Share

บทที่ 2 คู่แค้น

@ผับ

นับดาวในชุดเดรสสายเดียวรัดรูปสีแดงเพลิง กระโปรงสั้นเกือบเสมอแก้มก้นเดินนวยนาดเข้าไปภายในผับที่มีนักท่องราตรีนับร้อยคนด้วยท่าทางเซ็ง ๆ  แม้จะมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาหลายคนเอ่ยแซวตลอดทางเดินเธอก็ไม่คิดจะสนใจสักนิด

คืนนี้เธอต้องการมาดื่ม และสนุกเพื่อให้ลืมความเฮงซวยที่เพิ่งเจอมาเมื่อตอนเย็นเท่านั้น

เธอเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟาโซนวีไอพี แล้วสั่งเครื่องดื่มดีกรีแรง ๆ กับเด็กเสิร์ฟ นั่งดื่มไปเรื่อย ๆ จนเริ่มเมาจึงเดินถือแก้วเหล้าออกไปยืนเต้น ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามเสียงเพลงท่ามกลางนักท่องราตรีหลายสิบคน

เสียงเพลงดังกระหึ่มภายในผับทุกคนต่างสนุกสนานไปกับเสียงเพลงรวมถึงนับดาว เธอโยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะด้วยอารมณ์ที่สนุกสุดเหวี่ยง

วู้ว!

"แด่ชีวิตห่วย ๆ และครอบครัวสุดแสนเฮงซวย" เปล่งเสียงร้องโห่ออกมาดังลั่นระบายความอัดอั้นในใจ ก่อนจะยกน้ำสีอำพันในแก้วขึ้นกระดกลงคอจนหมด

"นอกจากเต้นเก่งแล้ว ยังดื่มเก่งด้วยนะครับ"

เสียงของใครบางคนดังแทรกขึ้นจากด้านหลังทำให้นับดาวหยุดชะงัก เมื่อหมุนตัวไปมองเจ้าของเสียงก็พบว่าเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่เธอไม่คิดสนใจหันกลับมาเต้นต่อไม่คิดตอบ หรือสร้างปฏิสัมพันธ์ใด ๆ

"หยิ่งเสียด้วย" ชายหนุ่มผู้มาใหม่กระตุกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจกับความเย่อหยิ่งของสาวเจ้า ยิ่งทำให้เขาอยากเอาชนะ เดินอ้อมไปหยิบตรงหน้าเธอแล้วแนะนำตัว "ผมเปรมนะครับน้องนับดาว"

"ค่ะ" นับดาวถอนหายใจออกมาอย่างนึกรำคาญขานรับเพียงสั้น ๆ แล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเพราะไม่ต้องการสนทนาอะไรต่อ และตอนนี้เธอก็หมดอารมณ์เต้นแล้วด้วย

การกระทำของเธอสร้างความไม่พอใจให้อีกคนเป็นอย่างมาก

"หยิ่งเข้าไป เดี๋ยวพ่อจะทำให้หยิ่งไม่ออกเลย" เปรมกัดฟันพูดเสียงต่ำจ้องหญิงสาวที่กล้าเมินเฉยเขาด้วยแววตาดุดันราวกับจะฉีกเนื้อเธอออกเป็นชิ้น ๆ

ตอนแรกเขาแค่อยากจะเข้ามาพูดคุยทำความรู้จักกับเธอให้มากกว่านี้เพราะเป็นนางแบบที่หมายตาไว้ แต่สาวเจ้าดันหยิ่งเสียเหลือเกินทำเหมือนสาวใสซื่อทั้งที่มีข่าวเหม็นคาวกับผู้ชายจนนับไม่ถ้วน

ตอนนี้เขาอยากจะเอาชนะทำให้เธอมาสยบแทบเท้าของเขามากกว่า และคนอย่างเขาต้องทำให้ได้ด้วย ไม่คิดเปล่าเท้าใหญ่รีบก้าวเดินไปหาเด็กเสิร์ฟที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ทันทีเพื่อทำอะไรบางอย่าง

นับดาวซึ่งไม่รู้อะไรเลยยังคงนั่งดื่มไปเรื่อย ๆ พอเหล้าหมดก็เรียกเด็กเสิร์ฟมาสั่งใหม่ โดยไม่รู้เลยว่าเครื่องดื่มที่ถูกนำมาส่งใหม่มีสารบางอย่างเจือปนอยู่

"ทำไมร้อนแบบนี้นะ" นั่งดื่มได้สักพักก็เกิดอาการแปลก ๆ ตัวร้อนรุ่มคล้ายกับจะเป็นไข้มันมีความรู้สึกบางอย่างแทรกซึมเข้ามาด้วย เหมือนต้องการอะไรสักอย่างมาระบายความรู้สึกนี้

เธอรีบกวักมือเรียกเด็กเสิร์ฟมาเช็คบิล แล้วรวบรวมสติสัมปชัญญะที่เหลือเพียงน้อยนิดพาตัวเองเดินโซซัดโซเซออกจากผับ โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนเดินตามอยู่ห่าง ๆ กระทั่งเสียงดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับมือนุ่ม ๆ ที่ยื่นมาจับแขนเธอ

"ให้ไปส่งไหมครับ ดูน้องนับดาวเมามากแล้วคงขับรถไม่ไหว"

นับดาวค่อย ๆ หันกลับไปเพ่งสายตาที่พร่ามัวด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์มองต้นเสียง ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างรำคาญเมื่อเห็นหน้าผู้ชายที่ตามตื้อเธอไม่เลิก "คุณอีกแล้วเหรอ"

"ครับ ผมเอง" เปรมตอบด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่อาบด้วยยาพิษ

"ฉันกลับเองได้ค่ะ" นับดาวรีบส่ายหน้าปฏิเสธพัลวันพลางพยายามดึงแขนออกจากการจับกุม ถึงแม้จะเมาแต่สัญชาตญาณมันบอกว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าไว้ใจ

"ให้ผมไปส่งดีกว่าครับ"

"บอกว่าไม่ต้องไงคะ" เธอปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่ดัง และไม่สบอารมณ์มากกว่าเดิมเมื่ออีกคนยังคงตื้อไม่ยอมหยุด หนำซ้ำยังจับกุมแขนเธอแน่นกว่าเดิมไม่ว่าพยายามสลัดออกเท่าไรก็ไม่หลุด "ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคะ"

"อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่า เท่าที่รู้มาน้องนับดาวก็คั่วผู้ชายไม่ซ้ำหน้านิครับ เพิ่มผมไปอีกคนจะ.."

เพียะ!!

ถ้อยคำพูดจาร้ายกาจบวกกับสายตาที่มองมาอย่างดูถูกของชายหนุ่มแปลกหน้าทำเอานับดาวโกรธจนตัวสั่นฟาดฝ่ามือลงบนแก้มของเขาอย่างแรงไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยจบส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลาหันไปตามแรง

"อย่ามาดูถูกฉัน อีกอย่างถึงฉันจะคั่วผู้ชายไม่ซ้ำหน้า แต่ฉันก็เลือกว่าอันไหนดีอันไหนสกปรก" เธอไม่สนว่าอีกคนจะเจ็บมากไหมเอ่ยทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบ แล้วหันหลังเดินจากมาตอนนี้เธอรู้แค่ว่าต้องกลับห้องให้เร็วที่สุดก่อนอาการแปลก ๆ ภายในร่างกายจะแผลงฤทธิ์มากกว่านี้

อ๊ะ!

ทว่าก้าวเท้าเดินได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องหลุดร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อถูกกระชากข้อมือจากด้านหลังอย่างแรงจนตัวเซถลาแทบจะล้มคะมำ คนกระทำคือคนที่เธอเพิ่งฝากรอยฝ่ามือไว้บนหน้านั่นเอง

"มึงกล้าตบกูเหรอ" เปรมโกรธจนเลือดขึ้นหน้าที่ถูกผู้หญิงอย่างนับดาวตบ และเขาไม่ปล่อยให้เธอลอยนวลไปแน่นอน ง้างมือขึ้นสุดแขนหมายตบคืน ทว่ากลับถูกมือปริศนาจับเอาไว้ สร้างความไม่พอใจให้เขาเป็นอย่างมากหันกลับไปมองเจ้าของมือด้วยความไม่พอใจ "ใครว่ะ"

"หึ มึงนี่เองไอ้ภัทร" เขาเค้นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันเมื่อพบว่าเป็นติณณภัทรคู่แข่งทางธุรกิจของเขาที่มีปัญหากันมายาวนาน "มึงนี่มันเป็นมารตามจองล้างจองผลาญกูจริง ๆ เลยนะ"

"คนอย่างมึงต้องเจอกับกูนี่แหละถึงจะเหมาะสม ไม่ใช่เก่งแต่กับคนที่อ่อนแอกว่า" ติณณภัทรไหวไหล่ให้เปรมอย่างไม่ยี่หระ แต่สายตากลับมองผ่านไปยังอีกคนที่มีอาการเมาเหมือนหมาช่างหน้าสมเพชจะโดนปู้ยี้ปู้ย้ำแล้วยังไม่รู้ตัวอีก

หากไม่เห็นว่าเธอเป็นน้องสาวของคู่หมั้น และเป็นลูกสาวของผู้ใหญ่ที่นับถืออย่าหวังเลยว่าเขาจะช่วยผู้หญิงร้ายกาจแบบเธอ

"มึงอย่ามากล่าวหา กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย" เปรมสวนกลับอย่างลอยหน้าลอยตาเหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดทั้งที่ความจริงไม่ใช่

"เหรอ แล้วที่กูเห็นมึงพยายามเข้าหาเธอล่ะ แต่พอเธอไม่เล่นด้วยก็ใช้วิธีสกปรก" ติณณภัทรเหยียดยิ้มออกมาอย่างคนเหนือกว่า เขารู้เขาเห็นทุกอย่างเพราะเขาเองนั่งดื่มอยู่ที่โซนวีไอพีบนชั้นสองทำให้มองเห็นหมดว่าชั้นล่างใครทำอะไรบาง เขาเห็นตั้งแต่เปรมเข้าหานับดาวกระทั่งเดินไปหาเด็กเสิร์ฟแล้วคุยอะไรบางอย่าง

เขารู้จักนิสัยเปรมเป็นอย่างดีว่าร้ายกาจแค่ไหนทำไมจะเดาไม่ออกว่าเปรมเล่นไม่ซื่อ และเขาก็ไม่ได้กล่าวหาใครลอย ๆ ที่พูดได้อย่างมั่นใจเพราะไปเค้นถามจากเด็กเสิร์ฟคนนั้นมาแล้วว่าเปรมคิดทำอะไร

"หรือมึงจะฟังคลิปเสียงที่กูคุยกับเด็กเสิร์ฟ เด็กเสิร์ฟสารภาพกับกูหมดแล้วว่ามึงใช้ให้ใส่ยาปลุกเซ็กซ์ลงไปในแก้วเหล้าของเธอ"

ไม่ว่าเปล่ามือหนาล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาเปิดคลิปเสียงให้เปรมฟัง "ชัดพอไหม หากไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นข่าวดังก็ไสหัวไปซะ"

"ฝากไว้ก่อนเถอะ ไว้มีโอกาสเมื่อไรกูจะเอาคืนมึงให้หนักเลย" เปรมได้แต่กำหมัดแน่นเก็บความแค้นเอาไว้ หลักฐานชัดขนาดนี้เขาคงปฏิเสธไม่ได้จึงยอมล่าถอยเพราะหากเป็นข่าวคงส่งผลกระทบกับธุรกิจที่กำลังทำอยู่แน่นอน

เขามองหน้าติณณภัทรและนับดาวด้วยความแค้นใจ ก่อนจะเดินจากไป แต่แค้นนี้เขาต้องชำระแน่นอน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status