แชร์

บทที่ 3 ถูกจับได้เสียแล้ว (4/4)

ผู้เขียน: ไฉ่เลี่ยงหรง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-28 22:00:46

           ‘ย้ายมาอยู่ด้วยกันเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยที่พี่ใหญ่จะหลงใหลจนยอมลงมือทำร้ายผู้อื่นเพื่อความรักเช่นนั้น’ นางคงต้องรีบมองหาบุรุษมาเบี่ยงเบนความสนใจของพี่ใหญ่แล้ว

           

            ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ครึ่งเค่อ บุรุษสองคนที่นั่งรถม้ากลับจวนฟ่านเพื่อเข้าร่วมพิธีปักปิ่นของคุณหนูฟ่านในวันพรุ่งนี้นั่งสนทนากันถึงเรื่องที่สหายสูงศักดิ์จะขอไปอาศัยที่จวนฟ่านเป็นการชั่วคราว

            “ตำหนักอ๋องน่ะหรือทรุดโทรมเพราะไร้คนดูแล” โกหกหรือไม่ นั่นตำหนักชินอ๋องเชียวนะ พวกขันทีนางกำนัลก็ยังมีอยู่ไม่ใช่หรือจะไร้คนดูแลได้อย่างไร

            “ใช่ เพราะเหตุนี้ข้าจึงสั่งปรับปรุงเมื่อวันก่อน ในระหว่างนี้ข้าจึงอยากจะขอไปอยู่ที่จวนของเจ้า”

            “เหตุใดต้องเป็นจวนของข้า เจ้าน่ะมีท่านลุงเป็นฮ่องเต้ มีท่านย่าเป็นไทเฮาลืมแล้วหรือ เหตุใดไม่เข้าไปอยู่ในวังหลวงเป็นการชั่วคราว”

            “ในวังหลวงหูตามากมาย ยากจะแยกแยะได้ว่าใครเป็นมิตรหรือศัตรู อีกอย่างการไปอยู่ร่วมจวนกับเจ้า ย่อมสะดวกในการปรึกษาหารือกัน ทั้งยังไม่เป็นที่น่าสงสัยว่าเหตุใด ข้าหรือเจ้าไปมาหาสู่กันบ่อยครั้งเกินไป”

            วาจาของสหายทำให้คุณชายฟ่านไม่อาจโต้เถียงได้ เพราะที่อีกฝ่ายกล่าวมาก็ไม่ผิด สิ่งที่พวกเขากำลังทำต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้ถูกสงสัยได้

            “เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้ แต่ข้าต้องบอกเจ้าไว้ก่อน ว่าในจวนของข้ามีน้องสาวที่กำลังจะปักปิ่นอยู่ด้วย เจ้าอย่าได้คิดสวมอาภรณ์บางเบาเดินไปมาในจวนเช่นที่เคยทำเข้าใจหรือไม่”

            “เข้าใจแล้วขอรับคุณชายฟ่าน” คังซืออี้ตอบรับ

            และสุดท้ายก็เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ ชินอ๋องซื่อจื่อได้ใช้ข้ออ้างในการซ่อมแซมปรับปรุงตำหนัก แล้วย้ายเข้าไปอยู่ในจวนฟ่านจนได้

           

            เช้าวันต่อมาคุณชายใหญ่ฟ่านก็มีสีหน้ายุ่งเหยิงแฝงความกลัดกลุ้มใจไม่น้อย จนผู้เป็นสหายที่มาตามถึงเรือนสังเกตเห็นเข้า

            “เป็นอันใดไป เหตุใดจึงทำสีหน้าเช่นนั้น”

            “ปิ่นที่ข้าตั้งใจจะมอบให้ซีซีหายไป ทั้งที่ยามค่ำคืนข้ายังนำมันออกมาดู”

            “แล้วเจ้าลองหาทั่วหรือยัง อาจจะตกตามซอกกำแพง”

            “ข้าหาแทบจะพลิกจวนแล้ว ไม่รู้ว่าหายไปหรือมีโจรกระจอกหน้าไหนเข้ามาขโมย”

            “หากเข้ามาขโมยของในเรือนของเจ้าสำนักคุ้มภัยได้ ข้าว่าโจรผู้นั้นคงไม่กระจอกแล้ว มิเช่นนั้นเจ้าคงจับตัวได้แล้ว”

            “ปิ่นที่เตรียมให้ซีซีก็หายไปแล้ว ข้าจะนำปิ่นจากที่ใดมามอบให้นางแทน” เพราะเคยรับปากน้องสาวไว้ว่าเมื่อถึงพิธีปักปิ่นเขาจะเตรียมปิ่นที่งดงามจนคนที่เคยดูแคลนว่านางขี้ริ้วขี้เหร่ต้องริษยานาง

            “ข้ามีปิ่นที่ซื้อมาจากต่างเมือง หากไม่รังเกียจข้าจะยกให้เจ้า”

            “ปิ่นของเจ้า? จะดีหรือ”

            “ย่อมดี แต่หากเจ้าไม่อยากได้ปิ่นที่ข้าซื้อมา ข้ามีปิ่นอีกอันให้เจ้านำไปมอบให้ซีอิ๋งได้”

            “ปิ่นอีกอันหรือ?”

            “ปิ่นของมารดาข้าอย่างไรเล่า อยากได้หรือไม่ ข้ายินดียกให้น้องสาวเจ้า”

            “จะบ้าหรือ ปิ่นของมารดามิใช่ต้องเก็บเอาไว้มอบให้สตรีที่เจ้าพึงใจหรือ จะนำมามอบให้น้องสาวข้าได้อย่างไร แล้วปิ่นที่เจ้าซื้อมา มิใช่จะนำไปมอบให้สตรีในดวงใจหรือ”

            “ข้ามีที่ใดกันเล่าสตรีในดวงใจ ข้าซื้อมาเพียงเพราะเห็นว่างดงามดี พลันก็นึกถึงซีอิ๋งน้องสาวเจ้า ในสายตาข้า นางเป็นเด็กน้อยที่น่าเอ็นดูยิ่งนัก เลยตั้งใจจะซื้อติดไม้ติดมือมาฝากนาง พอเห็นนางจะปักปิ่นจึงไม่กล้าที่จะมอบให้เพราะกลัวว่าจะไม่เหมาะสม”

            “เช่นนั้นขายมันต่อให้ข้าเถิด”

            “ข้าไม่ขาย แต่ข้าจะมอบให้ เจ้าเป็นสหายคนสำคัญของข้า น้องของเจ้าก็เป็นคนสำคัญของข้าเช่นกัน” เพราะรอยยิ้มที่ไม่มีสิ่งใดแอบแฝงทำให้ฟ่านไห่ถิงรับปิ่นอันนั้นมาโดยไม่ได้คิดอันใด

            “เช่นนั้นขอบคุณเจ้า”

            “เจ้ารีบผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้เรียบร้อย ข้าจะกลับไปหยิบปิ่นที่เรือนก่อน ประเดี๋ยวจะกลับมา”

            “ได้ ๆ ต้องรบกวนเจ้าแล้ว” ฟ่านไห่ถิงรู้สึกโล่งอกไม่น้อยที่ได้ปิ่นมาให้น้องสาว

            แต่ผ่านไปเพียงชั่วจิบชาเมื่อเห็นปิ่นในกล่องที่สหายมอบให้ เขาก็อยากเปลี่ยนใจขึ้นมาทันที เพราะปิ่นของสหาย แม้จะดูเรียบง่ายแต่ทว่าล้ำค่าด้วยไข่มุกสีเลือดที่หาได้ยากยิ่ง

            “ซืออี้ ปิ่นนี้ไม่ล้ำค่าเกินกว่าจะมอบให้ซีซีหรือ”

            “ไม่หรอก ข้าว่าปิ่นนี่มองไปมองมาก็น่าจะเหมาะกับซีอิ๋งไม่น้อย”

            “ขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยเหลือข้า” ฟ่านไห่ถิงซาบซึ้งจึงตั้งใจจะเข้าไปกอดขอบคุณสหายเช่นที่เคยเย้าแหย่เล่นอยู่บ่อยครั้ง

            “ไม่ต้องเข้ามากอดข้า ประเดี๋ยวใครมาเห็นเข้าก็คิดว่าข้ากับเจ้าเป็นต้วนซิ่วจริง ๆ หรอก” ชินอ๋องซื่อจื่อกล่าวก่อนจะใช้พัดดันอกสหายเอาไว้ เพราะอีกฝ่ายชอบเล่นเช่นนี้เจ้ากรมยุติธรรมกับฟ่านฮูหยินจึงไม่ใคร่อยากต้อนรับเขาในตอนแรก

            “หากเป็นเช่นนั้นก็ดีไม่ใช่หรือ เรื่องทุกอย่างจะได้ง่ายขึ้น”

            “เจ้าจะกลายเป็นต้วนซิ่วจริง ๆ ข้าก็ไม่ขัดแต่อย่าดึงข้าไปเป็นด้วยก็พอ ข้ายังนึกอยากเชยชมแม่นางน้อยสักคนอยู่”

            “ช่างน่าสงสารแม่นางน้อยผู้นั้นเสียจริง”

            “ไม่รีบนำปิ่นไปมอบให้ซีอิ๋งแล้วหรือ”

            “เช่นนั้นรีบไปกันเถิดประเดี๋ยวจะไม่ทันเอา” กล่าวจบคนเป็นพี่ชายก็รีบสาวเท้าก้าวเดินออกไปโดยไม่คิดรอสหาย

            “...” มุมปากของบุรุษสูงศักดิ์ยกยิ้มแฝงนัยบางอย่างก่อนจะเดินตามสหายไป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 4 สหายของพี่ชายที่ต้องผูกมิตร (1/4)

    4สหายของพี่ชายที่ต้องผูกมิตร ส่วนฟ่านซีอิ๋งก็ถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่เช้า เพื่อแต่งเนื้อแต่งตัวอย่างประณีต เพราะวันนี้เป็นพิธีปักปิ่นแสนสำคัญที่สตรีทุกคนต้องผ่านพิธีนี้ แน่นอนว่าสหายของพี่ชายที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในจวนก็ถูกเชิญให้เข้าร่วมงานนี้อย่างช่วยไม่ได้ เนื่องจากเจ้ากรมยุติธรรมเป็นคนเรียบง่าย งานเลี้ยงจึงไม่ใหญ่มาก มีเพียงคนในตระกูลฟ่านและคนตระกูลเผิงทั้งสายหลักและสายรองมาร่วม “ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่ปี ไม่คิดว่าน้องซีอิ๋งจะงดงามเช่นนี้” “ข้าเห็นด้วยขอรับพี่เจียงหัว” “แล้วเมื่อก่อนใครกันที่เคยล้อเลียนนางว่าเป็นอีกาในฝูงหงส์” “ก็คราวนั้นนางตัวอ้วนกลม ทั้งยังมีขี้มูกเกรอะกรังดูไม่น่าเข้าใกล้เลยแม้แต่น้อย” “ข้าก็เคยล้อเลียนนางไม่รู้นางจะยังโกรธข้าหรือไม่” “เช่นนั้นพวกเราควรไปขอโทษและผูกสัมพันธ์กับนางดีหรือไม่” “ย่อมไม่มีอะไรสายเกินไปหากคิดจะแก้ไข” เป็นฟ่านไห่ถิงที่ได้ยินบทสนทนานั้นจึงเอ่ยปากกับพวกญาติพี่น้อง คนตระกูลฟ่านตระกูลเผิงรักใคร่สามัคคีกันย่อมเป็นเรื่องดี แต่จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 4 สหายของพี่ชายที่ต้องผูกมิตร (2/4)

    “พวกเราก็ต้องขอโทษเจ้าด้วยเช่นกัน” เมื่อเห็นกลุ่มคุณชายทั้งหลายเอ่ยวาจา กลุ่มสตรีก็ทำเช่นเดียวกัน “พวกเจ้าก็เช่นเดียวกัน อย่าได้ทำเช่นนี้เราเป็นพี่น้องกันมิใช่หรือ” กล่าวจบก็ฉีกยิ้มอ่อนโยนคล้ายไม่ถือสา ทั้งที่แท้จริงอยากสะบัดอาภรณ์ใส่แล้วเดินหนียิ่งนัก “เจ้าช่างจิตใจดีงาม” “พวกเจ้ายกยอจนข้าจะลอยขึ้นไปหาเง็กเซียนฮ่องเต้แล้ว” “เจ้าก็กล่าววาจาเกินไป” “ข้าว่าจะถามเจ้าอยู่ ปิ่นนั่นใครมอบให้เจ้าหรือ งดงามยิ่งนัก” “ปิ่นอันไหนหรือ” ยามนี้นางปักปิ่นอยู่สองอัน คือที่บิดามารดามอบให้ และที่พี่ใหญ่มอบให้ “ปิ่นที่มีไข่มุกสีชาด” “อ๋อ! เป็นพี่ใหญ่น่ะที่มอบให้ข้า” “งดงามยิ่งนัก ลวดลายของปิ่นก็งดงามอ่อนช้อยคล้ายฝีมือของช่างหลวง” “ช่างหลวงหรือเจ้าคะ” เป็นฟ่านเจียงหรูเอ่ยถาม “ช่างหลวงคือช่างที่ทำเครื่องประดับให้เชื้อพระวงศ์น่ะ ขึ้นชื่อว่าเป็นของจากวังหลวงทุกอย่างล้วนประณีตและสูงค่า” ‘ก็คงเป็นพี่ชายที่ขอร้องให้สหายจัดหามาให้สินะ’ ฟ่านซีอิ๋งคิด มุมปากพลางยกยิ้มอย่าง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 4 สหายของพี่ชายที่ต้องผูกมิตร (3/4)

    “ซืออี้ เจ้าจะล่อลวงสตรีที่ใดก็เชิญตามสบาย แต่อย่ามาล่อลวงน้องสาวข้า เข้าใจหรือไม่” “ข้าเคยล่อลวงสตรีที่ใดกัน เจ้าเข้าใจผิดแล้ว เอ๊ะ! นั่นยุเหวียนเซียวนี่ ข้าขอกินด้วยคนสิ” หากเคยทำก็คงเป็นตอนล้วงเอาความลับจากผู้อื่นเพียงเท่านั้น “เจ้าอยากกินก็ขอจากซีซีสิ จะมาแย่งของข้าด้วยเหตุใด” ฟ่านไห่ถิงกล่าวพลางแย่งชามในมือสหายคืนมา “ซีอิ๋ง ยุเหวียนเซียวของพี่เล่า” “ท่านอยากกินหรือเจ้าคะ” “ย่อมอยากกิน ขอยุเหวียนเซียวของเจ้าให้พี่สักถ้วยได้หรือไม่” กล่าวจบก็ส่งสายตาอ้อนวอนให้นาง พรึ่บ! เป็นคุณชายฟ่านที่วางถ้วยขนมแล้วยกมือปิดตาพลางรั้งสหายให้ถอยห่างจากน้องสาว ไอ้ท่าทางออดอ้อนนั้นคืออันใด ช่างน่าขนลุกนัก “ซีซีรีบตักยุเหวียนเซียวใส่ถ้วยให้สหายพี่เถิด” “ปล่อยข้านะ เจ้าคนหวงน้อง” “คิก ๆ” เสียงหัวเราะของสตรีตัวน้อยทำให้ทั้งสองหยุดยื้อแย่งกันก่อนจะหันไปมองดวงหน้าหวานที่ประดับรอยยิ้ม “เจ้าอย่ามองน้องสาวข้า” กล่าวจบก็ใช้มือปิดตาสหายอีกรอบ รอยยิ้มของฟ่านซีอิ๋งงดงามยิ่งกว่ามารดาเสียอีก หากส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 4 สหายของพี่ชายที่ต้องผูกมิตร (4/4)

    ท่าทางห่างไกลจากการเป็นสตรีที่กิริยามารยาทเรียบร้อยทำให้มุมปากของชินอ๋องซื่อจื่อยกยิ้มยามมองตามหลังนางไปก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อหันกลับมาสนทนากับสหาย หลังจากออกมาจากเรือนของพี่ชายแล้วฟ่านซีอิ๋งก็ครุ่นคิดถึงความสนิทสนมของพี่ชายและสหาย ‘เท่าที่สังเกตยามที่ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันก็ดูไม่ผิดปกติอันใด’ ท่าทีของพี่ใหญ่ที่มีต่อสหายก็ไม่ผิดแปลกอันใดมิใช่หรือ ‘โอ๊ย! ยิ่งคิดยิ่งสับสน’ “คุณหนูเป็นอันใดหรือไม่เจ้าคะ” สาวใช้คนสนิทเอ่ยถามเมื่อเห็นคุณหนูของตนทำท่าคล้ายจะตีอกชกหัวตนเองทันทีที่กลับมาถึงเรือน “ไม่มีอันใด” “คุณหนูกำลังเบื่อหน่ายหรือเจ้าคะ” ‘ข้าน่ะหรือจะเบื่อหน่าย แค่พยายามคิดหาทางไม่ให้ฝันร้ายกลายเป็นจริงก็เหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก’ “เจ้าว่าหลังจากที่ผ่านพิธีปักปิ่นแล้ว คุณหนูทั้งหลายเขาทำสิ่งใดกัน” “ก็คงเป็นการฝึกศาสตร์ทั้งสี่ให้เชี่ยวชาญ เรียนมารยาทให้งดงามไร้ที่ติ ยามเข้าร่วมงานเลี้ยงจะได้ต้องตาบุรุษเลิศล้ำสักคน ทั้งยังต้องฝึกเข้าครัวทำอาหาร...” “พอ ๆ เจ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 5 ผีหรือบุรุษรูปงามกัน (1/4)            

    5ผีหรือบุรุษรูปงามกัน สองวันมานี้ฟ่านซีอิ๋งรู้สึกได้ว่ายามค่ำคืนในป่าไผ่หลังจวนเหมือนจะเกิดเรื่องอันใดบางอย่างที่ทำให้บ่าวไพร่ตื่นเต้นดีใจ นางจึงสั่งให้สาวใช้คนสนิทไปสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น “เรื่องนี้บ่าวทราบเจ้าค่ะคุณหนู” “ทราบก็รีบเล่ามาเถิด” “บ่าวได้ยินว่าช่วงนี้บริเวณป่าไผ่มีอิ๋งหั่วฉงมากมาย” “อิ๋งหั่วฉงหรือ” นางเคยอ่านเจอว่ามันจะออกมาบินช่วงหน้าฝนมิใช่หรือ อีกทั้งในตำรายังบอกไว้ว่าในเมืองหลวงหาดูอิ๋งหั่วฉงได้ยาก “เจ้าค่ะ แม้จะไม่ได้มีมากหลายตัวเช่นนอกเมืองหลวง แต่ทว่าก็พอทำให้สาวใช้พากันตื่นเต้นดีใจได้ มันงดงามมายคล้ายกับดวงดาวเลยเจ้าค่ะ” “อืม เจ้าว่าคืนนี้จะมีอยู่อีกหรือไม่” “บ่าวไม่แน่ใจเจ้าค่ะ ได้ยินบ่าวชายผู้หนึ่งที่มีบ้านอยู่แถวเมืองจินเซ่อกล่าวว่าอิ๋งหั่วฉงจะออกมาให้เห็นแค่วันสองวันก่อนจะหายไปไม่ออกมาอีกเจ้าค่ะ” “ช่างเถิด ข้าเพียงแค่สงสัยหาได้อยากดูไม่” แม้จะคิดเช่นนั้นแต่คืนนี้นางว่าจะลอบออกจากเรือนไปดูเสียหน่อย “เช่นนั้นหากคืนนี้ที่ใดมีอิ๋งห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 5 ผีหรือบุรุษรูปงามกัน (2/4)

    “นั่นเสียงใครเจ้าคะ ท่านขว้างก้อนหินโดนคนหรือไม่” “คงไม่ใช่หรอก เพราะหากเป็นคนเขาต้องวิ่งออกมากล่าวโทษพี่แล้ว” “เช่นนั้นหรือเจ้าคะ” นางตอบรับแต่สีหน้ายังครุ่นคิดด้วยความสงสัย “เอ๊ะ! นั่นอิ๋งหั่วฉงนี่” สิ้นเสียงเขาอิ๋งหั่วฉงจำนวนมากก็ปรากฏเต็มป่าไผ่ “นี่หรือเจ้าคะอิ๋งหั่วฉง...งดงามยิ่งนัก” “ช่างดีจริงที่ได้ยืนมองอิ๋งหั่วฉงกับเจ้า” ชินอ๋องซื่อจื่อเอ่ยเสียงเบา “ช่างเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้าเช่นที่ผู้อื่นว่าเสียจริง” “เจ้าชอบหรือไม่” เขาหันมาถามสตรีที่ยังคงจับชายอาภรณ์ของเขาไว้ “ชอบมากเจ้าค่ะ มันช่างงดงามตราตรึงใจยิ่งนัก” นางหันมาบอกเขาก่อนจะยิ้มกว้าง “พี่ก็คิดเช่นกันว่ามันช่างงดงามตราตรึงใจยิ่งนัก” คังซืออี้ กล่าวพลางจับจ้องดวงหน้าหวานยากจะละสายตา ตึกตัก ๆ หัวใจดวงน้อยของนางเต้นระรัวกับสายตาพราวระยับและวาจาหวานซึ้งของสหายพี่ชาย ‘เขาหมายถึงข้า หรือหมายถึงอิ๋งหั่วฉงกัน’ “มันมาเกาะบนผมเจ้าด้วย” เขากล่าวพลางเอื้อมมือมาทำสิ่งใดบางอย่างที่ผมนาง “จ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 5 ผีหรือบุรุษรูปงามกัน (3/4)

    “แต่พี่มือเปื้อนเพราะเก็บหินเมื่อครู่ พี่ไม่อยากให้อาภรณ์ของเจ้าเปื้อน” “เช่นนั้นหากข้าเป็นคนคลุมให้ท่าน ก็หมดปัญหาแล้วใช่หรือไม่” นางเขย่งปลายเท้าก่อนจะคลุมผ้าของนางให้เขา แม้มันจะดูสั้นไปมากเพราะเขามีรูปร่างสูงใหญ่กว่านางนัก แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีสิ่งใดปกปิดร่างกายทำให้อบอุ่น “ขอบคุณ เสื้อคลุมของเจ้าช่างอบอุ่นยิ่งนัก” “ข้าก็ขอบคุณท่านเช่นกันที่มาส่งเจ้าค่ะ” นางกล่าวจบก็ทำท่าจะหมุนตัวเข้าเรือน “ประเดี๋ยวก่อน พี่ขอถามเจ้าได้หรือไม่ว่าวันนั้นเจ้าไปที่หอชายงามด้วยเหตุใด” “เดิมทีข้าตั้งใจจะไปเที่ยวเล่นเพราะอยากรู้อยากเห็น แต่บังเอิญไปเห็นพี่ใหญ่เดินเข้าไปที่หอแห่งนั้นพอดี ข้าที่รับรู้มาตลอดว่าสองปีที่ผ่านมาพี่ใหญ่อยู่เมืองจินเฟิ่งที่เป็นชายแดนเหนือย่อมอดไม่ได้ที่จะสงสัย จึงติดตามเข้าไปที่นั่นเพื่อไปดูว่าใช่พี่ชายของข้าที่ไม่ได้พบเจอกันเกือบสองปีหรือไม่” “ด้วยเหตุนี้เจ้าจึงไปแอบดูไห่ถิงที่หน้าห้องนั้น” “เจ้าค่ะ แล้วข้าก็ได้เห็นพี่ใหญ่กำลังทำเอ่อ...เรื่องวาบหวิวกับชายงามเหล่านั้น” “บางสิ่งที่เจ้าเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 5 ผีหรือบุรุษรูปงามกัน (4/4)

    ไม่ได้การแล้ว...นางต้องทำอันใดสักอย่าง เมื่อกลับถึงเรือนของตน ฟ่านซีอิ๋งก็รีบผลัดเปลี่ยนอาภรณ์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะไปขออนุญาตมารดาเพื่อออกไปข้างนอก “คุณหนูจะออกไปซื้อสิ่งใดหรือเจ้าคะ” “ข้าจะไป...” หากตอบว่าไปมองหาบุรุษที่เข้าท่ามาให้พี่ใหญ่ ก็คงจะไม่ได้ ของขวัญ! ใช่แล้วอีกไม่นานพี่ใหญ่ก็จะมีอายุครบยี่สิบสี่หนาว นางแสร้งทำเป็นออกไปหาซื้อของขวัญให้เขาคงจะได้กระมัง อย่างน้อยก็สามารถใช้ข้ออ้างนี้ออกจากจวนได้ราวสามสี่ครั้ง แต่เพียงคิดถึงของขวัญ นางก็น้ำตาแทบไหลรินเมื่อคิดถึงเงินก้อนสีทองที่จับจ่ายไปในหอชายงามครั้งนั้น การไปเที่ยวเช่นนั้นช่างใช้ตำลึงมากมายทีเดียว “ข้าจะออกไปซื้อของขวัญให้พี่ใหญ่” “คุณหนูได้เลือกของขวัญที่จะมอบให้คุณชายใหญ่แล้วหรือยังเจ้าคะ” “ข้ายังคิดไม่ออก จึงคิดว่าจะมาเดินดูก่อน” “พู่กันอย่างไรเจ้าคะ ก่อนหน้านี้คุณหนูเคยบอกว่าอยากได้พู่กันล้ำค่า...” “ไม่เอา ข้าเปลี่ยนใจแล้ว” นางไม่มีวันเดินเข้าร้านเหิงจื้อเป็นแน่ “เช่นนั้นของขวัญของคุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-04

บทล่าสุด

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 21 ลาก่อนสหายคนแรก (2/5)

    เนิ่นนานกว่าหนึ่งเค่อคุณหนูฟ่านจึงจะเก็บงำความรู้สึกตนแล้วเตรียมออกจากโรงเตี๊ยมหนานเหิง แต่ก่อนจะลุกจากโต๊ะนางอดไม่ได้ที่จะหันไปมองชั้นสองของโรงน้ำชาฝั่งตรงข้าม และก็ได้สบตาเข้ากับบุรุษผู้นั้นอีกครั้ง ดวงตาที่ฉายแววโศกเศร้าทำให้นางรู้สึกสะดุดใจก่อนจะรั้งสายตากลับมาแล้วกลับจวนของตนเอง “ซีอิ๋ง...เจ้ากำลังจะกลับแล้วหรือ” เป็นคังซืออี้ที่เดินตรงมาหาคู่หมั้นของตนเองซึ่งกำลังจะก้าวขึ้นรถม้า “พี่ซืออี้ ท่านมาได้อย่างไร” “พอพี่เสร็จงานก็รีบตรงมาหาเจ้า ตั้งใจจะมารับเจ้ากลับจวน” “เช่นนั้นเราก็กลับจวนฟ่านกันเถิดเจ้าค่ะ” นางยิ้มเล็กน้อย แววตายังบ่งบอกถึงความโศกเศร้า “อืม” ชินอ๋องซื่อจื่อตอบรับก่อนจะช่วยประคองคู่หมั้นตนขึ้นรถม้า เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวเขาจึงเอ่ยปากชักชวนให้นางพูดคุย หวังจะทำให้นางคลายความโศกเศร้า แต่สิ่งที่ได้รับฟังกลับเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเตี๊ยมหนานเหิงและความจริงที่ว่าบัณฑิตโจวคุนต๋าผู้นั้นได้หายไปจากแผ่นดินนี้แล้ว “ซีอิ๋ง เจ้าอย่าได้โศกเศร้าเลย พี่ไม่ชอบเลยยามเห็นเจ้าโศกเศร้าเช่น

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 21 ลาก่อนสหายคนแรก (1/5)

    21ลาก่อนสหายคนแรก การได้ตบแต่งกับบุรุษที่รักและปรารถนาในตัวเรามันดีเช่นนี้เอง เพราะมันทำให้นางไม่ต้องอดทนอดกลั้นต่อการถูกกดดัน ในตอนนั้นนางเพียงโดนนางกำนัลอาวุโสตำหนิเรื่องการย่อตัวที่ไม่อ่อนช้อยหลายครั้งจนถูกลงโทษให้ย่อตัวค้างเช่นนั้นเกือบหนึ่งชั่วยาม แม้จะไม่ใช่เรื่องหนักหนาอันใดแต่คนที่โกรธเคืองกลับเป็นชินอ๋องซื่อจื่อที่ต่อรองกับนางกำนัลด้วยตนเอง ว่านางเป็นเพียงชายาอ๋อง หาใช่ฮองเฮา เหตุใดจะต้องเคร่งครัดถึงเพียงนั้น สุดท้ายนางจึงได้เรียนเพียงมารยาทพื้นฐานหากต้องเข้าไปร่วมงานเลี้ยงของวังหลวงในฐานะชายาอ๋องเพียงเท่านั้น ส่วนชุดแต่งงานและทุกอย่างที่ฝ่ายสตรีต้องเตรียมยามออกเรือนช่างของวังหลวงก็เป็นคนตัดเย็บและปักให้ ช่างเป็นการเอาอกเอาใจที่ทำให้นางรู้สึกหวงแหนความโปรดปรานนี้และคิดจะรักษามันไว้ให้ดีที่สุด ในวันนี้เป็นวันที่นางนัดพบสหายที่โรงเตี๊ยมหนานเหิง ซึ่งนอกจากนางจะเตรียมถุงเครื่องรางไปให้เขาแล้ว นางยังเตรียมเทียบเชิญหวังจะเชิญสหายมาร่วมงานมงคลของตน และเพราะยามนี้นางกลายเป็นคู่หมั้นของชินอ๋องซื่อจื่อไปแล้วการมาพบปะสหายที่เป็นบุรุษนอกจา

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 20 ถุงหอมย่อมล้ำค่ากว่า (5/5)

    “ถุงหอมนี้พิเศษกว่าถุงหอมทั่วไปนะเจ้าคะ” ฟ่านซีอิ๋ง กลับมายิ้มแย้มได้เช่นเดิม ก่อนจะอธิบายว่าในถุงหอมมีเครื่องหอมใดบ้างและมีประโยชน์ใด “เจ้าช่างรอบคอบ” “และที่สำคัญมีแผ่นเครื่องรางแคล้วคลาดปลอดภัยอยู่ด้านใน” “เจ้าช่วยห้อยให้พี่เลยได้หรือไม่” “เจ้าค่ะ” นางตอบรับก่อนจะทำตามคำขอของเขา “พี่ชอบรอยยิ้มเช่นนี้ของเจ้าที่สุด” คังซืออี้กล่าว เขาสัญญากับตนเองว่าจะไม่ทำให้นางโกรธเด็ดขาด เห็นน่ารัก ซุกซนคล้ายเด็กน้อยแต่ใครจะคิดว่าแท้จริงนางเด็ดขาดยิ่งนัก เมื่อครู่ยามเห็นดวงหน้าหวานไร้รอยยิ้มเขาใจตกไปอยู่ตาตุ่มหวาดกลัวว่านางจะเลื่อนไม่ให้เขาส่งแม่สื่อไปสู่ขอจริง ๆ ยามที่เขาน้อยใจ เขาก็ไม่รู้ตัวว่าได้ทำสีหน้าเย็นชาเช่นนั้นใส่นาง หลังจากนี้เขาคงต้องไปฝึกซ้อมเมื่อเกิดอาการน้อยใจต้องทำสีหน้าเช่นใดนางถึงจะได้เอ็นดู มากกว่าโกรธเคืองเขาเช่นนี้ “หากท่านอยากเห็นรอยยิ้มของใคร ท่านก็จงยิ้มให้คนผู้นั้น มิเช่นนั้นท่านจะได้รับสีหน้าเช่นเดียวกันกลับคืน” “พี่เข้าใจแล้ว พรุ่งนี้ปลายยามเฉิน (07.00-0

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 20 ถุงหอมย่อมล้ำค่ากว่า (4/5)

    “ซีอิ๋ง พี่ขอโทษ เจ้าอยากต่อว่าอันใดพี่ก็ว่ามาเถิด หรือจะให้พี่คุกเข่าสำนึกผิดพี่ก็ยอม แต่อย่าเลื่อนวันที่เรานัดหมายกันได้หรือไม่ เจ้าก็ทราบว่าพี่เฝ้ารอวันพรุ่งนี้เพียงใด” “ชินอ๋องซื่อจื่อท่านน่ะเคยบอกข้าว่า หากมีเรื่องใดไม่พอใจหรืออยากทราบให้เอ่ยถามท่านตามตรง อย่าได้ตัดสินหรือสืบสาวเรื่องราวเอาเอง ท่านอยากให้ข้าทำเช่นนั้นแล้วเหตุใดท่านไม่ทำเช่นที่ต้องการให้ข้าทำ ท่านตัดสินเรื่องราวเอาเองไม่ถามไถ่ข้า ทั้งยังโกรธเคืองข้าหน้าแทบไม่อยากจะมอง หากวันหน้ามีใครมาใส่ร้ายข้า หรือเกิดเรื่องราวเสียหายโดยที่ข้าไม่ได้เป็นคนทำ ท่านไม่ตัดสินใจเอาเองว่าข้ามีความผิดแล้วสั่งให้คนสังหารข้าโดยไม่ไต่สวนหรือ” “ซีอิ๋งเจ้าคิดไปไกลถึงเพียงนั้น พี่รักเจ้ามากขนาดนี้ พี่จะทำร้ายเจ้าเช่นนั้นได้อย่างไร” “ความรักสำหรับบุรุษ ย่อมจืดจางไปตามเวลา แล้วความรักของบุรุษที่เพียบพร้อมด้วยชาติตระกูลเช่นท่านจะคงอยู่ได้นานสักเพียงใด” ‘ข้ากำลังน้อยใจนางเรื่องของขวัญมิใช่หรือ แต่เหตุใดเรื่องราวมันกลับพลิกเป็นข้าผิดกันเล่า’ แล้วคราวนี้เขาต้องง้อนางอย่างไร

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 20 ถุงหอมย่อมล้ำค่ากว่า (3/5)

    “นี่เจ้าค่ะ ของขวัญจากข้า” เพราะเอาตำลึงที่เก็บไว้ไปหอชายงามในครานั้น ตำลึงของนางจึงน้อยนิดจนไม่พอซื้อของล้ำค่าให้พี่ใหญ่ แต่พอมาคิดดูอีกครั้งการลงมือทำเองต่างหากจึงจะล้ำค่าที่สุด “ซีซีของพี่ ให้อันใดกันนะ” ฟ่านไห่ถิงกล่าวด้วยสีหน้าดีใจก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาไม่สบอารมณ์ของใครบางคน “...” ชินอ๋องซื่อจื่อที่ยืนเคียงข้างคนรักจ้องมองสหายที่เหมือนจะพูดผิดไป “เจ้าไม่เห็นต้องจ้องมองข้าเช่นนั้นเลย ข้าแค่ลืมตัว” แค่ลืมตัวใส่คำว่า ‘ของพี่’ ก็มีโทสะแล้ว ลืมไปแล้วหรืออย่างไรว่าเขาเป็นพี่ชายของนาง จะมาหวงอันใดกันหนักหนา “พี่ซืออี้อย่าเพิ่งกลั่นแกล้งพี่ใหญ่เลยเจ้าค่ะ พี่ใหญ่ท่านรีบเปิดดูสิเจ้าคะ” “ได้ ๆ” แต่เมื่อห่อกระดาษนั้นถูกเปิดออก สีหน้าของชินอ๋องซื่อจื่อพลันเคร่งขรึมลงกว่าเดิม ‘แท้จริงของชิ้นนี้นางไม่ได้ทำให้ข้า’ ไม่คิดจริง ๆ ว่าเขาจะหลงคิดว่าตนสำคัญเช่นที่ฟ่านไห่ถิงเคยบอก “พี่ใหญ่มองออกหรือไม่ ว่ามันเป็นพู่ห้อยกระบี่” “ขอบคุณเจ้ามากซีอิ๋ง เจ้าตั้งใจทำให้พี่หรือ”

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 20 ถุงหอมย่อมล้ำค่ากว่า (2/5)

    “ยามนี้อยู่ในที่ลับตาคนแล้ว หวังว่าเจ้าจะจดจำวาจาของตนได้” สิ้นเสียงกระซิบ ริมฝีปากนางถูกครอบครองทันที ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดสลับกับกวาดชิมความหวานจากโพรงปากนุ่มครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อเห็นนางอ่อนระทวยเขาก็จะถอนจุมพิตออกมาปล่อยให้นางพักหายใจเพียงสองสามอึดใจก่อนจะรุกเร้านางอีกครั้ง ลิ้นร้อนหยอกเย้า ริมฝีปากดูดดึงกลีบปากสีอ่อนไม่หยุด จนรถม้าจอดนิ่งที่หน้าจวนฟ่าน “พี่ไม่อยากส่งเจ้าลงจากรถม้าเลย” สองมือใหญ่ประคองดวงหน้าหวานที่แดงก่ำ นางหอบเหนื่อยจนร่างกายไร้เรี่ยวแรงคล้ายถูกสูบพลังชีวิตไป ช่างแตกต่างจากเขาที่ดูสดชื่นขึ้นต่างจากก่อนหน้านี้ “ท่านกินเต้าหู้ข้าจนอิ่มท้องไปหลายวันแล้วกระมัง” “เต้าหู้นุ่มนิ่มแสนหวานเช่นเจ้า ต่อให้กินจนหมดตัวพี่ก็ไม่อิ่มท้อง มีแต่จะอยากกินเรื่อย ๆ ไม่หยุด” กล่าวจบก็กดริมฝีปากลงบนกลีบปากสีอ่อนอีกครั้ง เขารุกเร้าลิ้มรสความหวานและไล่ต้อนจนนางอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงอีกครั้ง ‘ถึงจวนฟ่านแล้ว ปล่อยน้องข้าลงจากรถม้าได้แล้วกระมัง’ เสียงของคุณชายฟ่านที่ติดจะรำคาญเล็กน้อยดังขึ้นนอกรถม้า “พี่ให

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 20 ถุงหอมย่อมล้ำค่ากว่า (1/5)

    20ถุงหอมย่อมล้ำค่ากว่า ส่วนคุณหนูฟ่านนั้นยามนี้กำลังถูกบุรุษตัวใหญ่ทั้งออดอ้อนและเอาใจอยู่ “ซีอิ๋งเจ้าทราบหรือไม่ว่าสำรับเมื่อครู่ พี่กินได้มากกว่ายามที่ไม่ได้พบหน้าเจ้า” “ท่านมิใช่เดินทางมาเหน็ดเหนื่อยจึงหิวมากหรือเจ้าคะ” มุมปากนางยกยิ้มคล้ายล้อเลียนบุรุษที่กินข้าวมากถึงสามถ้วย “ทั้งหมดย่อมเป็นเพราะเจ้า ยามไม่ได้เจอเจ้าพี่กินได้น้อย ใจคอยคะนึงถึงแต่เจ้า” “ท่านหยอกเย้าข้าแล้ว” นางยิ้มเขินอาย “เพราะพี่รักเจ้าพี่ย่อมหยอกเย้าแต่เพียงเจ้า แล้วสวนนี้อยากปลูกอันใดเพิ่มหรือไม่” เขากล่าวก่อนจะสวมกอดนาง ไม่เจอกันหลายวันเขาก็เพิ่งทราบตนเองว่าเขาปรารถนานางมากเพียงใด “ที่พวกเขากำลังจัดอยู่ก็สวยอยู่แล้วเจ้าค่ะ” “พี่ดีใจที่เจ้าชอบ ลองเดินชมให้ทั่วตำหนักอีกรอบดีหรือไม่ เผื่อเจ้าอยากปรับปรุงหรือทำสิ่งใดเพิ่ม” “พี่ซืออี้ท่านอย่าได้รีบร้อน ข้ายังเป็นเพียงคุณหนูฟ่าน หากมากะเกณฑ์ชี้นิ้วในตำหนักอ๋องเกรงว่าจะไม่เหมาะสม” “พี่อนุญาตแล้วใครจะกล้าว่าเจ้า” “มารดาข้านั่นแหละเจ้าค่ะ

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 19 จบสิ้นแผนการเลิกเป็นต้วนซิ่ว (4/4)

    “ข้าขอโทษที่เคยหลอกลวง เล่นงิ้วตบตาพวกท่าน จนทำให้พวกท่านเข้าใจผิดว่าข้าเป็นต้วนซิ่ว” “ไม่เป็นไร แม่เข้าใจ...เจ้าว่าอันใดกัน! เจ้าบอกว่าเป็นข้ากับบิดาเจ้าเข้าใจผิด” “ขอรับ ที่ข้าต้องเป็นต้วนซิ่ว เพื่อจะได้เข้าใกล้องค์ชายรองที่เป็นต้วนซิ่วโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันระวังตัว ข้าที่รูปงามเกินไปจึงต้องเล่นงิ้วฉากใหญ่ แต่เพราะนี่เป็นเรื่องที่เดิมพันด้วยบัลลังก์มังกร ข้าจึงไม่อยากให้พวกท่านมาเสี่ยงอันตรายด้วยจึงไม่ได้บอก และการจะหลอกผู้อื่นให้ได้ ควรต้องทำให้คนใกล้ตัวหลงเชื่อก่อน ด้วยเหตุนี้ ที่ผ่านมาข้าจึงต้องแสร้งเป็นต้วนซิ่ว” “ที่เจ้าเอ่ยมาเป็นเรื่องจริงหรือ” เจ้ากรมยุติธรรมคล้ายจะไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “ขอรับ บัดนี้จบเรื่องแล้วข้าจึงอยากบอกกล่าวความจริงให้พวกท่านได้คลายกังวล อีกไม่นานซีอิ๋งก็จะต้องแต่งกับซืออี้ ข้าคงต้องหาสตรีสักคนมาแต่งด้วยแล้ว” “ดียิ่ง เจ้าทำดีแล้ว พ่อดีใจจริง ๆ ที่ได้ยินเช่นนี้” เรื่องบุตรสาวหลังจากได้ยินฮูหยินเคียงหมอนเล่าเรื่องราวให้ฟังพร้อมทั้งชี้แจงข้อดีของชินอ๋องซื่อจื่อ ฟ่านเฉียนจึงคล้ายจะยินยอมโด

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 19 จบสิ้นแผนการเลิกเป็นต้วนซิ่ว (3/4)

    “คิดถึงพี่หรือไม่” เขาเอ่ยถามเสียงอ่อนลงจากที่คิดจะต่อว่านางสักเล็กน้อยที่เดินเหม่อลอยเช่นนั้นหวังจะได้ลงโทษด้วยการกินเต้าหู้นาง “ย่อมคิดถึงเจ้าค่ะ ท่านปลอดภัยดีหรือไม่” นางกล่าวพลางดันตัวออกห่างเขาก่อนจะยืนนิ่งเพื่อกวาดตามองสำรวจเขา “พี่ปลอดภัยดี พี่ก็คิดถึงเจ้ายิ่งนัก” ความห่วงใยของนางทำให้เขารู้สึกหวานล้ำในใจยิ่งนัก “ท่านกลับมาถึงเมืองหลวงเมื่อใดเจ้าคะ พี่ไห่ถิงเล่าเป็นเช่นใดบ้าง” “พี่กับไห่ถิงเพิ่งกลับมาถึงเมืองหลวงเมื่อครู่ พอเห็นเจ้าเดินเหม่อลอยอยู่ พี่จึงให้ไห่ถิงกลับจวนฟ่านไปก่อน ส่วนพี่ก็รีบมาหาเจ้า” “เป็นเช่นนั้นเอง” เขาและพี่ใหญ่ปลอดภัยกลับมาก็ดีแล้ว “ตำหนักอ๋องกำลังจะรื้อสวนแล้วปลูกดอกไม้ใหม่ เจ้าไปช่วยพี่ดูสักหน่อยดีหรือไม่ อย่างไรวันหน้าที่นั่นก็จะกลายเป็นตำหนักของเจ้า” “ข้าควรไปดีหรือไม่กันนะ” “ควรไป สวนจะได้ออกมาสวยถูกใจเจ้า” “เช่นนั้นไปก็ได้เจ้าค่ะ แต่ต้องเป็นหลังจากที่ข้าไปหาซูฉีที่โรงเตี๊ยมหนานเหิงแล้ว ข้าให้นางไปซื้อเสี่ยวหลงเปามาให้” “เ

DMCA.com Protection Status