หลี่เจียฮุ่ยพูดอย่างกังวลใจ เธอหวังว่าฉินหมิงจะได้สติและไม่หลงเดินทางผิดฉินหมิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขารู้ว่าหลี่เจียฮุ่ยเข้าใจผิด แต่เขาก็รู้ด้วยว่าหลี่เจียฮุ่ยปรารถนาดี ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม“ตกลง ฉันจะฟังเธอ ฉันจะไม่กลับไปประมูลหยกดิบอีกแล้ว”ฉินหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้มตอนที่เขาตั้งค่ายกลรวมวิญญาณครั้งก่อน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเสี่ยงโชคกับหยกดิบสายน้ำในอุตสาหกรรมนี้เชี่ยวกรากเกินไป หากเขาหลงระเริงและมีคนพบว่าเขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณในหยกดิบ ผลที่ตามมาจะเป็นหายนะ!เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะพาตัวเองไปสู่จุดจบได้อย่างง่ายดาย!ดังนั้นหลังจากตอนนั้นจนครั้งล่าสุด เขาไม่เคยเสี่ยงโชคกับหยกดิบอีกเลย และเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะกอบโกยเงินทองจะอุตสาหกรรมนี้มากมายเท่าไร"ดีแล้ว"หลังจากได้รับคำรับรองจากฉินหมิงแล้วหลี่เจียฮุ่ยก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นดูเหมือนเธอจะจำอะไรบางอย่างได้ และพูดด้วยความโกรธว่า "ฉินหมิง ถึงนายจะพอมีโชคอยู่กับตัว แต่อนาคตนายจำเป็นต้องซื้อบ้านและรถยนต์ และจะต้องใช้เงินอีกไม่น้อยเลยด้วย!""แม้ว่าตอนนี้นายจะมีเงินอยู่บ้าง แต่นายก็ไม่อาจใช้มัน
หลี่เจียฮุ่ยยิ้มและทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่เธอพูดดูเหมือนจะมีความคลุมเครือทำให้เธอหน้าแดงฉินหมิงแค่เล่นตลกไม่คิดใส่ใจอะไร เขาชี้ไปที่ร้านขายเครื่องสำอางที่อยู่ไม่ไกลและพูดว่า "เจียฮุ่ย เธอยังอยากซื้อเครื่องสำอางบ้างไหม?""ร้านขายเครื่องสำอางด้านหน้าก็ดูสวยดีนะ ไปลองดูกัน""อืม"ใบหน้าที่สวยงามของหลี่เจียฮุ่ยเปลี่ยนเป็นสีแดง และทั้งสองก็เดินไปด้วยกันนี่คือร้านเครือเครื่องสำอางแบรนด์ใหญ่ที่จำหน่ายเครื่องสำอางระดับไฮเอนด์และกลางถึงไฮเอนด์เป็นหลัก รวมถึงเครื่องสำอางชื่อดังระดับนานาชาติมากมาย จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว น้ำหอม เวชสำอาง ฯลฯ มากมายฉินหมิงและหลี่เจียฮุ่ยเดินเข้าไปในร้านเครื่องสำอางอาจเป็นเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ ลูกค้าในร้านจึงเยอะมาก และพนักงานหลายคนก็ยุ่งเกินกว่าจะออกไปได้ฉินหมิงเดินไปรอบ ๆ กับหลี่เจียฮุ่ยสักพัก แต่ไม่มีพนักงานมาทักทายพวกเขาหลังจากมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง ในที่สุดพวกเขาก็เห็นพนักงานที่กำลังว่างอยู่ และทั้งสองก็เดินเข้าไปหาพนักงานคนนั้น“สวัสดีค่ะ ฉันต้องการซื้อเครื่องสำอางที่ช่วยเรื่องเติมความชุ่มชื้น ไม่รู้ว่าอันไหนน่าใช้กว่ากัน ช่วยแนะนำหน่อยได้
จากการคำนวณของเขา เวชสำอางจะเข้าสู่ตลาดผ่านโจวกรุ๊ปและราคาขายปลีกขั้นสุดท้ายคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณหกพันถึงเจ็ดพันแต่ตอนนี้ราคาขายปลีกสูงถึงชุดละหนึ่งหมื่นสองพันไปแล้ว ถ้าไม่เรียกว่าแพงแล้วจะเรียกว่าอะไรได้อีก?“ราคาเพียงชุดละหนึ่งหมื่นสองพัน แพงเกินไปหรือเปล่า?”“คุณเป็นคนจน ไม่มีเงินพอ แล้วจะมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”พนักงานโกรธและไม่คิดจะรักษาน้ำใจตอนนี้เธอตัดสินฉินหมิงไปแล้วว่าเขามาหาเธอหลังจากที่เขาตัดสินใจแน่แล้วว่าเขาต้องการซื้อมันแต่ตอนนี้ทั้งที่เธอยอมสละเวลาพักมา แต่ฉินหมิงกลับคิดว่ามันแพงเกินไป เธอจึงไม่อาจมองฉินหมิงในแง่ดีได้!"นี่......"ฉินหมิงรู้สึกอับอายที่ถูกดุเขายังมีเงินเหลืออยู่ในบัตรธนาคารประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบล้าน และกับเงินแค่หนึ่งหมื่นสองพันก็ถือว่าเล็กน้อยสำหรับเขาแต่ความแตกต่างระหว่างราคาหน้าโรงงานและราคาขายปลีกของเวชสำอางนั้นต่างกันเกินไป และเขาก็สับสนเล็กน้อย ได้แต่สงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นท้ายที่สุดแล้วบริษัทได้จัดส่งสินค้าให้กับโจวกรุ๊ปในราคาชุดละสามพัน ตอนนี้ราคาขายปลีกสูงมากมีความเป็นไปได้มากที่โจวกรุ๊ปจะสามารถทำกำไรมหาศาลจากมันได้หากเป็นกรณีนี้จร
ซุนกวนชงกอดหม่าลู่แล้วเดินเข้ามาด้วยท่าทีรักใคร่เขาไม่ได้เจอเธอมาสักพักแล้ว และเอวของหม่าลู่ก็ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยแม้ว่าเธอจะสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ แต่มันก็ไม่อาจซ่อนการตั้งครรภ์ของเธอได้อีกต่อไปถ้าใครที่สังเกตให้ดีสักหน่อยก็จะสามารถบอกได้ว่าเธอท้องอยู่“คุณซุน ทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะคะ?”เมื่อเห็นซุนกวนชง ทัศนคติของพนักงานก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที และเธอก็ทักทายเขาด้วยใบหน้าประจบสอพลอ“ฉันก็แค่มาเพื่อตรวจสอบเท่านั้น”ซุนกวนชงมีท่าทีวางตัว ดูเย่อหยิ่งเช่นเคยร้านเครื่องสำอางในเครือขนาดใหญ่ตรงหน้าเขาเป็นธุรกิจของซุนเอนเตอร์ไพรซ์ ร้านค้าหลายสิบแห่งในเจียงเฉิงเดี๋ยวภายใต้การดูแลของเขาทั้งหมด เขาเป็นผู้จัดการทั่วไปของร้านค้าในเครือหลายสิบแห่งเหล่านี้“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น? มีเรื่องอะไรกัน?”ซุนกวนชงถามพนักงาน"ดิฉันต้องขอรายงานค่ะคุณซุน ยาจกพวกนี้กำลังมาสร้างปัญหาที่นี่เพราะพวกเขาต้องการซื้อเครื่องสำอางแบรนด์อานิสทรี แต่พวกเขาพบว่ามันแพงเกินไป..."บริกรชี้ไปที่ฉินหมิงและคนอื่น ๆ ด้วยท่าทางดูถูก“ใครกล้าก่อปัญหาในพื้นที่ของซุนเอนเตอร์ไพรซ์ของเรา ช่างกล้าจริง ๆ!”ซุนก
“ทั้งสองคนนี้เป็นภรรยาเก่าของฉันและเป็นชายชู้ของเธอ!”ฉินหมิงเอ่ยเสียงเรียบ โดยปราศจากความโกรธหรือความผันผวนทางอารมณ์ใด ๆ“อ๋อพวกเขานั่นเอง!”หลี่เจียฮุ่ยตระหนักได้ทันทีเธอรู้ว่าฉินหมิงถูกหม่าลู่ไล่ออกจากบ้าน และนั่นช่างเป็นวิธีที่โหดร้ายเกินไป!แม้ว่าเธอจะมีนิสัยที่เรียบร้อย แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจแทนฉินหมิง เธอจึงมองไปที่ซุนกวนชงและหม่าลู่ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรอย่างมาก“ฉินหมิง ฉันไม่คิดว่าหลังจากที่เราหย่ากันได้ไม่นาน คุณจะไปหาผู้หญิงคนอื่นได้เร็วขนาดนี้!”“คุณนี่ลื่นเป็นปลาไหลเชียวนะ!”ใบหน้าของหม่าลู่ดูบอกบุญไม่รับเดิมทีเธอหมายหัวไปแล้วว่าฉินหมิงเป็นคนไร้ค่า แล้วหลังจากที่เธอทิ้งเขาไปเขาจะต้องใช้ชีวิตอย่างน่าสมเพชอย่างแน่นอน เขาคงไม่มีปัญญาหาผู้หญิงคนไหนได้ไปตลอดชีวิต!แต่เธอไม่คิดเลยว่าในวันหย่าร้าง ฉินหมิงจะพูดคุยกับหลินหว่านชิง สาวงามอันดับหนึ่งจากสี่ของเจียงเฉิง!และตอนนี้เขาก็ได้พบกับสาวงามที่น่าทึ่งอีกคนหนึ่งแล้วเมื่อได้เห็นคนสวยกว่ามายืนเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็คงจินตนาการได้ว่าเธอรู้สึกเช่นไร!“ลู่ลู่ คุณคิดมากเกินไปแล้ว!”“ผู้หญิงคนนี้งดงามมาก เธอจะไ
ฉินหมิงกอดเอวอันคอดกิ่วและนุ่มนวลของหลี่เจียฮุ่ยแล้ววางแผนที่จะจากไปเพราะอย่างไรเขาก็ได้ก้าวผ่านเรื่องของหม่าลู่มาได้แล้วและหลี่เจียฮุ่ยก็ช่วยรักษาหน้าเขาเอาไว้ได้มากทีเดียวตราบใดที่ซุนกวนชงและหม่าลู่ไม่คิดจะหาเรื่องเขาอีก เขาก็ไม่คิดจะทำตัวร้าย ๆ ใส่อีกฝ่ายอย่างที่พวกเขาทำ"เดี๋ยว"“เรายังไม่ได้ซื้อเครื่องสำอางเลยนี่นา”หลี่เจียฮุ่ยจับมือของฉินหมิง เสียงกระซิบอันนุ่มนวลของเธอทำให้คนอื่นชาไปทั้งร่าง“เครื่องสำอางที่นี่แพงเกินไป ถ้างั้นก็อย่าซื้อเลย!”"ถ้าเธอต้องการเครื่องสำอางแบรนด์อานิสทรีจริง ๆ ฉันจะจัดหาชุดที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่ากับเธอสองชุดทีหลังเอง"ฉินหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเขารับผิดชอบในการผลิตเวชสำอางของอานิสทรี กรุ๊ป ตราบใดที่เติมน้ำค้างวิญญาณลงในเวชสำอางให้มากขึ้นผลที่ได้ก็จะดีขึ้นตามไปด้วยในเวลานั้น เขาสามารถสร้างเวชสำอางให้กับหลี่เจียฮุ่ยเป็นพิเศษได้หลายชุดทีเดียว"ไม่ ฉันต้องการชุดนี้!"“เพียงหนึ่งหมื่นสองพันเท่านั้นนี่นา!”“พนักงานห่อให้ฉันหน่อย ฉันอยากได้ชุดนี้!”หลี่เจียฮุ่ยกล่าวอย่างใจเย็นและอารมณ์ดี แม้รู้ว่าแพ้แต่สู้ไม่ถอย ถึงจะแพ้ก็ไม่เสียหน้าเธอยอ
ฉินหมิงหัวเราะอย่างเย็นชา“ในห้างสรรพสินค้าอื่น ๆ เครื่องสำอางของอาร์ทิสทรีกรุ๊ปขายในราคาหกหมื่นหกพันบ้าง แต่ร้านเครื่องสำอางในเครือซุนเอนเตอร์ไพรส์ขึ้นราคาเกือบสองเท่าโดยไม่ได้รับอนุญาต สิ่งนี้ส่งผลเสียร้ายแรงต่อผลประโยชน์ของผู้บริโภค จะเป็นอะไรไปได้อีกถ้าไม่ใช่การโก่งราคา!“ทำไม นายคิดจะรายงานฉันหรือไง?”“ก็ไปรายงานเลยสิ!”“แต่ฉันจะบอกนายให้นะ ซุนเอนเตอร์ไพรส์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันมาก แม้ว่านายจะไปรายงานฉันก็ไม่เสียเงินสักแดงเดียว!”ซุนกวนชงพูดเยาะเย้ยร้านค้าในเครือของพวกเขาขึ้นราคากว่าเครื่องสำอางแบรนด์กลุ่มธุรกิจอาร์ทิสทรีกรุ๊ปเป็นการส่วนตัวซึ่งเป็นเพียงผลข้างเคียงแม้ว่าคนในแผนกที่เกี่ยวข้องจะรู้เรื่องนี้พวกเขาก็จะไม่ใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยพวกนี้อยู่ดีอีกทั้งซุนเอนเตอร์ไพรส์ของพวกเขาได้ดำเนินกิจการในเมืองเจียงเฉิงมาหลายปีแล้ว และมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ซับซ้อนมากยกเว้นเสียแต่ว่าฉินหมิงจะมีอำนาจคับฟ้า ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีปัญญาซะหรอก!“งั้นเหรอ งั้นมารอดูกันได้เลย!”“ครั้งนี้ ฉันต้องการให้ร้านในเครือเครื่องสำอางทั้งหมดซุนเอนเตอร์ไพรส์ที่นายเป็นเจ
“ฮัลโหลครับคุณโจว ไม่ทราบว่าที่คุณโทรมาหาผม มีคำสั่งอะไรหรือเปล่าครับ?”ซุนกวนชงแสร้งพูดยิ้มทำเป็นพูดประจบสอพลอเขากับโจวเจี้ยนสองคนก็เป็นถึงนายน้อยของตระกูลใหญ่เหมือนกัน เพียงแต่ว่าตระกูลโจวนั้นทรงพลังและเป็นตระกูลชั้นหนึ่งซุนเอนเตอร์ไพรส์เป็นตระกูลรองที่ดีที่สุด และความแข็งแกร่งในทุกด้านยังด้อยกว่าตระกูลโจวมากเพราะฉะนั้นตอนที่เขาอยู่ต่อหน้าโจวเจี้ยน เขาจึงไม่กล้าเบ่งอำนาจมากนักอีกอย่าง อุปทานของร้านเครือเครื่องสำอางมากกว่าหนึ่งโหลที่เขาควบคุมทั้งหมดได้รับการควบคุมโดยโจวกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของเขาเขาไม่จำเป็นต้องญาติดีกับลูกคนรวย แต่คนเดียวที่เขาทำให้ขุ่นเคืองไม่ได้คือโจวเจี้ยน!“ซุนกวนชง นายนี่ทำเรื่องงามหน้านักนะ!”“นับจากวันนี้เป็นต้นไป โจวกรุ๊ปของฉันจะตัดความร่วมมือทั้งหมดกับร้านค้าในเครือเครื่องสำอางของนายและจะไม่จัดหาผลิตภัณฑ์อะไรให้กับนายอีกต่อไป…”โจวเจี้ยนตะโกนด้วยความโกรธ“อะไรนะครับ?”ซุนกวนฉงเหมือนฟ้าผ่าลงถึงตะลึงงันอยู่ตรงนั้นแม้ไม่รู้ว่าทำไมโจวเจี้ยนถึงได้ตัดความร่วมมือจากทางซุนเอนเตอร์ไพรส์ แต่เขาก็พอเข้าใจได้แล้วอย่างหนึ่งเมื่อร้านเครือเครื่อ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ