เสียงนกร้องที่นอกหน้าต่างทำให้คนบนเตียงกระพริบตาถี่ๆ ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย หลิงหยางหัวหนักอึ้ง และเมื่อลืมตาเต็มที่ก็พบว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงใหญ่ของโรงแรม ข้างนอกหน้าต่างนั่นอากาศแจ่มใสมาก มีเสียงนกและมีกลิ่นดอกไม้โชยมาอ่อนๆ ความทรงจำในหัวเริ่มค่อยๆ กลับคืนมา
เมื่อคืนนี้เขาหนีจากการจับคู่ดูตัวที่มารดานัดแนะให้ เลยไปที่บาร์คนเดียวเพื่อดื่มจนเมา จำได้ว่าเมาหนักมากด้วย คุ้นๆ ว่าพาผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย
ต่อมาเขาก็ฝัน ในฝัน! เขาบุกรุกเขตหวงข้ามของผู้หญิงคนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
ผู้หญิง?
หลิงหยางรู้สึกตกใจ รีบลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันที เขาดึงผ้าห่มออก บนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด มีรอยแดงสีกุหลาลสดหยดอยู่เป็นดวง อะไรกัน? เธอเป็นสาวบริสุทธิ์?
หรือว่าไม่ใช่ความฝัน?
หลิงหยางมองไปรอบๆ ห้อง เขาเห็นรองเท้าส้นสูงของผู้หญิง ชุดชั้นใน บราเซียร์ และชุดเดรสกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น
ทันใดนั้น! ประตูห้องน้ำก็เปิดออก
ผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวพันรอบกาย ผมยาวสีดำของเธอยังเปียกหมาดๆ มีหยดน้ำเกาะบนบ่าด้วย กลิ่นอายความร้อนยังอบอวล เผยให้เห็นแขน ไหล่ และขาที่ขาวเนียนราวกับผลึกหิมะ
หลิงหยางจ้องมองเธอราวกับถูกดูดลงไปในห้วงเหวลึก
ใบหน้าสวยงามของซ่งเชี่ยนเต็มไปด้วยสีแดงระเรื่อ ริมฝีปากสีแดงสดของเธอค่อยๆ เปิดออก
“คุณตื่นแล้วหรือคะ?”
“เมื่อคืนนี้ เรา...” หลิงหยางมองเธอด้วยความสงสัย
"อืม..." ซ่งเชี่ยนหน้าแดงด้วยความเขินอาย
เมื่อนึกถึงเมื่อคืนนี้ที่เธอถูกผู้ชายตรงหน้ากดลงบนเตียง และแทบจะถูกเขาทำให้ตายคาอก เธอรู้สึกใจเต้นและและคิดไปว่าใบหน้าคงแดงจัดจนเขาสังเกตเห็นได้
“ฉันต้องไปทำงานแล้ว ไม่อย่างนั้นจะสาย!” ซ่งเชี่ยนรีบหลบสายตาจากเขา ก้มลงหยิบเสื้อผ้าที่อยู่บนพรม ทันใดนั้นเองผ้าเช็ดตัวที่เธอพันหลุดลงไปที่พื้น
หลิงหยางตะลึงทันที! สองตาของเขาจ้องมองเธออย่างไม่กระพริบ
“อ๊า ไม่นะ… อย่ามอง” ซ่งเชี่ยนร้องออกมาอย่างตกใจ เธอรีบหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาปิดร่างกายด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็รีบเก็บเสื้อผ้าและวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำ
ไหล่เปลือยเปล่า แผ่นหลังเนียนนุ่ม เอวบางคอด สะโพกสวย และขาเรียวของเธอ ทำให้หลิงหยางตกตะลึงอย่างแท้จริง เขากลืนน้ำลายลงคออยู่หลายครั้ง
จากนั้นชายหนุ่มรีบหยิบบุหรี่จากหัวเตียงขึ้นมาจุด หลังจากพ่นควันออกมาหลายวง ความรู้สึกของเขาก็ค่อยๆ สงบลง ผ่านไปครู่ใหญ่ซ่งเชี่ยนก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เธอยังคงใส่ชุดเดรสสีดำที่ใส่เมื่อคืน เป็นชุดที่เขาดึงกระชากออกจากตัวเธอดีที่มันยังไม่ขาดออกจากกัน การตัดเย็บที่พอดีเน้นให้เห็นส่วนโค้งของร่างกายที่น่าดึงดูดใจ หลิงหยางดับบุหรี่ที่สูบไปครึ่งมวนลงในที่เขี่ย จากนั้นก็มองเธอด้วยสายตาคมวาว
“เมื่อกี้บอกว่ากลัวจะไปทำงานสาย เธอทำงานอะไร?”
“ฉันทำงานเกี่ยวกับโฆษณาค่ะ” ซ่งเชี่ยนตอบตามความจริง
“ถ้าอย่างนั้น เธอน่าจะมีรายได้ดี แล้วทำไมถึงยังทำแบบนี้ล่ะ?” หลิงหยางมองเธอด้วยความสงสัย
“ทำแบบไหน?” ซ่งเชี่ยนขมวดคิ้วถาม
“เธอไปที่บาร์เมื่อคืน แล้วยังยอมให้ฉันมาพาที่ห้อง นี่ไม่ใช่...” หลิงหยางรู้สึกว่าตัวเองพูดเกินไปแล้ว เลยกลืนคำพูดที่คิดกลับลงคอ
“คุณคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงขายบริการหรือไง?” ซ่งเชี่ยนถามอย่างไม่พอใจ
“ใช่...” หลิงหยางหัวเราะอย่างเก้อเขิน
ซ่งเชี่ยนมองเขาแวบหนึ่ง “ถ้าฉันเป็นผู้หญิงขายบริการ ทำไมฉันไม่เจรจาราคากับคุณก่อน แล้วถึงจะยอมมอบครั้งแรกให้กับคุณล่ะ?”
“ฉัน...” หลิงหยางถูกคำถามของเธอน็อกจนพูดไม่ออก
ซ่งเชี่ยนหยิบโทรศัพท์ของเธอที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงขึ้นมา แล้วกดเปิดเครื่อง เวลาบนหน้าจอแสดงว่าตอนนี้เวลา 7:30 น.
“ขอโทษนะ ฉันต้องไปทำงานแล้ว!” ซ่งเชี่ยนยิ้มอย่างเก้อเขิน แล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าถือ จากนั้นรีบเดินไปที่ประตู
“เดี๋ยวก่อน!” หลิงหยางตะโกนไล่หลังของเธอ
“คุณมีอะไรอีกคะ?” ซ่งเชี่ยนหยุดก้าว แล้วหันกลับมา
"ไปจดทะเบียนสมรสกับฉันที่สำนักงานทะเบียน!" หลิงหยางพูดอย่างเด็ดขาด
“อะไรนะ? แต่งงานเหรอ?” ซ่งเชี่ยนมองเขาด้วยความสงสัย พลางคิดในใจ ผู้ชายคนนี้จะเป็นพวกหลอกแต่งงานเพื่อหวังอะไรบางอย่างหรือเปล่า? นอกจากรูปร่างหน้าตาแล้ว ฉันไม่มีอะไรให้เขาหลอกแล้วนี่นา
ขณะที่ซ่งเชี่ยนยังคงงงงวย โทรศัพท์ในกระเป๋าถือของเธอก็ดังขึ้น เมื่อหยิบขึ้นมาดู และพบว่าเป็นสายจากแม่ของเธอ อู๋ซิ่วหลาน เพิ่งกดรับสายเท่านั้น เสียงแม่ที่ดังแหลมก็แว่วผ่านโทรศัพท์เข้ามา
“ยัยลูกสาวตัวแสบ! เมื่อคืนแกไปไหนมา? ปิดโทรศัพท์แถมยังไม่กลับบ้านทั้งคืนอีก!”
“ฉัน…” ซ่งเชี่ยนไม่รู้จะอธิบายยังไง
“ฉันอะไร?” อู๋ซิ่วหลานพูดแทรก “เมื่อคืนนี้ จางซื่อหลานเอาสินสอดมาสู่ขอแกที่บ้านแล้วนะ แต่แกดันหนีหายไป แกอยากให้ฉันกับพ่อแกอกแตกตายใช่ไหม?”
ซ่งเชี่ยนตื่นจากความคิดแล้วตอบกลับอย่างเย็นชา “ฉันบอกไปแล้วว่าไม่มีทางแต่งงานกับจางฟาน ผู้ชายเจ้าชู้คนนั้นหรอก แม่กับพ่อควรล้มเลิกความคิดนี้ได้แล้ว!” ยังไม่ทันให้แม่พูดอะไรต่อ ซ่งเชี่ยนก็กดวางสายทันที
“พูดแบบนี้แสดงว่า เมื่อคืนเธอหนีไปที่บาร์เพราะไม่อยากแต่งงานใช่ไหม?” หลิงหยางซึ่งได้ยินบทสนทนาระหว่างสองแม่ลูกจึงถามขึ้น
“เรื่องของฉัน!” ซ่งเชี่ยนจ้องเขาแวบหนึ่งก่อนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
เธอมองสำรวจเขาอย่างถี่ถ้วน ใบหน้าของหลิงหยางที่สะอาดสะอ้านและดูสุขุม มีเค้าโครงที่คมชัดแต่เย็นชา ดวงตาสีดำลึกลับที่สะท้อนเสน่ห์ คิ้วเข้ม จมูกโด่ง และริมฝีปากที่งดงาม ล้วนแสดงถึงความสง่างามและภูมิฐาน ซ่งเชี่ยนรู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นทันที เลยตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
“คุณอยากไปจดทะเบียนสมรสกับฉันที่สำนักงานทะเบียนจริงๆ เหรอ?”
“แน่นอน!” หลิงหยางพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ฉัน…ฉันตกลง” ซ่งเชี่ยนหน้าแดง “ฉันจะไปจดทะเบียนสมรสกับคุณได้ แต่คุณต้องยอมรับเงื่อนไขของฉันหนึ่งข้อ...”
“ว่ามา” หลิงหยางถามอย่างกระตือรือร้น
“ฉันแค่ต้องการหาทางเอาตัวรอดจากพ่อแม่เท่านั้น ถึงได้ตกลงจดทะเบียนสมรสกับคุณ ฉันจะแต่งงานกับคุณแค่เพียงในนาม หลังแต่งงานแล้ว เราอยู่ด้วยกันได้ก็จริง แต่ห้ามนอนบนเตียงเดียวกัน และห้ามมีความสัมพันธ์กัน ระยะเวลาของการแต่งงานคือสามเดือน ถ้าภายในสามเดือน คุณสามารถชนะใจฉันได้ เราจะอยู่ด้วยกันต่อไป แต่ถ้าไม่ ฉันจะไปขอหย่าที่สำนักงานทะเบียน” ซ่งเชี่ยนพูดอย่างจริงจัง
“ตกลง!” หลิงหยางตอบตกลงทันที
“อะไรนะ?” ซ่งเชี่ยนตาโตขึ้นมา
เธอคิดว่าผู้ชายคนนี้แค่หยอกล้อเธอเล่น จึงยื่นเงื่อนไขที่เข้มงวดมากๆ ออกไป แต่ไม่คิดว่าเขาจะยอมรับอย่างง่ายดายขนาดนี้ ซ่งเชี่ยนรู้สึกลำบากใจ หลิงหยางดูเหมือนจะเข้าใจความคิดของเธอ มองด้วยสายตานิ่งๆ
“ไม่ต้องมองฉันแบบนั้นหรอก จริงๆ แล้วฉันก็เหมือนกับเธอ แค่ต้องการหนีจากการแต่งงานที่ครอบครัวจัดหาให้เท่านั้น ฉันถึงได้ไปที่บาร์เพื่อดื่ม ไม่คิดเลยว่าเมื่อคืนฉันจะได้เจอเธอ แล้วเราก็เกิดความสัมพันธ์กัน นี่เป็นพรหมลิขิตจริงๆ!”
“คำนั้นมันแปลกๆ ไหม ควรบอกว่าถูกที่ถูกเวลามากกว่า” ซ่งเชี่ยนรู้สึกว่าคำพูดของเขามันเหมือนคนรักหากันเจอ แต่ระหว่างเธอกับเขามันไม่ใช่ จึงพูดอย่างเร่งรีบ “ไปกันเถอะ เราไปจดทะเบียนสมรสกันที่สำนักงานกันตอนนี้เลย!”
“นะ นี่รีบเกินไปรึเปล่า! ไม่ไปทำงานแล้ว?” หลิงหยางรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็แสร้งถาม
“ฉันจะโทรไปลาหัวหน้า”
ซ่งเชี่ยนพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าถือแล้วกดโทรออก หลิงหยางรีบลุกขึ้นจากเตียง เดินเข้าห้องน้ำทันที
วันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็จะไม่ยอมให้โอกาสนี้หลุดลอยไปแน่!
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลิงหยางรีบออกมาจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ฉุดมือซ่งเชี่ยนแล้วพาเธอออกจากห้อง เมื่อพวกเขาลงมาข้างล่าง ชายหนุ่มก็พาขึ้นรถ มายบัค ที่จอดอยู่ชั้นล่าง เพื่อพากันไปที่หน้าสำนักงานทะเบียนสมรสเมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็เดินเข้าไปในห้องโถงของสำนักงาน เนื่องจากพวกเขาเตรียมการไว้ล่วงหน้า ทั้งคู่จึงได้แอบนำทะเบียนบ้านมาด้วย ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็ทำเรื่องสมรสเรียบร้อย ทั้งสองคนถือใบทะเบียนในมือ หลิงหยางถึงกับถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกเขาคิดว่าจากนี้ไปคุณย่าที่อยากมีเหลน และพ่อแม่ที่หวังจะให้เขาแต่งงาน เมื่อรู้ว่าเขามีภรรยาแล้ว ก็จะไม่มาจัดนัดบอดให้อีกซ่งเชี่ยนก็เช่นกัน! ในใจของเธอคิดว่าหลังจากได้ใบทะเบียนสมรสกับหลิงหยางแล้ว พ่อแม่ของเธอคงจะไม่บังคับให้เธอแต่งงานกับจางฟานผู้ชายเจ้าชู้คนนั้นอีกต่อไป“เธอชื่อซ่งเชี่ยนใช่ไหม?” หลิงหยางหยิบกุญแจชุดหนึ่งออกจากกระเป๋า แล้วยื่นให้เธอ “นี่เป็นกุญแจบ้านหมายเลข 8 ของหมู่บ้านฮั่นถิงอินเตอร์เนชันแนล เพราะเราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว เธอควรจะย้ายมาอยู่กับฉัน เดี๋ยวฉันจะพาไปดูบ้านให้คุ้นเคย...”ซ่งเชี่ยนรับกุญแจมาพร้
ครึ่งชั่วโมงต่อมาหลิงหยางมาถึงบริษัทหลิงกรุ๊ป หลังจากจอดรถในที่ส่วนตัวสำหรับประธานในชั้นใต้ดิน เขาก็ขึ้นลิฟต์เฉพาะเขาเท่านั้นไปยังชั้น 28 ซึ่งเป็นห้องทำงาน เมื่อมาถึงก็เข้าไปด้านใน แล้วก็ต้องเซ็งสุดขีดเมื่อพบว่ามีคนพุ่งเข้ามาจากทางด้านหลังทันใดนั้นหญิงสาวในชุดเดรสสีแดงสุดเซ็กซี่ และมีรูปร่างสะบึ้มพุ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว เธออ้าแขนโอบหลิงหยางจากด้านหลัง "หลิงหยาง คุณมาแล้ว! เมื่อคืนฉันติดต่อคุณไม่ได้ ฉันเป็นห่วงมาก เช้านี้ก็รีบมาที่บริษัทเพื่อหาคุณ นั่งรออยู่ที่ห้องทำงานของเลขาฯ อยู่นานเลย"สัมผัสอ่อนนุ่มจากด้านหลังทำให้หลิงหยางชะงักไปชั่วครู่ แต่เขาก็รีบตั้งสติและดันร่างของหญิงสาวออก จากนั้นเขาหันกลับมามองเธอด้วยสายตาเย็นชา "จางเมิ่งเสวี่ย คุณหมายความว่ายังไง? เราสนิทกันขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?""หลิงหยาง ตั้งแต่แม่ของคุณพาฉันมารู้จัก ฉันก็ชอบคุณแล้ว ฉันอยากอยู่กับคุณ อยากแต่งงานกับคุณ" จางเมิ่งเสวี่ยแสดงออกอย่างจริงจัง"ขอโทษด้วยนะ ผมแต่งงานแล้ว เพื่อไม่ให้กระทบครอบครัว กรุณาอย่ามาหาผมอีก" หลิงหยางตอบด้วยใบหน้าไร้อารมณ์"เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ!" เธอคิดไปว่าเขาอ้างเพราะอยากป
"มันจะยากอะไร ให้ลูกน้องของคุณจับเธอเข้าไปขังในห้องนอน จากนั้นคุณก็เข้าไปจัดการให้เสร็จสิ้น คราวนี้ก็เรียบร้อยแล้ว!" ซ่งปันซานพูดอย่างไม่อาย"แผนนี้ไม่เลวเลย ทำตามที่คุณว่าแล้วกัน" จางฟานพยักหน้าอย่างพอใจซ่งเชี่ยนฟังคำพูดที่แสนโหดร้ายของพ่อ ก็ถึงกับน้ำตาคลอด้วยความโกรธ ไม่คิดเลยว่าผู้เป็นพ่อจะกล้าผลักเธอลงนรกให้ตายทั้งเป็น"ทำไมพ่อใจร้ายแบบนี้ จะปล่อยให้พวกมันทำร้ายฉันจริงเหรอ" เธอพูดทั้งน้ำตา"เพราะแกไม่เชื่อฟัง ไม่ยอมแต่งงานกับจางฟาน ดันไปทำทะเบียนสมรสปลอมมาหลอกพวกเรา!" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา โกรธที่ลูกสาวไม่เชื่อฟัง"ใช่แล้วเชี่ยนเอ๋อร์ พ่อของเธอทำแบบนี้ก็เพื่อตัวเธอเอง ถ้าเธอแต่งงานกับจางฟาน ชีวิตจะสบายไม่ต้องทำงานหาเงินอีกเลย!" ผู้เป็นแม่พยายามโน้มน้าวใจด้วยอีกแรง"ฉันไม่ได้หลอก ทะเบียนสมรสนี้เป็นของจริง ฉันกับหลิงหยางจดทะเบียนสมรสกันแล้ว!" เธอพยายามอธิบายให้พ่อแม่เข้าใจ"งั้นบอกมาสิ หลิงหยางอะไรนั่นทำงานอะไร อยู่ที่ไหน?"ซ่งเชี่ยนไม่รู้ว่าเขาทำงานที่ไหนหรือทำงานอะไร จึงอ้ำอึ้งตอบไม่ได้"เห็นไหม ตัวแกก็ยังไม่รู้ เชี่ยนเอ๋อร์ ฟังพ่อเถอะ ยอมไปกับจางฟานดีๆ เข้าไปในห้องน
จางฟานใช้เทปใสปิดปากของซ่งเชี่ยนอีกครั้ง เริ่มลวนลามเธอแม้รู้ว่าหญิงสาวไม่เต็มใจ ซ่งเชี่ยนพยายามดิ้นรนหนี แต่ยิ่งดิ้นเขายิ่งรุกหนักเข้าไปอีก เพราะมือและเท้าของเธอโดนมัดด้วยเชือก จึงไม่สามารถหลุดพ้นจากมือสกปรกของจางฟานได้เลยในที่สุดเรี่ยวแรงของเธอก็หมดลงจางฟานดึงเทปออกจากปากเธอ ซ่งเชี่ยนเกลียดเขาจนถึงขีดสุด สูดลมหายใจเข้าออกอย่างหนัก แล้วใช้แรงที่เหลือทั้งหมดกัดมือของเขาอย่างแรง“โอ๊ย!” จางฟานร้องเสียงดังและตบหน้าซ่งเชี่ยนอย่างแรง“แกเป็นหมาหรือไง?” เขาตะโกนด่า พลางบีบคอเธอแน่นขึ้นเรื่อยๆซ่งเชี่ยนรู้สึกเวียนหัวเหมือนคนขาดอากาศหายใจ ต่อให้เธอตายก็ดีกว่าเป็นของไอ้ชายชั่วคนนี้ จึงปล่อยให้มันบีบไปเรื่อยๆ พลางเสียดายหน่อยๆ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ทำ“ถ้าแกยังขัดขืนอีก ฉันจะฆ่าแกซะ แต่ถ้ายอมให้ฉันเล่นด้วยสักหน่อย มันก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าไม่...แกตายแน่!” เขาแค่จะขู่ไม่ได้จะคิดฆ่าเธอตอนนี้จึงเริ่มผ่อนแรงลงในขณะที่เธอหมดหวัง ก็นึกถึงตอนที่ได้รับจากซึ่งเป็นคนของคุณย่า บางทีหลานชายคนนั้นอาจมาช่วยเธอก็ได้ จึงตัดสินใจถ่วงเวลา แกล้งทำเป็นยอมแพ้เพื่อให้อีกฝ่ายตายใจ “จางฟาน ถ้าคุณช
“คะ คุณชายหลิง ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?” “แกนามสกุลจางสินะ แกนี่กล้าจริงๆ กล้าขนาดที่มาแตะต้องผู้หญิงของฉัน แกเตรียมตัวหาวิธีตายไว้แล้วหรือยัง?” หลิงหยางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“หา? คุณพูดอะไรนะ? ผู้หญิงของคุณ ใคร…ใครกัน” จางฟานตกใจคิดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้“แกไม่รู้เหรอว่าผู้หญิงที่แกเพิ่งทำระยำกับด้วยเป็นของใคร?” หลิงหยางตะโกนด้วยความโกรธ พร้อมกับยกขาขึ้นเตะเข้าที่ท้องของมันจางฟานเซถอยหลังไปและล้มลงนั่งก้นกระแทกพื้น รีบลุกขึ้นจากพื้น คุกเข่าลงขอโทษหลิงหยางด้วยความหวาดกลัว “คุณชายหลิง ขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าซ่งเชี่ยนเป็นผู้หญิงของคุณ ผม…”เพี๊ยะ!ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ หลิงหยางก็ตบหน้าเขาอย่างแรง จนทำให้หน้าครึ่งหนึ่งของจางฟานบวมขึ้นทันที คนชั่วโฉดพยายามถุยเลือดที่คั่งอยู่ในปากออกมา และพบว่ามีฟันหน้าหลุดออกมาด้วย ฟันซี่นั้นกระเด็นไปตกอยู่บนพื้นในขณะนั้นเองซ่งเชี่ยนที่แต่งตัวเรียบร้อย และจัดผมให้เข้าที่ก็ออกมาจากห้องนอน เธอชี้หน้าจางฟานและตะโกนด้วยความโกรธ “แกมันสัตว์เดรัจฉาน กล้าดียังไงถึงคิดจะข่มขืนฉัน วันนี้ฉันจะเอาเรื่องแกให้ถึงที่สุด!” เธอหยิบขวดเบียร์ที่ดื่มหมดแล้วจา
"คุณชายหลิง ขอโทษครับ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าซ่งเชี่ยนเป็นภรรยาของคุณ พ่อแม่ของซ่งเชี่ยนบอกว่าทะเบียนสมรสนั่นเป็นของปลอม ผมเลยถูกพวกเขาหลอกให้ทำแบบนั้น แต่ผมสาบานได้ว่าเราไม่ได้มีความสัมพันธ์..." จางฟานรีบขอโทษด้วยความร้อนรน"ดีที่แกยังไม่ได้มีความสัมพันธ์กับภรรยาของฉัน ไม่อย่างนั้นวันนี้ฉันจะหักขาพวกแกทั้งสามไปพร้อมกัน!" หลิงหยางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา"ผมเข้าใจแล้ว จากนี้ไปผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับซ่งเชี่ยนอีก"หลิงหยางมองไปที่ซ่งปันซานและอู๋ซิ่วหลานด้วยสายตาเย้ยหยัน "แล้วพ่อแม่ของซ่งเชี่ยนล่ะ? แกยังคิดจะหาเรื่องพวกเขาอีกไหม?""ในเมื่อซ่งเชี่ยนแต่งงานกับคุณแล้ว พ่อแม่ของเธอก็คือพ่อตาแม่ย่าของคุณ ผมก็ไม่กล้ามาหาเรื่องพวกเขาอีก!" จางฟานพยายามเอาใจ"แล้วหนี้ที่พวกเขาเป็นหนี้แกอยู่ล่ะ? แกยังคิดจะเอาคืนอยู่ไหม?" เขาไม่ยอมให้ภรรยาของเขามีเรื่องกวนใจอีก หากพ่อของแม่ซ่งเชี่ยนยังเป็นหนี้ ก็คงยังวุ่นวายกับเธอไม่จบสิ้น"ไม่เอาแล้ว ผมถือว่าเป็นการบริจาคช่วยเหลือพวกเขา!" จางฟานรีบส่ายหัว"แบบนี้ก็พอจะรับได้ รีบออกไปซะ ฉันไม่อยากเห็นพวกมันอีก!" หลิงหยางพยักหน้าอย่างพอใจและโบกมือไล่"ได้ครับ เราจะไปเดี๋ยวนี้!"
“เงื่อนไขอะไรเหรอ?” อู๋ซิ่วหลานถามด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้ยินว่าหลิงหยางจะให้เงินจำนวนมากขนาดนั้น ตาของเธอลุกวาวเป็นประกายสุกใส มีคนเอาเงินมาให้ถึงบ้านทำไมต้องปฏิเสธล่ะ! “เมื่อพวกคุณได้รับเงินแล้ว ต้องไม่ติดต่อกับซ่งเชี่ยนอีกเลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพวกคุณก็ต้องตัดขาดจากเธอจริงๆ จะตกลงไหม?” เขาต้องการคำยืนยันจากทั้งคู่ก่อน พ่อกับแม่ของซ่งเชี่ยนดูไว้ใจไม่ค่อยได้“ตกลงได้ครับ ตกลง” ซ่งปันซานรีบตอบแทนอู๋ซิ่วหลาน “จากนี้ไปซ่งเชี่ยนจะเป็นภรรยาของคุณ เราจะไม่เกี่ยวข้องกับเธออีกเลย!”“นี่คือพ่อแม่ของคุณใช่ไหม?” หลิงหยางมองซ่งเชี่ยนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเห็นใจ ทั้งคู่ทำเหมือนว่าเก็บเธอมาเลี้ยงอย่างนั้นแหละ เลี้ยงไว้เพื่อขายเอาเงินอย่างเดียวซ่งเชี่ยนหน้าซีดเผือด ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง เธอไม่เคยคิดเลยว่าพ่อแม่ของเธอจะเป็นคนหน้าเงินถึงเพียงนี้ ถึงขั้นใจจืดใจดำไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลย ตั้งแต่เด็กพ่อแม่ของเธอมักจะรังเกียจเธอเพราะว่าเป็นผู้หญิง ไม่เคยให้ความสนใจเธอเลย ทั้งหมดมุ่งไปที่น้องชายที่ไม่เอาไหนของเธอ ‘ซ่งฟง’ ดังนั้นซ่งเชี่ยนจึงได้รับการดูแลและเอาใจใส่จากพ่อแม่เพียงเล็กน้อย จึงทำให้เธอม
รถยนต์คันหรูแล่นไปตามถนนที่มีการสัญจรติดขัด ในขณะนี้ซ่งเชี่ยนรู้สึกกระวนกระวายเหมือนเด็กที่ทำอะไรผิดบางอย่าง หน้าของเธอแดงด้วยความอับอาย มือไม้ขยับไปมาด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ วันนี้พ่อแม่ของเธอทำให้ทุกคนได้เห็นธาตุแท้ที่น่ารังเกียจ ซ่งเชี่ยนไม่รู้จะเผชิญหน้ากับหลิงหยางอย่างไรชายหนุ่มเหมือนจะมองออกว่าเธอรู้สึกยังไง จึงเริ่มพูดเพื่อคลายความตึงเครียด “ซ่งเชี่ยน เธอได้เข้าไปดูห้องที่ฮั่นถิงอินเตอร์เนชันแนลหรือยัง?”“ยังเลยค่ะ” ซ่งเชี่ยนส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ตอนที่ฉันกำลังจะเข้าไปในหมู่บ้าน ฉันเห็นคุณย่าของคุณถูกชนล้มลงไป จึงรีบพาไปส่งที่โรงพยาบาล”“เธอเห็นคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ชนคุณย่าของฉันไหม?” หลิงหยางถามอย่างมีความหวัง“ไม่เห็นค่ะ” ซ่งเชี่ยนส่ายหัว “ตอนที่ฉันไปถึงคู่กรณีไม่อยู่แล้ว คุณย่าของคุณอยู่ท่ามกลางฝูงชน แต่ไม่มีใครช่วยท่านเลย”“คุณย่าของฉันบอกว่า ขอบคุณที่คุณพาเธอไปโรงพยาบาลทันเวลา มิฉะนั้นท่านอาจจะตายอยู่กลางถนน ดูเหมือนว่าเราจะมีวาสนาต่อกันจริงๆ” หลิงหยางยิ้มอย่างมีความหมาย“ไม่น่าจะใช่นะคะ วาสนาอะไรกัน สภาพครอบครัวของฉันคุณเห็นแล้วนี่ว่าเป็นยังไง ฉันรู้สึกว่าไม่คู่ควรกับคุณ เรา
หลิงหยางมองดูชายหัวล้านตรงหน้า ด้วยสายตาเย็นชาแล้วเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ ที่แท้ลูกพี่ที่ว่าก็คือเขาคนนี้นี่เอง"อาคัง นายกล้าจริงๆ เหรอ ส่งลูกน้องมาแย่งของจากฉัน แถมยังจะช่วยออกหน้าอีก นายมีเงินมากหรือว่ามีอำนาจใหญ่โตขนาดเชียวเหรอ?"ชายหัวล้านรีบยิ้มอย่างประจบ "คุณชายหลิง ผมจะกล้าได้ยังไง เมื่อเทียบกับคุณแล้ว พวกเราเป็นแค่เศษฝุ่นในสายตาคุณ ถึงจะให้ผมมีความกล้าร้อยเท่า ผมก็ไม่กล้าแย่งของจากคุณหรอก!""ถ้างั้นนายก็รู้แล้วใช่ไหมว่าควรทำยังไง?" หลิงหยางพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก"รู้แล้วครับ" อาคังพยักหน้ารัวๆ แล้วรีบยกมือขึ้นตบผู้ชายที่อยู่ข้างๆ อย่างแรง ก่อนจะตะโกนด่า "ไอ้หนู นายอยากตายใช่ไหม? รีบคุกเข่าลงขอโทษคุณชายหลิงเดี๋ยวนี้!"ชายคนนั้นเห็นสถานการณ์ไม่ดี จึงรีบคุกเข่าลงกับพื้นและขอโทษหลิงหยาง "คุณชายหลิง ผมขอโทษครับ ผมตาไม่ดีเองเอง ไม่ควรแย่งของจากคุณ ได้โปรดให้อภัยผมด้วย!"หลิงหยางไม่สนใจและไม่ได้แสดงท่าทางใดๆ ว่าจะยอมรับคำขอโทษนั้น แต่กลับจับมือซ่งเชี่ยนออกจากร้าน คนมาซื้อของดีๆ กลับถูกหาเรื่องเสียได้"ที่รัก ไปกันเถอะ!"ซ่งเชี่ยนคล้องแขนเขา แล้วทั้งสองก็เดินออกจากร้านเครื่องป
หลังจากลงมายังชั้นล่าง ก็เห็นรถยนต์ของหลิงหยางจอดอยู่ที่หน้าอาคาร ซ่งเชี่ยนนั่งลงที่ข้างๆ คนขับ ก่อนจะหันไปพูดกับหลิงหยาง“คุณคะ คุณเพิ่งใช้เงินไป 6 ล้านหยวน เพื่อซื้อบริษัทโฆษณาหลานเถียนให้ฉัน นั่นก็เยอะพอแล้ว ฉันจะกล้าขอให้คุณซื้อแหวนแต่งงานให้ฉันได้ยังไง?”“การแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าฉันไม่ซื้อเครื่องประดับที่เหมาะสมให้ คนอื่นจะดูถูกเอาได้ ดังนั้นให้ฉันซื้อให้เถอะ”ซ่งเชี่ยนลังเลเล็กน้อยแล้วพยักหน้า “ก็ได้ค่ะ ฉันจะฟังคุณ”“ดี งั้นตอนนี้ฉันจะพาเธอไปที่ร้านเครื่องประดับ”หลิงหยางพูดเสร็จก็สตาร์ทรถ และขับไปที่ร้านเครื่องประดับไฮโซ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง ไม่นานนักหลิงหยางก็ขับมาถึง ที่นี่เป็นหนึ่งในร้านเครื่องประดับที่หรูหรา และมีสไตล์ที่สุดในเมือง มีเครื่องประดับหลากหลายประเภท ทั้งแหวน, ต่างหู, สร้อยคอ, กำไล, และจี้ ในบรรดาเครื่องประดับเหล่านี้ มีผลงานของนักออกแบบชื่อดังจากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งออกแบบและสร้างสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน เป็นเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลิงหยางจอดรถเรียบร้อย ซ่งเชี่ยนควงแขนเขาแ ละเดินเข้าร้านเครื่องประดับไปด้วยกัน พนักงานขายสาวอายุประมาณย
หลังจากหลิงหยางส่งวิดีโอ ที่จางเมิ่งเสวี่ยถูกจับได้ว่าเป็นชู้ไปให้แม่ของเขาดู หลิวฮุ่ยหลิงก็ไม่โทรกลับมาอีกเลย น่าจะเป็นเพราะท่านรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียน้อยของคนอื่น จึงไม่กล้าพูดถึงจางเมิ่งเสวี่ยต่อหน้าเขาอีก และยิ่งไม่อยากช่วยพูดแทนแล้วเรื่องนี้ทำให้หลิงหยางและซ่งเชี่ยน รู้สึกโล่งใจและสบายใจขึ้นมาก จากนี้ไปหลิวฮุ่ยหลิงก็ไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะจับคู่หลิงหยางกับจางเมิ่งเสวี่ยอีกต่อไปแล้ว และจะไม่มาทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองด้วยเมื่อครู่ขณะที่ทั้งสองคนเล่นรักกันบนโซฟายาว ในห้องทำงานของผู้จัดการทั่วไป มันให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่อย่างมาก และพวกเขาก็เข้าใจว่า ทำไมโจวหยุนหลงถึงชอบให้จางเมิ่งเสวี่ย มาพลอดรักในห้องทำงาน มันเป็นการเล่นที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและหวาดเสียวปัจจุบันห้องทำงานนี้รวมถึงบริษัททั้งหมด เป็นของซ่งเชี่ยนแล้ว อย่างไรก็ตามในมุมมองของหญิงสาว แม้ว่าพวกเธอจะทำเรื่องส่วนตัวในห้องทำงาน โดยที่ไม่มีใครว่าอะไรแต่มันก็ไม่ส่งผลดีต่อภาพลักษณ์"เพราะคุณเลย! คนนิสัยไม่ดี!" หลังจากจัดเสื้อผ้าและผมของเธอเรียบร้อยแล้ว ซ่งเชี่ยนหันมามองหลิงหยางด้วยสายตาตำหนิ "ต่อไปห้ามทำอะไรฉ
วิดีโอที่หลิงหยางส่งมา เป็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตรงหน้าประตูห้องทำงานของผู้จัดการบริษัทหลานเถียน ซึ่งบันทึกเหตุการณ์ทั้งหมด ขณะที่ภรรยาของโจวหยุนหลงมาจับชู้ เมื่อดูจบหลิวฮุ่ยหลิงแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง จึงพยายามแก้ตัวให้จางเมิ่งเสวี่ย “ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เมิ่งเอ๋อร์ไม่ใช่คนแบบนั้น เธอจะไปมีอะไรกับผู้ชายแก่ๆ ได้ยังไง?”“ยังมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้อีก? ภรรยา คุณควรยอมรับความจริงได้แล้ว วิดีโอนี่เป็นของจริง โชคดีที่หลิงหยางไม่ได้ไปยุ่งกับผู้หญิงแบบนั้น ไม่งั้นตระกูลหลิงของเราคงเสียหน้าไปหมดแล้ว!” หลิงฉิงซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ ดูวิดีโอด้วยกันก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจหลิวฮุ่ยหลิงขมวดคิ้ว “หมายความว่าจางเมิ่งเสวี่ย หลอกเราให้เห็นว่าเธอเป็นเด็กดี?” “ชีวิตส่วนตัวของเธอไม่ดีนัก ถ้าไม่ใช่การแสดงแล้วจะเป็นอะไร?” หลิงฉิงไม่ได้สนิทกับครอบครัวนั้นเหมือนภรรยา รู้จักเพียงแค่ผิวเผินจึงพูดไปตามเนื้อผ้า “ดูเหมือนว่าหลิงหยางตัดสินใจถูก ที่ไม่ไปคบกับจางเมิ่งเสวี่ย และเลือกแต่งงานกับซ่งเชี่ยนแทน!” มาถึงตอนนี้แม้ยากจะยอมรับ แต่ทุกอย่างมันคือเรื่องจริง หลิวฮุ่ยหลิงถอนหายใจออกมาดังๆ“ใช่แล้ว แม้ว่า
จางเมิ่งเสวี่ยขับรถกลับบ้าน แล้วก็พุ่งตัวเข้าไปในห้องนอนส่วนตัว ก่อนจะซบหน้าลงบนเตียงและร้องไห้ออกมา จ้าวชิงหย่าเปิดประตูห้องเห็นลูกเศร้าโศกจึงเดินเข้ามาถาม "เมิ่งเอ๋อร์ ลูกไม่ได้ไปทำงานที่บริษัท เพื่อตรวจสอบการทำงานของพนักงานหรอกเหรอ? ทำไมกลับมาถึงบ้านแล้วก็ร้องไห้แบบนี้ล่ะ บอกฉันสิใครรังแกเธอ?"จางเมิ่งเสวี่ยกลัวว่าแม่ของเธอ จะรู้เรื่องที่เธอแอบมีความสัมพันธ์กับโจวหยุนหลงในห้องทำงาน และภรรยาของโจวหยุนหลงจับได้ พนักงานในบริษัทก็แห่ไปดูเหตุการณ์ ดังนั้นเธอจึงนั่งขึ้นมาจากเตียง และตอบด้วยน้ำตาคลอเบ้า "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่เลย แม่ออกไปก่อนเถอะ ให้หนูได้อยู่คนเดียวสักพัก!""ไม่!" จ้าวชิงหย่าปฏิเสธอย่างหนักแน่น "ถ้าลูกไม่บอกว่าเกิดอะไรขึ้น แม่จะไม่ออกไปจากห้องนี้เด็ดขาด รีบบอกมาว่ามีเรื่องอะไร""ฉัน... ฉันโดนไล่ออกแล้ว..." ถูกคาดคั้นเลยจำเป็นต้องตอบ เพราะอย่างไรไม่ช้าหรือเร็วแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี"อะไรนะ? โดนไล่ออกเหรอ?" จ้าวชิงหย่าถามด้วยเสียงตกใจ "ใครไล่เธอออกล่ะ? หรือว่าคุณโจวไล่ออก ทำไมเขาทำแบบนั้นล่ะ ลูกไปทำอะไรผิดพลาดไว้หรือเปล่า?""ไม่ใช่ค่ะ" จางเมิ่งเสวี่ยส่ายหัว "ฉันถูกหลิงหยา
เมื่อได้ยินว่าหลิงหยางซื้อบริษัทโฆษณาหลานเถียนในนามของเธอ และซ่งเชี่ยนเป็นเจ้าของบริษัทแล้ว หญิงสาวรู้สึกเหมือนกำลังฝันไป ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง และเมื่อสามีตัดสินใจไล่โจวหยุนหลงและจางเมิ่งเสวี่ยออก เธอจึงรู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน “ฉันไม่มีปัญหา แต่ฉันขอไล่คนเพิ่มอีกสองคนได้ไหม?” “เธอเป็นเจ้าของบริษัทนี้ ใครที่อยากไล่ก็ไล่ได้เลย ไม่จำเป็นต้องถามความเห็นฉัน” ยิ้มกว้างให้ภรรยา ตอนนี้เธอมีสิทธิ์ขาดอย่างเต็มที่ จะไล่ใครก็ตามสะดวก“ถ้าอย่างนั้น” ซ่งเชี่ยนหันไปมองซุนจิ่นเหยาแล้วพูด “วันนั้นคุณร่วมมือกับหลิวจื้อกังและจางเมิ่งเสวี่ยเพื่อรังแกฉัน คุณก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป ตั้งแต่ตอนนี้คุณและหลิวจื้อกังจะไม่ใช่พนักงานของบริษัทโฆษณาหลานเถียนอีกต่อไป เก็บข้าวของของคุณแล้วออกไปได้เลย” “ท่านประธานซ่ง ฉันผิดไปแล้ว โปรดยกโทษให้ฉันเถอะ ฉันมีพ่อแม่ต้องดูแลและลูกเล็กๆ ฉันไม่อยากเสียงานนี้ไป!” ซุนจิ่นเหยารีบคุกเข่าขอร้อง “แล้วตอนที่คุณร่วมมือกับจางเมิ่งเสวี่ยเพื่อต่อต้านฉัน ทำไมคุณไม่คิดถึงเรื่องนี้บ้าง?” ไม่ได้อยากใจร้าย แต่คนพวกนี้ทำร้ายเธอก่อน จะมีหน้าร่วมงานกันได้อย่างไรอีกซุน
"อ๊า!"จางเมิ่งเสวี่ยร้องเสียงหลง พร้อมกับผลักโจวหยุนหลงออกจากตัวอย่างแรง ชายแก่รีบลุกขึ้นจากตัวเธอทันที พร้อมดึงกางเกงขึ้นและมองไปที่ห่าวเหมย ซึ่งโกรธจนบุกเข้ามาในห้องทำงานด้วยความตะลึง ก่อนถามออกมาอย่างตะกุกตะกัก“หะ...ห่าวเหมย คุณ...คุณมาที่นี่ได้ยังไง?” “โจวหยุนหลง! แกมันเลวจริงๆ กล้าไปหาผู้หญิงคนอื่น ดูสิวันนี้ฉันจะจัดการแกกับอีผู้หญิงชั่วๆ นี่ยังไง!” เธอตะโกนด่าเสียงเข้มพูดจบเธอก็ตรงเข้ามาตบหน้าโจวหยุนหลงไปสองทีอย่างแรงจางเมิ่งเสวี่ยพอเห็นว่าโจวหยุนหลงเข้ามาขวางห่าวเหมยไว้ เธอจึงตั้งสติรีบใส่ชุดชั้นในแล้วดึงกระโปรงลง ทันใดนั้นเองก็เห็นหลิงหยางกำลังถ่ายรูปพวกเธออยู่ ด้านหลังของหลิงหยางมีซ่งเชี่ยน ซุนจิ๋นเหยา อู๋เสี่ยวลี่ หยางตัน และหลี่น่า ทำให้จางเมิ่งเสวี่ยอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีถ้าแค่หลิงหยางกับซ่งเชี่ยนอยู่ที่นี่ เธอก็ยังพอเข้าใจได้ ว่าพวกเขาอาจตามเธอมา และเป็นคนโทรศัพท์บอกห่าวเหมย แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือ คนที่เคยอยู่ข้างเธออย่างซุนจิ๋นเหยา อู๋เสี่ยวลี่ และหลี่น่า รวมถึงหยางตันที่สนิทกับซ่งเชี่ยนก็มาอยู่ที่นี่ด้วยสิ่งนี้ทำให้เธออับอายขายหน้ามาก และคิดว่าซ่งเชี
คืนนี้ห่าวเหมยทำเหมือนทุกวัน หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็นั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นดูทีวี ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นเธอหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะชาขึ้นแล้วดู ปรากฏว่าเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย เข้าใจผิดว่าเป็นสายรบกวนจึงกดตัดสาย แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง จึงเริ่มรู้สึกหงุดหงิดจึงกดรับสายเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากโทรศัพท์ "คุณเป็นภรรยาของโจวหยุนหลงใช่ไหม?""คุณเป็นใคร?" ห่าวเหมยถามด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด"ฉันเป็นใครไม่สำคัญหรอก ประเด็นคือสามีของคุณตอนนี้ อยู่ที่สำนักงานหลานเทียน และกำลังมีความสัมพันธ์กับพนักงานคนหนึ่งของบริษัท""อะไรนะ? เป็นไปได้ยังไง? ไม่น่าแปลกใจเลยที่โจวหยุนหลงดูเหม่อลอยบ่อยๆ เพราะเขาไปยุ่งกับผู้หญิงในบริษัทนี่เอง!" ห่าวเหมยตกใจ และเชื่อสนิทใจเพราะพักหลังมานี้สามีทำตัวแปลกไป"เขามีคำพูดว่า 'จับโจรต้องจับของกลาง จับชู้ต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา' ถ้าคุณอยากจับพวกเขาให้ได้ คุณควรรีบมาที่นี่!" ไม่ทันให้ห่าวเหมยพูดอะไร ปลายสายก็วางสายไปแล้วจึงตั้งใจจะโทรหาสามีเพื่อถามยืนยันว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่คิดว่าการทำแบบนั้นจะทำให้เขารู้ตัวเลยเปลี่ยนใจ เธอจึงถอดชุดนอนออก เปลี่ยนเสื้อผ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นสายจากโจวหยุนหลง จางเมิ่งเสวี่ยกลัวว่าแม่จะรู้เรื่อง ที่เธอมีความสัมพันธ์กับชายชราผู้นี้ จึงไม่กล้ารับสายและรีบตัดสายทิ้งทันทีจ้าวชิงหย่าถามอย่างสงสัย "เมิ่งเอ๋อร์ทำไมไม่รับสายล่ะ?""เป็นเบอร์รบกวน ไม่มีความจำเป็นต้องรับค่ะ" ได้แต่ตอบเลี่ยงๆ ไป"ฉันเห็นว่าชื่อที่แสดงบนหน้าจอคือชื่อคุณโจวนี่ เขาไม่ใช่เจ้านายของเธอหรอกเหรอ?" จ้าวชิงหย่าเป็นคนหูตาไว มองปราดเดียวก็เห็นอย่างแจ่มชัดว่าใครโทรมา ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกสาวถึงโกหก"ฉัน..." จางเมิ่งเสวี่ยไม่รู้จะตอบอย่างไร เธอหยุดคิดคำพูดชั่วคราวก่อนพูดต่อ "ตอนนี้เลิกงานแล้วค่ะ ฉันไม่อยากรับสายจากบริษัท""แล้วถ้าเขาโทรมาสอบถามเรื่องการลักพาตัวซ่งเชี่ยนล่ะ?" เรื่องนี้ไม่ใช่เล็กๆ อย่างไรเสียซ่งเชี่ยนก็เป็นคนในบริษัทเหมือนกัน กลัวว่าเรื่องไปถึงหูคุณโจวแล้ว เรื่องของเรื่องคือกังวลว่าลูกสาวจะเดือดร้อน"คงไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ" จางเมิ่งเสวี่ยส่ายหัว "เขาไม่รู้หรอกว่าฉันเป็นคนสร้างเรื่อง และอีกอย่างซ่งเชี่ยนก็ถูกช่วยออกมาแล้ว เขาจะโทรมาหาฉันเรื่องนี้ทำไม แม่ไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ" พยายามหาเหตุผลมาอธิบายให้แม่ฟัง แต่ถึงโจวหยุนหลงจะรู้อย่