ในละครที่กำลังสะท้อนจากจอภาพให้ได้ชมนั้น
ชายหนุ่มคนหนึ่งเจอหญิงสาวที่น่ารักสดใสไร้เดียงสา เขาชอบเธอที่เป็นแบบนั้น และยิ่งได้อยู่ใกล้ชิดกันก็ยิ่งรู้สึกพึงใจไม่อยากพรากจาก ความรักก่อตัวในหัวใจยากหักห้าม
และเมื่อไรก็ตามที่พระเอกกับนางเอกรักกันมาก ตามพลอตยอดนิยมเรื่องนั้นก็มักมีตัวร้ายคอยขัดขวางเสมอ พอนางร้ายเห็นพวกเขารักกันเหลือเกินก็ไม่อาจยอมรับได้ เธอมาก่อน เจอพระเอกก่อน นางเอกมาทีหลังมีสิทธิ์อะไร หล่อนไม่ควรได้พระเอกไป
นางร้ายจึงแย่งชิงผู้ชายคนนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย
ต่อให้ไม่ได้พระเอกมาครอง เธอก็ต้องไม่ปล่อยให้พวกเขาได้ครองรักกันอย่างสงบสุข ไม่มีวัน!
***********
ปฐมบท พี่สาวใจร้าย
ผู้ชายหน้าตาดีหน้าที่การงานดี ใครๆ ก็อยากได้เป็นสามี นั่นคือคำพูดซุบซิบกันในหมู่เครือญาติของวันนี้
พวกเขาต่างได้ข่าวว่าพี่น้องชอบผู้ชายคนเดียวกัน แน่นอนว่าสุดท้ายคนที่ได้แต่งงานก็คือคนที่ฝ่ายชายเลือก คนไม่ใช่ก็ต้องแพ้พ่ายไปตามระเบียบ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่า หล่อนยอมรับได้หรือไม่
บ้านเรือนไทยริมชานเมือง งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เจ้าบ่าวหล่อเหลาภูมิฐาน เจ้าสาวสวยน่ารักมีรอยยิ้มสดใส พวกเขายืนต้อนรับแขกเหรื่อด้วยกันอย่างหวานชื่น บ่งบอกได้ดีว่ามีรักจากใจจริง มิใช่แค่เสแสร้งหรือปรุงเสริมเพิ่มแต่งให้ดูดี
ด้านหน้าของงานเลี้ยงมงคล หญิงสาวในชุดสีดำแสดงถึงการไว้ทุกข์ ถือพวงหรีดในมือ ซึ่งกำเป็นหมัดแน่น
เธอยืนนิ่งงัน มองงานแต่งงานชื่นมื่นตรงเบื้องหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า
ท่ามกลางการแสดงออกถึงความยินดีจากแขกเหรื่ออันน่าสะอิดสะเอียน ริตาเลือกที่จะก้าวเท้าฉับๆ เดินเข้าไป
พวงหรีดในมือถูกเขวี้ยงใส่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวอย่างเกรี้ยวกราด
“พี่ต้า!”
เจ้าสาวเรียกชื่อเจ้าของพวงหรีดอย่างตกใจ
“ยัยต้า! แกทำอะไรน่ะ”
ริตาตวัดสายตามองมารดาผู้ให้กำเนิดอย่างโมโห “มาอวยพรคู่บ่าวสาวไงแม่ ไม่เห็นเหรอไง”
“แกทำเกินไปแล้วนะ น้องร้องไห้แล้วเนี่ย” พรพรรณมองลูกสาวคนโตจอมโวยวายอย่างไม่ชอบใจ
ริตาตวัดสายตามองกลับมาที่เจ้าสาว “แกควรหัวเราะไม่ใช่เหรอไงยัยนิด”
เธอจับไหล่ที่กำลังสั่นเทาของน้องสาวเขย่าอย่างแรง ตวาดลั่น “หัวเราะสิ หัวเราะ!”
“หยุดนะยัยต้า คนในงานมองใหญ่แล้วนะ”
พรพรรณให้รู้สึกปวดหัว ได้แต่พยายามห้ามปรามตามกำลังของคนเป็นแม่ นางเข้ามาแยกคนเป็นลูกสาวคนโตที่มีเรี่ยวแรงมากกว่าออกจากลูกสาวคนเล็กที่อ่อนแรงกว่า “ต้า! หยุด!”
“ไม่หยุด หนูอยากตบหน้าด้านๆของนังนิดให้ล้มคว่ำ ไม่ใช่แค่เขย่าไหล่แบบนี้ด้วยซ้ำ”
“ต้า! แค่ผู้ชายคนเดียวเหรอถึงต้องแตกหักกัน”
“ใช่!” ริตาตวาดลั่น “แม่จะทำไม?”
“พอเสียทีเถอะต้า” เสียงทุ้มเข้มของคนเป็นเจ้าบ่าวเอ่ยขึ้นอย่างเอือมระอาเต็มทน แววตาของเขาไม่สบอารมณ์ รีบมาดึงเจ้าสาวของตนเข้าโอบด้วยสองแขนอย่างต้องการปกป้องตลอดเวลา “ปล่อยเถอะต้า เธอกำลังทำนิดเจ็บ”
“เจ็บเหรอ?” เธอจิกเล็บเข้าเนื้อไหล่ของน้องสาว “แกชนะนี่ จะเจ็บเท่าคนแพ้แบบฉันได้ไง”
“ฮึก! พี่ต้า” ณิชายิ่งร้องไห้หนัก เธอไม่คิดว่าพี่สาวแสนดีจะทำแบบนี้ในงานแต่งของเธอ
เป็นเพราะเจ้าบ่าวเขาเลือกเธอใช่หรือเปล่าถึงทำให้พี่สาวเปลี่ยนไปเป็นคนละคน “พี่ต้า อย่าทำแบบนี้เลย นิดเป็นน้องพี่นะ ฮือ...”
“แล้วฉันไม่ใช่พี่แกหรือไง แกคงไม่เข้าใจคำว่าเสียสละสินะ” เธอจิ้มหน้าผากน้องสาวจนหน้าสวยน่ารักหงายหลัง “แกเป็นน้อง ควรรู้จักคำว่าเชื่อฟังและยอม เพราะฉันเป็นพี่แกไง”
พรพรรณผู้เป็นแม่รู้สึกทนไม่ไหว “แค่ผู้ชายคนเดียวทำแกเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเหรอ?”
ริตาเม้มปากขึงตาอย่างโกรธจัด ใช่ เธอเปลี่ยนไปเพราะผู้ชายตรงหน้าเลือกน้องสาว เขาไม่เลือกเธอ
“ต้า น้องนิดกำลังท้องอยู่นะ” เจ้าบ่าวเบี่ยงตัวเจ้าสาวมาอีกฝั่งเพื่อหลบฝ่ามือที่กำลังจิกทึ้งของคนเป็นพี่
ริตาไม่ตามหยิกอีกแต่ถามเหยียดเสียงดัง “เพราะท้องสินะพี่ถึงยอมแต่งงานกับมัน ถ้ามันไม่ท้อง พี่ก็ต้องแต่งงานกับฉัน ได้ยินมั้ยยัยนิด ฉันสวย ฉันดีกว่า แกมันก็แค่เด็กกะโปโล มีดีแค่เสแสร้ง ตอแหล”
“ต้า พอที พี่รักนิดจริงๆ อย่าพยายามอีกเลย”
“พี่ทัน!” ริตามองธนาด้วยแววตาเจ็บปวด
เขาควรเลือกเธอสิ! ควรเลือกเธอ
งานแต่งนี้ควรเป็นเธอกับเขา ไม่ใช่ของน้องสาว
“พอเสียทีเถอะต้า” ธนาบอกอย่างอ่อนอกอ่อนใจ คนท้องจะทำงานได้ไง เขาไม่ให้แม่ของลูกตรากตรำหรอก “ถ้ามาร่วมงานด้วยดีไม่ได้ ต้าก็กลับไปเถอะ”
“กลับไปก่อนเถอะต้า วันนี้เป็นวันดีของนิด ถ้าไม่เห็นแก่น้องกับแม่ แกก็เห็นแก่หลานในท้องเถอะนะ” พรพรรณช่วยพูด
“ถึงกับไล่ต้า...”
ริตาหัวเราะทั้งน้ำตาจนใบหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียด
เธอมองมารดาด้วยสายตาน้อยเนื้อต่ำใจอย่างที่สุด กวาดตามองน้องสาวที่กำลังซุกซบอ้อมอกอุ่นของเจ้าบ่าวร้องไห้อย่างน่าสงสารด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนตวัดตาขึ้นมองธนาอย่างเจ็บหน่วงในใจ รอยยิ้มหยันผุดตรงมุมปาก
“รักกันดีเหลือเกินนะ รักกันให้ตลอดรอดฝั่งแล้วกัน ฉันจะคอยสาปแช่งให้เลิกกันทุกวัน คอยดู”
“ต้า!” พรพรรณตะคอกลูกสาวคนโตที่ทำตัวเหมือนพวกขี้แพ้ชวนตีตลอดเวลา
เจ้าของชื่อเหยียดริมฝีปากเกิดเป็นรอยยิ้มร้าย แววตากร้าวกระด้างมองกวาดทุกคนอย่างเกลียดชัง
เขาเลือกคนอื่น ไม่ใช่เธอ!
ชั่วชีวิตเธอเกลียดคำว่าแพ้มากที่สุด แต่เธอก็แพ้...
งานแต่งที่ถูกพี่สาวแท้ๆ รังควานจนหวิดเกือบล่ม ยังดีที่ดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น ณิชาได้รับการประคบประหงมจากสามีและมารดาส่วนพี่สาวใจร้าย หลังโวยวายเสร็จก็กลับออกไป ทิ้งไว้เพียงคราบน้ำตาของน้องสาวอยู่เบื้องหลังสายตาของแขกเหรื่อต่างเห็นใจเจ้าสาว เรื่องแบบนี้พอมีให้เห็นบ่อยๆ พี่กับน้องชอบผู้ชายคนเดียวกันแต่วันนี้ พี่ของหล่อนทำเกินไปจริงๆ มีอย่างที่ไหน ผู้ชายเขาไม่เอายังตามตื้ออีกแพ้ไม่อยู่ส่วนแพ้ แค่ยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้รึไง?“ไม่เป็นไรนะน้องนิด” หญิงสาวคนหนึ่งจับมือเจ้าสาวมาปลอบประโลม เธอนับเป็นญาติห่างๆ ของเจ้าสาว พอรู้เรื่องชิงรักหักสวาทคร่าวๆ เห็นว่าผู้ชายหล่อนิสัยดี มีหน้าที่การงานมั่นคง จู่ๆ ก็ให้ญาติผู้ใหญ่ยกสินสอดมาสู่ขอลูกสาวบ้านพี่พร ตอนแรกก็นึกว่ามาขอคนพี่เห็นว่ารู้จักมักคุ้นกันมาก่อน ที่ไหนได้เขาคบหากับคนน้องอยู่ต่างหาก ทีนี้พอคนพี่รู้เข้าก็อาละวาดไม่ยินยอม สงสัยแอบชอบมานาน เฮ้อ...เรื่องแบบนี้มันก็ขึ้นอยู่กับผู้ชายแล้วล่ะว่าเขาเลือกใคร คิดพลางบอกเจ้าสาว“น้องนิดเป็นคนดี น่ารักขนาดนี้ พี่ไม่แปลกใจเลย”หล่อนพูดจากใจจริง ผู้ชายเขาเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตั
หลังจากเข้าไปป่วนงานแต่งของน้องสาวแสนดีกับแฟนเก่าจนพอใจ ริตาก็เดินออกมาอย่างหมดแรง เธอเลือกกลับมานั่งเศร้าอย่างเงียบเหงาอยู่คนเดียวในร้านเหล้าใกล้ห้องเช่าของตัวเอง“ขอน้ำเปล่า” เธอสั่งบริกรหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งคนรับออเดอร์ได้แต่ถอนหายใจ เขาหันหลังเดินไปเอาน้ำเปล่ามาให้เธอตามสั่งแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างกัน“ให้ผมนั่งเป็นเพื่อนนะ”ริตาหันมองอดีตแฟนของน้องสาวหัวจรดเท้า “เลิกเล่นเกมส์แล้วเหรอไง ถึงลุกจากเก้าอี้สตรีมมาทำงานพาร์ทไทม์ได้เนี่ย”เมฆาพยักหน้ารับเนือยๆ “คิดได้แล้วไง”คนฟังแค่นเสียงหยัน “คิดได้เมื่อสายน่ะสิ”“คงใช่” เมฆายิ้มเยาะตัวเอง “ตั้งแต่เลิกกันไป ไม่มีผู้หญิงคนไหนดีเท่านิดเลย พอรู้ตัวก็คิดจะปรับปรุงตัวเองแล้วไปง้อนิดจริงๆ นะพี่ต้า”“ไม่ทันแล้วแชมป์เอ้ย”“ก็ไม่ทันแล้วไง” เมฆาส่ายหัว “นิดท้องแล้วนี่ ผมเพิ่งรู้ โคตรช็อคเลยพี่”ริตาเองก็ช็อค เธออยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก เพิ่งรู้เหมือนกันว่าน้องสาวของเธอท้องจนต้องแต่งงานอาจเพราะแบบนี้ เธอถึงแพ้เมฆามองหน้าหญิงสาวที่อายุมากกว่าเขาเล็กน้อย“พี่ต้ายังอยากได้พี่ทันรึเปล่า เราร่วมมือกันดีมั้ย แต่งไ
สี่เดือนก่อน“พี่ต้า ห้องประชุมจัดเสร็จแล้วค่ะ”หญิงสาวชุดสุภาพคงความปราดเปรียวพยักหน้ารับ “จ๊ะ เดี๋ยวพี่เข้าไปแจ้งหัวหน้าเลขาบอสเอง ส่วนกิ๊กกับวัตอยู่ช่วยพี่ดูแลกลุ่มพาร์ทเนอร์เรื่องพักเบรกสองรอบเลยนะ”“ได้ค่ะพี่ต้า”ขณะเดินไปทางห้องรับรองที่บอสผู้เข้มงวดนั่งรออยู่กับเลขาส่วนตัวของพวกเขาซึ่งเป็นหัวหน้าสายตรงของเธอ ริตาล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาปิดเสียงเพื่อป้องกันการรบกวนระหว่างประชุมกับกลุ่มพาร์ทเนอร์ชาวต่างชาติซึ่งค่อนข้างเคร่งครัดมารยาทเรื่องนี้มากจังหวะกดปิดสัญญาณเตือนเสียงเรียกพลันดังขึ้น เธอเห็นเบอร์ก็รีบกดรับ“ว่าไงนิด พี่กำลังจะเข้าประชุม”เสียงปลายสายสะอึกสะอื้นสั่นเครือ ‘ฮึก พี่ต้า นิดขอไปหาพี่ที่คอนโดได้มั้ย’คงเป็นปัญหาเดิมๆ แฟนของน้องคนนี้ติดเกมส์มาก ริตาจึงไม่แปลกใจเพียงช่วยหาทางออกอย่างรวดเร็ว“แล้วแกเอาไง แค่งอนหรือเลิกจริง พี่จะได้ช่วยถูก”‘ไม่งอนพี่ รอบนี้แชมป์มันไล่นิดออกจากห้อง มันถึงขั้นบอกเลิกนิด ฮือ...นิดถูกทิ้งแล้วจริงๆ พี่’“ตอนนี้แกอย่าอยู่คนเดียว กลับบ้านไปอยู่กับแม่ไป แม่จะได้ช่วยดูแลตอนแกเฮิร์ท”‘ไม่เอา บ้านอยู่ไกลมหา’ลัย นิดไ
ในห้องหอค่ำคืนมงคลยังคงดำเนินต่อไปอย่างช้าๆ ไฟหัวเตียงถูกปิดนานแล้ว มองเห็นเพียงเงาร่างคู่ข้าวใหม่ปลามันของสามีภรรยาหมาดๆ กำลังนอนกอดกันอย่างรักใคร่ลึกซึ้งเรื่องราวความรักซึมลึกของพวกเขาไม่รู้เกิดขึ้นเมื่อไร มันเร็วมาก เร็วจนทั้งสองตั้งตัวไม่ทัน ครั้นรู้ตัวก็ยากปฏิเสธความต้องการของหัวใจ เธอรักเขาและเขาก็รักเธอเหลือเกินความรักนี้ค่อยๆ ก่อตัวจากความสงสารเห็นใจบางทีอาจเป็นตอนที่ณิชาถูกพี่สาวแท้ๆตามโวยวาย ทำตัวร้ายกาจใส่ทุกวันหรืออาจเป็นเมื่อสี่เดือนหรือสามเดือนก่อน ตอนที่ณิชาถูกแฟนที่คบหากันมานานบอกเลิกกะทันหันเวลานั้นเธอหอบหัวใจอันเจ็บช้ำกับคราบน้ำตาที่เปียกปอนไปหาพี่สาวเพียงคนเดียวที่คอนโด แต่พี่สาวไม่อยู่ เธอจึงได้แต่กอดเข่าตัวเองร้องไห้เสียใจลำพังในห้องเล็ก“กินอะไรหน่อยไหมนิด เดี๋ยวพี่ทำให้”ผู้ชายสูงโปร่งเดินเข้ามาถามอย่างใส่ใจ เธอเงยหน้า มองเขาด้วยดวงตาฉ่ำน้ำ“พี่ทัน นิดรู้สึกแย่จังเลย ไม่อยากอยู่คนเดียว”ใบหน้าเล็กน่ารักแดงก่ำ น่าสงสารจับจิตจับใจธนามองเด็กสาวเงียบๆ ครู่หนึ่งค่อยถอนหายใจเอ่ย “ยัยติ๊กไม่รู้ว่าเที่ยวถึงไหน ไม่แน่ว่าเมื่อไรจะเข้ามา เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อ
ธนาดูแลณิชาเหมือนที่พี่ชายคนหนึ่งทำให้น้องสาว ความอบอุ่นค่อยๆ ซึมลึกโอบกอดหัวใจทีละนิดทุกวันเขาพาเธอเที่ยวเพื่อให้ลืมเรื่องเศร้าลืมคนเก่าทุกคืนหลังจากไล่ยัยติ๊กกลับไป ณิชามักจะออดอ้อนให้ธนามานั่งคุยเป็นเพื่อนจนดึก ไม่งั้นเธอนอนไม่หลับ ยัยติ๊กคุยไม่สนุกเลย เคยสนใจใครที่ไหน เอาแต่เล่นโทรศัพท์สุดท้ายณิชาที่คุยกับธนาอย่างถูกคอจนดึกดื่นทุกวันก็มักจะเผลอหลับไปด้วยกันบ่อยครั้งตรงโซฟาหน้าทีวีกลิ่นตัวของธนาสะอาดหอมเย็น ผิวของเขาร้อน แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นละมุนละไม ณิชาคิดอย่างนั้น เธอปล่อยตัวเองให้ค่อยๆ จมดิ่งในห้วงปรารถนาอย่างคนที่ไม่เคยชอบการอยู่คนเดียวมาแต่ไหนแต่ไรจากโซฟาจึงพัฒนาเป็นเตียงนอนท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบได้ยินเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศ หญิงสาวแอบมองผู้ชายด้านข้างเงียบงัน ธนาก็คงเช่นกัน เขาอาจรู้สึกเหมือนเธอ ความหวังบางอย่างเริ่มเกาะกุมหัวใจ ก่อเกิดความรู้สึกแปลกใหม่ขึ้นทีละชั้นอย่างไม่อาจมีสิ่งใดมากั้น แม้แต่อุปสรรคนานัปการหนึ่งอาทิตย์ต่อมา ในที่สุดพี่สาวก็กลับ“พี่ต้า!” ณิชาทักทายริตาเสียงดัง“ตกใจอะไรยัยนิด พี่ไม่ใช่ผีซะหน่อย รีบกลับจะแย่ อ่ะ นี่จ้า ของฝาก แล้ว
เนื่องจากต้องเดินทางสัมมนาต่างจังหวัดต่อเนื่องเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ ริตาจึงหลับทันทีที่หัวถึงหมอนณิชานั่งอยู่ที่โซฟาหน้าเตียงนอนมองภาพนั้นนิ่งๆ ก่อนลุกขึ้นมาดูแลห่มผ้าให้พี่สาว สำรวจตรวจตราครู่หนึ่งอย่างละเอียดก่อนจะค่อยๆ เดินออกมานอกห้องนอนของพี่เธอเดินต่อเนื่องอย่างระวังกระทั่งออกมานอกห้อง เห็นห้องฝั่งตรงข้ามไม่ได้ล็อค ประตูแง้มเล็กน้อยหญิงสาวค่อยๆ ปิดประตูห้องพี่สาวให้เบาที่สุด แล้วเดินเข้าไปอีกห้องอย่างช้าๆเธอค่อยๆ กวาดตามองไปทั่วห้องที่เพิ่งเข้ามาในห้องน้ำที่ประตูไม่ได้ล็อค เพียงแง้มๆ ไว้เช่นกัน มีเสียงฮัมเพลงของผู้ชายที่คุ้นเคยอยู่ในนั้นณิชาอมยิ้ม รีบเดินเข้าไปเขาเองก็ยิ้ม หันมากระซิบถามด้วยเสียงแหบพร่า “ต้าหลับแล้วเหรอ?” “อือ...”ธนามีเพียงผ้าขนหนูนุ่งไว้หมิ่นเหม่ใต้เอวสอบเผยกล้ามหน้าท้องเป็นลอนเรียงตัวสวยตามฉบับผู้ชายมีเสน่ห์ณิชาหน้าแดงก่ำเมื่อเผลอมองอยู่นานชายหนุ่มยังคงมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าเหล่อเหลา เขาเดินเข้าหาเธอ เป็นฝ่ายลงมืออย่างนุ่มนวลอ่อนโยนธนาปลดชุดนอนให้ณิชาอย่างเบามือไม่นาน เสื้อผ้าของณิชาก็หลุดร่วง เธอเปลือยเปล่า เผยผิวขาว
“พี่ทัน อย่าลืมข้าวกล่อง วันนี้ต้าทำให้เป็นพิเศษ”“ไม่เอา ต้าไม่ต้องทำแล้ว เพื่อนมันแซวว่าไม่มีเงินซื้อข้าวกิน พี่ไม่ชอบ”ริตาเพียงนิ่วหน้าไม่ต่อความ พลางหันหน้าไปถามน้องสาวที่เปิดประตูห้องนอนเล็กออกมาพอดี“วันนี้อยากกินอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวพี่ซื้อมาฝาก”“นิดอยากกินไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์กับพิซซ่า พี่ต้าแวะซื้อให้หน่อยน๊ะ นะๆ”เธอมักอ้อนพี่สาวแบบนี้เสมอ และก็ได้ผลตลอด“ได้จ้า” ริตามองน้องสาวที่ยังอยู่ในชุดนอนสภาพพร้อมกลับไปนอนตลอดเวลา “วันนี้ถ้าแกมีเรียนตอนบ่ายแต่ไม่จำเป็นต้องตื่นสายก็ได้นะพี่ว่า”ณิชาเสยผมท่าทางงัวเงีย “แต่นิดง่วงนี่”ริตาเลิกคิ้ว “ทำรายงานดึกเหรอเรา?”“อือ...อาจารย์สั่งเกือบทุกวิชาเลย เหนื่อยสุดๆ”“งั้นนอนต่อเถอะ พอพี่กับพี่ทันออกไปทำงานแล้ว นิดอยู่คนเดียวปิดล็อคประตูให้ดีด้วยล่ะ”“รู้แล้วจ้า พี่รีบไปเถอะ” ณิชาพยักหน้าหงึกหงัก เห็นแค่แก้มแดงเรื่อผ่านผมนุ่มหอมที่รุ่ยร่ายล้อมใบหน้าเล็กธนามองภาพนั้นนิ่งๆ ก่อนเดินออกไปพร้อมริตา ทว่าในเวลาแค่ไม่ถึงสิบห้านาที เขาก็กลับเข้าห้องมาณิชารีบเปิดประตู เธอเห็นเขาตามที่นัดหมาย“วันนี้พี่ไม่มีงานจริงๆ ด้วย”“วันนี้วันเกิ
ยิ่งดึกร้านเหล้ายิ่งคึกคัก นักท่องราตรีแต่ละโต๊ะต่างพูดคุยใส่หน้ากันเสียงดัง แต่กลับไม่ใส่ใจการรบกวนแบบนั้นเท่าไร ต่างคนต่างดื่ม ต่างคนต่างมีเรื่องให้จ้ออย่างออกรสออกชาติทว่าริตากลับตกอยู่ในภวังค์ความคิดแห่งตนคล้ายคนจมดิ่งในอดีตอันมืดมนไร้หนทางออก“พี่ทัน ขอโทษนะที่มาช้า พอดีต้าต้องเคลียร์งาน พอเสร็จก็รีบมาเลย อย่าโกรธน๊า สั่งอาหารหรือยัง? กินเสร็จจะได้ไปดูหนังกันต่อ โต๊ะที่จองไว้อยู่ไหนนะ”ว่าพลางจับมือแฟนเดินเข้าร้านอาหารที่โทรจองไว้ ซึ่งแน่นอนว่าอยู่ใกล้โรงหนังในห้างหรูตามตารางดินเนอร์ของเธอกับแฟนธนาพูดอย่างหงุดหงิด “พี่กินแล้ว รอไม่ไหว วันนี้เป็นวันครบรอบนะต้า ยังห่วงแต่งาน แค่ตำแหน่งผู้ช่วยเลขา ทำยังกับเป็นผู้ช่วยฝ่ายบริหาร แล้วดู แต่งตัว”ริตาก้มดูชุดสูทกางเกงที่ทะมัดทะแมงของตัวเองก่อนเงยหน้ายิ้มประจบ“ตำแหน่งอะไรก็ต้องทำงานเต็มที่ทั้งนั้นแหละน่า ต้ารีบมาไง ถ้ามัวเปลี่ยนชุดก็ช้าอีก กลัวพี่ทันรอนาน”“มาแล้วๆ น้ำอัดลมซ่าๆ กับป๊อปคอร์นร้อนๆ หลังมื้ออาหารจ้า”ริตาหันมองเจ้าของเสียง เห็นเป็นน้องสาวตัวเองที่แต่งตัวน่ารักปนเซ็กซี่เล็กๆ เผยเอวคอดน่าจับ โชว์ไหล่นิด เห็นเ
เธอไม่เคยปล่อยให้สามีจอมหื่นขาดแคลนเลยกระทั่งพ่อบ้านใจกล้าของเธอต้องเลี้ยงลูกถึงสี่คนชายสองหญิงสองไปเลยแน่ล่ะ เขาขอไว้เร่าๆ อยากให้พวกเรามีลูกเยอะๆ เขาจึงขยันทำการบ้านแทบทุกคืนจนเธอท้องแล้วท้องอีก“เลี้ยงไหวแน่นะพี่วิน”ริตาถามอย่างห่วงใย เธอมีหน้าที่แค่ท้องให้เขาไงก้องกวินไม่ตอบ เพียงยกยิ้มบางตรงมุมปาก อันเป็นสัญญาณว่า จัดไป...ทุกวัน ตอนริตากำลังทำงานที่บริษัทจึงมักจะเห็นผู้ชายตัวโตอุ้มเด็กอ่อนไว้ที่กล้ามแขนแน่นๆ ทั้งสองข้าง ข้างละคน ยังมีเด็กวัยน่ารักเดินดุกดิกติดตามอีกสองคน พวกเขาเดินทางมาหาเธอ มาถามว่าเมื่อไหร่จะกลับบ้านเป็นภาพพ่อบ้านใจกล้าที่เท่ห์สุดๆทั้งยังมีบอดี้การ์ดรูปร่างน่ากลัวคอยตามเป็นพรวน ช่วยถือถุงนมถุงผ้าอ้อมและตะกร้าขนมอีกด้วยนะน่าแปลกที่ยังคงมีความน่าเกรงขามอยู่มากลูกๆ ของเธอเหมือนเด็กมาเฟียในซีรีย์เลยแหละ น่ารักน่าชังสุดๆยกขบวนมากดดันถึงที่ขนาดนี้ ริตาก็ต้องรีบเคลียร์รีบเลิกงานสิคะจะรออะไรไม่มีใครสำคัญกับเธอเท่าสามีกับลูกๆ หรอกนอกจากเป็นสามีและพ่อที่ดี ทุกเทศกาลพิเศษของปีก้องกวินยังชอบมีเซอร์ไพรให้ริตาด้วยนะทั้งดอกไม้ทั้งดินเนอร์สุดหรู ทำเอาใจฟูไม่หยุด
ระหว่างคบหา ริตาขอบคุณก้องกวินตลอดเวลา ขอบคุณในความอดทนขั้นสุดของเขาเห็นทรงแบดดูโหดห่ามแบบนี้แต่มันก็แค่ภายนอก เพราะเขาเป็นสุภาพบุรุษมาก...มากจริงๆถามว่าทำไมเธอถึงรู้สึกแบบนั้น ก็เพราะว่าหลังแต่ง ริตาเพิ่งรู้ว่าเทพบุตรในร่างจอมมารของเธอที่เพิ่งได้เป็นสามี เนื่องจากหลังแต่งงานกัน ก้องกวินก็แปลงร่างเป็นเสือร้ายหิวกระหายทันทีมีท่าใหม่ทุกคืนด้วยนะ เก็บกดมานานแหละหากถามว่าริตาไหวมั้ย ต้องบอกไหวค่ะ สู้สุดใจ“ถึงต้าจะมุ่งทำงาน แต่ได้ทุกท่านะบอกก่อน” เธอบอกเขาพร้อมรอยยิ้มหวาน ยั่วยวนเต็มขั้น“ชอบล่ะสิ” ก้องกวินถามยิ้มๆ ก้มมองภรรยาใต้ร่างด้วยดวงตาคู่คมที่ร้องแรงยิ่งกว่าเปลวไฟ“ถามได้” ริตาปรือตาฉ่ำน้ำ โน้มหน้าเขาให้ลงมา บดจูบครู่หนึ่ง “ชอบไม่ชอบก็สั่งโซฟาตัวใหม่มาแล้วนะ ตามสโลแกนโฆษณา เพราะความรักดีๆ ไม่ได้อยู่แค่บนเตียง ต้าจะเป็นนางฟ้า พาพี่วินขึ้นสวรรค์ทุกวัน ดีมั้ยล่ะ”ชายหนุ่มจูบหญิงสาวหนักๆ ไปหลายที “ดี...เมียพี่สุดยอดมากครับ”“สุดยอดแล้วรักป่ะ”“รักที่สุด รักคนเดียว...”“อื้อ...”คำพูดผู้ชายใครเชื่อก็โง่แล้วค่ะ เพราะหลังจากนั้นแค่สามปีเศษ สามีที่ชื่อก้องกวินก็เปลี่ยนไ
ริตาไม่แค้นเคืองอะไรแล้ว เธอได้แต่ขอบคุณคนเก่าที่ทำให้เจอคนใหม่ที่ดีมากๆ ให้เกียรติ รักและดูแลเธอสุดๆ ไม่เคยทำให้เสียใจเลยสักครั้งเธอรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่มาเจอคนใหม่ที่ดีกว่าเก่าหลายร้อยพันเท่า ดีเหลือเกินที่ธนากับณิชาทำให้เธอมีวันนี้แต่คนที่ริตาต้องขอบคุณยิ่งกว่าใครก็คือก้องกวิน พ่อเทพบุตรสุดที่รัก ดีเลิศประเสริฐศรีที่สุดในสามโลกธุรกิจของริตาดำเนินไปได้สวย ผลตอบรับนับดีตั้งแต่เปิดตัว เรียกได้ว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งคนที่ปากบอกว่าอยากให้เธอทำงานเก็บเงินไปสู่ขอ ที่แท้ก็เป็นนายทุนใหญ่ให้เธอนั่นเอง แต่เธอก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจบริหารงานจนได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเลยนะ ไม่ยอมขาดทุนแน่นอน เพื่ออะไรน่ะเหรอ ก็เพื่อขอผู้ชายแต่งงานริตาจึงเป็นผู้หญิงที่ต้องหอบเงินไปสู่ขอก้องกวินค่ะ“แมนป่ะล่ะ” เธอยักคิ้วหลิ่วตายิ้มให้ว่าที่เจ้าบ่าว วันนี้เขาพาเธอมาลองชุดเจ้าสาวตั้งแต่เช้าและอยู่โยงทั้งวัน กลัวไม่ได้แต่งว่างั้น“แมนมากครับคุณผู้หญิง” ก้องกวินว่าพลางหันไปสั่งให้คนยกกล่องเครื่องเพชรเข้ามาวางตรงหน้าทั้งหมดเป็นพี่วีนาแอบไปออกแบบให้เมื่อไรก็ไม่รู้ ปลื้มสุดๆ “ขอบคุณค่ะ” ริตายิ้มหวาน มีน้ำตาปริ่มๆ อย่
นอกจากได้ฝึกงานตามสายที่ชอบ ริตายังถูกก้องกวินส่งไปเรียนถึงเมืองนอกด้านการตลาดและการบริหารธุรกิจอุตสาหกรรมแฟชั่นอีกสองปีช่วงนั้นก้องกวินทั้งส่งเสริมสนับสนุนและมอบอิสระให้ริตาเต็มที่ เป็นแดดดี้สายเปย์แบบสุดๆทั้งเรียนทั้งทำงานและบริหารเวลาให้แฟนไปด้วย เรียกว่าเหนื่อยสายตัวแทบขาดแต่ก็คุ้มค่ามากๆ และในที่สุด ริตาก็สามารถเปิดบริษัทกับพี่วีนาได้ซะทีวันที่ริตาตัดริบบิ้นกับพี่วีนามีดารามาร่วมงานเพียบ ทั้งดาราไทยและดาราต่างประเทศเลยด้วยโจวไปคนขนทัพศิลปินมาด้วยตัวเองเชียวล่ะ พวกเขามาเพื่อใส่เสื้อผ้ากับเครื่องประดับที่เธอออกแบบ ทั้งยังเดินแฟชั่นโชว์ให้ตั้งหลายชั่วโมงเรียกได้ว่าบริษัทของเธอมีงานเปิดตัวได้ยิ่งใหญ่อลังการมากเลยนะ น่าปลื้มใจสุดๆพรพรรณกับณิชาย่อมต้องมาร่วมงานด้วยอยู่แล้ว รวมถึงธนาและครอบครัว พวกเขายิ้มไม่หุบจนแก้มแทบปริ เนื่องจากได้มาในฐานะญาติเจ้าของบริษัทนั่นเองจริงแล้วเป็นเพราะริตาเลิกทำตัวร้ายกาจใส่แล้วไง เธออโหสิกรรมให้ทุกคนแล้วนะ ใจบุญมั้ยล่ะ ทุกวันนี้ก็เลยทำตัวได้ปกติมาก ไม่มีผีร้ายเข้าสิงเวลาเจอหน้าพวกเขา ธนาเองก็ทำตัวดีขึ้น ไม่พยายามเข้าหาเพื่อง้อขอคืนดีอะไ
ผิดกับณิชาที่ไม่ค่อยเก็บอาการเท่าไหร่ เธอยินดีเปิดรับทุกคนด้วยรอยยิ้มและคำพูดสื่อนัยที่ชัดเจนว่าโสด กระทั่งตอนนี้มีผู้ชายได้ข้อมูลติดต่อเธอหลายคน“อย่าลืม DM มานะคะ ชาช่าจะรอค่ะ”ณิชาบอกผู้ชายคนหนึ่ง แถมเปลี่ยนชื่อใหม่ซะน่ารักเก๋ไก๋ไปเลย ในขณะที่ริตายังไม่รู้เรื่องของน้องสาว เธอยังคงสนใจแค่การดูงาน พูดคุยแลกเปลี่ยนกับโจวด้วยท่าทีสุภาพแต่จริงจังตามวิสัยครั้นได้พักเบรก และโจวแยกไปคุยกับหัวหน้าแผนก ณิชาก็รีบเข้ามาสะกิดยิกๆ กระซิบใส่หูพี่สาวเสียงเบา “พี่ต้า นิดอยากได้เบอร์พี่โจวอ่ะ ขอให้หน่อยดิ”ริตาค้อนขวับ “แกมีผัวแล้วนะ”ณิชาถอนหายใจเบื่อ “ไม่อยากทำให้ก็บอกมาเหอะ นิดหาโอกาสเข้าไปขอเองก็ได้”“ยัยนิด!” ริตารู้สึกปวดหัว “ทำอะไรคิดให้ดี”“นิดคิดดีแล้ว คิดอยู่ทุกวันด้วย ถ้าหาผัวใหม่ได้ นิดจะหย่ากับพี่ทัน”ริตากระซิบเสียงดุ “แกควรหย่าก่อนค่อยหาผัวใหม่”แต่ณิชาไม่สนใจ “นิดจะหาผัวใหม่แสตนบายไว้ก่อน ทีพี่ทันยังมีเมียน้อยได้เลย ตอนนี้เผลอๆ กำลังคั่วสาวที่ไหนอยู่ก็ไม่รู้ นิดจะทำบ้าง”พูดจบก็แยกตัวออกไปจากพี่สาวทันที เจอของดีแบบนี้จะช้าอยู่ไยณิชามาเที่ยวครั้งนี้ได้เปิดโลกเบิกเนตรจริงๆ
“พวกเราไปดูงานกันแค่สองคนก็พอ ส่วนคนอื่นปล่อยเที่ยวให้หนำใจเถอะ”ก้องกวินบอกริตาแบบนั้นแล้วโอบไหล่เธอแยกตัวออกมาจากณิชาที่ยืนยิ้มหน้าระรื่นอยู่กลางกลุ่มคนของแจ็คตอนแรกริตาก็ยังงุนงงกับเขา ทว่าสุดท้ายก็เข้าใจ เพราะณิชาก็โทรมาหาเธอพร้อมเสียงร้องห่มร้องไห้‘พี่ต้า นิดอยากกลับบ้านแล้ว ไหนว่ากลุ่มบอดี้การ์ดคอยดูแลความปลอดภัยไง มาควบคุมความประพฤติชัดๆ แต่ละคนน่ากลัวอ่ะ ไม่เอาแล้วนะ ส่งนิดกลับบ้านเหอะ’ไม่รู้ไอ้แจ็คไปทำอีท่าไหน ไอ้นี่ร้ายที่สุดในกลุ่มด้วย คงได้ไฟเขียวจากก้องกวินแหละ ทั้งเจ้านายลูกน้องพอกัน!ริตากลอกเสียงใส่โทรศัพท์มือถือ “กลับไม่ได้หรอก ไม่อยากเที่ยวก็ให้แจ็คพามาส่งที่บริษัทXXX พี่ดูงานอยู่ที่นี่ น่าจะใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงอยู่ ทนเอาล่ะกัน”พูดจบก็ตัดสายไปเลย ไม่จำเป็นต้องต่อความยาวสาวความยืดหรือตามใจอะไร ร้องตามมาเองต้องทำใจค่ะก่อนไปดูงานตามตั้งใจ ริตาต้องถูกก้องกวินจองตัว พาไปทักทายแนะนำตัวกับกลุ่มเพื่อนๆ ของเขาก่อนหลายที่ที่นี่เพื่อนของก้องกวินเยอะมาก หลากหลายเชื้อชาติ ยังดีที่ริตาพูดภาษาอังกฤษคล่องมากจึงไม่ลำบากเท่าไรทุกคนดูตื่นเต้นที่ก้องกวินพาเธอมาแนะนำเหมือนเคย
เรื่องไปดูงาน ซึ่งอาจใช้เวลานาน ไม่เหมือนการเดินทางไปทำงานต่างประเทศแบบเร่งรีบให้เสร็จตามกำหนดภายในเวลาไม่กี่วันพอถึงหูของณิชาผ่านคำบอกเล่าของพรพรรณเท่านั้นแหละ ริตาก็ต้องรับโทรศัพท์วันละไม่รู้กี่รอบ“รู้งี้ ต้าไม่บอกแม่ก่อนไปก็ดีหรอก” เธอบ่นทันทีที่รับสายจากมารดา‘เอาน่าต้า พาน้องไปด้วย’“ทำไมต้าต้องพายัยนิดไปด้วยล่ะ”‘น้องจะได้เปิดหูเปิดตาแล้วก็ฝึกภาษาไง’“ไม่มีเรียนเหรอถึงจะไปเที่ยวเมืองนอกน่ะ”‘น้องบอกไปได้ ปิดเทอมพอดี เดี๋ยวกลับมาตามเก็บหน่วยกิตที่ขาดให้ครบอีกที’ “ปิดเทอมก็ควรหางานพิเศษทำสิ”‘น้องบอกอยากไปหาประสบการณ์เมืองนอก กลับมาจะได้หางานพิเศษทำง่ายๆ ยังจะต่อยอดในอนาคตหลังเรียนจบไงลูก นะต้า พาน้องไปด้วยเถอะ ทุกวันนี้ นิดทะเลาะกับตาทันทุกวัน แม่คิดว่าสองคนนี้ควรห่างกัน ต่างคนต่างอยู่บ้างสักพัก เผื่อกลับมาเจอกัน อะไรๆ อาจจะดีขึ้น นะลูก ทำเพื่อน้องอีกสักครั้งเถอะนะ แม่ขอร้อง เห็นแก่แม่นะต้า’“แม่ ถ้านิดมันอยู่กับผัวไม่ไหวก็หย่าไปซะก็สิ้นเรื่อง จะทนทำไม ลูกก็ไม่ได้มีด้วยกันแล้ว”‘ต้าพูดแบบนี้อีกแล้วนะลูก จะหย่าได้ไง คนสองคนเขารักกัน ไม่งั้นก่อนนี้ตาทันจะ
ก้องกวินยกมือขึ้นสองข้างเป็นสัญลักษณ์ว่ายอมแพ้ เขาสู้ผู้หญิงสองคนนี้ไม่ไหวแน่ แม่อีกคน รายนั้นเข้มงวดสุด แต่ไม่ใช่เพื่อเขา นางทำเพื่อริตา ว่าที่ลูกสะใภ้คนเล็กของฉันจะอับอายเสื่อมเสียไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้สำคัญต่อผู้หญิงมาก นางกรอกหูเขาว่างั้นตอนที่ริตาเกิด พรพรรณยังไม่พร้อมมีลูกจริงๆหญิงสาวนึกย้อนไปตอนนั้น พ่อกับแม่แค่คบหากันยังไม่ได้แต่งงานแต่ดันท้องแล้วมีเธอออกมาซะก่อนริตาจึงถูกทิ้งให้อยู่กับยายที่ต่างจังหวัด พอยายตาย เธอก็ถูกฝากเลี้ยงไว้กับบ้านนั้นทีบ้านนี้ทีในหมู่บ้านนั่นแหละ ส่วนพ่อกับแม่ก็มาอยู่กรุงเทพฯ พวกเขาทำงานจนมีบ้าน แต่ก็ไม่กลับมารับเธอไปอยู่ด้วยเสียทีโชคดีที่แม่ท้องณิชาแล้วคลอดออกมาอีกคน ริตาจึงถูกดึงตัวให้มาอยู่ด้วยเพื่อช่วยเลี้ยงน้องพอโตขึ้นหน่อยริตาก็ต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ซักผ้า ปัดกวาดเช็ดถู และคอยหุงหาอาหารให้ทุกคนนั่นแหละประโยชน์ของเธอที่ทำให้ได้มาอยู่ด้วยกัน ครอบครัวไม่เคยพร้อม แต่พ่อกับแม่ยังอุตส่าห์มีลูกถึงสองคน สิ่งที่ริตาเห็นจนชินตาคือพ่อกับแม่ทะเลาะกันและพ่อก็กินเหล้าเมาเนื่องจากเครียดทุกวันทั้งปัญหาการเงิน ปัญหาเรื่องงาน ปัญหาที่บ้าน ล้วนสะสมเป็น
ริตาจ้องหน้าวีนาจนสองตาเบิกโต“อะไรนะ พี่วินคือผู้ชายแว่นดำที่ตกท่อวันนั้นเหรอ”วีนาบีบแก้มริตาเบาๆ อย่างมันเขี้ยว “อย่าบอกนะว่าจำกันไม่ได้น่ะ”ริตาส่ายหน้า “หลายปีแล้วมั้ง วันนั้นพี่วินสกปรกมอมแมมหนวดเครารุงรัง ต้าจำไม่ได้หรอก”วีนามุ่นคิ้วคิดคำนวณเรื่องราวของน้องชาย “ตั้งแต่วันนั้นจนเจอกันอีกครั้งก็ห้าปี กระทั่งวันนี้ได้เป็นแฟนกัน นับรวมก็ราวเจ็ดปี มันก็นานจริงๆนั่นแหละ”“อือ...ตอนนั้นต้าอยู่มอปลายอายุสิบเจ็ดย่างสิบแปด ยังบ้าๆ บอๆ อยู่เลย อีกอย่างนะ ท่อนั้นอ่ะคนตกบ๊อยบ่อย ฝาหายตลอด ต้าเคยช่วยไว้หลายคนไง ไม่ใช่พี่วินคนเดียว”“อ้อ...”ริตาจ้องหน้าวีนาเขม็ง “อย่าบอกนะว่าพี่วินชอบต้าตั้งแต่วันนั้นแล้ว แหม่ นิยายมากค่ะ ต้าไม่เชื่อหรอก”วีนาหัวเราะ “เปล่า ยังไม่ได้ชอบ แค่คิดอะไรได้เพราะต้าเฉยๆ”“อ้าว?”เห็นว่าที่น้องสะใภ้ทำหน้าเหวอ วีนาจึงยิ่งหัวเราะชอบใจ จังหวะนั้นคนถูกพูดถึงก็เดินเข้ามา เขาก้มหน้าลงหอมแก้มริตาโดยไม่เกรงใจพี่สาวที่หัวเราะร่วนอยู่ข้างๆ“อื้อ...แก้มช้ำหมดแล้วค่ะ เวลางานด้วยนะคะบอส”“ไม่มีใครเข้าห้องทำงานพี่โดยพละการหรอกน่า”“นั่นแหละ ไม่เอา พอแล้ว รอกลับคอนโดก่อน”“ก็ได้”