ก่อนหน้านี้ ในวันนี้ อี้ จิ่นหลี จะไม่ออกจาก คฤหาสน์ อี้ แม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืนก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีงานใหญ่ เขาจะใช้เวลากลางคืนกับรูปจารึกพ่อของเขา และบอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าจะไม่ไม่ทำผิดแบบพ่อของเขา สิ่งนี้ดำเนินต่อไปปีแล้วปีเล่า อย่างไรก็ตาม คืนนี้นั่นแตกต่างออกไป! ... อี้ จิ่นหลี เป็นคนไปพาหลิง อี้หราน ออกจากโรงพยาบาล รถคันสีดำจอดอยู่ที่หน้าโรงพยาบาล หลังจากขึ้นรถแล้ว หลิง อี้หราน ยังรู้สึกราวกับว่ายังอยู่ในความฝัน เธอคิดว่าคืนนี้จะเป็นฝันร้ายของเธอ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะปรากฎตัวขึ้นมา “พี่กลัวไหม?” เขาถามในขณะที่เขาเตะที่ตัวเธอซึ้งตอนนี้เธอยังคงสั่นอยู่ หลิง อี้หราน กัดริมฝีปากล่างแล้วพยักหน้า ใช่แล้ว เธอจะไม่กลัวได้อย่างไร? ราวกับว่าชะตากรรมของเธอตกอยู่ในเงื้อมมือของคนอื่นอย่างสมบูรณ์และเธอก็ไร้กำลังที่จะต่อสู้ใด ๆ ราวกับว่าคำพูดของคนอื่นสามารถเป็นตัวกำหนดชีวิตและความเป็นความตายของเธอได้ “มันเป็นความผิดของผมเอง” อี้ จิ่นหลี กล่าว “ผมไม่คิดว่า ปู่จะแตะต้องพี่ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะใจร้อนกว่าที่ผมคิดและจะเลือกวันนี้ด้วยซ้ำ” เธอตกใจเล็กน้อย “วันนี้มีอะไรพิเศษงั้นเหร
เขาไม่ได้อยู่ในห้องแล้วเขาจะอยู่ที่ไหน? ชั้นล่างเหรอ?เมื่อหลิง อี้หราน ลงไปที่ชั้นล่างก็ไม่เห็นอี้ จิ่นหลี อยู่ที่นั่นเช่นกันเธอออกไปจากบ้านด้วยซ้ำ หลังจากที่เธอไม่พบเขาในคฤหาสน์หลังใหญ่คฤหาสน์ อี้ มีขนาดใหญ่มาก นอกจากคฤหาสน์หลังใหญ่แล้วยังมีห้องคนรับใช้, สวน, ศาลานั่งเล่น และสระน้ำหลังจากอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ อี้ เป็นเวลานาน เธอไม่เคยสำรวจที่คฤหาสน์ อี้ เลยและไม่รู้ว่ามันใหญ่แค่ไหนเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว และเท่าที่มองเห็นมันมืดมาก มีเพียงไฟส่องสว่างอยู่สองสามดวงตลอดทางอากาศตอนกลางคืนค่อนข้างเย็น หลิง อี้หราน อดไม่ได้ที่จะจับคอเสื้อเข้ามาแนบชิดกัน แต่เธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงมองหาอี้ จิ่นหลี เธอกลัวว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาอย่างนั้นเหรอ?จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาในคฤหาสน์ อี้ อีก?ท้ายที่สุดเธอก็ทำได้แค่อธิบายกับตัวเองว่าเขาช่วยชีวิตเธอในวันนี้ และเธอแค่ต้องการความสบายใจทันใดนั้น แสงแฟลชก็ดึงดูดความสนใจของเธอเธอเห็นสิ่งที่ดูเหมือนบ้านเดี่ยวหลังเล็ก ๆ อยู่ข้างหน้าและมีแสงไฟส่องผ่านทางหน้าต่างเมื่อหลิง อี้หราน เข้าไปใกล้ เธอก็พบว่ามีแผ่นโลหะอยู่ที่หน้าบ้าน มั
เธอลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวว่า “ไม่มีอะไรหรอก แค่หลังจากที่คุณพาฉันไปที่ห้อง ฉันเห็นว่าคุณไม่ได้กลับไปที่ห้องของคุณ แต่เดินบันไดไป ฉันสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติกับคุณ เอ่อ ถ้าคุณไม่เป็นไร งั้นฉันไปล่ะ...”เธอกล่าวแล้วหันกลับไปสักพักนึง แขนของเขาก็โอบเธอจากด้านหลัง “เป็นห่วงผมเหรอพี่สาว?”ร่างกายของหลิง อี้หราน ดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นของเขา และเธอก็ไม่รู้ว่าควรกล่าวอะไรกังวลไหม? เธอเป็นห่วงเขาหรือเปล่า?เธอดูสับสน เป็นเพราะเขาช่วยเธอคืนนี้อย่างนั้นเหรอ? คืนนี้แทนที่เธอจะคิดว่าเขาเป็นอี้ จิ่นหลี แต่เธอกลับคิดว่าเขาเป็นจินและเป็นห่วงเขา?หลิง อี้หราน กำลังคิดถึงเรื่องนี้ จู่ ๆ ลมหายใจของเขาก็ดังขึ้นที่ข้างหูของเธอ มีเสียงครางเบา ๆ ในลำคอ แขนของเขาที่โอบกอดเธอไว้ค่อย ๆ คลายออกหลิง อี้หราน หันกลับมาและเห็นว่าตอนนี้อี้ จิ่นหลี หน้าซีดไปด้วยเม็ดเหงื่อที่หน้าผากของเขา เขาจับมือของเขาไว้เหนือท้องส่วนบนเธอตัวสั่น จำได้ว่าเธอเคยเห็นเขาแบบนี้มาก่อน “คุณปวดท้องอีกแล้วเหรอ?”“ดูเหมือนพี่จะจำข้อบกพร่องของผมได้นะพี่สาว" เขาพึมพำและยิ้มมุมปาก อย่างไรก็ตาม ใบหน้าที่ซีดและดวงตาที่ซ่อนคว
“ถ้าเกิดคุณไม่กินยาแล้วอาการปวดแย่ลงล่ะ?” หลิง อี้หราน ถาม ทันใดนั้น ราวกับว่าเธอนึกถึงอะไรบางอย่างออก หลิง อี้หราน ดึงโทรศัพท์ของเธอออกมาและเปิดดูร้านขายยาออนไลน์แม้ว่าร้านขายยาจะอยู่ไกลเพียงเล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นไร เพียงแค่เธอจ่ายค่าบริการเพียงพอ นอกจากนี้ยาจะมาถึงภาบในยี่สิบนาที แบบนี้เร็วกว่ารอให้คนรักษาความปลอดภัยไปซื้อยาเสียอีกหลิง อี้หราน ครุ่นคิดสักครู่และตัดสินใจสั่งซื้อผ่านโทรศัพท์ของเธอ เธอสั่งยาตัวเดียวกับเคยที่ซื้อให้อี้ จิ่นหลี ครั้งที่แล้ว หลังจากสั่งซื้อเรียบร้อยแล้ว ดวงตาของเธอก็สบเข้ากับดวงของเขาอีกครั้งเขาขดตัวเป็นลูกบอล ริมฝีปากของเขาเม้มเข้าหากันราวกับจะปิดเสียงพึมพำที่กำลังจะระเบิดออกมาจากปากของเขา แต่มันทำให้ลมหายใจของเขาเบาลงเล็กน้อยตอนนี้ตาของเขาปิดสนิท ขนตายาวของเขาทำให้เกิดเงาใต้ดวงตาของเขาชายผู้ปกครองเมือง เฉิน ตอนนี้กลับดูเหมือนเด็กที่อ่อนแอและทำอะไรไม่ถูก ราวกับว่าเขาต้องหยุดความเจ็บปวดด้วยตัวเองหลิง อี้หราน รู้สึกเจ็บปวดในใจของเธอ เขาเป็นคนสุดท้ายที่เธอควรสงสาร แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมความเจ็บปวดในใจได้เธอมองไปรอบ ๆ ห้องนั้นดูเหมือนห้องโถง
หลิง อี้หราน กล่าวกับอี้ จิ่นหลี ว่า “รอที่นี่นะ ฉันจะไปรับยา” ด้วยเหตุนี้เธอจึงรีบออกจากห้องโถงไว้ทุกข์อี้ จิ่นหลี นอนลงบนโซฟา รอที่นี่... นั่นคือสิ่งที่เธอเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้เมื่อเธอออกไปซื้อยาให้เขาตอนดึกเอาล่ะ เขาจะรอ เขาจะรอจนกว่าเธอจะกลับมา......หลิง อี้หราน รีบไปที่ประตูเหล็กของคฤหาสน์ โคมไฟตรงถนนข้างประตูเหล็กส่องให้เห็นใบหน้าที่งุนงงของคนส่งของคนส่งของไม่ได้คิดว่าจะมาส่งยาถึงทางเข้าคฤหาสน์หลังใหญ่เช่นนี้“คุณหลิง? คุณสั่งยาหรือเปล่าครับ?” ชายคนนั้นถาม“ใช่ค่ะ ฉันเอง” หลิง อี้หราน ตอบขณะที่เธอรับยาจากชายคนนั้น เธอขอบคุณเขาก่อนที่เธอจะหันและวิ่งไปห้องโถงสำหรับไว้ทุกข์คนส่งของเกาหัว เขามองไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด และยังคงงุนงงเล็กน้อยในห้องรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์ อี้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนมองไปที่หน้าจอเฝ้าระวังขณะที่หลิง อี้หราน วิ่งออกมาจากห้องโถงไว้ทุกข์เพื่อไปหายา"โอ้ พระเจ้า เธอใส่ชุดนอนออกมาข้างนอก?" ใครบางคนร้องอุทาน“เธอสั่ง... อาหารเหรอ?” ท้ายที่สุดไม่มีทางที่จะเห็นได้ชัดเจนจากหน้าจอเฝ้าระวัง สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือห
เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและมองไปที่เธอ เธอ... หอบจากการวิ่งกลับมา แม้ว่าเธอจะกลัวเขา รังเกียจเขา และอาจจะเกลียดเขาด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่อยากให้เขาเจ็บปวด? เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ดูเหมือนว่าความเจ็บปวดในร่างกายของเขาจะทวีความรุนแรงน้อยลงอี้ จิ่นหลี ให้ความร่วมมือโดยเปิดริมฝีปากของเขาและกลืนยาที่หลิง อี้หราน ป้อนเขาสายตาของเธอจ้องมองริมฝีปากของเขา และแน่นอนว่ามีรอยฟันที่ทิ้งร่องรอยไว้บนริมฝีปากของเขา เขาคงเจ็บปวดอย่างหนัก จนต้องกัดริมฝีปากไว้“ถ้าพี่มองผมแบบนั้นอีกครั้ง พี่จะทำให้ผมคิดว่าพี่อยากจูบผมแล้วนะ” เสียงของอี้ จิ่นหลี ดังขึ้นหลิง อี้หราน ดึงสติกลับมาหาตัวเอง ใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง “ฉันเพิ่งเห็นว่าคุณกัดริมฝีปากของคุณ ฉันไม่ได้คิดอะไรเลย”“มันไม่สำคัญหรอกว่าพี่จะคิดอะไร พี่จูบผมได้ทุกเมื่อที่พี่ต้องการเลยนะพี่สาว” เขากล่าว แม้ว่าใบหน้าของเขาจะยังคงซีดและหน้าผากของเขายังคงปกคลุมไปด้วยเหงื่อบาง ๆ แต่เขาก็ไม่ได้พูดตะกุกตะกักเหมือนเมื่อก่อนหลิง อี้หราน หันหน้าหนีจากการมองใบหน้าของอี้ จิ่นหลี เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองหน้าแดงขึ้นสายตาของเธอไปสะดุดกับศาลเล็ก ๆ สำหรับไว้ทุก
เขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้มาก่อน แต่เมื่อเขามองไปที่เธอที่กำลังยืนอยู่หน้าศาลไว้ทุกข์ของพ่อเขา เขาก็กล่าวมันออกมาอย่างเป็นธรรมชาติราวกับว่าเขาสามารถพูดออกมาจากใจได้ ก็ต่อเมื่อเขาเผชิญหน้ากับเธอ“ถึงจะพูดแบบนั้น ในช่วงนั้นพ่อของฉันก็น่าจะเคยเจอผู้หญิงหลายคน และคงมีผู้หญิงที่สวยกว่านี้แน่ ๆ เขาเป็นคนโง่ที่ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อผู้หญิงแบบนั้น” อี้ จิ่นหลี พึมพำ“พ่อของคุณไม่จำเป็นต้องชอบแม่ของคุณเพียงเพราะเธอน่ารักหรอก บางครั้งรูปลักษณ์ก็ไม่ได้สำคัญนักเมื่อเราชอบคนคนนึง ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเขาชอบกัน ไม่ว่าพวกเขาจะดีหรือไม่ดีก็ตาม” หลิง อี้หรานกล่าวดวงตาของอี้ จิ่นหลี กระพริบและจ้องมองไปที่ใบหน้าของหลิง อี้หราน “อาจจะ… ก็อย่างที่พี่บอก บางครั้งรูปลักษณ์ก็ไม่สำคัญนักเมื่อเราชอบคนคนนึง…”ราวกับว่าเขาชอบเธอ เขาเคยเห็นผู้หญิงที่สวยกว่า เข้าใจหัวอกผู้ชายมากกว่า และมีความสุขมากกว่ากับเธอ แต่เขากลับชอบความรู้สึกที่เธอมอบให้เขาเขาชอบความอบอุ่นที่แสนสงบเมื่อเธอเป็นห่วงเขา เขาชอบให้เธอเรียกเขาว่า ‘จิน’ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาชอบให้เธอจับมือของเขาตอนนอนในตอนกลางคืน...สายตาของเขาดูเปรียบเหมือนบางสิ่งบ
“เกิดอะไรขึ้น?” หลิง อี้หราน ถามด้วยความสงสัยขณะที่อี้ จิ่นหลี หยุดเดิน“ไม่มีอะไร” อี้ จิ่นหลีตอบพร้อมก้มหน้าลง“คุณรู้สึกยังไงตอนนี้?” หลิง อี้หราน ถามเมื่อพวกเขากลับไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่“ดีขึ้นแล้ว” เขาตอบ“แม้ว่าอาการปวดท้องของคุณจะดีขึ้นมานานแล้ว แต่คุณก็ยังต้องไปหาหมอเพื่อรักษาเมื่อคุณว่าง” หลิง อี้หรานกล่าว “ความเจ็บป่วยบางอย่างเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เราไม่ได้ให้ความสำคัญ และในที่สุดก็จะพัฒนาไปสู่สิ่งที่ร้ายแรง”“เป็นห่วงผมเหรอครับพี่สาว?” เขากล่าวขณะที่รอยยิ้มผุดขึ้นจากมุมปากของเขาเธอสำลัก และอยากจะหนีขึ้นไปชั้นบนเพราะเธอรู้สึกเขินอาย ทันใดนั้น เขาก็ยกมือขึ้นและดึงเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขา “เอาล่ะ ผมสัญญากับพี่ ผมจะหาเวลาไปหาหมอและทำให้ร่างกายของผมแข็งแรงขึ้น ผมจะดีขึ้นและกินยาที่พี่ซื้อให้ผมวันนี้ พี่จะชอบผมขึ้นมาอีกนิดบ้างไหมถ้าผมเชื่อฟังพี่?”“อะไรนะ?” เธอตะลึงเล็กน้อย เขากำลังพูดอะไร? เขาพูดอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ? โอ้พระเจ้า มันเป็นไปได้อย่างไร? ผู้ชายอย่างเขาจะพูดอะไรแบบนั้นได้ยังไง?เขาก้มศีรษะลง เมื่อใบหน้าของเขาใกล้กับใบหน้าของเธอ แล้วกล่าวด้วยเสียงต่ำราวกับเครื่องเ