตะลึงอยู่แล้ว แต่พวกเขาต้องอ้าปากค้าในทันทีที่เห็นเจอรัลด์กระโดดขึ้นไปบนเรือลำนั้น!ทันทีที่เท้าของเจอรัลด์แตะพื้นเรือ มันก็โคลงเคลงไปมาอย่างแรง จนทำให้เกิดคลื่นสูงในทะเล!จากนั้นคลื่นก็เริ่มเบาลง เจอรัลด์จึงเริ่มเดินสำรวจรอบ ๆ เรือลำนั้นจากที่เขาเห็น เจอรัลด์สามารถบอกได้ว่า มันเป็นเรือที่มีขนาดปกติเหมือนเรือทั่วไป และน่าจะรับผู้โดยสารได้ประมาณห้าสิบคน มันยังดูเหมือนเรือที่มีประวัติศาสตร์บางอย่างอีกด้วยเมื่อเดินเข้าไปในห้องโดยสาร เขาก็เห็นผ้าม่านเก่า ๆ ปลิวออกไปนอกหน้าต่างของห้อง ถึงแม้ว่าตอนนี้ ข้างนอกเรือจะดูสว่าง แต่ภายในห้องห้องนั้นกลับดูมืดผิดปกติหลังจากที่เขาเดินสำรวจพื้นที่บนเรือได้สักพัก เจอรัลด์ก็พยายามที่จะสัมผัสถึงบรรยากาศรอบ ๆ เรือ รัศมีพลังที่เปล่งออกมาโดยรอบเรือก่อนหน้านั้นกลับหายไป…อย่างน่าประหลาดเมื่อเห็นเช่นนั้น เจอรัลด์ก็เปิดผ้าม่านออก และเดินเข้าไปข้างในด้านในห้องโดยสารของเรือถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วน ทางเดินตรงกลางนำไปสู่ห้องพักเล็ก ๆ ของผู้โดยสารที่มีให้เห็นทั้งสองฝั่งทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เบาดังออกม
หลังจากที่เขาตะโกนออกมาด้วยความตกใจ เจอรัลด์ก็หันไปหาหญิงชราคนนั้นอีกครั้ง และเตรียมพร้อมที่จะจู่โจมเธอแต่ก่อนที่เขาจะทันได้ก้าวเท้าออกไป เจอรัลด์ก็รู้สึกว่าแขนและขาของเขาเริ่มที่จะอ่อนแรง เพราะอาการวิงเวียนจากกลิ่นของเกสรดอกไม้ที่เขาได้สูดดมเข้าไปเป็นจำนวนมาก‘อะไรกันเนี่ย? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ฉันได้รับยาต้านพิษทุกชนิดมาแล้วนี่’ เจอรัลด์คิดกับตัวเองในขณะที่เขาเริ่มคุกเข่าลงบนพื้น พร้อมกับอาการวิงเวียนที่ยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆเมื่อเห็นเช่นนั้น หญิงชราก็เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา เธอเดินเข้าไปหาเจอรัลด์ ก่อนจะพูดว่า “ฉันรู้ว่า เธอมีพละกำลังที่เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป…แต่ขอให้เธอรู้เอาไว้ด้วยว่า เด้ด แอนนี่ส์นั้นก็ไม่เหมือนดอกไม้ชนิดอื่นเช่นกัน! เรียกได้ว่าพวกมันเป็นคู่ต่อสู้ที่เท่าเทียมกับเธอเลยก็ว่าได้!”เจอรัลด์รู้ดีว่าหากเขาไม่ทำอะไรในตอนนี้ เขาจะต้องหมดสติในไม่ช้า เจอรัลด์รวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายของเขา เพื่อใช้กระแสจิตแห่งเทพเจ้าเรียกสิ่งนี้ออกมา ‘ดาบแห่งรุ่งอรุณ!’หญิงชราไม่ทันได้สังเกตว่า เจอรัลด์จะมีไม้ตายสุดท้ายซ่อนเอาไว้ในแขนเสื้อของเขา แต่เมื่อเธอเห็นว่ามีดาบกำลังพุ่งตร