แชร์

บทที่ 21 ครอบครัว

ผู้เขียน: malinee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-09 19:00:43

เมื่อหลูมู่หยานเห็นว่าสมาชิกในตระกูลของนางมีแต่รอยยิ้ม นั่นก็ยิ่งทำให้นางรู้สึกดี และอบอุ่นหัวใจ 

ชีวิตของหลูมู่หยานถูกส่งไปฝึกฝนที่สำนักตั้งแต่มีอายุเพียงแค่สามปี ทันทีที่กลับมานางก็พบว่าครอบครัวของนาง ไม่ว่าจะเป็นท่านพ่อ ท่านแม่ หรือแม้แต่ท่านพี่กลับเสียชีวิตแล้ว

ตอนนี้ หลูมู่หยานหันไปหาคนในตระกูล ก่อนจะเอ่ยถามว่า “พวกท่านไม่สังเกตหรือ ว่าระดับการบ่มเพาะของข้าพัฒนาขึ้นแล้ว?”  

“ปรมาจารย์ดาบผู้ยิ่งใหญ่” หลูซานเทียนพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ เพราะก่อนหน้านี้เขาสนใจแค่ว่าหลานสาวของเขาจะกลับมาจากเทือกเขาแห่งเพลิงอัคคีอย่างปลอดภัย และไม่ได้สนใจเรื่องการฝึกฝนเลยแม้แต่น้อย

“ช่างเป็นสุดยอดนักดาบรุ่นเยาวร์จริง ๆ” หลูหม่าอวี้เอ่ย 

“เจ้าสะกัดยาซีซุยแล้วหรือ?” ดวงตาของหลูมู่ไป๋ฉายแววความตื่นเต้น ก่อนจะถามสิ่งที่ค้างคาใจว่า “หยานเอ๋อร์ ร่างกายของเจ้าดีขึ้นแล้วหรือยัง?”

“อืม ข้าฝึกมาแล้ว” หลูมู่หยานยิ้ม ก่อนจะพยักหน้า “ข้ายังได้ผลไม้แห่งเพลิงมาอีกสองสามผล เดี๋ยวข้าระเริ่มทำยาซีซุยอีกสองสามวัน แล้วเมื่อถึงเวลาจะเอามาให้ทุกคน”

“ยาซีซุยสามารถชำระล้างไขกระดูก และขยายเส้นลมปราณได้ ตอนนี้เส้นลมปราณในร่างกายข้าเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และการดูดซับพลังงานก็เร็วขึ้นมาก” 

“มียาที่ท้าทายสวรรค์จริง ๆ แต่มันจะสามารถเปลี่ยนแปลงพลังการต่อสู้ของคนทั้งประเทศได้หรือไม่?” หลูเซียนเทียนเอ่ย 

หลูมู่หยานใช้มือเรียวสวยลูบไล้ไปที่ใบหน้า ก่อนจะมองไปยังท่านปู่ของนาง “ท่านปู่ ยาซีซุยกลั่นไม่ง่าย รวมไปถึงผลไม้แห่งเพลิงด้วย ไม่ง่ายเลยที่หาได้ด้วยตัวคนเดียว และปัจจุบันมีแค่ข้าคนเดียวในหยานโจวที่สามารถฝึกฝนได้” 

ตอนนี้หลูมู่หยานไม่ได้รู้สึกว่านางเป็นเจ้าของประเทศหรืออะไร ฉะนั้นนางจึงไม่กังวลใจที่จะช่วยพวกเขาปรับแต่งไขกระดูก เพื่อใช้ปรับปรุงพลังการต่อสู้ การเพิ่มความแข็งแกร่งในตระกูลหลูเป็นเรื่องร้ายแรง 

“ใช่ มันจะดีกว่าหรือไม่ที่เจ้าจะมองถึงระยะยาว” หลูซานเทียนเอย พร้อมกับลูบไปที่เคราของตัวเองอย่างครุ่นคิด “เจ้าเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก่อน”

เมื่อยาดังกล่าวถือกำเนิดขึ้น ไม่มีทางล่วงรู้ได้เลยว่ามันจะทำให้พวกขุนนาง หรือพวกคนอื่น ๆ ที่อยู่ในระดับสูงของหยางโจว และคนทั่วทั้งทวีปตกใจมากเพียงใด 

หลูหม่าอวี้พยักหน้าเห็นด้วย “ความแข็งแกร่งตอนนี้ของหยานเอ๋อร์ยังอ่อนแออยู่เล็กน้อย แม้ว่าจะมีการค้นพบยาซีซุยแล้วก็ตาม แต่ก็มีการพูดว่าได้รับมาจากปรมาจารย์”

หลูมู่ไป๋เคยบอกกับหลาย ๆ คน ฉะนั้นแม้ว่าจะตื่นเต้นแต่ก็จะต้องเก็บรักษาความลับด้วย 

“เอาล่ะ ในที่สุดหลูมู่หยาน คนในครอบครัวของข้าก็สามารถดูดซับพลังทางจิตวิญญาณของสวรรค์และโลกเพื่อบ่มเพาะพลังได้!” หลูเซียนเทียนกล่าวอย่างมีความสุข ความสามารถในการจัดการกับหลอดเลือดในร่างกายของหลานสาว ทำให้เขาตื่นเต้นมากกว่าการที่จะได้รับยาซีซุยเสียอีก 

“เจ้าช่างเป็นคนที่โชคดีจริง ๆ หยานเอ๋อร์” หลูหม่าอวี้เอ่ยด้วยความโล่งใจ 

หมอดูคนนั้นช่างมีความแม่นยำเหลือเกิน ตระกูลของหลูและหยานเอ๋อร์นั้นแตกต่างกันมาก ทั้งประสบการณ์ชีวิตและความตาย มากไปกว่านั้นนางไม่ต้องแบกรับคำว่าขยะไร้ค่าอีกต่อไป 

หลูหม่าอวี้ เป็นที่รู้จักในนามสงครามจักรวรรดิ เขาดูหล่อเหลา ทว่าร่างกายของเขาไม่ได้กำยำเหมือนหลูเซียนเทียน เขาดูเหมือนพวกข้าราชการเสียมากกว่า

“ธรรมชาติ หยานเอ๋อร์ของข้าเป็นธรรมชาติที่สุด” หลูเซียนเทียนเอ่ยด้วยความภาคภูมิใจในตัวหลูมู่หยาน

หลูหม่าอวี้แสดงรอยยิ้มผ่านดวงตา “ท่านแม่ของเจ้าเดินทางไปที่บ้านของท่านตาเจ้าสองสามวันถึงจะกลับ หากพวกเขารู้ว่าร่างกายของเจ้าเปลี่ยนไป พวกเขาคงมีความสุขมาก ข้าจะส่งข่าวไปให้พวกเขาภายหลัง”

“ใช่ ใช่ เจ้าส่งจดหมายไปให้ญาติของเจ้า มันเป็นเรื่องที่มู่หยานของข้าสามารถฝึกพลังได้” หลูเซียนเทียนหัวเราะอย่างร่าเริง “พี่สาวของเจ้าด้วยล่ะ ส่งข่าวนี้ไปด้วย” 

“ขอรับท่านพ่อ” หลูหม่าอวี้ยิ้ม และพยักหน้า

หลูมู่ถิงเอื้อมมือไปสะกิดที่แก้มของหลูมู่หยานเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยว่า “ผิวเจ้าดูสว่างและขาวขึ้นนะ หลังจากที่ได้รับยาซีซุย” 

หลูมู่หยานแกล้งตบไปที่มือของพี่รอง “เป็นเรื่องธรรมดา” 

“พี่รองกลับมาเมื่อไหร่หรือ?” หลูมู่หยานเอ่ย นางค่อนข้างสนิทสนมกับหลูมู่ถิงอยู่แล้ว

เมื่อเอ่ยเรื่องนี้ ดวงตาหลูมู่ถิงก็เริ่มหม่นลงเล็กน้อย ใบหน้าของเขาแสดงความเฉยชาออกมา “ข้าได้ยินว่าเจ้ากลับมาจากชายแดนหลังถูกรังแก เห็นทีบุตรสาวของตระกูลกู่คงไม่อยากจะที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วกระมัง” 

สิ่งที่ทำให้หลูมู่ถิงแตกต่างกับหลูมู่ไป๋ก็คือ พี่รองเป็นคนที่ชอบการต่อสู้ที่เร้าใจ ทำให้ท่านปู่มักจะส่งให้พี่รองไปฝึกฝนกับท่านลุงที่ชายแดนอยู่เสมอ 

ทว่าจะสามารถล่วงรู้ได้ เมื่อวันที่เขากลับมาก็ได้ยินว่าน้องสาวของเขาเดินทางไปที่เทือกเขาแห่งเพลิงอัคคี เขาต้องการที่จะสะสางปัญหาที่เรียกว่ากู่ยันรัน แต่พี่ใหญ่อย่างหลูมู่ไป๋กลับห้ามไว้ก่อน 

หลูมู่หยานผู้เป็นน้องสาวของเขา ต้องการที่จะแก้แค้นด้วยตัวเอง ฉะนั้นเขาจึงหยุดความคิดที่จะฆ่ากู่ยันรันไว้ชั่วคราว

“ไม่คุ้มที่พี่ชายของข้าทั้งสองจะลงมือด้วยตัวเอง” หลูมู่หยานใช้สายตามองอย่างเฉียบคม ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย และเอ่ยว่า “เมื่อการแข่งขันของสถาบันจบลง ข้าจะให้นางได้ลิ้มลองการบ่มเพาะที่เลวร้ายของข้าเอง” 

“นี่น้องข้า การอดทนไม่ใช่วิถีของตระกูลเรา” 

เขาจำได้ว่าน้องสาวของเขาถูกกู่ยันรันและเซงรูกลั่นแกล้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความอดทนที่มีต่อฉีอี้ซวน เมื่อคิดเช่นนั้นความโกรธก็ออกมาจากอกของหลูมู่ถิงทันที

เขาพยายามกดน้ำเสียงให้อ่อนลง และพูดเกลี้ยกล่อมหลูมู่หยานว่า “แม้ว่าฉีอี้ซวนจะไม่ได้ชอบกู่ยันรันจริง ๆ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่า ตระกูลฉีต้องการให้เขาแต่งงานกับสตรีผู้นั้นในฐานะนางบำเรอ ข้าได้ยินมาว่านางสนมของจักรพรรดิและตระกูลกู่กำลังพยายามให้ฉีอี้ซวนแต่งงานกับกู่ยันรัน เพื่อเป็นภรรยาของเขา ไม่ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่แต่ก็ไม่คุ้มที่จะไปฝากชีวิตไว้กับบุรุษผู้นั้น”

เมื่อได้ฟังคำพูดของหลูมู่ถิง คนอื่น ๆ ก็หันไปให้ความสนใจกับหลูมู่หยานทันที 

หลูมู่หยานเคยหมกมุ่นอยู่กับฉีอี้ซวน นางมักขอให้คนในตระกูลไปส่งนางที่ประตูด้านหลังของสถาบัน เพื่อไปเป็นคนไร้ค่าในสายตาผู้อื่น นางมักจะถูกเยาะเย้ย ถูกรังแก ทำให้คนในตระกูลหลาย ๆ คนเป็นทุกข์ 

“ท่านปู่ ท่านพ่อ ท่านพี่ใหญ่ และท่านพี่รอง ไม่ต้องห่วง” หลูมู่หยานเอ่ยด้วยสายตาที่แน่วแน่ และเฉียบขาด “หลังจากที่ข้าได้ตายไปแล้ว ข้าละอายใจต่อฉีอี้ซวน เขาไม่ใช่คนรักของข้า ตอนนี้ทั้งความคิดและพลังงานของข้าทั้งหมดอยู่ที่การบ่มเพาะหมดแล้ว ฉะนั้นข้าไม่มีเวลาที่จะวิ่งตามเขาอีกแล้ว” 

คำพูดของหลูมู่หยานทำให้หลาย ๆ คนโล่งใจ หลูมู่ถิงตบเข้าที่บ่าของน้องสาวเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอันโล่งใจ “เจ้าคิดแบบนี้ แล้วใครจะกล้าดูถูกเจ้าหลังจากที่แข็งแกร่ง ข้าว่าฉีอี้ซวนจะต้องเสียใจบ้างล่ะ แต่เราจะปล่อยเขาไป” 

“พี่ยังเข้าใจข้า แม้ว่าฉีอี้ซวนจะเปลี่ยนใจมาอ้อนวอนข้าในอนาคต ข้าก็จะปล่อยเขาไป” เมื่อพูดจบ หลูมู่หยานก็ยื่นมือออกมา นางกำมือเป็นรูปกำปั้น ก่อนจะชกไปที่อากาศเพื่อแสดงความมุ่งมั่น 

หลูมู่หยานเห็นได้จากท่าทางของฉีอี้ซวน เขาผู้นั้นไม่ได้สนใจอะไรนางเลย แม้ว่าในตอนเด็ก ๆ เราทั้งสองจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่หลังจากที่กู่ยันรันเข้ามา เราทั้งคู่ก็ค่อย ๆ หายจากกันไป จนมาถึงทุกวันนี้ 

ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ฉีอี้ซวนไม่เหมาะสมจะเป็นคู่ด้วย เขาสามารถปล่อยให้กู่ยันรันและเซงรูรังแกร่างเดิมของหลูมู่หยานได้ แม้ว่านางจะรักเขามากแค่ไหน

ตอนนี้หลูมู่หยานไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉีอี้ซวนแล้ว แม้ว่านางจะสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกเดิมได้ แต่ตอนนี้ร่องรอยความผูกพันธ์ระหว่างนางกับเขาไม่มีอีกแล้ว นางไม่สนใจฉีอี้ซวนอีกแล้ว 

หลูมู่หยานใช้เวลารับประทานอาหารค่ำกับครอบครัวพร้อมกับพูดคุยกันตามประสา หลังจากเสร็จสิ้นนางขอตัวไปที่โกดังด้านในซึ่งเป็นที่ที่เก็บของมีค่าเพื่อหาหญ้าวิญญาณ ที่จำเป็นสำหรับการสะกัดยาซีซุย ก่อนจะไปยังห้องของตัวเองเพื่อเริ่มการเล่นแร่แปรธาตุ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 22 ลูกพี่ลูกน้อง

    หลังจากกลับมายังห้อง หลูมู่หยานจัดการนำหญ้าวิญญาณ และผลไม้แห่งเพลิงออกมาจากแหวนจักรวาล และวางลงอย่างระมัดระวังนางใช้ผลไม้แห่งเพลิงเพียงแค่ลูกเดียวจากการสะกัดไปก่อนหน้า และยังเหลือที่เย่ชิงหานทิ้งไว้ให้อีกสิบเอ็ดผลปริมาณของมันมากเกินพอสำหรับการทำยาซีซุย สำหรับท่านปู่และคนอื่น ๆ ด้วยความแข็งแกร่งของนางในตอนนี้ ทำให้ทุกครั้งแค่เปิดเตาหลอม ยาชำระไขกระดูกชั้นยอดสามถึงสี่เม็ดจะถูกสะกัดออกมา และมันจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใดหลูมู่หยานใส่หญ้าวิญญาณลงไปในหม้อต้มยา ผลไม้แห่งเพลิงไม่เหมาะที่จะเก็บรักษาเอาไว้ เพราะยิ่งทิ้งไว้นานเท่าไหร่ คุณสมบัติทางยาของมันก็จะลดและสูญหายไปตอนนี้ร่างกายของจูไมได้รับการรักษาแล้ว และด้วยพลังทางจิตวิญญาณของนางสามารถช่วยแก้ปัญหาระหว่างเล่นแร่แปรธาตุได้หลูมู่หยานโยนหญ้าวิญญาณ และผลไม้แห่งเพลิงลงในหม้อต้มยาเข้าด้วยกัน พร้อมกับควบคุมเปลวไฟอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเริ่มสะกัดยาช้า ๆผ่านไปหลายชั่วโมง ตอนนี้ห้องของหลูมู่หยานก็เต็มไปด้วยเศษฟางของดันเซียงกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็นของวันร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-09
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 23 ช็อก

    เมื่อหลูมู่หยานปรากฏตัวที่ห้องอาหาร ทั้งฉีอี้ซวนและหยุนจินต่างก็จ้องมองมาที่นาง ตอนนี้หลูมู่หยานเปลี่ยนไปมากจริง ๆ ในอดีตหลูมู่หยานมักจะชอบแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม และมักจะประโคมเครื่องสำอางหนัก ๆ ลงบนใบหน้า และทุกครั้งที่เจอฉีอี้ซวนก็จะเห็นหลูมู่หยานเป็นเรื่องปกติแม้ว่าก่อนหน้านางจะเป็นคนที่สวยอยู่แล้วก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับชุดสีม่วงที่ดูหรูหรารัดกุม กับใบหน้าที่ไม่ได้ถูกแต่งเติมจนฉูดฉาด กับความฉลาดที่แสดงให้เห็นระหว่างคิ้ว หลูมู่หยานนิสัยเปลี่ยนไปมาก หากใบหน้าไม่เหมือนกันจนแยกไม่ได้ เกรงว่าจะมีคนเข้าใจผิดว่ามีหลูมู่หยานสองคน“มู่หยานทะลวงเข้าสู่ปรมาจารย์ดาบผู้ยิ่งใหญ่?” หยุนหลันจงใจตรวจสอบแกนระดับพลังยุทธ์ทันที เมื่อหลูมู่หยานเดินเข้ามา นางสามารถเข้าสู่ระดับปรมจารย์ดาบผู้ยิ่งใหญ่ได้ สิ่งนี้ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าข้อมูลที่ได้รับรู้มาเป็นความจริง และร่างกายของนางที่ด้อยค่าก็ถูกกำจัดออกไปอย่างสิ้นซากแล้วดวงตาของหลูมู่หยานไม่ได้แสดงอะไรออกมามากนัก นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยออกไปอย่างถ่อมตน “ก็แค่เรื่องบังเอิญ&

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-09
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 24 หอการค้าหมิงเหมิง

    “ท่านพี่ใหญ่และท่านพี่รองมีเรื่องต้องทำ เลยไม่ได้ไป”พวกเขาไม่สามารถเป็นผู้เข้าร่วมการประมูลได้สำหรับการดูดซับคุณสมบัติทางยาซีซุยทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณสิบวัน ซึ่งพรสวรรค์และความอดทนจะเป็นตัวกำหนดการออกของฤทธิ์ยาในการขยายตัวของเส้นลมปราณหลูมู่หยานสามารถทำได้ภายในระยะเวลาอันสั้น นั่นก็เป็นเพราะประสบการณ์ที่โชกโชนของนางเมื่อชีวิตที่ผ่านมา และพรสวรรค์ของร่างนี้แม้ว่าร่างกายของนางจะเป็นร่างที่ไร้ซึ่งทางตัน ทว่าพรสวรรค์ของนางนั้นกลับยอดเยี่ยม หลูมู่หยานนั้นแข็งแกร่งกว่าความเป็นอัจริยะในชาติที่แล้วมากแน่นอนว่า หากไม่มีเม็ดยาล้างไขกระดูกนางอาจจะกลายเป็นขยะไร้ค่าไปชั่วชีวิต แต่ตอนนี้นางได้เปลี่ยนร่างกายของนางแล้ว นางได้ดูดซับพลังจากโลกและสวรรค์ได้สองถึงสามเท่า นับเป็นสองถึงสามเท่าของนักดาบธรรมดาหยุนหลันขมวดคิ้ว พร้อมกับคิดในใจถึงเหตุที่ทำให้พี่ชายของหลูมู่หยานทั้งสองคนไม่ได้เข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องเหมาะสมที่จะถามหลูมู่หยานถึงสิ่งที่เขาสงสัยในที่สาธารณะ เขายิ้มและเอ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-09
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 25 การประมูล

    หลังจากที่ชงชาให้แก่แขกพิเศษของงานประมูลแล้ว หญิงรับใช้ทั้งสองคนก็เอ่ยทักทาย ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวถอยหลังออกไปทีละคนหลูมู่หยานหยิบถ้วยชาศิลาดลเคลือบสีขาวนวลขึ้นมา และทันทีที่เปิดฝากลิ่นหอมอ่อน ๆ ของชาก็โชยเตะจมูกทันที ชาดังกล่าวมีร่องรอยของพลังงานออร่าแสดงให้เห็นว่าชาจิตวิญญาณนี้อยู่ในระดับที่ดีหอการค้าหมิงเหมิงนี้ช่างสวยงามจริง ๆ หลูมู่หยานค่อย ๆ ละเลียดดื่มหลิงชาที่ไม่ได้ดื่มมากนานแม้ว่าชานี้จะด้อยกว่าชาวิญญาณที่หลูมู่หยานเคยดื่มมา ทว่านางก็ไม่ได้ไม่ชอบเสียทีเดียว ในโลกวิญญาณนางถือได้ว่าเป็นคนรักชาที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง“ชาวิญญาณนี้ดีจริง ๆ หลังจากจบงานประมูล คงต้องบอกกับเจ้าของร้านเพื่อซื้อมันนะ ท่านปู่ข้าชอบรสชาติแบบนี้” เสี่ยวเซียงอุทานขึ้น หลังจากที่ได้ดื่มชาดังกล่าวไปหลายจิบหลูมู่หยานคิดตาม พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมา ก่อนจะเอ่ยถามพ่อค้าว่า “พ่อค้า หลิงชาของหมิงเหมิงมีขายด้วยหรือไม่?”“หลิงชาไม่ได้มีขายให้คนทั่วไปหรอก หากแต่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก็ซื้อได้บ้าง” ปลายนิ้วเรี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-09
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 26 ต่อสู้เพื่อเตาเผายา

    ขณะที่การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง หยุนหลันขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่ยามคนเดิมจะหันกลับไปเปิดประตูเหมือนครั้งที่ผ่านมาเจ้าของร้านหลู่ปรากฏตัวพร้อมกับองค์หญิงเจ็ด พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า “องค์ชายสาม พอดีมีบุรุษร่างใหญ่คนหนึ่งเข้าร่วมการประมูลและเขาก็ต้องการใช้ห้องส่วนตัว ทำให้ต้องใช้ห้องส่วนตัวขององค์หญิง ข้ารู้ว่าอาจจะไม่สะดวกสำหรับท่าน แต่ขอให้องค์หญิงใช้ห้องร่วมกับท่านได้หรือไม่? เจ้าของร้านหลู่ไม่สามารถรับมือกับบุรุษร่างใหญ่คนนั้นได้ บวกกับห้องส่วนตัวก็มีไว้รองรับราชวงศ์ทั้งหมดห้าห้อง ทางหอการค้าทำได้เพียงเจรจากับราชวงศ์เท่านั้น ส่วนคำตอบที่ได้รับคือต้องให้ห้องส่วนตัวขององค์หญิงเจ็ดไป และเขาเองก็มีหน้าที่เพียงแค่ประสานงานเท่านั้น“มันเป็นใคร?” หยุนหลันถามในสิ่งที่ทุกคนสงสัยเจ้าของร้านหลู่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า “เขาเป็นราชาดาบที่แข็งแกร่ง ฉะนั้นข้าไม่สามารถบอกให้ผู้อื่นรับทราบได้” แม้ว่าสายตาของคนในห้องจะยังไม่เข้าใจ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถถามอะไรไปมากกว่านี้ได้อีกแล้วเมื่อทุกคนเห็นด้วย เจ้าของร้านหลู่ก็ให้คนเพิ่มเก้าอี้สองสามตัวตามราคาสำหรับห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-13
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 27 วิญญาณของสัตว์ร้าย

    หลังจากที่เสี่ยวเซียงเสนอราคาประมูล ทุกคนที่อยู่ในห้องก็หันไปสนใจหลูมู่หยานเป็นตาเดียวหยุนหลันเห็นดวงตาของหลูมู่หยานเหมือนกับกำลังครุ่นคิดอะไรบ้างอย่าง เขาหลับตาก่อนเอ่ยถามว่า “มู่หยานต้องการเตาหลอมยานี้หรือไม่?” อ่าาาาหลูมู่หยานพยักหน้าตอบ ก่อนจะหลุบสายตาลง“งั้นเดี๋ยวข้าจะประมูลให้” หยุนหลันไม่เคยได้ให้อะไรลูกพี่ลูกน้องของเขามาก่อน เมื่อเห็นว่าหลูมู่หยานสนใจสิ่งอื่นนอกเหนือจากฉีอี้ซวนแล้ว เขาก็ตัดสินใจว่าจะเอาเตาหลอมยานั้นให้นางหลูมู่หยานประหลาดใจเล็กน้อย นางไม่คิดมาก่อนเลยว่าลูกพี่ลูกน้องของนางจะใจกว้างขนาดนี้ แต่เมื่อเห็นถึงความตั้งใจจริง ๆ ของหยุนหลันแล้วนางก็ได้แต่คิดในใจว่า “ตกลง! แต่ข้าก็ไม่ได้ยินดี” “สามล้านหกแสน” หยุนหลันยิ้ม ก่อนจะพยักหน้า “สี่ล้าน” เสียงเสนอราคาจากผู้ที่อยู่ถัดไปอีกห้องก็ดังขึ้น เสี่ยวเซียงมองไปที่หยุนหลัน “เจ้ามียังคนที่อยู่ตรงข้าม ไร้เดียงสาเหลือเกิน” “ข้าจำได้ว่าเตาหลอมยาที่อาจารย์ของเจ้ามอบให้นั้นอยู่ในระดับที่สูงกว่านี้” หยุนหลันเลิกคิ้ว “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีนิสัยชอบสะสมเตาหลอม” หยุนหลันเอ่ย “เตาหลอมยานี้สำคัญสำหรับมู่หยานฉะนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-13
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 28 ภายใน

    เสียงของหนี่จุนดับความวุ่นวายของผู้คนส่วนใหญ่ เขาถือโล่วิญญาณที่ยอดเยี่ยมแต่กลับใช้ไม่ได้ แล้วทำไมถึงต้องซื้อ? หาความเดือนร้อนใส่ตัวเองหรือ? “ตามที่ท่านบอก ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะประมูล” พวกเขาไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องของโชคชะตา โล่นี้คงมีแต่ข้อบกพร่องเท่านั้น“ใช่ ข้าขอลองก่อนได้หรือไม่? ถ้าดีข้าจะซื้อภายหลัง” ผู้ประมูลบางคนยังเชื่อในโล่ และอยากทดลองใช้จากนั้นความสงสัยก็ยิ่งเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าบางคนไม่ยอมแพ้ที่จะทดสอบโล่นั้นด้วยตัวเอง หากพวกเขาสามารถควบคุมได้ ก็ยินดีที่จะประมูลมันหนี่จุนดูเหมือนจะคาดเดาได้ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ เขาค่อย ๆ พูดต่อไปว่า “เกรงว่าการทดลองคงเป็นไปไม่ได้ เพราะมูลค่าโล่นั้นสูงมาก แต่สามารถซื้อคืนได้หากรับความเสี่ยงถ้าท่านไม่สามารถใช้ได้ การซื้อหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับตัวเลือกของท่านเอง หอการค้าหมิงเหมิงของเราไม่ได้จะเย้ยเหยียดชื่อเสียงอะไร”“โล่ชิ้นนี้ได้มอบหมายให้ประมูลโดยลูกค้าเก่า เขาไม่อนุญาตให้ผู้ประมูลทดสอบโล่ ทว่าหากผู้ประมูลซื้อไปแล้วและรับความเสี่ยงที่คาดเดาไม่ได้ เขาก็ยินดีที่จะซื้อคืน” แม้ว่าคำพูดของหนี่จุนจะทำให้ใครหลายคนไม่พอใจ แต่ทว่าก็ไม่มีใครกล้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-13
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 29 ความลึกลับที่ซ่อนอยู่ในโล่

    เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยสบอารมณ์ของหยุนหลันแล้ว หลูมู่หยานรู้ได้ทันทีว่าเขาไม่พอใจกับการยั่วยุของกู่ยันรันและเซงรู แม้ว่าเขาเองจะไม่สามารถใช้โล่ได้ แต่ก็ไม่ได้ตำหนิอะไร “แสดงให้ข้าดูอีกทีลูกพี่ลูกน้อง” หยุนหลันพยักหน้า ก่อนจะส่งโล่ขนาดเล็กในมือให้แก่หลูมู่หยาน และเพื่อไม่ให้นางต้องรู้สึกกดดัน เขาจึงเอ่ยต่อไปว่า “ไม่ต้องสนใจ ทุกอย่างจะเรียบร้อย” หลูมู่หยานยิ้มโดยที่ไม่ได้พูดอะไร นางหยิบโล่มาวางในมือ ทว่าพลังวิญญาณที่นางได้ปล่อยไปก่อนหน้านี้ยังคงติดอยู่ที่โล่ และยังเผชิญหน้าอยู่กับสัตว์ร้ายหยุนหลัวและคนอื่น ๆ ต่างมองไปที่หลูมู่หยานเป็นสายตาเดียวเพื่อรอดูว่านางจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แม้แต่เจ้าของหลู่ก็ยังคงรอ แม้ว่าเขาจะจัดการกับการ์ดคริสตัลเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม เมื่อรู้ว่าพลังวิญญาณของสัตว์ร้ายอ่อนลงภายใต้การยับยั้งพลังงานของนาง หลูมู่หยานกะพริบตา พร้อมกับยื่นมือซ้ายออกเพื่อวาดอะไรบางอย่างลงตรงพื้นที่ว่างเหนือโล่ ตรงนั้นเป็นร่องรอยของพลังวิญญาณที่เคลื่อนไหวพร้อมกับเมฆ และน้ำ เครื่องรางที่เปล่งประกายด้วยแสงสีขาว ถูกสร้างขึ้นในอากาศ“การปราบปราม!”ทันทีที่เสียงของหลูมู่หยานเงียบลง ยันต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-13

บทล่าสุด

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 40 ความลับแห่งโซลอีทเตอร์

    หมิงซิ่วไม่ได้สนใจคนรอบข้างที่ลอบมองเขา หากแต่ดวงตาฟีนิกซ์ที่ยาวเรียวภายใต้หน้ากากทำให้หลูมู่หยานมองลึกลงไป แต่เพียงเสี้ยววินาทีมันก็หายวับอย่างรวดเร็วจนคนอื่นไม่สามารถสังเกตได้ทัน เขาหยุดพูด ก่อนจะหายตัวไปเหล่าเย่ที่รอให้หมิงซิ่วจากไป ค่อย ๆ เดินมาหาหลูมู่หยานด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “แม่นางไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?” “ขอบคุณท่านเหล่าเย่ที่เป็นห่วงข้า แต่ข้าไม่เป็นไร” หลูมู่หยานยิ้มตอบ พร้อมกับส่ายหัวไปมา หลูมู่หยานรู้สึกถึงแรงสั่นที่มาจากอสูรน้อยในมือของนางที่เริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาของนางกลับนิ่งเรียบ ก่อนจะเอ่ยกับเหล่าเย่ทั้งที่ยังยิ้มว่า “เหล่าเย่ ข้าคงต้องไปก่อน ข้ามีอะไรต้องทำต่อ” “ตกลง เจ้าทำเถิด” เหล่าเย่สังเกตเห็นอสูรร้ายตัวเล็กในมือของนางอยู่ในสภาพที่ไม่ดีนัก เขาจึงค่อย ๆ พรูลมหายใจออกมาด้วยความเสียดาย หลูมู่หยานพยักหน้า จากนั้นจึงหยิบนกหวีดที่คล้องคอไว้ขึ้นเป่า ใช้เวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ ม้าอาชาตัวสีขาวสว่างก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าทุกคน นางกล่าวลาหยุนหลัน และคนอื่น ๆ ก่อนจะขึ้นไปที่หลังม้าพร้อมกับอสูรกลืนกินวิญญาณ และออกจากหอการค้าหมิงเหมิงเพื่อมุ่งหน้ากลับไปที่บ้าน ใบหน้

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 39 ข้าเป็นหนี้บุญคุณเทพ

    ทันใดนั้นก็มีพลังที่นุ่มนวลจำนวนหนึ่งตกลงมาจากท้องฟ้า ห่อหุ้มไปด้วยก้อนกรวดที่ถูกรัศมีดาบของชายชราในชุดดำบดขยี้ ก่อนจะรวมตัวกันอีกครั้งทีละชิ้น แค่เพียงครู่เดียวรอยแตกที่พื้นบลูสโตนใต้ดินก็เริ่มสมาน และกลับคืนสู่สภาพเดิม“แม่นาง เจ้าเป็นหนี้บุญคุณต่อเทพอีกแล้ว” เสียงของบุรุษที่ฟังแล้วเหมือนจะมีความเป็นผู้ใหญ่ดังแว่วผ่านโสตประสาทของหลูมู่หยานราวกับสายลม ความเฉยเมยระหว่างคิ้วและดวงตาของหลูมู่หยานเริ่มถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม แท้จริงแล้วมือนั้นเป็นฝ่ามือของบุรุษผู้มากไปด้วยเสน่ห์ … หมิงซิ่ว! เมื่อมองไปยังฝ่ามือใหญ่ที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง นางรู้ได้ทันทีว่านี่เป็นคลื่นของการทำสมาธิ และความรู้สึกไว้วางใจก็เกิดขึ้นในใจของนางอย่างอธิบายไม่ได้ หลูมู่หยานหันกลับมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองบุรุษผู้กล้าหาญรูปร่างสูงโปร่ง และสวมหน้ากากสีเงินที่กำลังเดินเหมือนกับอยู่ที่บ้านตัวเอง ชุดสีแดงของเขาพริ้วไหวไปตามสายลม และพลังที่แผ่กระจายออกมารอบตัวของเขาก็เผยให้เห็นโดยธรรมชาติ และเมื่อเทียบกับบุรุษทุกคนที่อยู่ตรงนั้น คนอื่น ๆ เปรียบเสมือนเป็นเกราะป้องกันของเขา เหมือนกับหิ่งห้อยที่ไม่สามารถเทียบกับเฮาเยว่ได้

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 38 นรก

    ชายชราชุดดำก้าวไปด้านหน้าสองก้าว ก่อนจะยกฮั่วหยุนเตียวจากพื้นด้วยมือของเขา พร้อมกับแสยะรอยยิ้มแปลก ๆ ออกมา เขายังคงท่องคาถายอมจำนนอสูรร้ายอย่างเงียบ ๆ ในปากและหลังจากท่องเสร็จเขาก็ใช้ดาบลมของหยุนลี่กรีดไปที่นิ้วชี้ และหยดเลือดสีแดงลงที่ขนของเสี่ยวซูหลูมู่หยานคลี่ยิ้มเบา ๆ กอดอก พร้อมกับมองไปที่ชายชราที่กำลังทำการแสดงด้วยท่าทีเย้ยหยันชายชราผู้นี้ยังคงต้องการที่จะปราบอสูรร้ายกลืนกินวิญญาณด้วยวิธีนี้ ช่างเป็นความฝันที่เพ้อเจ้อเสียจริงหลังจากนั้นไม่นาน ชายชราก็พบว่าเลือดที่เขาหยดไปนั้น ไม่สามารถเข้ากับร่างกายของอสูรกลืนกินวิญญาณได้ เขาตกใจ และสายตาของเขาก็เริ่มนิ่ง ก่อนจะหยิบเครื่องรางสีแดงออกมาจากแหวนจักรวาล โดยที่ปากยังคงพึมพำท่องคาถาอย่างเงียบ ๆ และแตะเครื่องรางสีแดงด้วยมือของเขา ก่อนที่มันจะตกใส่ร่างของอสูรร้ายจากนั้นชายชราก็ได้สร้างผนึกที่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งขึ้นในอากาศ พร้อมกับบังคับให้เข้าสู่ก้องสำนึกของสัตว์ร้าย จากนั้นก็ได้หยดเลือดลงบนหน้าผากของมันอีกสองสามหยด ดวงตาของมันประกายแสงราวกับมีดาวนับล้าน และนี่คือสัญญาณนักฆ่าในฐานะปรมจารย์อสูรวิญญาณ เขาไม่เชื่อว่าเขาจะยังสามารถจั

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 37 เดิมพันกับราชาแห่งดาบ

    หลังจากที่หลูมู่หยานเสร็จสิ้นกับการพูดคุยกับเหล่าเย่ นางก็รีบไปพบหยุนหลันทันที และเมื่อนางออกจากประตูของหอการค้า นางสังเกตเห็นบุรุษวัยกลางคนร่างกายกำยำ และชายชราในชุดสีดำผอมแห้งหยุดอยู่ตรงหน้าหยุนหลัน ก่อนที่นางจะเกิดคำถามขึ้นในใจว่าสองคนนี้เป็นใคร?“มู่หยาน ข้าจะส่งเจ้ากลับไปที่คฤหาสน์นายพล” หยุนหลันพูด ก่อนจะเดินมาหาหลูมู่หยานที่ยืนอยู่ย้อนหลับไปเมื่อครู่ ราชาแห่งเจิ้นซีได้เอ่ยถามพวกเขาถึงผู้ที่ครอบครองฮั่วหยุนเตียว พวกเขาจึงพยายามบ่ายเบี่ยงเพื่อเก็บมันไว้เป็นความลับ ทว่ากู่ยันรันกลับพูดออกไปเสียหมด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาจึงต้องไปส่งหลูมู่หยานที่คฤหาสน์นายพล“ตกลง” หลูมู่หยานยิ้ม และพยักหน้าแม้ว่าหลูมู่หยานจะตกลงออกไปแบบนั้น แต่นางสัมผัสได้ว่าการที่นางจะเดินทางกลับนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ ๆ “ทำไมต้องกังวลขนาดนั้นด้วยเล่า” หวังเจิ้นซีเอ่ย ก่อนจะยื่นมือออกไปข้างหน้าเพื่อหยุดหยุนหลันเอาไว้ เขาจะปล่อยให้คน ๆ นั้นออกไปได้อย่างไรหวังเจิ้นซีมองไปยังหลูมู่หยานที่สวมใส่ชุดสีม่วง ผมยาวม้วนขึ้นเป็นมวยแบบธรรมชาติ ดวงตานิ่งเรียบ ประกอบกับใบหน้าที่สวยงามน่าเย้ายวนแม้ว่าอายุยังน้อยหลูมู่ห

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 36 คำสั่งการของผู้บำเพ็ญเพียร

    ราคาของการประมูลของซีซุยตันทำให้คนที่อยู่ในห้องประมูลส่วนตัวหมายเลขเก้าต้องตกใจ สายตาที่เต็มไปด้วยความริษยาจับจ้องไปทางหลูมู่หยานแทบจะเป็นสายตาเดียว เพราะตอนนี้นางจะกลายเป็นสตรีผู้ร่ำรวย ต่อให้พวกเขากลับบ้านไปได้ช่วงหนึ่ง ก็ไม่สามารถหาเหรียญทองคำจำนวนมหาศาลนี้ได้หยุนจินเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ “ดูเหมือนจะทำกำไรถึงสามร้อยล้านเหรียญทองเลยนะ” เมื่อมองไปยังใบหน้าที่หล่อเหลาของหยุนจิน หยุนหลัวก็อดมองว่าเขางี่เง่าไม่ได้ เขาอิจฉาที่ลูกพี่ลูกน้องเขาผู้นี้ได้ยามูลค่าสามร้อยล้านเหรียญไปครอบครอง เสี่ยวเซียงเองก็อดไม่ได้ที่จะมองหยุนจินด้วยความไม่สบอารมณ์ เพราะเขาเองก็อยากจะได้ยาเม็ดไขกระดูกเหมือนกันหลังจากการประมูลซีซุยตันในวันนี้ จะสร้างความตื่นเต้นให้อาณาจักรแห่งอัคคี และประเทศอื่น ๆ ในทวีปวิญญาณสวรรค์ เพราะการจะได้มาซึ่งยาเม็ดนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากดวงตาของกู่ยันรันเต็มไปด้วยเจตนาปองร้ายและอาฆาตแค้น นางไม่เข้าใจว่าทำไมหลูมู่หยานถึงเปลี่ยนไปได้เพียงระยะเวลาแค่ไม่ถึงสามเดือน และนางก็ดีกว่าหลูมู่หยานทุกเรื่อง เว้นพื้นฐานครอบครัว แต่ทำไมนางถึงไม่ได้รับยาซีซุยนั่นนางเกลียด เกลียดหลูมู่หยานขณะ

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 35 กระประมูลที่น่าตื่นเต้น

    หลังจากนั้นก็ยังคงมีการประมูลรายการสินค้าอีกหลายอย่างจากหอการค้าหมิงเหมิง ซึ่งซีซุยตันยังไม่ได้เข้าร่วมประมูลโดยตรงหลูมู่หยานยังได้เก็บภาพดอกไม้ลิงสีม่วงที่จำเป็นสำหรับการปรับแต่งจีตัน รวมไปถึงการฝึกฝนอื่น ๆ ทั้งเครื่องมือจิตวิญญาณ ชุดเกราะวิญญาณ แต่นางไม่ได้ต้องการ เพราะรวม ๆ แล้วนางเองได้ประโยชน์มากมายจากการประมูลในครั้งนี้ ณ ห้องประมูลส่วนตัว แขกที่เข้าร่วมการประชุมมักจะเก็บภาพรายการประมูลที่พวกเขาชื่นชอบ ขณะที่เม็ดยาซีซุยไม่ได้รับความสนใจมากนัก ซึ่งอาจเป็นเพราะรูปลักษณ์ของมันที่ไม่ได้ดึงดูดอะไรหลังจากที่รายการสินค้าทั้งหมดถูกประมูลแล้ว หนี่จุนก็ได้คลี่ยิ้มพร้อมกับเอ่ยว่า “การประมูลต่อไปคือรายการสุดท้ายที่ค่อนข้างหนักเป็นพิเศษของหอการค้าหมิงเหมิง และเราก็เพิ่งได้รับเกียรติจากเหล่าเย่ ผู้รับผิดชอบการประมูลโจวกั๋วขึ้นมาเป็นประธาน” เมื่อจบคำพูดของหนี่จุน ผู้เข้าร่วมการประมูลที่อยู่ข้างล่างก็ต่างพากันส่งเสียงวุ่นวายรายการประมูลใดกันที่จะสามารถรบกวนเหล่าเย่ได้ เพราะเขาไม่เพียงแต่เป็นราชาแห่งดาบที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้สะกัดระดับกลางอีกด้วย นั่นทำให้เป็นเรื่องยากที่เข

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 34 แผนที่เกี่ยวข้อง

    ทั้งสองคนเป็นสมาชิกราชวงศ์ และพื้นฐานครอบครัวท่านแม่ของหยุนจินก็แข็งแกร่งมาก หากหลูมู่หยานให้ยาซีซุยแก่พวกเขา และบุคคลที่มีอำนาจระดับสูงของราชวงศ์ก็จะไม่ทำให้นางอับอายอย่างแน่นอน“เอาเถิด ท่านป้าก็รักข้าเหมือนลูกตัวเองมาตั้งข้ายังเด็ก เราเป็นญาติกันแค่ยาเม็ดเดียวอย่าให้มันรบกวนเลย” หลูมู่หยานเอ่ย พร้อมกับคลี่ยิ้มออกเล็กน้อยหยุนหลันแสดงความขอบคุณต่อลูกพี่ลูกน้องผ่านทางใบหน้า เขาไม่ได้คาดหวังว่าหลูมู่หยาน ลูกพี่ลูกน้องที่พบหน้ากันเพียงไม่กี่ครั้ง แต่กลับกลายเป็นคนที่ใจกว้างและกล้าเช่นนี้ นี่คงเป็นเหตุผลที่ท่านแม่ของเขาเห็นเป็นแน่“ตกลง ถ้าอย่างนั้นข้ายินดี ยาซีซุยตันนี้สำคัญมากสำหรับข้า และข้าจะเขียนความรู้สึกนี้ลงไปในวงแหวน หากมู่หยานมีอะไรให้ข้าช่วยในอนาคต บอกข้าได้” หยุนหลันสัญญาด้วยรอยยิ้ม “ตกลง” หลูมู่หยานตอบกลับ“หลูมู่หยาน หยุนหลันเป็นญาติของเจ้า มันก็ชัดเจนที่เจ้าจะให้เขา แต่ทำไมเจ้าถึงให้มันแก่ข้า?” หยุนจินไม่เข้าใจว่าทำไมหลูมู่หยานถึงต้องการให้ยาเม็ดนี้กับเขา เป็นเพราะเขาให้เหรียญสนับสนุนนางงั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้“ครั้งที่แล้วที่ข้าได้รับบาดเจ็บจากดอกไม้สีขาวดอกเล็ก ๆ นั่น ก

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 33 รับของขวัญ

    จากการยืนยันของเหล่าเย่ สายตาของผู้คนในห้องที่มองหลูมู่หยานก็เปลี่ยนไป แม้แต่คนที่ติดตามเหล่าเย่ก็มองมาที่ขวดยาสีขาวอย่างไม่วางตาเหล่าเย่ใช้เวลาคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะมองไปที่หลูมู่หยานด้วยรอยยิ้ม และถามว่า “แม่นางหลู เจ้ากำลังกำหนดราคาสำหรับซีซุยตันหรือไม่?” “ข้าไม่รู้เรื่องนี้มากนัก แต่ข้าเชื่อว่าหอการค้าหมิงเหมิงจะช่วยให้ข้าขายได้ในราคาดี ฉะนั้นโปรดให้ท่านเหล่าเย่เรียกราคาเริ่มต้น” หลูมู่หยานแสดงรอยยิ้มที่อ่อนโยนต่อหอการค้าหมิงเหมิง เหล่าเย่ยิ้มพร้อมกับพยักหน้ารับ “ในกรณีนี้ ชายชราจะได้ตั้งราคาให้กับแม่นาง” “ปัญหาของเหล่าเย่คือเริ่มอายุมากขึ้น” หลูมู่หยานตอบกลับอย่างสุภาพ เหล่าเย่ยิ้มและพยักหน้า ก่อนเอ่ยถามสิ่งที่คิดอยู่ในใจ “แม่นางหลู เจ้ายังมียาไขกระดูกนี้อีกหรือไม่?” เดิมทีเหล่าเย่เพียงแค่ต้องการถามถึงที่มาของซีซุยตัน ว่าหลูมู่หยานได้มาจากที่ใด ไม่ว่าเขาจะรู้จะจักนักเล่นแร่แปรธาตุที่เก่งกาจแค่ไหน แต่เขาก็ยังคงต่อต้าน เพราะนักเล่นแร่แปรธาตุส่วนมากมักมีนิสัยแปลก ๆ และไม่ชอบให้ผู้อื่นถาม ฉะนั้นเขาจึงอยากที่จะผูกมิตรกับหลูมู่หยานให้ดีเสียก่อน คนอื่น ๆ ก็เริ่มมองมาที่หลูมู่หยาน

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 32 ฝ่าบาท

    บนห้องแห่งความลับชั้นสามของหอการค้าหมิงเหมิง มีบุรุษชุดแดงสวมหน้ากากสีเงินนั่งอยู่อย่างเกียจคร้าน และมีคนสองคนยืนอยู่ด้านหน้าเพื่อคอยรายงานสถาณการณ์ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น บุรุษชุดแดงหยักหน้าให้หญิงสาวทรงเสน่ห์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กัน ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินไปเปิดประตู “ผู้พิทักษ์หลาน” เจ้าของร้านหลู่ตะโกนออกมาด้วยความเคารพ และสตรีผู้นั้นก็เหลือบมองมาที่เขาขณะที่ยังยืนอยู่ข้างบุรุษผู้นั้น“องค์รัชทายาท!” เจ้าของร้านหลู่เดินเข้าไปที่ห้องลับ และก็พบว่าไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสสองคนเท่านั้นที่นั่งอยู่ แต่ยังมีองค์รัชทายาทอยู่ในห้องด้วย เจ้าของร้านหลู่จึงก้มลงเพื่อแสดงความเคารพ “อะไรจะเร่งด่วนปานนั้น” หมิงซิ่วเอ่ยอยากเฉื่อยชา“เมื่อครู่นี้แขกผู้มีเกียรติห้องประมูลส่วนตัวที่เก้า หยิบยาออกมาเพื่อให้ทางหอการค้าของเราทำการประมูล แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเราไม่เคยเห็นยาเม็ดนี้มาก่อน พวกเขาเลยตัดสินไปก่อนว่าเป็นเพียงยาระดับสองเท่านั้น” เจ้าของร้านหลู่นำขวดยาสีขาวออกมา “แขกผู้มีเกียรติผู้นั้นบอกว่ายาเม็ดนี้เรียกว่าซีซุยตัน แม้ว่ายาจะอยู่ในระดับที่สอง แต่ผลลัพธ์ของมันไม่น้อยกว่าระดับที่สาม”

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status