‘ราวกับว่า พวกเขาจะตั้งใจมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง…ท่านอาจารย์ก็ดูเหมือนจะรู้ว่าพวกเขาเป็นใครเช่นกัน’‘ท่านอาจารย์ได้เหาะขึ้นไปที่บ้านหลังนั้น เพื่อไปพูดคุยบางอย่างกับพวกเขา แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า พวกเขาคุยเรื่องอะไรกัน…’‘พวกเขาพูดคุยกันอยู่พักใหญ่…ขณะที่พวกเขาคุยกัน มีบางช่วงที่บ้านหลังนั้นมุดลงไปใต้น้ำ และได้พาท่านอาจารย์ดำลงไปด้วย…’‘พอตกดึก…พวกเราทุกคนต่างนอนพลิกตัวไปมา แทบไม่มีใครหลับลงเลยสักคน…สิ่งที่พวกเราทำได้ตอนนั้นคือ เฝ้าศพของนางฟ้าเอาไว้ให้ดี…’‘ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว และก็ถึงคราวที่ฉันจะต้องไปเฝ้ายาม…กลุ่มของเรามีกันทั้งหมดเก้าคน รวมถึงตัวของฉันเองด้วย…’‘...ฉันเขียนบันทึกนี้ขึ้นมา หลังจากที่เหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวได้เกิดขึ้น…เหตุการณ์ที่ได้เปลี่ยนโชคตะตาของฉันไปตลอดกาล…’‘...ในขณะที่พวกเรากำลังเฝ้ายาม ทันใดนั้น นางฟ้าก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมา! ใบหน้าของเธอดูเซียดเซียว ในขณะที่เธอถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า พวกเรากำลังจะพาเธอไปไหน…’‘เราไม่กล้าท้าทายเธอ พวกเราจึงได้บอกทุกสิ่งที่เรารู้ออกไป…เมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอก็รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก! ฉันยังจำที่เธอพูดได้ดี “ถึงตอ
ยูเมะยืนนิ่งอยู่สักพักในค่ำคืนนั้น เจอรัลด์กำลังนั่งสมาธิอยู่บนเตียงของเขา เขาฟังเสียงของลมทะเลที่พัดผ่านเข้ามาในห้องพร้อมกับคิดถึงเรื่องราวที่เขาได้ค้นพบในวันนี้ตามที่ผู้รอดชีวิตได้บอกเอาไว้ หญิงสาวที่ทรงพลังและเกรี้ยวกราดได้ปรากฏตัวขึ้นในคืนนั้น ส่งผลให้ชายแปดคนที่ยืนเฝ้าโลงศพอยู่กับเขาต้องเสียชีวิตลงทั้งหมดเธอคือใคร? และเธอหมายความว่าอย่างไรที่พูดว่าเธอฟื้นขึ้นมาได้ทันเวลาพอดี?จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผู้หญิงคนนั้นดูจะมีความอาฆาตแค้นเป็นอย่างมากนอกจากเรื่องของผู้หญิงคนนั้นแล้ว เรื่องเสียงร้องที่โหยหวนในบ้านลอยได้หลังนั้น ก็เป็นอีกเรื่องที่เขาลืมไม่ลง เป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้คนที่อยู่ในนั้นคือคนที่ถูกซัน ลีก จับตัวไป? มิล่ากับลุงของเขาอยู่ที่นั่นด้วยหรือเปล่า?เรื่องเสียงร้องอันโหยหวนที่ทิมพูดขึ้นมานั้น ทำให้เจอรัลด์รู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูกท้ายที่สุดแล้ว ผู้หญิงในชุดขาวคนนั้นก็คงจะถูกขอทานชราปราบจนต้องพ่ายแพ้ ความจริงแล้ว เจอรัลด์ได้เคยเห็นเรื่องราวทั้งหมดนี้มาแล้วตอนที่ผู้นำวิญญาณพาเขาไปดูแผ่นศิลาจารึกทั้งหกแผ่นนั้นที่เขาจำได้คือ ขอทานชราคนนั้นและกลุ่มชายที่เหลือได้เ
ในขณะที่ยูเมะและเชสเตอร์ต่างก็อยู่ในอาการตกตะลึงอยู่แล้ว แต่พวกเขาต้องอ้าปากค้าในทันทีที่เห็นเจอรัลด์กระโดดขึ้นไปบนเรือลำนั้น!ทันทีที่เท้าของเจอรัลด์แตะพื้นเรือ มันก็โคลงเคลงไปมาอย่างแรง จนทำให้เกิดคลื่นสูงในทะเล!จากนั้นคลื่นก็เริ่มเบาลง เจอรัลด์จึงเริ่มเดินสำรวจรอบ ๆ เรือลำนั้นจากที่เขาเห็น เจอรัลด์สามารถบอกได้ว่า มันเป็นเรือที่มีขนาดปกติเหมือนเรือทั่วไป และน่าจะรับผู้โดยสารได้ประมาณห้าสิบคน มันยังดูเหมือนเรือที่มีประวัติศาสตร์บางอย่างอีกด้วยเมื่อเดินเข้าไปในห้องโดยสาร เขาก็เห็นผ้าม่านเก่า ๆ ปลิวออกไปนอกหน้าต่างของห้อง ถึงแม้ว่าตอนนี้ ข้างนอกเรือจะดูสว่าง แต่ภายในห้องห้องนั้นกลับดูมืดผิดปกติหลังจากที่เขาเดินสำรวจพื้นที่บนเรือได้สักพัก เจอรัลด์ก็พยายามที่จะสัมผัสถึงบรรยากาศรอบ ๆ เรือ รัศมีพลังที่เปล่งออกมาโดยรอบเรือก่อนหน้านั้นกลับหายไป…อย่างน่าประหลาดเมื่อเห็นเช่นนั้น เจอรัลด์ก็เปิดผ้าม่านออก และเดินเข้าไปข้างในด้านในห้องโดยสารของเรือถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วน ทางเดินตรงกลางนำไปสู่ห้องพักเล็ก ๆ ของผู้โดยสารที่มีให้เห็นทั้งสองฝั่งทันใดนั้น เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เบาดังออกม
หลังจากที่เขาตะโกนออกมาด้วยความตกใจ เจอรัลด์ก็หันไปหาหญิงชราคนนั้นอีกครั้ง และเตรียมพร้อมที่จะจู่โจมเธอแต่ก่อนที่เขาจะทันได้ก้าวเท้าออกไป เจอรัลด์ก็รู้สึกว่าแขนและขาของเขาเริ่มที่จะอ่อนแรง เพราะอาการวิงเวียนจากกลิ่นของเกสรดอกไม้ที่เขาได้สูดดมเข้าไปเป็นจำนวนมาก‘อะไรกันเนี่ย? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ฉันได้รับยาต้านพิษทุกชนิดมาแล้วนี่’ เจอรัลด์คิดกับตัวเองในขณะที่เขาเริ่มคุกเข่าลงบนพื้น พร้อมกับอาการวิงเวียนที่ยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆเมื่อเห็นเช่นนั้น หญิงชราก็เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา เธอเดินเข้าไปหาเจอรัลด์ ก่อนจะพูดว่า “ฉันรู้ว่า เธอมีพละกำลังที่เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไป…แต่ขอให้เธอรู้เอาไว้ด้วยว่า เด้ด แอนนี่ส์นั้นก็ไม่เหมือนดอกไม้ชนิดอื่นเช่นกัน! เรียกได้ว่าพวกมันเป็นคู่ต่อสู้ที่เท่าเทียมกับเธอเลยก็ว่าได้!”เจอรัลด์รู้ดีว่าหากเขาไม่ทำอะไรในตอนนี้ เขาจะต้องหมดสติในไม่ช้า เจอรัลด์รวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายของเขา เพื่อใช้กระแสจิตแห่งเทพเจ้าเรียกสิ่งนี้ออกมา ‘ดาบแห่งรุ่งอรุณ!’หญิงชราไม่ทันได้สังเกตว่า เจอรัลด์จะมีไม้ตายสุดท้ายซ่อนเอาไว้ในแขนเสื้อของเขา แต่เมื่อเธอเห็นว่ามีดาบกำลังพุ่งตร
ถึงแม้ทางเข้าที่รูปร่างเหมือนน้ำเต้าจะค่อนข้างแคบ แต่เจอรัลด์ก็สามารถว่ายน้ำผ่านเข้าไปได้ไม่ยาก สองคนนั้นก็ว่ายน้ำตามเขาไปติด ๆ เช่นกันหลังจากที่ว่ายน้ำเข้าไปได้สักพัก พวกเขาก็ไปถึงบริเวณที่มีลักษณะแปลกประหลาด และไม่นานนัก พวกเขาก็ว่ายมาถึงทางเข้าถ้ำอีกที่หนึ่ง แต่มีบางสิ่งที่แตกต่างจากทางเข้าที่แรกอย่างเห็นได้ชัดมีเกสรของดอกเด้ด แอนนี่ส์ ลอยอยู่ตรงปากถ้าเต็มไปหมด“เอามือปิดจมูกไว้แล้วตั้งสติให้ดี!” เจอรัลด์สั่ง ในขณะที่กำลังมองหน้าปัดของเครื่องจับสัญญาณที่เขานำติดตัวมาด้วย ไม่มีสัญญาณของหญิงชราให้เห็นบนนั้น แต่ตำแหน่งสุดท้ายที่เห็นเธอ ก็คือจุดที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ แสดงว่าเธอต้องเข้าไปด้านในถ้าแล้วอย่างแน่นอน!เธอช่างเจ้าเล่ห์นัก…หากเจอรัลด์ไม่ระวังตัว เขาคงจะติดกับดักของเธอเป็นแน่!ในตอนนั้น ยูเมะและเชสเตอร์เริ่มรู้สึกผิดปกติ เจอรัลด์คาดว่า มันคงเป็นเพราะปริมาณที่เพิ่มขึ้นของเกสรดอกไม้ตรงปากถ้ำถึงแม้เขาจะรู้ถึงอันตรายของมัน และพยายามจะควบคุมตัวเอง เจอรัลด์ก็ยังรู้สึกว่าเขาไม่อาจต้านทานผลข้างเคียงของพิษเด้ด แอนนี่ส์ ที่มีต่อจิตของเขาได้เลยหญิงชราคนนั้น คงจะมีแผนร้ายบางอย่างเ
เมื่อเขาเห็นว่าเชสเตอร์กำลังเอ่ยคำขอโทษด้วยท่าทีที่อ่อนแรง เจอรัลด์ก็เอามือตบไหล่เขาเบา ๆ แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร…อย่างน้อย พวกเราก็…พวกเราก็มาถึงราชาแห่งพระราชวังมหาสมุทรแล้ว…”หลังจากที่พูดจบ เจอรัลด์ก็นิ่งชะงัก เพราะเขากำลังตกตะลึงกับภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าในตอนนี้เมื่อไม่ได้ยินเสียงเจอรัลด์พูดต่อ เชสเตอร์ก็เงยหน้าขึ้นมามองเช่นเดียวกัน ดวงตาของเขาเบิกโพลง พร้อมกับอ้าปากค้าง เขาจ้องมองไปยังพระราชวังอันแสนยิ่งใหญ่อลังการที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเขาพระราชวังมีขนาดใหญ่พอที่จะฝังร่างมังกรได้ ตรงกลางสิ่งปลูกสร้างมีแท่นยกสูงขนาดใหญ่วางอยู่ และที่ทำให้เจอรัลด์รู้สึกประหลาดใจไปมากกว่านั้นก็คือ มีโลงศพแก้วโลงหนึ่งกำลังลอยอยู่เหนือแท่นนั้นประมาณยี่สิบฟุตเห็นจะได้!‘นี่คือโลงศพอมตะอีกโลงหนึ่ง!’ เจอรัลด์คิดกับตัวเองด้วยความรู้สึกอัศจรรย์ใจมันคือเรื่องจริง…ผู้หญิงในชุดขาวได้ถูกฝังไว้ในโลงศพอมตะ หลังจากที่ถูกแยกจากเทพเจ้าองค์นั้นจริง!ถึงกระนั้น เจอรัลด์ก็ยังอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า ทำไมขอทานชราถึงตั้งใจที่จะฝังร่างของเขาทั้งสองให้ห่างไกลกันออกไปถึงเพียงนี้…เขามีเจตนาอะไรถึงต้องการไม่ให้ทั้งสองได้มีโอ
“นั่นอะไรครับ…” เชสเตอร์ถามด้วยความสงสัย เมื่อเขาเห็นเจอรัลด์หยิบของบางอย่าง ที่ดูเหมือนจะเป็นกล่องไม้ออกมาแวกเนอร์ให้ของสิ่งนี้ไว้กับเจอรัลด์ หลังจากที่บรรพบุรุษของเขาได้มันมาจากขอทานชราเมื่อแปดร้อยปีที่แล้ว จากที่แวกเนอร์เล่าให้ฟัง ขอทานชราไม่เพียงแต่บอกเอาไว้ว่า เจอรัลด์จะเดินทางมาที่ราชาแห่งสุสานพระราชวังอีกหลายร้อยปีต่อมา แต่เขายังบอกอีกด้วยว่า เจอรัลด์และแวกเนอร์จะได้มาพบกัน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงบอกบรรพบุรุษของแวกเนอร์ให้เก็บกล่องนี้เอาไว้ จนกว่าเจอรัลด์จะปรากฏตัว!เป็นไปได้หรือไม่ว่า ขอทานชราจะรู้จริง ๆ ว่า จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างในอีกหมื่นปีต่อมา? และเขาก็ได้พยากรณ์เอาไว้แล้วว่า เจอรัลด์จะหาโลงศพของหญิงชุดขาวจนเจอ และนำมันออกไปเพื่อให้เธอได้ไปพบกับเทพเจ้าอีกครั้ง?เป็น…เป็นไปได้ไหมว่า ขอทานชราจากเมื่อหนึ่งพันปีที่แล้ว และขอทานชราจากเมื่อแปดร้อยปีที่แล้ว จะเป็นคนคนเดียวกัน…?เมื่อคิดได้เช่นนั้น เจอรัลด์ก็ขนลุกซู่ เขาไม่กล้าที่จะคิดถึงเรื่องนั้นต่อ เพราะตอนนี้ เขาเริ่มรู้สึกกลัว และเป็นกังวลอย่างบอกไม่ถูกแต่เจอรัลด์เริ่มเข้าใจเรื่องหนึ่งจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ขอทานชราได
เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงไปทั่วทั้งบริเวณ ราวกับว่าท้องฟ้ากำลังจะถล่มลงมา และพื้นดินก็พร้อมที่จะแยกออกจากกันในไม่กี่วินาทีนี้ในขณะที่เหตุการณ์ไม่คาดฝันกำลังเกิดขึ้น โลงศพแก้วก็ค่อย ๆ ลอยออกโดยมีมือข้างหนึ่งของเจอรัลด์ช่วยรองรับมันเอาไว้ถึงแม้เจอรัลด์จะทำใจเอาไว้แล้วว่าจะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น…แต่เขาก็ไม่คาดคิดเลยว่า ประตูจะไม่ยอมเปิดออก! แต่มันกลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย โซ่ที่มัดโลงศพใบใหญ่เอาไว้ก็เริ่มสั่นอย่างรุนแรงเช่นกัน…ทันใดนั้นเอง เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอีกเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นพวกเขาเห็นโซ่เหล็กที่มัดโลงศพเอาไว้กำลังแตกออก ในขณะเดียวกันนั้น โลงศพแก้วก็มีท่าทีเหมือนอยากจะลอยออกไปจากที่นี่! แค่นั้นยังไม่พอ จู่ ๆ ดอกเด้ด แอนนี่ส์ จำนวนนับไม่ถ้วนก็ผุดขึ้นมาตามกำแพง!“นั่น…นั่นมันดอกเด้ด แอนนี่ส์ อีกแล้ว!” เชสเตอร์ตะโกนออกมาด้วยความรู้สึกหวาดกลัวสุดขีดไม่นานดอกไม้พวกนั้นก็ขึ้นเต็มไปทั่วทั้งบริเวณ จากนั้นก็ค่อย ๆ มีเกสรโผล่ออกมาจากดอกไม้ทุกดอกทันใดนั้น อาการวิงเวียนก็กำเริบขึ้นอีกครั้งก่อนที่ทั้งคู่จะทันคิดว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป กำแพงฝั