เช้าวันจันทร์ที่แพรววนิตต้องตื่นไปทำงาน ปกติแล้วแพรววนิตชอบไปทำงานมากเพราะอยากเจอท่านประธานสุดหล่อของเธอ เพียงแค่ได้เห็นหน้ากันครั้งแรก เธอก็ตกหลุมรักเขาทันที แต่นี่เธอไม่อยากให้วันจันทร์มาถึงเร็วเลย ถ้าเป็นไปได้อยากจะมีแค่วันอาทิตย์วันเดียวเท่านั้น แต่สุดท้ายความปรารถนาที่จะให้มีแค่วันอาทิตย์มันก็เป็นไปไม่ได้ แพรววนิตทำได้แค่เพียงก้มหน้าก้มตาไปทำงานอย่างเลี่ยงไม่ได้
“คุณแพรวเข้าไปคุยกับผมในห้องหน่อย” พอมาถึงเขาก็ทำหน้าดุ ทำเสียงเครียดเรียกให้เธอเข้าไปคุยกับเขาในห้องทันที
“คะ...ค่ะท่านประธาน” คนมีชะงักติดหลังถึงกับตอบเจ้านายหนุ่มตะกุกตะกัก
เธอรู้สึกประหม่าเอามาก ๆ อยู่ ๆ เขาก็มาทำงานเช้ากว่าปกติ แถมยังเรียกให้เธอเข้าไปคุยในห้อง ด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดเอามาก ๆ
เธอได้แต่คิดว่าที่เขาเรียกเข้าไปคุยหรือว่าเขาจะรู้แล้วว่าคนที่เขามีอะไรด้วยจะเป็นเธอ หญิงสาวได้แต่กุมขมับ ทำหน้าเครียดเพราะกลัวว่าเจ้านายหนุ่มจะรู้ความจริงว่าคืนนั้นผู้หญิงที่หลับนอนกับเขาจะเป็นเธอ
ระหว่างที่เธอกำลังคิดหนักก็มีเสียงโทรศัพท์จากในห้องประธานโทรเข้ามาหาเธอ เธอรับด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว “ค่ะท่านประธาน”
“ทำอะไรอยู่ ผมเรียกให้คุณเข้ามาไง”
“ค่ะ ๆ ทราบแล้วค่ะ” เธอรีบกดวางและรีบสลัดความคิดบ้า ๆ ออกไปให้หมด เขาไม่มีทางรู้เป็นแน่ เรื่องในคืนนั้นมันมืดมาก ได้แต่บอกตัวเองว่าจะไม่กินเหล้าอีก ก่อนที่จะเข้าห้องไปหาท่านประธานหลังจากที่เตรียมใจมาพอสมควรแล้ว
“ท่านประธานมีเรื่องอะไรจะคุยกับแพรวหรือคะ” เธอถามด้วยสีหน้าเรียบปกติ
ชายหนุ่มพยายามมองหน้าแพรววนิตอย่างจับผิดว่าจะมีพิรุธอะไรเผยออกมาไหม ทว่าสีหน้าของเธอเมื่อคุยกับเขาก็ดูปกติดีทุกอย่าง ทั้งที่เรื่องในคืนนั้นเธอคือผู้หญิงปริศนาคนนั้น
“รู้ไหมผู้หญิงคืนวันเสาร์เป็นใคร” เขาถามออกไปพร้อมกับจ้องหน้าเธอเพื่อจับผิดด้วย
“ผู้หญิงอะไรกันคะ” เธอถามออกไปด้วยใบหน้าซื่อ ๆ พร้อมกับดันแว่นตาของตนเองขึ้น ทำหน้าตาไม่เข้าใจกับสิ่งที่ท่านประธานถามออกมา
“ก็ผู้หญิงที่มีอะไรกับผมในห้อง ในคืนงานเลี้ยงไง”
“อุ๊ย จริงหรือคะ” เธอทำท่าทางปิดปากราวกับว่าตกใจได้สมจริง
สรัลคิดในใจ ไม่คิดว่าเลขาใส่แว่นของเขาจะแสดงบทบาทว่าไม่รู้เรื่องได้แนบเนียนมากขนาดนี้
“คุณไม่รู้เรื่องเหรอ”
“เออ...ล่ะ ๆ แล้วทำไมแพรวจะต้องรู้เรื่องด้วยล่ะค่ะ” กว่าเธอจะพูดออกมาได้ เสียงช่างสั่นเสียจริง แต่หญิงสาวก็คิดว่าทำได้อย่างแนบเนียน
“ก็ผู้หญิงในคืนนั้นคือคุณไงครับคุณแพรววนิต!” เขาทำน้ำเสียงออกประชด
“ไม่ใช่ค่ะ ผู้หญิงในคืนนั้นไม่ได้ใส่แว่นเหมือนแพรวนี่ค่ะ ไม่ใช่แน่นอนค่ะ” เธอว่าพร้อมกับดันแว่นตาของตนเองขึ้นเพื่อลดความประหม่า
“คุณรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงในคืนนั้นไม่ได้ใส่แว่นตา” เขาถามพร้อมกับเดินเข้ามาจับผิดเธอใกล้ ๆ ระยะประชิดตัว
“เออ...” หญิงสาวทำท่าทางครุ่นคิดพร้อมกับค่อย ๆ ก้าวขาถอยหลัง
เขาเดินตามเข้ามาใกล้ แม้ว่าเธอจะพยายามถอยหลังหนีเขา ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามแพรววนิตแทนการเอ่ยปากถาม
“เออ...ก็แพรวก็เดาไปเรื่อยเปื่อยนะคะ” สุดท้ายเธอก็หาคำตอบออกมาจนได้ เธอรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมากพยายามส่งยิ้มไปให้เขาแม้ว่าเขาจะดูออกว่ามันไม่เนียน สำหรับเขาแล้วคำตอบของเธอมันเรียกว่าแถก็ตาม
แม้ว่าความจริงแล้วผู้หญิงในคืนนั้นจะเป็นเธอแต่ว่าหญิงสาวไม่ได้อยากจะเรียกร้องสิ่งใด และก็ไม่ได้อยากให้เขามารับผิดชอบถึงแม้ว่าเธอจะแอบรักเขาก็ตาม เธอขอเพียงแอบรักแอบชอบอยู่ห่าง ๆ แม้ไม่ได้ครอบครองเขาแต่เพียงได้เห็นหน้าเขาทุกวัน เท่านี้หญิงสาวก็เป็นสุขใจ
“คุณเดาเก่งมากเลยครับคุณแพรว” เขาบอกอย่างประชด
“ใช่ไหมล่ะค่ะ เขาบอกว่าหมอดูคู่กับหมอเดาใช่ไหมล่ะ แพรวก็ทำนองนั้นแหละค่ะ” เธอยิ้มด้วยสีหน้าเจื่อน ๆ พยายามไหลลื่นไปเรื่อย ๆ
“ครับ ผู้หญิงในคืนนั้นไม่ใช่คุณก็ดี ขืนเป็นคุณผมก็คงเข้าหน้ากับคุณไม่ติด เราสองคนคงทำงานด้วยกันไม่ได้” เธอรู้สึกได้ว่าเขากำลังขู่ ยิ่งเป็นแบบนี้เธอยิ่งไม่บอกความจริงเป็นแน่
“ไม่ใช่แพรวแน่อนค่ะ แพรวยังไม่ได้เข้าห้องที่เปิดไว้ให้คุณเลยสักนิด”
“เหรอครับ แล้วนี้มันคืออะไร” เขาหยิบอะไรบางอย่างออกมาในกระเป๋าเสื้อสูทของเขา ออกมาแบมือให้เธอดู
แพรววนิตพอเห็นสิ่งของที่อยู่ในมือของเขาถึงกับหน้าถอดสี
“ไม่เคยเข้าไปในห้อง แต่นี่มันสร้อยข้อมือของคุณแพรวนี่ครับ ผมจำได้ว่าผมเป็นคนให้ของขวัญวันเกิดคุณ แล้วผมก็สลักชื่อของคุณไว้ด้วย แบบนี้จะไม่ให้ผมคิดว่าคืนนั้นไม่ใช่คุณอีกเหรอหลักฐานมันชัดมากขนาดนี้”
“เออ...ไม่ใช่แพรวจริง ๆ นะคะท่านประธาน เรื่องนี้แพรวอธิบายได้”
“งั้นก็อธิบายมา!” เขาทำเสียงดุใส่ จ้องตาเธอไม่กระพริบ ชนิดที่เธอไม่สามารถทำสายตาล่อกแล่กไปได้
“คืนนั้น...”
“คืนนั้นอะไร!” เขาทำเสียงดุถามเพราะเธอเอาแต่ลากเสียงยาวว่าคืนนั้นแต่ไม่ยอมพูดอะไรเสียที
“คืนนั้น....แพรวซิบด้านหลังของแพรวแตกค่ะ แพรวเลยขอที่เย็บผ้าจากโรงแรมให้มาส่งที่ห้องของท่านประธาน แล้วแพรวก็เย็บชุดในห้องท่านประธานค่ะ เลยทำให้สร้อยข้อมือหลุดไปตอนไหนไม่รู้ค่ะ” เธอรีบหยิบสร้อยข้อมือในมือของท่านประธานมาถือเอาไว้ ในตอนที่เขากำลังเผลอที่กำลังตั้งใจฟังเรื่องโกหกของเธอ
“แน่ใจนะที่พูดมาเป็นเรื่องจริง” เขาทำเสียงดุ“จริงสิคะ ท่านประธานก็ดูหุ่นแพรวสิคะว่าอ้วนขนาดไหน แพรวใส่ชุดราตรีแน่น ๆ รัด ๆ ซิบมันก็แตกธรรมดาค่ะ” เธอพยายามแถต่อไป“ก็ดีไม่ใช่คุณก็ดี ผมจะได้ทำงานได้สบายใจหน่อย”“ค่ะ ท่านประธานสบายใจได้เลยค่ะ ไม่ใช่แพรวแน่ ๆ” เธอรีบยืนยัน“งั้นคุณแพรวก็ช่วยตามสืบหน่อยนะว่าผู้หญิงที่แอบเข้ามาในห้องของผมเป็นใคร ผมอยากจะขอโทษผู้หญิงคนนั้น คืนนั้นผมโดนยาปลุกเซ็กส์จากคนชั่วที่ไหนไม่รู้ แล้วผมเองก็จะให้เงินค่าเสียความบริสุทธิ์ของเธอด้วย ผมรู้ว่านั่นเป็นครั้งแรกของผู้หญิงคนนั้น”“ได้ค่ะ แพรวจะตามสืบให้”“ตามสืบเร็ว ๆ หน่อยนะ ผมร้อนใจมาก คืนนั้นผมไม่ได้ป้องกัน กลัวว่าจะท้อง ขืนท้องขึ้นมาผมเดือดร้อนแน่ คุณก็รู้ใช่ไหมคุณแพรวว่าผมกำลังจะแต่งงาน หยาดฟ้าแฟนของผมที่กำลังเรียนจบโทจากเมืองนอกกำลังจะกลับมาแต่งงานกับผม”“ค่ะ แพรวทราบแล้วค่ะ แพรวจะตามสืบให้ท่านประธานเร็ว ๆ เลยค่ะ” เธอตอบรับคำสั่งแล้ว แต่ทำไมเธอรู้สึกว่าท่านประธานเหมือนกำลังบอกเธอเลย ไม่เหมือนคนที่กำลังพูดระบายความอัดอั้นข้างในออกมา ทั้งน้ำเสียงและแววตาที่สื่อออกมา เธอรู้สึกได้ว่าเขาตั้งใจบอกเธอ“ก็ดีครับ
เช้าของอีกวันหนึ่ง พอสรัลมาทำงานก็เรียกเธอเข้าไปในห้องทำงานของเขาทันที ซึ่งเธอก็รู้ดีว่าเขาจะถามเรื่องอะไร แพรววนิตได้เตรียมตัวมาอย่างดีแล้วว่าจะหาทางออกยังไงให้กับเรื่องทั้งหมด ทว่าทั้งที่เตรียมใจมาพูดอยู่แล้วแต่พอมายืนต่อหน้าของเขา เธอก็รู้สึกว่าตัวเองทั้งตื่นเต้นทั้งประหม่าเป็นอย่างมาก “ตกลงเมื่อวานให้ไปตามสืบผลเป็นยังไงบ้าง” เมื่อเธอเดินเข้ามาในห้องทำงานของเขา ชายหนุ่มก็ไม่อ้อมค้อม เปิดประเด็ดทันที หลังจากเมื่อวานเธอร้องไห้เสร็จ ก็เดินมาหยิบกระเป๋าออกไปจากบริษัททันที โดยไลน์ไปบอกท่านประธานส่วนตัวว่า เธอขออนุญาตออกไปตามหาผู้หญิงในคืนนั้นของเขา แต่ความจริงแล้ว เธอกลับบ้านไปร้องไห้ต่อ ไม่ได้ตามสืบอย่างที่ปากบอกไป “พบผู้หญิงคนนั้นแล้วค่ะ” “นัดมาพบผมหน่อย” “คงไม่ได้ค่ะท่านประธาน ผู้หญิงคนนั้นไม่ขอเปิดเผยตัวค่ะ” “แล้วแบบนี้ผมจะรู้เรื่องได้ยังไงว่าเธอเข้าห้องของผมมาได้ไง” “เรื่องนี้ทางโรงแรมเป็นคนผิดค่ะ นี่กระเช้าจากทางโรงแรมส่งมาขอโทษค่ะ” เธอวางกระเช่ารังนกบนโต๊ะของท่านประธานที่ถือเดินเข้ามาในห้องด้วย โดยเธออ้างว่าเป็นความผิดของทางโรงแรม แล้วกระเช่านี้ก็ไม่ใช่ของทางโรงแรมแต่เป็นเ
1 สัปดาห์ผ่านไปตอนบ่ายระหว่างที่นั่งประชุม เขาก็มองเลขาหน้าหวานใส่แว่นตาหนาเตอะของเขาอยู่ตลอด โดยที่เขาแทบไม่มีสมาธิทำงานเลยสักนิด ในหัวของเขาเอาแต่คิดขอโทษเธอ ที่ไม่สามารถรับผิดชอบเธอได้ แถมเขาเองยังรู้ด้วยว่าเรื่องคืนนั้นเป็นเธอ แต่ทำเป็นไม่รู้เพราะอีกไม่นาน เขาก็จะต้องแต่งงานกับหยาดฟ้า ทว่าดูเธอตอนนี้เอาแต่นั่งจดรายงานการประชุมอย่างตั้งใจ โดยที่เขาแอบคิดไม่ได้ว่าตกลงเธอชอบเขาจริงไหม ถึงได้ทำงานได้อย่างไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่เขากับเธอมีอะไรกันแล้ว“ท่านประธานคิดเห็นว่ายังไงบ้างครับ” หลังจากฝ่ายการตลาดพูดนำเสนอเสร็จก็หันมาถามท่านประธานทันที ทว่าท่านประธานไม่ตอบ เอาแต่หันมามองหน้าเลขา“ท่านประธานครับ” หนึ่งในสมาชิกเรียกท่านประธานอีกครั้ง จนเธอต้องเป็นฝ่ายเรียกท่านประธานเสียเอง“ท่านประธานคะ” เสียงของเธอที่อยู่ใกล้กว่าทำให้เขารู้สึกตัว“ว่าไงครับคุณแพรว”“คุณฉัตรชัยถามท่านประธานนะคะว่าคิดเห็นยังไง สนใจแผนงานที่คุณฉัตรชัยนำเสนอไหมคะ”“อ้อ...” เขาพยักหน้าให้เธอ ก่อนที่จะหันไปมองหน้าฉัตรชัยแล้วมองแผนงานที่โชว์ด้านหน้า“มีสมาธิหน่อยสิคะท่านประธาน เรื่องอื่นเอาไว้ค่อยคิด” เธอกระซิบเบา ๆ ให้ก
ตั้งแต่ตอนนั้นมาเขาก็ใช้งานเธออย่างหนัก ทั้งที่ปกติเธอเป็นคนทำงานถูกต้องแต่เขาก็ใช้ให้ไปแก้ใหม่อยู่อย่างนั้นแหละ สั่งวันนี้ตอนเย็นให้ส่งพรุ่งนี้ตอนเช้าเก้าโมงอยู่แบบนี้ จนเกือบเดือนที่เขาสั่งงานเธอโหดร้าย ทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าที่เขาสั่งงานเป็นบ้าเป็นหลังแบบนี้ราวกับว่าจงใจบีบบังคับให้เธอลาออกไปให้พ้นหน้าของเขา แต่สำหรับเขาที่จงใจสั่งงานเธอเยอะขนาดนี้เพราะรู้สึกหงุดหงิดที่เธอทำเฉย ทำเหมือนว่าทั้งสองไม่เคยมีอะไรกัน “อีกหนึ่งสัปดาห์ก็จะถึงวันแต่งงานคุณสรัลแล้วสิครับ เตรียมตัวไปถึงไหนแล้วครับ” ธงชัยหนึ่งในกรรมการบริหารถามขึ้น หลังจากออกมาจากห้องประชุม “ผมแค่เตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวเองครับ ส่วนเรื่องงานแต่งเป็นหน้าที่ของแม่กับหยาดฟ้านะครับ” “เหรอครับ ผมยินดีด้วยนะครับ” “ยังไงวันนั้นคุณธงชัยอย่าลืมไปงานของผมกับหยาดฟ้านะครับ” “แน่นอนครับผมไปแน่ ๆ” ธงชัยบอก แล้วก็พวกกรรมการบริหารคนอื่นก็ชวนสรัลคุยต่อเรื่องงานแต่งงานอีกหน่อย จึงแยกย้ายกันกลับไป “วันที่ผมแต่งงานคุณแพรวก็อย่าลืมไปงานแต่งผมด้วยนะครับ” เขาพูดขึ้น หลังจากที่ทุกคนออกจากห้องประชุมไปหมดแล้ว “ท่านประธานแต่งงานทั้งทีทำไมเลขาอย่างแพร
“อ้อ คุณคิดว่าคืนนั้นเป็นแพรวจริง ๆ เหรอคะ” เธอยังเนียนต่อไป “ไม่คิดบ้างหรือไงว่าในท้องแพรวอาจจะเป็นลูกของคนอื่นก็ได้นี่ค่ะ”“คุณแพรวคิดว่าผมจะไม่ไปสืบที่โรงแรม ดูกล้องวงจรปิดข้างหน้าห้องไม่ได้งั้นเหรอ คุณเลิกโกหกได้แล้ว เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้วนะ” เธอยังคงนิ่งราวกับว่าครุ่นคิดอะไรอยู่ “ยอมรับแล้วพูดความจริงมาเถอะว่าคุณท้องกับผม” ทุกคำพูดของท่านประธานทำให้ใครอีกคนที่ยังไม่ยอมกลับไปทำงานถึงกับตกใจ หล่อนได้แค่คิดดีใจที่ได้ถ่ายช็อตเด็ด งานนี้คงได้เงินหลายบาทแน่ ๆ“หรือคุณคิดว่าเรื่องที่คุณคิดเรื่องแต่งมาเพื่อโกหกผม ผมจะเชื่อคุณจริง ๆ นะคุณแพรว” เขาพูดกดดันเธอให้ยอมรับความจริง“ก็ได้ค่ะ แพรวยอมรับก็ได้ว่าคืนนั้นเป็นแพรว แล้วเด็กในท้องนี้ก็เป็นลูกของท่านประธาน” ใจหนึ่งของเขาก็อยากให้เธอยืนยันว่าลูกในท้องไม่ใช่ลูกของเขา แต่พอเธอยืนยันมาแล้วเขาต้องคิดหาวิธีรับผิดชอบและเลี้ยงดูลูกของเขาให้ได้“แต่ท่านประธานจะรู้ความจริงไปทำไม ในเมื่อสัปดาห์หน้า ท่านประธานก็ต้องแต่งงานอยู่แล้ว”“แต่ยังไงเด็กในท้องก็ลูกของผม ผมจะไม่รับผิดชอบไม่ได้”“แปลว่าจะรับผิดชอบแค่ลูกยังงั้นหรือคะ”“ผมก็ต้องรับผิดชอบทั้
ถ้าเกิดอะไรกับหยาดฟ้า ก็ต้องมีญาติพี่น้องฝั่งนั้นโผล่หัวมาในงานบ้าง แต่นี่ไม่มีเลย ฉันกลัวว่าจะเป็นอย่างอื่นนะสิงามตา” สุจิราบอกด้วยความร้อนใจ“แล้วจะเอายังไงดีคะ นี่ก็เลยฤกษ์ไปมากแล้วด้วย”“งามตาไปถามสรัลสิว่าโทรหาหนูหยาดฟ้าติดหรือยัง ได้ความยังไงมาบอกฉันด้วย”“ค่ะคุณสุ” งามตารีบเดินไปยังห้องพักที่มีคุณสรัลอยู่ในห้องทันทีพอเข้าไปในห้องก็เห็นสรัลเอาแต่ร้องไห้ พลางมองโทรศัพท์ของตนเองไปด้วย“เกิดอะไรขึ้นหรือคะคุณสรัล”“ไปตามแม่มาหาผมที่ครับป้างามตา”“ได้ค่ะ ๆ” แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่งามตาก็รีบวิ่งออกไปหาสุจิราทันที พองามตาไปบอกสุจิราว่าสรัลเรียกให้ไปหา พร้อมรายงานในสิ่งที่ตนเห็น สุจิราก็รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาลูกชายทันที“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันสรัล” แม่เข้ามาในห้องก็ถามด้วยความร้อนใจ ในตอนที่สุจิราเข้ามา แพรววนิตเลขาของเขาก็อยู่ในห้องด้วย ทำให้แม่แปลกใจเข้าไปใหญ่ แถมนังเลขาที่แม่ไม่ค่อยชอบหน้ายังยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้าของสรัลลูกชายของเธอด้วย“หยาดฟ้าไม่แต่งงานกับผมแล้วครับแม่”“ทำไมกันสรั
“ถ้าไม่แต่งอย่าหวังว่าคลอดลูกมาจะได้อยู่กับลูกเลย เธอจะต้องชดใช้ฉันทั้งหมด!” คำพูดของเขาทำให้แพรววนิตต้องจำยอมเข้าพิธีมงคลสมรสกับเขาอย่างเสียไม่ได้เพราะว่ากลัวว่าคลอดลูกออกมาแล้วจะไม่ได้อยู่กับลูก ซึ่งคนมีเงินอย่างเขาทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว ต่างจากเธอที่เงินไม่หนา แถมครอบครัวก็ไม่ได้ซัพพอร์ตชีวิตของเธอ แพรววนิตจึงต้องเลือกที่จะแต่งงานกับเขา แม้ว่าจะเป็นแค่ภรรยานอกสมรสของเขา แต่อย่างน้อยเธอก็ยังได้แต่งงาน แม้ว่าการแต่งงานครั้งนี้เขาจะจัดมาเพื่อเขากับคุณหยาดฟ้าก็ตามพิธีที่จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการได้ทุกลดขั้นตอนลง เหลือเพียงพิธีของพระสงฆ์และรดน้ำสังข์เพียงเท่านั้น พิธีอื่น ๆ ที่เตรียมกันเอาไว้ก็ถูกยกเลิกไปหมด ทุกอย่างที่ทำเหมือนทำเพียงแค่ผักชีมาโรยหน้าเท่านั้น ทำเพียงไม่ให้คุณสุจิราได้ขายขี้หน้าที่จะต้องยกเลิกงานแต่ง แม้ว่าจะเห็นสายตามองมาที่เจ้าสาวแล้วจะพากันซุบซิบก็ตามคนในบริษัทก็จำได้ดีว่าเธอเป็นเลขาของเขา ได้แต่มองหน้ากันอย่างแปลกใจทว่าไม่ได้กล้ามาถามกันตรง ๆ ว่าทำไมเจ้าสาวของท่านประธานถึงได้เป็นเลขาแว่นตาหนาเตอะอย่างเธอได้ ทุ
“เห็นไหมแค่นี้เอง เธอยังสู้แรงฉันไม่ได้เลย” เขาเงยหน้ามาจากซอกคอขาวของเธอ ก่อนจะพ่นคำดูถูกมาให้ เธอจึงมีแรงฮึดผลักเขาออกก่อนที่จะฟาดฝ่ามือลงไปที่แก้มของเขาอย่างแรง“นี่ไง ทำไมแพรวจะทำไม่ได้”“นี่กล้าตบหน้าฉันเหรอ”“ค่ะ” พอหญิงสาวพูดจบ เขาก็คว้าเธอเข้าไปกดจูบเอาไว้ จูบบดขยี้จนเธอหายใจแทบไม่ออก พยายามดันเขาออกให้สุดแรง พอออกจากการโดนเขาจูบมาได้ เธอก็ฟาดมือลงไปที่หน้าของเขาอีกอย่างแรง“แพรว!”“คุณจูบฉันอีก ฉันก็จะตบคุณอีก”“งั้นเหรอ” เขาจับเธอโยนไปที่เตียงนอนอย่างไม่ทะนุถนอม อย่างไม่นึกถึงว่าลูกอยู่ในท้อง “ถ้ายังขัดขืนฉันอีกก็อย่าหาว่าฉันใจร้าย” หน้าตาของเขาเหี้ยมโหดอย่างเอาจริง เขาถอดเสื้อผ้าออกจากตัวเขาจนหมด เผยให้เห็นความใหญ่โตที่กำลังขยายใหญ่ขึ้นแพรววนิตหน้าตาร้อนผ่าวเมื่อได้เห็นความใหญ่โตตรงหน้าอย่างชัดเจน โดยที่ไฟไม่มืดสนิทแบบคืนนั้น“แพรวกำลังท้องลูกของคุณอยู่นะคะ อย่าทำอะไรแพรวเลยนะ” เธอถึงขั้นยกมือไหว้ ขอร้องเขาอย่างกลัว ๆ“ก็อย่าขัดขืน ยอมฉันดี ๆ แล้วจะไม่เจ็บตัว” เขาว่าแล้วลงมาซุกไซ้ตามเนื้อตัวข
หนึ่งเดือนที่กลับมาอยู่กับเขาที่บ้าน เขาก็ดีทุกอย่าง ส่วนแม่สามีดีกับเธอมาก ดีจนเธอแทบจะตกใจ และตอนนี้เธอกับเขาก็ได้เป็นสามีภรรยากันอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อแม่สามีจัดหาฤกษ์หายามให้เธอกับเขาไปจดทะเบียนสมรสกัน แล้วจะไปสู่ขอเธอจากแม่ของเธอด้วย แต่แพรววนิตห้ามเอาไว้ก่อนเพราะเธอไม่อยากจะไปตอนนี้ รอให้คลอดลูกออกมาสักพักแล้วค่อยไปขอเธอกับแม่เธอเลยเล่าปัญหาที่มีกับแม่มาตลอดให้คุณสามีและแม่สามีฟังอย่างระเอียด ทุกคนก็เห็นด้วยที่จะไปกันตอนที่เธอคลอดลูกมาสักพักก่อนเพราะถึงขนาดว่าเธอท้องมาหลายเดือนแล้ว คนเป็นแม่แท้ ๆ ยังไม่ห่วงใยกัน สามีและแม่สามีต่างเป็นห่วงเป็นใยความรู้สึก ต่างเข้ามาปลอบโยนและช่วยเติมเต็มในสิ่งที่เธอขาดหายไป“นี่คุณสรัลจะทำอะไรคะ” หลังจากเธอลงนอนบนเตียง เขาก็เอาหน้าโน้มมาที่ซอกคอของเธอ“นี่เรากลับมาอยู่กันเป็นเดือนแล้วนะ พี่ก็คิดถึงเมีย อยากจะเข้าไปทักทายลูก” เขาเอาหน้ามาฟัดซอกคอ พร้อมกับมาคลอเคลียแถวแก้มนวล“อะไรนะคะคุณสรัล จะเข้าไปทักทายลูกเหรอคะ คิดได้ไงเนี่ย” เธอดันเขาออก ชวนเขามาคุย“ครับ พี่จะเข้าไปทักทายตัวเล็กเสียหน่อย”
เธอปัดมือเขาออกจากแก้ม แถมปฏิเสธคำพูดเขา “ไม่จริงหรอกค่ะ คุณหยาดฟ้าก็เป็นสะใภ้ที่แม่ก็ชอบ แถมยังดีที่สุดด้วยนะคะ”“เมื่อก่อนนะใช่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว ตอนนี้มีแพรวเป็นลูกสะใภ้ที่ดีคนเดียวแล้วครับ” เขาว่าแล้วกอดเธอไว้หลวม ๆ พร้อมกับหอมแก้มเธอฟอดใหญ่“อื้อ...คุณสรัล” เขาเห็นเธอทำหน้าตาเขิน เลยหอมแก้มให้อีกฟอดหนึ่ง“ยิ่งพอแม่ของพี่รู้ว่าหยาดฟ้าตั้งใจยกเลิกงานแต่งตั้งแต่แรก แต่เอาเรื่องของพี่ที่ทำแพรวท้องมาเป็นข้ออ้าง แม่ของพี่ก็โกรธมาก โทรไปต่อว่าพ่อแม่หยาดฟ้ายกใหญ่”“เหรอคะ”“พี่ก็รู้ว่าพี่เองก็ผิด ที่เห็นแก่ตัวเกินไป ตั้งใจจะปิดบังหยาดฟ้า แต่นั้นก็เป็นเพราะหยาดฟ้ามีคนอื่นก่อน ตั้งใจปิดบังพี่ตั้งแต่แรก ผลมาก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ ทำให้พี่คิดจะปิดบังเรื่องที่แพรวท้อง”“ค่ะ”“แต่เรื่องมันเป็นแบบนี้ก็ดี ทำให้พี่รู้ว่าที่จริงแล้ว พี่รักแพรวแค่คนเดียว ไม่รู้ว่ารักแพรวมาตั้งแต่ตอนไหน แต่พอมารู้อีกทีพี่ก็โคตรรักแพรวเลย” ชายหนุ่มจูบที่หน้าผากมนของเธอ หลังจากที่เขาพูดจบ เธอเองก็หลับตารับจูบอ่อนโยนของเขาตอนนี้หัวใจของเธอรู
“หนูแพรวกลับมาแล้วหรือลูก เป็นอะไรมากไหม” สุจิราเข้าไปกอดแพรววนิตแถมยังเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกเธอด้วย เธอเลยยังไม่คอยชินมากนักทำได้แต่หันไปมองหน้าของเขา ที่ส่งยิ้มกลับมาให้น้อย ๆ เพราะเขาเองก็ยังไม่คอยจะชินกับท่าทางแบบนี้ของแม่ แต่ทว่าท่าทางแบบนี้เขาก็เคยเห็นมาบ่อย เวลาที่แม่ของเขารักชอบลูกสะใภ้คนไหนเข้าไปแล้ว จะทุ่มให้หมดหัวใจเลย“ปลอดภัยดีครับแม่ แพรวกับลูกไม่ได้เป็นอะไรแล้ว แค่พักผ่อนน้อย”“ไม่ได้นะต่อไปนี้ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ” สุจิรานำมือทั้งสองข้างของลูกสะใภ้ไปจับ บอกด้วยความเป็นห่วง “นี่แม่ก็ให้งามตาตุนยาจีนบำรุงครรภ์เอาไว้ให้ด้วยนะ ปานนี้ก็น่าจะตักรอ หนูแพรวแล้วแหละ ไป ๆ ไปกินยาบำรุงกัน” ท่านดึงมือของเธอให้เดินตามไปพร้อมกันเดินไปท่านก็คอยประคองเธอไปด้วย ชวนคุยนู้นนี้นั้นตามประสาคนคุยเก่ง หญิงสาวได้แต่มองหันหลังไปทางสรัล เขาก็ยิ้มหวานส่งมาให้ พร้อมกับพยักหน้าให้กำลังใจเธอไปด้วย“งามตายาจีนได้หรือยัง”“ได้แล้วค่ะคุณสุ” งามตานำมาวางไว้ให้ตรงโต๊ะรับประทานอาหาร“รีบกินเลยกำลังอุ่น ๆ” สุจิราบอกพร้อมกับนั่งเก้าอี้ตรงห
ตอนนี้หญิงสาวท้องได้ห้าเดือนแล้ว ระยะเวลาสองถึงสามเดือนที่เธอเธอเขียนนิยายขาย หญิงสาวก็ได้ยอดเกินเป้าทุกเดือน จากหลักพันก็ขึ้นมาเป็นหลักหมื่น จนเกือบจะครึ่งแสน เธอตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์งานต่อไปเพราะอยากจะให้ยอดต่อเดือนไปถึงหนึ่งแสนให้ได้เพราะในช่วงเวลาที่เธอคลอดลูกแล้ว เวลาทั้งหมดของเธอก็จะมีให้ลูกแค่คนเดียว เวลาว่างของเธอก็จะมีน้อยลงเพราะฉะนั้นช่วงนี้เธอถึงต้องเร่งปั่นงานให้เยอะ ๆช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมานี้ สรัลได้เบาะแสจากทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแล้ว เธอฝากครรภ์ที่นั้น และสืบรู้อีกว่าวันนัดของเธอครั้งหน้าตรงกับวันไหน เขาจึงเตรียมมาดักรอเธอที่แผนกสูติ-นรีเวชและวันนัดก็มาถึงแพรววนิตออกไปตามนัดของคุณหมอ แต่ระหว่างทางที่กำลังเดินเข้าโรงพยาบาลนั้น อากาศมันร้อนมาก จนทำให้เธอเป็นลม โชคดีที่คนแถวนั้นเห็นและมารับเธอไว้ได้ทันท่วงที เธอถูกส่งตัวเข้าไปโรงพยาบาลและพยาบาลได้เอาโทรศัพท์ของเธอที่สั่นอยู่ตลอดมารับและบอกญาติของเธอให้มาดูแลปลายสายที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใคร ถ้าไม่ใช่สรัล เมื่อสรัลรู้เรื่องก็ตกใจมาก เขารีบมาหาเธอที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลทันที ชายหนุ่มเป็
ตั้งแต่สองวันก่อนที่แพรววนิตออกมาจากบ้านของสรัล เธอก็หาคอนโดอยู่ใหม่ โดยเธอหาคอนโดที่ปลอดภัยหน่อย แม้ว่าจะต้องเสียเงินเช่าหลายบาทก็ตาม แต่เพื่อความปลอดภัยของเธอกับลูกในท้องแพรววนิตก็ยอมที่จะจ่าย เงินหนึ่งล้านที่เขาให้มามันมีประโยชน์มาก เธอใช้เงินนี้ในการเลี้ยงดูตัวเองในตอนที่ยังไม่มีรายได้เข้ามา ตอนนี้เธอกำลังเขียนนิยายเรื่องสั้น ก็ใกล้จะจบแล้ว ระหว่างที่อยู่กับเขาสองสัปดาห์ เธอก็เขียนในมือถือบ้าง ในโน๊ตบุ๊คของเธอบ้าง แต่ตอนนี้เธอมีเวลาเต็มที่เพราะไม่ต้องโดนใครใช้งานแบบเมื่อก่อนความหวังของเธอตอนนี้ขอให้การเขียนนิยายสำเร็จ พอที่จะเลี้ยงดูตัวเองกับลูกได้ หวังว่าการที่เธอชอบอ่านนิยาย จนพลันตัวมาเป็นนักเขียนได้ไม่นานจะทำให้ชีวิตเธอกับลูกดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องไปพึ่งพาใคร ไม่ต้องไปยืมจมูกของใครหายใจ แม้ว่าจะต้องอยู่กันสองคนแม่ลูก หญิงสาวก็ยอมหนึ่งเดือนที่ผ่านมา หลังจากเธอย้ายออกมาจากบ้านของเขา การเขียนนิยายได้สร้างรายได้ให้เธออยู่บ้าง เธอลงเรื่องสั้นไปเดือนที่แล้วสองเรื่องก็เป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าจะเป็นยอดหลักพันยังไม่ถึงหลักหมื่น ก็ทำให้เธอมีแรงที่จะสู้ต่อ เข
สุจิราและอินทุอรแอบมองแพรววนิตอยู่อีกห้องหนึ่ง ต่างทำหน้าตาสะใจอย่างมากที่กำจัดตัวปัญหาออกไปจากบ้านได้ สุจิราคิดว่ารู้แบบนี้ให้อินทุอรเข้ามาอยู่ในบ้านตั้งนานแล้ว ถ้าจะกำจัดแพรววนิตออกไปได้อย่างง่ายดาย“มันออกบ้านคุณแม่ไปแล้ว แบบนี้อินต้องกลับบ้านไหมคะ”“กลับได้ไง ต้องอยู่ต่อสิ อยู่เจอพี่เขาก่อน แล้วตอนนั้นแม่จะหลีกทางให้ เพื่อว่าแม่จะมีหลานชายน่ารัก ๆ ให้อุ้ม”“คุณแม่พูดอะไรก็ไม่รู้” อินทุอรทำเขิน ทั้งที่ในใจระริกระรี้มาก ที่จะได้เป็นเมียของพี่สรัล“เอาแบบนี้ ๆ หนูอินขนเสื้อผ้าไปไว้บนห้องพี่เขาก่อน”“ให้อินขนไปเองหรือคะ คนรับใช้ไม่มีเลยหรือคะ”“ก็พอดีช่วงนี้แม่ใช้งานนังแพรวมันอย่างเดียวไง คนรับใช้ในบ้านก็ให้กลับบ้านไปหมดแล้ว นี่งามตาก็มาลากะทันหันอีก หนูอินก็ขนเองไปก่อนนะลูก” ท่านบอกอย่างเอ็นดู“ไม่เอาค่ะคุณแม่ อินไม่เคยทำอะไรเลยนะคะ จะให้อินมายกของหนัก ๆ ได้ไง นี่กระเป๋าอินก็มีตั้งหลายใบ”“แล้วจะทำยังไงล่ะ คนใช้บ้านแม่ไม่มีแล้ว”“ก็คุณแม่ไงค่ะ คุณแม่ก็ขนขึ้นไปให้อินหน่อย” อินทุอรออกปากสั่ง“ฮะ...
สรัลเดินทางไปดูโรงงานที่ต่างจังหวัดที่เขากำลังสร้างใหม่ในตอนนี้ เขามีแผนที่จะผลิตเครื่องดื่มอีกมากมาย โรงงานเดิมที่มีอยู่ในตอนนี้มันไม่พอต่อการผลิต เขาจึงต้องสร้างโรงงานใหม่ สองวันมานี้เขาจึงต้องลงมาดูโรงงานด้วยตัวของตนเอง ทุกทีเขาจะมีเลขาอย่างแพรววนิตติดตามมาด้วยแต่คราวนี้เธอไม่ได้เป็นเลขาเขาเหมือนแต่ก่อน เลยไม่ได้มาด้วยกันแม้ว่าเขาจะมาทำงานที่ต่างจังหวัดแต่หัวใจของเขาเอาแต่คิดถึงคนที่เขานอนกกนอนกอดทุกคืนวัน พอห่างกันแค่สองวันเขารู้สึกจะขาดใจตาย จนต้องรีบสั่งงานให้กับลูกน้องที่รับหน้าที่มาควบคุมการสร้างโรงงานที่นี่และเขาก็รีบขับรถยนต์มุ่งหน้ากลับไปหาคนที่เขาเรียกว่าภรรยานอกสมรสเขาขับรถยนต์มาในกรุงเทพฯ กำลังขับมุ่งหน้ากลับบ้านแต่เลขาคนใหม่ของเขาโทรมาบอกว่าลูกค้าต้องการคุยด้วยและส่งโลเคชั่นสถานที่นัดพบมาให้ เขาจึงต้องเลี้ยวรถไปหาลูกค้าก่อน แม้ว่าเขาจะคิดถึงคนที่บ้านมากแค่ไหนก็ตามชายหนุ่มเข้ามาก็รีบคุยงานกับลูกค้าทันทีเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ จนลูกค้าสนใจที่จะมาผลิตแบรนด์เครื่องดื่มที่บริษัทของเขา บริษัทของเขารับผลิตเครื่องดื่มและบริษัทของเขาเ
“ขึ้นมาเร็วหึงฉันเหรอ” เขาเข้ามาในห้องก็ถามเธอทันที พร้อมกับถือของกินขึ้นมาไว้บนห้องด้วย“ทำไมแพรวจะต้องไปหึงคุณด้วยคะ” เธอเงยหน้ามาตอบเขา แล้วก้มหน้าก้มตาพิมพ์อะไรในมือถือต่อ“ก็เธอแอบชอบฉันไง ก็จะต้องหึงเป็นธรรมดา” เขาพูดอย่างภูมิใจ เธอเลยวางโทรศัพท์ข้างเตียงถามเขากลับไป “แพรวมีสิทธิ์หึงด้วยหรือคะ”“ไม่มีสิทธิ์หึงเพราะเธอเป็นแค่...”“ภรรยานอกสมรสยังงั้นสิ” เธอได้ยินเขากับแม่พูดจนจำได้ขึ้นใจ เลยพูดแทรกเขาขึ้นมาที่เขายังพูดไม่จบประโยค“เออ! จำได้ก็ดี”“แพรวจำได้ค่ะว่าแพรวเป็นใคร แต่แพรวก็มีสิทธิ์เรียกร้องเหมือนกัน”“สิทธิ์อะไรของเธอ”“ก็สิทธิ์ที่แพรวเป็นภรรยานอกสมรสไงคะ”“งั้นจะเรียกร้องอะไร”“แพรวเป็นภรรยานอกสมรสของคุณ คุณก็ต้องให้เงินแพรวใช้”“เรื่องเงินฉันไม่มีปัญหา แต่เธอต้องรับผิดชอบที่เป็นคนส่งวิดีโอไปให้หยาดฟ้าดู ทั้งที่ปากบอกว่าไม่อยากให้ฉันรับผิดชอบ แต่มาคิดทำสกปรกแบบนี้ก็อย่าหวังจะได้เงินจากฉันอีกเลย เงินล้านหนึ่งที่ให้ไปก็มากพอแล้ว”“แพรวบอกแพรวไม่ได้ส่งไงคะ”“แล้วใ
กางเกงขาสั้นที่สวมใส่อยู่ก็โดนเขาถอดออกพร้อมกางเกงชั้นในของเธอเรียบร้อย เขาเอามือไปสัมผัสส่วนสงวนของเธอลูบคลึงไปมาพร้อมกับใบหน้าของเขาที่ยังซุกไซ้ที่ซอกคอของเธอ มือของเขาอีกข้างของเขาก็จับทรวงอก พร้อมบดขยี้เม็ดบัวไปมา“อื้อ คุณสรัล” เธอกระเส่าออกมาด้วยความเสียว ยิ่งตอนนี้เขาเอานิ้วมือเข้าไปในส่วนสงวนเธอก็ยิ่งครางกระเส่ามากยิ่งขึ้น“ฉันจะลงโทษเธอให้หนัก ๆ เลย จะเอาให้เธอน้ำหมดตัว”“อ๊าส์ คุณสรัล” เธอครางกระเส่าออกมาอีก เมื่อเขาใส่น้ำเข้าออกไม่ยั้ง จนร่างกายของเธอมันแทบแตกเป็นเสี่ยง ๆ จนสุดท้ายเขาก็นำพาให้เธอสุขสมไปก่อนหนึ่งครั้ง“คราวนี้ตาฉันบ้างนะ” เขาเอาตัวตนของเขาใส่เข้ามาในตัวของเธออย่างง่าย โดยที่เธอยังคงนั่งคร่อมเขา หันหลังให้เขาอยู่ ชายหนุ่มสวนความใหญ่โตเข้ามาช้า ๆ อย่างไม่รุนแรง“อื้อ คุณสรัล” เธอครางเสียงหวานเขาเร่งกระแทกเข้ามาอย่างต่อเนื่องด้วยความมัน จากนั้นเขาก็เปลี่ยนท่าทางโดยให้เธอไปจับที่ขอบอ่างจากุกซี่ โดยที่เขาก็เข้าไปหาเธอจากทางด้านหลัง นำพาตัวตนของเขาเข้าไปในตัวของเธอ แม้ว่าอยากจะรุนแรงมากขนาดไหน แต่เขารู้