Share

บทที่ 4 ธาตุอากาศ

เช้าวันต่อมา

แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างเข้ามากระทบเปลือกตาของนับดาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงให้รู้สึกตัวตื่นในช่วงสาย ๆ ของวันใหม่ด้วยอาการไม่สดชื่นเลยสักนิด

"อ่า ปวดหัวชะมัด" เธอครวญครางออกมาเบา ๆ พลางยกมือขึ้นนวดขมับเพื่อคลายอาการปวดหัว ก่อนค่อย ๆ หรี่ตาขึ้นมา

คิ้วสวยขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นเพดานตรงหน้ามันไม่ใช่ที่คอนโด หรือที่บ้านของเธอแต่เป็นคอนโดของเพื่อนสาวคนสนิท

แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเมื่อคืนเธอเมาจนแทบจำอะไรไม่ได้เลย บ้าจริง

"ไง ตื่นแล้วเหรอแม่สาวขี้เมา"

เสียงทักทายที่ฟังดูคุ้นหูทำให้เธอหลุดจากภวังค์ความคิด ก่อนหยัดกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงมองเพื่อนสาวที่ถือแก้วน้ำขิงเข้ามาเชิงตั้งคำถาม "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไงอ่ะส้ม"

"นี่แกเมาจนจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ" ส้มกลอกตามองหน้าเพื่อนสาวอย่างนับดาวด้วยความอ่อนใจพลางยื่นแก้วน้ำขิงอุ่น ๆ ให้ เธอละเชื่อเลยจริง ๆ "ก็แกเป็นคนโทรเรียกฉันให้ไปรับเองจำไม่ได้เหรอ"

"ฮึ..จำไม่ได้อ่ะ" นับดาวส่ายหน้าปฏิเสธหงิก ๆ ขณะที่ในสมองก็พยายามทบทวนเรื่องราวเมื่อคืน

"ตอนฉันไปถึงแกก็นั่งคออ่อนคอพับอยู่บนพื้นข้างรถตัวเองแล้ว แค่นั้นไม่พอนะเมื่อคืนแกอาละวาทลั่นห้องเลยเพราะโดนยาปลุกเซ็กซ์เข้าไปจนฉันต้องโทรตามให้ไอ้แบงค์มาช่วย" ส้มอธิบายเพิ่มเติมเมื่อเห็นสีหน้าคิดหนักของเพื่อนสาว

"โดนยาปลุกเซ็กซ์งั้นเหรอ" คำบอกเล่าของเพื่อนสาวทำนับดาวยิ่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเข้าไปอีก พยายามหลับตานึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนสุดฤทธิ์ ก่อนภาพเหตุการณ์จะฉายขึ้นในสมองเป็นฉาก ๆ เริ่มปะติดปะต่ออะไร ๆ ได้

"ไอ้เลวเอ้ย! อย่าให้เจออีกนะ" เธอสบถออกมาอย่างหัวเสียเมื่อพอจะเดาออกว่าคนที่วางยาปลุกเซ็กซ์เป็นใคร และยิ่งไปกว่านั้นคือใครอีกคนที่เธอจำได้ลาง ๆ ว่าเสียจูบแรกให้

เริ่มมั่นใจมากขึ้นว่าเธอจูบกับเขาจริง ๆ เมื่อยกมือขึ้นสัมผัสบนกลีบปาก แล้วพบว่ามีรอยแผล เธอเลื่อนมือขึ้นตบหน้าผากดังแปะให้ตายเถอะนี่เธอทำอะไรลงไป

"เป็นอะไรของแกนับดาว" ส้มมองหน้าถามเพื่อนสาวอย่างงุนงง ๆ ที่จู่ ๆ ก็ตีหน้าผากตัวเองพร้อมกับโอดครวญออกมาราวกับเด็กโดนขัดใจ "นึกออกแล้วเหรอว่าใครวางยา"

"อือ..คงเป็นผู้ชายที่ตามตื้อฉันเมื่อคืน"

"ผู้ชายแบบนี้มันน่านัก" ส้มนึกโกรธแทนเพื่อนสาวยิ่งนัก

"ใช่" นับดาวเอ่ยเสริมเบา ๆ ก่อนเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง หวนนึกถึงมารดาเพราะพิษของความรัก เพราะบิดาที่มักมากไม่รู้จักพอทำให้ท่านต้องจากไป ทำให้เธอต้องกลายเป็นเด็กขาดแม่ตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ

เรื่องราวของมารดาทำให้เธอเจ็บปวด เกลียดความรัก ขยาดผู้ชายจนถึงทุกวันนี้เพราะผู้ชายมันก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ เลว เจ้าชู้ เห็นแก่ตัว

"แกเป็นอะไรรึเปล่า" เสียงของส้มดังทบโสตประสาททำให้เธอหลุดจากห้วงความคิด ดึงสายตากลับมามองหน้าเพื่อนสาวด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้ม "เปล่าแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ"

"มีอะไรก็ระบายกับฉันได้นะ"

"หากวันไหนไม่ไหวฉันจะร้องไห้ใส่แกเป็นคนแรกเลย" นับดาวตอบติดตลก ทว่าแววตากลับมองเพื่อนสาวอย่างลึกซึ้ง

ส้มเป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดของเธอเลย และยังควบด้วยตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวอีก เวลาเธอมีปัญหา หรือมีเรื่องทุกข์ใจก็มีแต่ส้มกับเพื่อนชายอย่างแบงค์อีกคนที่อยู่ข้าง ๆ

เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนเหลียวมองนาฬิกาบนหัวเตียง "เที่ยงแล้วเหรอเนี่ย เร็วจัง"

"เวลาเดินปกติ แต่แกอ่ะตื่นสาย" ส้มแซวเพื่อนสาวยิ้ม ๆ ก่อนเอ่ยต่อ "ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวจะได้ออกไปหาอะไรกินกัน ฉันรอแกตื่นจนหิวแล้วเนี่ย"

"เค ๆ ขอเวลาสิบนาที" คนโดนบ่นระบายยิ้มแหย่ ๆ ว่าจบก็กระโดดลงจากเตียงจัดการกับตัวเองอย่างไว

@ร้านอาหาร

ผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมงทั้งสองสาวก็มานั่งในร้านอาหารชื่อดังเป็นที่เรียบร้อย

"เอ๊ะ! นั่นพี่นุชกับคู่หมั้นใช่ไหม" ส้มเอ่ยขึ้นเมื่อหันไปเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่กำลังเดินควงกันเข้ามาในร้านทำให้นับดาวที่ก้มหน้าทานข้าวต้องเงยหน้ามองตามคำบอกกล่าวเป็นนีรนุชกับคู่หมั้นจริง ๆ

เธอลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่วินาทีที่สบสายตากับชายหนุ่มที่เพิ่งจูบด้วยเมื่อคืน ก่อนจะก้มหน้าทานข้าวต่อทำเหมือนไม่เห็นทั้งสอง ทว่าอีกฝ่ายกลับเดินมาหยุดที่โต๊ะเธอ

"น้องดาว" นีรนุชเอ่ยทักน้องสาวต่างมารดาด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้ม นับดาวได้ยินแต่ทำเหมือนทั้งสองเป็นอากาศยังคงก้มหน้าทานข้าวต่อ

นีรนุชถึงกับหน้าเจื่อนที่ถูกน้องสาวเมินใส่ แต่ยังคงไม่ละความพยายามชวนคุยต่อ เธออยากสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับนับดาวถึงยังไงก็เป็นพี่น้องกัน "ขอพี่กับพี่ภัทรนั่งด้วยได้ไหมคะ"

"..."

"ยัยนับดาว แกพูดอะไรหน่อยสิ" ส้มยื่นมือไปสะกิดไหล่เพื่อนสาวที่นั่งก้มหน้าทานข้าวไม่สนไม่แคร์อะไรหยิก ๆ พร้อมกระซิบกระซาบเบา ๆ เพราะแอบรู้สึกเห็นใจนีรนุชเหมือนกัน

ที่ผ่านมาเธอไม่เห็นว่านีรนุชจะร้ายกับเพื่อนสาวตรงไหนเลยมีแต่จะพยายามสร้างสัมพันธ์ที่ดีด้วย

"แกรีบ ๆ กินเถอะ จะได้รีบกลับแถวนี้อากาศไม่ค่อยปลอดโปร่งเท่าไรเลย" นับดาวเลือกจะไม่สนใจคำพูดเพื่อนสาวเฉไฉไปเรื่องอื่นแแทน โดยไม่ลืมจะกระแหนะกระแหนสองคนที่ยืนอยู่ด้วยเพราะสำหรับเธอแล้วคนทั้งสองเหมือนอากาศมลพิษที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต

นีรนุชถึงกับสะอึก หน้าเจื่อน แววตาเศร้าหมองลงฉับพลันกับคำพูดจากระแหนะกระแหนของน้องสาว ถึงแม้จะไม่พูดตรง ๆ เธอก็พอตีความหมายได้ แต่เพียงเสี้ยวนาทีเท่านั้นเธอก็รีบปรับสีหน้าแววตาให้เป็นปกติเพราะไม่ต้องการให้แฟนหนุ่มอย่างติณณภัทรพลอยไม่รู้สึกดีไปด้วยจึงรีบขอแยกตัว

"งั้นพี่ไม่กวนน้องดาวกับน้องส้มแล้วจ้ะ ทานให้อร่อยนะ" ว่าจบก็ควงแขนแฟนหนุ่มเดินไปนั่งอีกโต๊ะ

"น้องสาวนุชนี่เกินเยียวยาจริง ๆ นะ ทำไมนุชต้องยอมเธอตลอดด้วย" ติณณภัทรมองหน้าถามคู่หมั้นสาวอย่างไม่เข้าใจหลังจากหย่อนก้นนั่งบนเก้าอี้แล้ว

เขาเป็นเพื่อนกับนุชมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งจนเลื่อนสถานะมาเป็นคู่หมั้น รู้จักกันมาสิบสองปีแล้ว ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่นุชจะแสดงกิริยาไม่ดี หรือร้ายกับน้องสาวต่างมารดาอย่างนับดาว มีแต่รัก และเอ็นดูอะไร ๆ ก็ยอมก็ออกหน้ารับแทนตลอด

ขณะที่นับดาวไม่เคยเห็นเธอเป็นพี่สาวเลยมีแต่รังแกทั้งทางวาจา และการกระทำ ยิ่งเจอเหตุการณ์เมื่อคืนเขาก็ยิ่งมองนับดาวเลวร้ายลงไปทุกที

"นุชเข้าใจน้องไงคะ และหวังว่าสักวันน้องจะมองเห็นความจริงใจ ความรักที่นุชมีให้ ครอบครัวเราจะได้มีความสุขจริง ๆ สักที นุชสงสารพ่อมากเลยค่ะ"

นีรนุชอธิบายให้คู่หมั้นหนุ่มฟังอย่างใจเย็น ทว่าติณณภัทรกลับเค้นหัวเราะในลำคอเบา ๆ นึกเอ็นดูในความแสนดีของคู่หมั้น แต่ก็นึกขันในเวลาเดียวกันรอให้ฟ้าถล่มลงมาเขาก็มั่นใจว่านับดาวไม่มีทางมองเห็น

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status