Home / แฟนตาซี / ภรรยาข้าคือนางร้าย / บทที่ 22 ลูกพี่ลูกน้อง

Share

บทที่ 22 ลูกพี่ลูกน้อง

Author: malinee
last update Last Updated: 2024-07-09 20:00:30

หลังจากกลับมายังห้อง หลูมู่หยานจัดการนำหญ้าวิญญาณ และผลไม้แห่งเพลิงออกมาจากแหวนจักรวาล และวางลงอย่างระมัดระวัง 

นางใช้ผลไม้แห่งเพลิงเพียงแค่ลูกเดียวจากการสะกัดไปก่อนหน้า และยังเหลือที่เย่ชิงหานทิ้งไว้ให้อีกสิบเอ็ดผล 

ปริมาณของมันมากเกินพอสำหรับการทำยาซีซุย สำหรับท่านปู่และคนอื่น ๆ ด้วยความแข็งแกร่งของนางในตอนนี้ ทำให้ทุกครั้งแค่เปิดเตาหลอม ยาชำระไขกระดูกชั้นยอดสามถึงสี่เม็ดจะถูกสะกัดออกมา และมันจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด 

หลูมู่หยานใส่หญ้าวิญญาณลงไปในหม้อต้มยา ผลไม้แห่งเพลิงไม่เหมาะที่จะเก็บรักษาเอาไว้ เพราะยิ่งทิ้งไว้นานเท่าไหร่ คุณสมบัติทางยาของมันก็จะลดและสูญหายไป 

ตอนนี้ร่างกายของจูไมได้รับการรักษาแล้ว และด้วยพลังทางจิตวิญญาณของนางสามารถช่วยแก้ปัญหาระหว่างเล่นแร่แปรธาตุได้ 

หลูมู่หยานโยนหญ้าวิญญาณ และผลไม้แห่งเพลิงลงในหม้อต้มยาเข้าด้วยกัน พร้อมกับควบคุมเปลวไฟอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเริ่มสะกัดยาช้า ๆ 

ผ่านไปหลายชั่วโมง ตอนนี้ห้องของหลูมู่หยานก็เต็มไปด้วยเศษฟางของดันเซียง

กระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็นของวันรุ่งขึ้น หลูมู่หยานดับไฟของหม้อต้มยา และเมื่อยกมือเปล่าขึ้นมายาเม็ดกลมสีขาวนวลก็ลอยออกมาจากหม้อทีละเม็ด 

หลูมู่หยานมองไปยังขวดแก้วที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมากกว่าหนึ่งโหล ใบหน้าของนางก็ค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ครั้งนี้ยาชำระไขกระดูกทั้งหมดสี่สิบสองเม็ดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งครั้งนี้มันมากกว่าที่นางเคยทำตอนที่อยู่ในเทือกเขาแห่งเพลิงเกือบสองเท่า 

หลูมู่หยานเก็บขวดแก้วลายครามเหล่านี้อย่างระมัดระวัง ดวงตาของนางส่องแสงเป็นประกาย เม็ดยาซีซุยที่อยู่ตรงหน้าสร้างความมั่งคั่งให้นางได้อย่างมาก 

ด้วยยาไขกระดูกเหล่านี้ นางสามารถหาวิธีแลกเปลี่ยนกับหญ้าวิญญาณที่มีค่ามากขึ้นได้ เมื่อนางผ่านขั้นตอนการสร้างเม็ดยาและได้จุดไฟของเม็ดยาแล้ว การจับเม็ดยาเหมือนเม็ดลดฝุ่นไม่ใช่เรื่องสำคัญหรือ?

หลูมู่หยานกำมืออย่างมุ่งมั่น “ช่วงเวลาสร้างเม็ดยา...ข้าจะไปถึงที่นั่นในไม่ช้า!”

หลูมู่หยานไม่รอช้า ทันทีที่มอบยาซีซุยให้คนในตระกูลแล้ว นางก็รีบไปที่สถาบันจักรพรรดิทันที

สถาบันจักรพรรดิ นับเป็นสถาบันที่ทรงพลังที่สุดในอาณาจักรหยานโจว 

หลังจากที่หลูมู่หยานดูดซับพลังงานจิตวิญญาณเป็นเวลาสองสามวันที่สถาบัน เพื่อทำให้การฝึกฝนคงที่ในช่วงการฝึกและสมบูรณ์แบบ ตราบใดที่นางปรับแต่งจีตันก็จะสามารถทำให้เข้าถึงการสร้างฐานได้ เทียบได้กับความแข็งแกร่งของวิญญาณแห่งดาบ

หญ้าวิญญาณมากกว่ายี่สิบรสชาติ ที่จำเป็นสำหรับการปรับแต่งจูจีตันมีจำหน่ายในท้องตลาด ทว่าการหาตัวยาหลักของทั้งสามรสชาตินั้นค่อนข้างเป็นเรื่องยาก 

ดีพออร์คิดที่อยู่ในยาหลักสามชนิด จะเติบโตในที่ที่มีน้ำแข็ง สามารถพบได้ในภูเขาที่เย็นจัดเท่านั้น ส่วนต้นมะเนียงน้ำ และดอกลิงสีม่วงสามารถพบได้ในหุบผาลึกหนานหยู ซึ่งหาได้ไม่ง่าย

หลูมู่หยานปล่อยสิ่งที่อยู่ในหัวทิ้ง ก่อนจะยกมือขึ้นลูบวนท้องเนื่องจากความหิว “ดูเหมือนว่าข้าต้องรีบปรับแต่งยาเม็ดใหญ่ให้ทันเวลา” 

ระหว่างเดินผ่านลานเล็ก ๆ ในสถาบัน หลูมู่หยานได้รับสายตาแปลก ๆ จากคนที่อยู่บริเวณนั้น รวมไปถึงบางคนแอบชี้ และถอนหายใจ นางเลยล้มความคิดที่จะรับประทานในโรงอาหาร และเดินออกไปทางเยว่หลานจู 

เยว่หลานจูตั้งอยู่บนถนนจูเกที่เจริญรุ่งเรือง และนับเป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลวงอีกด้วย 

“เฮ้! นั่นหลูมู่หยานไม่ใช่หรือ?” หยุนจินที่อยู่ในห้องส่วนตัวของร้านเยว่หลานจูเอ่ยทัก ภายหลังจากการสังเกตทั่วร้าน

เมื่อสิ้นเสียงของหยุนจิน ฉีอี้ซวนก็มองลงมายังหน้าต่าง ก่อนจะเห็นเพียงชายผ้าสีม่วงของนางเท่านั้น

นอกจากหยุนจินและฉีอี้ซวนแล้ว ยังมีอีกสามคนที่อยู่ในห้องเดียวกัน คนแรกคือองค์ชายสาม ‘หยุนหลัน’ บุตรชายของฮองเฮา คนที่สองคือ ‘เสี่ยวเซียง’ หลานชายของนายกรัฐมนตรี และ ‘หยุนหลัว’ น้องชายของจักรพรรดิ และบุตรชายของ ‘เจิ้นซีหวาง’ 

“หลูมู่หยาน? นั่นใช้สาวน้อยผู้โด่งดังในเมืองหลวง ที่มีข่าวว่าไล่ตามฉีอี้ซวนทั้งวันไม่ใช่หรือ?” เสี่ยวเซียงเเอบถามด้วยความสงสัย ก่อนจะมองไปที่หยุนจินด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ข้าได้ยินมาว่านางถูกสนมของจักรพรรดิคุมขัง ได้ยินว่าเปลี่ยนไปมากหลังจากได้รับบาดเจ็บ?” 

“ใช่ มันเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้เวลานางเห็นอี้ซวน ถ้านางไม่เมินเขา นางก็ถากถางแทน” ใบหน้าของหยุนจินดูเศร้าหมองเล็กน้อย และนางก็ไม่ได้สนใจฉีอี้ซวนเท่าไหร่ “แต่ยังไงก็ตาม นางเป็นผู้ฝึกฝนของปรมาจารย์ดาบผู้ยิ่งใหญ่”

“เป็นไปได้อย่างไรกัน?” เสี่ยวเซียงเผลออุทาน “ผู้ที่ร่างกายไม่สามารถดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณเพื่อเปลี่ยนแปลงเป็นพลังเนี่ยนะ? นางจะได้รับการเลื่อนขั้นให้เป็นนักดาบที่ยอดเยี่ยมได้อย่างไรกัน?”

“ข้าก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน” หยุนจินยักไหล่ เขาเองก็อยากรู้เช่นเดียวกันว่าทำไมหลูมู่หยานถึงกลายเป็นนักดาบที่ยิ่งใหญ่ได้ 

หลังจากที่หยุนหลัวกลับมาครั้งนี้ เขาเองก็ได้ยินข่าวลือมากมายที่เกี่ยวกับหลูมู่หยาน โดยเฉพาะเรื่องการต่อสู้ระหว่างนางกับกู่ยันรันที่กลายเป็นการพนัน

เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลูมู่หยานและลูกพี่ลูกน้องของนาง เขาเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามกัน ก่อนจะเอ่ยถามว่า “อลัน ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าคือหลูมู่หยาน นางได้รับการเลื่อนชั้นเป็นระดับการบ่มเพาะของปรมจารย์ดาบผู้ยิ่งใหญ่จริง ๆ หรือไม่?”

“หลูมู่หยาน” บุรุษที่นั่งอยู่แถวหน้าเอ่ยชื่อเบา ๆ พลันรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเขา “เท่าที่ข้ารู้ มันเป็นเรื่องจริง” 

“แล้วนางทำได้อย่างไร?” เสี่ยวเซียงเอ่ยถาม พร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความอยากรู้ 

“ข้าก็ไม่รู้อะไรแน่ชัดนัก”

หยุนหลันค่อย ๆ เผยรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ตอนนี้เยว่หลานไม่มีที่นั่งแล้ว เชิญนางขึ้นมารับประทานอาหารเถอะ”

เขาทราบจากท่านแม่ว่าหลูมู่หยานได้กำจัดร่างที่ตายแล้ว วันนี้เขาอยากจะรู้ว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปีเปลี่ยนไปตามข่าวลือหรือไม่ และเขาเองก็ยังสงสัยอีกว่าหลูมู่หยานก้าวขึ้นสู้การเป็นปรมจารย์ด้านดาบที่ยอดเยี่ยมได้อย่างไร” 

“ขอรับ นายท่าน” 

ตอนนี้หลังจากที่มีข่าวลือเกี่ยวกับหลูมู่หยานเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำให้ใครหลายคนอยากรู้ว่าหลูมู่หยาน เปลี่ยนไปจริงหรือไม่ 

ทันทีที่สิ้นเสียงเจ้าของร้านที่พูดว่าตอนนี้โต๊ะของเยว่หลานจูเต็มแล้ว หลูมู่หยานจึงทำได้เพียงพยักหน้ารับและเตรียมตัวที่จะเดินออกจากร้าน ทว่าขณะที่นางกำลังจะหันหลังไปก็ปรากฏเป็นบุรุษผู้หนึ่งหยุดนางเอาไว้

“แม่นางหลู นายของข้าเรียนเชิญให้ท่านขึ้นไปรับประทานอาหารที่ชั้นบน” บุรุษผู้นี้เอ่ยชวนด้วยถ้อยคำและท่าทีที่สุภาพ 

หลูมู่หยานเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “ใครคือเจ้านายของเจ้าหรือ?” 

“ท่านจะได้รู้ เมื่อท่านขึ้นไป” บุรุษผู้นั้นกล่าว 

บุรุษผู้นี้ดูแล้วเหมือนองครักษ์ส่วนตัว หลูมู่หยานเกิดความสงสัยขึ้นในใจว่าผู้ใดกันที่ต้องเชิญนางร่วมรับประทานอาหารด้วย

“นำข้าไปสิ” หลูมู่หยานเอ่ยก่อนจะเดินตามบุรุษผู้นั้นขึ้นไปที่ห้องส่วนตัว ณ ชั้นสามของร้าน ที่มีเพียงแค่ห้องเดียวเท่านั้น

ทันทีที่ประตูห้องอาหารส่วนตัวถูกเปิดออก หลูมู่หยานสังเกตเห็นบุรุษห้าคนนั่งอยู่ ในตอนนี้มีเพียงฉีอี้ซวนและหยุนจินเท่านั้นที่นางรู้จัก 

“ลูกพี่ลูกน้อง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” หยุนหลันมองไปยังหลูมู่หยาน ก่อนจะค่อย ๆ คลี่ยิ้มอ่อนโยนออกมาประดับบนใบหน้าที่หล่อเหลา 

หลูมู่หยานตกใจเล็กน้อย ลูกพี่ลูกน้องอย่างนั้นหรือ? มีเพียงหยุนหลันบุตรชายของท่านป้าผู้เป็นราชินีของนางเท่านั้นที่จะเรียกนางว่าลูกพี่ลูกน้อง 

นางและลูกพี่ลูกน้องของนางคนนี้มีความสัมพันธ์ที่ปกติ และยังเป็นเพื่อนเล่นกันสมัยเยาว์วัย หยุนหลันอายุมากกว่านางสามปี แต่เมื่อหลูมู่หยานเริ่มไล่ตามฉีอี้ซวนโดยไม่สนใจผู้คนรอบข้าง ทั้งเขาและนางก็แทบไม่ได้ติดต่อกัน

อาจารย์ของหยุนหลันเป็นมหาอำนาจราชาดาบระดับสูงของจักรวรรดิ เขาไม่จำเป็นต้องเข้าเรียนที่สถาบันจักรพรรดิและออกเดินทางไปกับอาจารย์เป็นเวลาหลายปี ก่อนจะเพิ่งกลับมาที่เมืองหลวงเมื่อไม่นานมานี้ 

หลูมู่หยานไม่ได้พบกับหยุนหลันมาหลายปีแล้ว ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่นางจะจำเขาไม่ได้เมื่อเห็นหน้ากัน

ตอนนี้หลูมู่หยานไม่ได้แสดงอารมณ์อะไร ก่อนจะเดินไปยังที่นั่งข้างหยุนหลันและเอ่ยทักทายว่า “สวัสดี ลูกพี่ลูกน้อง” 

Related chapters

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 23 ช็อก

    เมื่อหลูมู่หยานปรากฏตัวที่ห้องอาหาร ทั้งฉีอี้ซวนและหยุนจินต่างก็จ้องมองมาที่นาง ตอนนี้หลูมู่หยานเปลี่ยนไปมากจริง ๆ ในอดีตหลูมู่หยานมักจะชอบแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม และมักจะประโคมเครื่องสำอางหนัก ๆ ลงบนใบหน้า และทุกครั้งที่เจอฉีอี้ซวนก็จะเห็นหลูมู่หยานเป็นเรื่องปกติแม้ว่าก่อนหน้านางจะเป็นคนที่สวยอยู่แล้วก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับชุดสีม่วงที่ดูหรูหรารัดกุม กับใบหน้าที่ไม่ได้ถูกแต่งเติมจนฉูดฉาด กับความฉลาดที่แสดงให้เห็นระหว่างคิ้ว หลูมู่หยานนิสัยเปลี่ยนไปมาก หากใบหน้าไม่เหมือนกันจนแยกไม่ได้ เกรงว่าจะมีคนเข้าใจผิดว่ามีหลูมู่หยานสองคน“มู่หยานทะลวงเข้าสู่ปรมาจารย์ดาบผู้ยิ่งใหญ่?” หยุนหลันจงใจตรวจสอบแกนระดับพลังยุทธ์ทันที เมื่อหลูมู่หยานเดินเข้ามา นางสามารถเข้าสู่ระดับปรมจารย์ดาบผู้ยิ่งใหญ่ได้ สิ่งนี้ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าข้อมูลที่ได้รับรู้มาเป็นความจริง และร่างกายของนางที่ด้อยค่าก็ถูกกำจัดออกไปอย่างสิ้นซากแล้วดวงตาของหลูมู่หยานไม่ได้แสดงอะไรออกมามากนัก นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยออกไปอย่างถ่อมตน “ก็แค่เรื่องบังเอิญ&

    Last Updated : 2024-07-09
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 24 หอการค้าหมิงเหมิง

    “ท่านพี่ใหญ่และท่านพี่รองมีเรื่องต้องทำ เลยไม่ได้ไป”พวกเขาไม่สามารถเป็นผู้เข้าร่วมการประมูลได้สำหรับการดูดซับคุณสมบัติทางยาซีซุยทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณสิบวัน ซึ่งพรสวรรค์และความอดทนจะเป็นตัวกำหนดการออกของฤทธิ์ยาในการขยายตัวของเส้นลมปราณหลูมู่หยานสามารถทำได้ภายในระยะเวลาอันสั้น นั่นก็เป็นเพราะประสบการณ์ที่โชกโชนของนางเมื่อชีวิตที่ผ่านมา และพรสวรรค์ของร่างนี้แม้ว่าร่างกายของนางจะเป็นร่างที่ไร้ซึ่งทางตัน ทว่าพรสวรรค์ของนางนั้นกลับยอดเยี่ยม หลูมู่หยานนั้นแข็งแกร่งกว่าความเป็นอัจริยะในชาติที่แล้วมากแน่นอนว่า หากไม่มีเม็ดยาล้างไขกระดูกนางอาจจะกลายเป็นขยะไร้ค่าไปชั่วชีวิต แต่ตอนนี้นางได้เปลี่ยนร่างกายของนางแล้ว นางได้ดูดซับพลังจากโลกและสวรรค์ได้สองถึงสามเท่า นับเป็นสองถึงสามเท่าของนักดาบธรรมดาหยุนหลันขมวดคิ้ว พร้อมกับคิดในใจถึงเหตุที่ทำให้พี่ชายของหลูมู่หยานทั้งสองคนไม่ได้เข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องเหมาะสมที่จะถามหลูมู่หยานถึงสิ่งที่เขาสงสัยในที่สาธารณะ เขายิ้มและเอ่

    Last Updated : 2024-07-09
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 25 การประมูล

    หลังจากที่ชงชาให้แก่แขกพิเศษของงานประมูลแล้ว หญิงรับใช้ทั้งสองคนก็เอ่ยทักทาย ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวถอยหลังออกไปทีละคนหลูมู่หยานหยิบถ้วยชาศิลาดลเคลือบสีขาวนวลขึ้นมา และทันทีที่เปิดฝากลิ่นหอมอ่อน ๆ ของชาก็โชยเตะจมูกทันที ชาดังกล่าวมีร่องรอยของพลังงานออร่าแสดงให้เห็นว่าชาจิตวิญญาณนี้อยู่ในระดับที่ดีหอการค้าหมิงเหมิงนี้ช่างสวยงามจริง ๆ หลูมู่หยานค่อย ๆ ละเลียดดื่มหลิงชาที่ไม่ได้ดื่มมากนานแม้ว่าชานี้จะด้อยกว่าชาวิญญาณที่หลูมู่หยานเคยดื่มมา ทว่านางก็ไม่ได้ไม่ชอบเสียทีเดียว ในโลกวิญญาณนางถือได้ว่าเป็นคนรักชาที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง“ชาวิญญาณนี้ดีจริง ๆ หลังจากจบงานประมูล คงต้องบอกกับเจ้าของร้านเพื่อซื้อมันนะ ท่านปู่ข้าชอบรสชาติแบบนี้” เสี่ยวเซียงอุทานขึ้น หลังจากที่ได้ดื่มชาดังกล่าวไปหลายจิบหลูมู่หยานคิดตาม พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมา ก่อนจะเอ่ยถามพ่อค้าว่า “พ่อค้า หลิงชาของหมิงเหมิงมีขายด้วยหรือไม่?”“หลิงชาไม่ได้มีขายให้คนทั่วไปหรอก หากแต่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ก็ซื้อได้บ้าง” ปลายนิ้วเรี

    Last Updated : 2024-07-09
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 26 ต่อสู้เพื่อเตาเผายา

    ขณะที่การประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง หยุนหลันขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่ยามคนเดิมจะหันกลับไปเปิดประตูเหมือนครั้งที่ผ่านมาเจ้าของร้านหลู่ปรากฏตัวพร้อมกับองค์หญิงเจ็ด พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า “องค์ชายสาม พอดีมีบุรุษร่างใหญ่คนหนึ่งเข้าร่วมการประมูลและเขาก็ต้องการใช้ห้องส่วนตัว ทำให้ต้องใช้ห้องส่วนตัวขององค์หญิง ข้ารู้ว่าอาจจะไม่สะดวกสำหรับท่าน แต่ขอให้องค์หญิงใช้ห้องร่วมกับท่านได้หรือไม่? เจ้าของร้านหลู่ไม่สามารถรับมือกับบุรุษร่างใหญ่คนนั้นได้ บวกกับห้องส่วนตัวก็มีไว้รองรับราชวงศ์ทั้งหมดห้าห้อง ทางหอการค้าทำได้เพียงเจรจากับราชวงศ์เท่านั้น ส่วนคำตอบที่ได้รับคือต้องให้ห้องส่วนตัวขององค์หญิงเจ็ดไป และเขาเองก็มีหน้าที่เพียงแค่ประสานงานเท่านั้น“มันเป็นใคร?” หยุนหลันถามในสิ่งที่ทุกคนสงสัยเจ้าของร้านหลู่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า “เขาเป็นราชาดาบที่แข็งแกร่ง ฉะนั้นข้าไม่สามารถบอกให้ผู้อื่นรับทราบได้” แม้ว่าสายตาของคนในห้องจะยังไม่เข้าใจ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถถามอะไรไปมากกว่านี้ได้อีกแล้วเมื่อทุกคนเห็นด้วย เจ้าของร้านหลู่ก็ให้คนเพิ่มเก้าอี้สองสามตัวตามราคาสำหรับห

    Last Updated : 2024-09-13
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 27 วิญญาณของสัตว์ร้าย

    หลังจากที่เสี่ยวเซียงเสนอราคาประมูล ทุกคนที่อยู่ในห้องก็หันไปสนใจหลูมู่หยานเป็นตาเดียวหยุนหลันเห็นดวงตาของหลูมู่หยานเหมือนกับกำลังครุ่นคิดอะไรบ้างอย่าง เขาหลับตาก่อนเอ่ยถามว่า “มู่หยานต้องการเตาหลอมยานี้หรือไม่?” อ่าาาาหลูมู่หยานพยักหน้าตอบ ก่อนจะหลุบสายตาลง“งั้นเดี๋ยวข้าจะประมูลให้” หยุนหลันไม่เคยได้ให้อะไรลูกพี่ลูกน้องของเขามาก่อน เมื่อเห็นว่าหลูมู่หยานสนใจสิ่งอื่นนอกเหนือจากฉีอี้ซวนแล้ว เขาก็ตัดสินใจว่าจะเอาเตาหลอมยานั้นให้นางหลูมู่หยานประหลาดใจเล็กน้อย นางไม่คิดมาก่อนเลยว่าลูกพี่ลูกน้องของนางจะใจกว้างขนาดนี้ แต่เมื่อเห็นถึงความตั้งใจจริง ๆ ของหยุนหลันแล้วนางก็ได้แต่คิดในใจว่า “ตกลง! แต่ข้าก็ไม่ได้ยินดี” “สามล้านหกแสน” หยุนหลันยิ้ม ก่อนจะพยักหน้า “สี่ล้าน” เสียงเสนอราคาจากผู้ที่อยู่ถัดไปอีกห้องก็ดังขึ้น เสี่ยวเซียงมองไปที่หยุนหลัน “เจ้ามียังคนที่อยู่ตรงข้าม ไร้เดียงสาเหลือเกิน” “ข้าจำได้ว่าเตาหลอมยาที่อาจารย์ของเจ้ามอบให้นั้นอยู่ในระดับที่สูงกว่านี้” หยุนหลันเลิกคิ้ว “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีนิสัยชอบสะสมเตาหลอม” หยุนหลันเอ่ย “เตาหลอมยานี้สำคัญสำหรับมู่หยานฉะนั้

    Last Updated : 2024-09-13
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 28 ภายใน

    เสียงของหนี่จุนดับความวุ่นวายของผู้คนส่วนใหญ่ เขาถือโล่วิญญาณที่ยอดเยี่ยมแต่กลับใช้ไม่ได้ แล้วทำไมถึงต้องซื้อ? หาความเดือนร้อนใส่ตัวเองหรือ? “ตามที่ท่านบอก ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะประมูล” พวกเขาไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องของโชคชะตา โล่นี้คงมีแต่ข้อบกพร่องเท่านั้น“ใช่ ข้าขอลองก่อนได้หรือไม่? ถ้าดีข้าจะซื้อภายหลัง” ผู้ประมูลบางคนยังเชื่อในโล่ และอยากทดลองใช้จากนั้นความสงสัยก็ยิ่งเพิ่มขึ้น แน่นอนว่าบางคนไม่ยอมแพ้ที่จะทดสอบโล่นั้นด้วยตัวเอง หากพวกเขาสามารถควบคุมได้ ก็ยินดีที่จะประมูลมันหนี่จุนดูเหมือนจะคาดเดาได้ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ เขาค่อย ๆ พูดต่อไปว่า “เกรงว่าการทดลองคงเป็นไปไม่ได้ เพราะมูลค่าโล่นั้นสูงมาก แต่สามารถซื้อคืนได้หากรับความเสี่ยงถ้าท่านไม่สามารถใช้ได้ การซื้อหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับตัวเลือกของท่านเอง หอการค้าหมิงเหมิงของเราไม่ได้จะเย้ยเหยียดชื่อเสียงอะไร”“โล่ชิ้นนี้ได้มอบหมายให้ประมูลโดยลูกค้าเก่า เขาไม่อนุญาตให้ผู้ประมูลทดสอบโล่ ทว่าหากผู้ประมูลซื้อไปแล้วและรับความเสี่ยงที่คาดเดาไม่ได้ เขาก็ยินดีที่จะซื้อคืน” แม้ว่าคำพูดของหนี่จุนจะทำให้ใครหลายคนไม่พอใจ แต่ทว่าก็ไม่มีใครกล้

    Last Updated : 2024-09-13
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 29 ความลึกลับที่ซ่อนอยู่ในโล่

    เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยสบอารมณ์ของหยุนหลันแล้ว หลูมู่หยานรู้ได้ทันทีว่าเขาไม่พอใจกับการยั่วยุของกู่ยันรันและเซงรู แม้ว่าเขาเองจะไม่สามารถใช้โล่ได้ แต่ก็ไม่ได้ตำหนิอะไร “แสดงให้ข้าดูอีกทีลูกพี่ลูกน้อง” หยุนหลันพยักหน้า ก่อนจะส่งโล่ขนาดเล็กในมือให้แก่หลูมู่หยาน และเพื่อไม่ให้นางต้องรู้สึกกดดัน เขาจึงเอ่ยต่อไปว่า “ไม่ต้องสนใจ ทุกอย่างจะเรียบร้อย” หลูมู่หยานยิ้มโดยที่ไม่ได้พูดอะไร นางหยิบโล่มาวางในมือ ทว่าพลังวิญญาณที่นางได้ปล่อยไปก่อนหน้านี้ยังคงติดอยู่ที่โล่ และยังเผชิญหน้าอยู่กับสัตว์ร้ายหยุนหลัวและคนอื่น ๆ ต่างมองไปที่หลูมู่หยานเป็นสายตาเดียวเพื่อรอดูว่านางจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แม้แต่เจ้าของหลู่ก็ยังคงรอ แม้ว่าเขาจะจัดการกับการ์ดคริสตัลเสร็จสิ้นแล้วก็ตาม เมื่อรู้ว่าพลังวิญญาณของสัตว์ร้ายอ่อนลงภายใต้การยับยั้งพลังงานของนาง หลูมู่หยานกะพริบตา พร้อมกับยื่นมือซ้ายออกเพื่อวาดอะไรบางอย่างลงตรงพื้นที่ว่างเหนือโล่ ตรงนั้นเป็นร่องรอยของพลังวิญญาณที่เคลื่อนไหวพร้อมกับเมฆ และน้ำ เครื่องรางที่เปล่งประกายด้วยแสงสีขาว ถูกสร้างขึ้นในอากาศ“การปราบปราม!”ทันทีที่เสียงของหลูมู่หยานเงียบลง ยันต

    Last Updated : 2024-09-13
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 30 กลืนกลินวิญญาณ

    ฉี้อี้ซวนขมวดคิ้วด้วยอาการมึนหัวหลังจากที่ชื่อของเขาถูกเรียกโดยเซงรูลูกพี่ลูกน้องของเขา น่าหงุดหงิดยิ่งกว่าหลูมู่หยานเสียอีก เขาเหลือบมองไปที่หลูมู่หยาน ก่อนจะพบว่าสายตาที่นางมองไปทางเซงรูนั้นมีแต่ความขยะแขยง เขามองไปที่ถ้วยชาที่อยู่ตรงหน้า และแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงเรียกเมื่อครู่หลูมู่หยานในตอนนี้เป็นเหมือนร่างที่ส่องสว่าง สว่างเสียจนเขาไม่สามารถละสายตาออกจากนางได้ เหมือนถูกดึงดูดอย่างช่วยไม่ได้ รวมไปถึงเรื่องของเซงรูที่นางต้องเผชิญอีกด้วยเซงรูยังคงอ้อนวอนไปที่องค์หญิงเจ็ดและกู่ยันรัน ทว่าพวกนางทั้งสองไม่ได้สนใจอะไรเซงรู นั่นทำให้นางถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความกังวลยามที่นางกำลังจะถูกลากออกไป พลันเซงรูก็ต้องการระบายความโกรธที่สุมอยู่ในอก นางบอกไปที่หลูมู่หยานและพูดคำว่า “หลู...” ยังไม่ทันที่จะพูดได้จบประโยคนางก็ถูกทหารรักษาพระองค์ลากออกจากห้องส่วนตัวทันที“ในที่สุดก็เรียบร้อยเสียที” เสี่ยวเซียงเห็นด้วยว่าเซงรูนั้นน่ารำคาญมากเพียงใดกู่ยันรันละสายตาจากประตูและมองไปที่ฉีอี้ซวน ก่อนจะสังเกตได้ถึงความไม่แยแสหรือเดือดเนื้อร้อนใจอะไร พร้อมกับคิดว่าหากผู้ที่ลูกลากออกไปเป็นตัวนางเ

    Last Updated : 2024-09-13

Latest chapter

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 40 ความลับแห่งโซลอีทเตอร์

    หมิงซิ่วไม่ได้สนใจคนรอบข้างที่ลอบมองเขา หากแต่ดวงตาฟีนิกซ์ที่ยาวเรียวภายใต้หน้ากากทำให้หลูมู่หยานมองลึกลงไป แต่เพียงเสี้ยววินาทีมันก็หายวับอย่างรวดเร็วจนคนอื่นไม่สามารถสังเกตได้ทัน เขาหยุดพูด ก่อนจะหายตัวไปเหล่าเย่ที่รอให้หมิงซิ่วจากไป ค่อย ๆ เดินมาหาหลูมู่หยานด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “แม่นางไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?” “ขอบคุณท่านเหล่าเย่ที่เป็นห่วงข้า แต่ข้าไม่เป็นไร” หลูมู่หยานยิ้มตอบ พร้อมกับส่ายหัวไปมา หลูมู่หยานรู้สึกถึงแรงสั่นที่มาจากอสูรน้อยในมือของนางที่เริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาของนางกลับนิ่งเรียบ ก่อนจะเอ่ยกับเหล่าเย่ทั้งที่ยังยิ้มว่า “เหล่าเย่ ข้าคงต้องไปก่อน ข้ามีอะไรต้องทำต่อ” “ตกลง เจ้าทำเถิด” เหล่าเย่สังเกตเห็นอสูรร้ายตัวเล็กในมือของนางอยู่ในสภาพที่ไม่ดีนัก เขาจึงค่อย ๆ พรูลมหายใจออกมาด้วยความเสียดาย หลูมู่หยานพยักหน้า จากนั้นจึงหยิบนกหวีดที่คล้องคอไว้ขึ้นเป่า ใช้เวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ ม้าอาชาตัวสีขาวสว่างก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าทุกคน นางกล่าวลาหยุนหลัน และคนอื่น ๆ ก่อนจะขึ้นไปที่หลังม้าพร้อมกับอสูรกลืนกินวิญญาณ และออกจากหอการค้าหมิงเหมิงเพื่อมุ่งหน้ากลับไปที่บ้าน ใบหน้

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 39 ข้าเป็นหนี้บุญคุณเทพ

    ทันใดนั้นก็มีพลังที่นุ่มนวลจำนวนหนึ่งตกลงมาจากท้องฟ้า ห่อหุ้มไปด้วยก้อนกรวดที่ถูกรัศมีดาบของชายชราในชุดดำบดขยี้ ก่อนจะรวมตัวกันอีกครั้งทีละชิ้น แค่เพียงครู่เดียวรอยแตกที่พื้นบลูสโตนใต้ดินก็เริ่มสมาน และกลับคืนสู่สภาพเดิม“แม่นาง เจ้าเป็นหนี้บุญคุณต่อเทพอีกแล้ว” เสียงของบุรุษที่ฟังแล้วเหมือนจะมีความเป็นผู้ใหญ่ดังแว่วผ่านโสตประสาทของหลูมู่หยานราวกับสายลม ความเฉยเมยระหว่างคิ้วและดวงตาของหลูมู่หยานเริ่มถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม แท้จริงแล้วมือนั้นเป็นฝ่ามือของบุรุษผู้มากไปด้วยเสน่ห์ … หมิงซิ่ว! เมื่อมองไปยังฝ่ามือใหญ่ที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง นางรู้ได้ทันทีว่านี่เป็นคลื่นของการทำสมาธิ และความรู้สึกไว้วางใจก็เกิดขึ้นในใจของนางอย่างอธิบายไม่ได้ หลูมู่หยานหันกลับมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองบุรุษผู้กล้าหาญรูปร่างสูงโปร่ง และสวมหน้ากากสีเงินที่กำลังเดินเหมือนกับอยู่ที่บ้านตัวเอง ชุดสีแดงของเขาพริ้วไหวไปตามสายลม และพลังที่แผ่กระจายออกมารอบตัวของเขาก็เผยให้เห็นโดยธรรมชาติ และเมื่อเทียบกับบุรุษทุกคนที่อยู่ตรงนั้น คนอื่น ๆ เปรียบเสมือนเป็นเกราะป้องกันของเขา เหมือนกับหิ่งห้อยที่ไม่สามารถเทียบกับเฮาเยว่ได้

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 38 นรก

    ชายชราชุดดำก้าวไปด้านหน้าสองก้าว ก่อนจะยกฮั่วหยุนเตียวจากพื้นด้วยมือของเขา พร้อมกับแสยะรอยยิ้มแปลก ๆ ออกมา เขายังคงท่องคาถายอมจำนนอสูรร้ายอย่างเงียบ ๆ ในปากและหลังจากท่องเสร็จเขาก็ใช้ดาบลมของหยุนลี่กรีดไปที่นิ้วชี้ และหยดเลือดสีแดงลงที่ขนของเสี่ยวซูหลูมู่หยานคลี่ยิ้มเบา ๆ กอดอก พร้อมกับมองไปที่ชายชราที่กำลังทำการแสดงด้วยท่าทีเย้ยหยันชายชราผู้นี้ยังคงต้องการที่จะปราบอสูรร้ายกลืนกินวิญญาณด้วยวิธีนี้ ช่างเป็นความฝันที่เพ้อเจ้อเสียจริงหลังจากนั้นไม่นาน ชายชราก็พบว่าเลือดที่เขาหยดไปนั้น ไม่สามารถเข้ากับร่างกายของอสูรกลืนกินวิญญาณได้ เขาตกใจ และสายตาของเขาก็เริ่มนิ่ง ก่อนจะหยิบเครื่องรางสีแดงออกมาจากแหวนจักรวาล โดยที่ปากยังคงพึมพำท่องคาถาอย่างเงียบ ๆ และแตะเครื่องรางสีแดงด้วยมือของเขา ก่อนที่มันจะตกใส่ร่างของอสูรร้ายจากนั้นชายชราก็ได้สร้างผนึกที่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งขึ้นในอากาศ พร้อมกับบังคับให้เข้าสู่ก้องสำนึกของสัตว์ร้าย จากนั้นก็ได้หยดเลือดลงบนหน้าผากของมันอีกสองสามหยด ดวงตาของมันประกายแสงราวกับมีดาวนับล้าน และนี่คือสัญญาณนักฆ่าในฐานะปรมจารย์อสูรวิญญาณ เขาไม่เชื่อว่าเขาจะยังสามารถจั

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 37 เดิมพันกับราชาแห่งดาบ

    หลังจากที่หลูมู่หยานเสร็จสิ้นกับการพูดคุยกับเหล่าเย่ นางก็รีบไปพบหยุนหลันทันที และเมื่อนางออกจากประตูของหอการค้า นางสังเกตเห็นบุรุษวัยกลางคนร่างกายกำยำ และชายชราในชุดสีดำผอมแห้งหยุดอยู่ตรงหน้าหยุนหลัน ก่อนที่นางจะเกิดคำถามขึ้นในใจว่าสองคนนี้เป็นใคร?“มู่หยาน ข้าจะส่งเจ้ากลับไปที่คฤหาสน์นายพล” หยุนหลันพูด ก่อนจะเดินมาหาหลูมู่หยานที่ยืนอยู่ย้อนหลับไปเมื่อครู่ ราชาแห่งเจิ้นซีได้เอ่ยถามพวกเขาถึงผู้ที่ครอบครองฮั่วหยุนเตียว พวกเขาจึงพยายามบ่ายเบี่ยงเพื่อเก็บมันไว้เป็นความลับ ทว่ากู่ยันรันกลับพูดออกไปเสียหมด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาจึงต้องไปส่งหลูมู่หยานที่คฤหาสน์นายพล“ตกลง” หลูมู่หยานยิ้ม และพยักหน้าแม้ว่าหลูมู่หยานจะตกลงออกไปแบบนั้น แต่นางสัมผัสได้ว่าการที่นางจะเดินทางกลับนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ ๆ “ทำไมต้องกังวลขนาดนั้นด้วยเล่า” หวังเจิ้นซีเอ่ย ก่อนจะยื่นมือออกไปข้างหน้าเพื่อหยุดหยุนหลันเอาไว้ เขาจะปล่อยให้คน ๆ นั้นออกไปได้อย่างไรหวังเจิ้นซีมองไปยังหลูมู่หยานที่สวมใส่ชุดสีม่วง ผมยาวม้วนขึ้นเป็นมวยแบบธรรมชาติ ดวงตานิ่งเรียบ ประกอบกับใบหน้าที่สวยงามน่าเย้ายวนแม้ว่าอายุยังน้อยหลูมู่ห

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 36 คำสั่งการของผู้บำเพ็ญเพียร

    ราคาของการประมูลของซีซุยตันทำให้คนที่อยู่ในห้องประมูลส่วนตัวหมายเลขเก้าต้องตกใจ สายตาที่เต็มไปด้วยความริษยาจับจ้องไปทางหลูมู่หยานแทบจะเป็นสายตาเดียว เพราะตอนนี้นางจะกลายเป็นสตรีผู้ร่ำรวย ต่อให้พวกเขากลับบ้านไปได้ช่วงหนึ่ง ก็ไม่สามารถหาเหรียญทองคำจำนวนมหาศาลนี้ได้หยุนจินเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ “ดูเหมือนจะทำกำไรถึงสามร้อยล้านเหรียญทองเลยนะ” เมื่อมองไปยังใบหน้าที่หล่อเหลาของหยุนจิน หยุนหลัวก็อดมองว่าเขางี่เง่าไม่ได้ เขาอิจฉาที่ลูกพี่ลูกน้องเขาผู้นี้ได้ยามูลค่าสามร้อยล้านเหรียญไปครอบครอง เสี่ยวเซียงเองก็อดไม่ได้ที่จะมองหยุนจินด้วยความไม่สบอารมณ์ เพราะเขาเองก็อยากจะได้ยาเม็ดไขกระดูกเหมือนกันหลังจากการประมูลซีซุยตันในวันนี้ จะสร้างความตื่นเต้นให้อาณาจักรแห่งอัคคี และประเทศอื่น ๆ ในทวีปวิญญาณสวรรค์ เพราะการจะได้มาซึ่งยาเม็ดนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากดวงตาของกู่ยันรันเต็มไปด้วยเจตนาปองร้ายและอาฆาตแค้น นางไม่เข้าใจว่าทำไมหลูมู่หยานถึงเปลี่ยนไปได้เพียงระยะเวลาแค่ไม่ถึงสามเดือน และนางก็ดีกว่าหลูมู่หยานทุกเรื่อง เว้นพื้นฐานครอบครัว แต่ทำไมนางถึงไม่ได้รับยาซีซุยนั่นนางเกลียด เกลียดหลูมู่หยานขณะ

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 35 กระประมูลที่น่าตื่นเต้น

    หลังจากนั้นก็ยังคงมีการประมูลรายการสินค้าอีกหลายอย่างจากหอการค้าหมิงเหมิง ซึ่งซีซุยตันยังไม่ได้เข้าร่วมประมูลโดยตรงหลูมู่หยานยังได้เก็บภาพดอกไม้ลิงสีม่วงที่จำเป็นสำหรับการปรับแต่งจีตัน รวมไปถึงการฝึกฝนอื่น ๆ ทั้งเครื่องมือจิตวิญญาณ ชุดเกราะวิญญาณ แต่นางไม่ได้ต้องการ เพราะรวม ๆ แล้วนางเองได้ประโยชน์มากมายจากการประมูลในครั้งนี้ ณ ห้องประมูลส่วนตัว แขกที่เข้าร่วมการประชุมมักจะเก็บภาพรายการประมูลที่พวกเขาชื่นชอบ ขณะที่เม็ดยาซีซุยไม่ได้รับความสนใจมากนัก ซึ่งอาจเป็นเพราะรูปลักษณ์ของมันที่ไม่ได้ดึงดูดอะไรหลังจากที่รายการสินค้าทั้งหมดถูกประมูลแล้ว หนี่จุนก็ได้คลี่ยิ้มพร้อมกับเอ่ยว่า “การประมูลต่อไปคือรายการสุดท้ายที่ค่อนข้างหนักเป็นพิเศษของหอการค้าหมิงเหมิง และเราก็เพิ่งได้รับเกียรติจากเหล่าเย่ ผู้รับผิดชอบการประมูลโจวกั๋วขึ้นมาเป็นประธาน” เมื่อจบคำพูดของหนี่จุน ผู้เข้าร่วมการประมูลที่อยู่ข้างล่างก็ต่างพากันส่งเสียงวุ่นวายรายการประมูลใดกันที่จะสามารถรบกวนเหล่าเย่ได้ เพราะเขาไม่เพียงแต่เป็นราชาแห่งดาบที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้สะกัดระดับกลางอีกด้วย นั่นทำให้เป็นเรื่องยากที่เข

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 34 แผนที่เกี่ยวข้อง

    ทั้งสองคนเป็นสมาชิกราชวงศ์ และพื้นฐานครอบครัวท่านแม่ของหยุนจินก็แข็งแกร่งมาก หากหลูมู่หยานให้ยาซีซุยแก่พวกเขา และบุคคลที่มีอำนาจระดับสูงของราชวงศ์ก็จะไม่ทำให้นางอับอายอย่างแน่นอน“เอาเถิด ท่านป้าก็รักข้าเหมือนลูกตัวเองมาตั้งข้ายังเด็ก เราเป็นญาติกันแค่ยาเม็ดเดียวอย่าให้มันรบกวนเลย” หลูมู่หยานเอ่ย พร้อมกับคลี่ยิ้มออกเล็กน้อยหยุนหลันแสดงความขอบคุณต่อลูกพี่ลูกน้องผ่านทางใบหน้า เขาไม่ได้คาดหวังว่าหลูมู่หยาน ลูกพี่ลูกน้องที่พบหน้ากันเพียงไม่กี่ครั้ง แต่กลับกลายเป็นคนที่ใจกว้างและกล้าเช่นนี้ นี่คงเป็นเหตุผลที่ท่านแม่ของเขาเห็นเป็นแน่“ตกลง ถ้าอย่างนั้นข้ายินดี ยาซีซุยตันนี้สำคัญมากสำหรับข้า และข้าจะเขียนความรู้สึกนี้ลงไปในวงแหวน หากมู่หยานมีอะไรให้ข้าช่วยในอนาคต บอกข้าได้” หยุนหลันสัญญาด้วยรอยยิ้ม “ตกลง” หลูมู่หยานตอบกลับ“หลูมู่หยาน หยุนหลันเป็นญาติของเจ้า มันก็ชัดเจนที่เจ้าจะให้เขา แต่ทำไมเจ้าถึงให้มันแก่ข้า?” หยุนจินไม่เข้าใจว่าทำไมหลูมู่หยานถึงต้องการให้ยาเม็ดนี้กับเขา เป็นเพราะเขาให้เหรียญสนับสนุนนางงั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้“ครั้งที่แล้วที่ข้าได้รับบาดเจ็บจากดอกไม้สีขาวดอกเล็ก ๆ นั่น ก

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 33 รับของขวัญ

    จากการยืนยันของเหล่าเย่ สายตาของผู้คนในห้องที่มองหลูมู่หยานก็เปลี่ยนไป แม้แต่คนที่ติดตามเหล่าเย่ก็มองมาที่ขวดยาสีขาวอย่างไม่วางตาเหล่าเย่ใช้เวลาคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะมองไปที่หลูมู่หยานด้วยรอยยิ้ม และถามว่า “แม่นางหลู เจ้ากำลังกำหนดราคาสำหรับซีซุยตันหรือไม่?” “ข้าไม่รู้เรื่องนี้มากนัก แต่ข้าเชื่อว่าหอการค้าหมิงเหมิงจะช่วยให้ข้าขายได้ในราคาดี ฉะนั้นโปรดให้ท่านเหล่าเย่เรียกราคาเริ่มต้น” หลูมู่หยานแสดงรอยยิ้มที่อ่อนโยนต่อหอการค้าหมิงเหมิง เหล่าเย่ยิ้มพร้อมกับพยักหน้ารับ “ในกรณีนี้ ชายชราจะได้ตั้งราคาให้กับแม่นาง” “ปัญหาของเหล่าเย่คือเริ่มอายุมากขึ้น” หลูมู่หยานตอบกลับอย่างสุภาพ เหล่าเย่ยิ้มและพยักหน้า ก่อนเอ่ยถามสิ่งที่คิดอยู่ในใจ “แม่นางหลู เจ้ายังมียาไขกระดูกนี้อีกหรือไม่?” เดิมทีเหล่าเย่เพียงแค่ต้องการถามถึงที่มาของซีซุยตัน ว่าหลูมู่หยานได้มาจากที่ใด ไม่ว่าเขาจะรู้จะจักนักเล่นแร่แปรธาตุที่เก่งกาจแค่ไหน แต่เขาก็ยังคงต่อต้าน เพราะนักเล่นแร่แปรธาตุส่วนมากมักมีนิสัยแปลก ๆ และไม่ชอบให้ผู้อื่นถาม ฉะนั้นเขาจึงอยากที่จะผูกมิตรกับหลูมู่หยานให้ดีเสียก่อน คนอื่น ๆ ก็เริ่มมองมาที่หลูมู่หยาน

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 32 ฝ่าบาท

    บนห้องแห่งความลับชั้นสามของหอการค้าหมิงเหมิง มีบุรุษชุดแดงสวมหน้ากากสีเงินนั่งอยู่อย่างเกียจคร้าน และมีคนสองคนยืนอยู่ด้านหน้าเพื่อคอยรายงานสถาณการณ์ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น บุรุษชุดแดงหยักหน้าให้หญิงสาวทรงเสน่ห์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กัน ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินไปเปิดประตู “ผู้พิทักษ์หลาน” เจ้าของร้านหลู่ตะโกนออกมาด้วยความเคารพ และสตรีผู้นั้นก็เหลือบมองมาที่เขาขณะที่ยังยืนอยู่ข้างบุรุษผู้นั้น“องค์รัชทายาท!” เจ้าของร้านหลู่เดินเข้าไปที่ห้องลับ และก็พบว่าไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสสองคนเท่านั้นที่นั่งอยู่ แต่ยังมีองค์รัชทายาทอยู่ในห้องด้วย เจ้าของร้านหลู่จึงก้มลงเพื่อแสดงความเคารพ “อะไรจะเร่งด่วนปานนั้น” หมิงซิ่วเอ่ยอยากเฉื่อยชา“เมื่อครู่นี้แขกผู้มีเกียรติห้องประมูลส่วนตัวที่เก้า หยิบยาออกมาเพื่อให้ทางหอการค้าของเราทำการประมูล แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเราไม่เคยเห็นยาเม็ดนี้มาก่อน พวกเขาเลยตัดสินไปก่อนว่าเป็นเพียงยาระดับสองเท่านั้น” เจ้าของร้านหลู่นำขวดยาสีขาวออกมา “แขกผู้มีเกียรติผู้นั้นบอกว่ายาเม็ดนี้เรียกว่าซีซุยตัน แม้ว่ายาจะอยู่ในระดับที่สอง แต่ผลลัพธ์ของมันไม่น้อยกว่าระดับที่สาม”

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status