"ฮ่าฮ่า!""คุณรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ รู้หรือเปล่าว่าผมทำยอดขายให้บริษัทได้มากแค่ไหนในแต่ละเดือน?"เฉินฮุยหัวเราะเสียงดังออกมาด้วยใบหน้าที่เหยียดหยามหากเขาทำเรื่องผิดพลาดอะไรที่ร้ายแรงขึ้นมา บริษัทอาจจะสามารถไล่เขาออกได้ แต่ทว่าในตอนนี้ เขาแค่โต้ตอบหัวหน้ากลุ่มไปแค่ประโยคเดียวเอง มีสิทธิ์อะไรมาไล่เขาออก?ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะมีคนสนับสนุนหรือไม่ ต่อให้เขาไม่มี เย่เทียนหยู่ก็จะไล่เขาออกแบบนี้ไม่ได้อยู่ดีต่อให้จะเป็นท่านประธานหลินที่มา เขาก็กล้าที่จะคัดง้างด้วยเหตุผลเช่นกันแต่เย่เทียนหยู่กลับส่ายหน้าไปมา แล้วพูดอย่างเรียบเฉยว่า "ผมไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องพวกนี้หรอก ผมแค่รู้ว่า คุณไม่ยอมทำตามคำสั่งผม งั้นก็ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ""ผมไม่ไปเสียอย่าง แล้วคุณจะทำอะไรได้?"เฉินฮุยหัวเราะเยาะ กระทั่งเขาไม่จำเป็นต้องยกเอาคนสนับสนุนออกมาเสียด้วยซ้ำ"ก็ได้ งั้นเรามาพูดถึงผลงานที่คุณได้ทำเอาไว้ในก่อนหน้านี้จะดีกว่านะ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมปีที่แล้ว คุณพยายามอย่างเต็มที่ที่จะขายสินค้าราคาต่ำที่สุดให้กับซุ่นเฉิง โดยได้รับเงินใต้โต๊ะจำนวนล้านห้า""วันที่ 10 ธันวาคม คุณ... วันนี้ วันท
โดยครั้งนี้หลิวซือซือไม่ได้พูดอะไรเลย เห็นได้ชัดว่าเธอตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก"ยอมรับก็ดีแล้ว งั้นต่อไปผมแจ้งกฎข้อกำหนดเลยก็แล้วกันนะ""อย่างแรก แม้ว่าผมจะเป็นหัวหน้าของพวกคุณ แต่ผมไม่มีเวลาควบคุมดูแลพวกคุณ ดังนั้น จากนี้เป็นต้นไป หลิวสุ่ยจะรับหน้าที่ดูแลควบคุมพวกคุณแทนผม""คำพูดของเขา ก็คือคำพูดของผม เข้าใจกันนะ?"เย่เทียนหยู่พูดอย่างสบายๆ ว่าเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้ว หลิวสุ่ยก็ตะลึงงันไปทันที เขาขยับริมฝีปากเล็กน้อย เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่กลับถูกเย่เทียนหยู่ขัดจังหวะเสียก่อน แล้วพูดว่า "ไม่ใช่ว่าคุณไม่เข้าใจการขายสักหน่อย คุณทำงานเต็มที่ก็โอเคแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรหรอก มีผมสนับสนุนอยู่แล้วนะ""ครับ หัวหน้าเย่ ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ" หลิวสุ่ยพูดด้วยสายตาที่แน่วแน่ เขาสำเร็จการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยหลักชื่อดัง เพียงแต่ไม่มีประสบการณ์การทำงานเท่านั้น ประกอบกับนิสัยที่ขี้อาย ก็เลยไม่ได้มีโอกาสแสดงความสามารถอะไรออกมา"เอาล่ะ พวกคุณมีความคิดเห็นอะไรหรือเปล่า?""ไม่มีค่ะ!"ทุกคนต่างก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างเชื่อฟัง แต่ในใจเห็นได้ชัดว่ามีความคิดเห็นอะไรบางอย่างอยู่พวกเ
อะไรนะ เมื่อคำพูดนี้ได้โพล่งออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน และไม่กล้าเชื่อหูของตัวเองเสียด้วยซ้ำ"หัวหน้าเย่คะ คุณกำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า?"จางเหยียนอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็จับจ้องมาที่เย่เทียนหยู่อย่างไม่กะพริบเช่นกัน เพราะมันเกินความคาดหมายเกินไปเพราะท้ายที่สุดแล้วในฐานะหัวหน้ากลุ่ม ค่าคอมมิชชันนั้นไม่น้อยเลย โดยเฉพาะหัวหน้ากลุ่มที่มีหน้าที่รับผิดชอบเท่ากับผู้จัดการแบบนี้และพวกเขาก็ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเพื่อการแข่งขันเงินจำนวนมากขนาดนี้ หากดึงออกไป เขาจะหากำไรจากไหน อาศัยแค่เงินเดือนขั้นพื้นฐานน่ะเหรอ?"คุณคิดว่ายังไงล่ะ?""ในเมื่อฉันพูดแบบนี้แล้ว ฉันก็ต้องทำได้อยู่แล้ว!" เย่เทียนหยู่พูดอย่างสบายๆ ออกมา"แล้วเงินเดือนของคุณล่ะ?""เงินแค่นิดเดียวแบบนั้น ฉันยังดูแคลนเลยนะ!""แต่โบนัสนี้ จะถูกแบ่งให้กับทุกคนเท่าๆ กัน!""แบ่งเท่าๆ กัน?"จางเหยียนตกตะลึง นี่มันเป็นการเหมารวมชัดๆ มันไม่สมเหตุสมผลเลย มันไม่ควรจัดลำดับการแข่งขัน เพื่อให้ทุกคนพยายามทำยอดหรอกเหรอ?"ถูกต้อง ผมรู้ว่าบางคนอาจจะไม่เข้าใจ แต่เราเป็นทีมเดียวกัน พวกเราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกั
ไม่ว่าจะเป็นกฎข้อกำหนดที่คาดไม่ถึงเหล่านั้น หรือการตรวจสอบที่เขาทำกับเฉินฮุย ทุกอย่างทำให้เธอประหลาดใจ หากเปลี่ยนเป็นเธอคงทำอย่างนั้นไม่ได้แน่นอนหลิวเหวินมาที่ห้องทำงาน และบอกเรื่องนี้กับหลินหว่านหรูอีกครั้งเธอกำลังคิดว่า เป็นประธานหลินหรือเปล่าที่ทำการตรวจสอบเฉินฮุย โดยควบคุมเรื่องนี้จากระยะไกลแต่เมื่อได้ยินเรื่องนี้ หลินหว่านหรูก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน เพราะเรื่องของเฉินฮุยนั้น เธอก็ไม่รู้อะไรเหมือนกันยิ่งไปกว่านั้น เย่เทียนหยู่ยังกำหนดกฎต่างๆ ที่คาดไม่ถึงมามากมายขนาดนี้ด้วย ช่างเจ้าแผนการจริงๆ โดยกฎทุกข้อนั้นแม้แต่เธอเองก็รู้สึกประหลาดใจมากและคงไม่ต้องพูดถึง การที่เย่เทียนหยู่สามารถควบคุมกลุ่มสองจนทำให้ทุกคนยอมจำนนแบบนี้ได้เพียงแค่การประชุมครั้งเดียวแบบนั้นต่อไป ก็คงต้องดูที่ผลของงานเสียแล้วเมื่อหลิวเหวินรู้ว่าทุกอย่างเป็นเย่เทียนหยู่ที่ทำด้วยตัวเอง เธอก็แอบถอนหายใจ เย่เทียนหยู่คนนี้ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ พร้อมกับอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า "ท่านประธานหลินคะ เย่เทียนหยู่เป็นอาวุธลับที่คุณใช้ต่อสู้กับคนพวกนั้นหรือเปล่าคะ?"หลินหว่านหรูชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ฝืนยิ้มออกมา อาวุธ
เมื่อได้ยินดังนั้น เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้ตอบโดยตรง เพียงแต่ถามกลับไปว่า "ถ้าผมบอกคุณว่า ผมได้ตรวจสอบคนทั้งบริษัทแล้ว คุณจะเชื่อหรือเปล่า?""คุณคิดว่ายังไงล่ะ คุณว่าฉันจะเชื่อคุณไหมล่ะ?"หลินหว่านหรูกลอกตามองบนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกับพูดว่า "โอเค อย่าล้อเล่นแบบนี้ พูดจริงๆ นะ""อ้อ!""จริงๆ แล้วมันเป็นแค่ความบังเอิญเท่านั้นแหละ ผมมีเพื่อนที่รู้เรื่องนี้นิดหน่อยน่ะ ประจวบเหมาะกับการที่ผมจะไปรับตำแหน่งที่กลุ่มหนึ่งพอดี ก็เลยใช้มันเสียเลยน่ะ"เย่เทียนหยู่ทำได้เพียงแค่สร้างเหตุผลขึ้นมาอีกเท่านั้น"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ไม่พูดก็ต้องพูดนะว่า คุณช่างโชคดีจริงๆ มีคนมาคอยช่วยเหลืออีกครั้งเลย""ก็ใช่น่ะสิ แต่คนที่มีบุญคุณกับผมมากที่สุดก็คือคุณ หากไม่มีคุณ ไหนเลยผมจะเข้ามาในบริษัทได้ และยังได้อยู่อย่างสุขสบายแบบนี้อีก" เย่เทียนหยู่พูดติดตลกแต่หลินหว่านหรูกลับจริงจัง พร้อมพูดอย่างเย็นชาว่า "รู้ก็ดีแล้ว อยู่ในบริษัทก็ตั้งใจทำงาน อย่าสร้างเรื่องสร้างราวมาให้ฉันอีกล่ะ""ไม่หรอกนะ""งั้นก็ดีแล้ว พอดีเลยตอนนี้คุณไม่มีธุระอะไรใช่ไหม กลับไปบ้านกับฉันหน่อยสิ" หลินหว่านหรูพูดขึ้นมา"หือ คุณข
"เรื่องอะไร เรื่องอะไร ก็ต้องเป็นเรื่องการหาคู่ครองให้หนูน่ะสิ หนูรู้หรือเปล่าว่าคุณชายกงซุนนั้นโดดเด่นแค่ไหน หากถูกไอ้สวะนี้ทำลายแล้วละก็ หนูจะต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าอย่างแน่นอน"หลิวอวิ๋นซิ่วพูดด้วยความโกรธที่แท้ก็กำลังหาคู่ครองให้กับเธอนั่นเอง มิน่าล่ะถึงได้ไล่ตะเพิดเย่เทียนหยู่ออกไปแบบนี้หลังจากที่เข้าใจแล้วนั้น หลินหว่านหรูก็ได้พูดตำหนิออกไปว่า "แม่คะ ใครให้แม่หาคู่ครองให้หนูล่ะคะ? หนูบอกกับแม่แล้วไม่ใช่หรือว่า หนูยังไม่คิดเรื่องนี้""ยังไม่คิด หนูรู้หรือเปล่าว่าตัวเองอายุเท่าไหร่แล้ว อีกไม่กี่ปีก็จะขึ้นเลขสามแล้วนะ"หลิวอวิ๋นซิ่วพูดว่า "แม่ไม่สนหรอกนะ ยังไงวันนี้ลูกก็ต้องดูแลแขกให้ดี ไม่อย่างนั้นแม่จะตายให้ดู หนูวางใจได้เลยนะ คุณชายกงซุนคนนี้ดีมากๆ เลยล่ะ"หลินหว่านหรูหมดหนทาง ส่ายหน้าแล้วพูดว่า "เข้าไปแล้วค่อยว่ากันเถอะค่ะ"เมื่อได้ยินดังนั้น หลิวอวิ๋นซิ่วก็ไม่สามารถหยุดเย่เทียนหยู่ไม่ให้เข้าไปได้ จึงได้แค่เตือนขึ้นมาว่า "เย่เทียนหยู่ ฟังฉันให้ดีๆ นะ เดี๋ยวต้องพูดว่าตัวเองเป็นบอดี้การ์ดของหว่านหรู ไม่อย่างนั้นละก็ อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน"เย่เทียนหยู่กลับยิ้มๆ แล้ว
หลิวอวิ๋นซิ่วเห็นทั้งสองคนคุยกัน ในใจมีความสุขมากเสียจนรีบเดินเข้าไปดึงเย่เทียนหยู่ที่เพิ่งเดินเข้ามาให้ออกไปอีกทางเย่เทียนหยู่ถูกจับเอาไว้แน่นจะสะบัดออกก็ไม่ได้ ถ้าหากรอจนเธอลงไปนอนที่พื้นแบบนั้นก็น่าอับอายแย่ และดูจากนิสัยของหลิวอวิ๋นซิ่วแล้วเธอสามารถทำแบบนั้นได้จริงๆ“เย่เทียนหยู่ดูสิ คนที่เก่งอย่างคุณชายตระกูลกงซุนถึงจะเหมาะเป็นสามีของหลินหว่านหรู ถ้าเป็นคนแบบนายเนี่ยแค่จะเป็นคนถือรองเท้าให้ยังไม่เหมาะเลย”หลิวอวิ๋นซิ่วพูดเสียงเรียบเย่เทียนหยู่ไม่ได้โมโห แต่พูดเสียงเรียบเช่นกัน “ครึ่งเดือนก่อนหน้าคุณก็แนะนำหลิวเจี๋ยแบบนี้ แล้วตอนนี้หลิวเจี๋ยไปไหนซะแล้วล่ะครับ?”คำพูดนี้ทำเอาหลิวอวิ๋นซิ่วโมโหจนแทบจะบ้า “ก็หลิวเจี๋ยเขาแสดงเก่งจนเกินไป ถ้าไม่อย่างนั้นฉันดูออกตั้งแต่แรกแล้ว”“ถ้าอย่างนั้นคุณจะรู้ได้ยังไงว่าคุณชายกงซุนคนนี้ไม่ได้แสดงเหมือนกัน?” เย่เทียนหยู่ถามกลับ เพราะถ้าจำไม่ผิดจากข้อมูลที่อ่านมา ตระกูลกงซุนเองก็ไม่ได้เป็นตระกูลที่ดีอะไรนัก“เขาต้องไม่แสดงอยู่แล้ว คุณชายกงซุนดูแล้วก็น่าเกรงขาม มีมารยาทและยังดูเข้าถึงง่ายอีกด้วย”“แล้วหลินเจี๋ยก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นแบบนี้หรือไ
ดูท่าแล้ว หมอนี่คงไม่ได้เรื่องทั้ง ๆ ที่มีภรรยาสวยล่มเมืองขนาดนี้แต่กลับไม่ได้ทำอะไรเป็นคนไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง!การที่ต้องลดตัวลงมายื้อแย่งกับคนไร้ประโยชน์แบบนี้ มันทำให้เขาดูต่ำต้อยไปด้วยแต่ก็เพื่อคนสวยคนนี้ เขาทำได้แค่เพียงทำตัวเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็ก แล้วก็จัดการไอ่คนไร้ประโยชน์คนนี้หน่อยแล้วกันแต่ต่อหน้าเธอก็ยังคงต้องรักษาท่าทางไว้ก่อน กงซุนจื้อยิ้มอ่อนๆ “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนที่เก่งรอบด้านแบบประธานหลิน คุณชายเย่ก็ยอมปล่อยมือ ผมอดจะตกใจไม่ได้จริงๆ““เขาอยากจะตัดใจที่ไหนล่ะ เป็นเพราะว่าพวกเราไม่อยากได้เขาก็เท่านั้นเอง เขาเหมาะกับหว่านหรูที่ไหนกันล่ะ ก็มีแค่คนหนุ่มๆอย่างคุณชายกงซุนนี่แหละถึงจะเหมาะกันกับหว่านหรู“หลิวอวิ๋นซิ่วรีบพูด“ใช่เหรอ ไม่ใช่ว่าหลิวเจี๋ยหรอกหรอที่เหมาะสมที่สุด?” เย่เทียนหยู่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะถามกลับหลิวเจี๋ยอีกแล้ว หลิวอวิ๋นซิ่วเกือบจะแสดงท่าทีโมโหออกมา“หลิวเจี๋ยคือใครครับ?”กงซุนจื้ออดไม่ได้ที่จะถามออกมาอย่างสงสัยหลิวอวิ๋นซิ่วรีบอธิบาย “เป็นแค่คนที่เคยตามจีบหลินหว่านหรูเมื่อก่อน แต่ว่าวางใจได้เลยค่ะ หว่านหรูไม่สนใจเขาด้
เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สุดท้ายหลินหว่านหรูก็ตัดสินใจปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ยังไงอีกไม่นานความจริงก็จะถูกเปิดเผยออกมาแล้วและในเวลาเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับสนามกีฬาคนหนึ่งคือเฉินเฟยเฟย นักร้องชื่อดังจากอาณาจักรมังกร ตอนนี้เฉินเฟยเฟยกำลังโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเธอจะต้องแบกรับแรงกดดันที่ค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้เธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาบ้างแล้วอีกคนคืออดีตผู้ช่วยของเฉินเฟยเฟย ซึ่งปัจจุบันคนที่ทำหน้าที่แทนคือจางผิงคนสุดท้ายเป็นหญิงวัยสามสิบกว่า ๆ ที่มีใบหน้างดงาม หุ่นค่อนข้างสูง ทั้งหน้าอกและบั้นท้ายดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบของผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่และก็เป็นเพราะไม่สามารถทนต่อการคุกคามจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดิมได้ เธอจึงถูกบังคับให้ลาออก นอกจากนี้ก็เป็นเพราะได้รู้จักกับเฉินเฟยเฟย เฉินเฟยเฟยที่เดิมทีไม่ต้องการจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ดังนั้นสตูดิโอส่วนตัวของเธอเองจึงต้องการผู้จัดการด้วยเช่นกันเหอฉุนจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถ เธอจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระเบียบแต่เพราะค
หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็กดเบอร์โทรหาแม่ตระกูลหลินโดยตรง“ฮัลโหล!”“แม่ หนูเองนะคะ!”“อ๋อ หว่านหรูเองเหรอ” แม่ตระกูลหลินรู้สึกประหม่าในตอนแรก แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ลงทันที และถามออกไปว่า “แกเป็นไงบ้าง ช่วงนี้สบายดีไหม”“ก็ดีค่ะ แค่มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย”“แกหมายถึงเรื่องของปาร์คดาฮยอนนั่นน่ะเหรอ ฉันเองก็ติดตามข่าวนี้อยู่เหมือนกัน ปาร์คดาฮยอนนั่นเป็นคนที่ไร้ยางอายมากจริง ๆ นั่นแหละ ชาวเน็ตหน้าโง่พวกนั้นด้วย”“แต่ยังไงฉันก็เชื่อว่าขอแค่มีเทียนหยู่ แกจะต้องไม่เป็นไร เพราะงั้นฉันเลยไม่โทรศัพท์ไปรบกวนแก”แม่ตระกูลหลินอธิบายอย่างรวดเร็วในฐานะแม่ ตอนนั้นเธอไม่แม้แต่จะโทรหาเพื่อถามไถ่เลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริง ๆ“อืม เป็นอย่างที่ว่าแหละค่ะ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเทียนหยู่มากจริง ๆ” หลินหว่านหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงเลือกที่จะถามออกไป “แม่คะ ไม่นานมานี้มีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับหนูบนโลกอินเทอร์เน็ต แม่เห็นหรือยังคะ?”“ข่าวอะไรเหรอ แม่ไม่ค่อยเล่นอินเทอร์เน็ตสักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย เลยไม่รู้เรื่องน่ะ เรื่องของปาร์คดาฮยอนเองก็ฟังจากปากคนอื่
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว
ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะได้อยู่ข้าง ๆ คุณชายก็คงไม่เหลือ ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะทำตัวให้กระตือรือร้นมากขึ้นถึงแม้จะไม่ได้เป็นภรรยาของคุณชาย ขอแค่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณชายบ้าง ต่อไปเธอก็จะถือว่าเป็นผู้หญิงของคุณชาย และอย่างน้อยก็สามารถอยู่เคียงข้างคุณชายไปตลอดชีวิตได้เพราะไม่อย่างนั้น สักวันหนึ่งระยะห่างของเธอกับคุณชายก็คงจะไกลกันมากขึ้นเรื่อย ๆเพื่อเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจวางยา ยานี้ไม่ใช่ยาธรรมดา ไม่เพียงแต่ไม่มีสีและรสชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นยาที่หายากอีกด้วย เพียงแต่ผลลัพธ์ของยานั้นกลับไม่ได้มีความเข้มข้นมากนักแต่ก็ไม่เป็นไร โชคดีที่ได้เจอกับมันโดยบังเอิญ บวกกับเสน่ห์ที่ดูแพรวพราวของเธออีกเพื่อเสริมเสน่ห์ของตัวเองแล้ว หลายวันมานี้เธอได้ทำการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะทำให้คุณชายหลงใหล และให้คุณชายยอมกลืนกินเธอแม้ว่าวันนี้จูเก่อหลิวหลีจะสวมกระโปรงสีดำแหวกข้าง และเสื้อคอลึก จนทำให้ขาเรียวยาวของเธอโผล่พ้นออกมา ซึ่งความมีเสน่ห์ของเธอทำให้เขารู้สึกใจสั่นเล็กน้อยแต่เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ในขณะที่ดื่มน้ำในมือ เขาก็เดินดูรอบ ๆ พร้อมกับเอ่ยชมขึ้นว่า
อันที่จริงแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่การเตรียมการของเย่เทียนหยู่ แต่เป็นการเตรียมการของมู่หรงอิน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ามู่หรงอินเองก็ไม่ได้รังเกียจที่จะจัดการเรื่องนี้ กระทั่งเธอยังยินดีที่จะทำเสียด้วยซ้ำเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทเทียนเฟิงกรุ๊ปสาขาตะวันออก ข้อมูลก็ได้ถูกส่งไปถึงหูของมู่หรงอินแล้ว ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มออกมาแม้จะมีความช่วยเหลือจากเย่เทียนหยู่อยู่แล้ว แต่การแสดงออกของหลินหว่านหรูนั้นก็ทำให้เธอพอใจมากจริง ๆเดิมทีภาพรวมของเทียนเฟิงกรุ๊ปก็ดีมากอยู่แล้ว เพียงแค่ปัญหาร้ายแรงบังเอิญมาเกิดที่สาขานี้ก็เท่านั้น เธอแค่ต้องการอยากจะเห็นการแก้ปัญหาของหลินหว่านหรู และจะใช้เวลานานแค่ไหนในการจัดการคิดไม่ถึงเลยว่าจะจัดการได้เร็วขนาดนี้ แถมยังกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานให้มีแรงผลักดันมากขึ้นอีกด้วยไม่เสียแรงที่ตนให้คนเตรียมข้อมูลพนักงานที่ละเอียดขนาดนั้นเอาไว้ให้เธอเลยจริง ๆในตอนที่เย่เทียนหยู่เดินออกจากบริษัท เขาเองก็กำลังคิดว่าจะหาบ้านที่เหมาะสมในบริเวณใกล้เคียง แล้วซื้อเอาไว้สักหลัง ไม่ว่ายังไงก็จะให้หลินหว่านหรูพักอยู่โรงแรมตลอดไปไม่ได้หรอกนี่เห็นได้ชัดว่ามันไม่เ