ถึงแม้ทางเข้าที่รูปร่างเหมือนน้ำเต้าจะค่อนข้างแคบ แต่เจอรัลด์ก็สามารถว่ายน้ำผ่านเข้าไปได้ไม่ยาก สองคนนั้นก็ว่ายน้ำตามเขาไปติด ๆ เช่นกันหลังจากที่ว่ายน้ำเข้าไปได้สักพัก พวกเขาก็ไปถึงบริเวณที่มีลักษณะแปลกประหลาด และไม่นานนัก พวกเขาก็ว่ายมาถึงทางเข้าถ้ำอีกที่หนึ่ง แต่มีบางสิ่งที่แตกต่างจากทางเข้าที่แรกอย่างเห็นได้ชัดมีเกสรของดอกเด้ด แอนนี่ส์ ลอยอยู่ตรงปากถ้าเต็มไปหมด“เอามือปิดจมูกไว้แล้วตั้งสติให้ดี!” เจอรัลด์สั่ง ในขณะที่กำลังมองหน้าปัดของเครื่องจับสัญญาณที่เขานำติดตัวมาด้วย ไม่มีสัญญาณของหญิงชราให้เห็นบนนั้น แต่ตำแหน่งสุดท้ายที่เห็นเธอ ก็คือจุดที่พวกเขาอยู่ในตอนนี้ แสดงว่าเธอต้องเข้าไปด้านในถ้าแล้วอย่างแน่นอน!เธอช่างเจ้าเล่ห์นัก…หากเจอรัลด์ไม่ระวังตัว เขาคงจะติดกับดักของเธอเป็นแน่!ในตอนนั้น ยูเมะและเชสเตอร์เริ่มรู้สึกผิดปกติ เจอรัลด์คาดว่า มันคงเป็นเพราะปริมาณที่เพิ่มขึ้นของเกสรดอกไม้ตรงปากถ้ำถึงแม้เขาจะรู้ถึงอันตรายของมัน และพยายามจะควบคุมตัวเอง เจอรัลด์ก็ยังรู้สึกว่าเขาไม่อาจต้านทานผลข้างเคียงของพิษเด้ด แอนนี่ส์ ที่มีต่อจิตของเขาได้เลยหญิงชราคนนั้น คงจะมีแผนร้ายบางอย่างเ
เมื่อเขาเห็นว่าเชสเตอร์กำลังเอ่ยคำขอโทษด้วยท่าทีที่อ่อนแรง เจอรัลด์ก็เอามือตบไหล่เขาเบา ๆ แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร…อย่างน้อย พวกเราก็…พวกเราก็มาถึงราชาแห่งพระราชวังมหาสมุทรแล้ว…”หลังจากที่พูดจบ เจอรัลด์ก็นิ่งชะงัก เพราะเขากำลังตกตะลึงกับภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าในตอนนี้เมื่อไม่ได้ยินเสียงเจอรัลด์พูดต่อ เชสเตอร์ก็เงยหน้าขึ้นมามองเช่นเดียวกัน ดวงตาของเขาเบิกโพลง พร้อมกับอ้าปากค้าง เขาจ้องมองไปยังพระราชวังอันแสนยิ่งใหญ่อลังการที่ตั้งอยู่ตรงหน้าเขาพระราชวังมีขนาดใหญ่พอที่จะฝังร่างมังกรได้ ตรงกลางสิ่งปลูกสร้างมีแท่นยกสูงขนาดใหญ่วางอยู่ และที่ทำให้เจอรัลด์รู้สึกประหลาดใจไปมากกว่านั้นก็คือ มีโลงศพแก้วโลงหนึ่งกำลังลอยอยู่เหนือแท่นนั้นประมาณยี่สิบฟุตเห็นจะได้!‘นี่คือโลงศพอมตะอีกโลงหนึ่ง!’ เจอรัลด์คิดกับตัวเองด้วยความรู้สึกอัศจรรย์ใจมันคือเรื่องจริง…ผู้หญิงในชุดขาวได้ถูกฝังไว้ในโลงศพอมตะ หลังจากที่ถูกแยกจากเทพเจ้าองค์นั้นจริง!ถึงกระนั้น เจอรัลด์ก็ยังอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า ทำไมขอทานชราถึงตั้งใจที่จะฝังร่างของเขาทั้งสองให้ห่างไกลกันออกไปถึงเพียงนี้…เขามีเจตนาอะไรถึงต้องการไม่ให้ทั้งสองได้มีโอ
“นั่นอะไรครับ…” เชสเตอร์ถามด้วยความสงสัย เมื่อเขาเห็นเจอรัลด์หยิบของบางอย่าง ที่ดูเหมือนจะเป็นกล่องไม้ออกมาแวกเนอร์ให้ของสิ่งนี้ไว้กับเจอรัลด์ หลังจากที่บรรพบุรุษของเขาได้มันมาจากขอทานชราเมื่อแปดร้อยปีที่แล้ว จากที่แวกเนอร์เล่าให้ฟัง ขอทานชราไม่เพียงแต่บอกเอาไว้ว่า เจอรัลด์จะเดินทางมาที่ราชาแห่งสุสานพระราชวังอีกหลายร้อยปีต่อมา แต่เขายังบอกอีกด้วยว่า เจอรัลด์และแวกเนอร์จะได้มาพบกัน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงบอกบรรพบุรุษของแวกเนอร์ให้เก็บกล่องนี้เอาไว้ จนกว่าเจอรัลด์จะปรากฏตัว!เป็นไปได้หรือไม่ว่า ขอทานชราจะรู้จริง ๆ ว่า จะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างในอีกหมื่นปีต่อมา? และเขาก็ได้พยากรณ์เอาไว้แล้วว่า เจอรัลด์จะหาโลงศพของหญิงชุดขาวจนเจอ และนำมันออกไปเพื่อให้เธอได้ไปพบกับเทพเจ้าอีกครั้ง?เป็น…เป็นไปได้ไหมว่า ขอทานชราจากเมื่อหนึ่งพันปีที่แล้ว และขอทานชราจากเมื่อแปดร้อยปีที่แล้ว จะเป็นคนคนเดียวกัน…?เมื่อคิดได้เช่นนั้น เจอรัลด์ก็ขนลุกซู่ เขาไม่กล้าที่จะคิดถึงเรื่องนั้นต่อ เพราะตอนนี้ เขาเริ่มรู้สึกกลัว และเป็นกังวลอย่างบอกไม่ถูกแต่เจอรัลด์เริ่มเข้าใจเรื่องหนึ่งจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ขอทานชราได
เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงไปทั่วทั้งบริเวณ ราวกับว่าท้องฟ้ากำลังจะถล่มลงมา และพื้นดินก็พร้อมที่จะแยกออกจากกันในไม่กี่วินาทีนี้ในขณะที่เหตุการณ์ไม่คาดฝันกำลังเกิดขึ้น โลงศพแก้วก็ค่อย ๆ ลอยออกโดยมีมือข้างหนึ่งของเจอรัลด์ช่วยรองรับมันเอาไว้ถึงแม้เจอรัลด์จะทำใจเอาไว้แล้วว่าจะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น…แต่เขาก็ไม่คาดคิดเลยว่า ประตูจะไม่ยอมเปิดออก! แต่มันกลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย โซ่ที่มัดโลงศพใบใหญ่เอาไว้ก็เริ่มสั่นอย่างรุนแรงเช่นกัน…ทันใดนั้นเอง เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอีกเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นพวกเขาเห็นโซ่เหล็กที่มัดโลงศพเอาไว้กำลังแตกออก ในขณะเดียวกันนั้น โลงศพแก้วก็มีท่าทีเหมือนอยากจะลอยออกไปจากที่นี่! แค่นั้นยังไม่พอ จู่ ๆ ดอกเด้ด แอนนี่ส์ จำนวนนับไม่ถ้วนก็ผุดขึ้นมาตามกำแพง!“นั่น…นั่นมันดอกเด้ด แอนนี่ส์ อีกแล้ว!” เชสเตอร์ตะโกนออกมาด้วยความรู้สึกหวาดกลัวสุดขีดไม่นานดอกไม้พวกนั้นก็ขึ้นเต็มไปทั่วทั้งบริเวณ จากนั้นก็ค่อย ๆ มีเกสรโผล่ออกมาจากดอกไม้ทุกดอกทันใดนั้น อาการวิงเวียนก็กำเริบขึ้นอีกครั้งก่อนที่ทั้งคู่จะทันคิดว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป กำแพงฝั
ในขณะที่เจอรัลด์กำลังฟังสิ่งที่บอดี้การ์ของเขาพูด เขาก็กำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ในหัวเช่นเดียวกันด้วยเหตุที่เขาหมดสติไปถึงหนึ่งเดือนครึ่ง เขาจึงคิดว่าเด้ด แอนนี่ส์ นั้นมีพิษร้ายแรงกว่าทีเขาเคยคิดเอาไว้มาก ฤทธิ์ของมันนั้นรุนแรงแตกต่างจากการโจมตี จากคนที่มีพลังมากมายมหาศาลอย่างคริสโตเฟอร์เสียอีก เด้ด แอนนี่ส์ถูกใช้เป็นสื่อกลางในการทำร้ายคนทางจิตอย่างโหดร้ายมันทำให้เขาตระหนักได้ว่า ที่ผ่านมาเขาได้แต่หมั่นฝึกฝนร่างกายตนเองให้แข็งแกร่ง แต่จิตใจของเขานั้นยังแข็งแกร่งไม่เทียบเท่ากับร่างกายของเขาเสียด้วยซ้ำ เขาเกือบจะต้องตายอย่างทรมานจากฤทธิ์ของเด้ด แอนนี่ส์นอกจากนั้น เจอรัลด์ยังนึกออกว่า เขาได้เห็นภาพบางอย่างตรงหน้า ไม่กี่วินาที ก่อนที่เขาจะหมดสติไปตอนที่เขายังอยู่ในราชาแห่งพระราชวังมหาสมุทรตอนที่เขากำลังเกาะโลงศพอมตะเอาไว้ เขาได้เห็นฝาโลงของโลงศพสีดำใบใหญ่เปิดออก และมีแสงสีดำพุ่งออกมาจากด้านใน…ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น เขาก็มั่นใจว่า เขาได้นำโลงศพอมตะกลับมากับเขาด้วยอย่างแน่นอน แต่เหตุใดบอดี้การ์ดของเขา จึงพูดเหมือนมีบางอย่างหายไป?เขาลุกออกจากเตียง และเดินไปที่ห้องในสวนหลังบ้า
ตอนที่เขายังอยู่บนเกาะของคุณปู่ เขาได้ถามเวลสันเกี่ยวกับเรื่องของดอกไม้ชนิดนี้ เวลสันเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่คุณปู่ของเขาได้พบพระราชวังจิตวิญญาณ เขาก็เดินทางไปประเทศแถบตะวันตก ในขณะที่เขากำลังท่องเที่ยวอยู่แถวภาคตะวันตกเฉียงเหนือ เขาก็ได้พบกับเมล็ดพันธุ์ของดอกไม้โดยบังเอิญ ถึงแม้ว่าเขาจะนำมันกลับมาปลูกจนเต็มสวน แต่ก็เพื่อความสวยงามเพียงเท่านั้น พูดอีกอย่างได้ว่า เขารู้มาว่าคุณปู่ของเขาไม่ทราบเรื่องคุณสมบัติลึกลับของดอกไม้ชนิดนี้เลยแม้แต่น้อย! แต่เรื่องราวที่ท่านเฟนเดอร์สันเล่า มันฟังดูราวกับว่า คุณปู่ของเขาจะได้พบกับดอกไม้นี้ก่อนหน้าช่วงเวลาที่เวลสันบอกกับเขาอีก คุณปู่ของเขายังบอกกับท่านเฟนเดอรันอีกด้วยว่า ดอกไม้นี้เป็นของครอบครัวเขา!ช่างเป็นเรื่องราวที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง!“มันเป็นดอกไม้ที่ไม่มีชื่อจริง ๆ ‘มีเพียงกลีบสองกลีบที่ผลิบาน และแต่ละกลีบก็เป็นตัวแทนของโลกแต่ละใบ…’ มันคือประโยคที่แปลก ที่ปู่ของเธอบอกกับฉันน่ะ รู้ไหม?” ไบรสันพูด ในขณะที่เขาส่ายหัว และยิ้มออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก‘ประโยคนั้นอีกแล้วเหรอ!’ เจอรัลด์คิดกับตัวเอง เขารู้สึกว่า เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ มันยิ่งมีความน่
แม้ว่าเขายังไม่ได้เริ่มคิดเลยด้วยซ้ำว่า แสงสีดำที่เล็ดลอดออกมาจากโลงศพสีดำนั้นคืออะไร แต่เจอรัลด์ก็ไม่กล้าหมกมุ่นอยู่กับเรื่องนี้นานเกินไป อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในตอนนี้ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นนี้ ราวกับระเบิดเวลาที่สร้างความรู้สึกหนักใจให้แก่เขา“...จะว่าไป แล้วเชสเตอร์อยู่ที่ไหน?” เจอรัลด์เอ่ยถามขึ้น จู่ ๆ ก็นึกถึงเขาขึ้นมา“อ่า ครับ นายน้อยหมดสติไปค่อนข้างนานเหมือนกัน แต่เขาฟื้นขึ้นมาเมื่อครึ่งเดือนก่อน ถึงอย่างไรก็ตาม ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะที่ขา จนกระทั่งทุกวันนี้เขาก็ยังลุกจากเตียงไม่ได้ครับ” หนึ่งในบอร์ดี้การ์ดของเขาตอบ“เข้าใจแล้ว มันก็ดีพอสำหรับฉันแล้ว ที่เขาได้รอดตายมาได้!”แม้ว่าการที่เจอรัลด์และเชสเตอร์ได้รู้จักกันนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้นแต่อย่างใด แต่เจอรัลด์จำได้ว่าเชสเตอร์เสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องเขาเอาไว้อย่างไร ยามที่เขาเกือบจะหมดสติไป เพราะการกระทำที่กล้าหาญของเขา จึงทำให้เจอรัลด์รู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก“...แล้ว นอกเหนือจากสัญญาณของพวกเราแล้ว มีใครที่ตามหาคุณกันเทอร์เจอบ้าง...?” เจอรัลด์ถามขึ้น“เรื่องนั้น... เราออกตามหาเธอเจ็ดวันเจ็ดคืน แต่เร
เขาจำได้ว่าเธอเคยช่วยให้เขาได้เข้าไปในคฤหาสน์ของตระกูลยอร์นวิคเมื่อเดือนก่อน หลังจากที่เขาถูกเด็กฝึกงาน ของยอร์นวิคคนหนึ่งไม่ยอมให้เข้าไปในคฤหาสน์ในตอนนั้น เจอรัลด์รู้สึกว่าเธอเป็นคนน่ารักและใจดีมาก แต่สุดท้ายแล้วจากสิ่งที่เจอรัลด์ประสบมากับตัวเอง ผู้หญิงนิสัยดีอย่างเธอมักจะเกินคาด และเหลืออยู่ไม่กี่คนบนโลกในทุกวันนี้ถึงนั่นจะเป็นความประทับใจแรกที่เขามีต่อเธอ แต่นิสัยของควีนน่าในตอนนี้ได้เปลี่ยนไปมาก จากที่เขาเคยเจอในตอนนั้นแทนที่จะเป็นความอ่อนโยนที่เขาจำเธอได้ ตอนนี้เธอกลับเผยความอวดดีและชั่วร้ายออกมาเต็มที่ยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่เจอรัลด์จะทันได้มั่นใจว่าเธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาเหมือนก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงพลังภายในมหาศาลที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากตัวเธอ มันช่างทรงพลังเสียจนเจอรัลด์ต้องยอมรับว่าในตอนนี้ เขาอาจจะอ่อนแอกว่าเธอ แต่ก็ทำให้รู้สึกประหลาดใจได้ไม่น้อย“...คุณมาทำอะไรควีนน่า?” เจอรัลด์เอ่ยถามด้วยความลังเลใจ“ทำไมเหรอ แน่สิ ฉันก็มาหาคุณยังไงล่ะ!” ผู้หญิงคนนั้นตอบขึ้น ขณะที่เธอเอามือทั้งสองข้างไขว้หลังเอาไว้ แล้วมองดูเจอรัลด์ด้วยสายตาโหดเหี้ยมราวกับเธอจ้องมองคนที่ไ