“ได้ กล้าดีนี่ นี่แกหาเรื่องใส่ตัวเองนะ!”“นี่พวกแกเริ่มเลย อัดซะแล้วโยนให้หมามันกิน! ”เฉียนเป้าหัวเราะด้วยความโกรธ ก่อนโบกมือแล้วออกคำสั่งให้ลงมือคนเหล่านี้พร้อมที่จะลงมือแล้ว แต่ละคนกวัดแกว่งอาวุธและรีบวิ่งไปหาฉินหมิงอย่างดุร้าย“แน่จริงก็เข้ามา!”ฉินหมิงตะคอกเสียงดัง เพื่อปกป้องหลินหว่านชิง เขาไม่กล้าห่างจากหลินหว่านชิงแม้แต่ก้าวเดียว เขาไม่กล้าแม้แต่จะหลบการโจมตีของศัตรูโดยไม่ตั้งใจ เกรงว่าการโจมตีของคู่ต่อสู้จะพลาดโดนหลินหว่านชิงสู้เว้ย!ฉินหมิงกัดฟันพูด เขารวบรวมพลังวิญญาณไว้บนหลัง ต่อต้านการโจมตีของแท่งเหล็กสามแท่ง และปล่อยเสียงครวญครางอู้อี้จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปในอากาศและเตะศัตรูทั้งสามออกไปด้วยการเตะต่อเนื่องศัตรูสองคนที่ติมีมีดพร้าใช้โอกาสนี้ก็เข้ามาหาฉินหมิงโดยคลุมหัวไว้ฉินหมิงยังคงสงบนิ่งเมื่อเผชิญกับอันตราย เขาเอื้อมมือออกไปคว้าข้อมือของศัตรู คว้ามีดพร้าจากมือของคู่ต่อสู้ จากนั้นเหวี่ยงหลังมือและโจมตีแขนของอีกฝ่ายก่อนฉึบ!เลือดกระเซ็นไปทั่วทุกแห่ง และศัตรูก็ส่งเสียงกรีดร้องก่อนถูกฉินหมิงเตะลงกับพื้นพอได้เห็นฉากนี้ เฉียนเป้าและทุกคนต่างตกใจใหญ่คนเ
ฉึบ!เฉียนเป้าฟันถูกหลังของฉินหมิงอย่างแรงจนเลือดกระเซ็นไปทุกที่ และเลือดที่สาดออกมาจากหลังของฉินหมิงกระเด็นเข้าใส่ใบหน้าของหลินหว่านชิงพรึบ!หลินหว่านชิงนิ่งงันทำอะไรไม่ถูก หัวสมองขาวโพลน!เธอรู้สึกได้ชัดเจนว่าเลือดของฉินหมิงนั้นอุ่นร้อน แต่หัวใจของเธอกลับรู้สึกเย็นเยียบราวกับว่าโลกกำลังแตกสลายและกำลังจะสิ้นสุดลง ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็ดำมืด ร่างกายของเธอโงนเงนและเธอก็เกือบจะล้มลงกับพื้น“เจ็บจัง…”ใบหน้าของฉินหมิง บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด โชคดีที่เขาได้รวบรวมพลังทางจิตวิญญาณไว้ล่วงหน้าเพื่อรับมือดังนั้นมีดจึงฟันเข้าไม่ลึกมาก ไม่เช่นนั้นถึงไม่ตายเขาก็คงบาดเจ็บสาหัสแน่“นี่แกจะเล่นฉันตายเลยหรือไง!”ฉินหมิงกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวดที่หลัง ก่อนหันกลับมาและต่อยออกไปอีกหมัด โจมตีใส่หน้าอกของเฉียนเป้าอย่างรวดเร็วด้วยพลังที่ทรงพลังพอที่จะทำให้อนุสาวรีย์แตกและก้อนหินแหลกได้เฉียนเป้าถึงกับอึ้ง มือที่ว่างอีกข้างก็ยกหมัดขึ้นและป้องกันการโจมตีของฉินหมิงผั๊วะ!หลังจากการปะทะกันอย่างรุนแรง ฉินหมิงอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองก้าวในทางกลับกันเฉียนเป้าก็ถอยหลังไปห้าหรือหกก้าวติดต่อกัน มี
นักสู้ฝึกฝนพลังงานที่แท้จริงและความแข็งแกร่งภายใน และวิธีการโจมตีของพวกเขานั้นซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงได้ พลังของฉินหมิงไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าเขามากนัก หากฉินหมิงอาศัยเพียงความเร็วเท่านั้นไม่มีทางที่เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้!ทันทีที่คิดถึงสิ่งนี้ ความกลัวในใจของเฉียนเป้าก็อันตรธานหายไป เขาเหวี่ยงมีดพร้าในมือและโจมตีฉินหมิงอย่างดุเดือดฉินหมิงกระตือรือร้นที่จะต่อสู้อย่างรวดเร็วและไม่ได้หลบ เขาเผชิญหน้ากับการโจมตีของเฉียนเป้าอย่างรวดเร็วด้วยมีดของเขาเปรี๊ยะ!ด้วยการปะทะกันอย่างรุนแรง มีดพร้าทั้งสองปะทะกันทำให้เกิดประกายไฟ“แก ตายซะเถอะ!“เฉียนเป้าแสยะร้ายยิ้ม ระดมพลังในร่างกายเขาอย่างฮึกเหิม และพุ่งไปหาฉินหมิงพร้อมมีดพร้าในมือ พยายามใช้พลังที่แท้จริงของเขาโจมตีฉินหมิงเป็นครั้งที่สองตอนนี้การเคลื่อนไหวของฉินหมิงเริ่มช้าแล้ว หากฉินหมิงไม่ใช่นักสู้ เขาจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีครั้งที่สองของพลังงานที่แท้จริงของเขาได้ พอถึงตอนนั้นฉินหมิงจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!“คนที่ควรลงไปนอนเป็นแกต่างหาก!”ฉินหมิงเยาะเย้ยและระดมพลังจิตวิญญาณของเขาเพื่อโจมตีพลังงานที่แท้จริงของเฉียนเป้าอย่างรว
นี่เขาเป็นคนจริง ๆ เหรอนี่!ย้อนกลับไปในสมัยนั้นเฉียนเป้าเอาชนะศัตรูได้สิบเจ็บสิบแปดคน มีชื่อเสียงในการสู้ครั้งเดียวและวางอำนาจบาตรใหญ่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา!แต่ว่าตอนนี้ฉินหมิงกลับจัดการได้ถึงสามสิบสี่สิบคน อีกทั้งเฉียนเป้ายังเป็นคนที่เก่งที่สุดในย่านนี้!ใคร ๆ ก็สามารถจินตนาการถึงความน่ากลัวของความแข็งแกร่งนี้ได้!ชั่วครู่หนึ่งทุกคนต่างตกตะลึงกับพลังอันมหาศาลและอยู่ยงคงกระพันของฉินหมิง!“ซินเอ๋อร์ นี่มัน…เป็นเรื่องจริงเหรอ?”“ฉัน…ฉัน ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม…”เสียงของแฟนหนุ่มของซินเอ๋อร์สั่นเทาและเขาก็ตัวสั่นด้วยความกลัวเมื่อนึกถึงแผนการก่อนหน้านี้ของเขาที่จะสั่งสอนฉินหมิง ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาโง่แค่ไหน!โชคดีที่เขายังไม่ได้หาเรื่องฉินหมิง ไม่อย่างนั้นคนที่นอนกองกับพื้นคงต้องมีเขาอีกคนแน่นอน!“ที่รัก นี่…นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว พวกเราหลบห่างกันหน่อยเถอะ อย่าให้เขาเห็นเราเลย…“ซินเอ๋อร์ตกใจถึงกับหน้าถอดสี และรีบดึงมือแฟนหนุ่มออกให้จากตรงนั้น ในใจลึก ๆ กลัวว่าฉินหมิงจะมาคิดบัญชีกับพวกเธอทีหลังอีกอย่างเธอได้ไลฟ์สดทางโทรศัพท์มือถือของเธอแล้ว และฉากความกล้าหาญและการอยู่ยงคงกระพ
ตอนแรกฉินหมิงคิดว่ามีศัตรูอีกพวกมาโจมตี หัวใจของเขาบีบรัด เขากำลังตั้งท่าแต่ไม่นานก็พบว่าอีกฝ่ายดูคุ้นเคยจากนั้นเขาก็มองอย่างพิจารณาและจำได้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ใครอื่นนอกจากบอดี้การ์ดทั้งหกของหลินหว่านชิง“คุณหนูใหญ่ครับ!“”พวกผมมาช้าเกินไป เชิญคุณหนูลงโทษพวกผมได้เลยครับ… ”บอดี้การ์ดทั้งหกคุกเข่าต่อหน้าหลินหว่านชิงทีละคน ทุกคนมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีเป็นอย่างมากโดยปกติหลินหว่านชิงจะไม่อนุญาตให้พวกเขาเข้าใกล้เกินไป และจุดชมวิวก็เป็นสถานที่สาธารณะที่มีผู้คนหนาแน่น จึงไม่ใช่สถานที่ที่พวกอันธพาลก่อความวุ่นวายเพราะฉะนั้นพวกเขาจึงชะล่าใจไม่ได้ตามใกล้ชิดอย่างที่ควรจะทำจนกระทั่งฉินหมิง เฉียนเป้าและคนอื่น ๆ เริ่มต่อสู้กัน และทั้งสองฝ่ายส่งเสียงดังมากจนพวกเขาเอะใจแต่โชคดีว่าฉินหมิงช่วยปกป้องหลินหว่านขิงแทนพวกเขา มิฉะนั้นหากเกิดอะไรขึ้นกับหลินหว่านชิงพวกเขาอาจถูกตำหนิหรือขั้นลงโทษถึงตายได้!“พวกนายลุกขึ้นเถอะ!”“เป็นเพราะฉันไม่อนุญาตให้พวกนายเข้าใกล้ ฉันไม่ถือโทษพวกนายหรอก”หลินหว่านชิงพูดอย่างเรียบง่าย ไม่ได้ระบายความโกรธกับบอดี้การ์ดบอดี้การ์ดโล่งใจและลุกขึ้นยืน“คุณ…คุณหนูใหญ่
สีหน้าของเฉียนเป้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตื่นตกใจบอดี้การ์ดปลดปล่อยพลังกดดันอันแกร่งกล้าที่พกพาพลังแท้จริงซึ่งผกผันอยู่ราง ๆ พวกเขาทุกคนล้วนเป็นจอมยุทธ์ !นอกเหนือไปจากนั้น พวกเขาแต่ละคนมีระดับพลังบ่มเพาะเป็นเลิศ โดยหลิวเจิ้นมีพลังบ่มเพาะขั้นสูงสุดอันลึกล้ำยากหยั่งถึง!เมื่อต้องเผชิญหน้ากับยอดฝีมือมากมายขนาดนั้น ย่อมบดขยี้เขาให้ตายได้ไม่ยากเลย เขารู้สึกสิ้นหวังสุดจะพรรณนาจนไม่อาจรวบรวมความกล้าเข้าขัดขืน!"คุณหลิน ผมไม่ล่วงรู้ตัวตนของคุณและไม่เจตนาจะล่วงเกินคุณ คราวนี้ได้โปรดเมตตาละเว้นพวกเราด้วย..."เฉียนเป้าคุกเข่าลงตรงหน้าหลินหว่านชิง จากนั้นก็โขกศีรษะวิงวอนร้องขอความเมตตาอยู่ไม่หยุดหย่อนหลังจากอยู่ในโลกใต้ดินมาหลายปีขนาดนั้น เขาก็มีศัตรูอยู่มากมาย ขืนเขาโดนหักมือเท้าขึ้นมา วันข้างหน้าย่อมต้องตายแน่ ๆ แม้แต่ลูกเมียก็ต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วย! ผลลัพธ์ที่ตามมาเหล่านี้เป็นเรื่องที่เขารับไม่ไหวจริง ๆ"ละเว้นแกน่ะเหรอ?""แกคิดว่าเรื่องนี้จะมีทางเป็นไปได้หรือเปล่าล่ะ?"หลินหว่านชิงมองเฉียนเป้าด้วยสายตาเย็นชา เธอไม่ได้โกรธที่เฉียนเป้าและคนอื่น ๆ พุ่งเข้ามาเล่นงานตนเอง แต่เป็นเพรา
"ส่วนอีกสี่คนที่อยู่บนเขา พวกมันเป็นเพียงแค่ขยะสังคม พวกเราห้ามปล่อยพวกมันไปง่าย ๆ เด็ดขาด!"ฉินหมิงแบ่งแยกบุญคุณความแค้นชัดเจนเสมอมา ถึงแม้ว่าเฉียนเป้าจะทำร้ายเขา แต่เฉียนเป้าก็รู้จักผิดชอบชั่วดีมากกว่าทั้งสองฝ่ายเพียงแค่มีฐานะต่างกัน เขาจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสังหารเฉียนเป้าในทางตรงกันข้าม ชายสวมต่างหูทั้งสี่คนกลับไม่มีหลักการและไม่เห็นแก่ส่วนรวมเลยสักนิด วันข้างหน้าคนแบบนั้นย่อมต้องเป็นตัวหายนะแน่ ๆ จึงต้องลงโทษให้หนัก!"เอาล่ะ ฉันจะเชื่อฟังนายก็แล้วกัน..."หลินหว่านชิงพยักหน้า เพราะเชื่อมั่นในตัวฉินหมิง"ขอบคุณครับ คุณฉิน ผมเฉียนเป้าย่อมจดจำบุญคุณของคุณในวันนี้เอาไว้อย่างแน่นอน""วันหน้าขอเพียงคุณมีคำสั่งอะไรก็ช่าง ต่อให้ต้องบุกเขาดาบทะเลเพลิง ผมเฉียนเป้าก็จะไม่ลังเล!"เฉียนเป้าตื่นเต้นเสียจนหลั่งน้ำตาออกมาพลางคุกเข่าโขกศีรษะให้ฉินหมิงด้วยความเคารพนบนอบคราวนี้เขาแทงฉินหมิง แต่ฉินหมิงกลับไม่สนใจความแค้นที่ผ่านมา มิหนำซ้ำกลับเป็นฝ่ายขอร้องแทนเขาอีกต่างหากความใจกว้างและเอื้ออารีที่ฉินหมิงแสดงออกมาทำให้เขารู้สึกประทับใจอย่างลึกล้ำ ทั้งยังรู้สึกว่าตนเองต่ำต้อยกว่าอีกฝ่
แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือหลังจากฉินหมิงบาดเจ็บได้ไม่นาน บาดแผลก็ตกสะเก็ดและดูเหมือนว่าจะดีขึ้นมาก"ฉินหมิง แผลบนแผ่นหลังของนายตกสะเก็ดหมดแล้ว ความรวดเร็วในการฟื้นตัวของนายไวเกินไปแล้ว!"หลินหว่านชิงรู้สึกประหลาดใจมากเธอจำได้ชัดว่าตอนแรกฉินหมิงบาดเจ็บตรงหน้าอกระหว่างที่พยายามจะช่วยชีวิตเธอ ผ่านไปเพียงแค่วันเดียว บาดแผลก็สมานจนตกสะเก็ดโดยแทบจะไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ เอาไว้เลยไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้ได้ ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ!"บางทีอาจเป็นเพราะสมรรถภาพทางกายของผมดีขึ้นก็ได้ เลยทำให้ผมฟื้นตัวได้เร็วกว่าคนอื่น..."ฉินหมิงพลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ไม่นานเขาก็ตระหนักได้ว่าเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการบ่มเพาะพลังภายในก็เป็นได้"อืม ก็เป็นไปได้นะ"หลินหว่านชิงพยักหน้าแล้วไม่เก็บมาใส่ใจอีกจากนั้นเธอก็ยื่นมืออันประณีตบอบบางดุจหยกออกมา แล้วค่อย ๆ ขยับไปมาแล้วรีบทายารักษาแผลลงบนแผ่นหลังของฉินหมิงสิ่งนี้จะช่วยให้ฉินหมิงฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้มากกว่า…เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากได้นอนพักผ่อนสักคืนหนึ่ง อาการบาดเจ็บตรงแผ่นหลังของฉินหมิงก็เกือบจะหายสนิทแล้วอาการบาดเจ็บที่เท้าของหลินหว