“ฉินหมิง ในเมื่อเราพบกันแล้ว เข้าไปข้างในกันเถอะ”ซ่งเซียงตงหัวเราะ“ไม่ล่ะ ฉันยังมีสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้นฉันคงจะไม่ไป”ฉินหมิงส่ายหน้าเขาเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็ก และเขาอาศัยการเรียนไปด้วยควบคู่กับทำงานเพื่อจะได้มีโอกาสเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเนื่องจากสภาพครอบครัวที่ย่ำแย่ เขาจึงถูกเพื่อนร่วมชั้นหลายคนรังแกและรังเกียจมาโดยตลอด มีเพียงไม่กี่คนที่ยินดีติดต่อกับเขานอกจากนี้เขาค่อนข้างเป็นคนเงียบ ๆ และแทบไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมอะไรในมหาวิทยาลัยเลย สถานการณ์ของซ่งเซียงตงตรงกันข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิงซ่งเซียงตงเป็นเศรษฐีรุ่นที่สองที่มีฐานะทางครอบครัวค่อนข้างดีและมีทรัพย์สินนับสิบล้านย้อนกลับไปตอนนั้น ซ่งเซียงตงเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในชั้นเรียนและได้รับความสนใจจากเพื่อนผู้หญิงร่วมชั้นเรียนหลายคนเดิมทีเขาและซ่งเซียงตงไม่ได้มาจากชนชั้นเดียวกันและพวกเขาก็เคยพูดคุยกันเพียงเล็กน้อย ซ่งเซียงตงกับเขาจึงไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนัก และมักจะสร้างปัญหาให้เขาเสมออีกทั้งไม่มีใครบอกเขาเรื่องงานเลี้ยงรุ่น ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องหน้าด้านร่วมงานเมื่อซ่งเซียงตงไ
ซ่งเซียงตงเคยเป็นบุคคลที่โด่งดังในชั้นเรียนและได้รับความนิยมมาโดยตลอด เขาเป็นเจ้าชายผู้มีเสน่ห์ในสายตาของเพื่อนร่วมชั้นหญิงหลายคนเมื่อพวกเขาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ทุกคนก็ตระหนักถึงความสำคัญของเงินตราได้อย่างลึกซึ้งแม้ว่าซ่งเซียงตงจะไม่ได้ร่ำรวยอะไรนัก และภูมิหลังทางครอบครัวของเขาก็ยังห่างไกลจากพวกทายาทเศรษฐีไปมาก แต่ถึงอย่างนั้นฐานะของเขาก็ดีกว่าทุกคนที่เหลือไม่น้อยแน่นอนว่าพวกเขาย่อมต้องให้ความสนใจซ่งเซียงตงมากขึ้น“โอ้ เจียงชุ่นกับฉันบังเอิญเจอกันฉันพบกับฉินหมิงที่ลานจอดรถ เราพูดคุยกันสักพักก็เลยทำให้เสียเวลาไปอยู่บ้าง”ซ่งเซียงตงยิ้มเบา ๆ ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มาก“ฉินหมิง?”ทุกคนตกใจแล้วสังเกตเห็นฉินหมิงที่อยู่ด้านหลังซ่งเซียงตงและเจียงชุ่นทันทีสายตาของหลายคนแสดงถึงความดูถูกและเย้ยหยันเล็กน้อยหลี่เจียฮุ่ยเป็นเพียงคนเดียวที่จับจ้องไปที่ฉินหมิงด้วยดวงตาเป็นประกายและเธอก็กล่าวทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม "ฉินหมิงไม่เจอกันนานเลย"“ใช่ เราไม่ได้เจอกันตั้งสามปีแล้ว...”ฉินหมิงรู้สึกเศร้ามากและลังเลที่จะพูดเขาสัมผัสได้ถึงสายตาดูถูกเหยียดหยามของทุกคน
“เอาล่ะ วันนี้ฉันจะเลี้ยงทุกคนเอง อยากกินอะไรก็สั่งได้เลย!”ซ่งเซียงตงพูดอย่างภาคภูมิใจ และระงับความทุกข์ในใจไว้ชั่วคราว“พี่ตง ในเมื่อคุณพูดเช่นนั้น เราก็จะไม่เกรงใจแล้วนะ!”"ที่นี่เป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่หรูหราและราคาแพง แถมราคาอาหารก็แพงมากด้วย ฉันไม่เคยไปร้านอาหารระดับไฮเอนด์แบบนี้มาก่อนเลย"“ใช่ ฉันไม่เคยมาที่นี่เหมือนกัน คราวนี้เราทุกคนก็ได้รับประโยชน์จากพี่ตง ไม่อย่างนั้น คนทำงานในบริษัทธรรมดาที่มีรายได้ไม่มากอย่างเราจะสามารถกินอาหารราคาแพงขนาดนี้ได้ยังไง”“ขอบคุณพี่ตง เราทุกคนควรจะขอบคุณเขา”…มีเสียงสรรเสริญและคำเยินยอดังขึ้นจากทุกชน“เอาเถอะ เอาเถอะ เงินแค่นี้ไม่ต้องคิดให้เป็นจริงเป็นจังอะไรหรอก”ซ่งเซียงตงรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจในหน้าตาของตัวเองมาก เขาเต็มไปด้วยอำนาจและความโดดเด่นท่ามกลางคำชมของทุกคนจากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลี่เจียฮุ่ยอย่างภาคภูมิใจ หวังจะให้หลี่เจียฮุ่ยมองเขาต่างออกไปสำหรับฉินหมิง เขาเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ยากจน ดังนั้นเขาจึงเพิกเฉยต่อฉินหมิง!น่าเสียดายที่หลี่เจียฮุ่ยไม่ได้มองเขาเลยแม้แต่น้อย เธอมุ่งความสนใจไปที่ฉินหมิงและถามเขาด้ว
ซ่งเซียงตงพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง มองเผิน ๆ ดูเหมือนเขาอยากจะล้างแค้นให้กับฉินหมิง แต่จริง ๆ แล้วเข้าแค่พยายามจะแทงซ้ำเข้าไปที่แผลเก่าของฉินหมิงเท่านั้น!นี่คือเหตุผลที่เขาจงใจลากฉินหมิงเข้ามาร่วมงานเลี้ยงรุ่นในครั้งนี้ด้วย เขาต้องการให้ฉินหมิงต้องอับอายต่อหน้าสาธารณชน ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่มีทางได้กำจัดความเกลียดชังที่มีอยู่ในใจออกไปได้เลย!"อะไรนะ?"“นี้นายถูกภรรยาสวมเขา? แล้วยังท้องลูกของคนอื่นด้วยเหรอ?”“ฉินหมิง นายจะน่าสงสารเกินไปแล้ว!”"ฮ่า......"ทุกคนประหลาดใจในตอนแรก จากนั้นจึงหัวเราะออกมาทันทีเดิมทีพวกเขาก็ดูถูกฉินหมิงไม่น้อยอยู่แล้ว เมื่อตอนนี้พวกเขาได้ยินเรื่องอื้อฉาวทั้งหมด พวกเขาก็ยิ่งมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเย้ยหยันมากยิ่งขึ้น ราวกับพวกเขากำลังมองดูตัวตลกคนหนึ่งคนที่ไม่เย้ยหยันเขามีเพียงคนเดียวคือหลี่เจียฮุ่ย เธอเห็นใจกับสิ่งที่ฉินหมิงต้องประสบและรู้ว่าทุกคนตั้งใจเย้ยหยันเขา เธอรีบปลอบใจเขา "ฉินหมิง นาย... อย่าได้ใส่ใจคนพวกนี้เลยนะ"“ไม่เป็นไรหรอก ผมชินซะแล้วล่ะ”ฉินหมิงกล่าวอย่างใจเย็นเขาไม่ใช่คนโง่ เขารู้อยู่แล้วว่าซ่งเซียงตงจงใจทำให้เขาอับอา
“ใช่ พี่ตงพูดถูก”“พวกเราแค่ล้อเล่นกับนายเท่านั้น นายเป็นผู้ใหญ่แล้ว ดังนั้นนายไม่ควรใจแคบขนาดนั้นจริงไหม?”“อีกอย่าง เราไม่ได้เจอกันเสียตั้งนาน ในที่สุดเราก็มีโอกาสได้เจอกันแล้ว ถ้านายรีบกลับไป…”…เมื่อได้ยินสิ่งที่ทุกคนพูดหลี่เจียฮุ่ยก็คิดว่าฉินหมิงรีบกลับเพราะโกรธ ดังนั้นเธอจึงแนะนำ "ฉินหมิงไหน ๆ นายก็มาแล้ว คุยอะไรให้เสร็จแล้วก็ค่อยกลับสิ"“และฉันไม่ได้เจอนายมากกว่าสามปีแล้ว ฉันมีอะไรอยากจะคุยกับนายเยอะแยะเลย”ทัศนคติของหลี่เจียฮุ่ยดูจริงใจมากเธอตกลงที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงรุ่นในครั้งนี้เพื่อดูว่าเธอจะได้พบกับฉินหมิงหรือไม่ตอนนี้ในที่สุดเธอก็ได้พบกับฉินหมิงแล้ว เธอไม่อยากให้ฉินหมิงรีบจากไปอย่างแน่นอน“เจียฮุ่ย ผมมีธุระต้องทำจริง ๆ…”“เอาแบบนี้ดีไหม? ในอีกสองวันฉันจะเลี้ยงอาหารค่ำคุณเอง แล้วเราค่อยคุยกันดี ๆ…”ก่อนที่ฉินหมิงจะพูดจบประตูห้องรับรองก็ถูกผลักเปิดออก ซูซินเหยาก็เดินเข้ามาจากด้านนอก"คุณคือใคร?"ทุกคนประหลาดใจและหันความสนใจไปที่ซูซินเหยาเมื่อพวกเขาเห็นรูปร่างหน้าตาของซูซินเหยาอย่างชัดเจน พวกเขาก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาซูซินเหยาเป็นหนึ่งในสี่สาวงามในเจียงเฉิน
สำหรับเรื่องที่เขาจะตามจีบหลี่เจียฮุ่ยนั้น ในสายตาของเขาซูซินเหยาที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นดีกว่าหลี่เจียฮุ่ยมากในทุก ๆ ด้าน หากเขามีโอกาสได้รับความชื่นชอบจากซูซินเหยาทำไมเขาถึงต้องไล่ตามหลี่เจียฮุ่ยอย่างหนักด้วย!"คุณเป็นใคร?!"“มีสิทธิ์รู้จักชื่อของฉันด้วยเหรอ?!”ซูซินเหยาตะคอกอย่างเย็นชา ท่าทางของเธอหยิ่งยโสเป็นที่สุดบุคลิกของเธออรชรอ้อนแอ้นและเย้ายวน เธอไม่สนใจลูกหลานเศรษฐีและผู้มีอำนาจมากมายในเจียงเฉิง แล้วเธอจะสนใจซ่งเซียงตงได้อย่างไร?"คุณ......"ซ่งเซียงตงตกตะลึง เขาคิดว่าตัวเองสูงส่งอยู่เสมอ เขาจะทนให้ซูซินเหยาดูแคลนได้อย่างไร เขาอดไม่ได้ที่จะโกรธเล็กน้อยแล้วพูดว่า "เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร?"“เธอก็เป็นแค่แฟนสาวของเด็กกำพร้าจน ๆ ต่อหน้าฉันกล้าดียังไงมาแสร้งทำตัวสูงส่ง!”“บังอาจ!”ดวงตาของซูซินเหยาเย็นชาและเธอก็ตบเขาทันทีเพียะ!เสียงตบดังขึ้น ซ่งเซียงตงก็เวียนหัวมากจนหูอื้อและเกือบจะล้มลง“เธอ...เธอกล้าตบฉันเหรอ?”ซ่งเซียงตงปิดแก้มของเขาด้วยสีหน้าไม่เชื่อ“ฉันจะตบนายแล้วจะทำไมล่ะ?!”ซูซินเหยาเยาะเย้ยและมองไปที่ซ่งเซียงตงด้วยสายตาที่ใช้มองแมลงตัวจ้อยซ่งเซียงตงโกรธจัด
ส่วนเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ต่างยืนมองอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นพวกเขาต่างรู้ดีว่าฉินหมิงเป็นเด็กกำพร้า ไร้อำนาจวาสนาอีกทั้งซูซินเหยาที่เป็นแฟนสาวของฉินหมิง สภาพทางฐานะทางครอบครัวเองก็ดีมากแต่ตอนนี้ซูซินเหยากลับหยามเกียรติเขา ถ้ากำลังเสริมเขามาล่ะก็ พอถึงตอนนั้น ทุกคนก็คงรู้ดีว่าฉินหมืงและซูซินเหยาจะมีสภาพเป็นอย่างไร!“คิดจะไปงั้นเหรอ?”“สายไปซะแล้วล่ะ!”ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังมาจากด้านนอก รอยยิ้มเย็นชาของซ่งเซียงตงก็ผุดขึ้นพอสิ้นเสียงที่ซ่งเซียงตงพูด ประตูห้องวีไอพีก็ได้ถูกผลักเข้ามา ผู้จัดการโรงแรมได้พากลุ่มรปภ.ร่างกายกำยำเดินมาในห้อง“เซียงตง นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”“ใครมันกล้าก่อเรื่องวุ่นวายที่โรงแรม กล้ามากนะ!”ผู้จัดการโรงแรมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาซ่งเซียงตงใช้มือชี้ไปที่ซูซินเหยากับฉินหมิงแล้วพูดอย่างโกรธแค้น “พี่ สองคนนี้นี่แหละ!”“พวกมันสองคนร่วมมือกันทำร้ายผม พี่ต้องเอาคืนให้ผมนะ!”ผู้จัดการโรงแรมหันไปทางที่ซ่งเซียงตงชี้ พอเห็นซูซินเหยาแล้วสีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที ขาทั้งสองเกือบจะทรุดลงกับพื้นตระกูลซูมักจะทำตัวติดดิน หากเป็นคนอื่
ซูซินเหยาพูดอย่างไม่สบอารมณ์เสียงเยือกเย็นนี้เหมือนกับเสียงฟ้าร้องที่กำลังจะผ่าลงหัวของซ่งเซียงตง จากนั้นเขาก็จำเหตุการณ์ที่เขาเพิ่งปะทะกับซูซินเหยาได้และอำนาจของตระกูลซูสามารถบีบเขาให้ตายคามือเหมือนมดได้ง่าย ๆ ถ้าตอนนี้เขาไม่คิดหาวิธีให้ซูซินเหยาให้อภัยเขา เกรงว่าศพเขาจะไม่สวยแน่นอน!เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ซ่งเซียงตงก็รู้สึกหวาดกลัวทันที ขาของเขาอ่อนแรง และเขาก็คุกเข่าลงร้องขอความเมตตาด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว "คุณหนูซู เมื่อกี้นี้ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะครับ ครั้งนี้คุณหนูช่วยเมตตาผมด้วยเถอะนะครับ…”“ตอนนี้เพิ่งจะมาให้ขอร้องอ้อนวอนให้อภัย แล้วเมื่อกี้ทำอะไรลงไปล่ะ!”ซูซินเหยาแสยะยิ้มอย่างเย็นชาด้วยท่าทีที่นิ่งเฉยเดิมทีเธอเป็นคุณหนูตัวเล็กที่เอาแต่ใจและแทบไม่มีใครกล้ายุ่งกับเธอในแวดวงคนรวยและมีชื่อเสียงในเจียงเฉิงแต่ครั้งนี้ซ่งเซียงตงไม่เพียงแต่พูดจาไร้มารยาทต่อเธอ อีกทั้งยังด่าทอและฉินหมิงเหมือนหมูเหมือนหมาอีกด้วย!ด้วยนิสัยที่เย่อหยิ่งของเธอ จะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่าย ๆ ได้อย่างไร!พอรับรู้สายตาพิฆาตจากซูซินเหยา ซ่งเซียงตงก็หมดหวังทันที อารมณ์เขาหดหู่ถึงที่สุดหลังจากนั้นก็
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ