เสียงนกร้องที่นอกหน้าต่างทำให้คนบนเตียงกระพริบตาถี่ๆ ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย หลิงหยางหัวหนักอึ้ง และเมื่อลืมตาเต็มที่ก็พบว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงใหญ่ของโรงแรม ข้างนอกหน้าต่างนั่นอากาศแจ่มใสมาก มีเสียงนกและมีกลิ่นดอกไม้โชยมาอ่อนๆ ความทรงจำในหัวเริ่มค่อยๆ กลับคืนมา
เมื่อคืนนี้เขาหนีจากการจับคู่ดูตัวที่มารดานัดแนะให้ เลยไปที่บาร์คนเดียวเพื่อดื่มจนเมา จำได้ว่าเมาหนักมากด้วย คุ้นๆ ว่าพาผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย
ต่อมาเขาก็ฝัน ในฝัน! เขาบุกรุกเขตหวงข้ามของผู้หญิงคนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
ผู้หญิง?
หลิงหยางรู้สึกตกใจ รีบลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันที เขาดึงผ้าห่มออก บนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด มีรอยแดงสีกุหลาลสดหยดอยู่เป็นดวง อะไรกัน? เธอเป็นสาวบริสุทธิ์?
หรือว่าไม่ใช่ความฝัน?
หลิงหยางมองไปรอบๆ ห้อง เขาเห็นรองเท้าส้นสูงของผู้หญิง ชุดชั้นใน บราเซียร์ และชุดเดรสกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น
ทันใดนั้น! ประตูห้องน้ำก็เปิดออก
ผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวพันรอบกาย ผมยาวสีดำของเธอยังเปียกหมาดๆ มีหยดน้ำเกาะบนบ่าด้วย กลิ่นอายความร้อนยังอบอวล เผยให้เห็นแขน ไหล่ และขาที่ขาวเนียนราวกับผลึกหิมะ
หลิงหยางจ้องมองเธอราวกับถูกดูดลงไปในห้วงเหวลึก
ใบหน้าสวยงามของซ่งเชี่ยนเต็มไปด้วยสีแดงระเรื่อ ริมฝีปากสีแดงสดของเธอค่อยๆ เปิดออก
“คุณตื่นแล้วหรือคะ?”
“เมื่อคืนนี้ เรา...” หลิงหยางมองเธอด้วยความสงสัย
"อืม..." ซ่งเชี่ยนหน้าแดงด้วยความเขินอาย
เมื่อนึกถึงเมื่อคืนนี้ที่เธอถูกผู้ชายตรงหน้ากดลงบนเตียง และแทบจะถูกเขาทำให้ตายคาอก เธอรู้สึกใจเต้นและและคิดไปว่าใบหน้าคงแดงจัดจนเขาสังเกตเห็นได้
“ฉันต้องไปทำงานแล้ว ไม่อย่างนั้นจะสาย!” ซ่งเชี่ยนรีบหลบสายตาจากเขา ก้มลงหยิบเสื้อผ้าที่อยู่บนพรม ทันใดนั้นเองผ้าเช็ดตัวที่เธอพันหลุดลงไปที่พื้น
หลิงหยางตะลึงทันที! สองตาของเขาจ้องมองเธออย่างไม่กระพริบ
“อ๊า ไม่นะ… อย่ามอง” ซ่งเชี่ยนร้องออกมาอย่างตกใจ เธอรีบหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาปิดร่างกายด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็รีบเก็บเสื้อผ้าและวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำ
ไหล่เปลือยเปล่า แผ่นหลังเนียนนุ่ม เอวบางคอด สะโพกสวย และขาเรียวของเธอ ทำให้หลิงหยางตกตะลึงอย่างแท้จริง เขากลืนน้ำลายลงคออยู่หลายครั้ง
จากนั้นชายหนุ่มรีบหยิบบุหรี่จากหัวเตียงขึ้นมาจุด หลังจากพ่นควันออกมาหลายวง ความรู้สึกของเขาก็ค่อยๆ สงบลง ผ่านไปครู่ใหญ่ซ่งเชี่ยนก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เธอยังคงใส่ชุดเดรสสีดำที่ใส่เมื่อคืน เป็นชุดที่เขาดึงกระชากออกจากตัวเธอดีที่มันยังไม่ขาดออกจากกัน การตัดเย็บที่พอดีเน้นให้เห็นส่วนโค้งของร่างกายที่น่าดึงดูดใจ หลิงหยางดับบุหรี่ที่สูบไปครึ่งมวนลงในที่เขี่ย จากนั้นก็มองเธอด้วยสายตาคมวาว
“เมื่อกี้บอกว่ากลัวจะไปทำงานสาย เธอทำงานอะไร?”
“ฉันทำงานเกี่ยวกับโฆษณาค่ะ” ซ่งเชี่ยนตอบตามความจริง
“ถ้าอย่างนั้น เธอน่าจะมีรายได้ดี แล้วทำไมถึงยังทำแบบนี้ล่ะ?” หลิงหยางมองเธอด้วยความสงสัย
“ทำแบบไหน?” ซ่งเชี่ยนขมวดคิ้วถาม
“เธอไปที่บาร์เมื่อคืน แล้วยังยอมให้ฉันมาพาที่ห้อง นี่ไม่ใช่...” หลิงหยางรู้สึกว่าตัวเองพูดเกินไปแล้ว เลยกลืนคำพูดที่คิดกลับลงคอ
“คุณคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงขายบริการหรือไง?” ซ่งเชี่ยนถามอย่างไม่พอใจ
“ใช่...” หลิงหยางหัวเราะอย่างเก้อเขิน
ซ่งเชี่ยนมองเขาแวบหนึ่ง “ถ้าฉันเป็นผู้หญิงขายบริการ ทำไมฉันไม่เจรจาราคากับคุณก่อน แล้วถึงจะยอมมอบครั้งแรกให้กับคุณล่ะ?”
“ฉัน...” หลิงหยางถูกคำถามของเธอน็อกจนพูดไม่ออก
ซ่งเชี่ยนหยิบโทรศัพท์ของเธอที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมา แล้วกดเปิดเครื่อง เวลาบนหน้าจอแสดงว่าตอนนี้เวลา 7:30 น.
“ขอโทษนะ ฉันต้องไปทำงานแล้ว!” ซ่งเชี่ยนยิ้มอย่างเก้อเขิน แล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าถือ จากนั้นรีบเดินไปที่ประตู
“เดี๋ยวก่อน!” หลิงหยางตะโกนไล่หลังของเธอ
“คุณมีอะไรอีกคะ?” ซ่งเชี่ยนหยุดก้าว แล้วหันกลับมา
"ไปจดทะเบียนสมรสกับฉันที่สำนักงานทะเบียน!" หลิงหยางพูดอย่างเด็ดขาด
“อะไรนะ? แต่งงานเหรอ?” ซ่งเชี่ยนมองเขาด้วยความสงสัย พลางคิดในใจ ผู้ชายคนนี้จะเป็นพวกหลอกแต่งงานเพื่อหวังอะไรบางอย่างหรือเปล่า? นอกจากรูปร่างหน้าตาแล้ว ฉันไม่มีอะไรให้เขาหลอกแล้วนี่นา
ขณะที่ซ่งเชี่ยนยังคงงงงวย โทรศัพท์ในกระเป๋าถือของเธอก็ดังขึ้น เมื่อหยิบขึ้นมาดู และพบว่าเป็นสายจากแม่ของเธอ อู๋ซิ่วหลาน เพิ่งกดรับสายเท่านั้น เสียงแม่ที่ดังแหลมก็แว่วผ่านโทรศัพท์เข้ามา
“ยัยลูกสาวตัวแสบ! เมื่อคืนแกไปไหนมา? ปิดโทรศัพท์แถมยังไม่กลับบ้านทั้งคืนอีก!”
“ฉัน…” ซ่งเชี่ยนไม่รู้จะอธิบายยังไง
“ฉันอะไร?” อู๋ซิ่วหลานพูดแทรก “เมื่อคืนนี้ จางซื่อหลานเอาสินสอดมาสู่ขอแกที่บ้านแล้วนะ แต่แกดันหนีหายไป แกอยากให้ฉันกับพ่อแกอกแตกตายใช่ไหม?”
ซ่งเชี่ยนตื่นจากความคิดแล้วตอบกลับอย่างเย็นชา “ฉันบอกไปแล้วว่าไม่มีทางแต่งงานกับจางฟาน ผู้ชายเจ้าชู้คนนั้นหรอก แม่กับพ่อควรล้มเลิกความคิดนี้ได้แล้ว!” ยังไม่ทันให้แม่พูดอะไรต่อ ซ่งเชี่ยนก็กดวางสายทันที
“พูดแบบนี้แสดงว่า เมื่อคืนเธอหนีไปที่บาร์เพราะไม่อยากแต่งงานใช่ไหม?” หลิงหยางซึ่งได้ยินบทสนทนาระหว่างสองแม่ลูกจึงถามขึ้น
“เรื่องของฉัน!” ซ่งเชี่ยนจ้องเขาแวบหนึ่งก่อนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
เธอมองสำรวจเขาอย่างถี่ถ้วน ใบหน้าของหลิงหยางที่สะอาดสะอ้านและดูสุขุม มีเค้าโครงที่คมชัดแต่เย็นชา ดวงตาสีดำลึกลับที่สะท้อนเสน่ห์ คิ้วเข้ม จมูกโด่ง และริมฝีปากที่งดงาม ล้วนแสดงถึงความสง่างามและภูมิฐาน ซ่งเชี่ยนรู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นทันที เลยตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
“คุณอยากไปจดทะเบียนสมรสกับฉันที่สำนักงานทะเบียนจริงๆ เหรอ?”
“แน่นอน!” หลิงหยางพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ฉัน…ฉันตกลง” ซ่งเชี่ยนหน้าแดง “ฉันจะไปจดทะเบียนสมรสกับคุณได้ แต่คุณต้องยอมรับเงื่อนไขของฉันหนึ่งข้อ...”
“ว่ามา” หลิงหยางถามอย่างกระตือรือร้น
“ฉันแค่ต้องการหาทางเอาตัวรอดจากพ่อแม่เท่านั้น ถึงได้ตกลงจดทะเบียนสมรสกับคุณ ฉันจะแต่งงานกับคุณแค่เพียงในนาม หลังแต่งงานแล้ว เราอยู่ด้วยกันได้ก็จริง แต่ห้ามนอนบนเตียงเดียวกัน และห้ามมีความสัมพันธ์กัน ระยะเวลาของการแต่งงานคือสามเดือน ถ้าภายในสามเดือน คุณสามารถชนะใจฉันได้ เราจะอยู่ด้วยกันต่อไป แต่ถ้าไม่ ฉันจะไปขอหย่าที่สำนักงานทะเบียน” ซ่งเชี่ยนพูดอย่างจริงจัง
“ตกลง!” หลิงหยางตอบตกลงทันที
“อะไรนะ?” ซ่งเชี่ยนตาโตขึ้นมา
เธอคิดว่าผู้ชายคนนี้แค่หยอกล้อเธอเล่น จึงยื่นเงื่อนไขที่เข้มงวดมากๆ ออกไป แต่ไม่คิดว่าเขาจะยอมรับอย่างง่ายดายขนาดนี้ ซ่งเชี่ยนรู้สึกลำบากใจ หลิงหยางดูเหมือนจะเข้าใจความคิดของเธอ มองด้วยสายตานิ่งๆ
“ไม่ต้องมองฉันแบบนั้นหรอก จริงๆ แล้วฉันก็เหมือนกับเธอ แค่ต้องการหนีจากการแต่งงานที่ครอบครัวจัดหาให้เท่านั้น ฉันถึงได้ไปที่บาร์เพื่อดื่ม ไม่คิดเลยว่าเมื่อคืนฉันจะได้เจอเธอ แล้วเราก็เกิดความสัมพันธ์กัน นี่เป็นพรหมลิขิตจริงๆ!”
“คำนั้นมันแปลกๆ ไหม ควรบอกว่าถูกที่ถูกเวลามากกว่า” ซ่งเชี่ยนรู้สึกว่าคำพูดของเขามันเหมือนคนรักหากันเจอ แต่ระหว่างเธอกับเขามันไม่ใช่ จึงพูดอย่างเร่งรีบ “ไปกันเถอะ เราไปจดทะเบียนสมรสกันที่สำนักงานกันตอนนี้เลย!”
“นะ นี่รีบเกินไปรึเปล่า! ไม่ไปทำงานแล้ว?” หลิงหยางรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็แสร้งถาม
“ฉันจะโทรไปลาหัวหน้า”
ซ่งเชี่ยนพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าถือแล้วกดโทรออก หลิงหยางรีบลุกขึ้นจากเตียง เดินเข้าห้องน้ำทันที
วันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ยอมให้โอกาสนี้หลุดลอยไปแน่!
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลิงหยางรีบออกมาจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ฉุดมือซ่งเชี่ยนแล้วพาเธอออกจากห้อง เมื่อพวกเขาลงมาข้างล่าง ชายหนุ่มก็พาขึ้นรถ มายบัค ที่จอดอยู่ชั้นล่าง เพื่อพากันไปที่หน้าสำนักงานทะเบียนสมรสเมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็เดินเข้าไปในห้องโถงของสำนักงาน เนื่องจากพวกเขาเตรียมการไว้ล่วงหน้า ทั้งคู่จึงได้แอบนำทะเบียนบ้านมาด้วย ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็ทำเรื่องสมรสเรียบร้อย ทั้งสองคนถือใบทะเบียนในมือ หลิงหยางถึงกับถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกเขาคิดว่าจากนี้ไปคุณย่าที่อยากมีเหลน และพ่อแม่ที่หวังจะให้เขาแต่งงาน เมื่อรู้ว่าเขามีภรรยาแล้ว ก็จะไม่มาจัดนัดบอดให้อีกซ่งเชี่ยนก็เช่นกัน! ในใจของเธอคิดว่าหลังจากได้ใบทะเบียนสมรสกับหลิงหยางแล้ว พ่อแม่ของเธอคงจะไม่บังคับให้เธอแต่งงานกับจางฟานผู้ชายเจ้าชู้คนนั้นอีกต่อไป“เธอชื่อซ่งเชี่ยนใช่ไหม?” หลิงหยางหยิบกุญแจชุดหนึ่งออกจากกระเป๋า แล้วยื่นให้เธอ “นี่เป็นกุญแจบ้านหมายเลข 8 ของหมู่บ้านฮั่นถิงอินเตอร์เนชันแนล เพราะเราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว เธอควรจะย้ายมาอยู่กับฉัน เดี๋ยวฉันจะพาไปดูบ้านให้คุ้นเคย...”ซ่งเชี่ยนรับกุญแจมาพร้
ครึ่งชั่วโมงต่อมาหลิงหยางมาถึงบริษัทหลิงกรุ๊ป หลังจากจอดรถในที่ส่วนตัวสำหรับประธานในชั้นใต้ดิน เขาก็ขึ้นลิฟต์เฉพาะเขาเท่านั้นไปยังชั้น 28 ซึ่งเป็นห้องทำงาน เมื่อมาถึงก็เข้าไปด้านใน แล้วก็ต้องเซ็งสุดขีดเมื่อพบว่ามีคนพุ่งเข้ามาจากทางด้านหลังทันใดนั้นหญิงสาวในชุดเดรสสีแดงสุดเซ็กซี่ และมีรูปร่างสะบึ้มพุ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว เธออ้าแขนโอบหลิงหยางจากด้านหลัง "หลิงหยาง คุณมาแล้ว! เมื่อคืนฉันติดต่อคุณไม่ได้ ฉันเป็นห่วงมาก เช้านี้ก็รีบมาที่บริษัทเพื่อหาคุณ นั่งรออยู่ที่ห้องทำงานของเลขาฯ อยู่นานเลย"สัมผัสอ่อนนุ่มจากด้านหลังทำให้หลิงหยางชะงักไปชั่วครู่ แต่เขาก็รีบตั้งสติและดันร่างของหญิงสาวออก จากนั้นเขาหันกลับมามองเธอด้วยสายตาเย็นชา "จางเมิ่งเสวี่ย คุณหมายความว่ายังไง? เราสนิทกันขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?""หลิงหยาง ตั้งแต่แม่ของคุณพาฉันมารู้จัก ฉันก็ชอบคุณแล้ว ฉันอยากอยู่กับคุณ อยากแต่งงานกับคุณ" จางเมิ่งเสวี่ยแสดงออกอย่างจริงจัง"ขอโทษด้วยนะ ผมแต่งงานแล้ว เพื่อไม่ให้กระทบครอบครัว กรุณาอย่ามาหาผมอีก" หลิงหยางตอบด้วยใบหน้าไร้อารมณ์"เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ!" เธอคิดไปว่าเขาอ้างเพราะอยากป
"มันจะยากอะไร ให้ลูกน้องของคุณจับเธอเข้าไปขังในห้องนอน จากนั้นคุณก็เข้าไปจัดการให้เสร็จสิ้น คราวนี้ก็เรียบร้อยแล้ว!" ซ่งปันซานพูดอย่างไม่อาย"แผนนี้ไม่เลวเลย ทำตามที่คุณว่าแล้วกัน" จางฟานพยักหน้าอย่างพอใจซ่งเชี่ยนฟังคำพูดที่แสนโหดร้ายของพ่อ ก็ถึงกับน้ำตาคลอด้วยความโกรธ ไม่คิดเลยว่าผู้เป็นพ่อจะกล้าผลักเธอลงนรกให้ตายทั้งเป็น"ทำไมพ่อใจร้ายแบบนี้ จะปล่อยให้พวกมันทำร้ายฉันจริงเหรอ" เธอพูดทั้งน้ำตา"เพราะแกไม่เชื่อฟัง ไม่ยอมแต่งงานกับจางฟาน ดันไปทำทะเบียนสมรสปลอมมาหลอกพวกเรา!" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา โกรธที่ลูกสาวไม่เชื่อฟัง"ใช่แล้วเชี่ยนเอ๋อร์ พ่อของเธอทำแบบนี้ก็เพื่อตัวเธอเอง ถ้าเธอแต่งงานกับจางฟาน ชีวิตจะสบายไม่ต้องทำงานหาเงินอีกเลย!" ผู้เป็นแม่พยายามโน้มน้าวใจด้วยอีกแรง"ฉันไม่ได้หลอก ทะเบียนสมรสนี้เป็นของจริง ฉันกับหลิงหยางจดทะเบียนสมรสกันแล้ว!" เธอพยายามอธิบายให้พ่อแม่เข้าใจ"งั้นบอกมาสิ หลิงหยางอะไรนั่นทำงานอะไร อยู่ที่ไหน?"ซ่งเชี่ยนไม่รู้ว่าเขาทำงานที่ไหนหรือทำงานอะไร จึงอ้ำอึ้งตอบไม่ได้"เห็นไหม ตัวแกก็ยังไม่รู้ เชี่ยนเอ๋อร์ ฟังพ่อเถอะ ยอมไปกับจางฟานดีๆ เข้าไปในห้องน
จางฟานใช้เทปใสปิดปากของซ่งเชี่ยนอีกครั้ง เริ่มลวนลามเธอแม้รู้ว่าหญิงสาวไม่เต็มใจ ซ่งเชี่ยนพยายามดิ้นรนหนี แต่ยิ่งดิ้นเขายิ่งรุกหนักเข้าไปอีก เพราะมือและเท้าของเธอโดนมัดด้วยเชือก จึงไม่สามารถหลุดพ้นจากมือสกปรกของจางฟานได้เลยในที่สุดเรี่ยวแรงของเธอก็หมดลงจางฟานดึงเทปออกจากปากเธอ ซ่งเชี่ยนเกลียดเขาจนถึงขีดสุด สูดลมหายใจเข้าออกอย่างหนัก แล้วใช้แรงที่เหลือทั้งหมดกัดมือของเขาอย่างแรง“โอ๊ย!” จางฟานร้องเสียงดังและตบหน้าซ่งเชี่ยนอย่างแรง“แกเป็นหมาหรือไง?” เขาตะโกนด่า พลางบีบคอเธอแน่นขึ้นเรื่อยๆซ่งเชี่ยนรู้สึกเวียนหัวเหมือนคนขาดอากาศหายใจ ต่อให้เธอตายก็ดีกว่าเป็นของไอ้ชายชั่วคนนี้ จึงปล่อยให้มันบีบไปเรื่อยๆ พลางเสียดายหน่อยๆ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ทำ“ถ้าแกยังขัดขืนอีก ฉันจะฆ่าแกซะ แต่ถ้ายอมให้ฉันเล่นด้วยสักหน่อย มันก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าไม่...แกตายแน่!” เขาแค่จะขู่ไม่ได้จะคิดฆ่าเธอตอนนี้จึงเริ่มผ่อนแรงลงในขณะที่เธอหมดหวัง ก็นึกถึงตอนที่ได้รับจากซึ่งเป็นคนของคุณย่า บางทีหลานชายคนนั้นอาจมาช่วยเธอก็ได้ จึงตัดสินใจถ่วงเวลา แกล้งทำเป็นยอมแพ้เพื่อให้อีกฝ่ายตายใจ “จางฟาน ถ้าคุณช