“อย่าคิดว่าทอดกายให้ฉันเชยชมแล้วฉันจะไม่เกลียดเธอนะปลายฝน.. ไม่ว่าจะยังไงฉันก็เกลียดเธออยู่และแม้ว่าฉันจะได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ ฉันก็ไม่มีวันรักเธอหรือยกย่องเธอให้เป็นเมียฉันหรอกนะ..”
ถ้อยคำเย็นชาเชือดเฉือนที่ดังออกมาจากเรียวปากบางสวยสีชมพูระเรื่อดุจริมฝีปากอิสตรีนั้นทำให้ ปลายฝน น้ำตาไหลรินหลั่งประหนึ่งเขื่อนพัง...
“และจำใส่หัวเธอไว้ด้วยว่า เธออยู่ในสถานะไหน อย่าสะเออะแสดงอาการให้ใครรู้ล่ะว่าเธอกับฉันมีอะไรกันแค่ไหน มีหน้าที่ให้ความสุขฉันก็ทำแค่นั้น อย่าได้คิดว่าจะเผยอมาเทียบกับฉันหรือเทียบกับ ทราย เพราะเธอคือผู้หญิงที่ฉันจะแต่งงานด้วย”
ร่างสูงงามสง่าของ อัครา ลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าต่อหน้าเธออย่างไม่เร่งร้อน ร่างแกร่งงดงามด้วยกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบชนิดนายแบบบางคนยังอาย ใบหน้าเรียวยาวขาวสะอาด ดวงตายาวรีรูปเม็ดอัลมอลด์สีน้ำตาลคมเข้มภายใต้คิ้วเข้มดกหนา จมูกโด่งคมรับกับเรียวปากบางเฉียบได้รูปสีชมพู
อัครา จงบริบูลย์ไพศาล หรือ อาซัน ลูกชายคนโปรดของ อโนมา หรือแม่อ้อน กับอัคคี ที่ปลายฝนให้ความเคารพรักเสมือนแม่และพ่อแท้ๆ ของตน แม่อ้อนนั้นใจดีอ่อนโยนอ่อนหวานและเต็มไปด้วยเมตตาเอ็นดูเธอเช่นเดียวกันกับ น้องอิ่มอุ่น หรือ อัจฉรียาพร ลูกสาวของตนเอง เธอได้เล่าเรียนในโรงเรียนเดียวกันกับน้องอิ่มอุ่น ไม่ว่าน้องอิ่มอุ่นได้อะไรเธอก็จะได้สิ่งนั้นด้วย แต่สำหรับอัคราเขากลับเกลียดเธออย่างกับไส้เดือนกิ้งกือ แต่ทุกครั้งเมื่อตกอยู่ในห้วงเสน่หาเขาก็ปรนเปรอเธอด้วยความเร่าร้อนแทบขาดใจ..
“ที่พูดนี่เข้าใจใช่ไหม ปลายฝน” เสียงเข้มถามย้ำอย่างเย็นชา
“ค่ะ”
“เข้าใจก็ดี.. ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว”
เขาพูดอย่างไร้เยื่อใยดวงตากลมโตหวานสวยซึ้งมองตามไปด้วยความปวดร้าวก่อนจะเดินออกมากจากห้องของเขาร่างเล็กบอบบางเดินหลบสายตาผู้คนแล้ววิ่งขึ้นห้องของตนเองอย่างรวดเร็วเมื่อถึงห้องก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงสีหวานร้องไห้กับตัวเองเงียบๆ ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
“คุณแม่ขา ฝนคิดถึงแม่เหลือเกิน..”
หญิงสาวนอนร้องไห้นึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเองด้วยความรู้สึกน้อยใจในโชคชะตา เธออาจจะโชคดีที่หลังจากแม่ของเธอเสียชีวิตอโนมากับอัคคีก็รับเธอเป็นลูกบุญธรรมและเลี้ยงดูแลให้การศึกษากับเธออย่างดีเท่าเทียมกับลูกสาวแท้ๆ ของตน เธอได้รับความรักความเมตตาจากทุกๆ คน แต่กับอัคราชายหนุ่มรูปงามซึ่งเป็นที่หมายปองของหญิงสาวทั้งประเทศกลับมีแต่ความเกลียดชังให้กับเธอ ข่มเหงจิตใจเธอสารพัดราวกับโกรธเกลียดเธอมาร้อยชาติพันชาติ
“ทำไมคุณซันจะต้องเกลียดฝนด้วย.. ฝนทำอะไรให้คุณนักหนาคะ..” หญิงสาวรำพึงรำพันกับตัวเองจนหลับไปอย่างเดียวดาย
ตอนที่1. “เรียนปีนี้ปีสุดท้ายแล้วใช่ไหมจ๊ะหนูฝน” คุณอโนมาถามสาวน้อยหวานซึ่งนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้า ดวงหน้าหวานละมุนซึ่งประดับด้วยคิ้วเรียวกับดวงตากลมโตสดใสฉายประกายหวานซึ้ง จมูกโด่งเรียวเล็กรับกับริมฝีปากอิ่มระเรื่อด้วยวัยสาวสด แม้ปลายฝนไม่ได้เป็นคนสวยฉูดฉาดบาดตาแต่ใบหน้าหวานละมุนของเธอก็ทำให้คนมองรู้สึกสบายตา สบายใจเช่นเดียวกับสายฝนเย็นฉ่ำที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผืนโลก...“ค่ะคุณแม่”“เร็วจังเลยนะ เผลอแป๊บเดียวเด็กๆ ก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาวหมดแล้ว” คุณอัคคีซึ่งอยู่ในวัยล่วงเลยมากว่าห้าสิบปีเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มละไม ร่างสูงที่ยังคงงามสง่าไม่เสื่อมคลายลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงออกมาส่งให้ปลายฝนซึ่งก็ยื่นมือไปรับด้วยรู้ดีว่าไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่ท่านมอบให้ได้“นี่เป็นของขวัญจากพ่อนะหนูฝน หนูควรจะได้รับมันให้สมกับที่เป็นเด็กดีของพ่อแม่มาตลอด” คุณอโนมาบอกเมื่อเห็นว่าปลายฝนมองสิ่งที่อยู่ในกล่องนิ่งเหมือนกังวล“ฝนขอบคุณมากค่ะคุณแม่ แต่ฝนเกรงว่า..”“ไม่ต้องกลัวว่าอาซันจะมาว่าหรอก เพราะเรื่องนี้เราจะเก็บเป็นความลับเฉพาะพวกเรา” คุณอัคคียิ้มกว้างรู้ทันความคิดของสาวน้อยที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู
ตอนที่2.วันรุ่งขึ้นปลายฝนก็แต่งตัวอย่างเรียบร้อยสวยงามเพื่อจะเข้าบริษัทไปฝึกงานพร้อมคุณอัคคี สาวน้อยยิ้มสดใสและเข้าไปช่วยงานในครัวเช่นทุกวันแต่วันนี้เหล่าแม่ครัวไม่ยอมให้เธอช่วยทำเพราะกลัวว่ากลิ่นอาหารจะติดเสื้อผ้าสวยๆ ของเธอเสียหมด“โธ่ รู้แบบนี้ฝนใส่ชุดอยู่บ้านเก่าๆ มาช่วยป้าแย้มกับป้าโฉมทำกับข้าวดีกว่า” ปลายฝนบ่นยิ้มๆ แต่ก็ช่วยสาวใช้ยกสำรับอาหารมาตั้งโต๊ะเหมือนดังเช่นทุกวันโดยไม่รู้ว่าขณะที่ตนกำลังจัดโต๊ะอยู่นั้นอัคราได้ยืนมองเธออยู่นานแล้ว“นี่คิดจะประจบเอาตำแหน่งไหนในบริษัทล่ะ” เสียงพูดลอยๆ ของน้ำเสียงที่เธอจำได้แม้แต่ในเวลาหลับก็ทำให้ปลายฝนชะงักใจเต้นรัวก้มหน้านิ่งไม่กล้าเงยหน้ามองเขากลัวว่าเขาจะหาเรื่องด่าว่าเธออีก“ทำเป็นเงียบนี่คืออะไร มารยาหรือเพราะละอายใจ” อัคราเสียงเข้มขึ้นปลายฝนเดาได้ไม่ยากว่าเขาจะทำหน้าแบบไหน คงจะมองเธอเหมือนสิ่งที่น่ารังเกียจและดวงตาเต็มไปด้วยแววดูแคลนอีกเช่นเดิม“อ้าว อาซันมาแต่เช้าเลยนะเรา..” คุณอัคคีซึ่งเดินลงมาพร้อมกับภรรยาที่รักเอ่ยทักยิ้มๆ อัคราค่อยๆ เลื่อนเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามคนที่เขาไม่ค่อยชอบหน้าแต่ต้องนั่งรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกันทุกวันและต้อง
ตอนที่3.“นั่นหนูฝนนี่คะคุณพี่ อ้าวแล้วนั่นขึ้นรถไปกับใครแล้วนะ ท่าทางสนิทสนมกันน่าดู” คุณอโนมาพูดขึ้นพร้อมทั้งชี้ให้สามีดูเมื่อพวกตนมาทันก่อนที่ปลายฝนจะไปถึงป้ายรถเมล์และก็พบว่าปลายฝนขึ้นรถไปกับชายหนุ่มคนหนึ่งท่าทางภูมิฐานและรถยนต์ที่ชายหนุ่มคนนั้นจอดรับก็บ่งบอกฐานะของคนขับเป็นอย่างดี รถราคาหลายสิบล้านก็คงไม่ธรรมดา แม้จะมองเห็นไกลๆ ชายหนุ่มที่ลงมาเปิดประตูให้ปลายฝนก็ดูมีสง่าราศีไม่เบาเลยทีเดียว และดูท่าว่าหน้าตาคงจะหล่อเหลาเอาการทีเดียวทั้งรูปร่างยังสูงสง่าน่ามองอีกด้วย“ท่าทางจะหล่อเหลาใช้ได้นะอ้อน แหม.. ถ้าเขาเป็นคนรักของหนูฝนพี่นี่พร้อมจะยกให้เลยนะเนี่ย” คุณอัครายิ้มกว้าง“จริงด้วยค่ะ อืม.. ว่าแต่หน้าตาคุ้นๆ นะคะ เหมือนเคยเห็นหน้าเด็กคนนั้นที่ไหนนะ”“สงสัยคงเป็นหนุ่มๆ ในสต๊อกของยายนั่นล่ะมั้งครับคุณแม่ ยายนั่นก็ท่าทางไม่เบาที่มหาวิทยาลัยก็เห็นมีคนมาติดพันตั้งหลายคน” คนที่นั่งอยู่ข้างหลังอดแขวะไม่ได้ คุณอโนมาหันไปสบตากับสามีแล้วยิ้มบางๆ“ก็คนสวยน่ารักอย่างหนูฝนจะมีคนมารักมาชอบพอติดพันก็เป็นธรรมดานะอาซัน ใครจะเหมือนอิ่มอุ่นแม่น้องสาวตัวดีของเราล่ะ รายนั้นน่ะ แม่อ้อนจะต้องบังคับให้ผู