หลังจากเปรมหายหลังไปติณณภัทรก็เดินเข้าไปหานับดาวที่ยืนตัวโงนเงนจะล้มแล่ไม่ล้ม ไล่สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเอือมมระอา
การแต่งตัวก็โป็ หนำซ้ำยังดื่มจนไม่ได้สติอีกเธอต้องเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันถึงไม่รักนวลสงวนตัวแบบนี้ ก็สมควรแล้วที่เป็นเหยื่อของพวกไม่ดี หากไม่ใช่เพราะเธอเป็นน้องสาวของคู่หมั้นเขาคงไม่เข้ามายุ่งแน่นอน "ผมไปส่งที่บ้าน" เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งพร้อมกับจับแขนเรียวลากให้เธอเดินตามไปที่รถเพราะสภาพแบบนี้คงขับรถกลับไม่ถึงบ้านแน่ ๆ ทว่าอีกคนกลับสะบัดมือเขาออก "ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ฉันมาเองได้ก็กลับเองได้" นับดาวเชิดหน้าขึ้นตะเบ็งเสียงพูดอย่างถือดีถึงแม้ต้องนี้สภาพแทบทรงตัวไม่ไหวแล้วก็ตาม เธอไม่อยากได้ความช่วยเหลือจากผู้ชายที่ถือว่าเป็นศัตรูเดี๋ยวเขาจะมาทวงบุญคุณที่หลังเอาได้ "ที่ฉันยุ่งก็เพราะรู้สึกสงสาร และเห็นใจคุณลุงศักดิ์กับนุช เกิดเธอขับรถแหกโค้ง หรือชนกับรถคันอื่นตายขึ้นมาทั้งสองคงเสียใจมาก" "ปากเสียคุณแช่งฉันเหรอห๊ะ!" คำตอบจากปากชายหนุ่มทำเอานับดาวถึงกับปรี๊ดแตกแวดเสียงใส่ด้วยความโมโห ปรือตาที่แทบจะปิดเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์จ้องหน้าเจ้าของคำพูดร้ายกาจเขม็ง แต่อีกคนกลับยืนนิ่งไม่ตอบสนองอะไรทั้งสิ้นเหมือนยิ่งยั่วต่อมโมโหของเธอ ก่อนความคิดบางอย่างจะฉายขึ้นในสมอง ใบหน้าสวยเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา แววตาฉ่ำเยิ้มหรี่มองร่างสูงตรงหน้าอย่างจับพิรุธ "หรือว่าคุณเกิดสนใจฉันขึ้นมา แต่เอาเหตุผลอื่นมาอ้างเพื่อเข้าใกล้ฉัน" "หึ" ติณณภัทรถึงกับเค้นหัวเราะในลำคอพลางไล่สายตามองเจ้าของคำพูดหลงตัวเองอย่างเย้ยหยัน เธอเอาสมองส่วนไหนคิดกันว่าเขาสนใจ "จะบอกอะไรให้นะฉันไม่มีวันคว้าผู้หญิงที่มั่วผู้ชายไม่เลือก นิสัยกร้าวร้าว หาสิ่งดี ๆ ในตัวไม่เจออย่างเธอมาทำเมียหรอก ต่อให้โลกนี้มีเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวฉันก็ไม่เอา" "หึ" นับดาวหัวเราะเยาะออกมาราวกับว่าคำพูดของชายหนุ่มเป็นเรื่องตลกแทนที่จะโกรธ หรือเจ็บปวด เธอจะสะทกสะท้านทำไมกันในเมื่อไม่ได้เป็นอย่างคำที่เขาพูดใครจะมองยังไงเธอไม่สน แค่เธอรู้ก็พอว่าตัวเองเป็นยังไง แต่ตอนนี้เธออยากเอาชนะผู้ชายปากจัดตรงหน้ามากกว่า "งั้นลองดูไหมล่ะ" แววตาที่ฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างมีเลศนัย ว่าจบเธอก็พุ่งเข้าไปหาชายหนุ่มด้วยความเร็ว ยกมือทั้งสองขึ้นโอบลำคอแกร่งไว้แน่น "เธอทำบ้าอะไรออกไป" ติณณภัทรตกใจไม่น้อยกับการกระทำของหญิงสาวคิดไม่ถึงว่าเธอจะใจกล้าขนาดนี้ พยายามแกะมือเล็กที่โอบรอบคอออกหวังผลักเธอให้พ้นตัว แต่ยิ่งพยายามอีกคนก็ยิ่งกอดคอแน่นขึ้นพานทำให้ร่างกายของเธอแนบสนิทกับเขามากขึ้น ทรวงอกบดเบียดกับมัดกล้ามเนื้อที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อเชิ้ต ยิ่งเธอขยับมันก็ยิ่งเสียดสี "ออกไปอย่าให้ผมต้องใช้กำลัง" ชายหนุ่มหาได้มีอารมณ์แต่อย่างใดไม่กดเสียงพูดเน้นทีละคำ จับจ้องใบหน้าสวยผ่านความมืดสลัวด้วยแววตาแข็งกร้าวเชิงบอกให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น ผู้หญิงร้ายกาจแบบนับดาวต่อให้แก้ผ้าโชว์ต่อหน้าเขาก็เกิดอารมณ์ไม่ลงจริง ๆ ผู้หญิงอะไรไร้ยางอายสิ้นดี "คุณจะทำอะไรฉันเหรอคะ" นับดาวเผยรอยยิ้มออกมาอย่างท้าทายไม่ได้รู้สึกกลัวสักนิด หนำซ้ำยังเลื่อนมือขึ้นลูบแก้มเกลี้ยงเกลาเบา ๆ ส่งสายตาหวานฉ่ำเย้ายวนไปด้วย ติณณภัทรถึงกับหัวเสียความอดทนที่มีเพียงน้อยนิดขาดสะบั้นลงกับความไร้ยางอายของหญิงสาว ยกมือทั้งสองขึ้นกอบกำต้นแขนเล็กแน่นออกแรงบีบหวังให้อีกคนเจ็บแล้วยอมล่าถอย "ออกไป!" นับดาวเจ็บ เจ็บเหมือนกระดูกจะแตกเสียให้ได้ แต่เธอก็กัดฟันทนไม่แสดงอาการออกมาเพราะต้องการเอาชนะชายหนุ่ม เรียวปากสีแดงสดเผยรอยยิ้มออกมามากกว่าเดิม ก่อนเธอจะทำสิ่งที่อีกคนคิดไม่ถึง ติณณภัทรตาเบิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกผู้หญิงไร้ยางอายอย่างนับดาวกระแทกจูบลงมา เขาอึ้งเพราะคิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าได้มากขนาดนี้ ก่อนจะรีบใช้มือผลักออกด้วยความเร็วทำให้ร่างบางเซล้มลงไปนั่งก้นกระแทกพื้นเต็ม ๆ ใบหน้าสวยเหยเกออกมาด้วยความเจ็บ แต่เพียงแวบเดียวเท่านั้นก็กลับมาเคลือบด้วยรอยยิ้มร้ายเหมือนเดิม เธอพยุงตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะพุ่งเข้าไปจับคอเสื้อชายหนุ่มแล้วดึงใบหน้าหล่อเหลาลงมาประกบจูบอีกครั้งโดยที่อีกคนไม่ทันได้ตั้งตัว บดขยี้ริมฝีปากหนาอย่างหนักหน่วง ความอยากเอาชนะบวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในกายทำให้เธอลืมอายสนิท ยิ่งชายหนุ่มแสดงท่าทีรังเกียจออกมาเธอก็ยิ่งบดจูบแรงขึ้น "อะ..โอ้ย!" ทว่าเธอก็ต้องรีบผละปากออกด้วยความเร็วเมื่อถูกอีกคนกัดกลีบปากอย่างแรงรู้สึกเจ็บแปลบจนน้ำตาคลอเบ้าได้กลิ่นคาวเลือดลอยแตะจมูก หนำซ้ำยังผลักจนเธอล้มลงไปนั่งกองกับพื้นอีกครั้ง แรงกระแทกกับพื้นแข็งทำให้เธอรู้สึกเจ็บก้นไม่น้อย ติณณภัทรรู้ว่าหญิงสาวเจ็บ ความจริงเขาไม่ได้อยากใช้กำลังกับผู้หญิงสักนิด แต่สำหรับนับดาวมันเหลืออดจริง ๆ ผู้หญิงอะไรไร้ยางอายได้ถึงเพียงนี้บอกตามตรงเขาไม่ได้รู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองสักนิดสมควรแล้ว ก้มมองคนที่นั่งใบหน้าเหยเกด้วยความเอือมระอาพลางใช่มือเช็ดรอยลิปติกออกจากริมฝีปากด้วยท่าทางรังเกียจโดยไม่ปิดบัง "เธอนี่มันเกินเยียวยาจริง ๆ นับดาว ฉันอายแทนคุณลุงจริง ๆ ที่มีลูกสาวไร้ยางอายแบบเธอ" "ฉันจะถือว่าเป็นคำชมแล้วกันนะคะ" นับดาวเผยรอยยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีทำเหมือนไม่ได้สะทกสะท้านกับคำต่อว่า ไม่ได้รู้สึกเจ็บที่หกล้มสักนิด พยายามพยุงกายลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับผู้ชายร้ายกาจอีกครั้ง "..." ติณณภัทรหมดคำจะต่อว่ากับนิสัยของหญิงสาวมันคงเกินเยียวยาแล้วจริง ๆ เกิดมาเขาไม่เคยพบเคยเห็นเลย จากที่จะช่วยพาเธอกลับบ้านตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้วล่ะ ผู้หญิงร้ายกาจแบบนี้คงหาทางพาตัวเองกลับบ้านได้เขาจะไม่เสียเวลาอีกต่อไป คิดได้ดังนั้นก็หันหลังเดินจากไปทันที ส่วนนับดาวทันทีที่ชายหนุ่มหายหลังไปเธอก็ใช้มือถูไถริมฝีปากไปมาซ้ำ ๆ จนแดงเถือกเพื่อลบรอยจูบอันน่ารังเกียจออก หากไม่ใช่เพราะอยากเอาชนะเธอไม่มีวันแตะต้องเขาเด็ดขาด คิด ๆ แล้วก็น่าเจ็บใจที่จูบแรกของเธอดันเป็นเขาเช้าวันต่อมาแสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างเข้ามากระทบเปลือกตาของนับดาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงให้รู้สึกตัวตื่นในช่วงสาย ๆ ของวันใหม่ด้วยอาการไม่สดชื่นเลยสักนิด"อ่า ปวดหัวชะมัด" เธอครวญครางออกมาเบา ๆ พลางยกมือขึ้นนวดขมับเพื่อคลายอาการปวดหัว ก่อนค่อย ๆ หรี่ตาขึ้นมา คิ้วสวยขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นเพดานตรงหน้ามันไม่ใช่ที่คอนโด หรือที่บ้านของเธอแต่เป็นคอนโดของเพื่อนสาวคนสนิท แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเมื่อคืนเธอเมาจนแทบจำอะไรไม่ได้เลย บ้าจริง"ไง ตื่นแล้วเหรอแม่สาวขี้เมา" เสียงทักทายที่ฟังดูคุ้นหูทำให้เธอหลุดจากภวังค์ความคิด ก่อนหยัดกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงมองเพื่อนสาวที่ถือแก้วน้ำขิงเข้ามาเชิงตั้งคำถาม "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไงอ่ะส้ม""นี่แกเมาจนจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ" ส้มกลอกตามองหน้าเพื่อนสาวอย่างนับดาวด้วยความอ่อนใจพลางยื่นแก้วน้ำขิงอุ่น ๆ ให้ เธอละเชื่อเลยจริง ๆ "ก็แกเป็นคนโทรเรียกฉันให้ไปรับเองจำไม่ได้เหรอ""ฮึ..จำไม่ได้อ่ะ" นับดาวส่ายหน้าปฏิเสธหงิก ๆ ขณะที่ในสมองก็พยายามทบทวนเรื่องราวเมื่อคืน"ตอนฉันไปถึงแกก็นั่งคออ่อนคอพับอยู่บนพื้นข้างรถตัวเองแล้ว แค่นั้นไม่พอนะเมื่อคืนแกอาละวา
"จะแสนดีไปถึงไหนฮึ" ติณณภัทรอดกระแหนะกระแหนคู่หมั้นสาวไม่ได้พร้อมกับยื่นมือไปยีหัวเธอเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้ ทำเอาอีกคนถึงกับหน้างอ พูดดุเจ้าของการกระทำเสียงเขียวเพราะกลัวผมเสียทรง "อย่าเล่น ผมนุชเสียทรงหมดแล้วภัทร""อะ ๆ จัดให้ใหม่ก็ได้" แทนที่คนถูกดุจะสำนึกกลับหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ แต่มือก็ยอมเปลี่ยนเป็นลูบลงบนเรือนผมดกดำแทนเพื่อจัดแต่งทรงผมของเธอให้เหมือนเดิม นั่นจึงทำให้นีรนุชยิ้มได้ ภาพที่ทั้งสองหยอกล้อกันอย่างน่ารักมีสายตาของส้มที่นั่งหันหน้าไปทางคนทั้งสองมองอยู่ตลอดเวลา เธอรู้สึกอิจฉาตาร้อนจนต้องระบายกับเพื่อนสาว"พี่นุชกับคู่หมั้นคงรักกันมากเนาะ ดูสิสวีทกันไม่เกรงใจคนในร้านเลย อยากมีโมเม้นท์แบบนั้นบ้างจัง""อยากมีก็รีบหาแฟนสิ อย่ามัวแต่บ่นอยู่" นับดาวตอบแบบขอไปทีโดยไม่คิดจะหันไปมองให้เสียลูกตา แต่ใครจะรู้ว่าในใจเธอกำลังคิดอะไรอยู่เธอไม่ได้รู้สึกอิจฉา หรืออยากมีโมเม้นท์แบบนั้นสักนิด ตรงข้ามกันเธอเกลียดที่นีรนุชมีความสุขกำลังจะได้แต่งงานกับคนที่รักในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ที่เธอเกลียดยิ่งกว่าคือนิ่มแม่เลี้ยงใจมารที่ดูจะมีความสุขจนออกนอกหน้ากับการได้ลูกเขยรวย และโปร์ไฟล์เพรียบพ
2 วันต่อมางานเลี้ยงวันเกิดของนีรนุชถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บริเวณลานหญ้าหน้าบ้าน เชิญแค่คนสนิทเท่านั้น มีเพื่อนของนีรนุชกับติณณภัทรซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกัน และญาติ ๆ เพียงไม่กี่คนบรรยากาศภายในงานเลี้ยงเป็นไปอย่างครึกครื้น ทุกคนดูจะแฮปปี้สุด ทว่าคงจะมีแต่นับดาวที่ไร้อารมณ์นั่งทำหน้าเบื่อโลกอยู่คนเดียว หากไม่ติดว่าคืนนี้มีอะไรบางอย่างต้องทำเธอไม่มีวันเสนอหน้าอยู่ในงานแน่เธอจ้องมองไปยังนีรนุชที่กำลังยืนหัวเราะต่อกระซิกกับคู่หมั้นด้วยแววตาแข็งกร้าว ก่อนกดเสียงพูดในลำคออย่างมีแผนร้าย "มีความสุขกันให้พอนะ เพราะพรุ่งนี้เธอกับแม่อาจต้องผิดหวังนีรนุช"ครืดดด~เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังขึ้นนับดาวจึงละสายตาจากคนทั้งสอง หยิบโทรศัพท์บนตักขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของคนที่รอคอยจึงลุกเดินออกไปรับสายในที่ลับตาคน(ฉันอยู่หน้าบ้านคุณแล้วนะคะ)"คุณเปิดประตูเล็กแล้วเดินเข้ามาได้เลยค่ะ ฉันจะรอรับอยู่หน้าบ้าน"(ค่ะ ๆ)นับดาวเผยรอยยิ้มร้ายออกมาหลังจากวางสาย ก่อนจะเดินอ้อมสนามหญ้าออกไปยืนรอรับใครบางคนที่กำลังมาถึงหน้าบ้าน ยืนรอไม่ถึงเสี้ยวนาทีหญิงสาวหน้าตาน่ารักก็เดินมาหยุดตรงหน้าเธอ แล้วกล่าวทักท
วันต่อมา"กรี๊ดด!"เสียงกรีดร้องดังกึกก้องไปทั่วบริเวณบ้านทำให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของติณณภัทรกับนีรนุช ทนงศักดิ์ นิ่ม อุงอิง และแม่บ้านต่างพากันตกใจ รีบวิ่งไปดูทางต้นเสียงก็พบว่าเป็นนีรนุชที่กำลังยืนเนื้อตัวสั่นเทา ร้องไห้ออกมาจนตัวโยนหน้าห้องนอนแขก"เกิดอะไรขึ้นลูกนุช" นิ่มรีบวิ่งเข้าไปกอดบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง ทว่าเธอก็ต้องตาเบิกกว้างอุทานออกมาเสียงดังลั่นเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นคู่หนุ่มสาวที่นอนอยู่บนเตียงภายในห้องท่าทางของนิ่มทำให้ทุกคนต่างสงสัยจนต้องรีบไปดู พอได้เห็นก็มีปฎิกิริยาไม่ต่างจากนิ่มเลย โดยเฉพาะทนงศักดิ์ที่โกรธจนหน้าสั่นกับภาพบุตรสาวคนเล็กนอนที่นอนร่วมเตียงกับคู่หมั้นของพี่สาวในสภาพเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มคลุมไว้ถึงหน้าอก รีบปรี่เข้าไปเขย่าตัวตะเบ็งเสียงเรียกดังลั่นด้วยความโมโหสุดขีด "นับดาวลุกขึ้นมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้ ลุกขึ้นมาไอ้ลูกไม่รักดี""อื้อ! คนจะนอน" เสียงรบกวนที่ดังทบโสตประสาทบวกแรงเขย่าทำให้นับดาวที่กำลังนอนหลับอย่างสบายหงุดหงิดไม่น้อย เธอค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้แม้อยากจะนอนต่อแค่ไหนก็ตามเพราะรู้สึกปวดหัว และเนื้อตัวมาก ๆ ราวกับถูกสิบล้อเหย
บรรยากาศภายในห้องโถงเป็นไปอย่างตึงเครียด มีทนงศักดิ์นั่งหน้าเคร่งขรึมอยู่ นีรนุชยังคงสะอื้นไห้ไม่หยุดโดยมีผู้เป็นแม่ปลอบประโลมไม่ห่าง ส่วนคนอื่นทนงศักดิ์ให้กลับกันไปหมดแล้วเพราะต้องการเคลียร์กันแค่คนในครอบครัว"ผมขอโทษคุณลุง คุณน้า และน้องนุชด้วยนะครับ " ติณณภัทรเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าคนทั้งสาม ก่อนยกมือไหว้ขอโทษด้วยความรู้สึกผิด และยืดอกรับอย่างลูกผู้ชายไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไงก็ตาม "ผมยอมรับผิดทุกอย่าง ไม่ขอแก้ตัวอะไรทั้งสิ้นครับ""ภะ..ภัทรทำแบบนี้กับนุชได้ยังไงคะ" นีรนุชเอ่ยออกมาทั้งน้ำตานองหน้า จ้องมองผู้ชายที่เธอแอบรักมาเนินนานด้วยแววตาผิดหวัง เธอผิดหวังและเสียใจมากจริง ๆ "ภัทรขอโทษนุช ภัทรขอโทษ" ภาพนีรนุชสะอื้นไห้ทำเอาติณณภัทรถึงกับเอ่ยอะไรไม่ออกมีเพียงเสียงขอโทษแผ่วเบาที่ดังซ้ำ ๆ ต่อให้เขาอธิบายอะไรไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา หนำซ้ำคงจะทำให้ทนงศักดิ์ผู้ใหญ่ที่เขาเคารพรักดั่งพ่อรู้สึกแย่หนักกว่าเดิมจนโรคหัวใจอาจกำเริบได้หากเขาบอกว่าทั้งหมดเป็นเพราะโดนนับดาววางยาปลุกเซ็กซ์ และถ้าเป็นแบบนั้นนีรนุชคงยิ่งแย่"น้าไม่คิดเลยว่าภัทรจะทำแบบนี้ น้าผิดหวังมากจริง ๆ" นิ่มตัดพ้อเด็กหนุ่มด้ว
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ" นับดาวพึมพำออกมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในสมองหลังจากก้าวขึ้นมานับบนรถแล้ว อารมณ์หมองมนในทันตา ใบหน้าสวยฉายแววอ่อนล้าออกมาอย่างชัดเจนเธอรู้สึกเหนื่อยมากจริง ๆ กับการต้องปั้นหน้าเหมือนไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับเรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าทุกคนทั้งที่ในใจมันไม่ใช่เลยจนถึงตอนนี้ยังคงมีคำถามมากมายติดค้างอยู่ในใจว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมทุกอย่างถึงได้กลับตาลปัตรแบบนี้ ทำไมถึงรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลก ๆ เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาอุงอิงเพื่อสอบถามเหตุการณ์เมื่อคืน ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ(สวัสดีค่ะคุณนับดาว)"ค่ะ ฉันจะโทรมาถามเรื่องเมื่อคืนหน่อยค่ะ"(ค่ะ ฉันก็ว่าจะโทรหาคุณอยู่พอดีเลย)"เมื่อคืนคุณจำอะไรได้บางไหมคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกอย่างมันถึงผิดแผนไปหมด ส่วนฉันจำได้แค่ว่านั่งดื่มกับคุณอยู่จากนั้นภาพก็ตัดไปเลย"(ฉันก็เหมือนกันค่ะภาพสุดท้ายที่จำได้คือนั่งดื่มอยู่กับคุณ แต่พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็นอนอยู่ในห้องที่บ้านคุณแล้ว ฉันถามออยแม่บ้านของคุณแล้วเธอก็บอกว่าเหมือนกัน เป็นไปได้ไหมคะว่าพวกเราจะเผลอดื่มแก้วที่มียานอนหลับเขาไปด้ว
@บ้านอัครกุลติณณภัทรทิ้งเตียงตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงนุ่ม หลับตาลงด้วยอาการหนักอึ้งในสมองเพราะคิดไม่ตกกับเรื่องในวันนี้ นี่เขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงร้ายกาจอย่างนับดาวจริงหรือแค่คิดก็หนักใจตั้งไว้แล้ว ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ต้องเจอกับอะไรอีก ไหนจะนีรนุชที่ยังไม่ได้คุยกันสักนิด เธอคงโกรธและเกลียดเขามากขนาดเขาขอคุยกับเธอก่อนกลับเธอยังปฏิเสธแล้ววิ่งหนีขึ้นห้องไป ไหนจะพ่อกับแม่ตัวเองอีกไม่รู้ว่าท่านทั้งสองจะมีปฏิกิริยายังไงเมื่อเขาบอกเรื่องนี้ไป ที่ผ่านมาผู้เป็นแม่ก็ดูจะไม่ชอบนับดาวอย่างชัดเจน ส่วนผู้เป็นพ่อเขาเดาไม่ถูกจริง ๆ ว่าท่านคิดยังไง"แม่ง! เพราะเธอคนเดียวนับดาว" เสียงทุ้มสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนเขาดีดตัวลุกลงจากเตียงถอดเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำหวังให้น้ำช่วยบรรเทาอารมณ์คุกรุ่นในร่างกายให้เย็นลง ทว่าเหมือนน้ำเย็น ๆ จะไม่ได้ช่วยอะไรเพราะภาพความร้ายกาจของหญิงสาวยังคงวนเวียนในสมองเขาไม่เลิก"บ้าชะมัด!" เขาสบถออกมาอีกครั้งพร้อมกับปิดฝักบัว เอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวแล้วเดินออกไปแต่งตัวก็อก! ก็อก!ระหว่างนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเขาจึงรีบสวมเสื้อผ้าแล้วเดินไปเปิดประตู"มันเกิดอ
วันต่อมานับดาวเดินฮั่มเพลงลงมาจากชั้นบนของบ้านอย่างสบายใจ เดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโต๊ะอาหารที่มีบิดา แม่เลี้ยงใจยักษ์ และนีรนุชนั่งอยู่ด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังมีความสุขมากแค่ไหน เธอมองหน้าแม่เลี้ยงใจยักษ์พร้อมกับแสยะยิ้มมุมปากให้อย่างผู้ชนะ ก่อนเลื่อนสายตาไปบอกกล่าวกับบิดาเสียงดังฟังชัดจงใจให้ทุกคนได้ยินกันทั่วถึง "นับจดทะเบียนสมรสกับติณณภัทรววันนี้นะคะ ตอน 10โมง"ทุกคนที่นั่งบนโต๊ะอาหารไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคน กลับหันไปมองนีรนุชที่นั่งหน้าเศร้าด้วยความเป็นห่วงทำให้เธออดหมั่นไส้ไม่ได้จึงจงใจพูดตอกย้ำให้นีรนุชเสียใจเข้าไปอีก "พี่นุชช่วยไปเป็นพยานรักให้นับกับติณณภัทร เอ้ย! ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าพี่ภัทรเพราะเรากำลังจะเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว พี่นุชช่วยไปเป็นสักขีพยานให้ได้ไหมคะ" ว่าจบเธอก็ลอบยิ้มออกมาอย่างสะใจกับสีหน้าของนีรนุชที่ดูจะแย่มากกว่าเก่า โดยเฉพาะแม่เลี้ยงใจยักษ์ที่มองเธอเขม็งคงโกรธเธอมากสินะที่ทำร้ายลูกสาวสุดที่รักของตัวเอง ไหนจะผิดหวังที่ไม่ได้ลูกเขยรวยอย่างติณณภัทรอีก"แกจะพอได้หรือยังนับดาว จะตอกย้ำให้พี่เขาเสียใจไปถึงไหน" ทนงศักดิ์ที่นั่ง