Share

ตอนที่1. 

ตอนที่1. 

“เรียนปีนี้ปีสุดท้ายแล้วใช่ไหมจ๊ะหนูฝน” คุณอโนมาถามสาวน้อยหวานซึ่งนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้า ดวงหน้าหวานละมุนซึ่งประดับด้วยคิ้วเรียวกับดวงตากลมโตสดใสฉายประกายหวานซึ้ง จมูกโด่งเรียวเล็กรับกับริมฝีปากอิ่มระเรื่อด้วยวัยสาวสด แม้ปลายฝนไม่ได้เป็นคนสวยฉูดฉาดบาดตาแต่ใบหน้าหวานละมุนของเธอก็ทำให้คนมองรู้สึกสบายตา สบายใจเช่นเดียวกับสายฝนเย็นฉ่ำที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผืนโลก...

“ค่ะคุณแม่”

“เร็วจังเลยนะ เผลอแป๊บเดียวเด็กๆ ก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาวหมดแล้ว” คุณอัคคีซึ่งอยู่ในวัยล่วงเลยมากว่าห้าสิบปีเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มละไม ร่างสูงที่ยังคงงามสง่าไม่เสื่อมคลายลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงออกมาส่งให้ปลายฝนซึ่งก็ยื่นมือไปรับด้วยรู้ดีว่าไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่ท่านมอบให้ได้

“นี่เป็นของขวัญจากพ่อนะหนูฝน หนูควรจะได้รับมันให้สมกับที่เป็นเด็กดีของพ่อแม่มาตลอด” คุณอโนมาบอกเมื่อเห็นว่าปลายฝนมองสิ่งที่อยู่ในกล่องนิ่งเหมือนกังวล

“ฝนขอบคุณมากค่ะคุณแม่ แต่ฝนเกรงว่า..”

“ไม่ต้องกลัวว่าอาซันจะมาว่าหรอก เพราะเรื่องนี้เราจะเก็บเป็นความลับเฉพาะพวกเรา” คุณอัคคียิ้มกว้างรู้ทันความคิดของสาวน้อยที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู่

“ฝนอย่าคิดมากเลย อาซันก็ปากร้ายไปอย่างนั้นเอง แล้ววันนี้อาซันก็ไม่อยู่” เมื่อได้ยินว่าคนปากร้ายไม่อยู่ปลายฝนก็ยิ้มกว้างทันที

“จริงเหรอคะ”

“จ้า แหม ดูเราจะดีใจมากเลยนะที่อาซันไม่อยู่ แล้วฝนจะได้ยิ้มทุกวันเพราะอีกหน่อยอาซันจะต้องไปเรียนรู้งานที่อเมริกาตั้งสี่ปี” คุณอโนมาบอกด้วยรอยยิ้ม

“ระหว่างนี้ฝนก็มาช่วยงานพ่อที่บริษัทในฐานะเลขาของพ่อได้โดยไม่ต้องกังวลอะไร เริ่มฝึกงานเดือนหน้าเลยเป็นไง”

“ได้ค่ะ ฝนยินดีจะทำตามที่คุณพ่อต้องการทุกอย่างเลยค่ะ” สาวน้อยยิ้มกว้างแล้วกราบลงที่ตักของท่านทั้งสองด้วยความนอบน้อมทำให้ผู้ที่ชุบเลี้ยงเธอมายิ้มกว้างด้วยความปลาบปลื้มตื้นตัน

“เมื่อน้องอิ่มอุ่นกลับมาก็ช่วยสอนงานน้องต่อด้วยนะ เอาล่ะไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ก็ออกไปทำงานกับพ่อ”

“ค่ะคุณพ่อ..”

ปลายฝนสวมสร้อยคอทองคำขาวซึ่งมีจี้รูปปลาโลมาซึ่งมีดวงตาเป็นเพชรเม็ดเล็กๆ สีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นอัญมณีสีโปรดของเธอเลยทีเดียวนั้นติดตัวตลอดตั้งแต่ได้มันมา ปลายฝนชอบสีฟ้าซึ่งเธอก็จะมีสิ่งของเสื้อผ้าเป็นเสื้อผ้าโทนสีฟ้าเสียส่วนใหญ่

“หน้าบานเชียวนะประจบขออะไรจากเฮียไฟอีกล่ะ..”

“คุ คุณซัน” เสียงห้าวดังขึ้นในขณะที่เธอกำลังคิดอะไรเพลินๆ จนกระบอกน้ำในมือแทบหลุดดีที่ว่าเธอประคองมันไว้ได้ทัน เธอคิดว่าดึกป่านนี้แล้วอัคคีคงไม่กลับเข้ามาที่เรือนใหญ่และเธอก็โล่งใจว่าอัคราไปเที่ยวพักผ่อนกับเพื่อนๆ ของเขาที่ต่างจังหวัดไม่คิดว่าเขาจะกลับมาเร็วขนาดนี้ ส่วนเธอเองก็เกิดหิวน้ำและน้ำอุ่นในกระบอกน้ำใบโปรดก็หมดพอดีจึงลงมากดน้ำอุ่นในครัวขึ้นไปเก็บไว้ดื่มในตอนเช้าเมื่อตื่นนอน

“ใช่ฉันเอง คิดว่าผู้ชายที่ไหนล่ะ” ร่างสูงใหญ่ของอัคราเดินเข้ามาใกล้ทำให้ปลายฝนจำต้องถอยห่างหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้เขาให้มากที่สุด แม้จะอยู่ภายในรั้วบ้านเดียวกันแต่อัครจะอยู่เรือนหลังเล็กซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขาแต่อัคราจะมารับประทานอาหารกับคุณอโนมากับคุณอัคคีก่อนกลับเรือนเป็นประจำ

“คือ ฝนคิดว่าคุณซันกลับเรือนไปแล้วค่ะ”

“ที่นี่ก็บ้านฉันเหมือนกัน ฉันจะอยู่ตรงไหนมันก็เรื่องของฉัน คนอาศัยอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้กับฉัน”

“เปล่านะคะ ฝนก็แค่..”

“ไม่ต้องพูดไปให้พ้นๆ หน้าเลยไป เกะกะลูกตา” ปลายฝนก้มหน้าลงแล้วเดินตัวลีบผ่านหน้าเขาไปโดยไม่รีรอเพราะใจก็อยากจะไปให้พ้นๆ หน้าเขาอยู่แล้ว คนอะไรหน้าตาก็หล่อเหลาขั้นเทพแต่คำพูดที่ออกจากปากแต่ละคำเธอแทบทนฟังไม่ได้ แต่จะว่าไปแล้วอัคราก็พูดดีกับทุกคนยกเว้นเธอ..

“เดี๋ยวก่อน..” เท้าบางชะงักเมื่อได้ยินเสียงห้วนๆ ของเขาดังขึ้น หัวใจของปลายฝนเต้นระรัวด้วยความหวั่นระแวงว่าเขาจะต้องมีอะไรกับเธอแน่ๆ

“ค่ะ”

“ฉันไม่ชอบให้ใครหันหลังพูดด้วย..” ปลายฝนจำต้องค่อยๆ หันกลับมาแต่ไม่ได้เงยหน้ามองเขา แล้วหัวใจของเธอก็เต้นแรงมากขึ้นเมื่อเห็นปลายเท้าแกร่งสะอาดสะอ้านของเขามาหยุดอยู่ในโฟกัสสายตาที่หลุบมองพื้นในระยะที่คิดว่าจะมองไม่เห็นอัคราเพราะปลายฝนเองก็ไม่ได้อยากเห็นหน้าเขานักหรอก

“พื้นมันดีกว่าหน้าฉันรึไงถึงมองอยู่ได้” หาเรื่องกันได้ตลอด หาเรื่องกันได้ทุกอย่างจริงๆ ปลายฝนคิดเช่นนั้นก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเพียงอกว้างของเขาซึ่งชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้อออกทั้งแถวเผยให้เห็นอกแกร่งที่แม้ว่าเขาจะสวมเสื้อกล้ามสีขาวสะอาดไว้อีกชั้นแต่ก็ไม่อาจปิดบังอกกว้างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของบุรุษเพศได้ ปลายฝนหน้าร้อนผ่าวด้วยความขัดเขิน ก็ใครจะไปหน้าทนมองผู้ชายโชว์กล้ามเป็นมัดๆ ให้ดูได้หน้าตาเฉยกันล่ะ…

“คุณซันมีอะไรกับฝนรึเปล่าคะ”

“มี.. ฉันหิวข้าว มีอะไรกันบ้าง” ที่แท้ก็หิว ปลายฝนแอบผ่อนลมหายใจวางกระบอกน้ำลงแล้วไปเปิดตู้เย็นนำอาหารกล่องแช่แข็งออกมาสองสามกล่อง แม้ที่นี่จะชอบทำอาหารรับประทานเองจากของสดแต่ก็จะมีอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งติดบ้านไว้เผื่อมีใครหิวกลางดึกหรือมีเหตุจำเป็นต้องรับประทานอาหารพวกนี้ เช่นในยามนี้ เธอคงไม่คิดจะทำอาหารตอนดึกแน่ๆ เพราะมันดึกเกินกว่าจะลุกมาทำอาหาร

“ตอนนี้มีแค่อาหารพวกนี้นะคะ คุณซันจะทานอะไรคะฝนจะเวฟให้”

“อะไรก็ได้เร็วๆ ฉันหิวมาก” ปลายฝนแอบย่นจมูกใส่เขาแล้วหยิบข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่ไปใส่ไมโครเวฟให้เขาจนเมื่อได้เวลาที่เวฟเสร็จแล้วเธอก็หยิบกล่องออกมาเทใส่จานให้เขาพร้อมด้วยน้ำเปล่าและน้ำส้มคั้นสดอีกหนึ่งแก้ว

“ฝนออกไปได้แล้วใช่ไหมคะ”

“ไปสิ จะยืนเกะกะทำไมเห็นหน้าแล้วกินข้าวไม่ลง” ปลายฝนอยากจะกรีดร้องใส่หน้าหล่อๆ นั่นให้สาแก่ใจ คนอะไรจะขอบคุณสักคำก็ไม่มีซ้ำยังไล่เธอเหมือนหมูเหมือนหมา แต่สิ่งที่ปลายฝนทำคือเดินออกไปเงียบๆ แต่แล้วเสียงเข้มๆ ก็ดังขึ้น

“ฉันรู้แล้วว่าเธอประจบเอาอะไรจากเฮียไฟ..” ปลายฝนหายใจวาบแล้วกุมสร้อยคอไว้แน่นก่อนจะคว้ากระบอกน้ำแล้ววิ่งแจ้นออกไปจากห้องครัวทันทีราวกับกลัวว่าเขาจะแย่งชิงสิ่งนั้นไปจากเธอ...

อัครามองตามร่างเล็กในชุดนอนแบบกระโปรงยาวแขนตุ๊กตาสั้นเสมอเข่าไปยิ้มๆ สะใจที่ทำให้เจ้าหล่อนหวาดกลัวเขาได้จนวิ่งแจ้นไปเหมือนสมัยเด็กๆ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนปลายฝนก็จะต้องหวาดกลัวเขาจนตัวสั่น นั่นคือสิ่งที่อัครต้องการ

“ปลายฝน.. เธอจะต้องเจอกับฉันอีกนาน แล้วฉันจะทำให้เธอเจ็บปวดยิ่งกว่าที่ฉันกับแม่เจ็บปวด..”

ชายหนุ่มพูดกับตัวเองแล้วมองจานข้าวตรงหน้า คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างสงสัย เธอรู้ได้ยังไงว่าเขาชอบข้าวผัดแกงเขียวหวานและชอบดื่มน้ำส้มคั้น.. มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญกระมัง.. อัคราไหวไหล่แล้วหยิบช้อนตักข้าวเข้าปากอย่างหิวโหย รอยยิ้มบางๆ ประดับที่ริมฝีปากหยักสวยโดยที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าเผลอยิ้มออกมา...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status