“ชำระด้วยบัตรเครดิต!”ฉินหมิงไม่สนใจ เขาหยิบบัตรธนาคารออกมาแล้วส่งให้บริกรเงินในบัตรมีอยู่ประมาณเจ็ดสิบถึงแปดสิบล้าน ซึ่งมากกว่าสามพันไปหลายเท่า นั่นไม่ทำให้ขนหน้าแข้งของเขาร่วงเมื่อมองดูบัตรธนาคารในมือของเธอ บริกรก็ตกใจคนที่สามารถมายังร้านอาหารระดับไฮเอนด์โดยพื้นฐานก็มักจะเป็นคนรวยไม่ก็เป็นคนที่มีเกียรติ และหลายคนเป็นทายาทตระกูลเศรษฐีซึ่งใช้บัตรจากธนาคารเจียงตูแม้ว่าบริกรจะจำไม่ได้ว่านี่คือบัตรสุพรีมการ์ดของธนาคารเจียงตู แต่เธอก็จำรูปลักษณ์ของบัตรธนาคารนี้ได้ และรู้ถึงน้ำหนักของบัตรธนาคารเจียงตูใบนี้ดี!เธอตกใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแอบรู้สึกยินดี โชคดีที่กริยาท่าทางของเธอตอนนี้ค่อนข้างดีและเธอก็ไม่ได้พูดอะไรไม่ดีออกมาไม่เช่นนั้น หากเธอทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคือง เธอคงไม่อาจทำงานที่นี่ต่อไปได้!“ฉินหมิง สถานการณ์ทางการเงินของนายไม่ค่อยดีนัก นายยังมีเรื่องที่ต้องใช้เงินอีกมากในอนาคต” “ฉันจะจ่ายค่าอาหารมื้อนี้เอง!”หลี่เจียฮุ่ยรีบขอบัตรธนาคารคืนจากบริกรแล้วส่งคืนให้ฉินหมิง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและส่งสัญญาณจ่ายพนักงานด้วยการโอนเงิน“ไม่ คราวนี้ฉันเป็นคนขอเลี้ยงอ
“เจียฮุ่ย การจราจรในเมืองนี้ค่อนข้างติดขัดและหาที่จอดรถได้ไม่สะดวกนัก ขี่มอเตอร์ไซค์มันสะดวกกว่า”“เธอจอดรถไว้ที่นี่ก่อนแล้วค่อยกลับมาเอาหลังจากช้อปปิ้งเสร็จแล้วแล้วกัน”ฉินหมิงรู้ว่าหลี่เจียฮุ่ยมาด้วยรถยนต์ ซึ่งไม่สะดวกเท่ากับการขี่มอเตอร์ไซค์"อืม...โอเค"หลี่เจียฮุ่ยพยักหน้า จากนั้นฉินหมิงก็พาเธอออกไปด้วยรถมอเตอร์ไซค์ของเขา……ฟูหลงมอลล์ที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ใกล้ที่สุดกับร้านอาหารหลังจากที่ฉินหมิงจอดรถแล้ว เขาก็เดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าพร้อมกับหลี่เจียฮุ่ยทั้งสองคนก็เดินไปรอบ ๆเมื่อเห็นร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ใหญ่ หลี่เจียฮุ่ยก็ดึงฉินหมิงให้เดินเข้าไปด้วยกันแม้ว่าร้านขายเสื้อผ้าแห่งนี้จะไม่ใช่แบรนด์ต่างประเทศ แต่ก็เป็นแบรนด์ในประเทศที่มีชื่อเสียงซึ่งอยู่ในระดับกลางถึงระดับสูงพื้นที่ภายในกว้างมาก ในร้านแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ โซนเสื้อผ้าบุรุษที่อยู่ทางด้านซ้าย และโซนเสื้อผ้าสตรีทางด้านขวาหลี่เจียฮุ่ยดึงฉินหมิงเข้าไปในบริเวณเสื้อผ้าผู้ชาย“เจียฮุ่ย เธออยากซื้อเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ?”“เราหน้าจะไปที่โซนเสื้อผ้าสตรี แล้วพาฉันไปโซนเสื้อผ้าบุรุษทำไม?”ฉินหมิงป
“ฉินหมิง เสื้อผ้าเปลี่ยนตามฤดูกาล และสไตล์ก็เปลี่ยนไปเร็วเสมอ ตอนนี้เราซื้อชุดเดียวก่อนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อหลายชุดหรอก”หลี่เจียฮุ่ยฝืนยิ้ม“ไม่เป็นไรนะ ฉันมีเสื้อผ้าค่อนข้างน้อย ซื้อเพิ่มอีกสองสามชุดในคราวเดียวก็ไม่เสียหายหรอก”ฉินหมิงกล่าวอย่างไม่เห็นด้วย"แต่......"หลี่เจียฮุ่ยหัวเราะไม่ออกอีกต่อไป เธอต้องการโน้มน้าวฉินหมิงต่อ แต่ฉินหมิงขัดจังหวะเธอก่อนที่เธอจะพูดอะไรได้“ไม่มีแต่หรอก เอาแบบนี้แหละ”“คุณพนักงานผมต้องการเสื้อผ้าพวกนี้ทั้งหมด แพ็คให้ที”ฉินหมิงกล่าวเต็มเสียง"ตกลง......"พนักงานหญิงดีใจเป็นอย่างมาก เธอไม่เคยพบลูกค้าที่ใจป้ำเท่าฉินหมิงมาก่อน เธอรู้ทันทีว่าลูกค้าอาจเป็นชายเศรษฐีซึ่งมีเงินใช้ไม่ขาดมือ และท่าทีในการบริการของเธอก็กระตือรือร้นมากขึ้นหลังจากนั้นแทบจะในทันที เธอก็รีบห่อเสื้อผ้าหลายชุดราวกับกลัวว่าฉินหมิงจะเปลี่ยนใจเมื่อเห็นฉากนี้หลี่เจียฮุ่ยก็ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ฉินหมิงพูดเรื่องใหญ่เสร็จแล้ว และพนักงานสาวก็เก็บเสื้อผ้าไป หากเธอคัดค้านในเวลานี้ มันก็จะเป็นการหักหน้าฉินหมิง ไม่เพียงแต่จะเป็นการหยามศักดิ์ศรีของฉินหมิงเท่านั้น แต่สถานะความเป็นเ
"แต่......"หลี่เจียฮุ่ยตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก รู้สึกขมขื่นอยู่ในใจจะแสดงออกก็ไม่ได้“เอาล่ะ เราไปดูเสื้อผ้ากันดีกว่า”ฉินหมิงอดไม่ได้ที่จะดึงหลี่เจียฮุ่ยไปที่บริเวณเสื้อผ้าสตรีเมื่อเห็นว่าเธอปฏิเสธไม่ได้ หลี่เจียฮุ่ยถึงลอบถอนหายใจอยู่ในใจ ‘อย่างนั้นก็ช่างเถอะ ยังไงซะเธอก็อยู่ที่นี่แล้ว จะลองสักสองสามชุดก็ไม่เป็นไร ถ้าราคาแพงเกินไปเราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ’ด้วยความคิดนี้ หลี่เจียฮุ่ยจึงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นพวกเขาเดินเข้าสู่แผนกเสื้อผ้าสตรี"คุณผู้หญิง ชุดเดรสรัดรูป กระโปรงสั้น และเสื้อผ้าสตรีล้วนเป็นสินค้าคุณภาพสูงในร้านของเรา เราออกแบบอย่างมีระดับและหรูหรา แถมยังเข้ากับบุคลิกของคุณอีกด้วย คุณสามารถลองใส่ได้เลยนะคะ..."พนักงานหญิงแสดงความกระตือรือร้นอย่างมากและชี้ไปที่แถวเสื้อผ้าสตรีคุณภาพสูงในตู้เสื้อผ้าตรงหน้าเธอ และแนะนำให้ฉินหมิงและหลี่เจียฮุ่ยฟัง"แต่......"หลี่เจียฮุ่ยลังเลเนื่องจากเสื้อผ้าเหล่านี้เป็นเสื้อผ้าสตรีคุณภาพสูงทั้งหมด ราคาของมันจึงไม่ใช่เล่น ๆ แน่นอน และเธอคงไม่มีปัญญาจ่ายแต่ทว่าผู้หญิงทุกคนรักความสวยความงาม และเธอเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเสื้อผ้
ราคามันแพงเกินไป และเธอก็ไม่สามารถจ่ายได้จริง ๆ"ฉันไม่คิดว่าจะสวยอะไรมากหรอก""ช่างเถอะ เราไปดูร้านอื่นกันดีกว่า..."หลี่เจียฮุ่ยคืนเสื้อผ้าบางส่วนให้กับพนักงานรอยยิ้มบนใบหน้าของพนักงานจางลง และเธอก็รู้สึกผิดหวังมากเดิมทีเธอคิดว่าหลี่เจียฮุ่ยต้องการซื้อหนึ่งหรือสองชิ้น แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะไม่ถูกใจอะไรเลยแต่ถึงกระนั้นหลี่เจียฮุ่ยก็สวยเกินไปและถือเป็นเรื่องปกติที่เธอจะมีมาตรฐานสูง บางที เสื้อผ้าระดับกลางถึงสูงเหล่านี้อาจไม่ดึงดูดสายตาหลี่เจียฮุ่ยก็เป็นได้เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ทันใดนั้นพนักงานก็ตระหนักได้ จึงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าข้างหน้าและแนะนำว่า "คุณผู้หญิงคนสวย นี่คือชุดราตรีที่คุณภาพดีกว่า ซึ่งออกแบบโดยดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงของประเทศ""ไม่ว่าจะเป็นตัวเนื้อผ้าหรือดีไซน์ก็เทียบได้กับแบรนด์ระดับไฮเอนด์และแบรนด์ต่างประเทศมากมาย นี่คือสินค้าที่ดีที่สุดในบรรดาสินค้าระดับสูงสุดของเรา..."ฉินหมิงและหลี่เจียฮุ่ยมองออกไปก็เห็นชุดราตรีสั้นแสนสวยแขวนอยู่ในตู้กระจก การออกแบบชายกระโปรงนั้นดูเบา หรูหรา และมีระดับ แขนเสื้อไหล่เป็นดวงประดับมุกซึ่งแพรวพราวภายใต้แสงไฟ"ชุดราตรีนี้สวยมาก
“พนักงาน นอกจากชุดราตรีนี้แล้ว ผมยังอยากได้เสื้อผ้าทั้งหมดที่เจียฮุ่ยลองใส่เมื่อครู่ด้วย!”"คิดเงินรวมกันได้เลย!"ฉินหมิงกล่าวอย่างเด็ดขาด“ได้ค่ะ ฉันจะจัดการให้เดี๋ยวนี้!”พนักงานดีใจมากจึงรีบหยิบเสื้อผ้าสตรีคุณภาพสูงออกมาสองสามชิ้นแล้วเริ่มแพ็คใส่ถุงทันที รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแทบจะระเบิดออกมาด้วยความดีใจ“คุณพนักงาน เดี๋ยวก่อน!”“เราไม่อยากได้เสื้อผ้าสตรีพวกนี้กับชุดราตรีที่ฉันใส่เลย...”หลี่เจียฮุ่ยตกใจมากจนใบหน้าของเธอซีดลง และเธอก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดเขา“เจียฮุ่ย เสื้อผ้าพวกนี้เหมาะกับเธอทีเดียว”"ทำไมถึงจะไม่ซื้อล่ะ?"ฉินหมิงแปลกใจเป็นที่สุด"ฉัน......"ใบหน้าของหลี่เจียฮุ่ยเปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วเธอก็ไม่คิดจะหน้าบางอีกต่อไป แล้วกระซิบว่า "ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้นหรอก ... ""ไม่มีเงิน?"พนักงานรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ และสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปฉินหมิงดูทะนงองอาจและสง่างามมากในตอนนี้ เธอนึกว่าฉินหมิงจะเป็นนายน้อยจากตระกูลเศรษฐีเสียอีกแต่ตอนนี้เธอตระหนักกับตัวเองได้ว่าบางทีคนสองคนนี้อาจแกล้งทำเป็นรวยก็ได้!พวกเขาสองคนคงไม่ได้คิ
หลี่เจียฮุ่ยพูดอย่างกังวลใจ เธอหวังว่าฉินหมิงจะได้สติและไม่หลงเดินทางผิดฉินหมิงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขารู้ว่าหลี่เจียฮุ่ยเข้าใจผิด แต่เขาก็รู้ด้วยว่าหลี่เจียฮุ่ยปรารถนาดี ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม“ตกลง ฉันจะฟังเธอ ฉันจะไม่กลับไปประมูลหยกดิบอีกแล้ว”ฉินหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้มตอนที่เขาตั้งค่ายกลรวมวิญญาณครั้งก่อน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเสี่ยงโชคกับหยกดิบสายน้ำในอุตสาหกรรมนี้เชี่ยวกรากเกินไป หากเขาหลงระเริงและมีคนพบว่าเขาสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณในหยกดิบ ผลที่ตามมาจะเป็นหายนะ!เมื่อถึงเวลานั้นเขาจะพาตัวเองไปสู่จุดจบได้อย่างง่ายดาย!ดังนั้นหลังจากตอนนั้นจนครั้งล่าสุด เขาไม่เคยเสี่ยงโชคกับหยกดิบอีกเลย และเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะกอบโกยเงินทองจะอุตสาหกรรมนี้มากมายเท่าไร"ดีแล้ว"หลังจากได้รับคำรับรองจากฉินหมิงแล้วหลี่เจียฮุ่ยก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นดูเหมือนเธอจะจำอะไรบางอย่างได้ และพูดด้วยความโกรธว่า "ฉินหมิง ถึงนายจะพอมีโชคอยู่กับตัว แต่อนาคตนายจำเป็นต้องซื้อบ้านและรถยนต์ และจะต้องใช้เงินอีกไม่น้อยเลยด้วย!""แม้ว่าตอนนี้นายจะมีเงินอยู่บ้าง แต่นายก็ไม่อาจใช้มัน
หลี่เจียฮุ่ยยิ้มและทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าสิ่งที่เธอพูดดูเหมือนจะมีความคลุมเครือทำให้เธอหน้าแดงฉินหมิงแค่เล่นตลกไม่คิดใส่ใจอะไร เขาชี้ไปที่ร้านขายเครื่องสำอางที่อยู่ไม่ไกลและพูดว่า "เจียฮุ่ย เธอยังอยากซื้อเครื่องสำอางบ้างไหม?""ร้านขายเครื่องสำอางด้านหน้าก็ดูสวยดีนะ ไปลองดูกัน""อืม"ใบหน้าที่สวยงามของหลี่เจียฮุ่ยเปลี่ยนเป็นสีแดง และทั้งสองก็เดินไปด้วยกันนี่คือร้านเครือเครื่องสำอางแบรนด์ใหญ่ที่จำหน่ายเครื่องสำอางระดับไฮเอนด์และกลางถึงไฮเอนด์เป็นหลัก รวมถึงเครื่องสำอางชื่อดังระดับนานาชาติมากมาย จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว น้ำหอม เวชสำอาง ฯลฯ มากมายฉินหมิงและหลี่เจียฮุ่ยเดินเข้าไปในร้านเครื่องสำอางอาจเป็นเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ ลูกค้าในร้านจึงเยอะมาก และพนักงานหลายคนก็ยุ่งเกินกว่าจะออกไปได้ฉินหมิงเดินไปรอบ ๆ กับหลี่เจียฮุ่ยสักพัก แต่ไม่มีพนักงานมาทักทายพวกเขาหลังจากมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง ในที่สุดพวกเขาก็เห็นพนักงานที่กำลังว่างอยู่ และทั้งสองก็เดินเข้าไปหาพนักงานคนนั้น“สวัสดีค่ะ ฉันต้องการซื้อเครื่องสำอางที่ช่วยเรื่องเติมความชุ่มชื้น ไม่รู้ว่าอันไหนน่าใช้กว่ากัน ช่วยแนะนำหน่อยได้
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ