"มันจะยากอะไร ให้ลูกน้องของคุณจับเธอเข้าไปขังในห้องนอน จากนั้นคุณก็เข้าไปจัดการให้เสร็จสิ้น คราวนี้ก็เรียบร้อยแล้ว!" ซ่งปันซานพูดอย่างไม่อาย
"แผนนี้ไม่เลวเลย ทำตามที่คุณว่าแล้วกัน" จางฟานพยักหน้าอย่างพอใจ
ซ่งเชี่ยนฟังคำพูดที่แสนโหดร้ายของพ่อ ก็ถึงกับน้ำตาคลอด้วยความโกรธ ไม่คิดเลยว่าผู้เป็นพ่อจะกล้าผลักเธอลงนรกให้ตายทั้งเป็น
"ทำไมพ่อใจร้ายแบบนี้ จะปล่อยให้พวกมันทำร้ายฉันจริงเหรอ" เธอพูดทั้งน้ำตา
"เพราะแกไม่เชื่อฟัง ไม่ยอมแต่งงานกับจางฟาน ดันไปทำทะเบียนสมรสปลอมมาหลอกพวกเรา!" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา โกรธที่ลูกสาวไม่เชื่อฟัง
"ใช่แล้วเชี่ยนเอ๋อร์ พ่อของเธอทำแบบนี้ก็เพื่อตัวเธอเอง ถ้าเธอแต่งงานกับจางฟาน ชีวิตจะสบายไม่ต้องทำงานหาเงินอีกเลย!" ผู้เป็นแม่พยายามโน้มน้าวใจด้วยอีกแรง
"ฉันไม่ได้หลอก ทะเบียนสมรสนี้เป็นของจริง ฉันกับหลิงหยางจดทะเบียนสมรสกันแล้ว!" เธอพยายามอธิบายให้พ่อแม่เข้าใจ
"งั้นบอกมาสิ หลิงหยางอะไรนั่นทำงานอะไร อยู่ที่ไหน?"
ซ่งเชี่ยนไม่รู้ว่าเขาทำงานที่ไหนหรือทำงานอะไร จึงอ้ำอึ้งตอบไม่ได้
"เห็นไหม ตัวแกก็ยังไม่รู้ เชี่ยนเอ๋อร์ ฟังพ่อเถอะ ยอมไปกับจางฟานดีๆ เข้าไปในห้องนอนซะ อย่าบังคับให้พ่อใช้กำลัง!" เห็นลูกสาวตอบไม่ได้ก็คิดไปแล้วว่าคงโกหกแน่นอน
"พ่อ! ทำแบบนี้มันผิดกฏหมายนะ"
"ในบ้านนี้ ฉันคือกฎหมาย!" จากนั้นเขาหันไปพูดกับจางฟาน "จางฟาน ฉันจะยกลูกสาวให้คุณเดี๋ยวนี้ รีบจับเธอเข้าไปในห้องนอนและจัดการให้จบเถอะ!"
เป็นเพราะรับเงินมาแล้ว หนี้ทั้งหมดจางฟานก็ใช้ให้แทนแล้ว หากเขาเรียกร้องขอคืนคงไม่มีหน้าเอาเงินมาคืนให้ สู้ยัดเยียดลูกสาวตามที่เขาต้องการ แค่นี้ก็จบเรื่อง
ซ่งเชี่ยนเห็นท่าไม่ดี จึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอนและล็อคประตู ผู้เป็นพ่อเดินไปที่ดูและพยายามเปิด แต่พบว่ามันถูกล็อค น่าโมโหนักทำไมลูกสาวคนนี้ไม่ได้ดั่งใจเลย!
"เชี่ยนเอ๋อร์ เปิดประตูเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นพ่อจะพังประตูแล้ว!"
"พ่อ หนูเป็นลูกสาวของคุณหรือเปล่า ทำไมถึงทำแบบนี้กับหนู" ซ่งเชี่ยนกดตัวกับประตูร้องไห้ด้วยความคับแค้นใจ
"ฉันไม่มีทางเลือก ถ้าแกยอมแต่งงานกับจางฟาน ฉันถึงจะมีทางรอด แกคงไม่อยากเห็นฉันตายหรอกใช่ไหม?" ซ่งปันซานพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
หลังจากวางสายโทรศัพท์ หลิงหยางก็สั่งให้เลขาฯ และบอดี้การ์ดของเขาขับรถไปโรงพยาบาลในเมืองทันที เมื่อรถจอดที่หน้าตึกผู้ป่วย หลิงหยางก็ลงจากรถและรีบขึ้นลิฟต์ไปชั้น 10 มาถึงห้องผู้ป่วยหมายเลข 3 ก็เห็นคุณย่ากำลังนอนพักรักษาตัวอยู่
"เจ้าหนู ยังรู้จักมาหาย่าคนนี้อีกเหรอ?"
"คุณย่า ใครชนคุณย่าครับ แล้วใครพามาส่งโรงพยาบาล?" หลิงหยางรีบวิ่งเข้าไปจับมือคุณย่าไว้
"เมื่อคืนย่าโทรหาเธอแต่เธอปิดเครื่องเลยติดต่อไม่ได้ เช้านี้ย่าก็ไปหาเธอที่บ้าน..." ผู้เป็นย่าอธิบายเรื่องราวให้หลานชายฟัง
"คุณย่าไม่ต้องห่วง ผมจะติดต่อทางตำรวจเพื่อหาคนขับรถที่ชนให้ได้!" เมื่อรับรู้เรื่องทั้งหมดเขาไม่นิ่งนอนใจ ชนแล้วหนีผิดกฏหมาย เขาต้องไปลากตัวมาลงโทษให้ได้
"เรื่องมันเกิดไปแล้วก็แล้วไปเถอะ ลืมๆ มันไปซะ"
หลิงหยางรู้ว่าคุณย่ามีจิตใจดีจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาจึงถามถึงผู้หญิงที่พาคุณย่ามาส่ง เพราะตอนรับสายเป็นเสียงผู้หญิงแต่พอเขามาถึงก็ไม่เจอตัวแล้ว
"ผู้หญิงที่พาคุณย่ามาคือคนที่โทรหาผมใช่ไหมครับ?"
"ใช่แล้ว เธอเป็นผู้หญิงที่ใจดีมาก ถ้าไม่ได้เธอย่าคงไม่รอดแล้ว ย่าอยากจะแนะนำให้รู้จัก แต่เธอบอกว่าเธอแต่งงานแล้ว แย่จัง คงไม่มีโอกาสแล้วล่ะ"
หลิงหยางอยากบอกเหลือเกินว่าตอนนี้เขาก็แต่งงานแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุณย่าก็ขัดขึ้นเสียก่อน
"เธออายุมากแล้วยังไม่แต่งงานเลย ย่าอยากอุ้มเหลนก่อนตาย"
"คุณย่าไม่ต้องห่วง จะได้อุ้มเหลนแน่นอน" เพราะตอนนี้เขาแต่งงานแล้วยังไงล่ะ! "แล้วผู้หญิงที่พาคุณย่ามาที่โรงพยาบาลไปไหนแล้วครับ?"
"เธอบอกว่ามีธุระด่วนที่บ้านก็เลยออกไปก่อน เธอยังจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ย่าด้วยนะ เธอเป็นคนดีมากเลย รีบติดต่อเธอแล้วคืนเงินให้เธอเถอะ"
หลิงหยางรีบโทรกลับไปหาเธอทันที เป็นเสียงของ ซ่งเชี่ยน ดังมาจากปลายสายฟังดูตื่นตระหนกมาก
"ฉันคือซ่งเชี่ยน ช่วยฉันด้วย!"
"คุณคือซ่งเชี่ยนเหรอ คุณอยู่ที่ไหน?" หลิงหยางตกใจแต่ไม่มีเวลาให้ถามมากนัก น้ำเสียงเธอฟังแล้วร้อนรนเหมือนกำลังเกิดเรื่อง
"ฉันอยู่ที่บ้านเลขที่ 402 ตึก 3 เขตเป่ยกวง..."
แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบสายก็ถูกตัดขาด หลิงหยางพยายามโทรกลับ แต่พบว่าโทรศัพท์ของเธอปิดเครื่องไปแล้ว
ซ่งเชี่ยนต้องมีอันตรายแน่!
“คุณย่า ตอนนี้ผมต้องออกไปทำธุระสักหน่อย เดี๋ยวผมจะให้นางพยาบาลย้ายไปห้องพักผู้ป่วยเดี่ยว” หลังจากวางสายโทรศัพท์ หลิงหยางรีบพูดกับคุณย่าที่นอนอยู่บนเตียง
“หลานจะไปไหน?” เห็นท่าทางร้อนรนของหลานก็อดสงสัยไม่ได้
ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว ไว้ผมจะอธิบายให้ฟังทีหลังนะครับ!”
ทันทีที่พูดจบหลิงหยางก็รีบวิ่งออกจากห้องผู้ป่วยไป บังเอิญเจอเข้ากับเกาหมิงที่เพิ่งจอดรถเสร็จและมาเยี่ยมคุณย่าพอดี
“เจ้านาย จะไปไหน?” เกาหมิงถามด้วยความประหลาดใจ
“ไปช่วยคน รีบไปกับฉันเร็ว!”
ห้องนอนของซ่งเชี่ยนปิดสนิท ไม่ว่าซ่งปันซานจะเคาะประตูหรืออ้อนวอนแค่ไหน เธอก็ยังไม่ยอมเปิดประตู จางฟานเริ่มรู้สึกหงุดหงิด
“ตาเฒ่าเลิกตะโกนได้แล้ว ต่อให้ประตูพังไปแล้ว หรือคอหอยแตกเป็นชิ้นๆ ลูกสาวของแกก็ไม่เปิดประตูอยู่ดี ในเมื่อเธอไม่เต็มใจ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องบังคับแล้ว ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว...”
“เปลี่ยนใจยังไง?” ซ่งปันซานถามอย่างเร่งรีบ
“เอาเป็นว่า คืนฉัน 1 ล้านหยวนที่ฉันจ่ายหนี้การพนันให้ แล้วคืน 8 แสนหยวนสินสอดให้ฉันด้วย เพิ่มดอกเบี้ยอีก 2 แสนหยวน รวมเป็น 2 ล้านหยวน คืนให้ฉันแล้วเราจะหมดเรื่องกัน” จางฟานพูดด้วยท่าทีเย็นชา
“ฉัน...ฉันจะไปเอาเงินมากขนาดนั้นมาจากไหน?” ซ่งปันซานรู้สึกสิ้นหวังมาก
“ถ้าไม่มีเงิน งั้นเราก็จะหักแขนขาของแกแทน ไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
“ต่อให้คุณฆ่าเขา เราก็ไม่มีเงินขนาดนั้น ถ้าแขนขาของสามีฉันถูกคุณทำลาย เขาจะใช้ชีวิตอย่างไร?” อู๋ซิ่วหลานรีบเข้ามาอ้อนวอน กลัวสามีจะกลายเป็นคนพิการ
“นั่นเป็นเรื่องของพวกแก ฉันไม่สนใจ หนี้ต้องใช้คืนเป็นหลักการพื้นฐาน ถ้าคืนไม่ได้ก็ต้องทนเจ็บหน่อยแล้วกัน!”
“อย่างนี้ได้ไหม? พวกเราคืนสินสอด 8 แสนหยวนให้คุณ แล้วส่วนที่เหลือเราจะหาทาง...” อู๋ซิ่วหลานยื่นข้อเสนอ เผื่อจะตกลงกันได้
“ไม่ได้ ถ้าไม่คืนทั้งหมด 2 ล้านหยวนก็จบกัน หรือไม่ก็ให้ลูกสาวคุณมาเป็นหลักประกันหนี้แทน” จางฟานปฏิเสธอย่างหนักแน่น
คนคนนี้ตั้งใจจะเอาซ่งเชี่ยนอย่างแน่นอน ซ่งปันซานตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว พุ่งหัวเข้าชนประตูห้องนอน
ในขณะนั้นซ่งเชี่ยนกำลังคุยโทรศัพท์กับหลิงหยาง แต่ผู้เป็นพ่อเข้าใจผิด คิดว่าเธอกำลังโทรแจ้งตำรวจ รีบกระชากโทรศัพท์จากเธอ ทำให้การสนทนาของพวกเขาถูกตัดขาด และก็รีบหยิบมือถือมาปิดเครื่องทันที
“คืนโทรศัพท์มาให้ฉัน!” ซ่งเชี่ยนตะโกนและพุ่งเข้าหาพ่อของเธอ พยายามจะแย่งโทรศัพท์คืน ซ่งปันซานยกมือขึ้นและตบหน้าเธออย่างแรง
เพี๊ยะ!
เสียงดังสนั่น บนใบหน้าของซ่งเชี่ยนปรากฎรอยนิ้วมือขึ้นทันที ความเจ็บปวดแสบซ่าแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้า เธอใช้มือกุมหน้าและถามอย่างแข็งกร้าว
“พ่อ...ตบฉันทำไม!”
“ฉันจะตบแกอีกเจ้าลูกอกตัญญู! คืนนี้แกต้องมีอะไรกับคุณชายจาง จะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม!” ซ่งปันซานตะโกนด่าด้วยความโกรธ
พูดจบเขาก็เรียกให้บอดี้การ์ดสองคนที่จางฟานพามาเข้าไปในห้อง
“จับเธอไว้เดี๋ยวนี้ ผลที่ตามมาฉันรับผิดชอบเอง!”
บอดี้การ์ดสองคนหันไปมองจางฟาน เห็นเจ้านายพยักหน้า บอดี้การ์ดสองคนก็พุ่งเข้าไปในห้องนอนของซ่งเชี่ยน กดเธอลงบนเตียงใหญ่กลางห้อง
“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย...” ซ่งเชี่ยนพยายามดิ้นรนและร้องขอความช่วยเหลือ
บอดี้การ์ดคนหนึ่งรีบดึงเทปกาวใสออกจากกระเป๋าและปิดปากเธอจนสนิท ใช้เชือกมัดแขนขาเธอจนขยับตัวไม่ได้ ซ่งเชี่ยนถูกมัดแน่นเหมือนขนมบ๊ะจ่าง ไม่สามารถขยับตัวได้เลย
“คุณชายจาง ต่อไปเป็นหน้าที่ของคุณแล้ว!”
ซ่งปันซานส่งสายตาให้จางฟาน แล้วเขาก็ออกจากห้องนอนไปพร้อมกับบอดี้การ์ดสองคน ปิดประตูให้เรียบร้อย จางฟานนั่งลงที่ขอบเตียง เขายื่นมือไปลูบไล้ใบหน้าของเธอ
“ผิวขาวเนียน นี่สิสาวงามตัวจริง!”
ซ่งเชี่ยนมองเขาด้วยความหวาดกลัว เธอส่ายหัวและดิ้นรนเพื่อหาทางรอด จางฟานดึงเทปกาวที่ปิดปากเธอออก
“คุณ...คุณจะทำอะไร? ช่วยด้วย! ช่วยด้วย...” เธอร้องด้วยเสียงสั่นเทา
“เธอไม่ต้องร้องหรอก ร้องไปก็ไม่มีประโยชน์ พ่อของเธอได้ยกเธอให้ฉันแล้ว และยังมีบอดี้การ์ดของฉันเฝ้าอยู่ข้างนอก ไม่มีใครจะมาช่วยเธอหรอก ยอมเป็นของฉันเถอะ!” จางฟานพูดอย่างไร้ยางอาย
“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย...” ซ่งเชี่ยนไม่สนใจและยังคงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะนั้นเอง เธอปรารถนาอย่างยิ่งว่าจะมีใครสักคนได้ยินเสียงร้องของเธอ!
จางฟานใช้เทปใสปิดปากของซ่งเชี่ยนอีกครั้ง เริ่มลวนลามเธอแม้รู้ว่าหญิงสาวไม่เต็มใจ ซ่งเชี่ยนพยายามดิ้นรนหนี แต่ยิ่งดิ้นเขายิ่งรุกหนักเข้าไปอีก เพราะมือและเท้าของเธอโดนมัดด้วยเชือก จึงไม่สามารถหลุดพ้นจากมือสกปรกของจางฟานได้เลยในที่สุดเรี่ยวแรงของเธอก็หมดลงจางฟานดึงเทปออกจากปากเธอ ซ่งเชี่ยนเกลียดเขาจนถึงขีดสุด สูดลมหายใจเข้าออกอย่างหนัก แล้วใช้แรงที่เหลือทั้งหมดกัดมือของเขาอย่างแรง“โอ๊ย!” จางฟานร้องเสียงดังและตบหน้าซ่งเชี่ยนอย่างแรง“แกเป็นหมาหรือไง?” เขาตะโกนด่า พลางบีบคอเธอแน่นขึ้นเรื่อยๆซ่งเชี่ยนรู้สึกเวียนหัวเหมือนคนขาดอากาศหายใจ ต่อให้เธอตายก็ดีกว่าเป็นของไอ้ชายชั่วคนนี้ จึงปล่อยให้มันบีบไปเรื่อยๆ พลางเสียดายหน่อยๆ เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ทำ“ถ้าแกยังขัดขืนอีก ฉันจะฆ่าแกซะ แต่ถ้ายอมให้ฉันเล่นด้วยสักหน่อย มันก็จะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าไม่...แกตายแน่!” เขาแค่จะขู่ไม่ได้จะคิดฆ่าเธอตอนนี้จึงเริ่มผ่อนแรงลงในขณะที่เธอหมดหวัง ก็นึกถึงตอนที่ได้รับจากซึ่งเป็นคนของคุณย่า บางทีหลานชายคนนั้นอาจมาช่วยเธอก็ได้ จึงตัดสินใจถ่วงเวลา แกล้งทำเป็นยอมแพ้เพื่อให้อีกฝ่ายตายใจ “จางฟาน ถ้าคุณช
เสียงนกร้องที่นอกหน้าต่างทำให้คนบนเตียงกระพริบตาถี่ๆ ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย หลิงหยางหัวหนักอึ้ง และเมื่อลืมตาเต็มที่ก็พบว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงใหญ่ของโรงแรม ข้างนอกหน้าต่างนั่นอากาศแจ่มใสมาก มีเสียงนกและมีกลิ่นดอกไม้โชยมาอ่อนๆ ความทรงจำในหัวเริ่มค่อยๆ กลับคืนมาเมื่อคืนนี้เขาหนีจากการจับคู่ดูตัวที่มารดานัดแนะให้ เลยไปที่บาร์คนเดียวเพื่อดื่มจนเมา จำได้ว่าเมาหนักมากด้วย คุ้นๆ ว่าพาผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย ต่อมาเขาก็ฝัน ในฝัน! เขาบุกรุกเขตหวงข้ามของผู้หญิงคนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า...ผู้หญิง?หลิงหยางรู้สึกตกใจ รีบลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันที เขาดึงผ้าห่มออก บนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด มีรอยแดงสีกุหลาลสดหยดอยู่เป็นดวง อะไรกัน? เธอเป็นสาวบริสุทธิ์?หรือว่าไม่ใช่ความฝัน?หลิงหยางมองไปรอบๆ ห้อง เขาเห็นรองเท้าส้นสูงของผู้หญิง ชุดชั้นใน บราเซียร์ และชุดเดรสกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นทันใดนั้น! ประตูห้องน้ำก็เปิดออกผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวพันรอบกาย ผมยาวสีดำของเธอยังเปียกหมาดๆ มีหยดน้ำเกาะบนบ่าด้วย กลิ่นอายความร้อนยังอบอวล เผยให้เห็นแขน ไหล่ และขาที่ขาวเนียนราวกับผลึกหิมะหลิงหยางจ้องมองเธอราวกั
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลิงหยางรีบออกมาจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ฉุดมือซ่งเชี่ยนแล้วพาเธอออกจากห้อง เมื่อพวกเขาลงมาข้างล่าง ชายหนุ่มก็พาขึ้นรถ มายบัค ที่จอดอยู่ชั้นล่าง เพื่อพากันไปที่หน้าสำนักงานทะเบียนสมรสเมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็เดินเข้าไปในห้องโถงของสำนักงาน เนื่องจากพวกเขาเตรียมการไว้ล่วงหน้า ทั้งคู่จึงได้แอบนำทะเบียนบ้านมาด้วย ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็ทำเรื่องสมรสเรียบร้อย ทั้งสองคนถือใบทะเบียนในมือ หลิงหยางถึงกับถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกเขาคิดว่าจากนี้ไปคุณย่าที่อยากมีเหลน และพ่อแม่ที่หวังจะให้เขาแต่งงาน เมื่อรู้ว่าเขามีภรรยาแล้ว ก็จะไม่มาจัดนัดบอดให้อีกซ่งเชี่ยนก็เช่นกัน! ในใจของเธอคิดว่าหลังจากได้ใบทะเบียนสมรสกับหลิงหยางแล้ว พ่อแม่ของเธอคงจะไม่บังคับให้เธอแต่งงานกับจางฟานผู้ชายเจ้าชู้คนนั้นอีกต่อไป“เธอชื่อซ่งเชี่ยนใช่ไหม?” หลิงหยางหยิบกุญแจชุดหนึ่งออกจากกระเป๋า แล้วยื่นให้เธอ “นี่เป็นกุญแจบ้านหมายเลข 8 ของหมู่บ้านฮั่นถิงอินเตอร์เนชันแนล เพราะเราจดทะเบียนสมรสกันแล้ว เธอควรจะย้ายมาอยู่กับฉัน เดี๋ยวฉันจะพาไปดูบ้านให้คุ้นเคย...”ซ่งเชี่ยนรับกุญแจมาพร้
ครึ่งชั่วโมงต่อมาหลิงหยางมาถึงบริษัทหลิงกรุ๊ป หลังจากจอดรถในที่ส่วนตัวสำหรับประธานในชั้นใต้ดิน เขาก็ขึ้นลิฟต์เฉพาะเขาเท่านั้นไปยังชั้น 28 ซึ่งเป็นห้องทำงาน เมื่อมาถึงก็เข้าไปด้านใน แล้วก็ต้องเซ็งสุดขีดเมื่อพบว่ามีคนพุ่งเข้ามาจากทางด้านหลังทันใดนั้นหญิงสาวในชุดเดรสสีแดงสุดเซ็กซี่ และมีรูปร่างสะบึ้มพุ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว เธออ้าแขนโอบหลิงหยางจากด้านหลัง "หลิงหยาง คุณมาแล้ว! เมื่อคืนฉันติดต่อคุณไม่ได้ ฉันเป็นห่วงมาก เช้านี้ก็รีบมาที่บริษัทเพื่อหาคุณ นั่งรออยู่ที่ห้องทำงานของเลขาฯ อยู่นานเลย"สัมผัสอ่อนนุ่มจากด้านหลังทำให้หลิงหยางชะงักไปชั่วครู่ แต่เขาก็รีบตั้งสติและดันร่างของหญิงสาวออก จากนั้นเขาหันกลับมามองเธอด้วยสายตาเย็นชา "จางเมิ่งเสวี่ย คุณหมายความว่ายังไง? เราสนิทกันขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?""หลิงหยาง ตั้งแต่แม่ของคุณพาฉันมารู้จัก ฉันก็ชอบคุณแล้ว ฉันอยากอยู่กับคุณ อยากแต่งงานกับคุณ" จางเมิ่งเสวี่ยแสดงออกอย่างจริงจัง"ขอโทษด้วยนะ ผมแต่งงานแล้ว เพื่อไม่ให้กระทบครอบครัว กรุณาอย่ามาหาผมอีก" หลิงหยางตอบด้วยใบหน้าไร้อารมณ์"เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ!" เธอคิดไปว่าเขาอ้างเพราะอยากป