@ผับ
นับดาวในชุดเดรสสายเดียวรัดรูปสีแดงเพลิง กระโปรงสั้นเกือบเสมอแก้มก้นเดินนวยนาดเข้าไปภายในผับที่มีนักท่องราตรีนับร้อยคนด้วยท่าทางเซ็ง ๆ แม้จะมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาหลายคนเอ่ยแซวตลอดทางเดินเธอก็ไม่คิดจะสนใจสักนิด
คืนนี้เธอต้องการมาดื่ม และสนุกเพื่อให้ลืมความเฮงซวยที่เพิ่งเจอมาเมื่อตอนเย็นเท่านั้น เธอเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟาโซนวีไอพี แล้วสั่งเครื่องดื่มดีกรีแรง ๆ กับเด็กเสิร์ฟ นั่งดื่มไปเรื่อย ๆ จนเริ่มเมาจึงเดินถือแก้วเหล้าออกไปยืนเต้น ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามเสียงเพลงท่ามกลางนักท่องราตรีหลายสิบคน เสียงเพลงดังกระหึ่มภายในผับทุกคนต่างสนุกสนานไปกับเสียงเพลงรวมถึงนับดาว เธอโยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะด้วยอารมณ์ที่สนุกสุดเหวี่ยง วู้ว! "แด่ชีวิตห่วย ๆ และครอบครัวสุดแสนเฮงซวย" เปล่งเสียงร้องโห่ออกมาดังลั่นระบายความอัดอั้นในใจ ก่อนจะยกน้ำสีอำพันในแก้วขึ้นกระดกลงคอจนหมด "นอกจากเต้นเก่งแล้ว ยังดื่มเก่งด้วยนะครับ" เสียงของใครบางคนดังแทรกขึ้นจากด้านหลังทำให้นับดาวหยุดชะงัก เมื่อหมุนตัวไปมองเจ้าของเสียงก็พบว่าเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่เธอไม่คิดสนใจหันกลับมาเต้นต่อไม่คิดตอบ หรือสร้างปฏิสัมพันธ์ใด ๆ "หยิ่งเสียด้วย" ชายหนุ่มผู้มาใหม่กระตุกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจกับความเย่อหยิ่งของสาวเจ้า ยิ่งทำให้เขาอยากเอาชนะ เดินอ้อมไปหยิบตรงหน้าเธอแล้วแนะนำตัว "ผมเปรมนะครับน้องนับดาว" "ค่ะ" นับดาวถอนหายใจออกมาอย่างนึกรำคาญขานรับเพียงสั้น ๆ แล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเพราะไม่ต้องการสนทนาอะไรต่อ และตอนนี้เธอก็หมดอารมณ์เต้นแล้วด้วย การกระทำของเธอสร้างความไม่พอใจให้อีกคนเป็นอย่างมาก "หยิ่งเข้าไป เดี๋ยวพ่อจะทำให้หยิ่งไม่ออกเลย" เปรมกัดฟันพูดเสียงต่ำจ้องหญิงสาวที่กล้าเมินเฉยเขาด้วยแววตาดุดันราวกับจะฉีกเนื้อเธอออกเป็นชิ้น ๆ ตอนแรกเขาแค่อยากจะเข้ามาพูดคุยทำความรู้จักกับเธอให้มากกว่านี้เพราะเป็นนางแบบที่หมายตาไว้ แต่สาวเจ้าดันหยิ่งเสียเหลือเกินทำเหมือนสาวใสซื่อทั้งที่มีข่าวเหม็นคาวกับผู้ชายจนนับไม่ถ้วน ตอนนี้เขาอยากจะเอาชนะทำให้เธอมาสยบแทบเท้าของเขามากกว่า และคนอย่างเขาต้องทำให้ได้ด้วย ไม่คิดเปล่าเท้าใหญ่รีบก้าวเดินไปหาเด็กเสิร์ฟที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ทันทีเพื่อทำอะไรบางอย่าง นับดาวซึ่งไม่รู้อะไรเลยยังคงนั่งดื่มไปเรื่อย ๆ พอเหล้าหมดก็เรียกเด็กเสิร์ฟมาสั่งใหม่ โดยไม่รู้เลยว่าเครื่องดื่มที่ถูกนำมาส่งใหม่มีสารบางอย่างเจือปนอยู่ "ทำไมร้อนแบบนี้นะ" นั่งดื่มได้สักพักก็เกิดอาการแปลก ๆ ตัวร้อนรุ่มคล้ายกับจะเป็นไข้มันมีความรู้สึกบางอย่างแทรกซึมเข้ามาด้วย เหมือนต้องการอะไรสักอย่างมาระบายความรู้สึกนี้ เธอรีบกวักมือเรียกเด็กเสิร์ฟมาเช็คบิล แล้วรวบรวมสติสัมปชัญญะที่เหลือเพียงน้อยนิดพาตัวเองเดินโซซัดโซเซออกจากผับ โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนเดินตามอยู่ห่าง ๆ กระทั่งเสียงดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับมือนุ่ม ๆ ที่ยื่นมาจับแขนเธอ "ให้ไปส่งไหมครับ ดูน้องนับดาวเมามากแล้วคงขับรถไม่ไหว" นับดาวค่อย ๆ หันกลับไปเพ่งสายตาที่พร่ามัวด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์มองต้นเสียง ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างรำคาญเมื่อเห็นหน้าผู้ชายที่ตามตื้อเธอไม่เลิก "คุณอีกแล้วเหรอ" "ครับ ผมเอง" เปรมตอบด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่อาบด้วยยาพิษ "ฉันกลับเองได้ค่ะ" นับดาวรีบส่ายหน้าปฏิเสธพัลวันพลางพยายามดึงแขนออกจากการจับกุม ถึงแม้จะเมาแต่สัญชาตญาณมันบอกว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าไว้ใจ "ให้ผมไปส่งดีกว่าครับ" "บอกว่าไม่ต้องไงคะ" เธอปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่ดัง และไม่สบอารมณ์มากกว่าเดิมเมื่ออีกคนยังคงตื้อไม่ยอมหยุด หนำซ้ำยังจับกุมแขนเธอแน่นกว่าเดิมไม่ว่าพยายามสลัดออกเท่าไรก็ไม่หลุด "ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคะ" "อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่า เท่าที่รู้มาน้องนับดาวก็คั่วผู้ชายไม่ซ้ำหน้านิครับ เพิ่มผมไปอีกคนจะ.." เพียะ!! ถ้อยคำพูดจาร้ายกาจบวกกับสายตาที่มองมาอย่างดูถูกของชายหนุ่มแปลกหน้าทำเอานับดาวโกรธจนตัวสั่นฟาดฝ่ามือลงบนแก้มของเขาอย่างแรงไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยจบส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลาหันไปตามแรง "อย่ามาดูถูกฉัน อีกอย่างถึงฉันจะคั่วผู้ชายไม่ซ้ำหน้า แต่ฉันก็เลือกว่าอันไหนดีอันไหนสกปรก" เธอไม่สนว่าอีกคนจะเจ็บมากไหมเอ่ยทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำที่เจ็บแสบ แล้วหันหลังเดินจากมาตอนนี้เธอรู้แค่ว่าต้องกลับห้องให้เร็วที่สุดก่อนอาการแปลก ๆ ภายในร่างกายจะแผลงฤทธิ์มากกว่านี้ อ๊ะ! ทว่าก้าวเท้าเดินได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องหลุดร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อถูกกระชากข้อมือจากด้านหลังอย่างแรงจนตัวเซถลาแทบจะล้มคะมำ คนกระทำคือคนที่เธอเพิ่งฝากรอยฝ่ามือไว้บนหน้านั่นเอง "มึงกล้าตบกูเหรอ" เปรมโกรธจนเลือดขึ้นหน้าที่ถูกผู้หญิงอย่างนับดาวตบ และเขาไม่ปล่อยให้เธอลอยนวลไปแน่นอน ง้างมือขึ้นสุดแขนหมายตบคืน ทว่ากลับถูกมือปริศนาจับเอาไว้ สร้างความไม่พอใจให้เขาเป็นอย่างมากหันกลับไปมองเจ้าของมือด้วยความไม่พอใจ "ใครว่ะ" "หึ มึงนี่เองไอ้ภัทร" เขาเค้นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันเมื่อพบว่าเป็นติณณภัทรคู่แข่งทางธุรกิจของเขาที่มีปัญหากันมายาวนาน "มึงนี่มันเป็นมารตามจองล้างจองผลาญกูจริง ๆ เลยนะ" "คนอย่างมึงต้องเจอกับกูนี่แหละถึงจะเหมาะสม ไม่ใช่เก่งแต่กับคนที่อ่อนแอกว่า" ติณณภัทรไหวไหล่ให้เปรมอย่างไม่ยี่หระ แต่สายตากลับมองผ่านไปยังอีกคนที่มีอาการเมาเหมือนหมาช่างหน้าสมเพชจะโดนปู้ยี้ปู้ย้ำแล้วยังไม่รู้ตัวอีก หากไม่เห็นว่าเธอเป็นน้องสาวของคู่หมั้น และเป็นลูกสาวของผู้ใหญ่ที่นับถืออย่าหวังเลยว่าเขาจะช่วยผู้หญิงร้ายกาจแบบเธอ "มึงอย่ามากล่าวหา กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย" เปรมสวนกลับอย่างลอยหน้าลอยตาเหมือนตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิดทั้งที่ความจริงไม่ใช่ "เหรอ แล้วที่กูเห็นมึงพยายามเข้าหาเธอล่ะ แต่พอเธอไม่เล่นด้วยก็ใช้วิธีสกปรก" ติณณภัทรเหยียดยิ้มออกมาอย่างคนเหนือกว่า เขารู้เขาเห็นทุกอย่างเพราะเขาเองนั่งดื่มอยู่ที่โซนวีไอพีบนชั้นสองทำให้มองเห็นหมดว่าชั้นล่างใครทำอะไรบาง เขาเห็นตั้งแต่เปรมเข้าหานับดาวกระทั่งเดินไปหาเด็กเสิร์ฟแล้วคุยอะไรบางอย่าง เขารู้จักนิสัยเปรมเป็นอย่างดีว่าร้ายกาจแค่ไหนทำไมจะเดาไม่ออกว่าเปรมเล่นไม่ซื่อ และเขาก็ไม่ได้กล่าวหาใครลอย ๆ ที่พูดได้อย่างมั่นใจเพราะไปเค้นถามจากเด็กเสิร์ฟคนนั้นมาแล้วว่าเปรมคิดทำอะไร "หรือมึงจะฟังคลิปเสียงที่กูคุยกับเด็กเสิร์ฟ เด็กเสิร์ฟสารภาพกับกูหมดแล้วว่ามึงใช้ให้ใส่ยาปลุกเซ็กซ์ลงไปในแก้วเหล้าของเธอ" ไม่ว่าเปล่ามือหนาล้วงไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมาเปิดคลิปเสียงให้เปรมฟัง "ชัดพอไหม หากไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นข่าวดังก็ไสหัวไปซะ" "ฝากไว้ก่อนเถอะ ไว้มีโอกาสเมื่อไรกูจะเอาคืนมึงให้หนักเลย" เปรมได้แต่กำหมัดแน่นเก็บความแค้นเอาไว้ หลักฐานชัดขนาดนี้เขาคงปฏิเสธไม่ได้จึงยอมล่าถอยเพราะหากเป็นข่าวคงส่งผลกระทบกับธุรกิจที่กำลังทำอยู่แน่นอน เขามองหน้าติณณภัทรและนับดาวด้วยความแค้นใจ ก่อนจะเดินจากไป แต่แค้นนี้เขาต้องชำระแน่นอนหลังจากเปรมหายหลังไปติณณภัทรก็เดินเข้าไปหานับดาวที่ยืนตัวโงนเงนจะล้มแล่ไม่ล้ม ไล่สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเอือมมระอาการแต่งตัวก็โป็ หนำซ้ำยังดื่มจนไม่ได้สติอีกเธอต้องเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันถึงไม่รักนวลสงวนตัวแบบนี้ ก็สมควรแล้วที่เป็นเหยื่อของพวกไม่ดีหากไม่ใช่เพราะเธอเป็นน้องสาวของคู่หมั้นเขาคงไม่เข้ามายุ่งแน่นอน"ผมไปส่งที่บ้าน" เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งพร้อมกับจับแขนเรียวลากให้เธอเดินตามไปที่รถเพราะสภาพแบบนี้คงขับรถกลับไม่ถึงบ้านแน่ ๆ ทว่าอีกคนกลับสะบัดมือเขาออก"ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ฉันมาเองได้ก็กลับเองได้" นับดาวเชิดหน้าขึ้นตะเบ็งเสียงพูดอย่างถือดีถึงแม้ต้องนี้สภาพแทบทรงตัวไม่ไหวแล้วก็ตาม เธอไม่อยากได้ความช่วยเหลือจากผู้ชายที่ถือว่าเป็นศัตรูเดี๋ยวเขาจะมาทวงบุญคุณที่หลังเอาได้"ที่ฉันยุ่งก็เพราะรู้สึกสงสาร และเห็นใจคุณลุงศักดิ์กับนุช เกิดเธอขับรถแหกโค้ง หรือชนกับรถคันอื่นตายขึ้นมาทั้งสองคงเสียใจมาก""ปากเสียคุณแช่งฉันเหรอห๊ะ!" คำตอบจากปากชายหนุ่มทำเอานับดาวถึงกับปรี๊ดแตกแวดเสียงใส่ด้วยความโมโห ปรือตาที่แทบจะปิดเพราะฤทธิ์แอลกอฮ
เช้าวันต่อมาแสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างเข้ามากระทบเปลือกตาของนับดาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงให้รู้สึกตัวตื่นในช่วงสาย ๆ ของวันใหม่ด้วยอาการไม่สดชื่นเลยสักนิด"อ่า ปวดหัวชะมัด" เธอครวญครางออกมาเบา ๆ พลางยกมือขึ้นนวดขมับเพื่อคลายอาการปวดหัว ก่อนค่อย ๆ หรี่ตาขึ้นมา คิ้วสวยขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นเพดานตรงหน้ามันไม่ใช่ที่คอนโด หรือที่บ้านของเธอแต่เป็นคอนโดของเพื่อนสาวคนสนิท แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเมื่อคืนเธอเมาจนแทบจำอะไรไม่ได้เลย บ้าจริง"ไง ตื่นแล้วเหรอแม่สาวขี้เมา" เสียงทักทายที่ฟังดูคุ้นหูทำให้เธอหลุดจากภวังค์ความคิด ก่อนหยัดกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงมองเพื่อนสาวที่ถือแก้วน้ำขิงเข้ามาเชิงตั้งคำถาม "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไงอ่ะส้ม""นี่แกเมาจนจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ" ส้มกลอกตามองหน้าเพื่อนสาวอย่างนับดาวด้วยความอ่อนใจพลางยื่นแก้วน้ำขิงอุ่น ๆ ให้ เธอละเชื่อเลยจริง ๆ "ก็แกเป็นคนโทรเรียกฉันให้ไปรับเองจำไม่ได้เหรอ""ฮึ..จำไม่ได้อ่ะ" นับดาวส่ายหน้าปฏิเสธหงิก ๆ ขณะที่ในสมองก็พยายามทบทวนเรื่องราวเมื่อคืน"ตอนฉันไปถึงแกก็นั่งคออ่อนคอพับอยู่บนพื้นข้างรถตัวเองแล้ว แค่นั้นไม่พอนะเมื่อคืนแกอาละวา
"จะแสนดีไปถึงไหนฮึ" ติณณภัทรอดกระแหนะกระแหนคู่หมั้นสาวไม่ได้พร้อมกับยื่นมือไปยีหัวเธอเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้ ทำเอาอีกคนถึงกับหน้างอ พูดดุเจ้าของการกระทำเสียงเขียวเพราะกลัวผมเสียทรง "อย่าเล่น ผมนุชเสียทรงหมดแล้วภัทร""อะ ๆ จัดให้ใหม่ก็ได้" แทนที่คนถูกดุจะสำนึกกลับหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ แต่มือก็ยอมเปลี่ยนเป็นลูบลงบนเรือนผมดกดำแทนเพื่อจัดแต่งทรงผมของเธอให้เหมือนเดิม นั่นจึงทำให้นีรนุชยิ้มได้ ภาพที่ทั้งสองหยอกล้อกันอย่างน่ารักมีสายตาของส้มที่นั่งหันหน้าไปทางคนทั้งสองมองอยู่ตลอดเวลา เธอรู้สึกอิจฉาตาร้อนจนต้องระบายกับเพื่อนสาว"พี่นุชกับคู่หมั้นคงรักกันมากเนาะ ดูสิสวีทกันไม่เกรงใจคนในร้านเลย อยากมีโมเม้นท์แบบนั้นบ้างจัง""อยากมีก็รีบหาแฟนสิ อย่ามัวแต่บ่นอยู่" นับดาวตอบแบบขอไปทีโดยไม่คิดจะหันไปมองให้เสียลูกตา แต่ใครจะรู้ว่าในใจเธอกำลังคิดอะไรอยู่เธอไม่ได้รู้สึกอิจฉา หรืออยากมีโมเม้นท์แบบนั้นสักนิด ตรงข้ามกันเธอเกลียดที่นีรนุชมีความสุขกำลังจะได้แต่งงานกับคนที่รักในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ที่เธอเกลียดยิ่งกว่าคือนิ่มแม่เลี้ยงใจมารที่ดูจะมีความสุขจนออกนอกหน้ากับการได้ลูกเขยรวย และโปร์ไฟล์เพรียบพ
2 วันต่อมางานเลี้ยงวันเกิดของนีรนุชถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บริเวณลานหญ้าหน้าบ้าน เชิญแค่คนสนิทเท่านั้น มีเพื่อนของนีรนุชกับติณณภัทรซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกัน และญาติ ๆ เพียงไม่กี่คนบรรยากาศภายในงานเลี้ยงเป็นไปอย่างครึกครื้น ทุกคนดูจะแฮปปี้สุด ทว่าคงจะมีแต่นับดาวที่ไร้อารมณ์นั่งทำหน้าเบื่อโลกอยู่คนเดียว หากไม่ติดว่าคืนนี้มีอะไรบางอย่างต้องทำเธอไม่มีวันเสนอหน้าอยู่ในงานแน่เธอจ้องมองไปยังนีรนุชที่กำลังยืนหัวเราะต่อกระซิกกับคู่หมั้นด้วยแววตาแข็งกร้าว ก่อนกดเสียงพูดในลำคออย่างมีแผนร้าย "มีความสุขกันให้พอนะ เพราะพรุ่งนี้เธอกับแม่อาจต้องผิดหวังนีรนุช"ครืดดด~เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังขึ้นนับดาวจึงละสายตาจากคนทั้งสอง หยิบโทรศัพท์บนตักขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของคนที่รอคอยจึงลุกเดินออกไปรับสายในที่ลับตาคน(ฉันอยู่หน้าบ้านคุณแล้วนะคะ)"คุณเปิดประตูเล็กแล้วเดินเข้ามาได้เลยค่ะ ฉันจะรอรับอยู่หน้าบ้าน"(ค่ะ ๆ)นับดาวเผยรอยยิ้มร้ายออกมาหลังจากวางสาย ก่อนจะเดินอ้อมสนามหญ้าออกไปยืนรอรับใครบางคนที่กำลังมาถึงหน้าบ้าน ยืนรอไม่ถึงเสี้ยวนาทีหญิงสาวหน้าตาน่ารักก็เดินมาหยุดตรงหน้าเธอ แล้วกล่าวทักท
วันต่อมา"กรี๊ดด!"เสียงกรีดร้องดังกึกก้องไปทั่วบริเวณบ้านทำให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของติณณภัทรกับนีรนุช ทนงศักดิ์ นิ่ม อุงอิง และแม่บ้านต่างพากันตกใจ รีบวิ่งไปดูทางต้นเสียงก็พบว่าเป็นนีรนุชที่กำลังยืนเนื้อตัวสั่นเทา ร้องไห้ออกมาจนตัวโยนหน้าห้องนอนแขก"เกิดอะไรขึ้นลูกนุช" นิ่มรีบวิ่งเข้าไปกอดบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง ทว่าเธอก็ต้องตาเบิกกว้างอุทานออกมาเสียงดังลั่นเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นคู่หนุ่มสาวที่นอนอยู่บนเตียงภายในห้องท่าทางของนิ่มทำให้ทุกคนต่างสงสัยจนต้องรีบไปดู พอได้เห็นก็มีปฎิกิริยาไม่ต่างจากนิ่มเลย โดยเฉพาะทนงศักดิ์ที่โกรธจนหน้าสั่นกับภาพบุตรสาวคนเล็กนอนที่นอนร่วมเตียงกับคู่หมั้นของพี่สาวในสภาพเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มคลุมไว้ถึงหน้าอก รีบปรี่เข้าไปเขย่าตัวตะเบ็งเสียงเรียกดังลั่นด้วยความโมโหสุดขีด "นับดาวลุกขึ้นมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้ ลุกขึ้นมาไอ้ลูกไม่รักดี""อื้อ! คนจะนอน" เสียงรบกวนที่ดังทบโสตประสาทบวกแรงเขย่าทำให้นับดาวที่กำลังนอนหลับอย่างสบายหงุดหงิดไม่น้อย เธอค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้แม้อยากจะนอนต่อแค่ไหนก็ตามเพราะรู้สึกปวดหัว และเนื้อตัวมาก ๆ ราวกับถูกสิบล้อเหย
บรรยากาศภายในห้องโถงเป็นไปอย่างตึงเครียด มีทนงศักดิ์นั่งหน้าเคร่งขรึมอยู่ นีรนุชยังคงสะอื้นไห้ไม่หยุดโดยมีผู้เป็นแม่ปลอบประโลมไม่ห่าง ส่วนคนอื่นทนงศักดิ์ให้กลับกันไปหมดแล้วเพราะต้องการเคลียร์กันแค่คนในครอบครัว"ผมขอโทษคุณลุง คุณน้า และน้องนุชด้วยนะครับ " ติณณภัทรเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าคนทั้งสาม ก่อนยกมือไหว้ขอโทษด้วยความรู้สึกผิด และยืดอกรับอย่างลูกผู้ชายไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไงก็ตาม "ผมยอมรับผิดทุกอย่าง ไม่ขอแก้ตัวอะไรทั้งสิ้นครับ""ภะ..ภัทรทำแบบนี้กับนุชได้ยังไงคะ" นีรนุชเอ่ยออกมาทั้งน้ำตานองหน้า จ้องมองผู้ชายที่เธอแอบรักมาเนินนานด้วยแววตาผิดหวัง เธอผิดหวังและเสียใจมากจริง ๆ "ภัทรขอโทษนุช ภัทรขอโทษ" ภาพนีรนุชสะอื้นไห้ทำเอาติณณภัทรถึงกับเอ่ยอะไรไม่ออกมีเพียงเสียงขอโทษแผ่วเบาที่ดังซ้ำ ๆ ต่อให้เขาอธิบายอะไรไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา หนำซ้ำคงจะทำให้ทนงศักดิ์ผู้ใหญ่ที่เขาเคารพรักดั่งพ่อรู้สึกแย่หนักกว่าเดิมจนโรคหัวใจอาจกำเริบได้หากเขาบอกว่าทั้งหมดเป็นเพราะโดนนับดาววางยาปลุกเซ็กซ์ และถ้าเป็นแบบนั้นนีรนุชคงยิ่งแย่"น้าไม่คิดเลยว่าภัทรจะทำแบบนี้ น้าผิดหวังมากจริง ๆ" นิ่มตัดพ้อเด็กหนุ่มด้ว
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ" นับดาวพึมพำออกมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในสมองหลังจากก้าวขึ้นมานับบนรถแล้ว อารมณ์หมองมนในทันตา ใบหน้าสวยฉายแววอ่อนล้าออกมาอย่างชัดเจนเธอรู้สึกเหนื่อยมากจริง ๆ กับการต้องปั้นหน้าเหมือนไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับเรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าทุกคนทั้งที่ในใจมันไม่ใช่เลยจนถึงตอนนี้ยังคงมีคำถามมากมายติดค้างอยู่ในใจว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมทุกอย่างถึงได้กลับตาลปัตรแบบนี้ ทำไมถึงรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลก ๆ เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาอุงอิงเพื่อสอบถามเหตุการณ์เมื่อคืน ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ(สวัสดีค่ะคุณนับดาว)"ค่ะ ฉันจะโทรมาถามเรื่องเมื่อคืนหน่อยค่ะ"(ค่ะ ฉันก็ว่าจะโทรหาคุณอยู่พอดีเลย)"เมื่อคืนคุณจำอะไรได้บางไหมคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกอย่างมันถึงผิดแผนไปหมด ส่วนฉันจำได้แค่ว่านั่งดื่มกับคุณอยู่จากนั้นภาพก็ตัดไปเลย"(ฉันก็เหมือนกันค่ะภาพสุดท้ายที่จำได้คือนั่งดื่มอยู่กับคุณ แต่พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็นอนอยู่ในห้องที่บ้านคุณแล้ว ฉันถามออยแม่บ้านของคุณแล้วเธอก็บอกว่าเหมือนกัน เป็นไปได้ไหมคะว่าพวกเราจะเผลอดื่มแก้วที่มียานอนหลับเขาไปด้ว
@บ้านอัครกุลติณณภัทรทิ้งเตียงตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงนุ่ม หลับตาลงด้วยอาการหนักอึ้งในสมองเพราะคิดไม่ตกกับเรื่องในวันนี้ นี่เขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงร้ายกาจอย่างนับดาวจริงหรือแค่คิดก็หนักใจตั้งไว้แล้ว ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ต้องเจอกับอะไรอีก ไหนจะนีรนุชที่ยังไม่ได้คุยกันสักนิด เธอคงโกรธและเกลียดเขามากขนาดเขาขอคุยกับเธอก่อนกลับเธอยังปฏิเสธแล้ววิ่งหนีขึ้นห้องไป ไหนจะพ่อกับแม่ตัวเองอีกไม่รู้ว่าท่านทั้งสองจะมีปฏิกิริยายังไงเมื่อเขาบอกเรื่องนี้ไป ที่ผ่านมาผู้เป็นแม่ก็ดูจะไม่ชอบนับดาวอย่างชัดเจน ส่วนผู้เป็นพ่อเขาเดาไม่ถูกจริง ๆ ว่าท่านคิดยังไง"แม่ง! เพราะเธอคนเดียวนับดาว" เสียงทุ้มสบถออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนเขาดีดตัวลุกลงจากเตียงถอดเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำหวังให้น้ำช่วยบรรเทาอารมณ์คุกรุ่นในร่างกายให้เย็นลง ทว่าเหมือนน้ำเย็น ๆ จะไม่ได้ช่วยอะไรเพราะภาพความร้ายกาจของหญิงสาวยังคงวนเวียนในสมองเขาไม่เลิก"บ้าชะมัด!" เขาสบถออกมาอีกครั้งพร้อมกับปิดฝักบัว เอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวแล้วเดินออกไปแต่งตัวก็อก! ก็อก!ระหว่างนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเขาจึงรีบสวมเสื้อผ้าแล้วเดินไปเปิดประตู"มันเกิดอ