สีหน้าของซูเหวินฮุยเย็นยะเยือก ในเมื่อเรื่องนี้ถูกนางนั่นพลิกกลับสถานการณ์ เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงมือเอง เขาเรียกคนทันที “ใครก็ได้!”“ไปจัดการเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม กูจะต้องทำลายเครื่องสำอางปัวเรต์ให้สิ้นซากและทำให้หลินหว่านหรูเป็นทาสของกูซะ”“สำหรับไอ้เย่เทียนหยู่นั่น มันกล้าดียังไงมาทำให้กูต้องอับอายในที่สาธารณะ กูจะให้มันต้องมาคุกเข่าขอร้องกู ดูกูเล่นรักกับภรรยาของมัน”“ไอ้หลานชั่ว นี่แกยังพูดภาษามนุษย์อยู่หรือเปล่า?”“แกคิดว่าแกเป็นใคร แกถึวได้หยิ่งยโสขนาดนี้ แกคิดว่าแกเป็นราชาสวรรค์หรือยังไง?”ในขณะนั้นเอง เสียงโกรธของชายชราคนหนึ่งดังแทรกเข้ามาซูเหวินฮุยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาหันกลับมาและรีบพูดทันทีว่า “คุณปู่ ไม่ได้กำลังพักฟื้นที่หลินหยวนเหรอครับ? จู่ๆ คุณปู่ถึงมาที่นี่”“แกว่าไงล่ะ ถ้าแกไม่ไปทำเรื่องชั่วเลอะเทอะพรรคนั้น แกคิดว่าปู่อยากมาหรือไง!”“ปู่รู้มานานแล้วว่า ถึงแกจะมีความสามารถโดดเด่น แต่แกก็ยังขี้อิจฉา ใจแคบ และทำตัวเลวทราม แต่ไม่คิดเลยว่าแกจะหน้าด้านได้ขนาดนี้”ซูชังโกรธปรอทแทบแตกเหตุผลที่เขาไม่พบซูเหวินฮ
หากไม่มีตำแหน่งทายาทเขาก็ไม่มีอะไรเลยในขณะนี้ ซูเหวินฮุยรู้สึกเหมือนท้องฟ้ากำลังจะถล่มเขาต้องการพูด แต่ซูชังก็เดินออกไปแล้วในความเป็นจริง เขาทนไม่ได้ แต่หลังจากการสอบสวน พฤติกรรมของหลานชายคนโตของเขาทำให้ใจเขาแตกสลายจริงๆสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคำสั่งของเจ้าตำหนักซิวหลัวเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปฏิบัติตาม ไม่อย่างนั้นเขาเองก็อยากให้โอกาสหลายชายได้กลับตัวประมาณสองชั่วโมงต่อมา สมาชิกของตระกูลซูมารวมตัวกันที่ตระกูลซู รวมทั้งซูเหวินฮวาด้วยเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วซูเหวินฮวา คร่ำครวญว่าดูเหมือนเขาจะต้องรอโอกาสต่อไป แต่แล้วจู่ๆ ก็มีสายเข้าไม่น่าแปลกใจที่ซูเหวินฮวารู้สึกว่าไม่มีโอกาส ก็เพราะเวลาผ่านไปยามชั่วคืนแล้วแต่ตระกูลซูก็ยังไร้วี่แววจนถึงเช้าทุกอย่างก็ยังคงเงียบสงบในความเห็นของเขา แม้แต่พี่เย่เองก็คงยังเป็นเรื่องยาก ดังนั้น เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้ชั่วคราวและรอโอกาสต่อไป แต่เขาไม่ได้ตำหนิเย่เทียนหยู่ เพราะถึงยังไงแล้ว เรื่องทั้งหมดนี่ก็ยากมากจริง ๆสิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ สายที่เขาได้รับในเวลานี้มาจากคุณปู่เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ปู่ซูชังไม่เคยโทรหาเขาเลย
สวีผิงรู้จักตระกูลซูเป็นอย่างดีหลังจากอยู่ในตระกูลซูมาหลายปีซูเหวินฮุยมีความสามารถที่โดดเด่นและเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก สถานะของเขาไม่สั่นคลอนอย่างแน่นอนหวังเยี่ยนหรูแม่ของซูเหวินฮุย มาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียง และครอบครัวของเธอก็มีอำนาจเช่นกัน ตระกูลซูก็ยอมรับเธอ ทำให้ตำแหน่งของเยี่ยนหรูมั่นคงมากเพราะอย่างนั้น ตำแหน่งของพวกเขาได้ยึดที่มั่นหยั่งรากลึกแล้วและไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้ขอแค่พวกเขาไม่สั่นคลอน พวกเขาคู่แม่ลูกก็ถูกกำหนดให้มีชีวิตที่ย่ำแย่ต่อไป ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเซอร์ไพรส์ใด ๆ เลยซูชังเหลือบมองทุกคนที่มา และพูดเสียงเข้มว่า “วันนี้ปู่เรียกทุกคนมาที่นี่เป็นพิเศษเพราะปู่มีเรื่องสำคัญจะประกาศ”เขาอารมณ์ไม่ดีและขี้เกียจเกินกว่าจะพูดอ้อมค้อม ดังนั้นเขาจึงพูดต่อทันที “เนื่องจากความประพฤติที่ไม่ดีของซูเหวินฮุย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ใช่ทายาทของตระกูลซูอีกต่อไป แต่เขาจะยัง ไม่สามารถแตะต้องทรัพย์สินใด ๆ ของตระกูลซูได้อีกต่อไป! ”ทันทีที่สิ้นคำพูด ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความโกลาหล ทุกคนต่างก็ตกตะลึงนี่มันหมายความว่ายังไงไม่เพียงแต่ตำแหน่งทา
“ดังคำพูดที่ว่าผู้คนไม่กลัวการทำผิดพลาด แต่กลัวการทำผิดพลาดไปตลอดชีวิต เหวินฮุยเพิ่งทำผิดไป นี่เป็นครั้งแรกที่เขาขอร้องพ่อแบบนี้ พ่อไม่ให้โอกาสเขาเลยเหรอครับ”ซูไข่ถามซูชังขมวดคิ้ว เขาอยากให้โอกาสหลานชายใจจะขาด แต่เจ้าตำหนักไม่ยอมให้โอกาสเขา แต่เขาไม่ควรบอกคนอื่นเกี่ยวกับตำหนักซิวหลัวเขาส่ายหน้าและพูดอย่างเย็นชา: “เอาล่ะ ไม่จำเป็นต้องพูดมากกว่านี้ พ่อตัดสินใจแล้ว! ”“ทายาทของเหวินหุยถูกยกเลิกแล้ว นับจากนี้ไป ตระกูลซูของเรามีทายาทเพียงคนเดียวเท่านั้น และนั่นคือซูเหวินฮวา! ”ทันทีที่สิ้นคำพูด ทั้งสถานที่ก็ตกอยู่ในความตะลึงงัน ทุกคนนิ่งอึ้งกันไปหมดไม่มีใครคาดคิดว่าซูเหวินฮุยจะถูกปลด และซูเหวินฮวาจะขึ้นมารับตำแหน่ง แม้ว่าพวกเขาจะตกใจที่ซูเหวินฮุยถูกปลด แต่ก็ไม่มีใครสามารถจินตนาการถึงเรื่องนี้ได้ซูเหวินฮวา ลูกชายที่เกิดจากเมียน้อยจะมีคุณธรรมและความสามารถแค่ไหนกัน?ยิ่งไปกว่านั้น เขาเก่งเรื่องกิน ดื่ม สำมะเลเทเมาและเล่นการพนัน แล้วเขาจะมีคุณสมบัติที่จะสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลซูในอนาคตได้ยังไงสวีผิงเองก็ตกใจและไม่อยากจะเชื่อหูของเธอ แต่เมื่อมองดูลูกชายของเธออีกครั้ง ทุกอย่างดู
ซูชังเองยังไงก็เป็นหัวหน้าตระกูลซู หากจำเป็น เขาสามารถส่งต่อตำแหน่งหัวหน้าตระกูลจากเขาไปยังซูเหวินฮวาได้ตลอดเวลายิ่งไปกว่านั้น ในสายตาของเขา ซูไข่ไร้ความสามารถโดยกำเนิด ดังนั้นเขายังต้องรับผิดชอบทรัพย์สินหลายอย่างของครอบครัวด้วยตัวของเขาเองเขาคิดไว้แล้วและวางแผนที่จะให้ซูเหวินฮุยเข้ามารับช่วงต่อเพียงแต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นซูเหวินฮวาก็เท่านั้นแต่เมื่อสิ้นคำพูดนี้ก็ทำให้ทุกคนในห้องตกใจหนักกว่าเดิมทุกคนเงียบจดได้ยินเสียงจั๊กจั่นร้อง!ความดีความชอบส่วนใหญ่ตระกูลซูที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นเพราะมีซูชังเป็นผู้ผลักดันตระกูลซู จนได้มาอยู่ในสถานะปัจจุบันดังนั้น ในตระกูลซูในปัจจุบัน ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนสถานะของซูชังได้แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าซูชังจะตั้งใจแน่วแน่ที่จะละทิ้งหลานชายคนโปรดที่เขารักมากมาโดยตลอดแล้วยังผลักซูเหวินฮวาขึ้นไปตำแหน่งที่สูงกว่าใบหน้าของซูเหวินฮุยซีดไปแล้ว ดวงตาของเขาว่างเปล่า เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมปู่ของเขาถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ อาจเป็นเพราะสิ่งที่เขาทำลงไปเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดแม้แต่ซูเหวินฮวาก็ยังตกตะลึง แต่ก็เห็นได้ว่าพี่เย่กดดันปู่ของเขามาก
จริง ๆ แล้วหลายคนในครอบครัวรู้ข้อเท็จจริงนี้ เพียงแต่พวกเขาไม่เคยสนใจแต่การถูกชี้ชัดแบบนี้ก็ยังทำให้ดูน่ารังเกียจและน่าอับอายอย่างเห็นได้ชัดแต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น การตอบสนองของซูเหวินฮวาก็สมบูรณ์แบบ อย่างน้อยซูชังก็พอใจต่อท่าทีของเขาเป็นพิเศษสิ่งที่เขากลัวที่สุดคือซูเหวินฮวาหมกมุ่นอยู่กับการแก้แค้น หากเป็นเช่นนี้ พวกเขาจะเดือดร้อนในอนาคต เพราะถึงยังไงเขาได้รับการสนับสนุนจากเจ้าตำหนักโชคดีที่หลานชายของเขาคำนึงถึงส่วนรวมมากกว่า ดังนั้นเขาจึงพอใจมากสวีผิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน คนอื่น ๆ ไม่รู้ แต่เธอรู้ดีถึงความอัปยศอดสูและความเจ็บปวดที่ลูกชายของเธอต้องทนทุกข์ทรมาน เธอรู้ว่าลูกชายของเธอกำลังคิดที่จะเข้ามาแทนที่ซูเหวินฮุยและเหยียบย่ำซูเหวินฮุยเธอกังวลว่าลูกชายของเธอจะอารมณ์เสีย โกรธซูชัง และเสียโอกาสอันยิ่งใหญ่ไปแต่แล้วซูเหวินฮวาก็พูดต่อ: “แต่คุณปู่ ถ้ายังมีคนรังแกผมหรือข่มเหงผมหลังจากวันนี้ ผมควรทำยังไงดีครับ?”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ใจของทุกคนก็ตกตะลึงอีกครั้งซูเหวินฮวาฉลาดขนาดนนี้ เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ครอบครัวซูเหวินฮุยไม่เต็มใจที่จะสูญเสียต
ใบหน้าของซูเหวินฮุยดูน่าเกลียด แต่เมื่อมองด้วยสายตาเย็นชาของปู่ของเขา เขาทำได้เพียงถอดแหวนออกอย่างจริงใจแล้วมอบให้ซูเหวินฮวาเมื่อมองดูซูเหวินฮวาในเวลานี้ ซูเหวินฮุยรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งในสายตาของเขา ซูเหวินฮวาเป็นเพียงมดที่สามารถเหยียบย่ำได้ตลอดเวลาเขาแค่ไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าเขาเลือดเย็นเกินไป และซูเหวินฮวาก็เป็นคนสิ้นเปลืองที่กิน ดื่ม ค้าประเวณี และเล่นการพนัน และไม่ควรค่าแก่การพูดถึงเลย ดังนั้นเขาจึงไม่เคยฆ่าเขาเลยแต่เขาไม่คิดเลยว่ามดที่เขาดูถูกจะทำให้โลกพลิกคว่ำเขาไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้!แต่เขาจะทำอะไรได้ แม้แต่คุณปู่ก็ยังยืนเคียงข้างอีกฝ่ายในทางตรงกันข้าม ซูเหวินฮวาดูสงบแต่นั่นเป็นเพียงผิวเผิน ลึก ๆ ในใจของเขากำลังสับสนวุ่นวายอยู่แล้วเพราะนี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาอดกลั้นมาหลายปีและใช้ชีวิตอย่างไร้ศักดิ์ศรีเพื่อให้ได้มาฉันคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ในชีวิตนี้ เพราะซูเหวินฮุยเป็นที่นิยมในครอบครัวของเขาและมีความสามารถมากแต่จู่ ๆ ก็ได้รับความช่วยเหลือจากพี่เย่เส้นชัยอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้วโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ เลยการเตรียมการทั้งหมดที่เขาทำนั้นไม่เสียเปล่าเลยจริงๆอย่าง
“ได้ ทำตามที่หลานบอกเถอะ”ซูชังตกลงและส่งมอบเรื่องนี้กับซูเหวินฮวาขณะที่ซูเหวินฮวาจากไป ซูไข่และซูเหวินฮุยก็เข้ามาพวกเขาไม่เข้าใจและต้องเข้าใจเรื่องทั้งหมดให้ได้ในวันนี้เมื่อเห็นพวกเขาเข้ามา ซูชังไม่รอให้พวกเขาถาม และพูด: “พ่อรู้ว่าแกต้องการถามอะไร แต่มีเพียงแกและลูกชายของแกเท่านั้นที่จะได้รู้ และจะต้องไม่บอกคนอื่นเด็ดขาด แกเข้าใจไหม?”พวกเขาสองคนตกใจมาก แน่นอนว่ามีปัญหาเกิดขึ้นและพวกเขาก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว“ครั้งนี้ เหวินฮุยมีปัญหากับคนที่ทรงอำนาจมาก ๆ ความแข็งแกร่งของเขาอยู่เหนือจินตนาการของแก ในสายตาของเขา ตระกูลซูสามารถถูกทำลายได้ด้วยการกระดิกนิ้วเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”“ใครกันครับที่น่ากลัวขนาดนี้”“เขาเป็นลูกชายของตระกูลใหญ่เมืองจิงตูเหรอครับ?” ซูไข่ถามด้วยความตกใจซูเหวินฮุยอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “ไม่สิ ถึงระยะนี้ผมจะทำเรื่องเลวไปบ้าง แต่ผมก็ไม่ได้ยั่วยุใครเลย ไม่ต้องพูดถึงนายน้อยจากจิงตูเลยนะครับ”“หลานยั่วยุเขา” ซูชังถอนหายใจ“ไม่อย่างแน่นอนครับ เดี๋ยวก่อน เหมือนจะมีอยู่คนหนึ่ง แต่นั่นเป็นเพียงประธานบริษัทกับพนักงานบริษัทธรรมดา ๆ ไม่มีทางที่คนแบบนั้นจะเป็นภัยคุก
ทันใดนั้นผู้หญิงชุดเขียวก็รู้สึกโกรธ และกำลังจะระเบิดอารมณ์ออกมาแต่หญิงสาวที่อยู่ด้านหน้ากลับดุขึ้นมาทันที “เสี่ยวลู่ เธอเป็นคนผิดก่อนนะ ช่างมันเถอะ”“ค่ะ นายท่าน!”ผู้หญิงชุดสีเขียวพยักหน้า และไม่พูดอะไรอีกไม่รู้ว่าอาจเพราะเธอกลัวจะเกิดความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่าย หญิงสาวคนนั้นจึงนั่งลงตรงที่นั่งที่อยู่ข้าง ๆ เย่เทียนหยู่ ซึ่งหมายความว่า ที่นั่งของเธออยู่ด้านหลังเยื้องไปทางด้านซ้ายของเย่เทียนหยู่ และผู้หญิงชุดเขียวเองก็นั่งลงตรงที่นั่งซ้ายมือของเธอเช่นกันเย่เทียนหยู่ตกตะลึงไปชั่วขณะ เดิมทีการปรากฏตัวของหญิงสาวลึกลับเช่นนี้ก็ทำให้เขาประหลาดใจมากพออยู่แล้ว และตอนนี้เธอก็กลับมานั่งอยู่ข้าง ๆ เขาหลังจากนั่งลงแล้ว หญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมองเย่เทียนหยู่ แต่ก็เบือนหน้าหนีแทบจะในทันทีในสายตาของเธอ เย่เทียนหยู่หล่อมากจริง ๆ แต่นั่นก็มีเพียงเท่านั้นตั้งแต่ที่เธอเริ่มฝึกฝนอย่างหนักจนทำให้หลงลืมอารมณ์ความรู้สึกไป ตัวเธอเองก็เริ่มสนใจเรื่องความรู้สึกน้อยลงไปเรื่อย ๆ เธออุทิศตนให้กับการฝึกฝน และนั่นก็ทำให้เธอไม่รู้สึกสนใจผู้ชายคนไหนเลยนอกเหนือจากการฝึกฝนแล้ว สิ่งเดียวที่สามารถทำให
“ไม่มีปัญหา!”จูเก่อหลิวหลีรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาทันที เงินแค่ล้านเดียว สำหรับเธอแล้ว แค่นี้ไม่ถึงกับทำให้ขนหน้าแข้งร่วงด้วยซ้ำ เธอไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยหลังจากนั้นไม่นาน ผู้หญิงคนนั้นก็เห็นตัวเลขหนึ่งล้านปรากฏบนข้อความที่แจ้งเตือนเข้ามาเธอตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง เธอมองดูหญิงสาวคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ก่อนที่เธอจะรีบถอนเงินเข้าบัญชีธนาคารทันทีที่เงินเข้าบัญชี การโอนครั้งนั้นเธอก็จะถือว่าเป็นเรื่องจริงการฝากถอนเงินในปัจจุบันนี้ค่อนข้างรวดเร็ว ภายในไม่กี่วินาทีเงินก็เข้าบัญชีแล้ว“ขอบคุณ ขอบคุณคุณผู้หญิงมากค่ะ!”หญิงสาวรีบขอบคุณเธอด้วยความซาบซึ้ง จากนั้นก็หันหลังแล้วเดินออกไปโดยไม่ลังเลเย่เทียนหยู่ยิ้มอย่างขมขื่น และคิดในใจว่า ผู้หญิงคนนี้ช่างขวางโลกเสียจริง เขาส่ายหัวพร้อมกับพูดขึ้นว่า “เธอซื้อตัวของผู้หญิงคนนั้นแล้ว แล้วที่นั่งของเธอล่ะ?”“ฉันไม่มีตั๋วหรอกค่ะ!”“เธอไม่มีตั๋ว แล้วเธอเข้ามาได้ยังไง?” เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจ“ฉันก็แค่มองพนักงานตรวจตั๋ว แล้วเขาก็ให้ฉันเข้ามาค่ะ”“......”เย่เทียนหยู่ทำอะไรไม่ถูก หมดคำจะพูดแล้วจริง ๆ “ถ้าเธอไม่มีตั๋ว แ
ในตอนที่เหอฉุนเดินออกมา เดิมทีเธอตั้งใจหยิบตั๋วเพิ่มมาสองสามใบ มีที่นั่งดี ๆ ในแถวแรกแค่หนึ่งที่เท่านั้น ส่วนที่นั่งอื่น ๆ อยู่ถัดลงไปด้านหลังอีกเล็กน้อยเวทีตรงนี้จัดไว้เพื่อที่เวลาทำการแสดง แม้ผู้ชมจะนั่งแถวหน้า ก็ไม่จำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นเลยแม้แต่น้อย เป็นตำแหน่งที่สบายมากแต่เพราะสายตาที่ไม่อยู่นิ่งของเย่เทียนหยู่ เธอเลยหยิบตั๋วแบบลวก ๆ ให้เขาไปหนึ่งใบ เดิมทีตามคำขอของเฉินเฟยเฟยนั้น คือต้องการให้เย่เทียนหยู่นั่งอยู่ตรงกลางของแถวแรกอย่างไรก็ตาม ตำแหน่งที่เย่เทียนหยู่ได้รับนั้นก็ถือว่าค่อนข้างดีเช่นกัน อยู่ในแถวที่สาม ซึ่งอาจจะสบายกว่าด้วยซ้ำแต่การโต้ตอบกับดารานักร้องนั้น ก็อาจจะลำบากไปสักหน่อยเย่เทียนหยู่สังเกตเห็นอารมณ์ร้ายของเหอฉุนได้โดยธรรมชาติ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว แถมอารมณ์ร้ายอีกต่างหาก เธอคงเคยถูกผู้ชายรังแกมาสินะในครั้งนี้ เขานั้นทายถูกแล้วจริง ๆแน่นอนว่าเย่เทียนหยู่ก็ไม่คิดที่จะถือสาเรื่องเล็กน้อยพวกนี้อยู่แล้ว เขาเหลือบมองหมายเลขบนตั๋ว และเดินตามฝูงชนเข้าไปด้านในหลังจากผ่านความยากลำบากในการแหวกฝูงชนเข้ามา ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็พบที่นั่งของเขาที่อยู่ตรง
เธอถึงขั้นตั้งใจสืบเรื่องนี้มาโดยเฉพาะ และพบว่าตระกูลหนานกงเป็นถึงหนึ่งในตระกูลอันดับต้น ๆ ของอาณาจักรมังกร พวกเขามีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัว แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงพวกเขาได้เลยพี่เย่เก่งกาจมากก็จริง หากเป็นแค่ตระกูลทั่วไปในเมืองตะวันออก เธอก็อาจจะลองเสี่ยงดวงดู แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหนานกง ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางรับมือพวกเขาได้เลย“คุณเย่จะมาเหรอคะ?” จางผิงถามด้วยความประหลาดใจ“อือ ฉันเชิญเขามาชมคอนเสิร์ตของฉันในคืนนี้ และเขาเองก็ตอบตกลงแล้วด้วย” เมื่อพูดถึงเย่เทียนหยู่ ใบหน้าของเฉินเฟยเฟยก็แสดงถึงความปิติขึ้นมา“ได้ค่ะ!”จางผิงพยักหน้า แต่ในใจเธอกลับกำลังคิดอยู่ว่า เธอควรจะใช้วิธีไหนเพื่อทำให้คุณเย่รู้เรื่องที่พี่เฟยเฟยกำลังถูกรังแกโดยเธอไม่จำเป็นต้องเป็นคนพูดดีไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เธอถึงมักคิดว่าตัวตนของคุณเย่นั้นไม่ธรรมดาบางที เขาอาจจะมีวิธีรับมือจริง ๆ ก็ได้เหอฉุนไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเองก็อยากที่จะพบกับบุคคลในตำนานคนนี้เหมือนกัน ดูว่าเขาโดดเด่นอย่างที่ทุกคนพูดกันจริงไหมแน่นอน หากดูจากเหตุการณ์ของปาร์คดาฮยอนก่อนหน้านี้แล้ว คนคนนี้น่าจะพอมีความสามา
เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สุดท้ายหลินหว่านหรูก็ตัดสินใจปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ยังไงอีกไม่นานความจริงก็จะถูกเปิดเผยออกมาแล้วและในเวลาเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับสนามกีฬาคนหนึ่งคือเฉินเฟยเฟย นักร้องชื่อดังจากอาณาจักรมังกร ตอนนี้เฉินเฟยเฟยกำลังโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเธอจะต้องแบกรับแรงกดดันที่ค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้เธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาบ้างแล้วอีกคนคืออดีตผู้ช่วยของเฉินเฟยเฟย ซึ่งปัจจุบันคนที่ทำหน้าที่แทนคือจางผิงคนสุดท้ายเป็นหญิงวัยสามสิบกว่า ๆ ที่มีใบหน้างดงาม หุ่นค่อนข้างสูง ทั้งหน้าอกและบั้นท้ายดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบของผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่และก็เป็นเพราะไม่สามารถทนต่อการคุกคามจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดิมได้ เธอจึงถูกบังคับให้ลาออก นอกจากนี้ก็เป็นเพราะได้รู้จักกับเฉินเฟยเฟย เฉินเฟยเฟยที่เดิมทีไม่ต้องการจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ดังนั้นสตูดิโอส่วนตัวของเธอเองจึงต้องการผู้จัดการด้วยเช่นกันเหอฉุนจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถ เธอจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระเบียบแต่เพราะค
หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็กดเบอร์โทรหาแม่ตระกูลหลินโดยตรง“ฮัลโหล!”“แม่ หนูเองนะคะ!”“อ๋อ หว่านหรูเองเหรอ” แม่ตระกูลหลินรู้สึกประหม่าในตอนแรก แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ลงทันที และถามออกไปว่า “แกเป็นไงบ้าง ช่วงนี้สบายดีไหม”“ก็ดีค่ะ แค่มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย”“แกหมายถึงเรื่องของปาร์คดาฮยอนนั่นน่ะเหรอ ฉันเองก็ติดตามข่าวนี้อยู่เหมือนกัน ปาร์คดาฮยอนนั่นเป็นคนที่ไร้ยางอายมากจริง ๆ นั่นแหละ ชาวเน็ตหน้าโง่พวกนั้นด้วย”“แต่ยังไงฉันก็เชื่อว่าขอแค่มีเทียนหยู่ แกจะต้องไม่เป็นไร เพราะงั้นฉันเลยไม่โทรศัพท์ไปรบกวนแก”แม่ตระกูลหลินอธิบายอย่างรวดเร็วในฐานะแม่ ตอนนั้นเธอไม่แม้แต่จะโทรหาเพื่อถามไถ่เลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริง ๆ“อืม เป็นอย่างที่ว่าแหละค่ะ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเทียนหยู่มากจริง ๆ” หลินหว่านหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงเลือกที่จะถามออกไป “แม่คะ ไม่นานมานี้มีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับหนูบนโลกอินเทอร์เน็ต แม่เห็นหรือยังคะ?”“ข่าวอะไรเหรอ แม่ไม่ค่อยเล่นอินเทอร์เน็ตสักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย เลยไม่รู้เรื่องน่ะ เรื่องของปาร์คดาฮยอนเองก็ฟังจากปากคนอื่
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื