“เจียฮุ่ย การจราจรในเมืองนี้ค่อนข้างติดขัดและหาที่จอดรถได้ไม่สะดวกนัก ขี่มอเตอร์ไซค์มันสะดวกกว่า”“เธอจอดรถไว้ที่นี่ก่อนแล้วค่อยกลับมาเอาหลังจากช้อปปิ้งเสร็จแล้วแล้วกัน”ฉินหมิงรู้ว่าหลี่เจียฮุ่ยมาด้วยรถยนต์ ซึ่งไม่สะดวกเท่ากับการขี่มอเตอร์ไซค์"อืม...โอเค"หลี่เจียฮุ่ยพยักหน้า จากนั้นฉินหมิงก็พาเธอออกไปด้วยรถมอเตอร์ไซค์ของเขา……ฟูหลงมอลล์ที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ใกล้ที่สุดกับร้านอาหารหลังจากที่ฉินหมิงจอดรถแล้ว เขาก็เดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าพร้อมกับหลี่เจียฮุ่ยทั้งสองคนก็เดินไปรอบ ๆเมื่อเห็นร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ใหญ่ หลี่เจียฮุ่ยก็ดึงฉินหมิงให้เดินเข้าไปด้วยกันแม้ว่าร้านขายเสื้อผ้าแห่งนี้จะไม่ใช่แบรนด์ต่างประเทศ แต่ก็เป็นแบรนด์ในประเทศที่มีชื่อเสียงซึ่งอยู่ในระดับกลางถึงระดับสูงพื้นที่ภายในกว้างมาก ในร้านแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ โซนเสื้อผ้าบุรุษที่อยู่ทางด้านซ้าย และโซนเสื้อผ้าสตรีทางด้านขวาหลี่เจียฮุ่ยดึงฉินหมิงเข้าไปในบริเวณเสื้อผ้าผู้ชาย“เจียฮุ่ย เธออยากซื้อเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ?”“เราหน้าจะไปที่โซนเสื้อผ้าสตรี แล้วพาฉันไปโซนเสื้อผ้าบุรุษทำไม?”ฉินหมิงป
“ฉินหมิง เสื้อผ้าเปลี่ยนตามฤดูกาล และสไตล์ก็เปลี่ยนไปเร็วเสมอ ตอนนี้เราซื้อชุดเดียวก่อนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อหลายชุดหรอก”หลี่เจียฮุ่ยฝืนยิ้ม“ไม่เป็นไรนะ ฉันมีเสื้อผ้าค่อนข้างน้อย ซื้อเพิ่มอีกสองสามชุดในคราวเดียวก็ไม่เสียหายหรอก”ฉินหมิงกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย"แต่......"หลี่เจียฮุ่ยหัวเราะไม่ออกอีกต่อไป เธอต้องการโน้มน้าวฉินหมิงต่อ แต่ฉินหมิงขัดจังหวะเธอก่อนที่เธอจะพูดอะไรได้“ไม่มีแต่หรอก เอาแบบนี้แหละ”“คุณพนักงานผมต้องการเสื้อผ้าพวกนี้ทั้งหมด แพ็คให้ที”ฉินหมิงกล่าวเต็มเสียง"ตกลง......"พนักงานหญิงดีใจเป็นอย่างมาก เธอไม่เคยพบลูกค้าที่ใจป้ำเท่าฉินหมิงมาก่อน เธอรู้ทันทีว่าลูกค้าอาจเป็นชายเศรษฐีซึ่งมีเงินใช้ไม่ขาดมือ และท่าทีในการบริการของเธอก็กระตือรือร้นมากขึ้นหลังจากนั้นแทบจะในทันที เธอก็รีบห่อเสื้อผ้าหลายชุดราวกับกลัวว่าฉินหมิงจะเปลี่ยนใจเมื่อเห็นฉากนี้หลี่เจียฮุ่ยก็ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ฉินหมิงพูดเรื่องใหญ่เสร็จแล้ว และพนักงานสาวก็เก็บเสื้อผ้าไป หากเธอคัดค้านในเวลานี้ มันก็จะเป็นการหักหน้าฉินหมิง ไม่เพียงแต่จะเป็นการหยามศักดิ์ศรีของฉินหมิงเท่านั้น แต่สถานะความเป็นเ
"แต่......"หลี่เจียฮุ่ยตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รู้สึกขมขื่นอยู่ในใจจะแสดงออกก็ไม่ได้“เอาล่ะ เราไปดูเสื้อผ้ากันดีกว่า”ฉินหมิงอดไม่ได้ที่จะดึงหลี่เจียฮุ่ยไปที่บริเวณเสื้อผ้าสตรีเมื่อเห็นว่าเธอปฏิเสธไม่ได้ หลี่เจียฮุ่ยถึงลอบถอนหายใจอยู่ในใจ ‘อย่างนั้นก็ช่างเถอะ ยังไงซะเธอก็อยู่ที่นี่แล้ว จะลองสักสองสามชุดก็ไม่เป็นไร ถ้าราคาแพงเกินไปเราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ’ด้วยความคิดนี้ หลี่เจียฮุ่ยจึงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นพวกเขาเดินเข้าสู่แผนกเสื้อผ้าสตรี"คุณผู้หญิง ชุดเดรสรัดรูป กระโปรงสั้น และเสื้อผ้าสตรีล้วนเป็นสินค้าคุณภาพสูงในร้านของเรา เราออกแบบอย่างมีระดับและหรูหรา แถมยังเข้ากับบุคลิกของคุณอีกด้วย คุณสามารถลองใส่ได้เลยนะคะ..."พนักงานหญิงแสดงความกระตือรือร้นอย่างมากและชี้ไปที่แถวเสื้อผ้าสตรีคุณภาพสูงในตู้เสื้อผ้าตรงหน้าเธอ และแนะนำให้ฉินหมิงและหลี่เจียฮุ่ยฟัง"แต่......"หลี่เจียฮุ่ยลังเลเนื่องจากเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นเสื้อผ้าสตรีคุณภาพสูงทั้งหมด ราคาของมันจึงไม่ใช่เล่น ๆ แน่นอน และเธอคงไม่มีปัญญาจ่ายแต่ทว่าผู้หญิงทุกคนรักความสวยความงาม และเธอเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเสื้อผ้
ราคามันแพงเกินไป และเธอก็ไม่สามารถจ่ายได้จริง ๆ"ฉันไม่คิดว่าจะสวยอะไรมากหรอก""ช่างเถอะ เราไปดูร้านอื่นกันดีกว่า..."หลี่เจียฮุ่ยคืนเสื้อผ้าบางส่วนให้กับพนักงานรอยยิ้มบนใบหน้าของพนักงานจางลง และเธอก็รู้สึกผิดหวังมากเดิมทีเธอคิดว่าหลี่เจียฮุ่ยต้องการซื้อหนึ่งหรือสองชิ้น แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะไม่ถูกใจอะไรเลยแต่ถึงกระนั้นหลี่เจียฮุ่ยก็สวยเกินไปและถือเป็นเรื่องปกติที่เธอจะมีมาตรฐานสูง บางที เสื้อผ้าระดับกลางถึงสูงเหล่านี้อาจไม่ดึงดูดสายตาหลี่เจียฮุ่ยก็เป็นได้เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ทันใดนั้นพนักงานก็ตระหนักได้ จึงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าข้างหน้าและแนะนำว่า "คุณผู้หญิงคนสวย นี่คือชุดราตรีที่คุณภาพดีกว่า ซึ่งออกแบบโดยดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงของประเทศ""ไม่ว่าจะเป็นตัวเนื้อผ้าหรือดีไซน์ก็เทียบได้กับแบรนด์ระดับไฮเอนด์และแบรนด์ต่างประเทศมากมาย นี่คือสินค้าที่ดีที่สุดในบรรดาสินค้าระดับสูงสุดของเรา..."ฉินหมิงและหลี่เจียฮุ่ยมองออกไปก็เห็นชุดราตรีสั้นแสนสวยแขวนอยู่ในตู้กระจก การออกแบบชายกระโปรงนั้นดูเบา หรูหรา และมีระดับ แขนเสื้อไหล่เป็นดวงประดับมุกซึ่งแพรวพราวภายใต้แสงไฟ"ชุดราตรีนี้สวยมาก
“พนักงาน นอกจากชุดราตรีนี้แล้ว ผมยังอยากได้เสื้อผ้าทั้งหมดที่เจียฮุ่ยลองใส่เมื่อครู่ด้วย!”"คิดเงินรวมกันได้เลย!"ฉินหมิงกล่าวอย่างเด็ดขาด“ได้ค่ะ ฉันจะจัดการให้เดี๋ยวนี้!”พนักงานดีใจมากจึงรีบหยิบเสื้อผ้าสตรีคุณภาพสูงออกมาสองสามชิ้นแล้วเริ่มแพ็คใส่ถุงทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแทบจะระเบิดออกมาด้วยความดีใจ“คุณพนักงาน เดี๋ยวก่อน!”“เราไม่อยากได้เสื้อผ้าสตรีพวกนี้กับชุดราตรีที่ฉันใส่เลย...”หลี่เจียฮุ่ยตกใจมากจนใบหน้าของเธอซีดลง และเธอก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดเขา“เจียฮุ่ย เสื้อผ้าพวกนี้เหมาะกับเธอทีเดียว”"ทำไมถึงจะไม่ซื้อล่ะ?"ฉินหมิงแปลกใจเป็นที่สุด"ฉัน......"ใบหน้าของหลี่เจียฮุ่ยเปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วเธอก็ไม่คิดจะหน้าบางอีกต่อไป แล้วกระซิบว่า "ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอก ... ""ไม่มีเงิน?"พนักงานรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ และสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปฉินหมิงดูทะนงองอาจและสง่างามมากในตอนนี้ เธอนึกว่าฉินหมิงจะเป็นนายน้อยจากตระกูลเศรษฐีเสียอีกแต่ตอนนี้เธอตระหนักกับตัวเองได้ว่าบางทีคนสองคนนี้อาจแกล้งทำเป็นรวยก็ได้!พวกเขาสองคนคงไม่ได้คิ
หลี่เจียฮุ่ยพูดอย่างกังวลใจ เธอหวังว่าฉินหมิงจะได้สติและไม่หลงเดินทางผิดฉินหมิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขารู้ว่าหลี่เจียฮุ่ยเข้าใจผิด แต่เขาก็รู้ด้วยว่าหลี่เจียฮุ่ยปรารถนาดี ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม“ตกลง ฉันจะฟังเธอ ฉันจะไม่กลับไปประมูลหยกดิบอีกแล้ว”ฉินหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้มตอนที่เขาตั้งค่ายกลรวมวิญญาณครั้งก่อน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเสี่ยงโชคกับหยกดิบสายน้ำในอุตสาหกรรมนี้เชี่ยวกรากเกินไป หากเขาหลงระเริงและมีคนพบว่าเขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณในหยกดิบ ผลที่ตามมาจะเป็นหายนะ!เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะพาตัวเองไปสู่จุดจบได้อย่างง่ายดาย!ดังนั้นหลังจากตอนนั้นจนครั้งล่าสุด เขาไม่เคยเสี่ยงโชคกับหยกดิบอีกเลย และเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะกอบโกยเงินทองจะอุตสาหกรรมนี้มากมายเท่าไร"ดีแล้ว"หลังจากได้รับคำรับรองจากฉินหมิงแล้วหลี่เจียฮุ่ยก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นดูเหมือนเธอจะจำอะไรบางอย่างได้ และพูดด้วยความโกรธว่า "ฉินหมิง ถึงนายจะพอมีโชคอยู่กับตัว แต่อนาคตนายจำเป็นต้องซื้อบ้านและรถยนต์ และจะต้องใช้เงินอีกไม่น้อยเลยด้วย!""แม้ว่าตอนนี้นายจะมีเงินอยู่บ้าง แต่นายก็ไม่อาจใช้มัน
หลี่เจียฮุ่ยยิ้มและทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่เธอพูดดูเหมือนจะมีความคลุมเครือทำให้เธอหน้าแดงฉินหมิงแค่เล่นตลกไม่คิดใส่ใจอะไร เขาชี้ไปที่ร้านขายเครื่องสำอางที่อยู่ไม่ไกลและพูดว่า "เจียฮุ่ย เธอยังอยากซื้อเครื่องสำอางบ้างไหม?""ร้านขายเครื่องสำอางด้านหน้าก็ดูสวยดีนะ ไปลองดูกัน""อืม"ใบหน้าที่สวยงามของหลี่เจียฮุ่ยเปลี่ยนเป็นสีแดง และทั้งสองก็เดินไปด้วยกันนี่คือร้านเครือเครื่องสำอางแบรนด์ใหญ่ที่จำหน่ายเครื่องสำอางระดับไฮเอนด์และกลางถึงไฮเอนด์เป็นหลัก รวมถึงเครื่องสำอางชื่อดังระดับนานาชาติมากมาย จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว น้ำหอม เวชสำอาง ฯลฯ มากมายฉินหมิงและหลี่เจียฮุ่ยเดินเข้าไปในร้านเครื่องสำอางอาจเป็นเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ ลูกค้าในร้านจึงเยอะมาก และพนักงานหลายคนก็ยุ่งเกินกว่าจะออกไปได้ฉินหมิงเดินไปรอบ ๆ กับหลี่เจียฮุ่ยสักพัก แต่ไม่มีพนักงานมาทักทายพวกเขาหลังจากมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง ในที่สุดพวกเขาก็เห็นพนักงานที่กำลังว่างอยู่ และทั้งสองก็เดินเข้าไปหาพนักงานคนนั้น“สวัสดีค่ะ ฉันต้องการซื้อเครื่องสำอางที่ช่วยเรื่องเติมความชุ่มชื้น ไม่รู้ว่าอันไหนน่าใช้กว่ากัน ช่วยแนะนำหน่อยได้
จากการคำนวณของเขา เวชสำอางจะเข้าสู่ตลาดผ่านโจวกรุ๊ปและราคาขายปลีกขั้นสุดท้ายคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณหกพันถึงเจ็ดพันแต่ตอนนี้ราคาขายปลีกสูงถึงชุดละหนึ่งหมื่นสองพันไปแล้ว ถ้าไม่เรียกว่าแพงแล้วจะเรียกว่าอะไรได้อีก?“ราคาเพียงชุดละหนึ่งหมื่นสองพัน แพงเกินไปหรือเปล่า?”“คุณเป็นคนจน ไม่มีเงินพอ แล้วจะมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”พนักงานโกรธและไม่คิดจะรักษาน้ำใจตอนนี้เธอตัดสินฉินหมิงไปแล้วว่าเขามาหาเธอหลังจากที่เขาตัดสินใจแน่แล้วว่าเขาต้องการซื้อมันแต่ตอนนี้ทั้งที่เธอยอมสละเวลาพักมา แต่ฉินหมิงกลับคิดว่ามันแพงเกินไป เธอจึงไม่อาจมองฉินหมิงในแง่ดีได้!"นี่......"ฉินหมิงรู้สึกอับอายที่ถูกดุเขายังมีเงินเหลืออยู่ในบัตรธนาคารประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบล้าน และกับเงินแค่หนึ่งหมื่นสองพันก็ถือว่าเล็กน้อยสำหรับเขาแต่ความแตกต่างระหว่างราคาหน้าโรงงานและราคาขายปลีกของเวชสำอางนั้นต่างกันเกินไป และเขาก็สับสนเล็กน้อย ได้แต่สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นท้ายที่สุดแล้วบริษัทได้จัดส่งสินค้าให้กับโจวกรุ๊ปในราคาชุดละสามพัน ตอนนี้ราคาขายปลีกสูงมากมีความเป็นไปได้มากที่โจวกรุ๊ปจะสามารถทำกำไรมหาศาลจากมันได้หากเป็นกรณีนี้จร