ใบหน้าของซูเหวินฮุยดูน่าเกลียด แต่เมื่อมองด้วยสายตาเย็นชาของปู่ของเขา เขาทำได้เพียงถอดแหวนออกอย่างจริงใจแล้วมอบให้ซูเหวินฮวาเมื่อมองดูซูเหวินฮวาในเวลานี้ ซูเหวินฮุยรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งในสายตาของเขา ซูเหวินฮวาเป็นเพียงมดที่สามารถเหยียบย่ำได้ตลอดเวลาเขาแค่ไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าเขาเลือดเย็นเกินไป และซูเหวินฮวาก็เป็นคนสิ้นเปลืองที่กิน ดื่ม ค้าประเวณี และเล่นการพนัน และไม่ควรค่าแก่การพูดถึงเลย ดังนั้นเขาจึงไม่เคยฆ่าเขาเลยแต่เขาไม่คิดเลยว่ามดที่เขาดูถูกจะทำให้โลกพลิกคว่ำเขาไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้!แต่เขาจะทำอะไรได้ แม้แต่คุณปู่ก็ยังยืนเคียงข้างอีกฝ่ายในทางตรงกันข้าม ซูเหวินฮวาดูสงบแต่นั่นเป็นเพียงผิวเผิน ลึก ๆ ในใจของเขากำลังสับสนวุ่นวายอยู่แล้วเพราะนี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาอดกลั้นมาหลายปีและใช้ชีวิตอย่างไร้ศักดิ์ศรีเพื่อให้ได้มาฉันคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ในชีวิตนี้ เพราะซูเหวินฮุยเป็นที่นิยมในครอบครัวของเขาและมีความสามารถมากแต่จู่ ๆ ก็ได้รับความช่วยเหลือจากพี่เย่เส้นชัยอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้วโดยไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ เลยการเตรียมการทั้งหมดที่เขาทำนั้นไม่เสียเปล่าเลยจริงๆอย่าง
“ได้ ทำตามที่หลานบอกเถอะ”ซูชังตกลงและส่งมอบเรื่องนี้กับซูเหวินฮวาขณะที่ซูเหวินฮวาจากไป ซูไข่และซูเหวินฮุยก็เข้ามาพวกเขาไม่เข้าใจและต้องเข้าใจเรื่องทั้งหมดให้ได้ในวันนี้เมื่อเห็นพวกเขาเข้ามา ซูชังไม่รอให้พวกเขาถาม และพูด: “พ่อรู้ว่าแกต้องการถามอะไร แต่มีเพียงแกและลูกชายของแกเท่านั้นที่จะได้รู้ และจะต้องไม่บอกคนอื่นเด็ดขาด แกเข้าใจไหม?”พวกเขาสองคนตกใจมาก แน่นอนว่ามีปัญหาเกิดขึ้นและพวกเขาก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว“ครั้งนี้ เหวินฮุยมีปัญหากับคนที่ทรงอำนาจมาก ๆ ความแข็งแกร่งของเขาอยู่เหนือจินตนาการของแก ในสายตาของเขา ตระกูลซูสามารถถูกทำลายได้ด้วยการกระดิกนิ้วเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”“ใครกันครับที่น่ากลัวขนาดนี้”“เขาเป็นลูกชายของตระกูลใหญ่เมืองจิงตูเหรอครับ?” ซูไข่ถามด้วยความตกใจซูเหวินฮุยอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “ไม่สิ ถึงระยะนี้ผมจะทำเรื่องเลวไปบ้าง แต่ผมก็ไม่ได้ยั่วยุใครเลย ไม่ต้องพูดถึงนายน้อยจากจิงตูเลยนะครับ”“หลานยั่วยุเขา” ซูชังถอนหายใจ“ไม่อย่างแน่นอนครับ เดี๋ยวก่อน เหมือนจะมีอยู่คนหนึ่ง แต่นั่นเป็นเพียงประธานบริษัทกับพนักงานบริษัทธรรมดา ๆ ไม่มีทางที่คนแบบนั้นจะเป็นภัยคุก
ความยินดีสูงสุดของหลินหว่านหรูในตอนนี้คือการได้อ่านความคิดเห็นและดูว่าทุกคนพูดถึงเครื่องสำอางใหม่ของหลินซื่อกรุ๊ปยังไงแต่แน่นอนว่าเธอยังต้องทำงานในขณะนี้ ซูถิงเข้ามารายงาน: “ประธานหลิน นายน้อยของซูซื่อกรุ๊ปมาพบคุณค่ะ”ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งล่าสุด เธอทำงานเป็นเลขาของหลินหว่านหรูอย่างเชื่อฟัง จริงจังและปฏิบัติตัวดีมาก โดยไม่ก่อปัญหาใด ๆแม้แต่ความวุ่นวายครั้งใหญ่นั้น เธอก็แค่ให้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับหลินหว่านหรูให้กับกงซุนจื้อเท่านั้น และไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นอีกตอนนี้เธอมุ่งความสนใจไปที่การทำลายหลินหว่านหรูและเย่เทียนหยู่ ของที่ฉันไม่ได้มาเธอก็อย่าคิดอย่าหวังซูซื่อกรุ๊ป?ต้องเป็นซูเหวินฮุยแน่ใบหน้าของหลินหว่านหรูเย็นชาเล็กน้อยและเธอก็พูดอย่างเย็นชา: “เขามีธุระอะไร?”“ฉันไม่แน่ใจคะ ดูเหมือนจะมีอีกหลายคนที่มากับเขาแต่ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการทำอะไร”“ได้ พาพวกเขาไปที่ห้องประชุม เดี๋ยวฉันจะตามไป”หลินหว่านหรูโกรธมาก แต่เมื่อนึกถึงตัวตนของอีกฝ่ายในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลซูเธอก็ทำได้เพียงอดทนเท่านั้น ไม่ว่าในกรณีใดตระกูลซูไม่ใช่คนที่เธอสามารถทำให้ขุ่นเคืองได้ซูถิงพยักหน้าและด
“ขอบคุณที่น้อยซูเข้าใจนะคะ ไม่ทราบว่าวันนี้นายน้อยซูมีธุระหรือเปล่าคะ?” หลินหว่านหรูรีบถามเธอรู้สึกว่าทายาทที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งของตระกูลซูคนนี้ ออกจะสุภาพกับเธอมากเกินไปเล็กน้อยในเวลานี้ เธอนึกถึงคำพูดของเย่เทียนหยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งครั้งแรกที่บอกว่านายน้อยคนรองของตระกูลซูแสร้งทำเป็นคนอ่อนแอไร้น้ำยา เพื่อหลอกลวงให้ศัตรูตายใจแต่จริง ๆ แล้วเขาเก่งกาจมากถึงขั้นว่ากันว่า ผู้สืบทอดซูซื่อกรุ๊ปอาจมีการถูกเปลี่ยนแปลงในตอนนั้นเธอไม่เชื่อเลยแม้แต่นิดเดียว และรู้สึกว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน เพราะถึงยังไงก็มีข่าวลือว่า นายน้อยคนรองของตระกูลซูไร้ความสามารถ แล้วเขาจะแทนที่นายน้อยผู้เก่งกาจซูได้ยังไงแต้ไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็เปลี่ยนแปลงไปเย่เทียนหยู่พูดถูกอีกครั้งแต่ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตอนนี้เขามีน้ำเสียงแปลก ๆ ในโทรศัพท์และบอกว่าเขาไม่แน่ใจ เห็นได้ชัดว่าเขารู้ว่าผู้มาเยือนเป็นซูเหวินฮวาไม่ใช่ซูเหวินฮุยที่มาอิตานี่ชอบทำแบบนี้จริงๆ ไม่ยอมพูดอะไรสักอย่างเมื่อเห็นหลินหว่านหรูถาม ซูเหวินฮวาก็รีบพูดว่า: “จริงๆ แล้ว ไม่มีอะไรเลย มันแค
“ได้ครับ ผมจะรอเขาอยู่ที่นี่” ซูเหวินฮวารีบพูดขึ้นมาทันที ก่อนจะนั่งตัวตรงมากขึ้นราวกับว่าเย่เทียนหยู่มาถึงแล้วหลินหว่านหรูหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาทันทีพร้อมกับกดหมายเลขของเย่เทียนหยู่ เธอโทรออกอย่างรวดเร็วและถามว่า “เย่เทียนหยู่อยู่ที่บริษัทหรือเปล่า”“อยู่สิ!”โดยบังเอิญ วันนี้เย่เทียนหยู่เองก็มาที่บริษัท“มาที่ห้องประชุมหน่อย!”“มีเรื่องอะไรเหรอครับ?” เย่เทียนหยู่ถาม“ไม่มีอะไรหรอก ไว้นายจะรู้เองตอนนายมาที่นี่”“ก็ได้ครับ!”เย่เทียนหยู่เดินไปอย่างช่วยไม่ได้ทันทีที่เขาเห็นเย่เทียนหยู่ ซูเหวินฮวาก็ยืดตัวตรง ลุกขึ้นยืนอย่างเร่งรีบ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความเคารพอย่างมาก “คุณชายเย่!”หลินหว่านหรูมองไปที่ซูเหวินฮวาด้วยความประหลาดใจ เย่เทียนหยู่ทำอะไร ทำไมเขาถึงต้องสุภาพขนาดนี้?เย่เทียนหยู่ยิ้มและพูดว่า “นี่มันนายน้อยซูไม่ใช่เหรอครับ เรียกผมมามีเรื่องอะไรเหรอ?”หลินหว่านหรูไม่มีเวลาให้ทันได้คิดอย่างถี่ถ้วน เธอโพล่งความคิดของเธอออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนั้น เขาก็ส่ายหน้าทันทีและพูดว่า “ผมจะเอาหุ้นพวกนั้นไปทำอะไรครับ ไม่สู้ผมยกให้คุณยังดีกว่า ถ้าเป
เขาตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก“.....”หลินหว่านหรูพูดไม่ออก แต่ในขณะที่เธอกำลังจะเซ็นปากกา เธอก็พูดว่า “ฉันไม่เซ็นแล้ว ยุ่งยากเกินจริง ๆ เลย เย่เทียนหยู่นายจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ฉันยังมีธุระ”หลังจากพูดจบ หลินหว่านหรูก็เดินออกไปตามลำพังซูเหวินฮวาอยู่นิ่งตะลึงค้างอยู่กับที่เย่เทียนหยู่ยิ้มอย่างขมขื่น เห็นได้ชัดว่าเธอจะให้เขาเป็นคนรับมันเอาไว้ เพราะอย่างนั้น เขาเองจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำสัญญาลงนามในชื่อของเขา จากนั้นทำตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องโดยได้รับความช่วยเหลือจากทนายความจากนั้น ซูเหวินฮวาก็ขอให้พวกเขาออกไปก่อน จากนั้นเขาก็คุกเข่าลงแล้วพูดว่า “พี่เย่ เหวินฮวาคนนี้ไม่มีอะไรมากพอจะตอบแทนน้ำใจของคุณได้”“แต่ขอแค่เหวินฮวาคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ผมจะไม่มีวันลืมความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของคุณ อนาคตไม่ว่าจะเป็นคำสั่งไหน ได้โปรดสั่งผมได้เต็มที่เลยนะครับ”“คุณเนี่ยนะ เรื่องพวกนี้เคยบอกผมผ่านโทรศัพท์ไปแล้วนี่?”“ใช่ครับ แต่ผมรู้สึกแย่ที่ไม่ได้พูดต่อหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ชีวิตนี้ของผมคงไม่มีหวังได้เชิดหน้าชูตาอีกแล้ว”“เอาล่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว คุณรีบลุกขึ้นเร็ว ๆ ถ้าใครมาเห็นผู
หลินหว่านหรูทิ้งเย่เทียนหยู่ไว้ในห้องประชุม แน่นอนว่าเธอหาทางหนีทีไร่ให้ตัวเองก่อนจะหนีไป และในที่สุดก็ปล่อยให้เย่เทียนหยู่เข้าถือหุ้นเป็นไปตามที่คาดไว้ เย่เทียนหยู่ลงนามในสัญญาอย่างเชื่อฟังและรับส่วนแบ่งหุ้น 20%ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นทีเรื่อง ทำให้เธอมีความสุขมากจริง ๆโดยเฉพาะการที่เธอสามารถแบ่งหุ้นของตัวเองให้กับเย่เทียนหยู่ได้นั้นถือเป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดสำหรับเธอในช่วงหลายวันมานี้แล้วหลินหว่านหรูกำลังนั่งอยู่พร้อมอารมณ์อันสุดจะปริ่มเปรม ขณะนั้นเองหลิวเหวินก็บุกเข้ามาในออฟฟิศด้วยความตื่นเต้น“หลิวเหวินเกิดอะไรขึ้น? ทำไมคุณดูอมทุกข์แบบนั้นล่ะ?”แน่นอนว่าหลินหว่านหรูสังเกตเห็นสภาพของหลิวเหวินเมื่อหลิวเหวินได้ยินแบบนั้น เธอก็พูดด้วยความตื่นเต้น “เป็นเรื่องดีมากเลยล่ะค่ะ ประธานหลิน เครื่องสำอางของเราเป็นที่นิยมมาก ขายกันไม่หวาดไม่หวั่น แถมร้านค้าตัวแทนจำหน่ายยังมาขอซื้อกันเพียบเลยนะคะ”หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดด้วยความสับสน “เรายังมีเครื่องสำอางอะไรอีก? มีแค่เครื่องสำอางปัวเรต์ไม่ใช่เหรอ?”“ก็เครื่องสำอางปัวเรต์นี่ล่ะค่ะ”“เธอบอกว่าปัว
“สบายใจเหรอ?”“แบบนั้นไม่ได้นะ!”หลินหว่านหรูหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “เพราะเดี๋ยวคุณคงต้องเตรียมตัวสักหน่อย พรุ่งนี้เช้าฉันจะประกาศแต่งตั้งพวกคุณ”“อือ ฉันจะเตรียมตัวค่ะ”หลิวเหวินไม่รีรอและพยักหน้าเห็นด้วยทันทีขณะที่หลิวเหวินเดินจากไป หลินหว่านหรูก็เริ่มยุ่งกับงานของตัวเองแต่เธอกลับไม่รู้เลยว่าหลี่ว์ซิงเหอในเวลานี้ยังไม่สมัครใจยอมแพ้ เขาตั้งใจหาตัวผู้ถือหุ้นอีกสองคนที่สูญเสียหุ้นของตนมาเพื่อช่วยกันสร้างปัญหาที่แท้แล้ว หลังจากเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายในบริษัทถูกเปิดเผย หลี่ว์ซิงเหอกลับไม่ได้อารมณ์เสีย หรือกระทั่งออกจะอารมณ์ดีเสียด้วยซ้ำ เพราะเขาหลุดพ้นจากปัญหาใหญ่มาได้ในขณะเดียวกัน เขารอให้ทุกคนเปิดเผยว่าเย่เทียนหยู่หลอกลวงผู้อื่นยังไง บริษัทได้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ว่านั่น และเป็นไปไม่ได้ที่จะลบจุดด่างดำบนใบหน้าของทุกคนแต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลินหว่านหรูกับเย่เทียนหยู่ได้เชิญแพทย์แผนจีนชั้นนำด้านการดูแลผิวจากที่ไหนก็ไม่รู้มารักษาทุกคนโดยใช้ยาจีนส่วนสาเหตุที่รู้ว่าเป็นยาจีนนั้น ก็เพราะพวกเขาตามหาตัวผู้เสียหาย จากนั้นก็ทำความเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดเรื่องนี้ทำให้ผู้เสียหายเชื่อกันสนิท