“เรียนปีนี้ปีสุดท้ายแล้วใช่ไหมจ๊ะหนูฝน” คุณอโนมาถามสาวน้อยหวานซึ่งนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้า ดวงหน้าหวานละมุนซึ่งประดับด้วยคิ้วเรียวกับดวงตากลมโตสดใสฉายประกายหวานซึ้ง จมูกโด่งเรียวเล็กรับกับริมฝีปากอิ่มระเรื่อด้วยวัยสาวสด แม้ปลายฝนไม่ได้เป็นคนสวยฉูดฉาดบาดตาแต่ใบหน้าหวานละมุนของเธอก็ทำให้คนมองรู้สึกสบายตา สบายใจเช่นเดียวกับสายฝนเย็นฉ่ำที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผืนโลก...
“ค่ะคุณแม่”
“เร็วจังเลยนะ เผลอแป๊บเดียวเด็กๆ ก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาวหมดแล้ว” คุณอัคคีซึ่งอยู่ในวัยล่วงเลยมากว่าห้าสิบปีเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มละไม ร่างสูงที่ยังคงงามสง่าไม่เสื่อมคลายลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงออกมาส่งให้ปลายฝนซึ่งก็ยื่นมือไปรับด้วยรู้ดีว่าไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่ท่านมอบให้ได้
“นี่เป็นของขวัญจากพ่อนะหนูฝน หนูควรจะได้รับมันให้สมกับที่เป็นเด็กดีของพ่อแม่มาตลอด” คุณอโนมาบอกเมื่อเห็นว่าปลายฝนมองสิ่งที่อยู่ในกล่องนิ่งเหมือนกังวล
“ฝนขอบคุณมากค่ะคุณแม่ แต่ฝนเกรงว่า..”
“ไม่ต้องกลัวว่าอาซันจะมาว่าหรอก เพราะเรื่องนี้เราจะเก็บเป็นความลับเฉพาะพวกเรา” คุณอัคคียิ้มกว้างรู้ทันความคิดของสาวน้อยที่นั่งก้มหน้านิ่งอยู่
“ฝนอย่าคิดมากเลย อาซันก็ปากร้ายไปอย่างนั้นเอง แล้ววันนี้อาซันก็ไม่อยู่” เมื่อได้ยินว่าคนปากร้ายไม่อยู่ปลายฝนก็ยิ้มกว้างทันที
“จริงเหรอคะ”
“จ้า แหม ดูเราจะดีใจมากเลยนะที่อาซันไม่อยู่ แล้วฝนจะได้ยิ้มทุกวันเพราะอีกหน่อยอาซันจะต้องไปเรียนรู้งานที่อเมริกาตั้งสี่ปี” คุณอโนมาบอกด้วยรอยยิ้ม
“ระหว่างนี้ฝนก็มาช่วยงานพ่อที่บริษัทในฐานะเลขาของพ่อได้โดยไม่ต้องกังวลอะไร เริ่มฝึกงานเดือนหน้าเลยเป็นไง”
“ได้ค่ะ ฝนยินดีจะทำตามที่คุณพ่อต้องการทุกอย่างเลยค่ะ” สาวน้อยยิ้มกว้างแล้วกราบลงที่ตักของท่านทั้งสองด้วยความนอบน้อมทำให้ผู้ที่ชุบเลี้ยงเธอมายิ้มกว้างด้วยความปลาบปลื้มตื้นตัน
“เมื่อน้องอิ่มอุ่นกลับมาก็ช่วยสอนงานน้องต่อด้วยนะ เอาล่ะไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ก็ออกไปทำงานกับพ่อ”
“ค่ะคุณพ่อ..”
ปลายฝนสวมสร้อยคอทองคำขาวซึ่งมีจี้รูปปลาโลมาซึ่งมีดวงตาเป็นเพชรเม็ดเล็กๆ สีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นอัญมณีสีโปรดของเธอเลยทีเดียวนั้นติดตัวตลอดตั้งแต่ได้มันมา ปลายฝนชอบสีฟ้าซึ่งเธอก็จะมีสิ่งของเสื้อผ้าเป็นเสื้อผ้าโทนสีฟ้าเสียส่วนใหญ่
“หน้าบานเชียวนะประจบขออะไรจากเฮียไฟอีกล่ะ..”
“คุ คุณซัน” เสียงห้าวดังขึ้นในขณะที่เธอกำลังคิดอะไรเพลินๆ จนกระบอกน้ำในมือแทบหลุดดีที่ว่าเธอประคองมันไว้ได้ทัน เธอคิดว่าดึกป่านนี้แล้วอัคคีคงไม่กลับเข้ามาที่เรือนใหญ่และเธอก็โล่งใจว่าอัคราไปเที่ยวพักผ่อนกับเพื่อนๆ ของเขาที่ต่างจังหวัดไม่คิดว่าเขาจะกลับมาเร็วขนาดนี้ ส่วนเธอเองก็เกิดหิวน้ำและน้ำอุ่นในกระบอกน้ำใบโปรดก็หมดพอดีจึงลงมากดน้ำอุ่นในครัวขึ้นไปเก็บไว้ดื่มในตอนเช้าเมื่อตื่นนอน
“ใช่ฉันเอง คิดว่าผู้ชายที่ไหนล่ะ” ร่างสูงใหญ่ของอัคราเดินเข้ามาใกล้ทำให้ปลายฝนจำต้องถอยห่างหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้เขาให้มากที่สุด แม้จะอยู่ภายในรั้วบ้านเดียวกันแต่อัครจะอยู่เรือนหลังเล็กซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขาแต่อัคราจะมารับประทานอาหารกับคุณอโนมากับคุณอัคคีก่อนกลับเรือนเป็นประจำ
“คือ ฝนคิดว่าคุณซันกลับเรือนไปแล้วค่ะ”
“ที่นี่ก็บ้านฉันเหมือนกัน ฉันจะอยู่ตรงไหนมันก็เรื่องของฉัน คนอาศัยอย่างเธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้กับฉัน”
“เปล่านะคะ ฝนก็แค่..”
“ไม่ต้องพูดไปให้พ้นๆ หน้าเลยไป เกะกะลูกตา” ปลายฝนก้มหน้าลงแล้วเดินตัวลีบผ่านหน้าเขาไปโดยไม่รีรอเพราะใจก็อยากจะไปให้พ้นๆ หน้าเขาอยู่แล้ว คนอะไรหน้าตาก็หล่อเหลาขั้นเทพแต่คำพูดที่ออกจากปากแต่ละคำเธอแทบทนฟังไม่ได้ แต่จะว่าไปแล้วอัคราก็พูดดีกับทุกคนยกเว้นเธอ..
“เดี๋ยวก่อน..” เท้าบางชะงักเมื่อได้ยินเสียงห้วนๆ ของเขาดังขึ้น หัวใจของปลายฝนเต้นระรัวด้วยความหวั่นระแวงว่าเขาจะต้องมีอะไรกับเธอแน่ๆ
“ค่ะ”
“ฉันไม่ชอบให้ใครหันหลังพูดด้วย..” ปลายฝนจำต้องค่อยๆ หันกลับมาแต่ไม่ได้เงยหน้ามองเขา แล้วหัวใจของเธอก็เต้นแรงมากขึ้นเมื่อเห็นปลายเท้าแกร่งสะอาดสะอ้านของเขามาหยุดอยู่ในโฟกัสสายตาที่หลุบมองพื้นในระยะที่คิดว่าจะมองไม่เห็นอัคราเพราะปลายฝนเองก็ไม่ได้อยากเห็นหน้าเขานักหรอก
“พื้นมันดีกว่าหน้าฉันรึไงถึงมองอยู่ได้” หาเรื่องกันได้ตลอด หาเรื่องกันได้ทุกอย่างจริงๆ ปลายฝนคิดเช่นนั้นก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเพียงอกว้างของเขาซึ่งชายหนุ่มปลดกระดุมเสื้อออกทั้งแถวเผยให้เห็นอกแกร่งที่แม้ว่าเขาจะสวมเสื้อกล้ามสีขาวสะอาดไว้อีกชั้นแต่ก็ไม่อาจปิดบังอกกว้างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของบุรุษเพศได้ ปลายฝนหน้าร้อนผ่าวด้วยความขัดเขิน ก็ใครจะไปหน้าทนมองผู้ชายโชว์กล้ามเป็นมัดๆ ให้ดูได้หน้าตาเฉยกันล่ะ…
“คุณซันมีอะไรกับฝนรึเปล่าคะ”
“มี.. ฉันหิวข้าว มีอะไรกันบ้าง” ที่แท้ก็หิว ปลายฝนแอบผ่อนลมหายใจวางกระบอกน้ำลงแล้วไปเปิดตู้เย็นนำอาหารกล่องแช่แข็งออกมาสองสามกล่อง แม้ที่นี่จะชอบทำอาหารรับประทานเองจากของสดแต่ก็จะมีอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งติดบ้านไว้เผื่อมีใครหิวกลางดึกหรือมีเหตุจำเป็นต้องรับประทานอาหารพวกนี้ เช่นในยามนี้ เธอคงไม่คิดจะทำอาหารตอนดึกแน่ๆ เพราะมันดึกเกินกว่าจะลุกมาทำอาหาร
“ตอนนี้มีแค่อาหารพวกนี้นะคะ คุณซันจะทานอะไรคะฝนจะเวฟให้”
“อะไรก็ได้เร็วๆ ฉันหิวมาก” ปลายฝนแอบย่นจมูกใส่เขาแล้วหยิบข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่ไปใส่ไมโครเวฟให้เขาจนเมื่อได้เวลาที่เวฟเสร็จแล้วเธอก็หยิบกล่องออกมาเทใส่จานให้เขาพร้อมด้วยน้ำเปล่าและน้ำส้มคั้นสดอีกหนึ่งแก้ว
“ฝนออกไปได้แล้วใช่ไหมคะ”
“ไปสิ จะยืนเกะกะทำไมเห็นหน้าแล้วกินข้าวไม่ลง” ปลายฝนอยากจะกรีดร้องใส่หน้าหล่อๆ นั่นให้สาแก่ใจ คนอะไรจะขอบคุณสักคำก็ไม่มีซ้ำยังไล่เธอเหมือนหมูเหมือนหมา แต่สิ่งที่ปลายฝนทำคือเดินออกไปเงียบๆ แต่แล้วเสียงเข้มๆ ก็ดังขึ้น
“ฉันรู้แล้วว่าเธอประจบเอาอะไรจากเฮียไฟ..” ปลายฝนหายใจวาบแล้วกุมสร้อยคอไว้แน่นก่อนจะคว้ากระบอกน้ำแล้ววิ่งแจ้นออกไปจากห้องครัวทันทีราวกับกลัวว่าเขาจะแย่งชิงสิ่งนั้นไปจากเธอ...
อัครามองตามร่างเล็กในชุดนอนแบบกระโปรงยาวแขนตุ๊กตาสั้นเสมอเข่าไปยิ้มๆ สะใจที่ทำให้เจ้าหล่อนหวาดกลัวเขาได้จนวิ่งแจ้นไปเหมือนสมัยเด็กๆ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนปลายฝนก็จะต้องหวาดกลัวเขาจนตัวสั่น นั่นคือสิ่งที่อัครต้องการ
“ปลายฝน.. เธอจะต้องเจอกับฉันอีกนาน แล้วฉันจะทำให้เธอเจ็บปวดยิ่งกว่าที่ฉันกับแม่เจ็บปวด..”
ชายหนุ่มพูดกับตัวเองแล้วมองจานข้าวตรงหน้า คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างสงสัย เธอรู้ได้ยังไงว่าเขาชอบข้าวผัดแกงเขียวหวานและชอบดื่มน้ำส้มคั้น.. มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญกระมัง.. อัคราไหวไหล่แล้วหยิบช้อนตักข้าวเข้าปากอย่างหิวโหย รอยยิ้มบางๆ ประดับที่ริมฝีปากหยักสวยโดยที่เจ้าตัวเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าเผลอยิ้มออกมา...
ตอนที่2.วันรุ่งขึ้นปลายฝนก็แต่งตัวอย่างเรียบร้อยสวยงามเพื่อจะเข้าบริษัทไปฝึกงานพร้อมคุณอัคคี สาวน้อยยิ้มสดใสและเข้าไปช่วยงานในครัวเช่นทุกวันแต่วันนี้เหล่าแม่ครัวไม่ยอมให้เธอช่วยทำเพราะกลัวว่ากลิ่นอาหารจะติดเสื้อผ้าสวยๆ ของเธอเสียหมด“โธ่ รู้แบบนี้ฝนใส่ชุดอยู่บ้านเก่าๆ มาช่วยป้าแย้มกับป้าโฉมทำกับข้าวดีกว่า” ปลายฝนบ่นยิ้มๆ แต่ก็ช่วยสาวใช้ยกสำรับอาหารมาตั้งโต๊ะเหมือนดังเช่นทุกวันโดยไม่รู้ว่าขณะที่ตนกำลังจัดโต๊ะอยู่นั้นอัคราได้ยืนมองเธออยู่นานแล้ว“นี่คิดจะประจบเอาตำแหน่งไหนในบริษัทล่ะ” เสียงพูดลอยๆ ของน้ำเสียงที่เธอจำได้แม้แต่ในเวลาหลับก็ทำให้ปลายฝนชะงักใจเต้นรัวก้มหน้านิ่งไม่กล้าเงยหน้ามองเขากลัวว่าเขาจะหาเรื่องด่าว่าเธออีก“ทำเป็นเงียบนี่คืออะไร มารยาหรือเพราะละอายใจ” อัคราเสียงเข้มขึ้นปลายฝนเดาได้ไม่ยากว่าเขาจะทำหน้าแบบไหน คงจะมองเธอเหมือนสิ่งที่น่ารังเกียจและดวงตาเต็มไปด้วยแววดูแคลนอีกเช่นเดิม“อ้าว อาซันมาแต่เช้าเลยนะเรา..” คุณอัคคีซึ่งเดินลงมาพร้อมกับภรรยาที่รักเอ่ยทักยิ้มๆ อัคราค่อยๆ เลื่อนเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามคนที่เขาไม่ค่อยชอบหน้าแต่ต้องนั่งรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกันทุกวันและต้อง
ตอนที่3.“นั่นหนูฝนนี่คะคุณพี่ อ้าวแล้วนั่นขึ้นรถไปกับใครแล้วนะ ท่าทางสนิทสนมกันน่าดู” คุณอโนมาพูดขึ้นพร้อมทั้งชี้ให้สามีดูเมื่อพวกตนมาทันก่อนที่ปลายฝนจะไปถึงป้ายรถเมล์และก็พบว่าปลายฝนขึ้นรถไปกับชายหนุ่มคนหนึ่งท่าทางภูมิฐานและรถยนต์ที่ชายหนุ่มคนนั้นจอดรับก็บ่งบอกฐานะของคนขับเป็นอย่างดี รถราคาหลายสิบล้านก็คงไม่ธรรมดา แม้จะมองเห็นไกลๆ ชายหนุ่มที่ลงมาเปิดประตูให้ปลายฝนก็ดูมีสง่าราศีไม่เบาเลยทีเดียว และดูท่าว่าหน้าตาคงจะหล่อเหลาเอาการทีเดียวทั้งรูปร่างยังสูงสง่าน่ามองอีกด้วย“ท่าทางจะหล่อเหลาใช้ได้นะอ้อน แหม.. ถ้าเขาเป็นคนรักของหนูฝนพี่นี่พร้อมจะยกให้เลยนะเนี่ย” คุณอัครายิ้มกว้าง“จริงด้วยค่ะ อืม.. ว่าแต่หน้าตาคุ้นๆ นะคะ เหมือนเคยเห็นหน้าเด็กคนนั้นที่ไหนนะ”“สงสัยคงเป็นหนุ่มๆ ในสต๊อกของยายนั่นล่ะมั้งครับคุณแม่ ยายนั่นก็ท่าทางไม่เบาที่มหาวิทยาลัยก็เห็นมีคนมาติดพันตั้งหลายคน” คนที่นั่งอยู่ข้างหลังอดแขวะไม่ได้ คุณอโนมาหันไปสบตากับสามีแล้วยิ้มบางๆ“ก็คนสวยน่ารักอย่างหนูฝนจะมีคนมารักมาชอบพอติดพันก็เป็นธรรมดานะอาซัน ใครจะเหมือนอิ่มอุ่นแม่น้องสาวตัวดีของเราล่ะ รายนั้นน่ะ แม่อ้อนจะต้องบังคับให้ผู
ตอนที่4.“โอ๊ย ตาแก่ขี้บ่น.. แล้วฉันจะคอยดู หึหึ..” สิงหราชมองเพื่อนรักอย่างไม่เข้าใจแล้วยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ มองสระว่ายน้ำใสแจ๋วอย่างสบายอารมณ์ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงกว่า 188 เซนติเมตรขึ้นบิดกายน้อยๆ แล้วกระโดดลงน้ำไปแหวกว่ายอย่างสำเริงสำราญใจปล่อยให้คนขี้หวงขี้บ่นมองตาขวางขุ่น สักพักร่างสูงใหญ่ไม่แพ้กันก็เดินไปกระโดดลงน้ำแหวกว่ายแข่งกับเพื่อนรักบ้าง สองหนุ่มว่ายน้ำกันอยู่นานก่อนจะชวนกันออกไปเที่ยวสังสรรค์ประสาหนุ่มโสดที่ผับประจำของพวกตน“ฉันได้ข่าวว่าทรายจะไปพร้อมกับนายเหรอซัน” สิงหราชถามถึงเพื่อนสาวคนสนิทของอัคราที่จะเดินทางไปอเมริกาพร้อมกัน“อืม คืนนี้ก็จะมาด้วย นั่นไงมาแล้ว” อัคราพยักพเยิดให้เพื่อนรักมองไปยังหญิงสาวร่างระหงส์สวยงามสะดุดในชุดเดรสสั้นรัดรูปอวดความงามของรูปร่างสาวอย่างน่ามองทราย เป็นบุตรสาวของนักธุรกิจชื่อดังและเป็นสาวไฮโซมากความสามารถที่ใครๆ ต่างจับตามองชนิดที่ว่าทั้งเก่งทั้งสวยและรวยมากนั่นเอง“อ้าว สิงโต มาด้วยเหรอไม่เห็นซันบอกทรายเลย”“สงสัยอยากเซอร์ไพรส์มั้ง” สิงหาราชพูดยิ้มๆ ก่อนที่ทั้งสามจะพูดคุยกันไปเรื่อยๆ จนดึกสิงหราชจึงได้แยกกลับไปก่อน แต่ทรายดูอิดอ
ตอนที่5.ชายหนุ่มวางร่างเล็กลงบนเตียงกว้างของตนแผ่วเบาปลดเปลื้องชุดนอนเนื้อนุ่มของเธอออกอย่างง่ายดายโดยที่ปลายฝนไม่มีแรงขัดขืนปัดป้องได้แต่นอนหายใจกระเส่าหวามไหวมึนงงกับจุมพิตวาบหวามที่เขาปรนเปรอทั้งความเสียวซ่านที่กำซาบอยู่ในอกสาวทำให้เธออ่อนเปลี้ยไปทั้งกาย“เธอสวยจริงๆ ปลายฝน สวยมาก...” เสียงแหบพร่าของอัคราดังขึ้นเรียกสติที่เตลิดไปไกลของปลายฝนให้กลับมาแต่เธอก็ต้องตะลึงมองร่างแกร่งตรงหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่ออัคราเปลือยเปล่าตลอดร่าง ร่างแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้องดงามนั้นงดงามราวนายแบบนิตยสารระดับโลก หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากแล้วก็ต้องรีบยกมือขึ้นปิดป้องร่างสาวของตนด้วยความอับอายเมื่อตอนนี้เธอก็เปลือยเปล่าไม่ต่างจากเขา“อุ๊ย อย่านะคะคุณอัครา อย่าทำอะไรฝนเลยนะคะ..” หญิงสาวอ้อนวอนด้วยความตระหนกหวามไหว ยิ่งเห็นแววตาพร่าพรายของเขาในแสงสลัวและเสียงฝนที่กระหน่ำอย่างหนักปลายฝนก็ยิ่งหมดหวัง“เธอยั่วฉันเอง ดังนั้นฉันต้องทำให้เธอสมดังใจ” แม้ในตอนนี้เขาก็ยังพูดจาร้ายๆ กับเธอปลายฝนดิ้นรนจะลงจากเตียงกว้างหมายจะคว้าเสื้อนอนของตนมาสวมใส่แต่อัคราผลักร่างเล็กลงบนเตียงแล้วคร่อมทับเธอไว้ทั้
ตอนที่6.ปลายฝนขยับกายอย่างเมื่อยล้ารู้สึกแสบร้าวไปทั้งลำคอทั้งยังรู้สึกปวดศีรษะอย่างมากและเหมือนว่ามีใครเอาอะไรมาถ่วงมาทับไว้จนเธอรู้สึกว่ามันทั้งหนักและปวดร้าวจนไม่สามารถยกศีรษะขึ้นจากที่นอนได้...“เป็นไงบ้างคะคุณหนูฝน” ป้าโฉม แม่บ้านวัยกลางคนเอ่ยถามเบาๆ ปลายฝนพยายามปรือตามองนางอย่างยากลำบาก...“ปวดหัวค่ะป้าโฉม แล้วนี่..” ปลายฝนมองเพดานห้องแล้วก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อตอนนี้เธออยู่ในห้องของตัวเอง แล้วเธอก็รู้สึกร้อนไปทั้งกายเมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา มันไม่ใช่ความฝันเมื่อตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งกายเพราะการถูกรุกรานอย่างหนักจากคนที่บอกว่าเกลียดเธอนักหนา เกือบรุ่งสางที่เขายอมปล่อยเธอลงจากเตียง แม้จะแทบสิ้นไร้เรี่ยวแรงแต่เพราะสำนึกชั่วดีที่มีในใจทำให้เธอฝืนพาร่างกายที่บอบช้ำจากบทรักเร่าร้อนของเขากลับมาที่ห้องด้วยความรู้สึกอับอายและหวาดกลัวว่าใครจะมาเห็น ดีที่ว่าฝนตกยังไม่หยุดและทุกคนยังไม่ตื่นเธอจึงกลับเข้ามาถึงห้องได้โดยไม่มีใครเห็น และเมื่อมาถึงห้องเธอก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วล้มตัวลงบนเตียงด้วยความอ่อนเพลียและหลับไปจนมารู้สึกตัวเอาตอนนี้พร้อมกับอาหารปวดห
ตอนที่7.“ไม่รู้ล่ะ พี่รู้ดีว่าตัวเองสวย” สองพี่น้องต่อล้อต่อเถียงกันอย่างสนุกสนานสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคนในครอบครัว“โน่น พี่สิงโตสุดหล่อหล่อมาแล้ว..” อาทิตย์วราร้องขึ้นด้วยอาการดีอกดีใจสุดขีดเมื่อมองเห็นร่างสูงของสิงหราชถือดอกไม้ช่อใหญ่มาหาพวกตนด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์“สวัสดีครับคุณอา”“สวัสดีจ้ะ” สองสามีภรรยารับไหว้ชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มเอ็นดู“สวัสดีครับพี่สิงโต”“สวัสดีค่ะพี่สิงโต เอ.. ดอกไม้นี่เอามาให้ใครกันคะ” ปลายฝนล้อชายหนุ่มยิ้มๆ“ก็จะใครละครับก็เอามาให้ฝนนั้นล่ะ..” ชายหนุ่มรับพร้อมทั้งยื่นดอกไม้ช่อสวยให้ปลายฝนแล้วปรายตามองสาวน้อยแสนงามที่ตนเคยล้อว่า ยายอิ่มอุ่นตุ่มเดินได้ ในวันวานด้วยแววตายิ้มพรายเหมือนล้อเลียน อัจฉรียาพรจึงไหว้เขาอย่างเสียไม่ได้เมื่อทุกคนมองเธอเป็นตาเดียว...“หวัดดีค่ะ” สิงหราชยิ้มรับแล้วหันมายิ้มให้ปลายฝน“ยินดีด้วยนะครับน้องฝน ทั้งยินดีกับความสำเร็จของบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับสองและยินดีกับตำแหน่งเลขาที่ทั้งสวยและเก่งของคุณอาอัคคีด้วย..” ปลายฝนยิ้มรับด้วยความปลาบปลื้ม“ขอบคุณค่ะแม้ว่าสิ่งที่พี่สิงโตพูดมันจะดูเวอร์ไปก็เถอะ”“ไม่เวอร์ไปเสียหน่อยไม่เช
ตอนที่8.“ไม่เลยจ้ะ ทุกคนเรามันก็ต้องมีผิดพลาดและพลั้งเผลอกันได้ทุกเมื่อ แม่อ้อนเองก็เคยพลั้งพลาด การที่ใครสักคนจะทำผิดทั้งโดยไม่ตั้งใจหรือตั้งใจ ไม่ได้หมายถึงว่าคนคนนั้นเป็นคนไม่ดีหรือเหลวไหลน่าอับอาย แต่เมื่อผิดแล้วแก้ไขก็สมควรแก่การให้อภัย แต่ถ้าผิดพลาดพลั้งแล้วไม่แก้ไขไม่ปรับปรุงตัวยังคงทำผิดอยู่ซ้ำๆ ต่างหากที่น่าเป็นห่วงและน่าอับอายน่าผิดหวัง ฝนไมได้ทำให้แม่กับพ่อผิดหวังเลยนะจ๊ะตรงกันข้ามฝนเป็นเด็กดีและทำให้พ่อกับแม่ภูมิใจมาก อย่าคิดมากเลยลูก” “แต่ฝน..” ปลายฝนสะอื้นฮึกตีบตันไปทั้งใจ“เช็ดน้ำตาซะ แล้วออกไปทานข้าวกันกับครอบครัวของเรา จำไว้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราคือคนในครอบครัวเดียวกัน ต้องรักกันสามัคคีและให้กำลังใจกัน ถ้าหากฝนท้องจริงๆ แม่ก็ดีใจที่จะได้อุ้มหลานไม่ว่าเด็กคนนี้จะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม เขาคือลูกของฝนและเป็นหลานของแม่ จำไว้นะลูก”คุณอโนมาเช็ดน้ำตาออกจากแก้มขาวซีดเบาๆ ปลายฝนพยักหน้าแล้วกราบลงกับอกอุ่นของนางด้วยความซาบซึ้ง หนทางที่มืดมนก่อนหน้านี้พลันสว่างไสวไปด้วยความรักและเมตตาของคุณอโนมา เธอช่างมีบุญเหลือเกินที่ได้คุณอโนมารับอุปการะเลี้ยงดูด้วยดีเสมอมา..
ตอนที่9.“เอาล่ะในเมื่อคิดว่ามันสมควรแล้วฝนก็ไม่ห้ามหรอก แต่อยากจะบอกว่าให้อิ่มอุ่นคิดไตร่ตรองดีๆ ก่อนก็เท่านั้น เพราะต่างก็มีหน้ามีตาทั้งสองฝ่าย อีกอย่างคุณลุงคุณป้าก็เป็นคนที่เรารักและเคารพจะทำการหักหน้าท่านด้วยการหนีการแต่งงานก็กระไรอยู่” ปลายฝนเตือนสติ“อิ่มอุ่นรู้ค่ะ แต่ฝนไม่ต้องห่วงเพราะอิ่มอุ่นมีแผนในใจแล้ว”“จ้าแม่คนเก่ง เอาล่ะในเมื่อไม่เป็นอะไรก็ลงไปทานข้าวได้แล้ว”“ค่า คุณแม่ คุณแม่ฝนเจ้าระเบียบ..” อัจฉรียาพรลากเสียงล้อเลียนปลายฝนส่ายหน้ายิ้มๆ กับท่าทางเหมือนเด็กๆ ของอีกฝ่ายก่อนจะเดินลงไปรับประทานอาหารพร้อมกัน“สำลี อยู่ไหนลูกมากินข้าวเร็ว สำลี..” ปลายฝนก้มๆ เงยๆ ร้องเรียกเจ้าแมวเหมียวตัวสีขาวสะอาดทั้งตัวซึ่งเธอชุบเลี้ยงมันจากแมวจรจัดตัวผอมแห้งจนตอนนี้กลายเป็นแมวอ้วนฉุแสนจะขี้เกียจและชอบเที่ยวซุกซนไปทั่วทั้งบ้านวันนี้เธอเห็นฝนตั้งเค้ามาก็กลัวมันจะไปเล่นเพลินแล้วเปียกฝนยิ่งฝนลงเม็ดบางๆ มาก็ยิ่งนึกห่วงแล้วช่วงปลายฝนต้นหนาวเช่นนี้ก็มีฝนตกตลอดหลายวันที่ผ่านมา“ไปไหนกันนะสำลี อย่าบอกนะว่าไปหลบที่บ้านนั้นอีกแล้ว” ปลายฝนถอนใจเมื่อมองไปยังบ้านหลังงามที่ยังคงได้รับการดูแลอย
ตอนที่61. ตอนอวสาน“มาแล้วเหรอครับเมียจ๋า มามะ มาอาบน้ำกัน”“นี่อะไรคะ..” ปลายฝนชูชุดชั้นในซีทรูลูกไม้สีดำขึ้นมองเขาอย่างคาดโทษ“อุ้ย อะ เอ่อ..” อัคราหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าพลางหลบตาภรรยาอย่างขัดเขิน“พี่ซันนี่เองที่เป็นโจรโรคจิตขโมยชุดชั้นในของฝนไป..” ปลายฝนทำท่าขึงขังแต่ในใจนั้นขันชายหนุ่มเต็มทีและขัดเขินเช่นกัน“ก็.. พี่ซันเห็นมันสวยดีและคิดว่ามันจะเป็นไงน้าถ้าฝนใส่มันให้พี่ซันดู” คราวนี้อัครานัยน์ตาพราวพรายหยิบชุดชั้นในชุดนั้นวางไว้แล้วค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างงามช้าๆ“หลังจากอาบน้ำแล้วฝนใส่ชุดนี้นอนนะ..” อัคราบอกยิ้มๆ แววตาบ่งบอกถึงจินตนาการที่คิดไว้โจ่งแจ้ง“บ้า.. พี่ซันลามก โรคจิต..” ปลายฝนจึงทุบอกกว้างเบาๆ อย่างขัดเขินกับแววตาท่าทางของสามี...“ว่าสามีแบบนี้ต้องโดนทำโทษหนักๆ แล้วพี่จะทำโทษด้วยการให้นักโทษสาวใส่ชุดชั้นในชุดนั้นเต้นระบำให้ดูด้วย..”“ถ้าใส่ชุดนี้น
ตอนที่60.“ขอบคุณฝนมากเลยนะที่ให้โอกาสพี่ซันเป็นพ่อของน้องแซมและเป็นสามีของฝน” อัครากุมมือบางไว้แนบอกมองใบหน้าหวานซึ้งอย่างแสนรัก ปลายฝนยิ้มบางๆ ให้สามีด้วยความรู้สึกเช่นเดียวกัน“ฝนก็ต้องขอบคุณค่ะ ที่พี่ซันรักเราและกลับตัวเป็นสามีที่ดีของฝน” หญิงสาวยิ้มล้อเลียนเขาอัคราหอมแก้มใสอย่างมันเขี้ยว“หึ ได้ทีก็ล้อกันจังนะ”“ก็ฝนเองยังไม่อยากเชื่อเลยนะคะว่าพี่ซันจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จริงๆ เห็นเกลียดฝนอย่างกับอะไรดี ใจร้ายกับฝนมาตลอดด้วย”“ก็ตอนนั้นไม่รู้ใจตัวเองนี่นาว่ารักเมียแค่ไหนที่ทำร้ายๆ ไปก็เพราะหึง พอรู้ตัวก็ต้องพยายามจีบเมียให้รักให้หลงเราน่ะสิ แต่ก็โดนแกล้งให้คุกเข่าขอแต่งงานหน้าโบสถ์ด้วย..” อัคราทำหน้ามุ่ยเมื่อเห็นวีดีโอที่ถูกเสกแอบถ่ายไว้ทีไรทั้งตื้นตันและขัดเขินเสียทุกที แต่เขาก็ชอบดูมันซ้ำๆ เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาทำมันด้วยใจจริงและเห็นทีไรก็อดขันตัวเองไม่ได้ ดูไม่จืดเลยอัคราเอ๋ย ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เมื่อนึกเห็นภาพตนเองในวันนั้น
ตอนที่ 59.“สามีใครนะปากหวานน่ารักจัง”“แล้วทรายล่ะรักพี่ตอนไหน”“อืม ไม่รู้เหมือนกันค่ะ มารู้ตัวอีกทีก็ไม่อยากให้ผู้ชายคนนี้เห็นใครสำคัญกว่าทราย เขาต้องมองทรายและเป็นของทรายคนเดียว ทรายขี้หวงนะจะบอกให้..” หญิงสาวบอกพลางกอดแขนเขาแน่นแล้วซบหน้าลงกับท่อนแขนกำยำของสามีเป็นการตอกย้ำยืนยัน พ่อเลี้ยงกำพลหัวเราะท่าทางของภรรยาเบาๆ“จริงๆ แล้ว พี่รักทรายเพราะทรายเป็นคนที่มีความดีมีความกตัญญูต่างหาก..” ชายหนุ่มไล้แก้มนวลของภรรยาเบาๆ ทรายมองเขาด้วยแววตาซาบซึ้งมือเรียวลูบแก้มสากของเขาอย่างแสนรักพูดไม่ออกกับสิ่งที่เขาบอกมา“ตอนที่เราเผลอมีอะไรกันแล้วพี่ก็แอบติดใจลีลาสาวขี้เมานะ ก็เลยสืบเรื่องของทรายแล้วพบว่าผู้หญิงคนนี้หัวใจแกร่งเหลือเกิน ถึงเธอจะทำตัวเหมือนสาวสมัยใหม่แต่สิ่งที่เธอทำให้พี่ประทับใจคือเธอรักพ่อของเธอมากและไม่ยอมทอดทิ้งท่านไปไหน และยังดูแลท่านอย่างดีในขณะที่คนอื่นๆ หนีหายไปหมด แถมเธอยังขายกระเป๋าใบโปรดของตัวเองเพื่อเอาเงินมารักษาพ่อด้วยและก็ยังขยันด้ว
ตอนที่ 58.“พี่ซันคะลุกขึ้นเถอะค่ะทุกคนมองใหญ่แล้ว แล้วแผลล่ะเป็นไงบ้างเดี๋ยวก็เจ็บหรอก..” ปลายฝนบอกเขาเบาๆ อดห่วงคนเจ็บไม่ได้“ไม่ลุก ไม่ปล่อย ไม่เจ็บ หากปล่อยฝนไปฝนก็จะทิ้งพี่ไว้คนเดียว อย่าไปเลยนะอยู่กับพี่เถอะอยู่ด้วยกันสามคนพ่อแม่ลูก พี่ซันสัญญาจะทำให้ฝนกับลูกมีความสุขที่สุด พี่ซันจะเป็นสามีเป็นพ่อที่ดี..” อัคราหลับหูหลับตากอดขาปลายฝนแน่นโดยไม่สนใจใคร น้องแซมจึงเดินมายืนข้างๆ แล้วตบบ่าผู้เป็นพ่อเบาๆ“คุณพ่อซันค้าบ แม่ฝนกับน้องแซมรู้แล้วว่าพ่อซันรักเรา แต่ตอนนี้แม่ฝนหน้างี้แดงม้ากมาก เหมือนจาเป็นไข้ พ่อซันปล่อยแม่ฝนเถอะค้าบแซมจาได้พาแม่ฝนไปหาหมอ” เด็กชายพูดอย่างไร้เดียงสาเมื่อเห็นว่าคุณแม่คนสวยหน้าแดงก่ำเสียเหลือเกิน...“แต่ถ้าพ่อซันปล่อย แม่ฝนก็จะพาน้องแซมหนีไปจากพ่อซัน พ่อซันยอมไม่ได้” อัครายังคงคุกเข่ากอดขาปลายฝนแน่นท่าทางดื้อดึงเหมือนน้องแซมไม่มีผิด เด็กชายเอียงคอมองบิดาของตนอย่างสงสัยทั้งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดมองหน้าแม่ฝนทีมองหน้าพ่อซันทีอย่างครุ่
ตอนที่ 57.อัคราถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและได้รับการช่วยเหลือจนปลอดภัย แม้จะถูกยิงชนิดแบบที่เรียกว่าตัดขั้วหัวใจแต่อัคราก็รอดมาได้เพราะโชคดีที่เขามีหัวใจอยู่หน้าอกด้านขวา เพราะหากหัวใจของเขาอยู่ด้านซ้ายอัคราก็คงตายไปตั้งแต่ที่ถูกยิงเมื่อครั้งยังเป็นเพียงเด็กชายในวัยกำลังโต แต่ชายหนุ่มยังคงพักฟื้นอยู่ในห้องปลอดเชื้อหลายวันก่อนจะย้ายมาอยู่ห้องพักฟื้นพิเศษหลังจากที่อาการโดยรวมเขาดีขึ้น ส่วนเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางตำรวจก็จัดการอย่างเรียบร้อยและคุณอัคคีก็เป็นธุระจัดการเรื่องราวต่างๆ แทนอัครา จนทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติตลอดระยะเวลาที่เขาพักฟื้นอยู่ปลายฝนกับน้องแซมก็เป็นพยาบาลดูแลเขาไม่ห่างหายดูเหมือนปลายฝนกับอัคราเข้าอกเข้าใจกันด้วยดี แต่แล้วในวันที่อัคราจะออกจากโรงพยาบาลเขากลับไม่เห็นแม้แต่เงาของปลายฝนสร้างความร้อนรนใจให้กับชายหนุ่มยิ่งนัก...“เฮีย ฝนไปไหน.. เมียผมไปไหน..” อัคราถามพี่ชายซึ่งช่วยมาเก็บข้าวของด้วยตัวเองด้วยน้ำเสียงเหมือนเด็กชายอัครายามงอแงไม่มีผิด“ฝนก็มาเฝ้านายทั้งคืนแล้วนี่นา”
ตอนที่56.“วางปืนลงซะแล้วยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ” เจ้าหน้าที่ตำรวจตะโกนบอกคนร้ายทั้งสอง“ไม่ยอมโว้ย ถอยไป ออกไป ไม่งั้นกูจะยิงผู้หญิงคนนี้ มันจะปลอดภัยถ้าพวกมึงปล่อยพวกกูไป..” คนร้ายพูดพลางรั้งร่างบางของปลายฝนถอยหลังเข้าไปในตลาดซึ่งมีผู้คนขวักไขว่ทำให้ยากต่อการควบคุมและจับกุมคนร้ายและในช่วงเย็นที่คนกำลังออกมาจับจ่ายซื้อของผู้คนในตลาดก็ยิ่งเยอะอีกทั้งไทยมุงที่อยากรู้อยากเห็นก็มีมากปลายฝนใจเสียและตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่เธอพยายามตั้งสติและมองหาช่องว่างเพื่อดิ้นให้หลุดจากคนร้ายและไม่เป็นอันตรายกับตัวเองทั้งปรายตามองอัคราที่ส่งสัญญาณให้เธอใจเย็นๆ และปากของเขาที่ขยับบอกว่าไม่ต้องกลัว หญิงสาวใจชื้นขึ้นค่อยๆ ก้าวตามคนร้ายไปในตลาดเรื่อยๆ“ถ้าไม่อยากตายหลบไปโว้ย หลบๆ” มันทั้งตะโกนและถือปืนกราดปืนไปรอบๆ คนที่กำลังซื้อของและมุงดูอยู่ก็หวีดร้องแล้วถอยหลบออกไปฝูงคนที่แตกฮือไปตลอดทางที่คนร้ายเดินผ่านทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามได้ลำบากแต่ปลายฝนเห็นร่างสูงของอัคราที่หลบหลีกผ
ตอนที่55.“ค่ะ คุณแม่อ้อนเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฝนฟังหมดแล้ว” เสียงสัญญาณเตือนว่าหมดเวลาเยี่ยมนักโทษดังขึ้นปลายฝนก็น้ำตารื้นขึ้นมาอีกครั้ง“หมดเวลาเยี่ยมแล้ว พ่อดีใจและมีความสุขมากที่ได้พบลูกวันนี้นะปลายฝน ดูแลตัวเองและเลี้ยงหลานของพ่อให้เป็นคนดีนะ อย่าให้หลงผิดเหมือนพ่อ”“ค่ะ ฝนรักพ่อนะคะ..” หญิงสาวก้มลงกราบบิดากับพื้นซึ่งแม้จะมีผนังกางกั้นแต่ตำแหน่งที่เธอกราบลงไปก็ตรงกับเท้าของบิดาที่ยืนมองอยู่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและหยาดน้ำตาแห่งความตื้นตันก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพาเขากลลับเข้าไปยังแดนจองจำที่จะต้องอยู่ไปอีกหลายปี เนื่องจากอาคมทำตัวเป็นนักโทษที่ดีเขาจึงได้รับพระราชทานอภัยโทษจากโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นจำคุกสี่สิบปีแต่กว่าจะถึงวาระการจองจำเขาก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ออกไปจากดินแดนแห่งนี้...ปลายฝนเดินมายังรถยนต์ซึ่งจอดไว้ที่ลานจอดรถอย่างเศร้าสร้อยแม้ว่าเธอจะดีใจที่ได้เจอพ่อแต่เมื่อรู้ว่าท่านยังเหลือเวลาอีกห
ตอนที่ 54.แม้คุณพ่อคุณแม่จะยังไม่เข้าอกเข้าใจกันแต่สำหรับน้องแซมนั้นเด็กชายรู้สึกมีความสุขมากที่คุณพ่อมาอยู่กับตนและยังเล่นเป็นเพื่อนด้วยเด็กชายติดคุณพ่อซันแจจะกินจะนอนก็ร่ำร้องหาบิดาทั้งยังช่างพูดช่างจาจนอัคราทั้งรักทั้งหลงลูกชายตัวน้อยจนถอนตัวไม่ขึ้นยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้เขาทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจปลายฝน“นายว่าฉันควรจะทำไงดีวะไอ้สิงโต”“ก็บอกรักเขาไปสิ” สิงหราชบอกเพื่อนรักแล้วส่ายหน้ากับความซื่อบื้อของอัครา“ฉันไม่กล้า..” อัคราสารภาพอายๆ“โห.. อาซัน ขนาดนายคุกเข่าเอาดอกบัวไปขอน้องฝนเขาแต่งงานหน้าโบสถ์จนเขายอมตกลงว่าจะแต่งงานด้วยแล้วยังมีอะไรที่ไม่กล้าอีกวะ” สิงหาราชอยากจะหัวเราะเสียนักหากไม่เกรงใจแววตาเขียวๆ ของเพื่อนรักที่มองเขาทั้งอับอายขัดเขินและเคืองขุ่น...“เออ.. แสบนักนะพวกนาย เสกอีกคน หึ หากฉันรู้ว่าแอบรับงานนอกนะ ฉันจะไล่ออกเสียตอนนั้นเลย” อัครากอดอกถอนหายใจหนักๆ เมื่อรู้ว่าเสกร่วมมือกับคุณอ
ตอนที่ 53.“ไม่รู้ล่ะในวัดก็ไม่เห็นจะเป็นไร คนจะขอผู้หญิงแต่งงาน งานแต่งงานก็งานมงคลไม่ใช่เรื่องไม่ดีเสียหน่อย ดีเสียอีกพระประธานในโบสถ์ท่านจะได้เป็นพยานด้วย” อัคราพูดอย่างเอาแต่ใจปลายฝนก็ได้แต่มองเขาตาขุ่น“ลุกขึ้นเถอะค่ะ อายชาวบ้านเขา”“ไม่อาย ก็ดีเขาจะได้ช่วยเป็นพยาน ปลายฝนจ๋าแต่งงานกับพี่ซันเถอะนะครับ พี่ซันจะยอมทำทุกอย่างตามที่ฝนต้องการ แต่งงานกันนะ” อัครายื่นดอกบัวให้เธอด้วยรอยยิ้มกว้าง ปลายฝนใจเต้นแรงรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกสว่างไสวด้วยความสุข แต่ถ้าเขาพูดอีกคำหนึ่ง คำคำนั้นที่เธออยากได้ยิน... มันคงจะสุขกว่านี้ใจเธอจะเต้นแรงกว่านี้และเธอจะไม่ลังเลที่จะตอบตกลง...“ฉันไม่อายหรอกค่ะหากจะมีใครสักคนมาขอฉันแต่งงานด้วยความรักจริงๆ ไม่ใช่แค่อยากเอาชนะ ขอตัวนะคะฉันจะไปไหว้พระแล้ว..”“แต่งงานกับพี่ซันนะปลายฝน ได้โปรดพี่ซัน.. เอ่อ..”อัคราอ้ำอึ้งพูดติดๆ ขัดๆ ปลายฝนจึงฉวยโอกาสที่เขามัวแต่อึ้งอยู่เดินขึ้นบันไ