ใบหน้าของหวงหย่งหลินเต็มไปด้วยความกลัว ภายในใจของเขาตอนนี้รู้สึกสับสนหลังจากได้ยินสิ่งนี้ การแสดงออกของเอ้าเฟิงและตู้เซียวก็เปลี่ยนไปอย่างหนัก อารมณ์ของพวกเขาจมดิ่งลงสู่จุดต่ำสุดอย่างทันทีพวกเขาทั้งสองคิดไม่ตก เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ตอนนี้กำลังเข้าข้างพวกเขา แต่เนื่องจากกัวลี่แปรพักต์ สถานการณ์จึงแย่ลงในทันทีที่แย่กว่านั้น หากหวงหย่งหลินเปิดโปงพวกเขาสองคน พวกเขาก็คงจบเห่!“บอกฉันมาว่าใครเป็นคนสั่งคุณ!”หลินหว่านชิงไม่คิดเลยว่าจะมีผู้สมรู้ร่วมคิดอยู่เบื้องหลังผู้อำนวยการหวง และนั่นทำให้เธอยิ่งโกรธหนักกว่าเดิม"คือ......"หวงหย่งหลินมองไปในทิศทางของเอ้าเฟิงและตู้เซียวโดยไม่รู้ตัว เมื่อเขาเห็นสายตาอาฆาตของเอ้าเฟิงและตู้เซียว เขาก็ตั้งสติได้และรีบกลืนสิ่งที่พูดลงคอไป“บอกมาสิว่าใคร!”“ถ้าคุณไม่ยอมพูดแล้วก็ ฉันจะส่งตัวคุณให้ตำรวจเพื่อทำการสอบสวนและลงโทษในข้อหาก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจทันที!”หลินหว่านชิงดุด้วยความโกรธ"คือ......"หวงหย่งหลินอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เขารู้ดีถึงอำนาจและอิทธิพลของตระกูลหลิน หากหลินหว่านชิงส่งเขาให้ตำรวจ อนาคตของเขาก็จะจบลงจริง ๆ!เมื่อเห็นว่าหวงหย่งหล
ตู้เซียวจ้องมองไปที่ฉินหมิงอย่างดุเดือด ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง“เป็นโรคประสาทหรือไง!”“ฉันก็เคยบอกไปแล้วไงว่าฉินหมิงไม่ใช่คนรักของฉัน และฉันกับเขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์พิเศษอะไรต่อกันด้วย!”“พูดไม่รู้เรื่องหรือไง?!”หานซีดุด้วยความโกรธ"เป็นไปไม่ได้!"“คุณเป็นคนพาเขาเข้ามาทำงานในบริษัทตั้งแต่แรก และคุณยังโค่นเหยียนซ่งไท่เพื่อเขาด้วย!”“ถ้าเขาไม่ใช่คนรักของคุณ แล้วเขาจะเป็นอะไรได้อีก”“คุณคิดว่าผมหลอกง่ายเหมือนเด็กสามขวบง่ายรึไง?”ตู้เซียวหัวเราะเยาะ"ไร้สาระ!"“ใครบอกคุณว่าฉันเป็นคนจัดแจงให้เขาเข้ามาทำงานในบริษัท แล้วใครบอกคุณว่าฉันไล่เหยียนซ่งไท่!”"วันนี้ฉันจะขออธิบายให้ชัดเจนเลยว่าทั้งสองสิ่งนี้เป็นฝีมือของหลินหว่านชิง ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย!"“ฉันก็แค่ออกหน้ารับแทนเธอเท่านั้น!”หานซีหัวเราะด้วยความโกรธ และความหดหู่ที่อดกลั้นมานานก็ระเบิดออกมาในที่สุดท้ายที่สุดแล้ว การตำหนิผู้อื่นไม่ใช่เรื่องน่ายินดี และเมื่อมีข่าวลือในบริษัทว่าฉินหมิงเป็นคนรักของเธอ เรื่องนี้จึงส่งผลกระทบต่อความบริสุทธิ์และชื่อเสียงของเธอในระดับหนึ่งที่เธอสามารถอดทนได้จนถึงทุกวันนี้ ก
“ตู้เซียว หวงหย่งหลิน และกัวลี่ คุณทั้งสามร่วมมือกันเพื่อใส่ร้ายฉินหมิงในครั้งนี้ ทำให้บริษัทสูญเสียอย่างหนัก ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!”“จากนี้ไปพวกคุณทั้งสามคนจะถูกไล่ออกจากบริษัท ฉันหวังว่าคุณจะประพฤติตัวให้ดีได้ในอนาคต!”หลินหว่านชิงกล่าวอย่างเย็นชาเธอคิดว่าตู้เซียวและคนอื่น ๆ ทำงานให้กับบริษัทมาหลายปีแล้วและนอกจากทุ่มเททำงานอย่างหนักแล้วก็ไม่ได้มีผลงานดีเด่นอะไร เธอตัดสินใจที่จะลงโทษพวกเขาด้วยการไล่ออก และไม่คิดที่จะปฏิบัติให้คนทั้งสามต้องเผชิญกับความผิดตามกฎหมายแต่อย่างใดถือว่านี้ก็นับว่ามีเมตตาและชอบธรรมที่สุดแล้ว!“ขอบคุณครับ ประธานหลิน...”ตู้เซียวและคนอื่น ๆ ขอบคุณเธอ และยืนขึ้นทีละคนด้วยสีหน้าหดหู่ใจ เตรียมออกจากบริษัทไป“ประธานหลิน กรุณาใจเย็นก่อน”ฉินหมิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วลุกขึ้นยืน"ยังมีอะไรอีกเหรอ?"หลินหว่านชิงมองไปที่ฉินหมิงอย่างสงสัย“ประธานหลิน ข้อผิดพลาดทำให้เกิดการปรับปรุงได้อย่างมากมาย”“รองผู้อำนวยการกัวถูกบังคับให้ต้องก้มหัวยอมทำตามในครั้งนี้”“แต่ท้ายที่สุดเขาก็สามารถกลับใจได้ทันเวลา ผมคิดว่าเขาควรได้รับโอกาสอีกครั้ง”ฉินหมิงขอร้องแทนกัวลี่
ฉินหมิงและหานซีเดินตามเธอออกไปพร้อมกันเมื่อเห็นฉินหมิงและคนอื่น ๆ หายไป เอ้าเฟิงก็กำหมัดแน่นและใบหน้าของเขาบอกบุญไม่รับเขาพยายามอย่างดีที่สุดที่จะใส่ร้ายฉินหมิงในครั้งนี้ แต่สุดท้ายเขาก็ล้มเหลวและสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป!แม้ว่าท้ายที่สุดแล้วเขาจะรอดไปได้ แต่เขาก็รู้ว่าหลินหว่านชิงเริ่มสงสัยในตัวเขาแล้วนั่นเพราะเขาทำเงินให้กับบริษัทมากมายในช่วงสองปีที่ผ่านมา และเนื่องจากปู่ของเขาเป็นผู้ถือหุ้นของหลินกรุ๊ป หลินหว่านชิงจึงยังไว้หน้าเขาอยู่สักหน่อยและไม่ได้สืบสาวราวเรื่องลงไปให้ลึกกว่านี้! เวรเอ๊ย!เอ้าเฟิงไม่พอใจอย่างที่สุด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เขารู้ว่าสายตาที่หลินหว่านชิงมองมาเมื่อครู่เป็นการเตือนเขา หากเขากล้าที่จะหาเรื่องฉินหมิงอีกในอนาคต ครั้งหน้าเขาอาจไม่โชคดีเหมือนคราวนี้!…… หลังการประชุมฉินหมิงรีบไปที่โจวกรุ๊ปโดยด่วน เขาทำการขอโทษและชี้แจงเรื่องนี้แก่ประธานโจวด้วยตนเอง ประธานโจวเป็นคนใจกว้างที่สุด แทนที่จะโทษฉินหมิง เขายังให้กำลังใจฉินหมิงอีกด้วยหลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายตกลงกันเรื่องเวลาในการจัดส่งสินค้าในครั้งถัดไป จากนั้นฉินหมิงก็แอบระลึกถึงของฝากสำหรับชายชราในสั
“ฉินหมิง ในเมื่อเราพบกันแล้ว เข้าไปข้างในกันเถอะ”ซ่งเซียงตงหัวเราะ“ไม่ล่ะ ฉันยังมีสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้นฉันคงจะไม่ไป”ฉินหมิงส่ายหน้าเขาเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็ก และเขาอาศัยการเรียนไปด้วยควบคู่กับทำงานเพื่อจะได้มีโอกาสเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเนื่องจากสภาพครอบครัวที่ย่ำแย่ เขาจึงถูกเพื่อนร่วมชั้นหลายคนรังแกและรังเกียจมาโดยตลอด มีเพียงไม่กี่คนที่ยินดีติดต่อกับเขานอกจากนี้เขาค่อนข้างเป็นคนเงียบ ๆ และแทบไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมอะไรในมหาวิทยาลัยเลย สถานการณ์ของซ่งเซียงตงตรงกันข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิงซ่งเซียงตงเป็นเศรษฐีรุ่นที่สองที่มีฐานะทางครอบครัวค่อนข้างดีและมีทรัพย์สินนับสิบล้านย้อนกลับไปตอนนั้น ซ่งเซียงตงเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในชั้นเรียนและได้รับความสนใจจากเพื่อนผู้หญิงร่วมชั้นเรียนหลายคนเดิมทีเขาและซ่งเซียงตงไม่ได้มาจากชนชั้นเดียวกันและพวกเขาก็เคยพูดคุยกันเพียงเล็กน้อย ซ่งเซียงตงกับเขาจึงไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนัก และมักจะสร้างปัญหาให้เขาเสมออีกทั้งไม่มีใครบอกเขาเรื่องงานเลี้ยงรุ่น ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องหน้าด้านร่วมงานเมื่อซ่งเซียงตงไ
ซ่งเซียงตงเคยเป็นบุคคลที่โด่งดังในชั้นเรียนและได้รับความนิยมมาโดยตลอด เขาเป็นเจ้าชายผู้มีเสน่ห์ในสายตาของเพื่อนร่วมชั้นหญิงหลายคนเมื่อพวกเขาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ทุกคนก็ตระหนักถึงความสำคัญของเงินตราได้อย่างลึกซึ้งแม้ว่าซ่งเซียงตงจะไม่ได้ร่ำรวยอะไรนัก และภูมิหลังทางครอบครัวของเขาก็ยังห่างไกลจากพวกทายาทเศรษฐีไปมาก แต่ถึงอย่างนั้นฐานะของเขาก็ดีกว่าทุกคนที่เหลือไม่น้อยแน่นอนว่าพวกเขาย่อมต้องให้ความสนใจซ่งเซียงตงมากขึ้น“โอ้ เจียงชุ่นกับฉันบังเอิญเจอกันฉันพบกับฉินหมิงที่ลานจอดรถ เราพูดคุยกันสักพักก็เลยทำให้เสียเวลาไปอยู่บ้าง”ซ่งเซียงตงยิ้มเบา ๆ ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มาก“ฉินหมิง?”ทุกคนตกใจแล้วสังเกตเห็นฉินหมิงที่อยู่ด้านหลังซ่งเซียงตงและเจียงชุ่นทันทีสายตาของหลายคนแสดงถึงความดูถูกและเย้ยหยันเล็กน้อยหลี่เจียฮุ่ยเป็นเพียงคนเดียวที่จับจ้องไปที่ฉินหมิงด้วยดวงตาเป็นประกายและเธอก็กล่าวทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม "ฉินหมิงไม่เจอกันนานเลย"“ใช่ เราไม่ได้เจอกันตั้งสามปีแล้ว...”ฉินหมิงรู้สึกเศร้ามากและลังเลที่จะพูดเขาสัมผัสได้ถึงสายตาดูถูกเหยียดหยามของทุกคน
“เอาล่ะ วันนี้ฉันจะเลี้ยงทุกคนเอง อยากกินอะไรก็สั่งได้เลย!”ซ่งเซียงตงพูดอย่างภาคภูมิใจ และระงับความทุกข์ในใจไว้ชั่วคราว“พี่ตง ในเมื่อคุณพูดเช่นนั้น เราก็จะไม่เกรงใจแล้วนะ!”"ที่นี่เป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่หรูหราและราคาแพง แถมราคาอาหารก็แพงมากด้วย ฉันไม่เคยไปร้านอาหารระดับไฮเอนด์แบบนี้มาก่อนเลย"“ใช่ ฉันไม่เคยมาที่นี่เหมือนกัน คราวนี้เราทุกคนก็ได้รับประโยชน์จากพี่ตง ไม่อย่างนั้น คนทำงานในบริษัทธรรมดาที่มีรายได้ไม่มากอย่างเราจะสามารถกินอาหารราคาแพงขนาดนี้ได้ยังไง”“ขอบคุณพี่ตง เราทุกคนควรจะขอบคุณเขา”…มีเสียงสรรเสริญและคำเยินยอดังขึ้นจากทุกชน“เอาเถอะ เอาเถอะ เงินแค่นี้ไม่ต้องคิดให้เป็นจริงเป็นจังอะไรหรอก”ซ่งเซียงตงรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจในหน้าตาของตัวเองมาก เขาเต็มไปด้วยอำนาจและความโดดเด่นท่ามกลางคำชมของทุกคนจากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลี่เจียฮุ่ยอย่างภาคภูมิใจ หวังจะให้หลี่เจียฮุ่ยมองเขาต่างออกไปสำหรับฉินหมิง เขาเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ยากจน ดังนั้นเขาจึงเพิกเฉยต่อฉินหมิง!น่าเสียดายที่หลี่เจียฮุ่ยไม่ได้มองเขาเลยแม้แต่น้อย เธอมุ่งความสนใจไปที่ฉินหมิงและถามเขาด้ว
ซ่งเซียงตงพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง มองเผิน ๆ ดูเหมือนเขาอยากจะล้างแค้นให้กับฉินหมิง แต่จริง ๆ แล้วเข้าแค่พยายามจะแทงซ้ำเข้าไปที่แผลเก่าของฉินหมิงเท่านั้น!นี่คือเหตุผลที่เขาจงใจลากฉินหมิงเข้ามาร่วมงานเลี้ยงรุ่นในครั้งนี้ด้วย เขาต้องการให้ฉินหมิงต้องอับอายต่อหน้าสาธารณชน ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่มีทางได้กำจัดความเกลียดชังที่มีอยู่ในใจออกไปได้เลย!"อะไรนะ?"“นี้นายถูกภรรยาสวมเขา? แล้วยังท้องลูกของคนอื่นด้วยเหรอ?”“ฉินหมิง นายจะน่าสงสารเกินไปแล้ว!”"ฮ่า......"ทุกคนประหลาดใจในตอนแรก จากนั้นจึงหัวเราะออกมาทันทีเดิมทีพวกเขาก็ดูถูกฉินหมิงไม่น้อยอยู่แล้ว เมื่อตอนนี้พวกเขาได้ยินเรื่องอื้อฉาวทั้งหมด พวกเขาก็ยิ่งมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเย้ยหยันมากยิ่งขึ้น ราวกับพวกเขากำลังมองดูตัวตลกคนหนึ่งคนที่ไม่เย้ยหยันเขามีเพียงคนเดียวคือหลี่เจียฮุ่ย เธอเห็นใจกับสิ่งที่ฉินหมิงต้องประสบและรู้ว่าทุกคนตั้งใจเย้ยหยันเขา เธอรีบปลอบใจเขา "ฉินหมิง นาย... อย่าได้ใส่ใจคนพวกนี้เลยนะ"“ไม่เป็นไรหรอก ผมชินซะแล้วล่ะ”ฉินหมิงกล่าวอย่างใจเย็นเขาไม่ใช่คนโง่ เขารู้อยู่แล้วว่าซ่งเซียงตงจงใจทำให้เขาอับอา
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ