ณ ประเทศนาเธอร์ลาส
ติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด!
"แย่แล้วค่ะองค์หญิงตื่นได้แล้ว องค์ชายกำลังมาเพคะ" ผู้ได้รับมอบหมายเป็นพี่เลี้ยงมาร่วมยี่สิบปี กำลังร้อนรนเอื้อมมือสะกิดเจ้าหญิงตัวเล็กบนเตียงหรูประกอบด้วยทองคำ
ลิลลี่ส่งเสียงกระวนกระวาย จวนเจียนเหมือนกองเพลิงใกล้ขยับทุกที หลังพยามปลุกร่วมชั่วโมงกว่า แต่ไม่มีท่าทีจะลุกตื่นขึ้นมาเลย
"อะไรกันแต่เช้าพี่ลิลลี่ โมอาขอตื่นตอนบ่ายไม่ใช่เหรอ!" ใบหน้าสวยงอค้ำไม่พอใจ รุดออกจากผ้าห่มผืนหนา สบัดตัวนั่งบนเตียงอย่างไม่สบอารมณ์
"นี่มันเกือบบ่ายสองแล้วนะเพคะ องค์ชายกำลังมาตามแล้ว"
"ห๊ะ!!!!..แล้วทำไมไม่ปลุกกันเล่า!" ดวงตากลมขนงอนเงา รีบเหลือบดูนาฬิกาเรือนใหญ่ข้างพนังห้อง ทันใดนั้นร่างอรชรรีบกระโดดลงจากเตียง เริ่มมีท่าทีกระวนกระวายไม่ต่างจากพี่เลี้ยงเลย
"ลิลลี่ปลุกมาเกือบชั่วโมงแล้วนะเพคะ" เธอรีบส่งเครื่องแต่งกายทั้งหมดให้องค์หญิงราวรู้ใจ เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ลิลลี่รับหน้าที่ช่วยดูแลตลอดมา
.
.
.
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบงันภายในห้องโถงใหญ่ ของเมืองเล็กๆซึ่งน้อยคนรู้จักทางแถบตะวันตก ทั้งองค์หญิงและองค์ชายนั่งก้มหน้าตึงเครียด เมื่อโดนถ้อยคำบังคับจากบิดา ให้ไปงานการกุศลสำคัญที่ราชวงศ์ไม่อาจหลีกเลี่ยง
"ท่านพ่อก็รู้ว่าลูกไม่ชอบงานสังคมเลย" เธอไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปฏิเสธ แต่รอบนี้ดูเหมือนว่าบุพการีทั้งสองบังคับแน่วแน่ สองมือบางประสานบนหน้าขา กระโปรงชุดเดรสสง่ายาวปิดคลุมถึงข้อเท้า
ทว่าปลายรองเท้าส้นสูงดันสะกิดผู้เป็นพี่ชายด้านข้าง หวังว่าช่วยออกความคิดเห็นแก้ต่างให้
"ลูกเคยคิดไหมว่าประชาชนเขาเฝ้ารอเห็นเราจากในข่าวขนาดไหน ราชวงศ์เราต้องมั่นคงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจพวกเขา..เจ้าเข้าใจไหมโมอา" น้ำเสียงเข้มของราชายิ่งใหญ่เอ่ยบอกหนักแน่น เพื่อสั่งสอนบุตรสาวหัวรั้น มักชอบทำสวนทางในสิ่งที่วางอนาคตให้
"รอบนี้แม่คงช่วยลูกไม่ได้แล้วนะ มาร์แชลล์ดูแลน้องด้วย" ตามด้วยเสียงของมารดา ที่ดำรงตำแหน่งเป็นราชินีในราชวงศ์นี้ รีบเบือนหน้าหนีหันทางอื่น เมื่อใดที่เห็นดวงตากลมอ้อนวอนต้องใจอ่อนทุกที หากไม่ถึงคราวจำเป็นคงไม่ออกคำสั่งบอก
"ไม่ต้องห่วงนะครับ" มาร์แชลล์ผู้เป็นพี่ชายก้มหน้ารับคำสั่ง เขามีอายุมากกว่าน้องสาวห้าปี รับหน้าที่สั่งสอนแบบใจเย็น หลังเธอชอบปฏิเสธบุพการีบ่อยครั้ง
"พวกท่านไม่ได้หวังจับคู่กับอองตวนอีกใช่ไหม"
................................................
@ โรงแรมหรูชื่อดัง"พี่มาร์จะให้น้องเข้าไปจริงๆหน่ะหรอ" ข้อศอกเล็กรีบสะกิดผู้เป็นพี่ชาย ยามทั้งคู่หยุดอยู่หน้าโซนทางเข้างาน ร่างบอบบางสวมชุดราตรียาว เปิดไหล่โชว์ผิวขาวโดดเด่น ท่ามกลางงานระรื่นผู้คนมากล้น ต่างจับจ้องชนชั้นสูงของยศเจ้าหญิง ที่มาพร้อมกับเจ้าชายเรียงลำดับขั้น เตรียมจะขึ้นครองบัลลังก์อีกไม่นาน"ถอยหลังไปตอนนี้ มีหวังท่านพ่อสั่งขังเจ้าแน่โมอา" ใบหน้าหล่อสมฉายาเจ้าชายของเมือง เอียงมองน้องสาวก่อนจับฝ่ามือบางกระชับเข้าที่ ตรงท่อนแขนแกร่ง ออกแรงก้าวเดินนำโดยที่คนด้านข้างจำใจยอมตามทันใดนั้นเกิดเสียงแสงแฟลชกล้องถ่ายรูปกดรัวชัตเตอร์ เป็นจุดจับจ้องจนเจ้าของงานรีบวิ่งเข้าต้อนรับ"ในที่สุดองค์หญิงก็มาด้วย" อองตวนเอ่ยบอก เขาคือลูกของนักการเมืองชื่อดัง แฝงไปด้วยบารมีจากสิ่งผิดกฎหมาย รีบก้มคำนับลงเล็กน้อย เพื่อเป็นการเคารพในเกียรติของทั้งสอง แม้จะรู้จักเล่นสนุกกันตั้งแต่วัยเยาว์"เล่นบังคับกันยันท่านแม่ เกินไปแล้วนะอองตวน!" น้ำเสียงใสรีบโต้กลับเบาๆ ครั้นต้องรักษากิริยาเพราะไม่ว่ายังไงผู้คนก็จับจ้องสถานะพวกเธออยู่ดี"ฝากดูแลเธอด้วย...พี่มีคุยกับพวกองคมนตรีแป๊บเดียว" มาร์แชลล์พยักหน้าใ
@ สวนดอกไม้ในวัง"พี่เดย์เรื่องที่ให้ไปหาข้อมูลไปถึงไหนแล้ว" เสียงขององค์หญิงกระซิบกระซาบ ยามบรรดาพี่เลี้ยงคนสนิทแยกตัวไปจัดเตรียมมื้ออาหารว่าง เธอเลยลอบคุยเรื่องความลับ นั่งบนชิงช้าแกว่งขาเรียวท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ผีเสื้อบินคล่องตัวเหนือดอกกุหลาบหลากสี"เรียบร้อยครับ เป็นผู้มีอิทธิพลค่อนข้างใหญ่โตทางแทบประเทศไทย นี่คือประวัติของเขาครับ" เดโม่แอบยื่นเอกสารลับระบุประวัติของชายนิรนาม มีใบหน้าคมคายแต่นัยน์ตาดำกริบชวนวังเวง"เราจะเริ่มแผนได้เมื่อไหร่" โมอากลับพูดจริงจัง ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกโลเล ยามคิดแผนสำคัญทำชีวิตผลิกผันได้เพียงแค่นาทีเดียว พอเห็นพี่ชายเดินมาระยะไกลรีบขย้ำเอกสารใบนั้นโยนใส่ชายหนุ่มด้านข้าง มือเรียวบางแสร้งรับแก้วน้ำผลไม้สีส้มอมแดงจากองครักษ์ ยกจิบเล็กน้อยให้คล่องคอ"คืนนี้ครับ แต่ว่าองค์หญิง..." เดโม่ลากเสียงยาวไม่ยอมพูดจนจบ ปานวิตกในหัวสมอง"ไม่มีเวลาแล้วรีบไปจัดการนะ" เธอเอ่ยออกคำสั่งแผ่วเบา เมื่อมีบุคคลใหมาใกล้เข้ามาทุกที จนเดโม่พยักเคารพรีบออกจากจุดนั้นสวนคนละทางกัน"ตามหาน้องอยู่หรอพี่มาร์" น้ำเสียงใสพูดก่อน เมื่อเห็นความหมายผ่านนัยน์ตาคมผู้เป็นพี่ ร่างสูงแต่งต
@ ห้องพักระดับพรีเมี่ยม ภายในห้องพักระดับหรูหรา แสงไฟนีออนจ้าสว่าง มีชายร่างกำยำนอนเปือยกายส่วนบนในผ้านวมผืนสีขาวหนา หลับตาสนิทด้วยใบหน้าแสนหล่อเหลา บนเตียงกว้างขนาดใหญ่ ระหว่างนั้นดวงตาของหญิงสาวเพ่งมอง ครุ่นคิดถึงการกระทำผิดชอบชั่วดี แต่ถึงอย่างไรนั้น...คงเป็นเหตุผลเดียวที่สามารถต่อกร เอาตัวรอดจากเรื่องยุ่งเหยิงได้"คุณ!!!ตื่นได้แล้ว" โมอาตะเบ่งเสียงดัง หลังจัดการเสื้อผ้าของตัวเอง ชนิดขาดรุ่ยหากใครมองคงตกใจ แถมยังป้ายลิปสติกสีบนปากบางลงตามแผงอกกว้าง เธอพยามปลุกคนข้างกายหวังให้ตื่นก่อนใครจะเข้ามา"หื้ม...เฮ้ย!!!" ทันทีที่ประสาทสัมผัสว่องไวทำงาน ซิลค์รีบลุกชันตัวนั่งพิงหัวเตียง สำรวจทั้งสถานที่และหญิงสาวข้างกาย นัยน์ตาคมตื่นตนกครั้งแรก ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งสนิท จับจ้องใบหน้าสวยกำลังสับส่ายอย่างมีพิรุจ"เมื่อคืนเรา...." น้ำเสียงใสกลั้นใจพูด สองมือประสานตรงหน้าตักราวประหม่า เหตุใดต้องไหวสั่นกับเวลาอีกฝ่ายจ้องหน้า ยิ่งกว่าผู้ปกครองจ้องจับผิด"ไม่มีทาง" น้ำเสียงเข้มตอบกลับอย่างราบเรีียบ จับผ้านวมสะบัดเตรียมลุกตัวหนี ส่วนล่างยังสวมกางเกงสแลคดำแต่หัวเข็มขัดปลดออก เขาพอจำเธอได้เลือ
โคร้มม!!!!!เสียงของแก้วสแตนเลสทรงสวยถูกปาใส่พนังกำแพงห้องลับอย่างไม่พอใจ ณ ราชวังเมืองนาเธอร์ลาส ด้วยฝีมือประมุขผู้ยิ่งใหญ่ เพราะธิดาสาวกระทำผิดขั้นรุนแรง ไม่ให้คนรับใช้หรือบอดี้การ์ดย่างกรายเข้าล่วงรู้"ท่านพ่อโปรดใจเย็นก่อน" น้ำเข้มสุขุมของเจ้าชายพยามกักเก็บอารมณ์โมโหเช่นเดียวกัน รีบลุกจากที่นั่งไปยืนเคียงข้างบิดา เอื้อมจับมือผู้เป็นแม่กำลังนั่งถือยาดมราวกับจะวูบสลบเมื่อทราบข่าว โดยทุกคนยังเพ่งเล็งชายหญิงสองคนที่นั่งตรงอีกฝั่งห้อง องค์หญิงคนก่อเรื่องก้มหน้าก้มตาแสร้งรู้สึก แต่ใบหน้าหล่อเหลากลับนิ่งเรียบไม่ได้หวั่นเกรงตามบรรยากาศ ถอนหายใจเบื่อหน่ายดันตกหลุมพลาง เรื่องราวคล้ายในละครน้ำเน่า"โมอา!ทำไมเจ้าถึงไม่รู้ผิดชอบชั่วดี กล้าทำเรื่องเสื่อมเสียเกียรติได้ยังไงกัน!!!" ราชาผู้ยิ่งใหญ่ตะเบ่งเสียงแข็งกร้าว พุ่งคว้าดาบยาวโยนปลอกทิ้ง พาดปลายแหลมสีเงินสะท้อนเงาความคมกริบ ตวัดเฉียดลำคอหนายังนั่งหลังตรงเขาไม่มีแม้แต่จะหลบสายตา นัยน์ตาคมบึ้งลึกยากจะอ่านใจออก"อึก!""ท่านพ่อ!!" โมอารีบเอาตัวเองแทรกอยู่ระหว่างกลางดาบนั้นด้วยตัวเอง หากเขาดันโดนทำร้ายถึงชีวิต เธอคงรู้สึกผิดไปตลอดกาล ฝ่ามือหนา
ประเทศไทย@ บ้านซิลค์"ทำไมต้องเป็นฉัน?" น้ำเสียงเข้มถามขึ้น ทันทีที่เขาพาเธอมายังบ้านหลังส่วนตัว มันไม่ง่ายเลยกับการพาคนแปลกหน้าเข้าอาณาเขตตัวเอง หากไม่มีพันธะสัญญาบ้าบอ ชีวิตอิสระคงเป็นเช่นเดิม ซิลค์ไม่คิดแม้แต่แยแสหญิงสาวด้านข้าง ที่ถือวิสาสะแทนเจ้าของไล่สำรวจบริเวณโซนต่างๆในบ้าน โดยมีเดโม่ติดตามมารับใช้ด้วย พอทราบคร่าวๆว่าเธอยังศึกษา ณ มหาวิทยาลัยแห่งนึง คณะคุรุศาสตร์ที่ไทยช่วงปีสุดท้ายแล้ว"คุณคนเดียวเท่านั้นสามารถต่อกรกับด้านมืดได้" โมอาตอบกลับ พอหยุดสำรวจบริเวณบ้านตกแต่งได้เนียบหรูทุกจุดเสร็จ หันมายืนเอามือไขว่หลังราวมีคำพูดอะไรต่อจากนี้"ผี?" ซิลค์พูด ช่างน่าตลกเขาเป็นศัลยแพทย์อัจฉริยะ ทุกเรื่องต้องมีการพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ ใบหน้าหล่อเหลาสายสะบัด รู้สึกเวลาไร้เหตุผล"ไม่ใช่สักหน่อย ว่าแต่ที่นี่มีห้องรับแขกไหมคะ ฉันมีเงินนะขอเช่าก็ได้" ใบหน้าสวยดูพูดตรงกับความคิด ไม่มีการแสดงเบ่งฐานะใด เพราะอย่างน้อยช่วงรับตำแหน่ง เธอมีเงินพิเศษเก็บจำนวนตอนไปช่วยงานต่างๆแม้จะโดนบังคับ"ไปอยู่คอนโดเดิมดีกว่าไหมครับ" เดโม่เข้ามากระซิบด้านข้างกาย แต่ไม่ได้เบาจนคนรอบข้างไม่ได้ยิน"ออกไปตอนยั
อีกด้านนึง_ณ สวนสาธารณะแห่งนึงในเมืองนาเธอร์ลาส ชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งพูดคุยบนเก้าอี้ยาวสีน้ำตาลเข้ม โดยมีบอดี้การ์ดคอยซุ่มตามต้นไม้ใหญ่ไม่ไกล ระดับองค์ชายคนสำคัญมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ เวลานี้คงไม่หาใครช่วยไม่ได้นอกจากผู้มีอำนาจด้านมืดล้นมือ"นายคงไม่คิดว่าโมอาจะกล้าทำจริงๆใช่ไหม" มาร์แชลล์พูด สวมเสื้อฮู้ดสีดำใช้หมวกคลุมปกปิดใบหน้ากันผู้คนรู้จัก แค่เวลาผ่านไปไม่ถึงสองวันดี คนเป็นพี่ชายย่อมห่วงใยน้องสาว ถึงเธอจะศึกษาอยู่ข้ามทวีปกัน"ต่อให้มันเป็นใคร รับรองได้เลยว่าอองตวนคนนี้จะปิดปากมันเอง" น้ำเสียงบ่งบอกแววโหดร้าย ใบหน้าชายหนุ่มหล่อเหลาไม่ต่างจากรูปปั้นชาวโรมัน ทว่าจิตใจอำมหิตเกินที่บุคคลรอบข้างจะเข้าหา ยกเว้นโมอาคือเพื่อนสนิท แม้คิดไม่ซื่อก็ตามเขาแอบชอบเธอตลอดมา จนครอบครัวพยามวางตำแหน่งคู่ครองในไม่ช้า แต่ใครจะคิดว่าหญิงสาวหาวิธีปฏิเสธได้แบบนี้"เราไว้ใจเจ้านะอองตวน" เวลานี้คนบอกคิดแค่ว่า หากปิดกลั้นเรื่องถูกผิดไว้ชั่วคราว เขาจะเลือกลงโทษชายแปลกหน้าคนนั้นด้วยความตายเป็นพอ ปล่อยเรื่องคือความลับตลอดกาล"ขอบใจที่เลือกผม"@ ประเทศไทยก็อก! ก็อก!"ฉันรู้ว่าคุณกลับมาแล้ว ขอคุยด้วยหน่อยไ
มหาวิทยาลัยชื่อดัง_"อาทิตหน้าก็จะเปิดเทอมสุดท้ายของเราแล้ว ดีใจจังเลยโมอา" เมล์คือเพื่อนสาวคนสนิทที่โมอาคบอยู่ บุคลิกนิสัยมาดแมนแถมยังตัดผมสั้น หากเป็นผู้ชายคงหล่อเท่ไม่น้อย เธอนอนใช้แขนหนุนศีรษะบนสนามหญ้าข้างตึกคณะ ช่วงเวลานี้ไร้นักศึกษาเพ่นพล่าน สมควรเหมาะแก่การพักสายตา หลังอ่านสือตลอดคืน"แล้วปีนี้เราต้องเลือกสถานที่ฝึกงานด้วยใช่ไหมเมลล์" เธอไม่ได้บอกเพื่อนสาวเรื่องสถานะศักดิ์เกียรติยศใด ป้องกันผู้อื่นล่วงรู้ตาม ถึงแม้ว่าเมล์สามารถเก็บความลับได้ดีจึงคบหาต่อเนื่องจนเข้าสู่ปีที่ห้าแล้ว"แค่สามเดือนเอง เลือกติดๆกับมหาลัยก็ได้มั้ง" คนบอกส่งเสียงคล้ายขี้เกียจ โยนกระเป๋าเป้ใส่ตักเพื่อนสาวหวังให้นอนเฝ้าสิ่งของยามเธอหลับ"แถวนี้ตรงไหนที่เข้าง่ายๆบ้างล่ะ คะแนนปีนี้จะสู้ปีที่แล้วได้ไหม อาจารย์เล่นโหดเกิน" เธอเจอด่านทดสอบยากเย็น กว่าจะจบเทอมก่อนเล่นส่งรายงานวิ่งเข้าออกห้องอาจารย์ประจำภาคทุกวัน"ไว้ค่อยคิดก็ได้ ตื่นมาเราไปร้องคาราโอเกะกัน""ก็ได้" ปากเรียวสวยเผยรอยยิ้มกว้าง เธอชอบร้องเพลงเป็นงานอดิเรกยิ่งมาเจอคนชอบแนวเดียว เลยเหมือนมีผู้สนับสนุนเพิ่ม เตรียมแลกเหรียญจำนวนนับไปหยอดจนกระทั่งหมดก
ภายในห้องครัว_"........" ยามใบหน้าทั้งสองอยู่ระยะใกล้ ดวงตาสองคู่กำลังอ่านข้างในกันและกัน เกิดความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้น รับรู้ถึงอุณหภูมิอุ่นราดรดริมฝีปากก้อนใจดวงน้อยเต้นตึกตัก ไม่เคยเข้าใกล้ชายใดแล้วสูญเสียความเป็นตัวเอง คับคล้ายร่างกายกำลังอ่อนไหว ค่อยๆเคลื่อนเปิดเปลือกตาปิด เมื่อริมฝีหนาใกล้จะประกบก๊อก! ก็อก!"องค์หญิงครับ" เดโม่กดน้ำเสียงต่ำเรียก เขาเคาะพนังกำแพงราวกับส่งสัญญาณขัดจังหวะ ยืนหันหลังให้ตรงกรอบประตู หมายบอกคนทั้งคู่ตรึงตนักสถานะตน"เอ่อ..ขอบคุณค่ะ" ร่างอรชรรีบผละอ้อมแขนแกร่งออก เอียงใบหน้าสวยหันสนใจเตาอบปกปิดสีแดงบนแก้มเนียน"ไม่ถือ" ซิลค์บอกเหมือนไม่ได้ใส่ใจ กระแทกลมหายใจราวหงุดหงิด ไม่คิดเช่นกันว่าทำไมถึงเผลอไผลไป ก่อนเดินผ่านองครักษ์ใช้สายตาเฉือดเฉือนมอง"เกิดอะไรขึ้นหรอครับ" เขาเอ่ยถามทันที เมื่อเหลือกันสองคนภายในครัว หลังเห็นมาเฟียหนุ่มขึ้นช้างบนแล้ว"โมลื่นเมื่อกี้นิดหน่อย ว่าแต่มีข่าวทางนั้นบ้างไหม" ร่างอรชรเลือกเดินตรงไปหน้าเตาอบ สวมถุงกันร้อนพร้อมเปิดดูผลงาน เธอไม่มีกล้าแม้แต่จะหันมองคู่สนทนา เกรงว่าจะจับอาการเมื้อกี้ออก"วงในเงียบสนิท พวกท่านน่าจ
ตึก! ตึก! หญิงสาวก้าวเท้าเรียวฉับพลัน อาศัยเหตุการณ์เมื่อคืนเลยจำสถานที่ได้ดี หยุดยืนชะงักข้างริมเตียงขนาดใหญ่เหลือบมองเห็นผ้าปูสีเดิม รอยคราบเลือดผสมน้ำขาวขุ่นแห้งกัง ยิ่งย้ำความรู้สึกก้นบึ้งลึก จิตใจดวงน้อยไม่เคยไหวอ่อนให้ชายใด แต่นัยน์ตาคมคู่นั้นทำสูญเสียอาการ"อยู่นี่เอง" น้ำเสียงใสพูด เมื่อเจอกระปุกยาอยู่ตรงหัวเตียงจริงๆ ร่างอรชรถือวิสาสะคลานขึ้นบนเตียง ขยับไปเอื้อมมือหยิบ เพื่อให้หายป่วยไข้ไวไวหมับ!"อ๊ะ!!คุณจะมาเอาให้ทำไมไม่บอกเล่า" จู่จู่มือหนาดันแย่งคว้ากระปุกไปต่อหน้าต่อตา โมอารีบเอี้ยวตัวหันจ้องอย่างสงสัย แต่ดันถูกท่อนแขนแกร่งช้อนหน้าท้องราบไว้ ทำให้เธอค้างอยู่ในท่าคลานเข่าโดยมีร่างกำยำยืนข้างหลัง"จะทำอย่างอื่น" ซิลค์บอกผ่านน้ำเสียงแห่บพล่า ใช้มือข้างนึงอาศัยเปิดกระปุกยา หยิบออกมาหนึ่งเม็ดคาบไว้ ก่อนขวดน้ำที่ถือตามมาเตรียมส่งให้หญิงสาว"คุณป่วยเหรอ""ป่าว.." พอให้คำตอบเสร็จคนตัวสูงก้มประกบปากปิดทันที สิ้นสากทำหน้าที่ดันเม็ดยาลดไข้ใส่โพรงปากนุ่มแทน"อื้อ" รสชาติขมปี๋กว่าการกินแบบธรรมดา แล่นเข้าสู่ลำคอระหงทำขนลุกซาบซ่าน รีบแย่งคว้าขวดน้ำกระดกดื่ม ใบหน้าแดงระเรื่อไม่รู้ว่า
"เฮ้อ..กว่าจะกินได้ มันขมขึ้นคอเชียวนะ" คนตัวเล็กถึงกลับทิ้งร่างกายอ่อนยวบ นั่งพิงหลังบนเก้าอี้ส่งสายตาชำเรืองค้อนแก่เจ้าของบ้าน หลังร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำ เขาเลือกเน้นตักแต่ผักใบเขียวใส่จานบังคับ"ไหนว่าโต" ซิลค์ส่ายหน้าคมคายซ้ายขวา ตอนแรกตั้งใจจะกลับมายึดบัตรเครดิตคืน แต่พอเห็นรายการใช้จ่าย ส่วนมากเป็นของใช้ในบ้าน เลยทำเป็นแกล้งลืมไปก่อน ค่อยชำระทบต้นทบดอกทีหลัง"อยู่ที่นู้นไม่เห็นมีใครบังคับเรื่องการกินเลย คุณนี่ติดนิสัยเป็นหมอชอบบังคับคนไข้ชัวร์!" โมอาส่งเสียงใสยิ่งกว่านกกระจิบ ใช้ช้อนส้อมจิ้มเนื้อกุ้งแม่น้ำขนาดใหญ่แกล้งยั่วน้ำลายอีกฝ่าย"พูดมาก" เขาปรามสั้นๆ ใช้สายตาเข้มหรี่มอง วางช้อนส้อมข้างจานข้าวเป็นระเบียบ ยกแก้วน้ำกระดกดื่มตาม"เชอะ..แคร่ก! แคร่ก!" แต่ยังไม่ทันไร หญิงสาวฝั่งตรงข้ามเกิดอาการสำลักกระทันหัน ใช้กำปั้นเล็กทุบหน้าอวบรัวๆ ลมหายใจเริ่มติดขัด ใบหน้าแดงก่ำผิดจากเมื่อกี้แววตากลมคล้ายร้องขอ แต่ไม่มีเสียงเอ่ยบอก รู้สึกแสบทั่วลำคอด้านใน ราวจะหมดลมหายใจเพียงไม่กี่นาที"คุณโม!!!!เป็นอะไรครับ" เดโม่และเตโชพึ่งจะเข้ามานำอาหารในครัวไปทานกับพวกบอดี้การ์ด แต่ต้องตกใจเสียงใสร
@ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำโมอาถือโอกาสดีเปิดใช้บัตรเครดิตใบใหม่รูดใช้จ่ายสินค้ามากมาย ส่งถุงแบรนด์หรูให้เดโม่ผู้ช่วยส่วนตัวคอยประกบด้านหลัง โดยเธอไม่ลืมคืนเงินจำนวนนึง ถือคติที่ว่าไม่ยอมเป็นหนี้ใครง่ายๆโดยเฉพาะคนใกล้ตัว"คุณโมไม่ต้องคืนหรอกครับ องค์ชายแอบส่งให้แล้ว" เขาพยามกระซิบบอกยังไงหญิงสาวก็ไม่มีท่าทีจะฟัง พาเดินเข้าแต่ร้านสิ่งของหรูหรา เขาเกรงว่าอีกไม่นานวงเงินในบัตรนั้นคงหมดเร็วๆนี้ หากคนยังใช้ประหนึ่งเล่นสะสมแต้ม"ได้ไงพี่เดย์ ระดับมือขวาของโมเชียว เลือกเสื้อสูทดีๆสักตัวสิ เวลายืนข้างพี่เตจะได้ดูเด่นกว่าเขาไง" น้ำเสียงใสฉายแววหมั่นไส้ ยามนึกถึงใบหน้าคมคายทั้งเจ้านายและลูกน้อง เขาเล่นกอบโกยเรี่ยวแรงทำสองขาเรียวสั่นเวลาก้าวเดิน"อย่าแต่งแบบนั้นเลยครับ เราจะเป็นที่จับตามองได้" พอมาอยู่ประเทศไทยรอบนี้ การแต่งกายเขาเปลี่ยนเป็นแบบชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ทั่วไป ดูกลมกลืนเข้ากับสังคมดีกว่า"เลือก!นี่คือคำสั่ง อ้อ..แล้วเราไปซื้ออาหารสดกันด้วย เย็นนี้โมจะเข้าครัว" ร่างอรชรยื่นแขนเรียวขาวปานเชิญเข้าร้านด้านใน การันตีผ้าแบรนด์ขนาดใหญ่ ยิ่งทำให้องครักษ์รู้สึกเกรงใจ ทว่าพอเห็นแววตากลมจ
"........." ".........."บรรยากาศชวนอึดอัดทันที เมื่อซิลค์เลือกนั่งหันหลังใส่คนตัวเล็กนอนหมดแรงบนเตียง พลางมองสำรวจบริเวณรอบห้อง ตกแต่งสไตล์เนียบดูสะอาดเหมือนเจ้าของ เธอลอบมองแผ่นหลังกว้างอยู่ระยะนึง เขาไม่ส่งเสียงใดยิ่งเงียบผิดปกติ เป็นตัวบ่งบอกเรื่องความสัมพันธ์จากนี้"ถ้าตามทฤษฎี...เราเป็นผัวเมียกันแล้วใช่ไหมคะ" โมอาเอ่ยบอก อยากรู้ตามความเข้าใจที่ทราบมา ขยับตัวนั่งพิงหัวเตียงสองมือกำชายผ้าน่วมข่มความรู้สึกประหม่า พอชำเรืองเห็นคราบสีแดงสดปนขาวขุ่นเปลื้อนผ้าปู ร่างอรชรรีบเอี้ยวตัวหยิบทิชชู่ทำลายร่องรอย"หมายความว่าไง?" น้ำเสียงเข้มถามเรียบนิ่ง มีชายผ้าห่มปิดคลุมช่วงล่างเท่านั้น ผิวกายขาวสะอาดสะอ้านไม่มีแม้กระทั่งรอยด่างเลยลำตัวกำยำเอื้อมหยิบบุหรี่จากกางเกงสแล็คดำ จุดแช็กสูบไม่สนผู้ร่วมอาศัย จนเธอรวบรวมผ้าผืนหนายกขึ้นปิดจมูก ปล่อยเสียงอู้อี้พูดคุย"แค่สงสัยเฉยๆ แต่ไม่ต้องคิดนะคะว่าฉันจะเรียกร้องอะไร" เธอรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์ตามคำที่พูดบอก ทั้งสองต่างยินยอมทำเรื่องอย่างว่าเอง พอจะขยับส่วนล่างก็เกิดความรู้สึกปวดระบม เลยหยุดชะงักค้างท่าเดิมไว้ก่อน"อวดดี..หึ" เสียงพ่นลมหายใจแรงๆตามหลั
"ฉันจะบอกว่า.." น้ำเสียงใสเริ่มละล่ำลัก ยามเห็นซิลค์ขยับมายืนข้างโต๊ะทำงาน มีอุปกรณ์การแพทย์จำนวนนึงวางอยู่ ชิ้นเนื้อต่างๆกระจัดกระจายในถาดแสตนเลส จากการคาดคะเนตามสายตาอาจเป็นเนื้อเยื่ออ่อน ผสมรอยเลือดสีแดงสดยังไหลซึม"เศษสมองคน" คนตัวโตให้คำตอบชัดทุกถ้อยคำ ยิ่งทับถมความคิดหญิงสาว เกิดอาการกลัวเกร็งสั่นตามมือบาง ปล่อยสองข้างพนักจับเป็นอิสระ ลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอเล็ก ใครจะคิดว่าได้เห็นของจริงระยะใกล้แบบไม่เต็มใจ แสงหริบหรี่ของหน้าจอคอมพิวเตอร์ พาลกดดันก้อนใจดวงน้อยเต้นตึกตัก กระหน่ำรัวแข่งกับแรงสูบเลือดทั่วกายสาว บ่งบอกว่าไม่ควรฝืนอยู่บริเวณอันตราย"ไว้วันอื่นก็ได้เนอะ" ร่างอรชรลุกขึ้นยืน ถึงกลับพะอืดพะอมไม่มีแรงก้าวขา ยกมือทุบขมับเล็กเบาๆตั้งสติ แต่ทว่าดันสะดุดเท้าตัวเองเซล้มใส่คนตัวสูง"แล้วอวดเก่ง?" เป็นเสียงเข้มแว่วผ่านหูบาง ทำใบหน้าสวยแหงนตามองศาเอี้ยวมอง เงาสะท้อนกระทบนัยน์ตาคมชวนลุ่มหลงรอบสอง"คือ.." คนบอกยังสบมองนัยน์ตาคม พาลร่างอรชรอ่อนระทวยสูญเสียความเป็นตัวเอง ฝ่ามือบางทั้งคู่เกาะแผงอกแกร่ง ค่อยๆเลื่อนใบหน้าสวยสีแดงจางเข้าหาริมขอบปากหยัก"อย่ามาร้องเสียใจทีหลัง" ซิลค์
@ คอนโดโมอา เมื่อรองเท้าผ้าใบสีขาวก้าวลงจากรถยนต์คันหรูของสามีในนามชั่วคราว หลังเดโม่ยืมจากเตโชเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เขาสืบทราบข่าววงในได้ว่ามาร์แชลล์ไม่มีทางปล่อยน้องสาวมาร่วมชะตาลำพัง ร่างอรชรสวมชุดธรรมดาเหมือนเด็กสาวแรกรุ่นเช่นเคย ล้วงบัตรแสกนเพื่อเข้าตัวอาคาร โดยให้องครักษ์ติดตามไปยืนรอตรงหน้าประตูห้อง เวลานี้อะไรก็ไม่แน่ไม่นอนเผื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นติ๊ด! ติ๊ด! ติ๊ด!"รีบไปกันเถอะ จะไปแวะซื้อหนังสืออีก" น้ำเสียงใสเอ่ยบอก โมอาจำเป็นต้องมาเอาสิ่งของสำคัญไว้ใช้เรื่องเรียน ซึ่งอีกไม่กี่วันดีก็จะเปิดเทอมสุดท้าย เดโม่มุ่งเดินนำหน้าไปยังลิฟท์กดประตูจะเลื่อนเปิดกว้างอัตโนมัติ มีบุคคลอื่นสวนลงมาชายนิรนามแปลกหน้าใส่เพียงแมสปิดปาก เหร่สายตาแฝงความคิดมองใบหน้าสวย จนเจ้าตัวรู้สึกรีบเดินไปยืนคู่คนด้านข้าง"เป็นอย่างที่เราคิด" น้ำเสียงเข้มเอ่ยบอก ระหว่างประตูลิฟท์เลื่อนปิดกดระบุชั้นปลายทาง เขาหันไปมองหญิงสาวเล็กน้อย เธอกำลังถอนหายใจเฮือกใหญ่ มันไม่ง่ายสักนิดเดียวแค่อยากมีชีวิตอย่างคนทั่วไปติ่ง!"เชิญครับ" เดโม่พุ่งตัวออกจากลิฟท์ก่อน สอดส่องสายตาดูบริเวณรอบ เมื่อเข้าเขตพื้นที่อยู่อาศ
ภายในห้องครัว_"........" ยามใบหน้าทั้งสองอยู่ระยะใกล้ ดวงตาสองคู่กำลังอ่านข้างในกันและกัน เกิดความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้น รับรู้ถึงอุณหภูมิอุ่นราดรดริมฝีปากก้อนใจดวงน้อยเต้นตึกตัก ไม่เคยเข้าใกล้ชายใดแล้วสูญเสียความเป็นตัวเอง คับคล้ายร่างกายกำลังอ่อนไหว ค่อยๆเคลื่อนเปิดเปลือกตาปิด เมื่อริมฝีหนาใกล้จะประกบก๊อก! ก็อก!"องค์หญิงครับ" เดโม่กดน้ำเสียงต่ำเรียก เขาเคาะพนังกำแพงราวกับส่งสัญญาณขัดจังหวะ ยืนหันหลังให้ตรงกรอบประตู หมายบอกคนทั้งคู่ตรึงตนักสถานะตน"เอ่อ..ขอบคุณค่ะ" ร่างอรชรรีบผละอ้อมแขนแกร่งออก เอียงใบหน้าสวยหันสนใจเตาอบปกปิดสีแดงบนแก้มเนียน"ไม่ถือ" ซิลค์บอกเหมือนไม่ได้ใส่ใจ กระแทกลมหายใจราวหงุดหงิด ไม่คิดเช่นกันว่าทำไมถึงเผลอไผลไป ก่อนเดินผ่านองครักษ์ใช้สายตาเฉือดเฉือนมอง"เกิดอะไรขึ้นหรอครับ" เขาเอ่ยถามทันที เมื่อเหลือกันสองคนภายในครัว หลังเห็นมาเฟียหนุ่มขึ้นช้างบนแล้ว"โมลื่นเมื่อกี้นิดหน่อย ว่าแต่มีข่าวทางนั้นบ้างไหม" ร่างอรชรเลือกเดินตรงไปหน้าเตาอบ สวมถุงกันร้อนพร้อมเปิดดูผลงาน เธอไม่มีกล้าแม้แต่จะหันมองคู่สนทนา เกรงว่าจะจับอาการเมื้อกี้ออก"วงในเงียบสนิท พวกท่านน่าจ
มหาวิทยาลัยชื่อดัง_"อาทิตหน้าก็จะเปิดเทอมสุดท้ายของเราแล้ว ดีใจจังเลยโมอา" เมล์คือเพื่อนสาวคนสนิทที่โมอาคบอยู่ บุคลิกนิสัยมาดแมนแถมยังตัดผมสั้น หากเป็นผู้ชายคงหล่อเท่ไม่น้อย เธอนอนใช้แขนหนุนศีรษะบนสนามหญ้าข้างตึกคณะ ช่วงเวลานี้ไร้นักศึกษาเพ่นพล่าน สมควรเหมาะแก่การพักสายตา หลังอ่านสือตลอดคืน"แล้วปีนี้เราต้องเลือกสถานที่ฝึกงานด้วยใช่ไหมเมลล์" เธอไม่ได้บอกเพื่อนสาวเรื่องสถานะศักดิ์เกียรติยศใด ป้องกันผู้อื่นล่วงรู้ตาม ถึงแม้ว่าเมล์สามารถเก็บความลับได้ดีจึงคบหาต่อเนื่องจนเข้าสู่ปีที่ห้าแล้ว"แค่สามเดือนเอง เลือกติดๆกับมหาลัยก็ได้มั้ง" คนบอกส่งเสียงคล้ายขี้เกียจ โยนกระเป๋าเป้ใส่ตักเพื่อนสาวหวังให้นอนเฝ้าสิ่งของยามเธอหลับ"แถวนี้ตรงไหนที่เข้าง่ายๆบ้างล่ะ คะแนนปีนี้จะสู้ปีที่แล้วได้ไหม อาจารย์เล่นโหดเกิน" เธอเจอด่านทดสอบยากเย็น กว่าจะจบเทอมก่อนเล่นส่งรายงานวิ่งเข้าออกห้องอาจารย์ประจำภาคทุกวัน"ไว้ค่อยคิดก็ได้ ตื่นมาเราไปร้องคาราโอเกะกัน""ก็ได้" ปากเรียวสวยเผยรอยยิ้มกว้าง เธอชอบร้องเพลงเป็นงานอดิเรกยิ่งมาเจอคนชอบแนวเดียว เลยเหมือนมีผู้สนับสนุนเพิ่ม เตรียมแลกเหรียญจำนวนนับไปหยอดจนกระทั่งหมดก
อีกด้านนึง_ณ สวนสาธารณะแห่งนึงในเมืองนาเธอร์ลาส ชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งพูดคุยบนเก้าอี้ยาวสีน้ำตาลเข้ม โดยมีบอดี้การ์ดคอยซุ่มตามต้นไม้ใหญ่ไม่ไกล ระดับองค์ชายคนสำคัญมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ เวลานี้คงไม่หาใครช่วยไม่ได้นอกจากผู้มีอำนาจด้านมืดล้นมือ"นายคงไม่คิดว่าโมอาจะกล้าทำจริงๆใช่ไหม" มาร์แชลล์พูด สวมเสื้อฮู้ดสีดำใช้หมวกคลุมปกปิดใบหน้ากันผู้คนรู้จัก แค่เวลาผ่านไปไม่ถึงสองวันดี คนเป็นพี่ชายย่อมห่วงใยน้องสาว ถึงเธอจะศึกษาอยู่ข้ามทวีปกัน"ต่อให้มันเป็นใคร รับรองได้เลยว่าอองตวนคนนี้จะปิดปากมันเอง" น้ำเสียงบ่งบอกแววโหดร้าย ใบหน้าชายหนุ่มหล่อเหลาไม่ต่างจากรูปปั้นชาวโรมัน ทว่าจิตใจอำมหิตเกินที่บุคคลรอบข้างจะเข้าหา ยกเว้นโมอาคือเพื่อนสนิท แม้คิดไม่ซื่อก็ตามเขาแอบชอบเธอตลอดมา จนครอบครัวพยามวางตำแหน่งคู่ครองในไม่ช้า แต่ใครจะคิดว่าหญิงสาวหาวิธีปฏิเสธได้แบบนี้"เราไว้ใจเจ้านะอองตวน" เวลานี้คนบอกคิดแค่ว่า หากปิดกลั้นเรื่องถูกผิดไว้ชั่วคราว เขาจะเลือกลงโทษชายแปลกหน้าคนนั้นด้วยความตายเป็นพอ ปล่อยเรื่องคือความลับตลอดกาล"ขอบใจที่เลือกผม"@ ประเทศไทยก็อก! ก็อก!"ฉันรู้ว่าคุณกลับมาแล้ว ขอคุยด้วยหน่อยไ