ยิ่งดึกร้านเหล้ายิ่งคึกคัก
นักท่องราตรีแต่ละโต๊ะต่างพูดคุยใส่หน้ากันเสียงดัง แต่กลับไม่ใส่ใจการรบกวนแบบนั้นเท่าไร ต่างคนต่างดื่ม ต่างคนต่างมีเรื่องให้จ้ออย่างออกรสออกชาติ
ทว่าริตากลับตกอยู่ในภวังค์ความคิดแห่งตนคล้ายคนจมดิ่งในอดีตอันมืดมนไร้หนทางออก
“พี่ทัน ขอโทษนะที่มาช้า พอดีต้าต้องเคลียร์งาน พอเสร็จก็รีบมาเลย อย่าโกรธน๊า สั่งอาหารหรือยัง? กินเสร็จจะได้ไปดูหนังกันต่อ โต๊ะที่จองไว้อยู่ไหนนะ”
ว่าพลางจับมือแฟนเดินเข้าร้านอาหารที่โทรจองไว้ ซึ่งแน่นอนว่าอยู่ใกล้โรงหนังในห้างหรูตามตารางดินเนอร์ของเธอกับแฟน
ธนาพูดอย่างหงุดหงิด “พี่กินแล้ว รอไม่ไหว วันนี้เป็นวันครบรอบนะต้า ยังห่วงแต่งาน แค่ตำแหน่งผู้ช่วยเลขา ทำยังกับเป็นผู้ช่วยฝ่ายบริหาร แล้วดู แต่งตัว”
ริตาก้มดูชุดสูทกางเกงที่ทะมัดทะแมงของตัวเองก่อนเงยหน้ายิ้มประจบ
“ตำแหน่งอะไรก็ต้องทำงานเต็มที่ทั้งนั้นแหละน่า ต้ารีบมาไง ถ้ามัวเปลี่ยนชุดก็ช้าอีก กลัวพี่ทันรอนาน”
“มาแล้วๆ น้ำอัดลมซ่าๆ กับป๊อปคอร์นร้อนๆ หลังมื้ออาหารจ้า”
ริตาหันมองเจ้าของเสียง เห็นเป็นน้องสาวตัวเองที่แต่งตัวน่ารักปนเซ็กซี่เล็กๆ เผยเอวคอดน่าจับ โชว์ไหล่นิด เห็นเนินอกหน่อยให้พอลุ้น ตามสไตล์แฟชั่นนิยมวัยรุ่นวัยใสสำหรับออกเดททั่วไป
“อ้าว นิด มาด้วยเหรอ?” ริตาหันมาถามน้องสาว
ณิชานิ่วหน้า “จะปล่อยให้นิดอยู่ห้องพี่คนเดียวได้ไง เหงาจะตาย” ยิ่งพูดยิ่งทำหน้าเศร้า “ตอนนี้นิดไม่มีคู่ดูหนังเหมือนคนอื่นเขานี่ นิดเลิกกับแชมป์เกือบสามเดือนแล้วนะ พี่ลืมรึไง”
ริตาไม่ลืมหรอก เพียงแต่...
เธอมองน้องสาวอย่างไม่ชอบใจเท่าไร เพราะวันนี้ไม่ใช่นัดกินข้าวดูหนังธรรมดา
แต่เป็นนัดพิเศษเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบสองปีที่คบหากันเป็นแฟนกับธนา
และเหมือนธนาจะมองแววตาหล่อนออก เขาว่า “ให้นิดมาด้วยจะเป็นไร นี่น้องสาวเธอนะต้า ใจแคบไปล่ะ มาเถอะ ตามมา หนังจะฉายแล้วมั้ง”
ริตาจึงรีบเดินตามแฟนตัวเองกับน้องสาวที่พากันเดินนำหน้าเข้าโรงหนังไปก่อน
ตอนนั่งดูหนังที่โรแมนติกสุดๆ เขายังนั่งตรงกลางระหว่างเธอกับน้อง โรงหนังก็มืดขนาดนั้น โมเมนต์หวานๆ ฉบับคู่รักแบบจับมือกันระหว่างเธอกับแฟนก็ไม่มี
ที่สำคัญ แฟนเธอกับน้องสาวแลดูเข้ากันได้ดีมาก พูดคุยกันระหว่างดูหนังตลอด ขนาดป๊อบคอร์นยังไม่แบ่ง กินกันแค่สองคน เห็นมือล้วงลงในถังแย่งกันกินแค่สองคนโดยไม่ส่งมาให้เธอกินเลย
ตอนดูหนังจบออกจากโรงหนังก็ยังคุยกันไม่หยุด คุยเรื่องหนังกับเรื่องอะไรไม่รู้ที่เธอฟังไม่เข้าใจอยู่คนเดียว แถมดูสนิทสนมกันมากกว่าเมื่อก่อน
ระหว่างทางเดินในห้างสรรพสินค้า ณิชายังแวะซื้อของกินเล่นตลอดทาง ขนมหวานเอย ผลไม้รสเปรี้ยวเอย ปกติไม่เห็นน้องชอบกินแต่วันนี้กินเหมือนชอบมานาน ส่วนคนที่ซื้อให้ ยังเป็นธนา แลดูรู้ใจไปหมดว่าอยากกินอะไร
ริตาเดินตามหลังแฟนกับน้องสาว เธอมองเห็นธนาเอามือยีหัวณิชาพลางหัวเราะ จึงโพล่งถาม “พี่ทันกับนิดทำไมดูสนิทกันจังเลยล่ะ เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้นะ”
ณิชาหันมา “ไม่ให้สนิทกันได้ไง ตอนนิดอยู่ห้องพี่ต้าคนเดียว พี่ต้าไม่เคยอยู่คุยด้วยก็มีแต่พี่ทันที่มีเวลาคุยกับนิด แถมตอนเช้าไปเรียนที่มหาลัย พี่ต้าเคยสนใจนิดที่ไหน มีแต่พี่ทันแหละที่มีน้ำใจขับรถไปส่งนิดแทบทุกวันเลย”ธนาพูดเสริม “ต้าแทบไม่อยู่ห้องเลยนะยังไม่รู้ตัว”ริตาให้รู้สึกผิดทันทีกับคำพูดแฟน เธอทำงานทุกวันจนเขาน้อยใจเสียแล้ว ต่อไปต้องหาเวลาว่างให้แฟนซะแล้วนั่นคือความคิดอันใสซื่อของเธอในวันนั้นต้องโง่ขนาดไหนถึงดูไม่ออก!**********“พี่ต้า พี่ต้า เฮ้!”“หือ?” ริตาหลุดจากภวังค์ทันที เธอมองมือเมฆาที่โบกไปมาระยะสายตา “ว่า?”“ดื่มเหล้าหน่อยไหมพี่ เดี๋ยวผมไปเอามาให้”“ไม่ล่ะ”ไม่ใช่ว่าริตาดื่มเหล้าไม่เป็นเพียงแต่ตอนนี้อยู่คนเดียว เสียใจยังไงเธอก็ต้องมีสติ จะกินเหล้าในที่สาธารณะไม่ได้ ถ้าเมามากจนไม่ไหวทำไงพรุ่งนี้ยังต้องทำงาน แฮงค์ไม่ได้ เจ้านายของเธอยิ่งเขี้ยวลากดินอยู่“ทำไมแกถึงคิดอยากได้นิดคืนล่ะ นิดดีมากเลยเหรอ ดีกว่าพี่จริงๆ ใช่ไหม?”ริตาถามอย่างคนแพ้ เรื่องที่เกิดขึ้นมันยากยอมรับ เกินทำความเข้าใจได้ไหว ทำไมธนาที่เคยบอกว่าเธอดีที่สุด เหมาะที่จะเป็นแม่ของลูกที่สุดสำ
เห็นริตาอ้ำอึ้ง เมฆาจึงถามแบบขยายความ “คืองี้นะ บางทีเรื่องบนเตียงก็มีผลทำให้ผู้หญิงสองคนถูกเปรียบเทียบได้ชัดเจนไง ถ้าให้เดา นิดต้องเด็ดกว่าพี่ต้าแน่นอน ฮ่าๆ”ที่พูดได้ขนาดนี้เพราะเหล้าเข้าปากล้วนๆ เมาได้ที่ไงริตาสูดลมหายใจเข้าอกลึกยาว เริ่มเห็นลางๆ ล่ะว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน เธอค่อยๆ พูดทีละคำ เสียงเบาหวิว “คือว่า ...พี่ไม่เคยมีไรกับพี่ทันเลย”“ห๊ะ!” เมฆาแทบตกเก้าอี้หัวคะมำ “พี่ต้าว่าไงน๊ะ?” เสียงสูงไปอีก ตกใจเว่อร์วัง “คบกันมานานแค่ไหนเนี่ย?”ริตาขมวดคิ้วมองคนเริ่มเมาแล้วแอคติ้งทะลุจอ เธอตอบเสียงหนึ่ง “สองปี”เมฆาเบิกตากว้างทำท่าอ้าปากค้าง “โอ้! พระเจ้าช่วยจอช์จด้วย มันแย่มาก ส่ะ สองปี ไม่มีไรกันสองปีอ่ะน๊ะ”ริตาดึงเมฆามาปิดปากแถมด้วยเขกกะโหลกไปทีนึง“เบาหน่อยสิเว้ยไอ้แชมป์”“อู้ๆ ยู้แย้ว”พอปากได้อิสระ เมฆาก็ถามต่อเนื่องแต่เสียงเบากว่าเดิมว่า “พี่ทันเขาสุภาพบุรุษขนาดนั้นหรือว่าพี่เล่นตัวหวงตัวขนาดไหนกันเนี่ย?”ริต้าอ้ำอึ้ง ท่าทางเขินๆ ไม่มั่นใจ “ก็มีนิดๆ หน่อยๆ แค่ภายนอก แต่ยังไม่เคย เอ่อ...ถึงขั้นนั้น”“โห่! ผมนะ คบกับนิดไม่ถึงเดือนครับ พอได้กัน จากนั้นเดือนหนึ่งเ
เมฆาถอนหายใจเหนื่อย “ฟังนะพี่สาว ผู้ชายน่ะ ถ้ามีแฟนจริงๆอ่ะ เขาอยากมีอะไรกับแฟนมากกว่าไปเอากับคนอื่นข้างนอก แถมพี่เล่นปล่อยเขาไปซื้อกินง่ายๆยังงั้น ผู้ชายเขาก็ไม่อยากไปครับ มันเหมือนถูกเมิน เหมือนไม่รัก ไม่แคร์กันเลย พี่เข้าใจป่ะ”“เพราะรักไงถึงยอมทุกอย่าง กระทั่งทำใจให้ไปอ่ะ มันไม่ใช่ทำใจได้ง่ายๆ น่ะเว้ย ต้องเสียสละเบอร์ไหนก่อน ตอนที่คิดว่าเขากำลังมีอะไรกับคนอื่นแม้จะซื้อกินก็ตาม มันนอนไม่หลับหรอกนะ ทรมานแทบตาย”“โห่!” เมฆาเริ่มพูดไม่ถูกล่ะ “เฮ้อ! ช่างมันเหอะพี่ ตอนนี้ดื่มเหล้าดีกว่า” พูดพลางทำท่าแบบอ้อนๆ “พี่สาวเลี้ยงเหล้าหน่อยครับ ผมอกหักหนักมาก”“เออ กินเงียบๆ ไปเลย”ระหว่างดื่มน้ำเปล่าปรับทุกข์กับเมฆาที่เลิกงานแล้วกระทั่งนั่งดื่มเหล้าเม้าท์มอย เสียงเรียกเข้าก็ดังจากโทรศัพท์ในกระเป๋าถือ ริตาล้วงออกมาดูเบอร์ และกดรับทันที“ฮัลโหล”‘ต้า แกอยู่ไหน?’“อยู่ร้านเหล้า”‘เออ เดี๋ยวฉันไปหา ร้านอะไร”ริตาบอกชื่อร้านเหล้าออกไปตามตรง ไม่นาน เจ้าของปลายสายก็โผล่หน้ามาพอมาถึงก็รีบทักทายหนุ่มน้อยหน้าเข้มที่นั่งข้างริตา “หวัดดีค่ะ ขอบคุณที่นั่งเฝ้าเพื่อนพี่นะคะ เดี๋ยว
เพราะทำงานคนละที่ คอนโดของเขมิกาจึงอยู่ห่างจากคอนโดเก่ากับห้องเช่าของริตาแต่นั่นไม่ใช่ปัญหา “พรุ่งนี้แกใส่ชุดฉันไปทำงานได้ พวกเราหุ่นดีเหมือนกัน สวยเหมือนกัน” เขมิกาว่าอย่างนั้นขณะดุนหลังเพื่อนให้เข้าห้อง ก่อนหันมาปิดประตูเหมือนกลัวเพื่อนหนีไปฆ่าตัวตายจริงๆ“แล้วแฟนแกไม่อยู่เหรอ?”ริตาถามอย่างไม่ค่อยสบายใจเท่าไร ออฟฟิศของบริษัทที่เธอทำงานไม่ได้ใส่ยูนิฟอร์ม เรื่องเสื้อผ้าหน้าผมจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่เป็นการมานอนค้างห้องเพื่อนต่างหาก พวกเธอสนิทกันมากอยู่หอพักเดียวกันตั้งแต่สมัยเรียน ทว่าพอเรียนจบก็แยกย้าย มีแฟนก็เว้นพื้นที่ส่วนตัวให้แฟน นั่นจึงทำให้ริตาไม่เคยมานอนค้างห้องเขมิกาเลยสักครั้ง วันนี้คือครั้งแรก ก็เลยเกรงใจอยู่มาก“แฟนฉันจะไปไหนได้ แกไม่ต้องเกรงใจ มานี่มา”แฟนของเขมิกาจบเภสัชฯ ตอนกลางวันเปิดร้านยาใกล้คอนโด ตอนกลางคืนกลับห้องนั่งเล่นหุ้นลุ้นคริปโต ดังนั้นเขาอยู่ที่ห้องไม่ได้ไปไหนแน่นอนริตาเดินมานั่งที่โซฟาตามการจับมือของเพื่อน เขมิกาทำเหมือนตอนนี้เธอเป็นเด็กน้อยเลย ดูแลดีมาก “ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ เกรงใจว่ะแก” แต่ก็ไม่อยากอยู่คนเดียวในคืนที่สองคนนั้นแต่ง
ริตาเพิ่งรู้วันนี้ว่าเจ้านายเธอเป็นเพื่อนกับพี่กร แฟนของเขมิกาโลกกลมชะมัด!เมื่อเจ้าของห้องพากันเดินออกไปแล้ว เธอจึงได้แต่นั่งตัวเกร็งตรงหน้าบอสหนุ่มของตัวเองเขาเรียกให้เธอมานั่งในห้องนี้ด้วยท่าทีคล้ายเรียกเข้ามาคุยงานสำคัญตอนอยู่ที่บริษัท แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่พูดอะไรเสียทีริตากลั้นหายใจแอบมองวันนี้เจ้านายผู้ดุดันของเธออยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน ปลดกระดุมจนเห็นแผงอกรำไร พับแขนเสื้อทั้งสองข้าง เผยให้เห็นข้อมือระเรื่อยไปถึงข้อศอกที่มีเส้นเลือดมหาเสน่ห์บนผิวสีน้ำผึ้งคร้ามแดดชัดเจนแม้เสื้อผ้าแลดูเบาสบาย แต่ใบหน้าหล่อคมยังคงเคร่งขรึมเย็นชาดุจเดิมดูดวงตาดำจัดใต้คิ้วเข้มที่รับกับจมูกโด่งสันนั่นสิ ยังมีไรหนวดสีเขียวอ่อนทรงโจรและเส้นขนตรงแผงอกที่เซ็กซี่อีก เหมือนตัวร้ายในซีรีย์พิมพ์นิยมแนวมาเฟียอย่างไรอย่างนั้นด้านหลังของผู้ชายตัวสูงราวร้อยแปดสิบคนนี้คือคอมพิวเตอร์พีซีขนาดใหญ่ ภาพบนจอคือเส้นกราฟที่เป็นแท่งสีแดงสีเขียวขึ้นลงกับตัวเลขวิ่งสลับเต็มจอเจ้านายของเธอหันไปพิมพ์อะไรบางอย่างที่แป้นพิมพ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหน้าจอของเครื่องนั้นเป็นสีดำซึ่งเต็มไปด้วยภาษา
เจ้านายหนุ่มหรี่ตา “ก่อนนี้คุณขยันมากไม่เคยลา จู่ๆ ลาสี่วันภายในระยะเวลาแค่หนึ่งเดือน ลาทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละวัน วันที่ลาจะต้องไปก่อกวนสองคนนั้นทุกครั้ง”ริตากลอกตา รู้สึกงงเล็กน้อย พนักงานมีเป็นร้อย คุณเจ้านายจะรู้เรื่องเธอละเอียดแบบนี้ไม่ได้นะคะเหมือนฟ้าเมตตาเทวดาช่วยชีวิตเมื่อเขมิกากลับมาริตารีบขอตัว ลุกขึ้นไปช่วยเพื่อนเทอาหารใส่จาน ไม่นาน บนโต๊ะริมโซฟาหน้าทีวีก็มีของกินวางจนเต็ม มีเหล้าและกับแกล้มหลายอย่าง“จะได้หลับสบาย” เขมิกาบอกริตา“ขอบใจแก” อยู่กับเพื่อนกินเหล้าได้“มาค่ะ กินๆ” เขมิกาบอกตอนทุกคนนั่งล้อมวงพร้อมดื่มกิน “ไม่เมาไม่เลิกรา” หล่อนชอบดูซีรีย์จีนเพราะเป็นโต๊ะเตี้ยกลมทรงตัวเล็กกะทัดรัด ทุกคนจึงนั่งล้อมวงบนพื้นห้อง รวมถึงก้องกวิน เจ้านายของริตา เขาเลือกนั่งข้างเธอคอยแผ่ซ่านกลิ่นอายจอมมารตลอดเวลาแรงกดดันอันเข้มข้นมหาศาลจากดวงตาคู่คมที่ดำจัดจนดูลึกลับซึ่งมองมาอย่างเย็นชาตลอดเวลาของบอสหนุ่ม ทำริตาดื่มเหล้าย้อมใจอย่างสงบเสงี่ยมมาก อยากร้องไห้โวยวายเหมือนเคยกลับไม่กล้าฝ่ายเขมิกากับภากรนั่งฝั่งตรงข้าม กินไปจู๋จี๋กันไป น่าอิจฉามากริตาถอนหายใจ ยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปาก
ไม่พูดถึงชายโฉดหญิงชั่วที่คิดไม่ได้และเห็นแก่ตัว แต่แค่เห็นแม่แท้ๆ ที่ลำเอียงอย่างไม่ลืมหูลืมตา เห็นน้องสาวของแฟนเก่าที่เคยสนิทกันขนาดนั้นแต่ตอนนี้กลับเพิกเฉยเธอ เห็นพ่อแม่ของแฟนเก่ามาร่วมงานแต่งด้วยรอยยิ้มแช่มชื่นอันบ่งบอกว่าลูกชายรักใครก็รักด้วยแบบนั้น แผลจึงใหญ่ และสดใหม่ค่อนข้างนาน ทรมานไม่หายง่าย มันทั้งจุกและเจ็บใจอย่างหนัก คิดไม่ตกเกือบทุกวันการถูกทรยศในเรื่องความรัก ถูกคนที่รักและไว้ใจร่วมกันหักหลัง มันทำให้อารมณ์พลุ่งพล่านตลอดเวลา ริตาก็เลยนอนน้อยและวันนี้ยังดื่มเหล้าแบบอัดอั้น จนหลุดร้องไห้เหมือนก๊อกแตก เธอจึงล้มฟุบหลับคาโต๊ะไปแล้วฮือ...ทำไมบอสไม่เข้าใจลูกน้องเลย!สภาพริตาย่ำแย่ดูไม่จืด หน้าแดงก่ำ ตาบวมเป่ง ละเมอร้องไห้ต่อเนื่องไปอีกเขมิกาก้มมองเพื่อนอย่างเวทนา “สบายใจยังแก เก็บกดมากระวังเป็นบ้า ระบายออกมาเพื่อน”ภากรสะกิดแฟน “ระบายจนสลบเหมือดไปล่ะครับ”“อ้อ...” เขมิกาจึงพยายามพยุงเพื่อนเข้าห้องนอน แต่กลับถูกมือของใครบางคนห้ามไว้“เดี๋ยวพี่พาต้าไปเอง เขมแค่บอกมาว่านอนไหน”ก้องกวินบอกแค่นั้นโดยไม่รอให้เขมิกาได้พูดอะไร เขาโน้มตัวลงแล้วอุ้มริต
ภาภรพยักหน้าเข้าใจ ฟังพลางรินเหล้าให้แฟน เขมิกาว่าอีก “แต่ที่เจ็บกว่าก็คือสิ่งที่แม่มันทำ คิดดู แฟนทิ้งมันมาแต่งกับน้อง ส่วนแม่ยังเห็นพ้อง ขอร้องมันแทนน้องทุกอย่าง ตอนไอ้ต้าโวยวายไม่ยินยอม แม่ก็เข้าข้างแต่น้อง บังคับให้มันอภัย ย้ำว่าเป็นพี่ต้องรักน้อง งานแต่ง แม่ก็ช่วยจัดแจงอย่างเร็ว กลัวหลานไม่มีพ่อ โอ๋ว่าที่ลูกเขยอย่างกับเป็นเทวดา”ภากรพยักหน้าเป็นผู้ฟังที่ดี เขายกเหล้าให้แฟนดื่ม เขมิกาดื่มแก้คอแห้งรวดเดียวหมดแก้วว่าอีก “เขมปล่อยมันอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก เห็นร้ายแบบนี้แต่มันอ่อนไหวสุดๆ” พูดไปพูดมาก็ยิ่งเครียด ยิ่งเครียดแทนเพื่อนเท่าไรก็ยิ่งพูด เขมิกาลืมไปแล้วว่านอกจากภากรยังมีก้องกวินอีกคนที่ขมวดคิ้วนิ่วหน้าตั้งใจฟังเธอจับไหล่กว้างของแฟนเข้ามาใกล้ จ้องหน้าเขา “เขมว่าเราสองคนเลิกกันก่อนนะพี่กร เขมต้องดูแลเพื่อน ไอ้ต้าดีขึ้นเมื่อไร เดี๋ยวเราค่อยกลับมาคบกันใหม่ โอเคป่ะ”ภากรดึงแฟนมาปิดปากแน่น “ไม่ต้องพูดดดดด”จากนั้นก็อุ้มแฟนเข้าห้องที่หล่อนเพิ่งออกมา จัดการจับตัวหล่อนยัดใต้ผ้าห่มบังคับให้นอนกับเพื่อนไปซะเมาแล้วเพ้อเจ้อเกินไปล่ะ!ไม่ว่าจะเหนื่อยจากอะไรหรือจะแฮ้งค์จะเฮ
เธอไม่เคยปล่อยให้สามีจอมหื่นขาดแคลนเลยกระทั่งพ่อบ้านใจกล้าของเธอต้องเลี้ยงลูกถึงสี่คนชายสองหญิงสองไปเลยแน่ล่ะ เขาขอไว้เร่าๆ อยากให้พวกเรามีลูกเยอะๆ เขาจึงขยันทำการบ้านแทบทุกคืนจนเธอท้องแล้วท้องอีก“เลี้ยงไหวแน่นะพี่วิน”ริตาถามอย่างห่วงใย เธอมีหน้าที่แค่ท้องให้เขาไงก้องกวินไม่ตอบ เพียงยกยิ้มบางตรงมุมปาก อันเป็นสัญญาณว่า จัดไป...ทุกวัน ตอนริตากำลังทำงานที่บริษัทจึงมักจะเห็นผู้ชายตัวโตอุ้มเด็กอ่อนไว้ที่กล้ามแขนแน่นๆ ทั้งสองข้าง ข้างละคน ยังมีเด็กวัยน่ารักเดินดุกดิกติดตามอีกสองคน พวกเขาเดินทางมาหาเธอ มาถามว่าเมื่อไหร่จะกลับบ้านเป็นภาพพ่อบ้านใจกล้าที่เท่ห์สุดๆทั้งยังมีบอดี้การ์ดรูปร่างน่ากลัวคอยตามเป็นพรวน ช่วยถือถุงนมถุงผ้าอ้อมและตะกร้าขนมอีกด้วยนะน่าแปลกที่ยังคงมีความน่าเกรงขามอยู่มากลูกๆ ของเธอเหมือนเด็กมาเฟียในซีรีย์เลยแหละ น่ารักน่าชังสุดๆยกขบวนมากดดันถึงที่ขนาดนี้ ริตาก็ต้องรีบเคลียร์รีบเลิกงานสิคะจะรออะไรไม่มีใครสำคัญกับเธอเท่าสามีกับลูกๆ หรอกนอกจากเป็นสามีและพ่อที่ดี ทุกเทศกาลพิเศษของปีก้องกวินยังชอบมีเซอร์ไพรให้ริตาด้วยนะทั้งดอกไม้ทั้งดินเนอร์สุดหรู ทำเอาใจฟูไม่หยุด
ระหว่างคบหา ริตาขอบคุณก้องกวินตลอดเวลา ขอบคุณในความอดทนขั้นสุดของเขาเห็นทรงแบดดูโหดห่ามแบบนี้แต่มันก็แค่ภายนอก เพราะเขาเป็นสุภาพบุรุษมาก...มากจริงๆถามว่าทำไมเธอถึงรู้สึกแบบนั้น ก็เพราะว่าหลังแต่ง ริตาเพิ่งรู้ว่าเทพบุตรในร่างจอมมารของเธอที่เพิ่งได้เป็นสามี เนื่องจากหลังแต่งงานกัน ก้องกวินก็แปลงร่างเป็นเสือร้ายหิวกระหายทันทีมีท่าใหม่ทุกคืนด้วยนะ เก็บกดมานานแหละหากถามว่าริตาไหวมั้ย ต้องบอกไหวค่ะ สู้สุดใจ“ถึงต้าจะมุ่งทำงาน แต่ได้ทุกท่านะบอกก่อน” เธอบอกเขาพร้อมรอยยิ้มหวาน ยั่วยวนเต็มขั้น“ชอบล่ะสิ” ก้องกวินถามยิ้มๆ ก้มมองภรรยาใต้ร่างด้วยดวงตาคู่คมที่ร้องแรงยิ่งกว่าเปลวไฟ“ถามได้” ริตาปรือตาฉ่ำน้ำ โน้มหน้าเขาให้ลงมา บดจูบครู่หนึ่ง “ชอบไม่ชอบก็สั่งโซฟาตัวใหม่มาแล้วนะ ตามสโลแกนโฆษณา เพราะความรักดีๆ ไม่ได้อยู่แค่บนเตียง ต้าจะเป็นนางฟ้า พาพี่วินขึ้นสวรรค์ทุกวัน ดีมั้ยล่ะ”ชายหนุ่มจูบหญิงสาวหนักๆ ไปหลายที “ดี...เมียพี่สุดยอดมากครับ”“สุดยอดแล้วรักป่ะ”“รักที่สุด รักคนเดียว...”“อื้อ...”คำพูดผู้ชายใครเชื่อก็โง่แล้วค่ะ เพราะหลังจากนั้นแค่สามปีเศษ สามีที่ชื่อก้องกวินก็เปลี่ยนไ
ริตาไม่แค้นเคืองอะไรแล้ว เธอได้แต่ขอบคุณคนเก่าที่ทำให้เจอคนใหม่ที่ดีมากๆ ให้เกียรติ รักและดูแลเธอสุดๆ ไม่เคยทำให้เสียใจเลยสักครั้งเธอรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่มาเจอคนใหม่ที่ดีกว่าเก่าหลายร้อยพันเท่า ดีเหลือเกินที่ธนากับณิชาทำให้เธอมีวันนี้แต่คนที่ริตาต้องขอบคุณยิ่งกว่าใครก็คือก้องกวิน พ่อเทพบุตรสุดที่รัก ดีเลิศประเสริฐศรีที่สุดในสามโลกธุรกิจของริตาดำเนินไปได้สวย ผลตอบรับนับดีตั้งแต่เปิดตัว เรียกได้ว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งคนที่ปากบอกว่าอยากให้เธอทำงานเก็บเงินไปสู่ขอ ที่แท้ก็เป็นนายทุนใหญ่ให้เธอนั่นเอง แต่เธอก็ทุ่มเทแรงกายแรงใจบริหารงานจนได้กำไรเป็นกอบเป็นกำเลยนะ ไม่ยอมขาดทุนแน่นอน เพื่ออะไรน่ะเหรอ ก็เพื่อขอผู้ชายแต่งงานริตาจึงเป็นผู้หญิงที่ต้องหอบเงินไปสู่ขอก้องกวินค่ะ“แมนป่ะล่ะ” เธอยักคิ้วหลิ่วตายิ้มให้ว่าที่เจ้าบ่าว วันนี้เขาพาเธอมาลองชุดเจ้าสาวตั้งแต่เช้าและอยู่โยงทั้งวัน กลัวไม่ได้แต่งว่างั้น“แมนมากครับคุณผู้หญิง” ก้องกวินว่าพลางหันไปสั่งให้คนยกกล่องเครื่องเพชรเข้ามาวางตรงหน้าทั้งหมดเป็นพี่วีนาแอบไปออกแบบให้เมื่อไรก็ไม่รู้ ปลื้มสุดๆ “ขอบคุณค่ะ” ริตายิ้มหวาน มีน้ำตาปริ่มๆ อย่
นอกจากได้ฝึกงานตามสายที่ชอบ ริตายังถูกก้องกวินส่งไปเรียนถึงเมืองนอกด้านการตลาดและการบริหารธุรกิจอุตสาหกรรมแฟชั่นอีกสองปีช่วงนั้นก้องกวินทั้งส่งเสริมสนับสนุนและมอบอิสระให้ริตาเต็มที่ เป็นแดดดี้สายเปย์แบบสุดๆทั้งเรียนทั้งทำงานและบริหารเวลาให้แฟนไปด้วย เรียกว่าเหนื่อยสายตัวแทบขาดแต่ก็คุ้มค่ามากๆ และในที่สุด ริตาก็สามารถเปิดบริษัทกับพี่วีนาได้ซะทีวันที่ริตาตัดริบบิ้นกับพี่วีนามีดารามาร่วมงานเพียบ ทั้งดาราไทยและดาราต่างประเทศเลยด้วยโจวไปคนขนทัพศิลปินมาด้วยตัวเองเชียวล่ะ พวกเขามาเพื่อใส่เสื้อผ้ากับเครื่องประดับที่เธอออกแบบ ทั้งยังเดินแฟชั่นโชว์ให้ตั้งหลายชั่วโมงเรียกได้ว่าบริษัทของเธอมีงานเปิดตัวได้ยิ่งใหญ่อลังการมากเลยนะ น่าปลื้มใจสุดๆพรพรรณกับณิชาย่อมต้องมาร่วมงานด้วยอยู่แล้ว รวมถึงธนาและครอบครัว พวกเขายิ้มไม่หุบจนแก้มแทบปริ เนื่องจากได้มาในฐานะญาติเจ้าของบริษัทนั่นเองจริงแล้วเป็นเพราะริตาเลิกทำตัวร้ายกาจใส่แล้วไง เธออโหสิกรรมให้ทุกคนแล้วนะ ใจบุญมั้ยล่ะ ทุกวันนี้ก็เลยทำตัวได้ปกติมาก ไม่มีผีร้ายเข้าสิงเวลาเจอหน้าพวกเขา ธนาเองก็ทำตัวดีขึ้น ไม่พยายามเข้าหาเพื่อง้อขอคืนดีอะไ
ผิดกับณิชาที่ไม่ค่อยเก็บอาการเท่าไหร่ เธอยินดีเปิดรับทุกคนด้วยรอยยิ้มและคำพูดสื่อนัยที่ชัดเจนว่าโสด กระทั่งตอนนี้มีผู้ชายได้ข้อมูลติดต่อเธอหลายคน“อย่าลืม DM มานะคะ ชาช่าจะรอค่ะ”ณิชาบอกผู้ชายคนหนึ่ง แถมเปลี่ยนชื่อใหม่ซะน่ารักเก๋ไก๋ไปเลย ในขณะที่ริตายังไม่รู้เรื่องของน้องสาว เธอยังคงสนใจแค่การดูงาน พูดคุยแลกเปลี่ยนกับโจวด้วยท่าทีสุภาพแต่จริงจังตามวิสัยครั้นได้พักเบรก และโจวแยกไปคุยกับหัวหน้าแผนก ณิชาก็รีบเข้ามาสะกิดยิกๆ กระซิบใส่หูพี่สาวเสียงเบา “พี่ต้า นิดอยากได้เบอร์พี่โจวอ่ะ ขอให้หน่อยดิ”ริตาค้อนขวับ “แกมีผัวแล้วนะ”ณิชาถอนหายใจเบื่อ “ไม่อยากทำให้ก็บอกมาเหอะ นิดหาโอกาสเข้าไปขอเองก็ได้”“ยัยนิด!” ริตารู้สึกปวดหัว “ทำอะไรคิดให้ดี”“นิดคิดดีแล้ว คิดอยู่ทุกวันด้วย ถ้าหาผัวใหม่ได้ นิดจะหย่ากับพี่ทัน”ริตากระซิบเสียงดุ “แกควรหย่าก่อนค่อยหาผัวใหม่”แต่ณิชาไม่สนใจ “นิดจะหาผัวใหม่แสตนบายไว้ก่อน ทีพี่ทันยังมีเมียน้อยได้เลย ตอนนี้เผลอๆ กำลังคั่วสาวที่ไหนอยู่ก็ไม่รู้ นิดจะทำบ้าง”พูดจบก็แยกตัวออกไปจากพี่สาวทันที เจอของดีแบบนี้จะช้าอยู่ไยณิชามาเที่ยวครั้งนี้ได้เปิดโลกเบิกเนตรจริงๆ
“พวกเราไปดูงานกันแค่สองคนก็พอ ส่วนคนอื่นปล่อยเที่ยวให้หนำใจเถอะ”ก้องกวินบอกริตาแบบนั้นแล้วโอบไหล่เธอแยกตัวออกมาจากณิชาที่ยืนยิ้มหน้าระรื่นอยู่กลางกลุ่มคนของแจ็คตอนแรกริตาก็ยังงุนงงกับเขา ทว่าสุดท้ายก็เข้าใจ เพราะณิชาก็โทรมาหาเธอพร้อมเสียงร้องห่มร้องไห้‘พี่ต้า นิดอยากกลับบ้านแล้ว ไหนว่ากลุ่มบอดี้การ์ดคอยดูแลความปลอดภัยไง มาควบคุมความประพฤติชัดๆ แต่ละคนน่ากลัวอ่ะ ไม่เอาแล้วนะ ส่งนิดกลับบ้านเหอะ’ไม่รู้ไอ้แจ็คไปทำอีท่าไหน ไอ้นี่ร้ายที่สุดในกลุ่มด้วย คงได้ไฟเขียวจากก้องกวินแหละ ทั้งเจ้านายลูกน้องพอกัน!ริตากลอกเสียงใส่โทรศัพท์มือถือ “กลับไม่ได้หรอก ไม่อยากเที่ยวก็ให้แจ็คพามาส่งที่บริษัทXXX พี่ดูงานอยู่ที่นี่ น่าจะใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงอยู่ ทนเอาล่ะกัน”พูดจบก็ตัดสายไปเลย ไม่จำเป็นต้องต่อความยาวสาวความยืดหรือตามใจอะไร ร้องตามมาเองต้องทำใจค่ะก่อนไปดูงานตามตั้งใจ ริตาต้องถูกก้องกวินจองตัว พาไปทักทายแนะนำตัวกับกลุ่มเพื่อนๆ ของเขาก่อนหลายที่ที่นี่เพื่อนของก้องกวินเยอะมาก หลากหลายเชื้อชาติ ยังดีที่ริตาพูดภาษาอังกฤษคล่องมากจึงไม่ลำบากเท่าไรทุกคนดูตื่นเต้นที่ก้องกวินพาเธอมาแนะนำเหมือนเคย
เรื่องไปดูงาน ซึ่งอาจใช้เวลานาน ไม่เหมือนการเดินทางไปทำงานต่างประเทศแบบเร่งรีบให้เสร็จตามกำหนดภายในเวลาไม่กี่วันพอถึงหูของณิชาผ่านคำบอกเล่าของพรพรรณเท่านั้นแหละ ริตาก็ต้องรับโทรศัพท์วันละไม่รู้กี่รอบ“รู้งี้ ต้าไม่บอกแม่ก่อนไปก็ดีหรอก” เธอบ่นทันทีที่รับสายจากมารดา‘เอาน่าต้า พาน้องไปด้วย’“ทำไมต้าต้องพายัยนิดไปด้วยล่ะ”‘น้องจะได้เปิดหูเปิดตาแล้วก็ฝึกภาษาไง’“ไม่มีเรียนเหรอถึงจะไปเที่ยวเมืองนอกน่ะ”‘น้องบอกไปได้ ปิดเทอมพอดี เดี๋ยวกลับมาตามเก็บหน่วยกิตที่ขาดให้ครบอีกที’ “ปิดเทอมก็ควรหางานพิเศษทำสิ”‘น้องบอกอยากไปหาประสบการณ์เมืองนอก กลับมาจะได้หางานพิเศษทำง่ายๆ ยังจะต่อยอดในอนาคตหลังเรียนจบไงลูก นะต้า พาน้องไปด้วยเถอะ ทุกวันนี้ นิดทะเลาะกับตาทันทุกวัน แม่คิดว่าสองคนนี้ควรห่างกัน ต่างคนต่างอยู่บ้างสักพัก เผื่อกลับมาเจอกัน อะไรๆ อาจจะดีขึ้น นะลูก ทำเพื่อน้องอีกสักครั้งเถอะนะ แม่ขอร้อง เห็นแก่แม่นะต้า’“แม่ ถ้านิดมันอยู่กับผัวไม่ไหวก็หย่าไปซะก็สิ้นเรื่อง จะทนทำไม ลูกก็ไม่ได้มีด้วยกันแล้ว”‘ต้าพูดแบบนี้อีกแล้วนะลูก จะหย่าได้ไง คนสองคนเขารักกัน ไม่งั้นก่อนนี้ตาทันจะ
ก้องกวินยกมือขึ้นสองข้างเป็นสัญลักษณ์ว่ายอมแพ้ เขาสู้ผู้หญิงสองคนนี้ไม่ไหวแน่ แม่อีกคน รายนั้นเข้มงวดสุด แต่ไม่ใช่เพื่อเขา นางทำเพื่อริตา ว่าที่ลูกสะใภ้คนเล็กของฉันจะอับอายเสื่อมเสียไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้สำคัญต่อผู้หญิงมาก นางกรอกหูเขาว่างั้นตอนที่ริตาเกิด พรพรรณยังไม่พร้อมมีลูกจริงๆหญิงสาวนึกย้อนไปตอนนั้น พ่อกับแม่แค่คบหากันยังไม่ได้แต่งงานแต่ดันท้องแล้วมีเธอออกมาซะก่อนริตาจึงถูกทิ้งให้อยู่กับยายที่ต่างจังหวัด พอยายตาย เธอก็ถูกฝากเลี้ยงไว้กับบ้านนั้นทีบ้านนี้ทีในหมู่บ้านนั่นแหละ ส่วนพ่อกับแม่ก็มาอยู่กรุงเทพฯ พวกเขาทำงานจนมีบ้าน แต่ก็ไม่กลับมารับเธอไปอยู่ด้วยเสียทีโชคดีที่แม่ท้องณิชาแล้วคลอดออกมาอีกคน ริตาจึงถูกดึงตัวให้มาอยู่ด้วยเพื่อช่วยเลี้ยงน้องพอโตขึ้นหน่อยริตาก็ต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ซักผ้า ปัดกวาดเช็ดถู และคอยหุงหาอาหารให้ทุกคนนั่นแหละประโยชน์ของเธอที่ทำให้ได้มาอยู่ด้วยกัน ครอบครัวไม่เคยพร้อม แต่พ่อกับแม่ยังอุตส่าห์มีลูกถึงสองคน สิ่งที่ริตาเห็นจนชินตาคือพ่อกับแม่ทะเลาะกันและพ่อก็กินเหล้าเมาเนื่องจากเครียดทุกวันทั้งปัญหาการเงิน ปัญหาเรื่องงาน ปัญหาที่บ้าน ล้วนสะสมเป็น
ริตาจ้องหน้าวีนาจนสองตาเบิกโต“อะไรนะ พี่วินคือผู้ชายแว่นดำที่ตกท่อวันนั้นเหรอ”วีนาบีบแก้มริตาเบาๆ อย่างมันเขี้ยว “อย่าบอกนะว่าจำกันไม่ได้น่ะ”ริตาส่ายหน้า “หลายปีแล้วมั้ง วันนั้นพี่วินสกปรกมอมแมมหนวดเครารุงรัง ต้าจำไม่ได้หรอก”วีนามุ่นคิ้วคิดคำนวณเรื่องราวของน้องชาย “ตั้งแต่วันนั้นจนเจอกันอีกครั้งก็ห้าปี กระทั่งวันนี้ได้เป็นแฟนกัน นับรวมก็ราวเจ็ดปี มันก็นานจริงๆนั่นแหละ”“อือ...ตอนนั้นต้าอยู่มอปลายอายุสิบเจ็ดย่างสิบแปด ยังบ้าๆ บอๆ อยู่เลย อีกอย่างนะ ท่อนั้นอ่ะคนตกบ๊อยบ่อย ฝาหายตลอด ต้าเคยช่วยไว้หลายคนไง ไม่ใช่พี่วินคนเดียว”“อ้อ...”ริตาจ้องหน้าวีนาเขม็ง “อย่าบอกนะว่าพี่วินชอบต้าตั้งแต่วันนั้นแล้ว แหม่ นิยายมากค่ะ ต้าไม่เชื่อหรอก”วีนาหัวเราะ “เปล่า ยังไม่ได้ชอบ แค่คิดอะไรได้เพราะต้าเฉยๆ”“อ้าว?”เห็นว่าที่น้องสะใภ้ทำหน้าเหวอ วีนาจึงยิ่งหัวเราะชอบใจ จังหวะนั้นคนถูกพูดถึงก็เดินเข้ามา เขาก้มหน้าลงหอมแก้มริตาโดยไม่เกรงใจพี่สาวที่หัวเราะร่วนอยู่ข้างๆ“อื้อ...แก้มช้ำหมดแล้วค่ะ เวลางานด้วยนะคะบอส”“ไม่มีใครเข้าห้องทำงานพี่โดยพละการหรอกน่า”“นั่นแหละ ไม่เอา พอแล้ว รอกลับคอนโดก่อน”“ก็ได้”