Episode 14 พ่อมาตาม
หลังจากผ่านบทรักที่เร่าร้อนมาหลายบทติดต่อกันร่างกายบอบบางของหญิงสาวก็ไม่สามารถรับไหวได้อีกต่อไปทำให้เธอผล็อยหลับไปบนเตียงนอนที่เต็มไปด้วยคราบน้ำรักตลอดทั้งคืน คืนนั้นเธอจึงไม่ได้กลับไปพักที่โรงแรมตามที่เจโรมตั้งใจเอาไว้
แสงแดดยามเช้าที่เล็ดลอดผ้าม่านเข้ามากระทบเปลือกตาบางทำให้คาร์ลินที่กำลังนอนหลับตาพริ้มงัวเงียตื่นขึ้นมาอย่างไม่มีทางเลือก และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เธอต้องจำใจตื่นขึ้นมาก็คือเสียงเอะอะโวยวายที่ดังอยู่ด้านล่าง
เธอพยายามดันตัวลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก ทันทีที่เคลื่อนไหวร่างกายความเจ็บปวดก็แล่นเข้าสู่ร่างกายทันที แต่ก็พยายามฝืนร่างกายเดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมใส่ก่อนเดินออกจากห้องนอนลงบันไดมาด้วยความทุลักทุเล แต่แล้วขาทั้งสองข้างก็พลันหมดแรงขึ้นมาทันทีที่เดินลงมาเจอแขกผู้มาเยือนที่ยืนประจันหน้าอยู่กับเจโรมหน้าประตูบ้าน
“ป๊ะป๋า!!!” คาร์ลินตะโกนออกมาด้วยความตกใจรีบเดินไปหลบอยู่หลังเจโรมด้วยท่าทางตื่นตระหนก โดยเฉพาะสายตาที่อาคิรามองมายังชุดที่เธอสวมใส่อยู่ หนำซ้ำร่องรอยรักเมื่อวานยังเด่นชัดจนเธอไม่รู้จะแก้ตัวยังไงดี
“มานี่” น้ำเสียงเยือกเย็นของอาคิรามาเฟียมหาอำนาจเอ่ยเรียกลูกสาวตัวเองที่หลบอยู่หลังผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตาเขา
“ป๊ะ…ป๊ะป๋ามาได้ยังไงคะ”
“ถ้าลูกน้องไม่โทรมาบอกว่าเมื่อคืนลูกไม่ได้กลับโรงแรมป๋าก็คงไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น” อาคิราตอบคำถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นบ่งบอกถึงความโกรธของเขาแบบที่เธอไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก
“เรื่องนั้น…หนู…”
“ผมอธิบายเองครับเรื่องที่เกิดขึ้นผม…”
ปัง!
“ป๋า!!!”
ยังไม่ทันที่เจโรมจะได้พูดจบประโยคเสียงปืนก็ดังสนั่นขึ้นพร้อมกับร่างของเจโรมที่ทรุดลงไปกองกับพื้น ของเหลวสีแดงสดไหลซึมออกมาจากต้นขาแกร่งทำให้คาร์ลินตกใจลืมตัวรีบรุดเข้าไปดูบาดแผลของเขาด้วยสีหน้าเป็นกังวล แต่ยังไม่ทันจะได้ดูเต็มตาร่างบางก็ถูกอาคิราฉุดกระชากให้ยืนขึ้นทว่ามือของเจโรมกลับเอื้อมมาจับมืออีกข้างรั้งเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
ปัง!
“ป๋า!!! พอได้แล้ว!” คนตัวเล็กร้องปรามออกมาเสียงหลงเมื่ออาคิราใช้ปืนยิงที่แขนของเจโรมจนเลือดอาบแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากเธอ ทำให้อาคิรายิ่งรู้สึกหงุดหงิดเตรียมยิงอีกครั้ง แต่คาร์ลินก็รีบสะบัดมือออกจากเจโรมแล้วสวมกอดพ่อตัวเองเอาไว้
“มึงกล้ามากนะที่มาแตะต้องลูกสาวกู” อาคิราเอ่ยบอกเสียงต่ำ เขาดันร่างบางที่สั่นสะท้านด้วยอาการตื่นตระหนกไปไว้ด้านหลังให้อยู่ห่างจากเจโรม ก่อนที่เขาจะหันไปมองลูกสาวที่ตัวเองเฝ้าทะนุถนอมให้เต็มตาอีกครั้ง
ร่องรอยแดงช้ำที่ร่มผ้าไม่สามารถปิดมิดยิ่งทำให้เขารู้สึกโกรธเคือง และอยากเอาชีวิตของเจโรมมาชดใช้กับสิ่งที่ทำเอาไว้กับลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา
เจโรมแค่นยิ้มมุมปากกับความประทับใจครั้งแรกที่เขา และว่าที่พ่อตาได้เจอหน้ากันอย่างเป็นทางการหลังจากที่เขาพึ่งหลอกให้ลูกสาวเขาลงชื่อในทะเบียนสมรสไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
“วันนี้ถ้าไม่กูก็มึงที่ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง”
ไออุ่นจากเสื้อยีนสีดำสนิทที่คลุมลงมาบนไหล่มนทำให้คาร์ลินละความสนใจกลับไปมองยังเจ้าของเสื้อ เช่นเดียวกับเจโรมที่มองผู้ชายแปลกหน้าที่แสดงท่าทางสนิทสนมกับคาร์ลินด้วยความอยากรู้ไม่ต่างกัน
“อาคิน! นายก็มาด้วยเหรอแล้วมัมมี้มาด้วยไหม” คาร์ลินรีบถามหาแม่จากน้องชายที่เป็นเจ้าของเสื้อที่คลุมลงมาบนไหล่มนหวังให้แม่ของเธอช่วยพูดกับพ่อของเธอให้ใจเย็นลงกว่านี้
“พวกเราหนีมัมมี้มา” อาคินน้องชายที่อายุห่างจากเธอราวสี่ปีเอ่ยบอกเสียงเรียบ จากน้ำเสียงและแววตาของน้องชายเธอบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาเองไม่ได้อยู่ข้างเดียวกันกับเธอ
“นายมาเพื่อช่วยห้ามป๋าใช่ไหม” คาร์ลินเอ่ยถามน้องชายทั้งที่พอจะรู้คำตอบในใจอยู่แล้ว
“พี่สาวผมใครก็แตะไม่ได้เหมือนกับที่ป๋าชอบพูดว่าลูกสาวข้าใครอย่าแตะนั่นแหละ” อาคินตอบเสียงเรียบก่อนจะเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างๆ อาคิราจ้องมองสภาพน่าเวทนาของเจโรมที่พยายามลุกขึ้นยืนด้วยขาเพียงข้างเดียวที่ยังแข็งแรงอยู่ในตอนนี้
พลั่ก!
อาคินเตะขัดขาเจโรมที่พยายามลุกขึ้นยืนเกือบสำเร็จจนเขาล้มลงไปคุกเข่ากับพื้นอีกครั้ง นิสัยดุดันโหดร้ายที่หวงทั้งแม่ และพี่สาวที่ได้มาจากอาคิราราวกับถ่ายทอดดีเอ็นเอมาทำให้คาร์ลินไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับการแสดงออกที่ก้าวร้าวของน้องชายตัวเองเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังคงเป็นห่วงเจโรมที่อาจจะรับมือกับสถานการณ์นี้ไม่ไหว
“พอได้แล้วทั้งป๋าทั้งคินเลยหนูจะฟ้องแม่นะว่าป๋าทำอะไรกับสามีหนู”
“สามี?//สามี?” อาคิรากับอาคินหันกลับไปมองคาร์ลินด้วยสายตาราบเรียบไม่ได้รู้สึกตกใจเท่าไหร่นัก เพราะเขาได้คาดคั้นเอาความจริงมาจากเซเวียร์กับเม็ดฝุ่นก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแค่ประหลาดใจที่เธอกล้าออกตัวแทนเขา
“ปะ…ป๋ากับคินคงไม่อยากให้หนูเป็นหม้ายหรอกใช่ไหม พะ…พวกเรา พวกเราจดทะเบียนสมรสกันแล้วนะ” เธอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงประหม่าเพราะไม่รู้ว่าควรยุติสถานการณ์ตอนนี้อย่างไรดี
อาคิรากัดฟันกรอดแววตาลุกโชนไปด้วยโทสะแห่งความโกรธแค้น เพราะเขารู้ดีที่สุดว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นใคร และมายุ่งกับลูกสาวของเขาด้วยเจตนาอะไร เพียงแต่การแสดงออกของคาร์ลินที่ปกป้องจนเกินหน้าเกินตาทำให้เขาไม่อยากบอกความจริงกับเธอให้เธอเสียใจไปมากกว่านี้
“งั้นก็หย่ากับมันซะ หรือไม่ก็ปล่อยให้พ่อฆ่ามันทิ้ง” อาคิราข่มอารมณ์บอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“งั้นก็ฆ่าผมทิ้งได้เลย เพราะถ้าจะเอาใบหย่าจากผมก็ต้องข้ามศพผมไปก่อน” เจโรมตอบกลับหน้าตายถึงแม้ใบหน้าที่แสดงออกมาจะดูเสแสร้งน่าเห็นใจ แต่อาคิรากลับมองเห็นเพียงแต่สายตาเย้ยหยันที่เจโรมตั้งใจสะท้อนออกมาให้เขาได้รับรู้
Episode 15 โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญคาร์ลินส่งสายตามองไปยังเจโรมพยายามสื่อให้เขาหยุดพูดจาเพ้อเจ้อออกมา เนื่องจากเธอรู้ดีว่าพ่อเธอทำได้มากกว่าแค่ขู่แน่นอน“พูดจาเพ้อเจ้ออะไรน่ะ อยากตายจริงๆ รึไง” คาร์ลินบ่นเสียงแหลม เธอพยายามขืนตัวออกจากพันธนาการของลูกน้องพ่อเธอที่จับตัวเธอเอาไว้ไม่ให้เข้าไปช่วยเจโรม“เพ้อเจ้อตรงไหนฉันพูดจริงต่างหาก เธอบอกว่าพ่อเธอเป็นมาเฟียไม่ใช่เหรอ เพราะงั้นฉันถึงต้องคุยภาษามาเฟียกับพ่อเธอไง” เจโรมยกยิ้มมุมปากด้วยท่าทีสบายๆ ดูไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย“ภาษามาเฟียกับภาษาหน้าตัวเมียมันต่างกันนะ” อาคินตอบกลับเสียงเรียบแววตาของหนุ่มน้อยที่พึ่งจะเริ่มแตกเนื้อหนุ่มได้ไม่นานแข็งกร้าว และนิ่งสงบต่างกับวัยรุ่นในวัยเดียวกันอย่างสิ้นเชิง“งั้นบอกหน่อยสิว่าภาษามาเฟียที่นายใช้มันเป็นยังไง?” เจโรมเลิกคิ้วหนาขึ้นพลางยกยิ้มมุมปากราวกับเอ็นดูท่าทางขึงขังของอาคิน ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืนด้วยขาเพียงข้างเดียวอีกครั้ง
Episode 16 เรื่องราวในอดีตคาร์ลินเดินมาหยุดอยู่ที่ประตูรถ ก่อนจะเอี้ยวตัวหันกลับไปเหลือบมองเจโรมที่ยืนอยู่ภายในบ้านเพียงนิด เพื่อกล่าวอะไรบางอย่างกับเขาเป็นการทิ้งท้าย“อ้อ แล้วเรื่องทะเบียนสมรสน่ะถ้าอยากได้ลูกสาวที่ทำให้ครอบครัวคุณพังพินาศเป็นเมียจนตัวสั่นจะไม่หย่าก็ได้นะ ต่อให้ที่ผ่านมาครอบครัวของคุณจะคอยลอบกัดครอบครัวฉันไม่ยอมปล่อยอยู่ตลอดก็ตาม เพราะว่าสำหรับฉันคุณก็เป็นได้แค่หมาพันธุ์ไซบีเรียนเท่านั้นแหละ ดูจากความสามารถไม่น่ากลายมาเป็นหมาป่าลอบกัดฉันได้” ริมฝีปากเล็กยกยิ้มมุมปากเบาๆ ก่อนจะก้าวขาเรียวเข้าไปนั่งรอพ่อกับน้องชายเธอในรถพ่อลูกทั้งสามคนพากันกลับมายังโรงแรมที่มีเม็ดฝุ่นกับเซเวียร์รออยู่ ทั้งสองคนเดินมาหาคาร์ลินด้วยใบหน้าเลิ่กลั่ก เพราะยังขนลุกกับการมาของอาคิราไม่หาย โดยเฉพาะน้องชายของเธออาคินที่รอบนี้ถอดแบบพ่อมาเต็มๆ“ทำไมเมื่อคืนไม่กลับ”“บอกแล้วไงว่าไปเล่นกับลูกหมามา” คาร์ลินตอบกลับคำถามของเม็ดฝุ่นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มก่อนที่ทั้งสองคนจะเริ่มเห็นร
Intro Blaine Grand Casino (เบลน แกรนด์ คาสิโน)สาวน้อยร่างบางในชุดเดรสสีดำรัดรูปโชว์เรือนร่างนาฬิกาทราย เดินสะบัดขาเรียวบนรองเท้าสนสูงขนาดสี่นิ้วเข้ามาภายในคาสิโนกลับกลุ่มเพื่อนของเธอ สถานที่แปลกตาที่เธอเองก็พึ่งได้เคยเห็นกับตาครั้งแรกทำให้เธอแอบรู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ภาพลักษณ์ที่คนภายนอกมองเข้ามาเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดูสวยสง่า มั่นใจตัวเองในทุกฝีก้าว และอิริยาบถ ทว่าจิตใจของเธอกลับเป็นเพียงเด็กสาวไร้เดียงสาที่อยากรู้อยากลองสิ่งใหม่ๆ เหมือนเด็กสาวในวัยเดียวกันกับเธอ แต่เพราะเกิดมาในครอบครัวที่คุณปู่เป็นมาเฟีย คุณย่าเป็นลูกสาวยากูซ่า อีกทั้งพ่อเธอเองก็ยังเป็นมาเฟียที่น่าเกรงขามทำให้ติดนิสัยชอบวางอำนาจ เอาแต่ใจมาโดยไม่รู้ตัว ถึงอย่างไรนั่นก็เพียงด้านหนึ่งของเธอที่มักจะแสดงออกมาเพื่อป้องกันภัยรอบตัวเท่านั้นทว่าตอนนี้สิ่งที่กำลังรังแกหัวใจไร้เดียงสาของเธอคงจะเป็นเพราะนิสัยดื้อตาใสของเธอที่แอบหนีออกมาเที่ยวเพียงลำพังกับกลุ่มเพื่อนสนิทโดยไร้ซึ่งบอดี้การ์ดที่พ่อเธอเตรียมเอาไว้ให้ ที่สำคัญสถานที่ที่เลือกมานั้นดันดูอันตรายสุดโต้งกว่าที่เด็กสาวอย่างพวกเธอจะรับมือไหวทั้งรูปร่าง และโครงห
Episode 01 เดิมพันคำตอบของหนุ่มหล่อผมบลอนตรงหน้าทำเอาหญิงสาวถึงกับชะงักไปชั่วขณะ เธอหันกลับมามองหน้าเขาด้วยแววตาประหลาดใจที่กล้าเอาคาสิโนแห่งนี้มาวางเดิมพัน“หมายความว่ายังไง คุณคิดว่าคุณจะมีปัญญาเอาคาสิโนนี้มาให้ฉันได้เหรอถ้าคุณแพ้น่ะ”“ได้สิ” ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปาก แววตายังคงจ้องมองมาที่หญิงสาวด้วยความท้าทาย “ให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้เป็นพยานได้เลยว่าฉัน เจโรม เบลน เจ้าของเบลนแกรนด์คาสิโนยินดีเอาคาสิโนวางเดิมพันเพื่อแลกกับร่างกายของเธอ”ดวงตากลมโตที่หยิ่งทะนงก่อนหน้าเบิกโพลงขึ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจ ทว่ากลับแสดงอาการออกมามากไม่ได้ เพราะเสียงเชียร์จากผู้คนที่กำลังให้ความสนใจกับการเดิมพันระหว่างเขากับเธอ สถานการณ์กำลังบีบบังคับให้เธอไม่มีทางเลือกอื่น ถ้ายอมแพ้ไม่เล่นตั้งแต่ตอนนี้ก็เป็นเธอเองที่เป็นฝ่ายเสียหน้าเพราะเป็นคนยื่นข้อเสนอต่ออีกฝ่าย แต่ถ้าเล่นไปแล้วแพ้เธอจะต้องยอมนอนกับหนุ่มผมบลอนตรงหน้าเธออย่างงั้นเหรอ?“หึ เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะสาวน้อย”“คะ…ใครเป็นสาวน้อย ฉันโตเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่งั้นไม่มายืนอยู่ตรงหน้าคุณได้หรอก”“งั้นก็ดี เพราะฉันก็ไม่อยากโดนข้อหาพรากผู้เยาว์” รอยยิ้มร้ายกาจที่
Episode 02 แพ้ ชนะ?เสียงลูกเต๋าที่กลิ้งไปมาตามแรงเขย่าเป็นเพียงเสียงเดียวที่ดังขึ้นในตอนนี้เนื่องจากตอนนี้บรรยากาศรอบๆ ตัวตกอยู่ภายใน้ความเงียบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว“สูง หรือ ต่ำคะ” คำตอบที่จะชี้ชะตาเธอทำให้เธอรู้สึกกดดันไม่น้อย แต่นับว่ายังโชคดีที่คราวนี้เธอไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกก่อน เธอจ้องมองไปยังแววตาลึกลับที่ยากจะคาดเดาของอีกฝ่าย ปลายนิ้วเรียวยาวเคาะลงบนโต๊ะเป็นจังหวะสองสามทีโดยที่สายตายังคงจ้องมองมาที่คนตัวเล็กที่นั่งรอฟังคำตอบของเขาอยู่ฝั่งตรงข้าม“สูง”“สูง” คนตัวเล็กรีบตอบตามอีกฝ่ายในทันที ทำให้เจโรมยกยิ้มมุมปากให้กับความเจ้าเล่ห์ของคนตัวเล็ก“สูง เสมอค่ะ”“แย่ล่ะสิ 3 ต่อ 3 แล้วมาดวนอีกรอบให้รู้แพ้ชนะกันดีกว่าไหม?” ชายหนุ่มยกคิ้วหนาเลิกขึ้นถามพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ทำเอาคนตัวเล็กรู้สึกสยดสยองจนไรขนอ่อนลุกชันไปทั่วเรือนร่าง“ฉันก็อยากต่อให้รู้แพ้รู้ชนะเหมือนกันนั้นแหละ แต่วันนี้ฉันไม่มีเวลาแล้วไว้คราวครั้งจะให้นายแก้มือใหม่แล้วกัน” คนตัวเล็กเชิดหน้าตอบด้วยท่าทางหยิ่งยโสเหมือนเคย ก่อนจะหยิบกระเป๋าครัชใบเล็กสีดำของตัวเองเตรียมลุกเดินจากไป เธอรีบลุกเดินออกมาจากโต๊ะด้วยความรู
Episode 03 แคมป์ปิ้งหลังจากทิ้งท้ายด้วยประโยคสยดสยองเอาไว้ อาคิราก็สั่งให้ลูกน้องพาทั้งสามคนกลับโรงแรม และแน่นอนว่าการแอบหนีเที่ยวของเธอครั้งนี้ทำให้เกิดการคาดโทษขึ้น“โดนป๊ะป๋ายื่นคำขาดแล้วว่าจะไปไหนต้องบอกบอดี้การ์ดก่อน ไม่งั้นจะให้กลับไปเรียนต่อที่ไทย” คนตัวเล็กเล่าด้วยน้ำเสียงเศร้า เดิมทีเธอเป็นคนที่รักอิสระชอบออกไปลองทำอะไรใหม่ๆ แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าอาคิราไม่ได้ให้ในสิ่งที่เธอต้องการ เขาอนุญาตให้เธอทำตามใจตัวเองได้ทุกอย่างเพียงแต่มีข้อแม้ว่าต้องให้บอดี้การ์ดติดตามไปด้วยเสมอ นั้นก็เป็นเพราะความปลอดภัยของเธอเองเธอรับรู้ และเข้าใจว่าทั้งหมดพ่อทำไปเพราะเป็นห่วงเธอก็เท่านั้นที่ต้องมาอยู่ไกลครอบครัวเพียงลำพังหนำซ้ำยังพ่วงสถานะลูกสาวมาเฟียที่ไม่รู้ว่ามีใครจ้องเล่นงานเธออยู่เมื่อไหร่‘ของมีค่าที่จะทำให้พวกศัตรูต่อรองกับป๋าได้มีเพียงแค่ 3 อย่างเท่านั้น นั่นคือ หนู น้อง และแม่ของหนู ทั้งสามคนเป็นสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตของป๋า เพราะฉะนั้นรู้เอาไว้ว่าป๋าจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องของรักของป๋าแม่แต่ปลายเล็บ’ประโยคบอกรักที่ไม่มีคำว่ารักของพ่อ ที่เธอยังจำขึ้นใจเสมอมาทำให้เธอไม่ได้มีปัญหากับกา
Episode 04 หลงป่าสองสาวถอดเสื้อออกเหลือเพียงชุดชั้นในเท่านั้น ส่วนเซเวียร์เองก็ถอดเสื้อตัวบนออกเหลือไว้เพียงกางเกงขาสั้นด้านล่าง เพราะอยู่ด้วยกันจนชินการใส่ชุดว่ายน้ำ หรือชุดชั้นในต่อหน้ากันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร“น้ำโคตรเย็น” เซเวียร์สบถออกมาหลังจากกระโดดลงน้ำไปคนแรก แต่ก็ควักมือเรียกสาวๆ ให้ลงตามไปอยู่ดีซึ่งสาวรูปร่างบอบบางแต่จิตใจสายลุยไม่ต่างจากผู้ชายอย่างคาร์ลินกับเม็ดฝุ่นก็ไม่รีรอที่จะกระโดดตามลงไปเสียงกรี๊ดของสองสาวที่ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นหลังจากได้สัมผัสกับกระแสน้ำเย็นเฉียบ ทั้งสามคนหากิจกรรมทำกันระหว่างเล่นน้ำไม่ว่าจะว่ายน้ำแข่งกัน หรือแม้กระทั่งแข่งกันดำน้ำ เพื่อเพิ่มสีสันให้ทริปนี้สนุกยิ่งขึ้นโดยตอนเย็นก็มีแพลนจะทำบาร์บีคิวกินกัน“ไปเดินป่ากันไหม” เซเวียร์เอ่ยถามหลังจากเล่นน้ำมาอยู่พักใหญ่“ไปไหมล่ะ ฟ้ายังไม่มืดเลย” คาร์ลินเงยหน้ามองดูท้องฟ้าที่ยังคงมีแสงแดดจ้าส่องเล็ดลอดมาตามเงาของร่มไม้ใหญ่“พวกแกไปฉันก็ไปแหละ ไปไหนไปกัน” เม็ดฝุ่นบอกความที่สนิทกันมากจึงต่างฝ่ายต่างสนับสนุนความคิดของกันและกันอยู่เสมอทั้งสามคนลุกขึ้นมาหยิบเสื้อผ้ามาสวมทับชุดชั้นในตัวเดิมที่เปี
Episode 05 เจ้าชายขี่ม้าขาวสองสาวที่อยู่ด้วยกันตามลำพังพยายามให้กำลังใจกัน และกันเพื่อไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายไปมากกว่านี้ แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่ได้เข้าข้างพวกเธอเท่าไหร่นักเมื่อท้องฟ้าที่เคยมีแสงแดดส่องลงมารำไรเริ่มถูกเงาเมฆเข้ามาปกคลุมแทนที่ “ทำไมเซเวียร์ยังไม่กลับมาอีกเราไปดูกันดีไหม” คาร์ลินเอ่ยถามหลังจากเซเวียร์เดินหายไปอยู่นานพอสมควร และตอนนี้ท้องฟ้าก็เริ่มมืดทำให้เธอเป็นห่วง“แต่เซเวียร์บอกให้รออยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวคงมารึเปล่ากลัวว่าเดินไปหาแล้วเราจะหลงทางกันอีกน่ะสิฉันกับแกยิ่งจำทางกันไม่ค่อยได้อยู่” เม็ดฝุ่นพยายามออกความคิดเห็นเพื่อไม่ให้สถานการณ์อย่ลงไปมากกว่าเดิม“แต่นี่ก็หายไปพักใหญ่แล้วนะ” ทว่าคาร์ลินยังคงรู้สึกเป็นห่วงเซเวียร์อยู่ดี เนื่องจากตอนนี้เขาแยกออกไปเพียงลำพังเกรงว่าจะเกิดอันตรายหรือหลงป่าลึกเข้าไปอีก“เอาไงดี” เม็ดฝุ่นยังคงลังเล เพราะฟ้าเริ่มมืดฝนก็ทำท่าจะตกทำให้เธอหวาดระแวงไปเสียทุกอย่างจนแทบไม่กล้าขยับตัวไปไหนในป่าแห่งนี้“ประสบการณ์ตั้งแคมป์นอนกลางป่าของพวกเราตื่นเต้นดีนะว่าไหม” เพราะเห็นว่าเพื่อนมีอาการวิตกกังวลกับสถานการณ์อย่างเห็นได้ชัดคาร์ลินจึงพยายามพูดจา
Episode 16 เรื่องราวในอดีตคาร์ลินเดินมาหยุดอยู่ที่ประตูรถ ก่อนจะเอี้ยวตัวหันกลับไปเหลือบมองเจโรมที่ยืนอยู่ภายในบ้านเพียงนิด เพื่อกล่าวอะไรบางอย่างกับเขาเป็นการทิ้งท้าย“อ้อ แล้วเรื่องทะเบียนสมรสน่ะถ้าอยากได้ลูกสาวที่ทำให้ครอบครัวคุณพังพินาศเป็นเมียจนตัวสั่นจะไม่หย่าก็ได้นะ ต่อให้ที่ผ่านมาครอบครัวของคุณจะคอยลอบกัดครอบครัวฉันไม่ยอมปล่อยอยู่ตลอดก็ตาม เพราะว่าสำหรับฉันคุณก็เป็นได้แค่หมาพันธุ์ไซบีเรียนเท่านั้นแหละ ดูจากความสามารถไม่น่ากลายมาเป็นหมาป่าลอบกัดฉันได้” ริมฝีปากเล็กยกยิ้มมุมปากเบาๆ ก่อนจะก้าวขาเรียวเข้าไปนั่งรอพ่อกับน้องชายเธอในรถพ่อลูกทั้งสามคนพากันกลับมายังโรงแรมที่มีเม็ดฝุ่นกับเซเวียร์รออยู่ ทั้งสองคนเดินมาหาคาร์ลินด้วยใบหน้าเลิ่กลั่ก เพราะยังขนลุกกับการมาของอาคิราไม่หาย โดยเฉพาะน้องชายของเธออาคินที่รอบนี้ถอดแบบพ่อมาเต็มๆ“ทำไมเมื่อคืนไม่กลับ”“บอกแล้วไงว่าไปเล่นกับลูกหมามา” คาร์ลินตอบกลับคำถามของเม็ดฝุ่นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มก่อนที่ทั้งสองคนจะเริ่มเห็นร
Episode 15 โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญคาร์ลินส่งสายตามองไปยังเจโรมพยายามสื่อให้เขาหยุดพูดจาเพ้อเจ้อออกมา เนื่องจากเธอรู้ดีว่าพ่อเธอทำได้มากกว่าแค่ขู่แน่นอน“พูดจาเพ้อเจ้ออะไรน่ะ อยากตายจริงๆ รึไง” คาร์ลินบ่นเสียงแหลม เธอพยายามขืนตัวออกจากพันธนาการของลูกน้องพ่อเธอที่จับตัวเธอเอาไว้ไม่ให้เข้าไปช่วยเจโรม“เพ้อเจ้อตรงไหนฉันพูดจริงต่างหาก เธอบอกว่าพ่อเธอเป็นมาเฟียไม่ใช่เหรอ เพราะงั้นฉันถึงต้องคุยภาษามาเฟียกับพ่อเธอไง” เจโรมยกยิ้มมุมปากด้วยท่าทีสบายๆ ดูไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย“ภาษามาเฟียกับภาษาหน้าตัวเมียมันต่างกันนะ” อาคินตอบกลับเสียงเรียบแววตาของหนุ่มน้อยที่พึ่งจะเริ่มแตกเนื้อหนุ่มได้ไม่นานแข็งกร้าว และนิ่งสงบต่างกับวัยรุ่นในวัยเดียวกันอย่างสิ้นเชิง“งั้นบอกหน่อยสิว่าภาษามาเฟียที่นายใช้มันเป็นยังไง?” เจโรมเลิกคิ้วหนาขึ้นพลางยกยิ้มมุมปากราวกับเอ็นดูท่าทางขึงขังของอาคิน ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืนด้วยขาเพียงข้างเดียวอีกครั้ง
Episode 14 พ่อมาตามหลังจากผ่านบทรักที่เร่าร้อนมาหลายบทติดต่อกันร่างกายบอบบางของหญิงสาวก็ไม่สามารถรับไหวได้อีกต่อไปทำให้เธอผล็อยหลับไปบนเตียงนอนที่เต็มไปด้วยคราบน้ำรักตลอดทั้งคืน คืนนั้นเธอจึงไม่ได้กลับไปพักที่โรงแรมตามที่เจโรมตั้งใจเอาไว้แสงแดดยามเช้าที่เล็ดลอดผ้าม่านเข้ามากระทบเปลือกตาบางทำให้คาร์ลินที่กำลังนอนหลับตาพริ้มงัวเงียตื่นขึ้นมาอย่างไม่มีทางเลือก และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เธอต้องจำใจตื่นขึ้นมาก็คือเสียงเอะอะโวยวายที่ดังอยู่ด้านล่างเธอพยายามดันตัวลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก ทันทีที่เคลื่อนไหวร่างกายความเจ็บปวดก็แล่นเข้าสู่ร่างกายทันที แต่ก็พยายามฝืนร่างกายเดินไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมใส่ก่อนเดินออกจากห้องนอนลงบันไดมาด้วยความทุลักทุเล แต่แล้วขาทั้งสองข้างก็พลันหมดแรงขึ้นมาทันทีที่เดินลงมาเจอแขกผู้มาเยือนที่ยืนประจันหน้าอยู่กับเจโรมหน้าประตูบ้าน“ป๊ะป๋า!!!” คาร์ลินตะโกนออกมาด้วยความตกใจรีบเดินไปหลบอยู่หลังเจโรมด้วยท่าทางตื่นตระหนก โดยเฉพาะสายตาที่อาคิรามองมายังชุดที่เธอสวมใส่อยู่ หนำซ้ำร่องรอยร
Episode 13 คืนร้อนเจโรมฉวยโอกาสระหว่างที่คนตัวเล็กกำลังให้ความสนใจกับบทสนทนาดันเอาหัวเห็ดปลายบานเข้ามาในช่องทางรักคับแคบ ปลายเท้าเรียวจิกเกร็งลงบนผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่มือเรียวจิกเส้นผมของชายหนุ่มเพื่อระบายความเจ็บปวดที่ได้รับจากการรุกล้ำของลำกายใหญ่“อื้อ!…จะ…เจโรมฉันเจ็บ” หญิงสาวเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่าริมฝีปากหนาโน้มลงมาจูบบนหน้าผากมนเป็นการปลอบโยน“ทนอีกนิดนะเด็กดี” ชายหนุ่มกระซิบบอกข้างใบหูขาวสะอาดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เพราะเขาเองก็รู้สึกปวดจากการตอดรัดของช่องทางรักคับแคบไม่ต่างกันทั้งที่พึ่งนำเข้าไปได้เพียงแค่ส่วนหัวเท่านั้น“อื้อ” คนตัวเล็กครางตอบรับในลำคอเบาๆ ใบหน้าหวานแดงระเรื่อด้วยความทรมานทั้งเร่าร้อนจนอยากจะปลดปล่อยออกมา แต่ก็ทรมานราวกับร่างกายจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆหลังจากพยายามปรับตัวให้เข้ากับร่างกายของหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่งเจโรมก็เริ่มดันแก่นกายใหญ่เข้าไปในช่องทางรักคับแคบอีกครั้ง ยิ่งดันเข้าไปลึกเท่าไหร่กลิ่นคาวเลือดก็ค่อยๆ ลอยฟุ้งอ
Episode 12 เจ้าหญิงน้อยเจโรมมองใบหน้าทะเล้นของสาวน้อยตรงหน้าด้วยความเอ็นดู ก่อนจะมอบจูบที่เร่าร้อนดุดันให้เธอเป็นรางวัล ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปทั่วผิวเนียนวนมาบีบเคล้นหน้าอกอวบอิ่มทั้งสองข้างสลับกันไปมา ใบหน้าหวานเชิดขึ้นด้วยความรู้สึกเสียวซ่านร่างกายดิ้นพล่านไปมาเมื่อถูกอีกฝ่ายปรนเปรอ โดยเฉพาะริมฝีปาก และปลายลิ้นอุ่นร้อนที่พรมจูบมาทั่วเรือนร่างของเธอร่างบางถูกจับพลิกให้กลับไปนอนอยู่ใต้ร่างหนาดังเดิม เจโรมตั้งใจดูดดุนผิวอ่อนจนเกิดเป็นรอยรักกลีบกุหลาบแดงช้ำไปทั่วร่างเพื่อตั้งใจทิ้งรอยรักเอาไว้ย้ำเตือนคนตัวเล็กว่าเธอได้เป็นเมียของเขาทั้งในทางนิตินัย และพฤตินัยอย่างสมบูรณ์แล้ว“อื้อ! เจโรม~” ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันแน่น เมื่อปลายลิ้นอุ่นร้อนลากผ่านไหล่มนลงมาดูดดุนปลายถันขาวอมชมพูทั้งสองข้างของเธอสลับกันไปมาจนแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ มือเรียวขยุ้มเส้นผมสลวยสีบลอนด์ทองเพื่อระบายความเสียวซ่านที่แผ่กระจายไปทั่วร่าง“ฉันชอบน้ำเสียงเวลาเธออ้อนฉันแบบเมื่อกี้จัง” ใบหน้าคมคายละความสนใจจากปลายถันตรงหน้าขึ้นมากระซิบบอกบริเวณ
Episode 11 คนคุมเกมปลายจมูกโด่งคมเลื่อนผ่านใบหูขาวสะอาดมาที่เรือนแก้มใสที่เจือด้วยสีแดงระเรื่อมาหยุดอยู่บริเวณปลายจมูกเชิดรั้น สายตาสอดประสานมองลึกเข้าไปในนัยน์ตาของกันและกันราวกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง“พรุ่งนี้ฉันบินเช้านะ” คนตัวเล็กเอ่ยบอกเสียงเบา เพราะเกรงว่าชายหนุ่มจะเพลิดเพลินจนไม่รู้เวลา“เดี๋ยวฉันไปส่ง” เจโรมตอบอย่างไม่ใส่ใจนักเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของเขาเลยสายเดี่ยวบนไหล่มนถูกรูดลงมาจนเดรสสีดำหล่นลงมากองอยู่บริเวณเอวคอดบาง หน้าอกอวบอิ่มที่ไร้ซึ่งการปกปิดเผยสู่สายตาหื่นกระหายของชายหนุ่ม เขาจ้องมองยอดปทุมถันทั้งสองข้างของคนตัวเล็กด้วยความพึงพอใจ รอยยิ้มมุมปากของเขายิ่งทำให้คาร์ลินรู้สึกหมั่นไส้เข้าไปใหญ่“เมียฉันซ่อนรูปกว่าที่คิดนะ”“หวังว่าฉันจะไม่ขาดทุนนะ” คาร์ลินยกยิ้มมุมปากพลางเลื่อนมือมาลูบไล้บริเวณเป้ากางเกงปูดนูนไปมา โดยที่สายตาไม่ได้ละไปจากแววตาหื่นกระหายคู่นี้เลยแม้แต่น้อย“อย่าว่าแต่ขาดทุนเลย ฉันจะให้กำไรจนเธอรับไม่ไหวเล
Episode 10 เริ่มเกมจุดมุ่งหมายคือร้านอาหารที่ตกลงกันเอาไว้ ทว่าเส้นทางกลับไม่ใช่ทางไปร้านอาหาร ดูเหมือนเจโรมที่เป็นคนขับจะเปลี่ยนใจไม่ได้มุ่งตรงไปยังร้านอาหารแล้ว“มาที่นี่ทำไม?” คาร์ลินหันไปเอ่ยถามเมื่อรถหรูเลี้ยวเข้ามาภายในบ้านของเขาที่เธอกับเพื่อนเคยมาเมื่อไม่กี่วันก่อน“ฉันอยากกินแบบส่วนตัวหน่อยน่ะ” ใบหน้าคมคายหันมาตอบกลับหญิงสาว ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไป เธอมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินอ้อมมาเปิดประตูรถฝั่งเธอราวกับกำลังแสดงบทสุภาพบุรุษเรียวขาเล็กก้าวลงจากรถพลางลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เดาว่าเธอคงต้องเตรียมตัวรับมือกับความเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มในไม่ช้า จะปล่อยให้พลาดท่าเขาเหมือนครั้งก่อนไม่ได้อีก“ไหนล่ะอาหาร?” คนตัวเล็กเอ่ยถามเมื่อเดินเข้าบ้านมา อย่าว่าแต่อาหารที่ควรถูกจัดเตรียมไว้เลย แม้กระทั่งแม่บ้าน หรือลูกน้องของเขาเธอก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา“ฉันไง…อาหารของเธอคืนนี้” คำตอบที่ดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากทำให้คาร์ลินแค่นยิ้มเ
Episode 09 คำเตือนเมื่อตัดสินใจเก็บซ่อนเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ให้ครอบครัวรับรู้คาร์ลินจึงต้องคอยรับมือกับบอดี้การ์ดที่อาจจะสงสัย และนำเรื่องนี้ไปบอกครอบครัวของเธอ วันพรุ่งนี้เธอเองก็จะต้องบินกลับไปฝรั่งเศสแล้ว จึงได้ส่งข้อความนัดเจโรมออกมาเจอกันที่ร้านอาหาร โดยบอกกับบอดี้การ์ดว่าจะไปเดต แน่นอนว่าพวกเขาต้องรายงานเรื่องนี้กับพ่อของเธอ ซึ่งเธอก็ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น เมื่อไม่สามารถปิดไปตลอดได้ก็จำเป็นต้องหลอกให้ตายใจไม่ให้พ่อของเธอเป็นฝ่ายสืบเรื่องราวด้วยตัวเอง“สวัสดี” คาร์ลินกล่าวทักทายเจโรมที่ขับรถซูเปอร์คาร์คันหรูมารับเธอที่หน้าโรงแรม โดยมีบอดี้การ์ดของเธอยืนส่งเธอขึ้นรถไปกับเขา“ชีวิตเธอเหมือนอยู่ในอันตรายตลอดเวลาเลยนะถึงต้องมีบอดี้การ์ดคอยจับตาดูตลอดเวลาแบบนี้” เจโรมบอกขณะเปิดประตูรถให้คนตัวเล็กพร้อมกับมองไปยังบอดี้การ์ดคู่หูของเธอที่มองมา“ขนาดมีบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันยี่สิบสี่ชั่วโมงแบบนี้ฉันยังซวยวนมาได้ผัวแบบคุณได้เลย”“ผัวแบบฉันมันทำไมเหรอ?” เจโรมเอียงค
Episode 08 มีผัวโดยไม่รู้ตัวทั้งสามคนนิ่งอึ้งไปอยู่พักใหญ่ กว่าจะรู้ตัวว่าพลาดท่าให้คนเจ้าเล่ห์อย่างเจโรมอย่างจังคาร์ลินก็กลายเป็นผู้หญิงที่มีสามีโดยถูกต้องตามกฎหมายไปเสียแล้ว“ทำแบบนี้ได้ไงวะ!” เซเวียร์ตะโกนออกไปหลังจากพยายามดึงสติตัวเองกลับมา การกระทำของเจโรมทำให้เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก เพราะนี่ไม่ต่างจากการโกงซึ่งๆ หน้าเลยด้วยซ้ำไป“ฉันทำอะไร? ก็แค่ทำตามที่รับเดิมพันเอาไว้ฉันแพ้ฉันก็ยกกาสิโนให้เพื่อนนายแล้วไง” เจโรมไหวไหล่พลางแย่งทะเบียนสมรสจากมือของคาร์ลินมาส่งให้ลูกน้องเอาไปเก็บ“ทำแบบนี้รู้ไหมว่ากำลังรนหาที่ตายให้ตัวเองน่ะ คุณรู้ไหมว่าพ่อคาร์ลินเป็นใคร” เม็ดฝุ่นบอกด้วยน้ำเสียงเวทนา เพียงแค่คิดว่าอาคิรารู้เรื่องนี้ก็ไม่อยากนึกภาพตามแล้วว่าอนาคตเจโรมจะเป็นยังไง“ฉันไม่รู้หรอกว่าพ่อเมียฉันเป็นใคร แต่ถ้าเธอพร้อมเมื่อไหร่ฉันก็พร้อมจะเข้าไปทักทายพ่อตาเสมอ” เจโรมตอบคำถามของเม็ดฝุ่นในประโยคแรกก่อนจะหันกลับมาพูดคุยกับหญิงสาวที่ยืนมองเขาด้วยสายตาเหม่อลอย