ไม่ว่าจะเป็นกฎข้อกำหนดที่คาดไม่ถึงเหล่านั้น หรือการตรวจสอบที่เขาทำกับเฉินฮุย ทุกอย่างทำให้เธอประหลาดใจ หากเปลี่ยนเป็นเธอคงทำอย่างนั้นไม่ได้แน่นอนหลิวเหวินมาที่ห้องทำงาน และบอกเรื่องนี้กับหลินหว่านหรูอีกครั้งเธอกำลังคิดว่า เป็นประธานหลินหรือเปล่าที่ทำการตรวจสอบเฉินฮุย โดยควบคุมเรื่องนี้จากระยะไกลแต่เมื่อได้ยินเรื่องนี้ หลินหว่านหรูก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน เพราะเรื่องของเฉินฮุยนั้น เธอก็ไม่รู้อะไรเหมือนกันยิ่งไปกว่านั้น เย่เทียนหยู่ยังกำหนดกฎต่างๆ ที่คาดไม่ถึงมามากมายขนาดนี้ด้วย ช่างเจ้าแผนการจริงๆ โดยกฎทุกข้อนั้นแม้แต่เธอเองก็รู้สึกประหลาดใจมากและคงไม่ต้องพูดถึง การที่เย่เทียนหยู่สามารถควบคุมกลุ่มสองจนทำให้ทุกคนยอมจำนนแบบนี้ได้เพียงแค่การประชุมครั้งเดียวแบบนั้นต่อไป ก็คงต้องดูที่ผลของงานเสียแล้วเมื่อหลิวเหวินรู้ว่าทุกอย่างเป็นเย่เทียนหยู่ที่ทำด้วยตัวเอง เธอก็แอบถอนหายใจ เย่เทียนหยู่คนนี้ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ พร้อมกับอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า "ท่านประธานหลินคะ เย่เทียนหยู่เป็นอาวุธลับที่คุณใช้ต่อสู้กับคนพวกนั้นหรือเปล่าคะ?"หลินหว่านหรูชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ฝืนยิ้มออกมา อาวุธ
เมื่อได้ยินดังนั้น เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้ตอบโดยตรง เพียงแต่ถามกลับไปว่า "ถ้าผมบอกคุณว่า ผมได้ตรวจสอบคนทั้งบริษัทแล้ว คุณจะเชื่อหรือเปล่า?""คุณคิดว่ายังไงล่ะ คุณว่าฉันจะเชื่อคุณไหมล่ะ?"หลินหว่านหรูกลอกตามองบนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกับพูดว่า "โอเค อย่าล้อเล่นแบบนี้ พูดจริงๆ นะ""อ้อ!""จริงๆ แล้วมันเป็นแค่ความบังเอิญเท่านั้นแหละ ผมมีเพื่อนที่รู้เรื่องนี้นิดหน่อยน่ะ ประจวบเหมาะกับการที่ผมจะไปรับตำแหน่งที่กลุ่มหนึ่งพอดี ก็เลยใช้มันเสียเลยน่ะ"เย่เทียนหยู่ทำได้เพียงแค่สร้างเหตุผลขึ้นมาอีกเท่านั้น"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ไม่พูดก็ต้องพูดนะว่า คุณช่างโชคดีจริงๆ มีคนมาคอยช่วยเหลืออีกครั้งเลย""ก็ใช่น่ะสิ แต่คนที่มีบุญคุณกับผมมากที่สุดก็คือคุณ หากไม่มีคุณ ไหนเลยผมจะเข้ามาในบริษัทได้ และยังได้อยู่อย่างสุขสบายแบบนี้อีก" เย่เทียนหยู่พูดติดตลกแต่หลินหว่านหรูกลับจริงจัง พร้อมพูดอย่างเย็นชาว่า "รู้ก็ดีแล้ว อยู่ในบริษัทก็ตั้งใจทำงาน อย่าสร้างเรื่องสร้างราวมาให้ฉันอีกล่ะ""ไม่หรอกนะ""งั้นก็ดีแล้ว พอดีเลยตอนนี้คุณไม่มีธุระอะไรใช่ไหม กลับไปบ้านกับฉันหน่อยสิ" หลินหว่านหรูพูดขึ้นมา"หือ คุณข
"เรื่องอะไร เรื่องอะไร ก็ต้องเป็นเรื่องการหาคู่ครองให้หนูน่ะสิ หนูรู้หรือเปล่าว่าคุณชายกงซุนนั้นโดดเด่นแค่ไหน หากถูกไอ้สวะนี้ทำลายแล้วละก็ หนูจะต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าอย่างแน่นอน"หลิวอวิ๋นซิ่วพูดด้วยความโกรธที่แท้ก็กำลังหาคู่ครองให้กับเธอนั่นเอง มิน่าล่ะถึงได้ไล่ตะเพิดเย่เทียนหยู่ออกไปแบบนี้หลังจากที่เข้าใจแล้วนั้น หลินหว่านหรูก็ได้พูดตำหนิออกไปว่า "แม่คะ ใครให้แม่หาคู่ครองให้หนูล่ะคะ? หนูบอกกับแม่แล้วไม่ใช่หรือว่า หนูยังไม่คิดเรื่องนี้""ยังไม่คิด หนูรู้หรือเปล่าว่าตัวเองอายุเท่าไหร่แล้ว อีกไม่กี่ปีก็จะขึ้นเลขสามแล้วนะ"หลิวอวิ๋นซิ่วพูดว่า "แม่ไม่สนหรอกนะ ยังไงวันนี้ลูกก็ต้องดูแลแขกให้ดี ไม่อย่างนั้นแม่จะตายให้ดู หนูวางใจได้เลยนะ คุณชายกงซุนคนนี้ดีมากๆ เลยล่ะ"หลินหว่านหรูหมดหนทาง ส่ายหน้าแล้วพูดว่า "เข้าไปแล้วค่อยว่ากันเถอะค่ะ"เมื่อได้ยินดังนั้น หลิวอวิ๋นซิ่วก็ไม่สามารถหยุดเย่เทียนหยู่ไม่ให้เข้าไปได้ จึงได้แค่เตือนขึ้นมาว่า "เย่เทียนหยู่ ฟังฉันให้ดีๆ นะ เดี๋ยวต้องพูดว่าตัวเองเป็นบอดี้การ์ดของหว่านหรู ไม่อย่างนั้นละก็ อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน"เย่เทียนหยู่กลับยิ้มๆ แล้ว
หลิวอวิ๋นซิ่วเห็นทั้งสองคนคุยกัน ในใจมีความสุขมากเสียจนรีบเดินเข้าไปดึงเย่เทียนหยู่ที่เพิ่งเดินเข้ามาให้ออกไปอีกทางเย่เทียนหยู่ถูกจับเอาไว้แน่นจะสะบัดออกก็ไม่ได้ ถ้าหากรอจนเธอลงไปนอนที่พื้นแบบนั้นก็น่าอับอายแย่ และดูจากนิสัยของหลิวอวิ๋นซิ่วแล้วเธอสามารถทำแบบนั้นได้จริงๆ“เย่เทียนหยู่ดูสิ คนที่เก่งอย่างคุณชายตระกูลกงซุนถึงจะเหมาะเป็นสามีของหลินหว่านหรู ถ้าเป็นคนแบบนายเนี่ยแค่จะเป็นคนถือรองเท้าให้ยังไม่เหมาะเลย”หลิวอวิ๋นซิ่วพูดเสียงเรียบเย่เทียนหยู่ไม่ได้โมโห แต่พูดเสียงเรียบเช่นกัน “ครึ่งเดือนก่อนหน้าคุณก็แนะนำหลิวเจี๋ยแบบนี้ แล้วตอนนี้หลิวเจี๋ยไปไหนซะแล้วล่ะครับ?”คำพูดนี้ทำเอาหลิวอวิ๋นซิ่วโมโหจนแทบจะบ้า “ก็หลิวเจี๋ยเขาแสดงเก่งจนเกินไป ถ้าไม่อย่างนั้นฉันดูออกตั้งแต่แรกแล้ว”“ถ้าอย่างนั้นคุณจะรู้ได้ยังไงว่าคุณชายกงซุนคนนี้ไม่ได้แสดงเหมือนกัน?” เย่เทียนหยู่ถามกลับ เพราะถ้าจำไม่ผิดจากข้อมูลที่อ่านมา ตระกูลกงซุนเองก็ไม่ได้เป็นตระกูลที่ดีอะไรนัก“เขาต้องไม่แสดงอยู่แล้ว คุณชายกงซุนดูแล้วก็น่าเกรงขาม มีมารยาทและยังดูเข้าถึงง่ายอีกด้วย”“แล้วหลินเจี๋ยก่อนหน้านี้ไม่ได้เป็นแบบนี้หรือไ
ดูท่าแล้ว หมอนี่คงไม่ได้เรื่องทั้ง ๆ ที่มีภรรยาสวยล่มเมืองขนาดนี้แต่กลับไม่ได้ทำอะไรเป็นคนไร้ประโยชน์อย่างแท้จริง!การที่ต้องลดตัวลงมายื้อแย่งกับคนไร้ประโยชน์แบบนี้ มันทำให้เขาดูต่ำต้อยไปด้วยแต่ก็เพื่อคนสวยคนนี้ เขาทำได้แค่เพียงทำตัวเป็นปลาใหญ่กินปลาเล็ก แล้วก็จัดการไอ่คนไร้ประโยชน์คนนี้หน่อยแล้วกันแต่ต่อหน้าเธอก็ยังคงต้องรักษาท่าทางไว้ก่อน กงซุนจื้อยิ้มอ่อนๆ “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนที่เก่งรอบด้านแบบประธานหลิน คุณชายเย่ก็ยอมปล่อยมือ ผมอดจะตกใจไม่ได้จริงๆ““เขาอยากจะตัดใจที่ไหนล่ะ เป็นเพราะว่าพวกเราไม่อยากได้เขาก็เท่านั้นเอง เขาเหมาะกับหว่านหรูที่ไหนกันล่ะ ก็มีแค่คนหนุ่มๆอย่างคุณชายกงซุนนี่แหละถึงจะเหมาะกันกับหว่านหรู“หลิวอวิ๋นซิ่วรีบพูด“ใช่เหรอ ไม่ใช่ว่าหลิวเจี๋ยหรอกหรอที่เหมาะสมที่สุด?” เย่เทียนหยู่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะถามกลับหลิวเจี๋ยอีกแล้ว หลิวอวิ๋นซิ่วเกือบจะแสดงท่าทีโมโหออกมา“หลิวเจี๋ยคือใครครับ?”กงซุนจื้ออดไม่ได้ที่จะถามออกมาอย่างสงสัยหลิวอวิ๋นซิ่วรีบอธิบาย “เป็นแค่คนที่เคยตามจีบหลินหว่านหรูเมื่อก่อน แต่ว่าวางใจได้เลยค่ะ หว่านหรูไม่สนใจเขาด้
“ทำไมเมื่อกี้ดูอารมณ์ดีแต่ตอนนี้เหมือนไม่มีความสุขแล้วล่ะ?”เย่เทียนหยู่เป็นคนช่างสังเกต แค่มองก็รู้แล้วว่าอารมณ์ของหลินหว่านหรูเปลี่ยนไป“เกี่ยวอะไรกับนายล่ะ!”หลินหว่านหรูตอบอย่างอารมณ์เสีย ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะไม่สนใจเรื่องหย่าเลย“คุณเป็นภรรยาของผม จะไม่เกี่ยวกับผมได้ยังไง?”“ใครบอก นายอย่าลืมนะว่าใกล้ถึงวันที่เราจะหย่ากันแล้ว พอถึงตอนนั้นเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน”“แค่นี้เองหรอ? ทำไมเร็วขนาดนี้ล่ะ เราไม่หย่ากันได้ไหม?”เย่เทียนหยู่ถามส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะท่าทีของหลินหว่านหรูในวันนี้ได้ใจของเขา โดยเฉพาะตอนที่แนะนำเขาให้กงซุนจื้อรู้จัก มันทำให้เขาสบายใจมากหลินหว่านหรูฟังจบในใจก็รู้สึกดีขึ้นมาอย่างประหลาด มุมปากอดจะยกยิ้มไม่ได้ แต่กลับพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “หึ ฝันไปเถอะ!”“มันก็ต้องฝันบ้างสิ ไม่อย่างนั้นจะอยู่บนโลกนี้อย่างมีความสุขได้ยังไง”“เอาเถอะ เรื่องนั้นถึงเวลาค่อยคุยกันพวกเราไปหาที่ทานข้าวกันก่อนเถอะ”ยังจะพูดอีก แบบนี้ก็เห็นได้ชัดเลยว่าหลินหว่านหรูไม่อยากหย่า เย่เทียนหยู่เองก็รู้สึกดีใจ ก่อนจะยิ้มออกมา “ได้สิ ผมรู้จักร้านนึงอยู่ รสชาติดีใช้ได้เลย เดี๋ยวผมพาไปลองชิม
“พูดอะไรของนาย ถ้าไม่กินข้าวจะมาทำไม?” เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบ“นั่นสินะ เชิญด้านในเลยครับ พวกคุณทานกันตามสบายเดี๋ยวผมจ่ายเงินเอง” คุณชายเย่มาทานข้าวกับผู้หญิงใครจะกล้าเข้าไปยุ่งถึงแม้ว่าเขาจะอยากเข้าใกล้คุณชายเย่มากสักแค่ไหน อยากจะพูดคุยแล้วถือโอกาสใกล้ชิดสักเท่าไหร่และก็เป็นการให้คำอธิบายกับพ่อของเขาด้วยไม่ว่าจะยังไงก็ต้องหาทางเข้าใกล้คุณชายเย่ให้ได้พอมาคิดดู คนที่สามารถทำให้ประธานหยางสามารถเคารพได้ จะต้องน่ากลัวสักเท่าไหร่กันเชียวที่จริงก็ไม่ใช่แค่เขา ซูเหวินหวาเองก็รอโอกาสนี้อยู่เหมือนกันพอพูดจบ ซ่งหยางก็รีบไปอีกทาง คงจะต้องโอกาสหน้าแล้วเย่เทียนหยู่ส่ายหน้า ไม่อยากจะสนใจเขา ตอนนี้จึงได้แต่พาหลินหว่านหรูเข้าไปนั่งด้านในยังไม่ทันได้สั่งอาหาร หลินหว่านหรูก็อดไม่ได้ที่จะพูด “เย่เทียนหยู่ ซ่งหยางเป็นถึงคุณชายตระกูลซ่งทำไมถึงได้เคารพนายขนาดนี้ล่ะ?”เธอสงสัยมากจริงๆเย่เทียนหยู่ยิ้ม “ไม่ต้องรีบร้อนหรอก พวกเรามาสั่งอาหารก่อน”หลินหว่านหรูหมดคำจะพูด แต่ก็ยังอดทน รอจนสั่งอาหารเสร็จก็พูดต่อ “พอที รีบๆบอกเหตุผลฉันมา”“เธอจะฟังความจริงหรือเปล่าล่ะ?” เย่เทียนหยู่ถาม“ไอ่บ
“ได้สิ นายเรียกมาสิเดี๋ยวฉันจะถามเขาต่อหน้าเอง แต่ว่าตอนนี้ฉันถามนายห้ามแอบกระซิบอะไรนะ” หลินหว่านหรูเองก็เป็นคนฉลาด“วางใจเถอะ ฉันไม่ทำหรอก”เย่เทียนหยู่มองไปทางซ่งหยางที่ยังแอบมองเขาจากไกลๆก่อนจะกวักมือเรียกอย่างเหนื่อยใจ ไม่เอ่ยปากพูดเลยสักคำซ่งหยางเห็นแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นก่อนจะรีบเดินเข้ามาทำเอาหญิงสาวที่มาด้วยกันกับเขามองมาอย่างไม่เข้าใจคิดว่าคุณชายซ่งที่มาด้วยกันกับเธอเปลี่ยนคนแล้วหรือเปล่าไม่อย่างนั้นแล้วจะดูมีท่าทีอ่อนน้อมขนาดนี้ได้อย่างไรนี่มันไม่น่าเชื่อเลยสักนิด“คุณชายเย่มีอะไรหรือเปล่าครับ?”ซ่งหยางถามด้วยสีหน้านอบน้อมเห็นท่าทางของซ่งหยาง หลินหว่านหรูเองก็รู้สึกเหนื่อยใจ นี่ใช่คุณชายซ่งที่โอ้อวดบ้าอำนาจคนนั้นหรือเปล่า ทำไมตอนนี้เหมือนกับลูกแมวขนาดนั้นล่ะ“ไม่มีอะไร ภรรยาฉันมีเรื่องจะถามนายก็เท่านั้น เธอถามว่าทำตอนนั้นที่เรามีเรื่องกันทำไมนายถึงหนีไปก่อน” เย่เทียนหยู่ถามออกมาซ่งหยางได้ยินก็ตกใจ“วางใจเถอะ ไม่ได้จะหาเรื่องนาย ภรรยาของฉันก็แค่อยากจะรู้เรื่องให้ชัดเจน”“อ๋อ แบบนี้นี่เอง ให้พูดตามจริงเลยใช่ไหมครับ?”“ให้ตายเถอะ ก็ต้องพูดความจริงสิ” เย่เทียนหย