“นั่นหนูฝนนี่คะคุณพี่ อ้าวแล้วนั่นขึ้นรถไปกับใครแล้วนะ ท่าทางสนิทสนมกันน่าดู” คุณอโนมาพูดขึ้นพร้อมทั้งชี้ให้สามีดูเมื่อพวกตนมาทันก่อนที่ปลายฝนจะไปถึงป้ายรถเมล์และก็พบว่าปลายฝนขึ้นรถไปกับชายหนุ่มคนหนึ่งท่าทางภูมิฐานและรถยนต์ที่ชายหนุ่มคนนั้นจอดรับก็บ่งบอกฐานะของคนขับเป็นอย่างดี รถราคาหลายสิบล้านก็คงไม่ธรรมดา แม้จะมองเห็นไกลๆ ชายหนุ่มที่ลงมาเปิดประตูให้ปลายฝนก็ดูมีสง่าราศีไม่เบาเลยทีเดียว และดูท่าว่าหน้าตาคงจะหล่อเหลาเอาการทีเดียวทั้งรูปร่างยังสูงสง่าน่ามองอีกด้วย
“ท่าทางจะหล่อเหลาใช้ได้นะอ้อน แหม.. ถ้าเขาเป็นคนรักของหนูฝนพี่นี่พร้อมจะยกให้เลยนะเนี่ย” คุณอัครายิ้มกว้าง
“จริงด้วยค่ะ อืม.. ว่าแต่หน้าตาคุ้นๆ นะคะ เหมือนเคยเห็นหน้าเด็กคนนั้นที่ไหนนะ”
“สงสัยคงเป็นหนุ่มๆ ในสต๊อกของยายนั่นล่ะมั้งครับคุณแม่ ยายนั่นก็ท่าทางไม่เบาที่มหาวิทยาลัยก็เห็นมีคนมาติดพันตั้งหลายคน” คนที่นั่งอยู่ข้างหลังอดแขวะไม่ได้ คุณอโนมาหันไปสบตากับสามีแล้วยิ้มบางๆ
“ก็คนสวยน่ารักอย่างหนูฝนจะมีคนมารักมาชอบพอติดพันก็เป็นธรรมดานะอาซัน ใครจะเหมือนอิ่มอุ่นแม่น้องสาวตัวดีของเราล่ะ รายนั้นน่ะ แม่อ้อนจะต้องบังคับให้ผู้ชายสักคนมาขอแต่งงานด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้เพราะหากไม่บังคับหรือยกให้ฟรีๆ พร้อมข้าวสารอีกสิบกระสอบก็คงไม่มีหนุ่มๆ ที่ไหนกล้ามาจีบมาขอแต่งงานแน่ๆ”
“พี่ว่าจะลองแนะนำลูกชายเพื่อนๆ ของพี่มาดูตัวหนูฝนบ้าง มีหลายคนนิสัยอนาคตไกล เผื่อว่าเราจะได้มีลูกเขยเก่งๆ ดีๆ มาช่วยแบ่งเบาดูแลลูกๆ”
“ดีสิคะ อ้อนสนับสนุนค่ะที่รัก..” คุณอโนมายื่นหน้าไปจูบแก้มสามีเบาๆ แล้วยิ้มกว้าง ส่วนอัคราแอบเบ้ปากขุ่นเคืองในใจที่ใครๆ ต่างก็รักและห่วงใยปลายฝนสารพัดทั้งยังจะหาคู่ครองที่ดีให้เจ้าหล่อนอีกด้วย ส่วนเขาไม่ว่าจะพูดอะไรเกี่ยวกับปลายฝนก็ดูจะไม่เข้าหูของคุณอโนมากับคุณอัคคีและยังถูกมองว่าหาเรื่องแม่ตัวดีนั่นอีกด้วย คิดขึ้นมาอัคราก็รุ่มร้อนอย่างไม่รู้สาเหตุ...
แล้วเมื่อทั้งสามมาถึงบริษัทของตระกูลจงบริบูรณ์ไพศาลก็พบว่าปลายฝนยืนรออยู่หน้าบริษัทพร้อมด้วยชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นคนเดียวกับที่รับเธอมาระหว่างทางและเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มคนนั้นชัดๆ คุณอัคคีกับคุณอโนมาก็ยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้น...
“ตาสิงโต.. โถ อานึกว่าใคร..” อัคคีกับอโนมารับไหว้ สิงโต หรือ สิงหราช ลูกชายของ พ่อเลี้ยงอินคำกับแม่เลี้ยงเกศรา ญาติสนิทของพวกตนนั่นเอง
“แล้วไปไงมาไงล่ะจ๊ะนี่” คุณอโนมาลูบหลังลูบไหล่ชายหนุ่มรูปงามอย่างตื่นเต้น
“ผมก็จะมาหาคุณอากับอาซันนั่นล่ะครับแต่พอดีเจอน้องฝนกลางทาง เห็นว่าคุณอาจะมาที่บริษัทก็มาดักรอที่นี่เสียเลย แถมยังได้นั่งรถมาพร้อมสาวสวยแสนน่ารักด้วย เหมือนได้โชคสองชั้นเลยครับ” สิงหราชเล่าอย่างอารมณ์ดีซึ่งเป็นบุคลิกของเขา สิงหราชเป็นชายหนุ่มที่ยิ้มหัวง่ายช่างพูดช่างคุยมาแต่ไหนแต่ไรจนทำให้เขาดูเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ดูเจ้าชู้กรุ้มกริ่มมีข่าวกับสาวๆ ไม่เว้นวัน จนได้ชื่อว่าคาสโนว่าตัวพ่อเหมือนคุณอัคคีตอนหนุ่มๆ ไม่มีผิด
“ใครอยากให้นายมาวะ” อัคราพูดแทรกขึ้นหน้าตาหล่อเหลาดูไม่สบอารมณ์นักที่เพื่อนรักมาหาสิงหราชหัวเราะเบาๆ อย่างไม่ถือสา
“นายอาจจะไม่อยากให้ฉันมา แต่ฉันอยากมาและฉันก็ดีใจที่มาแล้วเจอน้องฝนด้วย”
“หึ.. คงอ่อยเขาไว้ล่ะสิท่า” อัคราพูดอย่างไม่ไว้หน้าปลายฝนซึ่งหน้าเสียทันทีที่ได้ยินคำพูดแสนร้ายกาจนั้น สาวน้อยก้มหน้าลงอย่างอับอายน้ำตาจวนเจียนจะไหล
“อย่าไปสนใจคนปากเสียเลยน้องฝน สักวันหนึ่งเถอะมันจะต้องคลานมาขอความเห็นใจจากน้องฝนของพี่สิงโต..” สิงหราชลูบศีรษะเล็กเบาๆ อย่างเห็นใจ คุณอัคคีกับภรรยาหันมามองหน้ากันแล้วถอนใจมองตามแผ่นหลังกว้างของคนปากเสียไปอย่างเอือมระอา...
“นั่นหนูฝนนี่คะคุณพี่ อ้าวแล้วนั่นขึ้นรถไปกับใครแล้วนะ ท่าทางสนิทสนมกันน่าดู” คุณอโนมาพูดขึ้นพร้อมทั้งชี้ให้สามีดูเมื่อพวกตนมาทันก่อนที่ปลายฝนจะไปถึงป้ายรถเมล์และก็พบว่าปลายฝนขึ้นรถไปกับชายหนุ่มคนหนึ่งท่าทางภูมิฐานและรถยนต์ที่ชายหนุ่มคนนั้นจอดรับก็บ่งบอกฐานะของคนขับเป็นอย่างดี รถราคาหลายสิบล้านก็คงไม่ธรรมดา แม้จะมองเห็นไกลๆ ชายหนุ่มที่ลงมาเปิดประตูให้ปลายฝนก็ดูมีสง่าราศีไม่เบาเลยทีเดียว และดูท่าว่าหน้าตาคงจะหล่อเหลาเอาการทีเดียวทั้งรูปร่างยังสูงสง่าน่ามองอีกด้วย
“ท่าทางจะหล่อเหลาใช้ได้นะอ้อน แหม.. ถ้าเขาเป็นคนรักของหนูฝนพี่นี่พร้อมจะยกให้เลยนะเนี่ย” คุณอัครายิ้มกว้าง
“จริงด้วยค่ะ อืม.. ว่าแต่หน้าตาคุ้นๆ นะคะ เหมือนเคยเห็นหน้าเด็กคนนั้นที่ไหนนะ”
“สงสัยคงเป็นหนุ่มๆ ในสต๊อกของยายนั่นล่ะมั้งครับคุณแม่ ยายนั่นก็ท่าทางไม่เบาที่มหาวิทยาลัยก็เห็นมีคนมาติดพันตั้งหลายคน” คนที่นั่งอยู่ข้างหลังอดแขวะไม่ได้ คุณอโนมาหันไปสบตากับสามีแล้วยิ้มบางๆ
“ก็คนสวยน่ารักอย่างหนูฝนจะมีคนมารักมาชอบพอติดพันก็เป็นธรรมดานะอาซัน ใครจะเหมือนอิ่มอุ่นแม่น้องสาวตัวดีของเราล่ะ รายนั้นน่ะ แม่อ้อนจะต้องบังคับให้ผู้ชายสักคนมาขอแต่งงานด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้เพราะหากไม่บังคับหรือยกให้ฟรีๆ พร้อมข้าวสารอีกสิบกระสอบก็คงไม่มีหนุ่มๆ ที่ไหนกล้ามาจีบมาขอแต่งงานแน่ๆ”
“พี่ว่าจะลองแนะนำลูกชายเพื่อนๆ ของพี่มาดูตัวหนูฝนบ้าง มีหลายคนนิสัยอนาคตไกล เผื่อว่าเราจะได้มีลูกเขยเก่งๆ ดีๆ มาช่วยแบ่งเบาดูแลลูกๆ”
“ดีสิคะ อ้อนสนับสนุนค่ะที่รัก..” คุณอโนมายื่นหน้าไปจูบแก้มสามีเบาๆ แล้วยิ้มกว้าง ส่วนอัคราแอบเบ้ปากขุ่นเคืองในใจที่ใครๆ ต่างก็รักและห่วงใยปลายฝนสารพัดทั้งยังจะหาคู่ครองที่ดีให้เจ้าหล่อนอีกด้วย ส่วนเขาไม่ว่าจะพูดอะไรเกี่ยวกับปลายฝนก็ดูจะไม่เข้าหูของคุณอโนมากับคุณอัคคีและยังถูกมองว่าหาเรื่องแม่ตัวดีนั่นอีกด้วย คิดขึ้นมาอัคราก็รุ่มร้อนอย่างไม่รู้สาเหตุ...
แล้วเมื่อทั้งสามมาถึงบริษัทของตระกูลจงบริบูรณ์ไพศาลก็พบว่าปลายฝนยืนรออยู่หน้าบริษัทพร้อมด้วยชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นคนเดียวกับที่รับเธอมาระหว่างทางและเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มคนนั้นชัดๆ คุณอัคคีกับคุณอโนมาก็ยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้น...
“ตาสิงโต.. โถ อานึกว่าใคร..” อัคคีกับอโนมารับไหว้ สิงโต หรือ สิงหราช ลูกชายของ พ่อเลี้ยงอินคำกับแม่เลี้ยงเกศรา ญาติสนิทของพวกตนนั่นเอง
“แล้วไปไงมาไงล่ะจ๊ะนี่” คุณอโนมาลูบหลังลูบไหล่ชายหนุ่มรูปงามอย่างตื่นเต้น
“ผมก็จะมาหาคุณอากับอาซันนั่นล่ะครับแต่พอดีเจอน้องฝนกลางทาง เห็นว่าคุณอาจะมาที่บริษัทก็มาดักรอที่นี่เสียเลย แถมยังได้นั่งรถมาพร้อมสาวสวยแสนน่ารักด้วย เหมือนได้โชคสองชั้นเลยครับ” สิงหราชเล่าอย่างอารมณ์ดีซึ่งเป็นบุคลิกของเขา สิงหราชเป็นชายหนุ่มที่ยิ้มหัวง่ายช่างพูดช่างคุยมาแต่ไหนแต่ไรจนทำให้เขาดูเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ดูเจ้าชู้กรุ้มกริ่มมีข่าวกับสาวๆ ไม่เว้นวัน จนได้ชื่อว่าคาสโนว่าตัวพ่อเหมือนคุณอัคคีตอนหนุ่มๆ ไม่มีผิด
“ใครอยากให้นายมาวะ” อัคราพูดแทรกขึ้นหน้าตาหล่อเหลาดูไม่สบอารมณ์นักที่เพื่อนรักมาหาสิงหราชหัวเราะเบาๆ อย่างไม่ถือสา
“นายอาจจะไม่อยากให้ฉันมา แต่ฉันอยากมาและฉันก็ดีใจที่มาแล้วเจอน้องฝนด้วย”
“หึ.. คงอ่อยเขาไว้ล่ะสิท่า” อัคราพูดอย่างไม่ไว้หน้าปลายฝนซึ่งหน้าเสียทันทีที่ได้ยินคำพูดแสนร้ายกาจนั้น สาวน้อยก้มหน้าลงอย่างอับอายน้ำตาจวนเจียนจะไหล
“อย่าไปสนใจคนปากเสียเลยน้องฝน สักวันหนึ่งเถอะมันจะต้องคลานมาขอความเห็นใจจากน้องฝนของพี่สิงโต..” สิงหราชลูบศีรษะเล็กเบาๆ อย่างเห็นใจ คุณอัคคีกับภรรยาหันมามองหน้ากันแล้วถอนใจมองตามแผ่นหลังกว้างของคนปากเสียไปอย่างเอือมระอา...
การฝึกงานของปลายฝนในตำแหน่งเลขาของคุณอัคคีดำเนินไปด้วยดีบางวันสิงหราชก็แวะเวียนมาหาพร้อมด้วยข้าวของมากมายท่ามกลางสายตาไม่พอใจของอัคราที่เฝ้ามองทั้งสองด้วยความรู้สึกหงุดหงิดยิ่งเห็นปลายฝนยิ้มแย้มกับเพื่อนรักของตนมากเท่าไหร่ใจของชายหนุ่มก็รุ่มร้อนเหมือนใครเอาไฟสุมในอกเลยทีเดียว
“นายจะมาทำไมทุกวันวะไอ้สิงโต”
“ทำไม.. ที่นี่เป็นเขตหวงห้ามตั้งแต่เมื่อไหร่วะ เดี๋ยวนี้นายทำตัวเป็นตาแก่ขี้บ่นไปแล้วหรือไงวะ.. เจอหน้าทีไรก็บ่นแต่เรื่องเดิมๆ หากไม่รู้จักกันมาก่อนฉันคิดว่านายคงเป็นแฟนขี้หึงของน้องฝนแน่นอน”
“แค่ฉันถามนายว่ามาที่นี่ทำไมทุกวัน ก็กลายเป็นฉันขี้บ่นสินะ แล้วฉันก็ไม่มีทางเอายายนั่นมาเป็นแฟนหรอกโว้ย..” อัคราเสียงขุ่น
บทนำ“อย่าคิดว่าทอดกายให้ฉันเชยชมแล้วฉันจะไม่เกลียดเธอนะปลายฝน.. ไม่ว่าจะยังไงฉันก็เกลียดเธออยู่และแม้ว่าฉันจะได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ ฉันก็ไม่มีวันรักเธอหรือยกย่องเธอให้เป็นเมียฉันหรอกนะ..”ถ้อยคำเย็นชาเชือดเฉือนที่ดังออกมาจากเรียวปากบางสวยสีชมพูระเรื่อดุจริมฝีปากอิสตรีนั้นทำให้ ปลายฝน น้ำตาไหลรินหลั่งประหนึ่งเขื่อนพัง...“และจำใส่หัวเธอไว้ด้วยว่า เธออยู่ในสถานะไหน อย่าสะเออะแสดงอาการให้ใครรู้ล่ะว่าเธอกับฉันมีอะไรกันแค่ไหน มีหน้าที่ให้ความสุขฉันก็ทำแค่นั้น อย่าได้คิดว่าจะเผยอมาเทียบกับฉันหรือเทียบกับ ทราย เพราะเธอคือผู้หญิงที่ฉันจะแต่งงานด้วย”ร่างสูงงามสง่าของ อัครา ลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าต่อหน้าเธออย่างไม่เร่งร้อน ร่างแกร่งงดงามด้วยกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบชนิดนายแบบบางคนยังอาย ใบหน้าเรียวยาวขาวสะอาด ดวงตายาวรีรูปเม็ดอัลมอลด์สีน้ำตาลคมเข้มภายใต้คิ้วเข้มดกหนา จมูกโด่งคมรับกับเรียวปากบางเฉียบได้รูปสีชมพูอัครา จงบริบูลย์ไพศาล หรือ อาซัน ลูกชายคนโปรดของ อโนมา หรือแม่อ้อน กับอัคคี ที่ปลายฝนให้ความเคารพรักเสมือนแม่และพ่อแท้ๆ ของตน แม่อ้อนนั้นใจดีอ่อนโยนอ่อนหวานและเต็มไปด้วยเมตตาเอ็นดูเธอเช่นเดียว
ตอนที่1. “เรียนปีนี้ปีสุดท้ายแล้วใช่ไหมจ๊ะหนูฝน” คุณอโนมาถามสาวน้อยหวานซึ่งนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้า ดวงหน้าหวานละมุนซึ่งประดับด้วยคิ้วเรียวกับดวงตากลมโตสดใสฉายประกายหวานซึ้ง จมูกโด่งเรียวเล็กรับกับริมฝีปากอิ่มระเรื่อด้วยวัยสาวสด แม้ปลายฝนไม่ได้เป็นคนสวยฉูดฉาดบาดตาแต่ใบหน้าหวานละมุนของเธอก็ทำให้คนมองรู้สึกสบายตา สบายใจเช่นเดียวกับสายฝนเย็นฉ่ำที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผืนโลก...“ค่ะคุณแม่”“เร็วจังเลยนะ เผลอแป๊บเดียวเด็กๆ ก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาวหมดแล้ว” คุณอัคคีซึ่งอยู่ในวัยล่วงเลยมากว่าห้าสิบปีเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มละไม ร่างสูงที่ยังคงงามสง่าไม่เสื่อมคลายลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงออกมาส่งให้ปลายฝนซึ่งก็ยื่นมือไปรับด้วยรู้ดีว่าไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่ท่านมอบให้ได้“นี่เป็นของขวัญจากพ่อนะหนูฝน หนูควรจะได้รับมันให้สมกับที่เป็นเด็กดีของพ่อแม่มาตลอด” คุณอโนมาบอกเมื่อเห็นว่าปลายฝนมองสิ่งที่อยู่ในกล่องนิ่งเหมือนกังวล“ฝนขอบคุณมากค่ะคุณแม่ แต่ฝนเกรงว่า..”“ไม่ต้องกลัวว่าอาซันจะมาว่าหรอก เพราะเรื่องนี้เราจะเก็บเป็นความลับเฉพาะพวกเรา” คุณอัคคียิ้มกว้างรู้ทันความคิดของสาวน้อยที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู
ตอนที่2.วันรุ่งขึ้นปลายฝนก็แต่งตัวอย่างเรียบร้อยสวยงามเพื่อจะเข้าบริษัทไปฝึกงานพร้อมคุณอัคคี สาวน้อยยิ้มสดใสและเข้าไปช่วยงานในครัวเช่นทุกวันแต่วันนี้เหล่าแม่ครัวไม่ยอมให้เธอช่วยทำเพราะกลัวว่ากลิ่นอาหารจะติดเสื้อผ้าสวยๆ ของเธอเสียหมด“โธ่ รู้แบบนี้ฝนใส่ชุดอยู่บ้านเก่าๆ มาช่วยป้าแย้มกับป้าโฉมทำกับข้าวดีกว่า” ปลายฝนบ่นยิ้มๆ แต่ก็ช่วยสาวใช้ยกสำรับอาหารมาตั้งโต๊ะเหมือนดังเช่นทุกวันโดยไม่รู้ว่าขณะที่ตนกำลังจัดโต๊ะอยู่นั้นอัคราได้ยืนมองเธออยู่นานแล้ว“นี่คิดจะประจบเอาตำแหน่งไหนในบริษัทล่ะ” เสียงพูดลอยๆ ของน้ำเสียงที่เธอจำได้แม้แต่ในเวลาหลับก็ทำให้ปลายฝนชะงักใจเต้นรัวก้มหน้านิ่งไม่กล้าเงยหน้ามองเขากลัวว่าเขาจะหาเรื่องด่าว่าเธออีก“ทำเป็นเงียบนี่คืออะไร มารยาหรือเพราะละอายใจ” อัคราเสียงเข้มขึ้นปลายฝนเดาได้ไม่ยากว่าเขาจะทำหน้าแบบไหน คงจะมองเธอเหมือนสิ่งที่น่ารังเกียจและดวงตาเต็มไปด้วยแววดูแคลนอีกเช่นเดิม“อ้าว อาซันมาแต่เช้าเลยนะเรา..” คุณอัคคีซึ่งเดินลงมาพร้อมกับภรรยาที่รักเอ่ยทักยิ้มๆ อัคราค่อยๆ เลื่อนเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามคนที่เขาไม่ค่อยชอบหน้าแต่ต้องนั่งรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกันทุกวันและต้อง