บางทีโลกนี้ก็ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลยทำไมคนเลว ๆ ที่ทำร้ายคนอื่นถึงยังใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ขณะที่คนถูกกระทำต้องจมอยู่กับความเจ็บปวด
"หึ"
นับดาว หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสะสวย วัย 26ปี ในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีแดงเค้นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยันกับความดราม่าของชีวิตตัวเอง ขณะที่สายตาจ้องมองภาพบิดา แม่เลี้ยง พี่สาวคนละแม่ และคู่หมั้นของพี่สาวนั่งคุยกันในห้องรับแขกอย่างมีความสุขด้วยแววตาเต็มไปด้วยความคับแค้นใจ ..พวกเขาต่างมีความสุข ความสุขที่เธอไม่เคยได้สัมผัสตั้งแต่มารดาจากไป.. เท้าเล็กบนรองเท้าส้นสูงไม่รอช้าเดินนวยนาดเข้าไปกลางวงสนทนา หย่อนก้นนั่งบนโซฟาตัวที่ยังว่างอยู่ แล้ววาดเรียวขาสวยขึ้นไขว้ห้างทำให้ชุดเดรสที่สั้นอยู่แล้วร่อนขึ้นไปอีกจนแทบเห็นแพนตี้ แต่เธอหาได้แคร์ใครหน้าไหนไม่เพราะจุดประสงค์คือต้องการขัดขว้างไม่ให้ทุกคนในที่นี้มีความสุขอยู่แล้ว และมันก็ได้ผลทุกคนต่างพากันเงียบอัตโนมัติ บรรยากาศอึมครึมลงในทันตา ริมฝีปากอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงเผยรอยยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นสีหน้าของคนเป็นบิดาที่แสดงออกมาว่าไม่พอใจอย่างชัดเจนกับการกระทำของเธอ "ทำตัวให้มันดี ๆ หน่อยนับดาว" ทนงศักดิ์ต่อว่าบุตรสาวอย่างเหลืออดทั้งที่ความจริงไม่อยากต่อว่าให้เธอขายหน้าคู่หมั้นของบุตรสาวคนโตอย่างนีรนุชเลยเลย "แล้วนับทำตัวไม่ดีตรงไหนคะ" นับดาวตอบอย่างลอยหน้าลอยตาเผยรอยยิ้มร้ายออกมา ไม่ได้สะทกสะท้านสักนิด และไม่สนด้วยว่าใครจะคิดยังไงเพราะทุกวันนี้ทุกคนก็พากันมองเธอไม่ดีหมดแล้ว เธอเป็นนางแบบชื่อดังที่มีข่าวฉาวโฉกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า เพราะฉะนั้นอย่าถามหาด้านดี ๆ ของเธอเลย สาเหตุที่เธอทำตัวแบบนี้ก็เพราะต้องการทำลายชื่อเสียงบิดานั่นเอง "ฉันชักหมดความอดทนกับแกแล้วนะนับดาว ทำไมแกถึงมีนิสัยแบบนี้ รู้ไหมว่าฉันอายคนอื่นเขาแค่ไหนที่มีลูกอย่างแก" ทนงศักดิ์เอ่ยด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิมนาทีนี้เขาไม่คิดอายคู่หมั้นบุตรสาวคนโตที่นั่งอยู่ด้วยสักนิด เขาอดทนอดกลั้นกับบุตรสาวคนเล็กมามากพอแล้ว เขาเป็นถึงผู้พิพากษา แต่กลับมีลูกสาวที่ทำอาชีพโชว์เรือนร่าง หนำซ้ำมีข่าวเหม็นคาวไม่เว้นแต่ละวันเขาก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ทำไมบุตรสาวถึงได้กลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ก็ไม่รู้ อะไรที่เขาห้ามบุตรสาวก็จะทำ ครั้งเมื่อเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยเขาบอกให้เรียนกฎหมายเพื่อจะได้เดินตามรอยตัวเองบุตรสาวก็เลือกเรียนนิเทศศาสตร์ พอเขาสั่งห้ามไม่ให้เป็นนางแบบเธอก็เป็นนางแบบ "คุณพ่อใจเย็น ๆ นะคะ ค่อยพูดค่อยจากัน" นีรนุชรีบเอื้อมมือไปวางบนขาคนเป็นพ่อเพื่อให้ท่านใจเย็นลงเพราะกลัวโรคของท่านจะกำเริบ ก่อนจะเอ่ยกับน้องสาวต่างแม่ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนหวังคลี่คลายสถาการณ์ตึงเครียดระหว่างพ่อลูก "น้องนับอย่าโกรธคุณพ่อเลยนะคะ ท่านก็พูดไปแบบนั้นแหละ" "นับเป็นลูกคนเดียวค่ะไม่มีพี่สาว อีกอย่างเลิกตอแหลทำเป็นแสนดีสักทีเถอะค่ะเห็นแล้วรำคาญ" นับดาวกลับมองว่านีรนุชแสแสร้งเหมือนแม่ของเธอนั่นแหละ ตอกกลับอย่างเจ็บแสบทำเอานีรนุชถึงกับหน้าเจื่อน แววตาเศร้าหมองลงฉับพลันพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มเออคลอด้วยความเสียใจ "ทำไมหนูนับต้องว่าพี่เขาแรง ๆ ด้วยจ๊ะ พี่เขาหวังดีกับหนูจริง ๆ นะ" นิ่มแม่เลี้ยงของนับดาวพูดขึ้นด้วยใบหน้าสลดทั้งที่ในใจอยากจะเข้าไปกระชากหัวลูกเลี้ยงปากดีอย่างนับดาวมาตบให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ต้องสะกดกลั้นความไม่พอใจเอาไว้แสดงเป็นแม่เลี้ยงที่แสนดีต่อหน้าทุกคน และเหมือนทุกคนจะเชื่อสนิทใจ... "ตอแหลทั้งแม่ทั้งลูกเลยนะคะ" นับดาวตวัดสายตามองแม่เลี้ยงหน้าเนื้อใจเสือนิ่ง ๆ กดเสียงพูดอย่างเย้ยหยัน รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นประดับมุมปากหยักแวบหนึ่ง ก่อนหายไป "รางวัลตุ๊กตาทองคงต้องเข้าแล้วละคะ" "พี่ว่าน้องนับดาวพูดจาแรงเกินไปแล้วนะครับ คุยกันดี ๆ ก็ได้ครับ" ติณณภัทรคู่หมั้นนีรนุชที่นั่งฟังเงียบ ๆ มานานพูดแทรกขึ้นเพราะทนไม่ไหวอีกต่อไปกับความร้ายกาจของนับดาวที่แผลงฤทธิ์ใส่ผู้หลักผู้ใหญ่ไม่เว้นแม้กระทั่งพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเอง เขาเคยได้ยิน และได้เห็นข่าวในด้านเสีย ๆ หาย ๆ ของเธอตลอด แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีนิสัยก้าวร้าวด้วย ผู้หญิงอะไรร้ายกาจไม่มีที่ติขัดกับหน้าตาสิ้นเชิงแบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกหน้าสวยแต่ใจเสีย "ฉันว่าคุณนั่งเงียบ ๆ จะดีกว่านะคะ หรือไม่ก็ออกไปจากบ้านฉันได้แล้วนี่เป็นเรื่องภายในครอบครัว" นับดาวสวนกลับทันควันมองสบนัยน์ตาสีดำขลับของติณณภัทรโดยไม่หลบหลีก ถึงเขาจะเป็นแขกเธอก็ไม่คิดไว้หน้า เขาเป็นคู่หมั้นของนีรนุชก็ถือเป็นศัตรูกับเธอด้วย "แกนี่มันเกินเยียวยาจริง ๆ นับดาว" ทนงศักดิ์ส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอา และเหลือทนกับนิสัยกร้าวร้าวของบุตรสาว ทว่านับดาวกลับไหวไหล่ให้ท่านอย่างไม่แยแสเธอชินกับคำต่อว่าของบิดาแล้วล่ะ "ใครจะดีเลิศประเสริฐศรีเหมือนลูกสาวสุดที่รักของคุณพ่อละคะ" อดไม่ได้จะตวัดสายตาไปพูดกระแหนะกระแหนนีรนุชที่บิดามักชมว่าดีนักดีหนา ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วพูดต่อ "เชิญตามสบายเลยค่ะนับขอตัวก่อนอยู่ใกล้ ๆ พวกตอแหลนาน ๆ กลัวจะติดเชื้อตอแหลไปด้วย" ว่าจบเธอก็ลุกเดินสะบัดตูดออกจากบ้านไปอีกครั้งทั้งที่เพิ่งกลับมาทิ้งให้ทุกคนมองตามหลังด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป ติณณภัทรลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ เกิดมาเขาไม่เคยพบผู้หญิงคนไหนที่นิสัยแย่เท่านับดาวมาก่อน เขาเป็นคนนอกยังสุดจะทนขนาดนี้คนเป็นพ่ออย่างทนงศักดิ์คงไม่ต้องพูดถึง คิด ๆ แล้วก็น่าเห็นใจเหมือนกัน ใครได้นับดาวไปเป็นเมียคงดวงซวยสุด ๆ ... ภายในห้องรับแขกถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบนานนับนาที ก่อนนีรนุชจะหันไปเอ่ยกับแฟนหน่มด้วยน้ำเสียงนุ่ม เพื่อทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดนี้ "นุชขอโทษแทนน้องนับด้วยนะคะ ภัทรอย่าถือสาน้องเลยนะคะ" "ลูกก็เป็นแบบนี้ตลอดยอมน้องไปหมด น้องพูดจาทำร้ายจิตใจขนาดนี้แล้วยังอุตส่าห์ปกป้องน้องอีก" นิ่มเอ็ดบุตรสาวเบา ๆ บางทีเธอก็นึกขัดใจบุตรสาวไม่น้อยที่แสนดีเหลือเกิน อะไรก็ยอมนับดาวไปหมดราวกับนางเอกละครน้ำเน่าก็ไม่ปราน "ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ นุชเข้าใจน้อง" นีรนุชส่งสายออดอ้อนมารดาที่ทำหน้าคว่ำใส่เธอพร้อมกับระบายยิ้มให้บาง ๆ "ถ้านับดาวนิสัยได้สักครึ่งหนึ่งของลูกนุชก็คงดี พ่อคงเบาใจขึ้นเยอะ" ทนงศักดิ์มองบุตรสาวคนโตอย่างชื่นชม เด็กสาวไม่เคยทำให้เขาทุกข์ใจเลยสักครั้งต่างจากอย่างนับดาวสิ้นเชิงพอคิดถึงก็รู้สึกอ่อนใจเอามาก ๆ คำพูดที่ทนงศักดิ์พูดนับดาวได้ยินหมดเพราะเธออยากจะรู้ว่าทั้งสามพูดอะไรกันบ้างหลังจากเธอไม่อยู่จึงแอบยืนฟังริมประตู เธอแสยะยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะหมุนตัวเดินไปขึ้นรถด้วยใบหน้าราบเรียบไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาให้เห็น เธอชินแล้วล่ะเพราะบิดามักต่อว่าเธอด้วยคำพูดแรง ๆ เสมอ อีกทั้งยังชอบเปรียบเทียบเธอกับนีรนุชอีก ในสายตาท่านเธอมันก็แค่ลูกนิสัยไม่ดีเท่านั้นเอง แต่หากจะโทษก็ต้องโทษบิดาที่ทำให้เธอต้องกลายเป็นคนร้ายกาจแบบนี้@ผับนับดาวในชุดเดรสสายเดียวรัดรูปสีแดงเพลิง กระโปรงสั้นเกือบเสมอแก้มก้นเดินนวยนาดเข้าไปภายในผับที่มีนักท่องราตรีนับร้อยคนด้วยท่าทางเซ็ง ๆ แม้จะมีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาหลายคนเอ่ยแซวตลอดทางเดินเธอก็ไม่คิดจะสนใจสักนิดคืนนี้เธอต้องการมาดื่ม และสนุกเพื่อให้ลืมความเฮงซวยที่เพิ่งเจอมาเมื่อตอนเย็นเท่านั้น เธอเดินเข้าไปหย่อนก้นนั่งบนโซฟาโซนวีไอพี แล้วสั่งเครื่องดื่มดีกรีแรง ๆ กับเด็กเสิร์ฟ นั่งดื่มไปเรื่อย ๆ จนเริ่มเมาจึงเดินถือแก้วเหล้าออกไปยืนเต้น ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามเสียงเพลงท่ามกลางนักท่องราตรีหลายสิบคนเสียงเพลงดังกระหึ่มภายในผับทุกคนต่างสนุกสนานไปกับเสียงเพลงรวมถึงนับดาว เธอโยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะด้วยอารมณ์ที่สนุกสุดเหวี่ยง วู้ว!"แด่ชีวิตห่วย ๆ และครอบครัวสุดแสนเฮงซวย" เปล่งเสียงร้องโห่ออกมาดังลั่นระบายความอัดอั้นในใจ ก่อนจะยกน้ำสีอำพันในแก้วขึ้นกระดกลงคอจนหมด "นอกจากเต้นเก่งแล้ว ยังดื่มเก่งด้วยนะครับ" เสียงของใครบางคนดังแทรกขึ้นจากด้านหลังทำให้นับดาวหยุดชะงัก เมื่อหมุนตัวไปมองเจ้าของเสียงก็พบว่าเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่เธอไม่คิดสนใจหันกลับมาเต้นต่อไม่คิดตอบ หรือสร้างปฏิสัมพันธ์
หลังจากเปรมหายหลังไปติณณภัทรก็เดินเข้าไปหานับดาวที่ยืนตัวโงนเงนจะล้มแล่ไม่ล้ม ไล่สายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเอือมมระอาการแต่งตัวก็โป็ หนำซ้ำยังดื่มจนไม่ได้สติอีกเธอต้องเป็นผู้หญิงประเภทไหนกันถึงไม่รักนวลสงวนตัวแบบนี้ ก็สมควรแล้วที่เป็นเหยื่อของพวกไม่ดีหากไม่ใช่เพราะเธอเป็นน้องสาวของคู่หมั้นเขาคงไม่เข้ามายุ่งแน่นอน"ผมไปส่งที่บ้าน" เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแข็งพร้อมกับจับแขนเรียวลากให้เธอเดินตามไปที่รถเพราะสภาพแบบนี้คงขับรถกลับไม่ถึงบ้านแน่ ๆ ทว่าอีกคนกลับสะบัดมือเขาออก"ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ฉันมาเองได้ก็กลับเองได้" นับดาวเชิดหน้าขึ้นตะเบ็งเสียงพูดอย่างถือดีถึงแม้ต้องนี้สภาพแทบทรงตัวไม่ไหวแล้วก็ตาม เธอไม่อยากได้ความช่วยเหลือจากผู้ชายที่ถือว่าเป็นศัตรูเดี๋ยวเขาจะมาทวงบุญคุณที่หลังเอาได้"ที่ฉันยุ่งก็เพราะรู้สึกสงสาร และเห็นใจคุณลุงศักดิ์กับนุช เกิดเธอขับรถแหกโค้ง หรือชนกับรถคันอื่นตายขึ้นมาทั้งสองคงเสียใจมาก""ปากเสียคุณแช่งฉันเหรอห๊ะ!" คำตอบจากปากชายหนุ่มทำเอานับดาวถึงกับปรี๊ดแตกแวดเสียงใส่ด้วยความโมโห ปรือตาที่แทบจะปิดเพราะฤทธิ์แอลกอฮ
เช้าวันต่อมาแสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านหน้าต่างเข้ามากระทบเปลือกตาของนับดาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงให้รู้สึกตัวตื่นในช่วงสาย ๆ ของวันใหม่ด้วยอาการไม่สดชื่นเลยสักนิด"อ่า ปวดหัวชะมัด" เธอครวญครางออกมาเบา ๆ พลางยกมือขึ้นนวดขมับเพื่อคลายอาการปวดหัว ก่อนค่อย ๆ หรี่ตาขึ้นมา คิ้วสวยขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นเพดานตรงหน้ามันไม่ใช่ที่คอนโด หรือที่บ้านของเธอแต่เป็นคอนโดของเพื่อนสาวคนสนิท แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันเมื่อคืนเธอเมาจนแทบจำอะไรไม่ได้เลย บ้าจริง"ไง ตื่นแล้วเหรอแม่สาวขี้เมา" เสียงทักทายที่ฟังดูคุ้นหูทำให้เธอหลุดจากภวังค์ความคิด ก่อนหยัดกายลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงมองเพื่อนสาวที่ถือแก้วน้ำขิงเข้ามาเชิงตั้งคำถาม "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไงอ่ะส้ม""นี่แกเมาจนจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ" ส้มกลอกตามองหน้าเพื่อนสาวอย่างนับดาวด้วยความอ่อนใจพลางยื่นแก้วน้ำขิงอุ่น ๆ ให้ เธอละเชื่อเลยจริง ๆ "ก็แกเป็นคนโทรเรียกฉันให้ไปรับเองจำไม่ได้เหรอ""ฮึ..จำไม่ได้อ่ะ" นับดาวส่ายหน้าปฏิเสธหงิก ๆ ขณะที่ในสมองก็พยายามทบทวนเรื่องราวเมื่อคืน"ตอนฉันไปถึงแกก็นั่งคออ่อนคอพับอยู่บนพื้นข้างรถตัวเองแล้ว แค่นั้นไม่พอนะเมื่อคืนแกอาละวา
"จะแสนดีไปถึงไหนฮึ" ติณณภัทรอดกระแหนะกระแหนคู่หมั้นสาวไม่ได้พร้อมกับยื่นมือไปยีหัวเธอเบา ๆ ด้วยความหมั่นไส้ ทำเอาอีกคนถึงกับหน้างอ พูดดุเจ้าของการกระทำเสียงเขียวเพราะกลัวผมเสียทรง "อย่าเล่น ผมนุชเสียทรงหมดแล้วภัทร""อะ ๆ จัดให้ใหม่ก็ได้" แทนที่คนถูกดุจะสำนึกกลับหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ แต่มือก็ยอมเปลี่ยนเป็นลูบลงบนเรือนผมดกดำแทนเพื่อจัดแต่งทรงผมของเธอให้เหมือนเดิม นั่นจึงทำให้นีรนุชยิ้มได้ ภาพที่ทั้งสองหยอกล้อกันอย่างน่ารักมีสายตาของส้มที่นั่งหันหน้าไปทางคนทั้งสองมองอยู่ตลอดเวลา เธอรู้สึกอิจฉาตาร้อนจนต้องระบายกับเพื่อนสาว"พี่นุชกับคู่หมั้นคงรักกันมากเนาะ ดูสิสวีทกันไม่เกรงใจคนในร้านเลย อยากมีโมเม้นท์แบบนั้นบ้างจัง""อยากมีก็รีบหาแฟนสิ อย่ามัวแต่บ่นอยู่" นับดาวตอบแบบขอไปทีโดยไม่คิดจะหันไปมองให้เสียลูกตา แต่ใครจะรู้ว่าในใจเธอกำลังคิดอะไรอยู่เธอไม่ได้รู้สึกอิจฉา หรืออยากมีโมเม้นท์แบบนั้นสักนิด ตรงข้ามกันเธอเกลียดที่นีรนุชมีความสุขกำลังจะได้แต่งงานกับคนที่รักในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ที่เธอเกลียดยิ่งกว่าคือนิ่มแม่เลี้ยงใจมารที่ดูจะมีความสุขจนออกนอกหน้ากับการได้ลูกเขยรวย และโปร์ไฟล์เพรียบพ
2 วันต่อมางานเลี้ยงวันเกิดของนีรนุชถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่บริเวณลานหญ้าหน้าบ้าน เชิญแค่คนสนิทเท่านั้น มีเพื่อนของนีรนุชกับติณณภัทรซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกัน และญาติ ๆ เพียงไม่กี่คนบรรยากาศภายในงานเลี้ยงเป็นไปอย่างครึกครื้น ทุกคนดูจะแฮปปี้สุด ทว่าคงจะมีแต่นับดาวที่ไร้อารมณ์นั่งทำหน้าเบื่อโลกอยู่คนเดียว หากไม่ติดว่าคืนนี้มีอะไรบางอย่างต้องทำเธอไม่มีวันเสนอหน้าอยู่ในงานแน่เธอจ้องมองไปยังนีรนุชที่กำลังยืนหัวเราะต่อกระซิกกับคู่หมั้นด้วยแววตาแข็งกร้าว ก่อนกดเสียงพูดในลำคออย่างมีแผนร้าย "มีความสุขกันให้พอนะ เพราะพรุ่งนี้เธอกับแม่อาจต้องผิดหวังนีรนุช"ครืดดด~เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังขึ้นนับดาวจึงละสายตาจากคนทั้งสอง หยิบโทรศัพท์บนตักขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของคนที่รอคอยจึงลุกเดินออกไปรับสายในที่ลับตาคน(ฉันอยู่หน้าบ้านคุณแล้วนะคะ)"คุณเปิดประตูเล็กแล้วเดินเข้ามาได้เลยค่ะ ฉันจะรอรับอยู่หน้าบ้าน"(ค่ะ ๆ)นับดาวเผยรอยยิ้มร้ายออกมาหลังจากวางสาย ก่อนจะเดินอ้อมสนามหญ้าออกไปยืนรอรับใครบางคนที่กำลังมาถึงหน้าบ้าน ยืนรอไม่ถึงเสี้ยวนาทีหญิงสาวหน้าตาน่ารักก็เดินมาหยุดตรงหน้าเธอ แล้วกล่าวทักท
วันต่อมา"กรี๊ดด!"เสียงกรีดร้องดังกึกก้องไปทั่วบริเวณบ้านทำให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนของติณณภัทรกับนีรนุช ทนงศักดิ์ นิ่ม อุงอิง และแม่บ้านต่างพากันตกใจ รีบวิ่งไปดูทางต้นเสียงก็พบว่าเป็นนีรนุชที่กำลังยืนเนื้อตัวสั่นเทา ร้องไห้ออกมาจนตัวโยนหน้าห้องนอนแขก"เกิดอะไรขึ้นลูกนุช" นิ่มรีบวิ่งเข้าไปกอดบุตรสาวด้วยความเป็นห่วง ทว่าเธอก็ต้องตาเบิกกว้างอุทานออกมาเสียงดังลั่นเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นคู่หนุ่มสาวที่นอนอยู่บนเตียงภายในห้องท่าทางของนิ่มทำให้ทุกคนต่างสงสัยจนต้องรีบไปดู พอได้เห็นก็มีปฎิกิริยาไม่ต่างจากนิ่มเลย โดยเฉพาะทนงศักดิ์ที่โกรธจนหน้าสั่นกับภาพบุตรสาวคนเล็กนอนที่นอนร่วมเตียงกับคู่หมั้นของพี่สาวในสภาพเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าห่มคลุมไว้ถึงหน้าอก รีบปรี่เข้าไปเขย่าตัวตะเบ็งเสียงเรียกดังลั่นด้วยความโมโหสุดขีด "นับดาวลุกขึ้นมาคุยกับฉันเดี๋ยวนี้ ลุกขึ้นมาไอ้ลูกไม่รักดี""อื้อ! คนจะนอน" เสียงรบกวนที่ดังทบโสตประสาทบวกแรงเขย่าทำให้นับดาวที่กำลังนอนหลับอย่างสบายหงุดหงิดไม่น้อย เธอค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้แม้อยากจะนอนต่อแค่ไหนก็ตามเพราะรู้สึกปวดหัว และเนื้อตัวมาก ๆ ราวกับถูกสิบล้อเหย
บรรยากาศภายในห้องโถงเป็นไปอย่างตึงเครียด มีทนงศักดิ์นั่งหน้าเคร่งขรึมอยู่ นีรนุชยังคงสะอื้นไห้ไม่หยุดโดยมีผู้เป็นแม่ปลอบประโลมไม่ห่าง ส่วนคนอื่นทนงศักดิ์ให้กลับกันไปหมดแล้วเพราะต้องการเคลียร์กันแค่คนในครอบครัว"ผมขอโทษคุณลุง คุณน้า และน้องนุชด้วยนะครับ " ติณณภัทรเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าคนทั้งสาม ก่อนยกมือไหว้ขอโทษด้วยความรู้สึกผิด และยืดอกรับอย่างลูกผู้ชายไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นยังไงก็ตาม "ผมยอมรับผิดทุกอย่าง ไม่ขอแก้ตัวอะไรทั้งสิ้นครับ""ภะ..ภัทรทำแบบนี้กับนุชได้ยังไงคะ" นีรนุชเอ่ยออกมาทั้งน้ำตานองหน้า จ้องมองผู้ชายที่เธอแอบรักมาเนินนานด้วยแววตาผิดหวัง เธอผิดหวังและเสียใจมากจริง ๆ "ภัทรขอโทษนุช ภัทรขอโทษ" ภาพนีรนุชสะอื้นไห้ทำเอาติณณภัทรถึงกับเอ่ยอะไรไม่ออกมีเพียงเสียงขอโทษแผ่วเบาที่ดังซ้ำ ๆ ต่อให้เขาอธิบายอะไรไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา หนำซ้ำคงจะทำให้ทนงศักดิ์ผู้ใหญ่ที่เขาเคารพรักดั่งพ่อรู้สึกแย่หนักกว่าเดิมจนโรคหัวใจอาจกำเริบได้หากเขาบอกว่าทั้งหมดเป็นเพราะโดนนับดาววางยาปลุกเซ็กซ์ และถ้าเป็นแบบนั้นนีรนุชคงยิ่งแย่"น้าไม่คิดเลยว่าภัทรจะทำแบบนี้ น้าผิดหวังมากจริง ๆ" นิ่มตัดพ้อเด็กหนุ่มด้ว
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ" นับดาวพึมพำออกมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในสมองหลังจากก้าวขึ้นมานับบนรถแล้ว อารมณ์หมองมนในทันตา ใบหน้าสวยฉายแววอ่อนล้าออกมาอย่างชัดเจนเธอรู้สึกเหนื่อยมากจริง ๆ กับการต้องปั้นหน้าเหมือนไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับเรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าทุกคนทั้งที่ในใจมันไม่ใช่เลยจนถึงตอนนี้ยังคงมีคำถามมากมายติดค้างอยู่ในใจว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมทุกอย่างถึงได้กลับตาลปัตรแบบนี้ ทำไมถึงรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลก ๆ เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาอุงอิงเพื่อสอบถามเหตุการณ์เมื่อคืน ถือสายรอไม่นานปลายสายก็กดรับ(สวัสดีค่ะคุณนับดาว)"ค่ะ ฉันจะโทรมาถามเรื่องเมื่อคืนหน่อยค่ะ"(ค่ะ ฉันก็ว่าจะโทรหาคุณอยู่พอดีเลย)"เมื่อคืนคุณจำอะไรได้บางไหมคะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกอย่างมันถึงผิดแผนไปหมด ส่วนฉันจำได้แค่ว่านั่งดื่มกับคุณอยู่จากนั้นภาพก็ตัดไปเลย"(ฉันก็เหมือนกันค่ะภาพสุดท้ายที่จำได้คือนั่งดื่มอยู่กับคุณ แต่พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็นอนอยู่ในห้องที่บ้านคุณแล้ว ฉันถามออยแม่บ้านของคุณแล้วเธอก็บอกว่าเหมือนกัน เป็นไปได้ไหมคะว่าพวกเราจะเผลอดื่มแก้วที่มียานอนหลับเขาไปด้ว